ความคิดเห็นที่ 1 ผมจะอธิบายถึงเครื่องสูบน้ำต่อ เครื่องสูบน้ำชนิดหอยโข่ง หรือ Centrifugal ที่เราเห็นจนชินตาเป็นเครื่องสูบน้ำที่ได้รับความนิยมสูงพบเห็นได้บ่อยแทบจะทุกบ้านต้องมีไว้สูบน้ำใช้(ตัวเล็กๆบางรุ่นอาจเป็น Regenerate turbine) ทีนี้เรามามองที่การระบายน้ำก่อนว่าต้องการอะไร การระบายน้ำในกรณีน้ำท่วมสิ่งที่ต้องการคือเอาน้ำออกให้เร็วที่สุด นี่คือความต้องการของชาวบ้าน การเอาน้ำออกให้เร็วที่สุดก็คือ ปั๊มน้ำต้องมีอัตราการไหลสูง ซึ่งเรามักจะเห็นปั๊มน้ำหอยโข่งขับด้วยเครื่องยนต์ดีเซลแบบที่เห็นในรูปนี้เป็นประจำ  บางจุดตั้งตากแดดตากฝนกันไว้เป็นปีๆ ผมจะอธิบายถึงข้อดีข้อเสียของมัน ปั๊มน้ำหอยโข่งใช้การหมุนของใบพัดเหวี่ยงน้ำออก ขณะที่น้ำไหลออกจากตัวใบพัดด้วยความเร็วตามกฏของแบร์นูลลี่ก็คือความดันจะลดลง เมื่อความดันในแกนกลางของใบพัดลดลงความดันของอากาศที่กดหน้าผิวน้ำมีค่ามากกว่าแกนกลางของปั๊มจะดันให้น้ำไหลเข้าไปในท่อ ด้านทางส่งเมื่อน้ำไหลออกจากตัวใบพัดจะมีพลังงานจลน์สูงเราต้องเปลี่ยนพลังงานจลน์ให้เป็นพลังงานศักย์(ความดัน) ด้วยการลดความเร็วด้วยการเพิ่มพื้นที่ท่อทางออกหากมองลักษณะปั๊มหอยโข่งด้านทางออกจะเห็นเป็นลักษณะของกรวยที่ขยายออก หากไม่ลดความเร็วน้ำแรงเสียดทานที่แปรผันเป็นกำลังสองกับความเร็วน้ำจะทำให้เกิดการสูญเสียพลังงานอย่างมาก ดังนั้นข้อจำกัดของปั๊มชนิดนี้คือ ด้านทางดูด จากที่ผมได้กล่าวบ่อยๆว่าไม่มีปั๊มตัวไหนในโลกนี้สามารถดูดน้ำได้สูงกว่า 10.33 เมตรจากระดับผิวน้ำถึงกลางตัวปั๊มที่ระดับน้ำทะเล แต่ด้านทางส่งจะส่งไปเท่าไรก็ได้(ตามชนิดของปั๊มเต่ละประเภท)เนื่องจากได้รับพลังงานมาจากเครื่องยนต์หรือมอเตอร์ไฟฟ้าส่งถ่ายพลังงานไปให้กับน้ำ แต่ด้านทางดูดสิ่งที่ทำให้น้ำไหลเข้าตัวปั๊มได้คือ ความดันอากาศที่กดหน้าผิวน้ำอยู่ หากติดตั้งท่อทางดูดไม่เหมาะสม เล็กไป ยาวไป มีอุปกรณ์กีดขวางทางไหลมากไป หรือติดตั้งปั๊มสูงไปก็จะมีผลต่ออัตราการไหลทั้งสิ้น นอกจากนี้ปั๊มน้ำมีสิ่งหนึ่งที่ต้องกังวลก็คือ NPSH พูดง่ายๆมันคือความสามารถในการดูดน้ำของปั๊ม จากที่ผมกล่าวว่าอากาศดันน้ำให้ไหลเข้ามาในปั๊ม โดยคร่าวๆ ปั๊มน้ำชนิดหอยโข่งจะไม่สามารถสูบน้ำที่ระดับเกิน 10 เมตรได้เลย กล่าวโดยสรุปได้ว่ายิ่งปั๊มที่มีอัตราการไหลสูงเท่าไรจะยิ่งต้องการความสูงจากผิวน้ำถึงตัวปั๊มน้อยลงเรื่อยๆ ปั๊มตัวใหญ่ๆที่ใช้ในการส่งน้ำระยะทางไกลๆบางตัวต้องทำอาคารห้องปั๊มให้อยู่ต่ำกว่าระดับน้ำเพื่อป้องการการสูบน้ำไม่ขึ้น และคาวิเตชั่นด้วย นอกจากนี้ปั๊มน้ำหอยโข่งยังไม่ใช่ปั๊มน้ำที่มีอัตราการไหลสูงที่สุดเมื่อเทียบกับกำลังแรงม้าต่อแรงม้า ปั๊มที่ให้อัตราการไหลสูงที่สุดคือปั๊มชนิดไหลตามแกน หรือ Propeller pump จะอธิบายตอนหลัง ส่วนด้านทางส่งนั้นปั๊มน้ำชนิดหอยโข่งให้ความดันด้านส่งสูงอย่างต่ำก็เกิน 6 เมตรแต่โดยทั่วๆไปก็เกินกว่า 10 เมตรทั้งนั้น เราอาจจะเดินปั๊มที่ความดันต่ำกว่า 3 เมตรได้แต่ที่จุดนี้จะมี NPSHr ที่สูงมากสูบน้ำไม่ขึ้นแน่ๆ ซึ่งส่วนใหญ่งานสูบน้ำระบายน้ำเราเอาเครื่องยนต์ไว้สูงกว่าปั๊มน้ำอยู่แล้ว ความสัมพันธ์ของแรงม้าที่ใช้ขับปั๊มน้ำสามารถดูได้จากสมการปั๊มน้ำง่ายๆคือ แรงม้าปั๊ม = อัตราการไหล(หน่วยลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง) x ความดันรวม ( TDH หน่วยเป็นเมตรน้ำ)/ 273 การเปลี่ยนพลังงานกลให้เป็นอัตราการไหลของน้ำให้ได้มากที่สุดคือต้องลดความดันรวม หรือในทางปฏิบัติคือให้มีความสูงจากผิวน้ำที่จะสูบจนถึงปลายทางที่น้ำไหลออกให้ต่ำที่สุดเท่าที่จะทำได้ แก้ไขเมื่อ 05 ต.ค. 54 11:38:03 จากคุณ : ต้นกลเรือ เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 54 11:53:39

ความคิดเห็นที่ 2 ผมลองเอาข้อมูลของปั๊มน้ำที่ติดอยู่ที่หน้าหมู่บ้านผมซื้อมาโดยการเคหะ (หลายๆอบต.หรือหน่วยงานราชการก็ซื้อปั๊มแบบนี้) ผมโอเคว่าถ้าซื้อเพื่อใช้สูบน้ำชั่วคราว สูบน้ำฉุกเฉิน สะดวกในการเคลื่อนย้าย อันนี้ผมไม่เถียงแน่นอน แต่ปัจจุบันที่เราเจอปัญหาน้ำท่วมมาหลายปี จุดที่ต้องติดตั้งเครื่องสูบน้ำถาวรมันต้องเป็นแบบอื่น ย้ำว่าผมมองในระยะยาวเรื่องสถานีสูบน้ำประจำหมู่บ้านหรือตำบล เครื่องสูบน้ำที่หน้าหมู่บ้านผมยี่ห้อตามรูปซึ่งผมสามารถหาข้อมูลมาได้เป็น กราฟแสดงประสิทธิภาพของปั๊มน้ำ ปั๊มน้ำรุ่น RN250 – 250  ตัวเลขของปั๊มน้ำหอยโข่งตัวแรกคือขนาดNorminal size ของทางส่งคือ 250 mm. หรือท่อขนาด 10” (ท่อขนาด 10” มีเส้นผ่านศูนย์กลางจริง 267.4 mm.) และ 250 ตัวหลังคือขนาดNorminal size ของเส้นผ่านศูนย์กลางใบพัดปั๊ม 250 mm. (อาจจะเกินหรือน้อยกว่าก็ได้เรียกว่าใกล้เคียง 250mm.)เป็นมาตรฐานสากลในการบอกรุ่นของปั๊มน้ำ ปั๊มตัวนี้ติดตั้งคู่กับเครื่องยนต์ดีเซลระบายความร้อนด้วยอากาศขนาด 71 แรงม้า ที่ 1,500 rpm ให้ทำงานที่ฟูลโหลดปั๊มจะได้อัตราการไหลประมาณ 1,000 ลูกบาศก์เมตร ความดัน 12 เมตร ซึ่ง ณ จุดนี้มี NPSHr 5 เมตร ในความเป็นจริงคงไม่สามารถสูบน้ำที่จุดนี้ได้ เรามักจะได้เห็นปั๊มเครื่องยนต์ดีเซลตั้งรอบทำงานกันประมาณ 1,000 – 1,200 รอบต่อนาทีกันซะเป็นส่วนใหญ่โอกาสที่จะเดินเครื่องที่จุด 1,500 รอบต่อนาทีโอกาสสูบน้ำไม่ขึ้นมีสูง หรือไม่ก็จะได้ยินเสียงคาวิเตชั่นในตัวปั๊ม คนที่ไม่รู้ก็จะนึกว่าปั๊มพัง จากคุณ : ต้นกลเรือ เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 54 11:55:35

ความคิดเห็นที่ 3 ซึ่งถ้าเอาตัวเลขกลับไปมองที่สมการพื้นฐานของปั๊ม เราได้ความดันมา 12 เมตรแต่โดยส่วนใหญ่การสูบระบายน้ำทิ้งตอนน้ำท่วมเราสูบให้มันพ้นคันล้อมบวกกับ Loss ในระบบ 3-5 เมตรก็เพียงพอแล้ว เราเผาน้ำมันทิ้งเพื่อปล่อยความดันส่วนเกินไป หรือไม่ก็ไม่ได้เดินเครื่องจนเต็มกำลังของมัน ผลที่ได้ก็คือแบบที่คุณ Waterman กล่าวว่า ไหลแรงกว่าท่อประปาแตกหน่อยนึง ผมไม่ได้ว่าปั๊มชนิดหอยโข่งนี้ไม่ดีมันเหมาะกับเป็นงานๆ ไป ข้อจำกัดของมันอีกอย่างก็คือถ้าน้ำไม่เต็มท่อทางดูดมันไม่มีทางสูบน้ำขึ้นมาได้ ต้องหาทางเติมน้ำให้เต็มท่อไม่ว่าด้วยวิธีใดก็ตาม เราเรียกว่าการล่อน้ำ อาจจะใช้ระบบสุญญากาศจากท่อไอเสีย หรือปั๊มสุญญากาศ หรือ ใส่ฟุตวาล์วแล้วเติมน้ำให้เต็ม จากคุณ : ต้นกลเรือ เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 54 11:59:05

ความคิดเห็นที่ 4 ตัวโมเดลปั๊มน้ำ จากคุณ : ต้นกลเรือ เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 54 12:00:27

ความคิดเห็นที่ 5 เนมเพลทของเครื่องยนต์ จากคุณ : ต้นกลเรือ เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 54 12:01:25

ความคิดเห็นที่ 6 ลองดูรอบเครื่องยนต์ที่เดินเครื่องกัน ไม่ถึงพันรอบต่อนาที ในรูปนี้คนละตัวกับหน้าบ้านผมนะ ยังห่างกับจุดใช้งานเยอะ จากคุณ : ต้นกลเรือ เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 54 12:04:33

ความคิดเห็นที่ 7 ทีนี้เราลองมาดูปั๊มอีกประเภทหนึ่งที่ว่าคือปั๊มชนิดไหลตามแกน หรือ Axial Flow ชนิด Propeller pump มันก็คือใบพัดแบบใบพัดเรือนั่นเอง เหมือนเอาใบพัดเรือไปจมไว้ในน้ำหมุนให้มันผลักดันน้ำไป ซึ่งปั๊มประเภทนี้เป็นปั๊มที่ให้อัตราการไหลได้สูงที่สุดในบรรดาปั๊มด้วยกันทั้งหมด แต่ความดันด้านทางส่งจะน้อยกว่าแต่ก็เพียงพอเพราะมันเป็นแค่สูบระบายน้ำ เนื่องจากตัวใบพัดของปั๊มจมอยู่ในน้ำจึงไม่ต้องกลัวเรื่องประสิทธิภาพต้านทางดูด พูดง่ายๆยังไงก็ดูดน้ำได้แน่นอน เราไม่ต้องเสียพลังงานในด้านทางดูดเลย ปั๊มชนิดนี้มันก็มีลักษณะการขับหลายรูปแบบ อาจจะขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์แล้วต่อเพลาลงไป หรือใช้มอเตอร์ไฟฟ้ากันน้ำติดกับตัวใบพัดจมมันไว้ใต้น้ำเลย  เราอาจจะได้เห็นปั๊มน้ำลักษณะนี้ได้ตามจุดระบายน้ำหลักในกรุงเทพหรือตามประตูน้ำสำคัญ จะติดไว้แบบรูปนี้ ถ้าของกรุงเทพก็จะทาสีส้มๆ จากคุณ : ต้นกลเรือ เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 54 12:07:33

ความคิดเห็นที่ 8 รูปตัวใบพัดปั๊ม จากคุณ : ต้นกลเรือ เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 54 12:11:24

ความคิดเห็นที่ 9 ข้างในท่อเหล็กสีดำที่เห็นข้างในจะติดตั้งปั๊มเป็นเเบบนี้ จากคุณ : ต้นกลเรือ เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 54 12:18:26

ความคิดเห็นที่ 10 ลองเทียบดูกับปั๊มยี่ห้อเดียวกันกับข้างต้นถ้าผมเลือกรุ่นที่มีมอเตอร์ไฟฟ้า 70 แรงม้า ประมาณ 52 kW  เอาความดัน 5 เมตรว่าจะได้อัตราการไหลเท่าไร จากรูปลองดูโมเดล SVA 50-7-5 ได้ 2,700 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง ความดัน 5.6 เมตร ประสิทธิภาพปั๊ม 83% ทิ้งกันชนิดไม่เห็นฝุ่น จากที่กล่าวมาก็คือปั๊มชนิดใบพัดนี่ให้อัตราการไหลในการสูบสูงกว่ากันมาก ผมคิดว่าจากปีนี้ไปคงมีหลายหน่วยงานวางแผนระบบป้องกันน้ำท่วมซึ่งคงต้องมีระบบสูบน้ำถาวร ผมอยากให้ศึกษาข้อมูลของปั๊มให้ดีเสียก่อน นายช่างประจำเทศบาลอาจไม่ได้จบทางเครื่องกลมา หรือถึงบางท่านจบทางเครื่องกลก็เป็นไปได้ว่าอาจรู้จักปั๊มน้ำไม่ครบทุกชนิด ผมเห็นลักษณะงานที่ใช้ผิดประเภทแล้วรู้สึกเสียดาย หวังว่าบทความนี้คงจะเกิดประโยชน์ในส่วนรวมบ้าง จากคุณ : ต้นกลเรือ เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 54 12:19:21

ความคิดเห็นที่ 11 การใช้งานอีกลักษณะหนึ่งครับ ขับด้วยเครื่องยนต์ดีเซล ด้านบนเป็นเกียร์ทดรอบบวกกับเปลี่ยนทิศทางเเนวขับเคลื่อนเรียกว่า Right angle gear ครับ ต่อเพลาลงมาที่ด้านล่างเพื่อขับใบพัดปั๊มสังเกตุขนาดท่อที่ต่อกับท่อนสุดท้ายที่เป็นใบพัดนะครับจะเห็นว่ามีขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อลดความเร็วน้ำเปลี่ยนพลังงานจลน์เป็นพลังงานศักย์ให้เิกิดเป็นความดันเเทนความเร็วน้ำ และเมื่อความเร็วลดลงแรงเสียดทานก็จะลดลงด้วย จะได้อัตราการไหลเพิ่มขึ้น แก้ไขเมื่อ 04 ต.ค. 54 23:41:26 แก้ไขเมื่อ 04 ต.ค. 54 23:38:41 จากคุณ : ต้นกลเรือ เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 54 12:23:42

ความคิดเห็นที่ 12 อีกเเบบที่เห็นกันง่ายๆ ก็คือท่อพญานาค อย่าดูถูกมันนะอัตราการไหลจัดว่าใช้ได้เลยทีเดียว ผมให้มันเป็นปั๊มที่ให้อัตราการไหลเทียบต่อราคาเเล้วถูกที่สุดในประเทศไทย ผมเคยวัดด้วย Pitot tube เเล้วคำนวณความเร็วสำหรับปั๊มพญานาคขนาดท่อ 6 นิ้วขับด้วยมอเตอร์ 3 เเรงม้าได้ 200 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง ราคาเเค่หมื่นกว่าบาทรวมมอเตอร์ อะไหล่ราคาหลักสิบหลักร้อย หรือจะใช้เป็นเเสตนเลสเลยก็เพิ่มอีกไม่เยอะผมว่าคุ้มนะ  ที่สำคัญผลิตในบ้านเราเงินตราหมุนเวียนอยู่ในนี้ จากคุณ : ต้นกลเรือ เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 54 12:29:19

ความคิดเห็นที่ 13 แปะ clip จาก youtube จากคุณ : Spirited Away เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 54 12:31:22

ความคิดเห็นที่ 14 หรือตัวใหญ่ๆขนาดขับด้วยเครื่องยนต์ดีเซล 300 เเรงม้าก็มีนะ ผมว่าเป็นตัวเลือกอีกทางสำหรับอบต.หรือหน่วยงานราชการที่งบน้อยแต่ต้องการเครื่องสูบน้ำที่อัตราการสูบสูงๆ ถึงมันจะไม่เจ๋งที่สุดเหมือนกับ Propeller pump จากเมืองนอก แต่ผมว่าถึงเวลาที่ต้องไทยพึ่งไทยเเล้ว ผมยังคิดเลยว่าถ้าเป็นไปได้ ฝ่ายเทคนิคของกรมชลประทาน หรือมหาวิทยาลัยที่มีเเลปทางฟลูอิดดีๆ หรือกองทัพเรือ น่าจะออกเเบบใบพัดและปั๊มชนิดนี้ให้เป็นเเบบกลางของประเทศไปเลย ให้ฟรีให้ประชาชนสามารถผลิตปั๊มเเบบนี้ใช้ในงานเกษตรหรือ งานระบายน้ำไ้ด้เองจะได้ลดการนำเข้าบ้าง ผมรู้ว่าตอนนี้คนนำเข้าปั๊มพวก Propeller นั่งยิ้มกันเป็นเเถวเเล้ว จากคุณ : ต้นกลเรือ เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 54 12:37:46

ความคิดเห็นที่ 15 ใครมี Ultrasonic Flow meter ให้ยืมหรือมีปั๊มประเภทนี้ทีบ้านลองวัดอัตราการไหลดูเล่นๆได้ไม๊ครับ ผมจะเช่ามาวัดเองที่บ้านก็กลัวเมียด่า จริงๆผมอยากจะออกเเบบตัวนี้เองให้เป็นเรื่องเป็นราวเหมือนกันเเต่ติดเรื่องงานหลักเลยยังไม่มีเวลาไปลงกับมัน ผมเห็นจุดด้อยหลายๆอย่างที่ช่างชาวบ้านทำไว้และอยากแก้ไขให้ดีขึ้น แต่ด้วยราคาที่ถูกแสนถูกของมันผมว่ามันยังโอเคอยู่เมื่อเทียบกับปั๊มอื่นๆในงานระบายน้ำด้วยกัน จากคุณ : ต้นกลเรือ เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 54 12:51:50

ความคิดเห็นที่ 16 อยากโหวต แต่ไม่มีล็อกอิน สุดยอดทั้งคำอธิบายและภาพปลากรอบ จากคุณ : ไก่gosobig เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 54 13:10:25 A:203.156.87.30 X: TicketID:252022

ความคิดเห็นที่ 17 ได้ความรู้ และแนวคิดอีกมากเลย ขอบคุณที่เอามาเผยแพร่ เคยทราบมาแค่ว่า ดูดน้ำ  ตั้งปั๊มไว้ที่ปากบ่อ ต่อท่อลงไปดูดได้ไม่เกิน 34 ฟุต แต่ปั๊มที่มีท่อดูดคู่ ไม่ทราบว่า จะทำให้ดูดน้ำได้ลึกกว่านั้นหรือไม่  ไม่มีโอกาสได้ทดลอง ขอท่านต้นกลเรือ ช่วยให้ข้อมูลด้วย  ขอบคุณมากๆ สำหรับความรู้ครับ จากคุณ : ขอนเก่า เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 54 14:40:15

ความคิดเห็นที่ 18 ทำจิงๆ มันไม่น่าแพงน่ะ บานเรา น่าจะ ออกแบบเองได้แล้ว เพราะ น้ำเยอะ ต้องใช้มากกว่าชาวบ้านเขา จากคุณ : ก้นกบ เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 54 15:11:47

ความคิดเห็นที่ 19 เรียนคุณขอนเก่า ผมขอยึดที่ระดับน้ำทะเลปานกลางครับ ทำอย่างไรก็ไม่สามารถดูดน้ำได้ลึกเกิน 10.33 เมตรหรือ 34 ฟุตครับ เนื่องจากอากาศมีความกดดัน 1 Bar หรือ 1.05 x 10^5 N/m2 ที่จุดนี้ เราได้ต้นทุนจากธรรมชาติมาเเค่นี้ครับ อยากจะดูดให้ได้ลึกกว่านี้ก็ืคือต้องลงไปดูดในเหมืองหรือขุดดินให้ลึกลงไปเป็นพันเมตรจึงจะเริ่มเห็นผล แต่ที่เค้าแก้ปัญหาให้ง่ายๆก็คือเอาปั๊มไปจุ่มในน้ำเลยเช่น ตระกูล Submeresible ต่างๆที่ใช้สูบน้ำบาดาล หรือสูบน้ำเสีย จะลึกเกือบพันเมตรก็ส่งไหวครับ ปั๊มพวกนี้อัตราการสูบต่ำเเต่ความดันสูง แต่กรณีการสูบน้ำเเบบระบายน้ำ อัตราการไหลสูงความดันต่ำครับ แก้ไขเมื่อ 04 ต.ค. 54 16:13:14 จากคุณ : ต้นกลเรือ เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 54 16:12:16

ความคิดเห็นที่ 20 ท่อคู่ที่หมายถึงคือ ใช้วอเตอร์เจทเเบบนี้หรือเปล่าครับ เเบ่งเอาน้ำด้านทางส่งจ่ายลงไปที่ตัวฟุตวาล์ว ผ่านตัว Ejector เมื่อน้ำผ่านหัวฉีดด้วยความเร็วก็จะเกิดปรากฎการณ์เบอร์นูลลี่ ความดันลดลงทำให้น้ำจากภายนอกดันเข้ามาเพิ่มได้ ในเเคตตาล็อกที่ผมมีบางตัวเพิ่มระยะทางดูดได้ลึกถึง 50 เมตร แต่ปั๊มพวกนี้มันอัตราการไหลต่ำ ประเด็นของเราคือปั๊มสำหรับระบายน้ำครับ แก้ไขเมื่อ 04 ต.ค. 54 16:58:02 จากคุณ : ต้นกลเรือ เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 54 16:25:34

ความคิดเห็นที่ 21 มันติดตั้งเเบบนี้ครับ ใครช่วยบอกทีว่าถ้าผมจะทำไฟล์ PDF ให้เป็น JPEG เเบบง่ายๆให้เต็มหน้า A4 ได้ตอนนี้ผมใช้ปริ้นสกรีนเเล้ววางบนโปรเเกรมเพนท์ ผมไม่มีโฟโตชอบ ถึงมีก็ใช้ไม่เป็นครับ คุณขอนเก่าลองดูในกูเกิ้ลของยี่ห้อ pantax ดูครับยังมียี่ห้ออื่นอีกแต่ผมนึกไม่ออก พวกปั๊มอิตาลีมีหลายยี่ห้อครับประเด็นของเรื่องนี้คือมันสามารถเพิ่มระยะทางดูดได้แต่ไม่ใช่ตามกฏเรื่องความดันจากอากาศเราเเบ่งเอาน้ำจากทางส่งไปฉีดเข้าท่อทางดูดเดี๋ยวท่านที่ไม่มีความรู้เรื่องปั๊มน้ำจะหลงประเด็นครับ ที่สำคัญคืออัตราการไหลไม่สูงมากครับใช้กับงานธรรมดา แก้ไขเมื่อ 04 ต.ค. 54 23:35:48 แก้ไขเมื่อ 04 ต.ค. 54 21:37:49 จากคุณ : ต้นกลเรือ เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 54 16:42:30

ความคิดเห็นที่ 22 กระทู้ดี มีสาระมากครับ ขออนุญาตโหวตนะครับ... จากคุณ : กีต้าร์ยืม เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 54 17:57:54

ความคิดเห็นที่ 23 #21 ใช้ปริ้นสกรีนกับโปรแกรมเพนท์ ก็โอเคแล้วครับ พอ paste แล้วเคาะ Esc หนึ่งที ให้จุดไข่ปลาหายไปก่อน กลิ้งลูกกลิ้งเมาส์ให้ภาพอยู่ในกรอบจอ แล้วลากกรอบไข่ปลาใหม่ ครอบเฉพาะส่วนที่ต้องการ คลิ๊กขวา แล้วเลือก crop ภาพก็จะถูกตัดออกให้เหลือแต่ส่วนที่ crop ไว้ ครับ จากคุณ : ไก่gosobig เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 54 19:05:22 A:203.156.87.30 X: TicketID:252022

ความคิดเห็นที่ 24 ในโปรแกรม Adobe reader นะครับ (ของผมเวอร์ชั่น X) ให้เปิด PDF ขึ้นมา แล้วไปที่เมนู Edit > Take a snapshot แล้วก็ลากคลุมทั้งหน้าเลยครับ มันจะ capture มาให้ ภาพใหญ่อยู่เหมือนกัน หลังจากนั้นก็เอาไปย่อใน Paint ต่ออีกทีครับ จากคุณ : oppertunity เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 54 20:33:55

ความคิดเห็นที่ 25 เยี่ยมครับ จากคุณ : ผมเอง (ฟ้าสีหมอก) เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 54 20:46:37

ความคิดเห็นที่ 26 ครับ  ตามรูป ใน คห.20 ครับ ขอบคุณมากครับ สำหรับคำตอบ และข้อมูล จากคุณ : ขอนเก่า เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 54 20:46:44

ความคิดเห็นที่ 27 # 15 ผมเคยเช่ามาวัดอัตราการไหลเหมือนกันครับ 3 วัน เกือบสองหมื่น รู้สึกราคาเจ้าเครื่องนี้ ถ้าฟังมาไม่ผิด ราวๆ สามแสน จากคุณ : burns_za เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 54 20:50:36

ความคิดเห็นที่ 28 คุณไก่ผม Crop เเล้ววางเเล้วแต่พอวางใหม่มันจะได้ครึ่งของหน้ากระดาษตามแบบที่ผมวางไว้ ทำยังไงให้มันเต็มแผ่นจะได้ดูกันชัดๆหน่อยครับ ส่วนใหญ่ข้อมูลผมจะเป็น PDF จากคุณ : ต้นกลเรือ เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 54 20:53:58

ความคิดเห็นที่ 29 ช่าง อบต.มาลงชื่ออ่านครับ ของหลวง คนซื้อไม่ได้ใช้คนใช้ไม่ได้ซื้อ (คนใช้ไม่ได้เป็นคนเสป็ค คนเสป็คไม่ได้เป็นคนใช้) จากคุณ : ไม้โมก เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 54 20:57:12 A:223.207.206.1 X: TicketID:225494

ความคิดเห็นที่ 30 ผมก็เคยเช่ามาหลายงานครับ แต่ถ้าเช่ามาวัดท่อพญานาคแล้วไม่ได้เงินนี่ผู้จัดการฝ่ายการเงินส่วนตัวของผมเอาตายแน่ จะซื้อใช้เองก็เสียดายตังค์เพราะงานที่ผมทำยังไงก็ต้องจ้าง Third party มาวัดให้ ผมได้แต่ลองเอา หลอดแก้วทดลองวิทยาศาสตร์เป่าให้เป็นรูปตัวL บีบปลายให้เรียวเล็ก เป็น pitot tube เอาไปแหย่ที่กลางท่อแล้ววัดความสูงของน้ำที่ไหลขึ้นไปใน pitot tube แล้วคำนวณความเร็วเอา v = root 2 x g x h แล้วเอาความเร็วน้ำไปคูณพื้นที่หน้าตัดท่อ ผมเคยคิดจะจัดการเเข่งขันปั๊มน้ำแห่งประเทศไทยเอาเฉพาะปั๊มพญานาค จัดวันออกพรรษาแทนเเข่งเรือหางยาวหรือแข่งเจ็ทสกี แถวบ้านผม นครปฐม สมุทรสาคร สมุทรสงคราม คนทำปั๊มพวกนี้เพียบ อยากเอา Ultrasonic Flow Meter จับเลย กำหนดให้ทุกคนสูบที่เฮดเท่าๆกัน ใครสูบได้อัตราการไหลสูงสุดชนะ แบ่งเป็นรุ่นๆตามขนาดเครื่องยนต์กับขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางท่อ อบต.ไหนอยากจัดลองคุยกับผมได้ครับไม่หวงไอเดีย ผมว่าไอเดียนี้น่าจะเกิดนะถ้าได้จัดจริง รางวัลไม่ต้องเยอะคนที่ทำปั๊มเค้าก็อยากมาเเข่งเผลอเค้าเดิมพันกันเองเเบบพวกเเข่งเรือหางยาวเดิมพันกันเป็นเเสนเป็นล้าน ไม่ไ้ด้สนับสนุนการพนันนะเเต่ความจริงมันเป็นเเบบนั้น ผมว่ามันเป็นการเเข่งศักดิ์ศรีโดยเเท้ แก้ไขเมื่อ 04 ต.ค. 54 23:44:11 แก้ไขเมื่อ 04 ต.ค. 54 21:41:25 แก้ไขเมื่อ 04 ต.ค. 54 21:35:15 แก้ไขเมื่อ 04 ต.ค. 54 21:17:26 แก้ไขเมื่อ 04 ต.ค. 54 21:08:28 จากคุณ : ต้นกลเรือ เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 54 21:07:29

ความคิดเห็นที่ 31 ชอบกระทู้แบบนี้มากครับ  ค่อยสมเป็นหง้ากอหน่อย จากคุณ : ARMS STRONG เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 54 22:41:57

ความคิดเห็นที่ 32 เข้ามาเอาความรู้ครับ จากคุณ : a fat cat in a hat เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 54 23:26:40

ความคิดเห็นที่ 33 นี่แหละหว้ากอครับ จากคุณ : โลหการ4 เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 54 00:40:57

ความคิดเห็นที่ 34 #18 จริงๆเเล้วมันก็ไม่น่าเเพงนะครับ ผมลองหาราคามาให้ดูสำหรับ Propeller pump ขนาด 55 kW ผมเอากลางๆคือพวกยุโรปใต้เช่น เสปน อิตาลี ตัวนี้ราคาประมาณ 22,000 ยูโรครับ ถ้าจะถูกๆก็ต้องปั๊มเกาหลีหรือจีน ก็ไม่น่าต่ำกว่าห้าเเสนบาท ถ้าเป็นหอยโข่งขับด้วยเครื่องยนต์ประกอบกันในบ้านเราก็น่าจะขายกันเกินครึ่งล้าน แต่ Propeller ต้องมีส่วนประกอบอื่นเพิ่มขึ้นโดยรวมเเล้วจะเเพงกว่า แต่ Propeller 1 ตัวทำงานได้เท่ากับหอยโข่ง 2-4 ตัว ผมไม่อยากไปก้าวก่ายเรื่องผลประโยชน์กับใคร แต่เห็นว่ามันไม่ยากถ้าเราจะทำใช้กันเอง ไม่อยากจะยกตัวอย่างท่อพญานาคที่สูบนากุ้งขับด้วยเครื่องยนต์ดีเซลหลายร้อยเเรงม้าคนไม่ชอบอาจจะว่ากระจอก ผมมองว่าถึงจะเป็น Propeller pump ที่ขับด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ไม่ต้องเป็นชนิด submerse ก็ได้ครับ เอาเเบบในรูปที่ 11 เปลี่ยนชุดเกียร์เป็นมอเตอร์ไฟฟ้าก็ได้ขอให้ฝ่ายวิศวกรรมของกรมชลช่วยออกเเบบให้มันเป็นเเบบกลาง แล้วให้คนไปผลิตใช้กันเองจะเป็นไปได้ไม๊ครับ หรือสถาบันการศึกษาต่างๆช่วยกันออกเเบบใบพัดให้มันเป็นมาตรฐานสำหรับประเทศไทยไปเลย จะได้ไม่ต้องเสียเงินออกนอกบ้านกันขนาดนี้ ผมเชื่อว่าหลังจากปีนี้ไปคงมีการสั่งซื้อปั๊มน้ำขนาดใหญ่กันจำนวนมโหฬารมาก ถ้าจะได้ทำอะไรสักอย่างให้เงินก้อนนี้มันไหลเวียนกลับมาในประเทศไทยมันคงจะเกิดประโยชน์กว่าเอาออกไปซื้อข้างนอก ผมมองว่าถ้าซื้อยุโรปอาจได้ปั๊มประสิทธิภาพ 83-87% ทำเองในปีเเรกๆได้สัก 75-78% มันก็โอเคเเล้ว ปั๊มระบายน้ำไม่ได้สูบ 24 ชั่วโมงต่อวัน 300 วันต่อปี ปีหนึ่งเดินเครื่องไม่กี่ครั้ง มอเตอร์ไฟฟ้าผลิตในบ้านเราก็พอมี หรือจะซื้อของนอกก็พอได้เพราะขนาดที่เหมาะสมกับหมู่บ้านหรือตำบลคงไม่เกิน 75 kW ต่อตัว ซื้อเอา kW ละพันกว่าบาท จะบอกว่าปั๊มประเภทนี้มันไม่มีอะไรเลยครับ ใบพัด เสื้อปั๊มที่ทำจากเหล็กม้วนขึ้นรูป เพลา ชุดขับเคลื่อน มอเตอร์หรือเครื่องยนต์ต้นกำลัง ง่ายกว่าทำมอเตอร์ไซค์คันนึงอีก พรุ่งนี้ผมจะลองเอารูปชิ้นส่วนต่างๆที่โรงงานทั่วๆไปในบ้านเราทำได้เพื่อทีจะประกอบเป็น Propeller pump ในรูปที่ 11 ได้อย่างไรบ้าง แก้ไขเมื่อ 05 ต.ค. 54 02:35:12 แก้ไขเมื่อ 05 ต.ค. 54 00:51:32 แก้ไขเมื่อ 05 ต.ค. 54 00:49:34 จากคุณ : ต้นกลเรือ เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 54 00:44:32

ความคิดเห็นที่ 35 ขอบคุณมากค่ะ ได้ความรู้ดีค่ะ เข้ามารีเฟรชตามอ่านต่อเรื่อยๆค่ะ จากคุณ : lovelypriest เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 54 00:54:17

ความคิดเห็นที่ 36 เริ่มจากตัวท่อก่อนครับง่ายสุด ใช้เหล็กแผ่น ss400 ธรรมดานี่ก็พอครับที่ฝรั่งมันทำขายก็เกรดนี้เเหละครับ ขนาด 4' x 8' หรือ 5' x 10' หนา 5 มิลลิเมตรขึ้นไป เหล็กแผ่นนี่ซื้อที่ร้านขายเหล็กใหญ่ๆมีทุกร้านครับ ม้วนเป็นวงกลม เครื่องม้วนนี่ร้านที่เขียนว่า ตัด พับ ม้วน ทำได้ทุกร้านครับ จะเชื่อมด้วยลวดไฟฟ้า หรือ MIG ก็ได้ เสร็จเเล้วถ้าอยากจะให้กันสนิมได้ ก็ส่งชุบ Hot dip galvanize ชุบในบ่อสังกะสีละลายชุบหนาๆ เเช่น้ำอยู่ได้เป็นสิบปี ค่าชุบราคาคิดเป็นกิโลกรัมราคา 14-25 บาทต่อกิโลกรัม ถ้าไม่ชุบก็ทาสีอีพ็อกซี่โคลทาร์ก็พอได้สามสี่ปี หน้าเเปลนใช้เเผ่นเหล็กตัดด้วยพลาสม่า CNC ไม่ต้องกลึงจะได้ไม่ต้องหาเครื่องกลึงขนาดใหญ่ ใช้สว่านเเท่นเจาะรูวัดกันเเม่นๆหน่อย ทาบเอาตัวต่อตัวเลยก็ได้ น๊อตนี่ไม่ต้องพูดถึงมีโรงงานผลิตกันได้เยอะเเยะ จะใช้น๊อตเเสตนเลสก็ได้ หรือถ้าเป็นเหล็กก็อย่างน้อยเกรด 8.8 ชุบด้วย Hot dip galvanize ก็จะดี การป้องกันสนิมอีกวิธีคือวิธี Cathodic Protection ด้วยเหตุผลที่ว่าโลหะขึ้นสนิมเพราะเสียอิเลคตรอนให้กับออกซิเจนเราก็เลยหาโลหะชนิดอื่นที่ปล่อยอิเลคตรอนง่ายกว่าเหล็กมาติดคู่กัน มันก็จะสึกกร่อนเเทนเหล็ก ใช้กับพวกงาน Off shore กลางทะเลทั้งหลายเช่นเรือเดินทะเล เเท่นเจาะน้ำมัน อันนี้ก็มีขายเฉพาะหน่อยพวกเกี่ยวกับอุปกรณ์เดินเรือ ถ้าจะเอาง่ายๆก็ ปากน้ำสมุทรปราการ สมุทรสาคร สมุทรสงคราม มีเเน่นอนเรียกตามศัพท์เทคนิคว่า Zinc anode บางคนก็เรียก สังกะสีกันกร่อน ในรูปคือตัวสีเงินๆที่ติดกับท่อสีดำครับ แก้ไขเมื่อ 05 ต.ค. 54 01:20:53 จากคุณ : ต้นกลเรือ เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 54 01:19:53

ความคิดเห็นที่ 37 รูปเปรียบเทียบระหว่างของใหม่ กับของเก่าที่สึกเเทนเหล็กไปเเล้ว มันจะสูญเสียอิเลคตรอนค่อยๆกร่อนเป็นผงไปเรื่อยจนหมดครับ จากคุณ : ต้นกลเรือ เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 54 01:24:46

ความคิดเห็นที่ 38 อีกอันเป็นบุุชสำหรับรองรับเพลา ทำด้วยยาง EPDM พอดีผมหารูปใหม่ไม่เจอไม่รู้เก็บไว้ที่ไหน หาคนทำในสมุดหน้าเหลืองได้ครับมีเป็นสิบเจ้า ต้องมีร่องให้น้ำผ่านระบายความร้อนและช่วยให้เกิด Jurnal effect ระหว่างน้ำกับเพลาเหมือน เเบริ่งของเครื่องยนต์ที่เราเรียกวาชาร์ฟอาศัยหลักการเดียวกัน ขณะเพลาหมุนจะเกิดเเรงเหวียงให้ฟลิ์มของของเหลวเิกิดการยกตัวทำให้เพลาลอยอยู่บนของเหลวไม่สัมผัสกับตัวเเบริ่งครับอันนี้เเถมให้ ค่าทำพอดีต้องทำเป็นร้อยตัวถึงจะคุ้มค่าโมล แต่ตัวละหลักร้อยบาทครับ ถ้าสั่งฝรั่งมาบอกสองพันมันต้องใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ผมเคยทำเป็นยาง NBR และ EPDM เปรียบเทียบกันดู ปรากฎว่า NBR สึกเร็วครับ แก้ไขเมื่อ 05 ต.ค. 54 02:43:55 แก้ไขเมื่อ 05 ต.ค. 54 02:43:01 แก้ไขเมื่อ 05 ต.ค. 54 01:34:59 จากคุณ : ต้นกลเรือ เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 54 01:34:18

ความคิดเห็นที่ 39 เพลาปั๊มจะใช้เป็นเหล็กหรือเเสตนเลสก็ได้ครับ ขนาดผมก๊อบปี้ของฝรั่งมาก็ศูนย์กลาง 40- 50 มิลลิเมตร อันนี้ผมบ้าคิดตามคุณก้นกบนะ ตอนเเรกผมเเค่คิดว่าจะปรับปรุงพวกปั๊มพญานาคอย่างไร แถวๆสมุทรปราการ กิ่งแก้ว เทพารักษ์ ถนนพระราม 3 มีคนขายเพลาเต็มเลยครับ เพลาเหล็กก็ S45C น่าจะไหว ยังไงเพื่อนๆที่เก่งเรื่องวัสดุช่วยเเนะนำด้วยครับ เพลาเเสตนเลสเสปคฝรั่งก็จะเป็น AISI 420 หรือจะใช้ 304 ก็ได้ครับการต่อเพลาใช้เกลียวซ้ายครับ เวลาจะต่อเพลาทาจารบีกันติดพวก Copper slip เวลาจะถอดซ่อมบำรุงจะได้ถอดออกง่ายๆ แก้ไขเมื่อ 05 ต.ค. 54 01:57:40 จากคุณ : ต้นกลเรือ เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 54 01:56:22

ความคิดเห็นที่ 40 ใบพัดปั๊มน้ำถ้าจะให้ดีก็คงต้องใช้วิธีหล่อแต่ก็ต้องผลิตหลายชิ้น ถ้าเป็นพวกท่อพญานาคบ้านเรานี่สบายเลยเอาใบพัดเรือหางยาวกลับด้านใส่ มีขายเต็มไปหมดราคาหลักสิบหลักร้อย  แต่ถ้าผลิตจำนวนน้อยผมว่าดัดเเผ่นเหล็ก ผมลองเอารูปเครดิตจาก weekend hobby ห้องเรือ เอาใบจักรเครื่องOutboard มาเพิ่มพื้นที่ใบทำเป็นใบ Surface drive ดัดๆเชื่อมๆ ช่างไทยทำได้ครับ ขอให้ได้รูปเเบบ Curve ใบพัดที่ดีมีประสิทธิภาพมาเถอะเรื่องผลิตไม่ใช่เรื่องใหญ่ จากคุณ : ต้นกลเรือ เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 54 02:11:16

ความคิดเห็นที่ 41 เดี๋ยวจะหาว่าทำได้ไม่ดีพอ หลังจากทำใบเเล้วกลัวจะพังก็เอาไปทำ Dynamic Balance ครับ เครื่องมือยังต้องพึ่งพาเมืองนอกอยู่ วิธีการก็คล้ายๆกับถ่วงล้อรถยนต์ครับ แต่สำหรับใบพัดปั๊มน้ำไม่มีตะกั่วถ่วงใช้เครื่องเจียร เจียรเนื้อเหล็กออก ตามน้ำหนักที่เครื่องวัดได้ครับ แต่ก็มีประโยชน์ครับจะได้พอมั่นใจได้ว่าเอาไปใส่เเล้วไม่สั่นจนพัง ความคิดผมคือเราไม่ต้องมีเเฟนเป็นนางงามจักรวาลชีวิตก็คงมีความสุขได้ครับ ขอให้ดีพอ เข้าใจเราชีวิตน่าจะมีความสุขกว่ามีเเฟนเป็นนางงามจักรวาลนะครับ จากคุณ : ต้นกลเรือ เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 54 02:18:06

ความคิดเห็นที่ 42 อันนี้ Support Base เรียกตามคู่มือปั๊มของที่ฝรั่งทำมาก็คือเหล็กเเผ่นเชื่อมขึ้นรูปครับ(แต่ในรูปเป็นงานหล่อโลหะ หลายยี่ห้อเป็นงานโลหะเเผ่น) ใช้สำหรับยึดมอเตอร์กับตัวปั๊มให้ติดกัน อันนี้ก็ง่ายมากทำเองได้เลย ตัดเหล็ก ประกอบขึ้นรูป เชื่อม ประเก็นส่วนใหญ่จะใช้เป็นประเก็นเชือก (Packing seal) เท่าที่รู้มีเเต่ของนอกราคาปอนด์ละไม่กี่ร้อยบาท วัสดุสำหรับประเก็นเเค่เป็นกราไฟท์ก็พอครับ แก้ไขเมื่อ 05 ต.ค. 54 02:53:30 จากคุณ : ต้นกลเรือ เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 54 02:27:30

ความคิดเห็นที่ 43 ประสิทธิภาพของปั๊ม Propeller อยู่ที่ใบพัด และทางเข้า ขอให้มีคนได้ทดลองใน Lab ได้ทดสอบประสิทธิภาพมัันก็จะได้รูปเเบบที่ดีเเล้ว ไม่อยากจะบอกว่าให้ก๊อปปี้ฝรั่งเลยก็จะดูเลวเกิน จะได้พัฒนาความคิดกันด้วย ในรูปเป็นใบพัดของ propeller pump ของช่างชาวบ้านยังต้องปรับปรุงเรื่องทางเข้าอีกเยอะ แต่ก็ดีกว่าเริ่มต้นที่ศูนย์ครับ อย่างน้อยถ้าจะนับให้ครบร้อยจากสามสิบง่ายกว่านับจากศูนย์เเน่นอน แก้ไขเมื่อ 05 ต.ค. 54 02:39:31 จากคุณ : ต้นกลเรือ เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 54 02:33:05

ความคิดเห็นที่ 44 อันนี้ภาพตัดของปั๊มที่ทำถูกต้องครับ จากคุณ : ต้นกลเรือ เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 54 02:46:10

ความคิดเห็นที่ 45 เห็นภาพเหล่านี้แล้ว คุ้นเคยมากๆครับ ผมเคยทำงานอยู่บริษัทใหญ่แห่งหนึ่งใน กทม. ที่เป็นขาใหญ่ในการขายปั้มน้ำ ท่อน้ำ flap gate , slide gate ฯลฯ ให้กับ กทม. (คนในสำนักระบายน้ำ กทม. รู้จักดี) งานที่เห็นๆ พวก spec กราฟ ฯลฯ ผ่าน photo shop มาด้วยมือผมแล้วแทบทั้งสิ้น ปั้มที่นำเข้ามาก็จะเป็นพวก KJI , JIL , Rovatti , Prima(Prime) ขอบอกว่า สเปคที่เห็นๆน่ะ (คห.3) เวลายื่นซองประกวดราคา ผมยกกราฟขึ้นอีก นิดหน่อยด้วยนะ ไม่งั้นไม่ผ่าน TOR ....-*-........ พวกแรงม้า อัตราการไหล ความหนาเหล็ก ฯลฯ ใน TOR ก็ make ทั้งนั้น แม้กระทั่งใบ Certificate ก็ปลอมด้วย(ปลอมรุ่นที่รับรอง,วันหมดอายุ,ชื่อผู้รับรอง ฯลฯ) เพราะไม่มีใครมานั่งวัดจริงๆจังๆซะที เวลาตรวจรับงาน ก็แค่เปิดเครื่องให้ดู ว่ามันสูบน้ำได้ก็พอ ว่าไปแล้วก็ละอายใจเหมือนกัน แต่เป็นลูกจ้างเขา ก็ต้องทำไปน่ะครับ.... ประสิทธิุภาพของปั้มที่ใช้งานกันจริงๆ ไม่เต็ม 100% หรอกครับ(วัดจากเงินที่ซื้อมา) ผมตีให้ว่าได้ประมาณ 70 - 80% เท่านั้นแหละ ปั้มที่เห็นๆ name plate ก็ทำใหม่นะครับ ไม่ใช่ของเดิมติดมากับปั้มหรือเครื่องยนต์ ทำมาแผ่นละ 30 บาทเอง พูดมากคงไม่ดี......... จากคุณ : ฟหกด2 เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 54 05:41:23 A:223.204.167.226 X: TicketID:323088

ความคิดเห็นที่ 46 ^ ^ ^ จากคุณ : wrought เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 54 08:19:05

ความคิดเห็นที่ 47 พอนึกออกครับคุณ ฟหกด2 ว่าเป็นที่ไหน เอาเป็นว่าผมไม่ขอกล่าวถึงเรื่องสีเทาๆเเล้วกันครับขอว่าในเรื่องเทคนิคก่อน ต้องขออธิบายเรื่องประสิทธิภาพอีกนิดครับเดี๋ยวคนที่เข้ามาอ่านจะเข้าใจผิด ปั๊มน้ำไม่ว่าจะเป็นหอยโข่ง หรือ Propeller ถ้าเลือกจุดใช้งานถูกต้องมีประสิทธิภาพได้ถึง 85% หรืออาจจะมากกว่าครับอันนี้คือประสิทธิภาพที่หมายถึง กำลังที่ใส่เข้าไปเเล้วได้ออกมาเป็นการไหลของน้ำครับ ส่วนที่คุณฟหกด2 กล่าวหมายถึงว่าซื้อของราคาร้อยบาท สิ่งที่ได้มาคงมีมูลค่าจริงไม่ถึงร้อย ต้องขอออกตัวก่อนว่า ณ ปัจจุบันผมไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจปั๊มเเล้วไม่อยากพูดถึงสีดำสีเทาของวงการนี้ แต่อยากให้ความเห็นผมได้มีประโยชน์กับการเลือกใช้ปั๊มให้ถูกต้องกับประเภทงานโดยเน้นที่งานระบายน้ำซึ่งผมเชื่อว่าหลังจากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ครั้งนี้ คงเิกิดการจัดซื้อปั๊มครั้งมโหฬารขึ้นตั้งแต่ระดับประเทศไปจนถึง อบต.เทศบาลอำเภอ เทศบาลตำบล หรือหมู่บ้านไกลปืนเที่ยง ผมหวังว่าข้อเขียนที่ผมอธิบายขึ้นได้ผ่านหูผ่านตาคนใช้ อาจจะเป็นผู้ใหญ่บ้าน กรรมการหมู่บ้าน นายช่างอบต.ขอให้ได้อ่านแล้วเข้าใจได้เเค่คนเดียวผมก็ดีใจเเล้ว ประเทศเรามีตำบลกว่า 7,000 ตำบล มีตำบลที่มีปัญหาน้ำท่วมหลายร้อยตำบลหรืออาจจะเป็นพันตำบล ถ้าต้องใช้ปั๊มที่เเรงกว่าท่อประปาแตกกันไปสักครึ่งเสียดายภาษีของประชาชนครับ จากคุณ : ต้นกลเรือ เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 54 08:22:00

ความคิดเห็นที่ 48 เข้ามาโหวต ให้นะคะ :) จากคุณ : แพนด้าเอง เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 54 08:24:31

ความคิดเห็นที่ 49 จากรูปใน#44 ด้านทางออกของปั๊มที่อัตราการไหลสูงๆเราต้องเพิ่มพื้นที่หน้าตัดเพื่อลดความเร็วน้ำ เพื่อเปลี่ยนพลังงานจลน์ให้เป็นพลังงานศักย์ เเละอีกอย่างคือลดเเรงเสียดทาน น้ำความหนาเเน่นกว่าอากาศพันเท่า แรงเสียดทานของน้ำเเปรผันกับความเร็วน้ำที่วิ่งผ่านยกกำลังสอง และกำลังที่ใช้ขับปั๊มเเปรผันยกกำลังสามกับความเร็วครับ ถ้าเราลดความเร็วได้นิดหน่อยก็จะลดกำลังที่ใช้ขับเคลื่อนได้เยอะ ผมเห็นรูปเเบบของท่อพญานาคหลายที่ผลิตออกมาด้านใบพัดจะใหญ่เเล้วทำข้อลดลดขนาดท่อลง เท่าที่เคยคุยกับคนทำหรือคนใช้เค้าเข้าใจว่ามันจะได้รีดน้ำ น้ำที่ไหลออกมาจะได้เเรงๆ ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิดตรงกันข้ามกับความเป็นจริง บางคนต่อท่อน้ำเข้าบ้านเดินท่อมาสองนิ้วพอจะถึงบ้านใส่ข้อลดเหลือครึ่งหนึ่งเพราะคิดว่าจะได้รีดน้ำให้เเรงๆ อันนี้เข้าใจผิดครับ เราต้องใช้ท่อขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่จะใช้ได้เพื่อให้ความเร็วต่ำสุด แรงเสียดทานจะได้น้อยๆ จากคุณ : ต้นกลเรือ เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 54 08:50:36

ความคิดเห็นที่ 50 อันนี้ดีขึ้นมาหน่อยแต่ที่ถูกคือต้องใหญ่กว่าช่วงใบพัดปั๊มครับ จากคุณ : ต้นกลเรือ เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 54 08:52:02

ความคิดเห็นที่ 51 อยากให้ กิฟ แต่ให้ไม่ได้เพราะเป็น บัตรผ่าน เอาเป็นว่าผมชอบกระทู้นี้ละกัน.. เห็นด้วยอย่างมาก ที่ ชุมชน หรือ อบต. อบจ. หรือ หน่วยงานอะไรก็แล้วแต่ ควรมีท่อพญานาคไว้ประจำการ เพราะ ต้นทุนถูก บำรุงรักษาก็ถูก เอาแบบตัวใหญ่ๆเลย ต้นกำลังก็ใช้เครื่องยนต์ดีเซล หรือ ไม่ก็ เครื่อง 1J หรือ 2J ติดแก๊ส LPG ตามบ้านคน มีเล็กๆติดไว้ด้วยก็ดี เท่ากับแบบที่เกษตรกรใช้ทั่วๆไปนั่นแหละ จากคุณ : vigoman เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 54 10:33:29 A:118.172.169.184 X: TicketID:230797

ความคิดเห็นที่ 52 อันนี้เป็น Cross section ของปั๊มชนิด Propeller ข้างในไม่มีอะไรเลยครับ สำคัญอยู่ที่ใบพัด กับทางเข้าเท่านั้น ผมมองสองกรณี กรณีที่หนึ่งถ้าพื้นที่ที่ต้องการระบายน้ำออกต้องใช้ปั๊มน้ำ โดยติดตั้งเป็นสถานีสูบน้ำถาวร ถ้าต้องซื้อของนำเข้าก็ขอให้เลือกเป็น Propeller ครับ กรณีที่สองคือ ถ้าอบต.ไหนเงินงบประมาณไม่พอลองดูพวก propeller ที่ผลิตกันในบ้านเราใช้ก่อนได้ไม๊ มีงบใหม่เเล้วค่อยซื้อ ไม่อย่างนั้นถ้าใช้เครื่องยนต์ขับปั๊มหอยโข่งเผาน้ำมันทิ้งไปเยอะครับ แต่ถ้าเป็นไปได้หาทางผลิตกันเองเถอะครับ จากคุณ : ต้นกลเรือ เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 54 10:59:50

ความคิดเห็นที่ 53 อย่าหาว่าผมเชียร์ท่อพญานาคจนออกนอกหน้านะครับ ผมว่ามันเหมาะกับการใช้งานในบ้านเราจริงๆ เรามีตลิ่งที่ลาดลงหากจะเอา Propeller ไปสูบก็ต้องขุดบ่อเพราะมันต้องติดตั้งในเเนวดิ่ง หรือ หอยโข่งไปสูบก็ต้องต่อทางทางดูดลงไปในน้ำยิ่งยาวก็ยิ่งสูญเสียพลังงานเยอะ ถ้าท่อพญานาคเอาวางพาดไปตามเเนวตลิ่งก็สูบน้ำได้เเล้ว ดีไซน์ที่ใช้กันทุกวันพวกนากุ้งผนังท่อใช้เเสตนเลสหนาประมาณ 2มิลลิเมตร เบามากเอาคนไม่กี่คนยกก็ไหวเเล้ว ความดันปั๊มไม่ถึงบาร์น้อยมากๆ แต่อัตราการไหลมหาศาล ผมเอารูปของเครื่องสูบน้ำนากุ้งให้ดูต่อกันเเบบบ้านๆ แต่ผมว่าไอเดียดีนะ เอาเครื่องยนต์ดีเซลเก่า ยี่ห้อฮีโน่จากเซียงกงมาทำเเรงม้าเยอะๆยิ่งถูก เครื่อง 100-150 เเรงม้าราคา 80,000-120,000 เครื่อง 250-300 เเรงม้า แสนกลางถึงปลายๆ โอเวอร์ฮอล์สักสามสี่หมื่นบาทก็ใช้ได้เป็นหมื่นชั่วโมง เสียทิ้งเครื่องยนต์อุตสาหกรรมใหม่ๆ 300 เเรงม้าราคาเกือบครึ่งล้านส่วนต่างมันเยอะครับ แต่ผมไม่รู้ว่าใน TOR งานราชการมันจะสามารถทำได้หรือไม่ ในรูปเป็นเครื่องสูบน้ำนากุ้งทำเเถวๆสมุทรสาคร ขับเคลื่อนด้วยตัวเองได้ สามารถปรับมุมแนวท่อดูดได้มีที่นั่งให้คนขับสามารถควบคุมปั๊มได้ด้วย สะดวกดีผมชอบไอเดียเขา ถ้าช่างเหล่านี้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องไปผลิตของเค้าจะทำได้ดีกว่านี้อีกเยอะครับ จากคุณ : ต้นกลเรือ เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 54 11:32:12

ความคิดเห็นที่ 54 กลับมาที่ท่อพญานาคขนาดท่อ 6 นิ้วที่ผมกล่าวในกระทู้ต้นๆก่อนว่าผมสามารถวัดอัตราการไหลได้ 200 ลบม./ชั่วโมง ความดันรวม 2 เมตร ใช้มอเตอร์ 3 เเรงม้า แต่ผมวัดกระเเสด้วยแคล้มป์เเอมป์ เเล้วคำนวณกำลังมอเตอร์ที่ใช้จริงได้ประมาณ 2.2 เเรงม้า แสดงว่าที่สภาพที่ผมวัดนั้นปั๊มต้องใช้กำลัง = 200 x 2 /273 = 1.46 แรงม้า แต่มอเตอร์ผมกินไฟไปถึง 2.2 แรงม้าแสดงว่าปั๊มมีประสิทธิภาพ = 1.46 / 2.2 x 100 = 66.3 % ผมว่าด้วยเทคโนโลยีชาวบ้าน ทำผิดบ้างถูกบ้าง เสียกำลังไปกับระบบสายพาน ได้ประสิทธิภาพมาขนาดนี้ผมก็ดีใจเเล้ว ลองคิดดูว่าถ้าเค้าได้รับการสนับสนุนด้านเทคนิคอย่างถูกต้องเราจะช่วยเหลือด้านนี้ำได้อีกเท่าไร ถ้าทำให้มันได้ไม่ต่ำกว่า 78% ผมก็นอนตายตาหลับเเล้ว จากคุณ : ต้นกลเรือ เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 54 11:47:52

ความคิดเห็นที่ 55 รูปใบพัดในท่อพญานาคครับ จากคุณ : ต้นกลเรือ เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 54 11:54:53

ความคิดเห็นที่ 56 อันนี้ผมซื้อมาจากร้านอุปกรณ์เกษตรที่สามพราน ใส่ในท่อขนาดหกนิ้ว ราคา ุ60 บาทไม่น่าเชื่อว่าทำได้ยังไงกับราคานี้ แนวทางป้องกันน้ำท่วมในอนาคตก็คงต้องทำแม่น้ำใหม่ ขุดคลอง ขุดบ่อ อ่างเก็บน้ำ คันกั้นน้ำ พวกนี้ผมไม่ห่วงครับเพราะว่าถึงจะเป็นเมกกะโปรเจคทีใช้เงินเยอะ แต่ บริษัทก่อสร้างก็บริษัทไทย คนงานก็คนไทย อาจมีพม่ามาช่วยบ้างก็ถัวๆกันไปยังไงก็คนอาเซี่ยนด้วยกัน อิฐ หิน ปูน ทราย เหล็กก่อสร้าง ท่อเหล็ก ท่อ HDPE  ท่อPVC ก็ผลิตกันในบ้านเราทั้งนั้น ยังไงเงินก็ไหลเวียนอยู่ในบ้านเราเเน่ๆ แต่ระบบพวกนี้จะทำงานได้ไม่สมบูรณ์ถ้าไม่มี ปั๊มน้ำครับ แล้วท่านผู้ใหญ่ในบ้านเรามองในรายละเอียดในเรื่องนี้อย่างไร ผมรู้ว่าคนจบเครื่องกลมาน้อย เเล้วคนที่จบเครื่องกลที่รู้เรื่องปั๊มยิ่งน้อยเข้าไปอีก นักการเมืองไล่ตั้งเเต่ระดับท้องถิ่นไปจนถึงระดับประเทศก็เติบโตมาจากธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง มีความรู้ด้านโยธาซะเป็นส่วนใหญ่ ผมตัวเล็กครับทำได้เเค่นี้ ขอเเค่มีนายช่างอบต.สักคนที่เข้ามาอ่านเเล้วทำอะไรได้สักตำบลหนึ่งในประเทศไทยผมก็ดีใจเเล้วครับ จากคุณ : ต้นกลเรือ เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 54 12:03:03

ความคิดเห็นที่ 57 รูปไม่ขึ้นครับ จากคุณ : ต้นกลเรือ เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 54 12:03:59

ความคิดเห็นที่ 58 อีกที ทำได้ไง 60 บาท Mass production สุดๆ ถ้าจะหาปั๊มหอยโข่งสูบน้ำได้สองร้อยลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมงมีสามสี่หมื่นบาทเเน่ แถมได้ความดันสักยี่สิบเมตรเป็นของเเถมมาอีก แก้ไขเมื่อ 05 ต.ค. 54 13:52:28 แก้ไขเมื่อ 05 ต.ค. 54 12:42:24 จากคุณ : ต้นกลเรือ เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 54 12:04:33

ความคิดเห็นที่ 59 โหวตให้ครับ แต่เห็นเนื้อหา คห.บนกับชื่อล็อคอินแล้วแอบสงสัยว่ามาจากอาจารย์เดียวกับผมหรือเปล่า จากคุณ : ทั้งหมดแถวตรง เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 54 13:30:28

ความคิดเห็นที่ 60 กลับมาอ่าน กระทู้อีกรอบ อยากเห็น บ้านเรา พัฒนาไปในทาง ที่ จขกท พูดถึง จริงๆ  ได้ใช้งาน ได้จับต้อง ไม่เพ้อฝันเลย ทำเดี่ยวนั้นเห็นผลกันจะๆ จากคุณ : ก้นกบ เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 54 13:35:15

ความคิดเห็นที่ 61 สนับสนุนปั้มพญานาคด้วยครับ ปั้มพญานาค เหมาะกับงานเกษตร และระบายน้ำ ระดับท้องถิ่นจริงๆครับ ราคาถูก ผลิตได้เองในประเทศ อะไหล่ไม่ต้องห่วง นี่ถ้าผู้ผลิต ทำ Performance Curve กับ Data Sheet ให้ถูกต้องอย่างที่ควรจะเป็นจะเป็นประโยชน์มากสำหรับผู้ออกแบบ #54 Eff. 66.3% จัดว่าดีเลยทีเดียวสำหรับ size เล็กแบบนี้ จากคุณ : ไก่gosobig เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 54 13:43:01 A:203.156.87.30 X: TicketID:252022

ความคิดเห็นที่ 62 ผมสมมุติตำบลชื่อ บางกอไก่ มีพื้นที่น้ำท่วม 800 ไร่ติดต่อกันโดยกันโดยเฉลี่ยมีความลึกของระดับน้ำเฉลี่ย 1.3 เมตร หลังจากจัดการกับคันล้อมเสร็จเรียบร้อยก็ต้องเตรียมแผนกู้เมืองด้วยการสูบน้ำออก ไปสู่ลำน้ำหลัก ผมไม่พูดถึงลำน้ำหลักเพราะผมไม่เชี่ยวชาญด้าน Open channel flow สมมุติให้มันรับได้ไม่จำกัด ตำบลบางกอไก่ต้องสูบน้ำจำนวน 1,664,000 ลูกบาศก์เมตร ถ้าจะให้หมดภายใน 1 วันคือต้องสูบให้ได้ 69,333 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง ถ้าสองวันก็ต้องสูบให้ได้ 34,666 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง ถ้าสามวันก็ต้องสูบให้ได้ 23,111 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง ผมขออนุญาตใช้ที่สามวันนะครับ คิดว่าเวลาสามวันคงเป็นเวลาที่พอคุยต่อรองกับชาวบ้านรอได้ ผมลองคิดที่ประสิทธิภาพร้อยเปอร์เซนต์ก่อน ถ้าให้ปั๊มทำงานที่ความดัน 3 เมตร ต้องใช้ต้นกำลังสำหรับขับปั๊ม 253 แรงม้า ถ้าเราสามารถทำปั๊มให้มีประสิทธิภาพได้ถึง 80% ก็จะใช้ต้นกำลัง 316 แรงม้า  ถ้าให้ต้นกำลังทำงานที่ 80% โหลดก็จะต้องใช้ต้นกำลังขนาด 395 แรงม้า ผมเลือกเป็นปั๊มขนาด 150 แรงม้า 3 ชุด กรณีเป็นหอยโข่งต้องเกิน 3 ชุด อาจจะ 6 หรือ 7 ชุด ผมไม่ขอพูดถึงเพราะรู้อยู่เเล้วว่ามันได้อัตราการไหลน้อยกว่า propeller เกือบ 3 เท่า ถ้ากรณีเเรก ซื้อ Propeller เเบบ submersible ขนาด 150 แรงม้า เฮด 3 เมตร อัตราการไหล 7,700 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง ผมใช้ราคากลางๆที่พอจะมีอยู่ในมือ ไม่รวมค่าก่อสร้าง ค่าชุดควบคุม เอาเเค่ราคาปั๊ม ชุดละ 2,800,000 บาท ต้องลงทุนเฉพาะค่าปั๊มเกือบ 10 ล้าน กรณีที่สอง ทำเอง ถ้ามีเเบบใบพัดประสิทธิภาพสูงมาให้ ผมให้ต้นทุนแรกคือราคามอเตอร์ขนาด 150 เเรงม้า ตัวละ 200,000 บาท เอายี่ห้อ Siemens หรือ ABB เลย ให้งบ 1 ล้านบาทต่อตัว อีกเเปดเเสนที่เหลือ จะทำใบพัด ท่อ เพลา ตามเเบบในรูปที่ 11 ได้ไม๊ครับ ผมว่ามีเหลือทอนเป็นงบดูงานได้อีกเป็นเเสนเเน่ หรือถ้าเป็นท่อพญานาคผมว่าถ้ามีเเบบให้ อนุญาตให้ใช้เครื่องยนต์มือสอง ให้งบหกเเสนต่อตัวทำได้คนทำมีกำไรสบายๆ คนซื้อก็เเฮบปี้ จากตัวเลขสมมุติของตำบลบางกอไก่ ถ้าพื้นที่เเอ่งกระทะอย่างชัยนาท อ่างทอง คิดว่าปริมาตรน้ำจะขนาดไหน ต้องใช้ปั๊มกี่ตัวถึงจะสูบออกหมด ไม่รู้ว่ามีนักศึกษา วิศวกรรมศาสตร์มหาวิทยาลัยไหน ทำวิทยานิพนธ์เรื่องท่อพญานาคบ้าง สมัยผมเรียนมีรุ่นพี่ทำเรื่องปรับปรุงประสิทธิภาพใบจักรเรือหางยาว แก้ไขเมื่อ 05 ต.ค. 54 17:32:49 แก้ไขเมื่อ 05 ต.ค. 54 15:07:21 จากคุณ : ต้นกลเรือ เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 54 15:05:16

ความคิดเห็นที่ 63 สนับสนุนปั้มพญานาคอีกคนครับ ผมเห็น ปู่ ผมใช้สูบน้ำออกจากนา ตั้งแต่ผมเด็ก ๆ และ อารมณ์มันประมาณนี้เลย จากคุณ : starjoke20 เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 54 15:11:13

ความคิดเห็นที่ 64 ขอบคุณค่ะ นึกถึงระหัดวิดน้ำสมัยเด็กๆจัง จากคุณ : kaws เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 54 15:32:27

ความคิดเห็นที่ 65 คิดถึงเนื้อหาพวกนี้จัง จาก อดีต วิศวกรเครื่องกล จากคุณ : realp** เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 54 16:24:16

ความคิดเห็นที่ 66 ส่วนตัวผมไม่ได้รู้ลึกทางข้อมูลมากนัก แต่เอาจากประสบการณ์การใช้งานตั้งแต่ระหัด ผมว่าระหัดนี่เป็นอะไรที่สุดยอดแบบหนึ่งเลยเคยใช้ใหญ่สุดรางขนาด8นิ้ว(ความกว้าง) ใช้เครื่องยนต์ดีเซล10แรงม้า โดยระหัดสามารถสูบน้ำได้โดยเครื่องยนต์รอบต่ำไม่ต้องเร่งเครื่อง เคยลองสูบเทียบกับท่อพญานาค8นิ้วเครื่อง10แรง ระหัดให้น้ำได้เยอะมากขณะที่เครื่องยนต์แทบไม่ต้องเร่ง ท่อพญานาคติดตั้งง่าย ที่เราเห็นส่วนใหญ่ปั๊มหอยโข่งของกทม.ไม่ได้ส่งน้ำขึ้นสูงและไกลมาก  ท่อพญานาคก็ทำได้เช่นกัน เพียงแต่หากจุดไหนมันวางท่อพญานาคได้ก็ควรจะใช่ท่อแบบนี้ ส่วนตัวผมเห็นว่าปั๊มหอยโข่งนั้นใช้พลังงานมากแค่ปั๊มเพียง6นิ้วต้องใช้เครื่องยนต์สี่สูบ เทียบกับท่อพญานาค6นิ้วใช้เพียงคูโบต้า8-10แรงก็มากพอ  จริงๆหากที่มันบังคับมันมีท่อพญานาคตั้งตรง90องศา(กรณีไม่ลึกจากพื้นเกิน4-5เมตร) โดยใช้เครื่องดีเซลหกสูบ ก็ให้น้ำได้เยอะอีกเช่นกัน  หากใครเคยมาทำงานที่ไทยรุ่งจะเห็นว่าท้ายโรงงานจะมีบ่อรองรับน้ำขนาด1ไร่รับน้ำจากโรงานราวๆ70กว่าไร่  ใช้ท่อพญานาค4ท่อขนาด12นิ้ว  สูบพร้อมกันทีหมู่บ้านแถวนี้3หมู่บ้านน้ำขึ้นสูงถึงครึ่งแข้งในเวลาเพียง15นาทีเอง   สรุปสนับสนุนท่อพญานาคขนาดใหญ่และเรื่องการปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นน่ะครับ จากคุณ : ลิงน้อยเอ็นจอยเขียน เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 54 17:38:30

ความคิดเห็นที่ 67 ระหัดจริงๆเเล้ว Loss เยอะมากครับแต่นั่งดูมันทำงานเเล้วเพลินดี บ้านพ่อตาผมเลี้ยงปลาสลิดเวลาจับปลาก็เอาระหัดวิดปลาขึ้นมาครับ นั่งดูเค้าชั่งปลามันส์มาก จริงเเล้วมันมีพื้นที่สัมผัสที่เสียดสีกันเยอะครับ ทั้งตามข้อต่างๆเเล้วก็รูปทรงที่เป็นเหลี่ยมของระหัดวิดน้ำ จากคุณ : ต้นกลเรือ เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 54 20:38:44

ความคิดเห็นที่ 68 อันนี้ผมเอามาจากหนังสือกลศาสตร์ของไหลครับ เป็นค่าสัมประสิทธิเเรงต้านของวัตถุที่เคลื่อนที่ในของไหล ค่า CD ของเเผ่นเเบนเเบบระหัดวิดน้ำ มีค่า CD ถึง 2 ครับ รวมหลายๆใบวิ่งผ่านน้ำเยอะครับ จากคุณ : ต้นกลเรือ เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 54 20:43:52

ความคิดเห็นที่ 69 ผมให้ดูกราฟอมตะของใบจักรเรือครับอธิบายอะไรได้หลายอย่างที่รู้สึกว่าระหัดสูบน้ำได้เยอะใช้เครื่องยนต์ดีเซลสูบเดียวไม่กี่เเรงม้าก็ขับมันได้ เดิมระหัดวิดน้ำใช้คนเป็นต้นกำลังครับ จะมีระหัดชกมวย ระหัดถีบ ใช้คนสองสามคนช่วยกันออกเเรงอาจไม่ได้น้ำเยอะเท่าปัจจุบันแต่ก็เเสดงว่ามันใช้กำลังไม่กี่เเรงม้ามันก็ทำงานได้ครับ ส่วนปั๊มหอยโข่งนี่ต้องอธิบายเยอะครับ ผมจะสรุปประเด็นคร่าวๆก่อน จริงๆเเล้วการเลือกปั๊มหอยโข่งมันไม่ใช่เเค่ท่อขนาดท่อทางส่งครับ ท่อทางส่งเดียวกันมีเเบ่งย่อยเป็นสิบๆรุ่น คุณลิงน้อยอาจได้ปั๊มที่เสปคปั๊มไม่ตรงกับเครื่องยนต์เลยทำให้มันลดประสิทธิภาพไปเยอะ หรืออาจจะทำงานได้ไม่ตรงกับจุดทำงานปั๊ม ขนาดใบพัดเล็กหรือใหญ่เกินกำลังของเครื่องยนต์ ผมขอเอากราฟใบจักรเรืออธิบายปรากฎการของ ต้นกำลัง อาจจะเป็นมอเตอร์ไฟฟ้าหรือเครื่องยนต์ กับ เครื่องจักรที่ถูกขับโดยต้นกำลังทุกชนิด แกน x คือความเร็วรอบ เเกน Y คือกำลังของต้นกำลัง กราฟเส้นบนสุดคือ กำลังของต้นกำลังที่ความเร็วรอบต่างๆ กราฟเส้นที่สองคือ กำลังที่เครื่องจักรต้องการสูงมาก เกินกว่ากำลังของต้นกำลัง เราจะไม่สามารถเร่งต้นกำลังให้ไปถึงจุดที่ทำกำลังสูงสุดได้เลย ถ้าเป็นเครื่องยนต์เร่งไปได้ไม่เท่าไรก็จะเกิดอาการวอด เร่งไม่ขึ้นอีกเเล้ว กราฟเส้นที่สามคือ กำลังที่เครื่องจักรต้องการกับ ต้นกำลังพอดีกันเป๊ะ อันนี้เป็นกราฟในอุดมคติไม่ค่อยเกิดจริงครับ เราจะสามารถใช้กำลังเครื่องยนต์ได้เต็มที่เลย กราฟเส้นที่สี่คือ กำลังที่เครื่องจักรต้องการน้อยกว่าที่ต้นกำลังผลิตได้ ก็จะไม่สามารถใช้กำลังสูงสุดของเครื่องยนต์ได้อีกครับ ในเมื่อไม่มีโหลดเครื่องยนต์ก็จะเร่งไปอีก ลักษณะเรียกกันเเบบบ้านๆว่ารอบเหลือ เช่นเครื่องยนต์มีกำลังสูงสุดที่ 5000 rpm ซัดไปเจ็ดพันยังได้ก็เพราะโหลดน้อยกว่ากำัลังของเครื่องยนต์ครับ โดยปกติเราจะให้โหลดของเครื่องจักรน้อยกว่ากำลังของต้นกำลังนิดหน่อยครับ ถ้าเยอะไปกำลังเหลือเยอะก็เเพงเหมือนเอาช้างลากมด กราฟเส้นที่สองก็คือ มดลากช้าง จากคุณ : ต้นกลเรือ เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 54 21:08:32

ความคิดเห็นที่ 70 กราฟครับ จากคุณ : ต้นกลเรือ เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 54 21:09:02

ความคิดเห็นที่ 71 เมื่อเย็นผมไปดูสถานการณ์ที่ประตูน้ำปากคลองประปามา น้ำสูงจากระดับถนนประมาณ 1 เมตรขึ้นไป จากคุณ : ต้นกลเรือ เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 54 21:17:58

ความคิดเห็นที่ 72 ปั๊มพญา่นาค ผู้ดัดแปลงคือ ศ.ดร.สุชีพ รัตรสาร ศจ.ของ ม.เกษตรฯ ผู้ประดิษฐ์ เรือหางยาว ขึ้นเป็นคนแรกในประเทศไทย (เคยได้รับรางวัลจาก นายกฯ)ในระหว่างที่เป็นนิสิตที่เกษตร เพราะต้องใช้เรือเป็นพาหนะในคลองวังหิน เสนานิคม เมือกว่า 60 ปีที่แล้ว เพื่อเผยแพร่การปลูกเห็ดฟาง (หาเงินเรียนหนังสือ) ท่านผู้นี้เคยคุมภาควิชาเกษตรกลวิธานก่อนเปลี่ยนเป็นคณะวิศวะ เครื่องปั๊มนี้ดัดแปลงมาจาก ปั๊มแบบเทพฤทธิ์ ที่ใช้แกนสกรูเหล็กในท่อเพื่อดึงน้ำ ซึ่งทำให้ปั๊มมีน้ำหนักมาก ท่านได้เปลี่ยนเป็นแกนแบบเรือหางยาวและใส่ใบพัดกลับทาง ทำให้ปั๊มมีน้ำหมักเบา ใช้พลังงานน้อยและสูบน้ำได้มาก ท่านยังมีประวัติชีวิตที่น่าสนใจทางด้านการเกษตรและอื่นๆ อีกมาก เช่น เป็นบิดาแห่งการเลี้ยงสุกรแผนใหม่ ทำให้คนไทยทุกวันนี้มีโปรดีนชั้นดีและราคาถูก เช่นทุกวันนี้ เป็นบิดาแห่งการผลิตอาหารสัตว์ยุคใหม่้ เป็นผู้ก่อตั้งภาควิชาวิทยาศาสตร์การกีฬา ผู้ร่วมบุกเบิกตั้ง สาธิตเกษตร วิทยาเขตกำแพงแสน ฯลฯ จากคุณ : ประวัติปั๊มพญานาค เขียนเมื่อ : 5 ต.ค. 54 21:40:12 A:183.89.57.131 X: TicketID:332512

ความคิดเห็นที่ 73 ให้น้ำเยอะจริงๆ จากคุณ : Spirited Away เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 00:07:55

ความคิดเห็นที่ 74 ใช้ระบายน้ำได้สบายๆ (ใช้หลายๆ ตัวช่วยกัน) จากคุณ : Spirited Away เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 00:09:18

ความคิดเห็นที่ 75 พูดกันถึงเรื่องเครื่องสูบน้ำ ในอัตราการไหล และแรงดัน ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญ คือความเร็วรอบ เครื่องสูบน้ำชนิดแรงเหวี่ยง (Centrifugal Pump) ไม่ว่าจะเป็นแบบหอยโข่ง หรือแบบพญานาค ต่างก็อยู่ภายใต้ Affinity Law (หาอ่านเอาเอง เน้อ) หลังจากน้ำท่วมปีที่แล้ว ผมไปตรวจสอบพื้นที่น้ำท่วมของบริษัทในเครือ ในฐานะวิศวกรที่ปรึกษา ปรากฏว่าไปเจอปั๊มน้ำที่เคยใช้สูบน้ำฝนออกจากพื้นที่ป้องกันน้ำท่วม ซึ่งเป็นปั๊มพญานาค ซึ่งเดิมใช้เครื่องยนต์ขับโดยทดรอบ แต่พอขยายเขตไฟฟ้า ก็ได้ทำการเลี่ยนต้นกำลังจากเครื่องยนต์มาขับตรงด้วยมอเตอร์ ตอนที่ผมไปปั๊มชุดนี้ได้ถูกขายให้กับบริษัทในเครือ ด้วยสาเหตุเพียงนิดเดียว คือ พอเอามอเตอร์ขับแทนเครื่องยนต์ เพลาขับปั๊มขาด ครับ ซึ่งหากเป็นแค่ช่างเทคนิค ก็จะไม่ว่าอะไร ผมก็ได้แค่หัวเราะ หึหึ พร้อมกับสั่นหัว เพราะ คนที่สั่งการให้แก้ไขแบบนี้ ก็จบวิศวะ ซึ่งเทียบได้กับวิศวเครื่องกล และก็เป็นรุ่นน้องผมเอง ซึ่งแทนที่จะเปลี่ยนขนาดเพลาขับช่วงกลางซึ่งรับแรงบิดมากกว่า ดันใช้การขายปั๊มออกไป แล้วซื้อปั๊มหอยโข่งที่มี Lifting Head 20 ม. มาใช้เพื่อยกน้ำแค่ 3-4 ม. (ตาม Affinity Law รอบเพิ่มขึ้น 20% แรงที่กระทำต่อเพลาขับจะเพิ่ม 1.2^3 เท่า ครับ) ส่วนในปีนี้ ตั้งแต่ 6-7 เดือนก่อน ผมได้เสนอให้จัดซื้อ เครื่องสูบน้ำแบบพญานาคขนาดท่อ 8 นิ้ว ประมาณร่วมยี่สิบเครื่อง โดยผมได้แนะนำว่า ให้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำตรึงไว้กับแท่น และใช้วิธียกเครื่องต้นกำลังไปติดตั้ง เลิกใช้ก็เก็บ แต่ก็โดนแปลงสาร ดั๊นไปซื้อเครื่องยนต์พร้อมรถไถเดินตาม ซึ่งแพงขึ้นอีกเกือบครึ่ง จำนวนก็ได้น้อยลง แถมก็ยังยึดติดกับแบบเดิมๆ คือ ต่อสายพานยาวๆ ไปขับปั๊ม ซึ่งมันผิดจากที่ผมต้องการ แถมติดเครื่องแล้วทิ้งไม่เฝ้าอีก เครื่องหายไปเครื่องนึงแล้ว อันที่จริง ความตั้งใจผม ผมต้องการให้ใบพัดและท่อส่งอยู่ในแนวดิ่ง เพื่อลดความยาวท่อ HeadLoss ก็จะลดด้วย ติดปัญหาอยู่อย่างนึงก็คือ เพลาขับของเครื่องยนต์ มันอยู่ในแนวดิ่งไม่ได้ (ผมใช้เครื่องดีเซล ที่มีขายในท้องตลาด ไม่ใช่ผลิตพิเศษนะครับ) เพราะไม่งั้นมีปัญหาเรื่องน้ำมันเครื่อง ในขณะที่เพลาขับปั๊มมันอยู่ในแนวดิ่งนี่สิ และเนื่องจากผมไม่ใช่วิศวกรเครื่องกล (แต่ตอนนี้ ได้น้องที่จบเครื่องกลมาคนนึง) ก็เลยไม่ทราบว่าจะใช้ระบบไหนในการเปลี้ยนทิศทางการหมุนของเพลาจากราบไปสู่แนวดิ่ง ในลักษณะ 1:1 เพื่อลดขนาดใบพัด ซึ่งกำลังคิดอยู่(หลายเดือนแล้ว) ซึ่งหากใช้มอเตอร์ หมูมากๆ แต่มันไม่มีไฟนี่สิ อีกเรื่องนึง ก็กำลังหาว่าที่ไหน รับทำ Perfomant Curve  จะได้เอาปั๊มไปทดสอบ ตอนนี้ผมประมาณการไหลอยู่ที่ 6 ลบ.ม./นาที ซึ่งหากทราบ อัตราการไหล ความสูง ที่รอบต่างๆ ก็จะสามารถกำหนดรอบเครื่องยนต์ที่เหมาะสม ตอนนี้ใช้ Kubota กับ Yanmar ขนาด 11 และ 13 แรงอยู่ ตอนนี้เจอเครื่องเบนซินขนาด 26 แรง ก็อยากเอามาลองใช้ดู จากคุณ : Waterman (LN106) เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 00:24:26

ความคิดเห็นที่ 76 จขกท. น่าลองแก้จาก พวก Fluid Simulationดูนะครับ หรือไม่งั้นก็สร้าง project ไฟล์มาให้ เรามาช่วยกัน แก้ model ดูว่าใครสามารถทำได้ดีกว่ากัน (ทำขำๆครับ) เผื่อจะมีประโยชน์ จากคุณ : ฟหกด เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 01:50:10 A:124.122.250.249 X: TicketID:250855

ความคิดเห็นที่ 77 เรียนคุณ Waterman ผมขออนุญาตเสนอเนวทางสำหรับเปลี่ยนแกนหมุนกรณีใช้เครื่องยนต์ เเบบแรกเอาตามเเบบฝรั่งคือใช้ Right angle gear เพื่อเปลี่ยนเเนวทิศทางการหมุน 90องศา ทีนี้ถ้าวางปั๊มในเเนวดิ่งจะต้องออกเเบบจุดรองรับน้ำหนักของเพลารวมใบพัดรวมแรงปฏิกริยาที่ออกเเรงผลักน้ำขึ้น ลูกปืนตัวบนของปั๊มจะเป็น Angular contact Bearing แบบลูกปืนล้อรถยนต์ไว้รับเเรงในเเนวแกนเพลา และมีตัวกันเพลาหมุนกลับตอนหยุดปั๊มเพื่อป้องกันเพลาคลาย(ในกรณีมีการต่อเพลาด้วยเกลียวซ้าย)ในรูปเป็น Fire fighting pump ครับ จากคุณ : ต้นกลเรือ เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 05:07:11

ความคิดเห็นที่ 78 เเต่ถ้าแปลงจากเฟืองท้ายรถยนต์ อัตราทดมันก็เยอะอย่างน้อยก็ 4:1 ความเร็วใบคงน้อยไปสำหรับปั๊มตัวเล็กอีกทางผมไม่มั่นใจเรื่อง gear ของพวก motor gear เอาชนิดที่ไม่ใช่เฟืองตัวหนอนแต่ก็เเพงพอตัวครับตัวนึงอาจจะซื้อปั๊มได้สองตัว แก้ไขเมื่อ 06 ต.ค. 54 05:21:49 แก้ไขเมื่อ 06 ต.ค. 54 05:18:21 จากคุณ : ต้นกลเรือ เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 05:17:41

ความคิดเห็นที่ 79 ข้างในของ Right angle gear มีท่อระบายความร้อนน้ำมันเกียร์ด้วย จากคุณ : ต้นกลเรือ เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 05:24:53

ความคิดเห็นที่ 80 ฝรั่งก็ยังมีรุ่นใช้สายพานเหมือนกันครับ ไว้ต่อกับท้ายรถเทรคเตอร์ จากคุณ : ต้นกลเรือ เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 05:35:20

ความคิดเห็นที่ 81 ในยูทูปอันเเรกของคุณ  Spirited Away มันเป็นหอยโข่งที่จมน้ำครับ แต่ทั้งสองวีดีโอเเสดงให้เห็นได้ว่าความดันส่วนเกินมันเหลือครับ ถ้าได้เพิ่มขนาดท่อจะได้ปริมาณน้ำมากกว่านี้ ชาวบ้านเค้าจะดูสะใจมากเวลาเห็นน้ำพุ่งมาจากท่อได้ไกลๆ ลำบากเหมือนกันครับที่จะอธิบายให้เค้าเข้าใจว่า น้ำเยอะกับน้ำเเรง ในทางวิศวกรรมเเล้วมันต่างกัน สูบน้ำเพื่อการระบายน้ำเเละการเกษตร สิ่งที่เราต้องการคือ น้ำเยอะ ขออนุญาตใช้รูปคุณลิงน้อยมาลงครับ สำหรับในวีดีโอทั้งสองตัวถ้าเพิ่มขนาดท่อจะได้น้ำเพิ่มขึ้นอีกครับ ตอนนี้ปั๊มทั้งสองตัวเสียพลังงานไปเป็นความดันเเทนที่จะเป็นปริมาณน้ำครับ แก้ไขเมื่อ 06 ต.ค. 54 05:46:50 จากคุณ : ต้นกลเรือ เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 05:45:11

ความคิดเห็นที่ 82 อันนี้อีกรูปครับ น้ำเเรง คือความดันที่สูงครับ ถ้าขยายท่อขึ้นจะได้ปริมาณน้ำมากกว่านี้ ถ้าใครเคยผ่านหน้ามหาวิทยาลัยเกษตรบางเขนด้านริมถนนวิภาวดี จะได้เห็นน้ำที่ไหลออกจากท่อซึ่งมาจาก Propeller pump ที่ขนาดท่อเเละความดันเหมาะสม น้ำออกแค่ปริ่มๆปลายท่อ ปริมาณน้ำเยอะไม่ได้พ่งเเบบในรูปครับ แก้ไขเมื่อ 06 ต.ค. 54 06:23:34 จากคุณ : ต้นกลเรือ เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 06:21:05

ความคิดเห็นที่ 83 มาเที่ยวที่สามแล้วล่ะ ต้องค่อยๆอ่าน เดี๋ยวนี้สมองล้าลงมาก อ่านเรื่องยาวๆต้องค่อยๆอ่านค่อยๆคิดตาม ไม่นานนี้ เพิ่งดูสารคดีเกี่ยวกับระบบน้ำของสิงคโปร์ เค้าทำเขื่อนไว้รักษาน้ำจืด เขื่อนนี้ติดทะเล เค้าก็กลัวว่า ยามฝนตกหนัก น้ำทะเลก็หนุน จะเปิดเขื่อนระบายน้ำไม่ได้ น้ำเค็มจะเข้า จึงต้องสูบน้ำออกจากอ่างเก็บน้ำ ในสารคดี เค้าใช้ปั๊มแบบทำนองปั๊มไหลตามแกนแบบนี้แหละ จำนวนเป็นสิบตัว ใบพัดเค้ามองด้วยสายตา เส้นผ่าศก.ไม่ต่ำกว่า ๖ เมตร สูบน้ำออกได้มหาศาล ระบายน้ำออกได้เร็วมาก จนน้ำไม่ท่วมเมืองแน่ๆ จากคุณ : ต้นโพธิ์ต้นไทร เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 10:02:07

ความคิดเห็นที่ 84 แบบแพช่วยน้ำท่วมเฉพาะกิจของ KIA@weekendhobby.com ที่มา..http://www.weekendhobby.com/offroad/kia/question.asp?page=1&id=14472 ปล. ต้องขออภัยหากไม่เข้ากับเนื้อหาครับ แก้ไขเมื่อ 06 ต.ค. 54 11:11:49 จากคุณ : Sudjarid_sai เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 10:55:22

ความคิดเห็นที่ 85 .. จากคุณ : Sudjarid_sai เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 10:58:48

ความคิดเห็นที่ 86 ท่อพญานาคท้ายท่อหอยโข่ง10-12นิ้ว(เท่าที่เคยเห็นอีกแล้ว มีแต่เคยใช้ไม่เคยวิเคราะห์เลยครับ)กับท่อพญานาคหัวโต แบบที่ท่านต้นกลเรือว่าไว้ ว่าเสียพลังงานไปกับความดัน อันนี้เคยเห็นมาบ้างว่าท่อพญานาคหอยโข่งใหญ่ๆนั้น แรงดันน้ำไม่มีเลยแต่ปริมาณน้ำเยอะมาก ส่วนท่อ90องศา การใช้เครื่องยนต์ต่อชนกับชุดเฟืองท้ายโดยตรงรอบมันจะมากไป เราใช้ชุดเกียร์ส่งกำลังคั่นระหว่างเครื่องยนต์กับท่อได้หรือไม่ หรืออีกแบบให้ทางโรงงานต่อท่อชุดเพลาแบบล้มยอยเอียงลงราวๆ80องศาแล้วใช้พู่เลย์ขับด้วยสายพานเอา อย่างที่บ้านผมตอนแรกจะใช้ท่อตั้งตรง90องศา แต่ไม่มีความรู้เรื่องส่งกำลังมากเท่าไรเลยใช้มอเตอร์ แต่มันให้ปริมาณน้ำคงที่ เลยสั่งท่อใหม่8นิ้วยาว2เมตรนิดๆ ใช้เบนซิล13แรง สูบน้ำเมื่อถึงจุดวิกฤติ(น้ำจะท่วมบ้าน) ก็ช่วยเรื่องการระบายน้ำไปได้เยอะ ตามอ่านแล้วได้ความรู้ใหม่ๆมากเลยค้าบ ขอบพระคุณมากที่นำมาแชร์กัน จากคุณ : ลิงน้อยเอ็นจอยเขียน เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 11:03:30

ความคิดเห็นที่ 87 ผมได้ไอเดียมาอีกอย่างเเล้ว สำหรับ Propeller pump ทำได้ถึงขนาด 1,800 แรงม้า ในฐานะที่ผมเป็นชาวเรือมาก่อน เรือลำเเรกที่ผมเคยอยู่เป็นเรือประเภท รีฟเฟอร์ หรือเรือสินค้าห้องเย็น ทำให้ผมพอรู้เรื่องธุรกิจประมงอยู่บ้าง ทุกวันนี้บริษัทประมงไทย ต้องไปจับปลากันที่อินโดนิเซีย มาร์ดากัสการ์ เยเมน ไปกันที 3 ปีพอเรือประมงครบอายุสัญญาก็กลับมาขึ้นอู่แห้งที่เมืองไทย แล้วก็มีเรือสินค้าขนาดใหญ่ที่ระวางเป็นห้องเย็นอุณหภูมิ-20 องศาเซลเซียส วิ่งไปรับปลากลับมาประเทศไทย เรือประมงที่ไปจับปลาขนาดประมาณ 450-700 ตันเครื่องยนต์ขนาด 1200-1800 แรงม้า ต่อในประเทศไทยใครขับรถไปถนนพระราม 2 ตอนข้ามแม่น้ำท่าจีนลองหันไปดูทางซ้ายจะเจออู่ต่อเรือประมงเหล็กอยู่ครับ ใบจักรขนาดศูนย์กลางเกือบสองเมตรหล่อในประเทศไทยครับ เราสามารถเอาใบจักรเรือมาทำใบพัด Propeller pump ของเราได้เเล้วครับ ดังนั้นทุกชิ้นส่วนของเรายกเว้นมอเตอร์ไฟฟ้าสามารถทำเป็น Propeller pump ได้ถึงขนาดที่มีใบจักรเรือมาใช้ทดเเทน เท่าที่ทราบมาใบสำหรับ เครื่อง Caterpillar model 3516 ขนาด 1800 แรงม้า ราคาตัวที่ทำจากทองเหลืองเกือบล้านบาท แต่สำหรับงานระบายน้ำไม่จำเป็นต้องเป็นทองเหลืองก็ได้ ถ้าซื้อปั๊มฝรั่งตัวขนาดนี้ต้องมีไม่ต่ำกว่า 12 ล้านเเน่ ใครสนใจลองดูใบจักรเเสงชัยก็ได้ครับอันนี้ที่สุดในวงการเเล้ว กรณีถ้าใช้เครื่องยนต์ 1800 แรงม้า ความดัน 3 เมตร จะได้อัตราการไหล 163,800 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง ผมว่า อู่มหิดลของกองทัพเรือลองต่อ Propeller pump ขายเอากำไรเข้าหลวงดีไม๊ครับ แก้ไขเมื่อ 06 ต.ค. 54 15:22:38 จากคุณ : ต้นกลเรือ เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 14:35:26

ความคิดเห็นที่ 88 ทำครอบรับใบจักรให้ป้องกันสวะหน่อย ทำโครงสร้างที่สามารถรับเครื่องยนต์ต้นกำลังให้ได้ คำนวณขนาดให้สามารถรับแรงบิดได้ อ้ออย่าลืมแรงบิดที่เกิดที่โครงสร้างรับเครื่องยนต์ต้นกำลังด้วย เอาสิ่งที่ว่านี้ ไปวางพาดข้ามตลิ่งหลัง ปตร. คลองลัดโพธิ์ ดันน้ำที่ผ่าน ปตร. นี้ อัตราการไหลมันมากกว่า 160,000 ลบ.ม./ชม. แน่ๆ Work กว่า เอาเรือไปเผาน้ำมันเล่น เพราะไม่มีท้องเรือต้านทานการไหลของน้ำ จากคุณ : Waterman (LN106) เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 15:17:15

ความคิดเห็นที่ 89 สุดยอดทั้งพี่ต้นกลเรือ และคุณวอเตอร์แมน อยากเห็นผลงานนักคิดชาวไทย ออกมาทำงานแข่งกะของนำเข้ามากๆครับ เอามาแข่งกันเลย... หรือไม่ก็หาคนเก่งๆที่่มีโรงงาน ทำขายกันไปเลย... ของดีราคาถูกทำในประเทศ คุ้มยิ่งกว่านโยบายรถคันแรกอีก คราวนี้ทำเลย นโยบายเครื่องสูบน้ำตัวแรก.... ัรับรอง...ขายดี... จากคุณ : seto16 เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 15:26:41

ความคิดเห็นที่ 90 #89 เวลาซื้อซองประมูล เจอ TOR อันนี้จบเลยครับ เป็นของผลิตจากประเทศในกลุ่ม EU เเละโรงงานต้องได้รับมาตรฐาน ISO.... ผมถึงคิดว่าหน่วยราชการหากต้องการส่งเสริมธุรกิจคนไทยมันต้องเริ่มจากหน่วยงานราชการก่อนที่ต้องเป็นเเบบอย่างให้กับประชาชนในการซื้อของในประเทศใช้ก่อน ไม่อย่างนั้นธุรกิจของคนไทยจะเกิดขึ้นได้อย่างไร จากคุณ : ต้นกลเรือ เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 16:28:26

ความคิดเห็นที่ 91 เหมือนอะไรน๊อ... ที่บอกว่าต้องเคยประจำการในประเทศผู้ผลิตมาก่อน... แล้วผลิตในไทย แล้วไทยไม่เคยใช้ก็ไม่ต้องกันจิ.. อุ๊ป...นอกเรื่องๆๆ จากคุณ : seto16 เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 16:40:57

ความคิดเห็นที่ 92 หา clip แบบท่อใหญ่ๆ น้ำปริ่มๆ ท่อใน youtube ไม่มีเลยแหะ ส่วนใหญ่เน้นเอาแรง(หลอก)เอาใจชาวบ้าน? จากคุณ : Spirited Away เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 18:02:44

ความคิดเห็นที่ 93 เคยคิดว่าตัวเองมีความรู้ แต่พอใด้อ่านกระทู้นี้เข้าใจคำว่า หางอึ่ง เลยครับ ขอบคุณน้องต้นกลเรือนะครับ ที่แบ่งปันความรู้ดีๆแบบนี้ เอ๊อ!!!! แล้วปั้มน้ำที่เสียเมื่อคืนที่บางเขนนะครับ เป็นปั้มแบบไหนเหรอครับ จากคุณ : หมูอ้วนชวนหิว เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 18:25:15

ความคิดเห็นที่ 94 นำของฝรั่งมาให้ชมกัน ของฝรั่งมีหลายชื่อ ส่วนใหญ่12-24นิ้วเป็นแบบท้ายท่อหอยโข่ง อย่างในภาพเป็น16นิ้ว ใช้กำลังจากเครื่องรถแทร็คเตอร์ ให้น้ำ41000ลิตร/นาที. โดยกำลังเครื่องยนต์70แรงม้า ส่งน้ำสูง3เมตร พอจะเข้าข่ายที่คุณต้นกลเรือว่าไว้เกี่ยวกับปริมาณมากกว่าแรงดันหรือไม่ครับ จากคุณ : ลิงน้อยเอ็นจอยเขียน เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 19:14:51

ความคิดเห็นที่ 95 นี่ก็น้ำแรงด้วย ปริมาณเยอะดีด้วยเช่นกัน ไม่รู้ว่าการออกแบบใบพัดของท่อหอยโข่งไทยกับต่างประเทศต่างกันมากหรือไม่อ่ะครับ จากคุณ : ลิงน้อยเอ็นจอยเขียน เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 19:30:36

ความคิดเห็นที่ 96 คลิปไม่ขึ้น จากคุณ : ลิงน้อยเอ็นจอยเขียน เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 19:31:22

ความคิดเห็นที่ 97 พี่หมูอ้วนชวนหิวก็พูดเกินไปครับ ปั๊มน้ำที่โรงสูบน้ำของบางเขนถ้าจำไม่ผิดที่น่าจะเป็น Propeller โมเดลเดียวกับตัวที่เป็น Vertical turbine มอเตอร์เป็น Hollow Shaft เเต่เปลี่ยนช่วงล่างเป็น propeller น่าจะซื้อจากบริษัทที่คุณ ฟหกด2 เคยทำงานอยู่ แต่ตัวนี้น่าจะเป็นของเเท้จากยุโรปใต้อยู่นะเท่าที่จำได้ซื้อก่อนที่จะมีโปรเเกรมโฟโตช็อบครับ แต่อาจจะมี Submersible อยู่สักตัวด้วยมั้งครับเพราะรู้สึกว่าจะมีการติดเพิ่มเติมช่วงหลังๆเห็น กทม.ไม่่ค่อยซื้อพวกโมเดลเเบบรูปที่ 11 เลย แก้ไขเมื่อ 07 ต.ค. 54 08:05:39 แก้ไขเมื่อ 06 ต.ค. 54 22:28:12 แก้ไขเมื่อ 06 ต.ค. 54 20:57:42 จากคุณ : ต้นกลเรือ เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 20:55:43

ความคิดเห็นที่ 98 ผมขอถามคุณต้นกลเรือนะครับ  ถ้าเราเอาปั้มพญานาค 3แรงสัก 6ตัวไปติดที่ตอม่อสะพาน ปลายดูดอยู่ต้นน้ำ ปลายปล่อยอยู่ปลายน้ำแต่ดัดแปลงให้ปลายปล่อยอยู่ในแนวราบจมอยู่ใต้นำ 1 เมตร จะช่วยเดพิ่มอัตราการไหลพอๆกับใช้เรือไหมครับ จากคุณ : POKAN เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 21:18:50

ความคิดเห็นที่ 99 เรียนคุณ POKAN สำหรับท่อพญานาคกับคลองเล็กๆได้ครับ แต่ถ้าเป็นระดับเเม่น้ำคงไม่มีผล แต่เหตุผลในเรื่องที่ต้องใช้เรือก็เพราะความสะดวกในการทำงานครับ ลองนึกสภาพที่ต้องเอาท่อพญานาคไปติดตั้งตามคอสะพานมันคงลำบากมากๆครับ ในกรณีพวกเเม่น้ำใหญ่ของฝรั่งเค้าจะมีพวกบูสเตอร์ติดถาวรครับหน้าตาประมาณในรูป (แต่ในรูปไม่ใช่นะครับ) ตอนนี้เรือที่อยู่ที่คลองลัดโพธิ์เป็น TUG BOAT กำลัง 1000 เเรงม้า ผมคาดเดาจากกระเเสน้ำที่ออกท้ายเรือคงจะเดินหน้าครึ่งตัว ผมลองคำนวณคร่าวๆคงได้น้ำรวมกันห้าลำสัก 70,000 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง ถ้าจะเอาปั๊มขนาดใหญ่ไปวางคงไม่สะดวกเท่าเรือในตอนนี้ ปัญหาหลักของการใช้มอเตอร์ไฟฟ้าคือเเหล่งจ่ายไฟครับ ยิ่งเป็นมอเตอร์ใหญ่ขนาดเป็นร้อยเป็นพันเเรงม้า หรือเเม้กระทั่งสามแรงม้ากับไฟ 220 v ก็ลำบากในเรื่องการหาเเหล่งจ่าย และกระบวนการสตาร์ทมันครับ ค่าอุปกรณ์เเพงกว่ามอเตอร์อีกครับ ยิ่งสายไฟสำหรับมอเตอร์ใหญ่ๆด้วยนี่หายห่วง ขนาดทองเเดงปอกเสร็จวงษ์พาณิชรับซื้อ กิโลกรัมละ 245 บาทเลยครับ จากคุณ : ต้นกลเรือ เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 22:26:19

ความคิดเห็นที่ 100 คุณลิงจุ่นครับในวีดีโอ ตัวที่น้ำเเรงๆผมเข้าใจว่ายังเป็นพญานาคหอยโข่งครับ 41,000 ลิตร/นาีที = 2,460 ลบม./ชั่วโมง ความดัน 3 เมตร ถ้าประสิทธิภาพ 100% ใช้กำลัง 2460 x3/273 = 27 เเรงม้า เครื่องยนต์เเทรคเตอร์ 70 เเรงม้า คงไม่ได้เดินเต็มที่ครับ จริงๆเเล้วปั๊ม Propeller มันใช้กำลังต่ำมากๆอยู่เเล้วครับ แต่ว่าเรายังเข้าใจผิดเรื่องน้ำเเรง กับน้ำเยอะผิดกันอยู่ จริงเเล้วท่อ 12 นิ้วเราเอาเครื่องเเทรคเตอร์เก่าสามสูบสัก 45 แรงม้ามาใส่ก็พอครับ เท่าที่เห็นส่วนใหญ่จะเอาเครื่องรถกระบะมาใส่น้ำพุ่งกระจาย ถ้าเอาเครื่องรถกระบะอีซูซุมังกรทองผมว่าน่าจะทำไ้ด้ถึง 4,000 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง ส่วนคำถามเรื่องปั๊มหอยโข่งของไทยกับของฝรั่งต่างกันอย่างไร ผมขอเเยกออกเป็นสองประเภท พวกเเรกคือพวกปั๊มที่ก็อบปี้ฝรั่งมาเเล้วขายในเชิงอุตสาหกรรมเช่นพวก TAKI เค้าก็มีความรู้ครับผมก็เคยใช้ของเค้าหลายครั้งก็ทำงานได้ตามCurve เหมือนกันแต่วัสดุยังเป็นโพรงภายในอยู่ ส่วนอีกพวกคืองานเกษตรที่ทำท่อพญานาคยังมีหลายเจ้าเข้าใจผิดเรื่องใบอยู่หลายอย่าง อย่างเเรกเรื่องความโค้งของใบ บางเจ้าตัดเเผ่นเหล็กเป็นเเผ่นตรง บางเจ้าดัดโค้งแต่ทิศทางการหมุนของใบเอาด้านโค้งเข้าหาทิศทางการหมุนเพราะคิดว่าปั๊มต้องวักน้ำ ความจริงเเล้วปั๊มหอยโข่งเหวี่ยงน้ำออกจากตัวเองครับ ถ้าดูข้อมูลเรื่องสัมประสิทธิ์เเรงเสียดทาน(CD)ใน #68 ค่า CD ของการเอาแผ่นเเบนเคลื่อนที่ผ่านของเหลวมีค่า 2 ถ้าเอาด้านโค้งในวิ่งเข้าหาน้ำมีค่า 2.3 ถ้าเอาด้านโค้งนอกวิ่งเข้าหาน้ำมีค่า 1.2 เห็นไม๊ครับว่าถ้าวางเเนวใบถูกเราไม่ต้องเสียเเรงต้านกันขนาดไหน ผมเคยวัดประสิทธิภาพของพญานาคเเผ่นเเบนได้ประสิทธิภาพเเค่ 40% เองครับ อีกเรื่องคือความห่างของใบพัดกับโครงปั๊ม ยิ่งห่างยิ่งทำให้ประสิทธิภาพลด ผมเข้าใจสภาพบางคนทำห่างเพราะงานเกษตรบางงานมันมีขยะกิ่งไม่ตามเข้าไปเเล้วติดใบพัด อันนี้ไม่ว่ากันครับ แต่บางคนก็เกินไปนิดห่างเป็นนิ้วๆ อย่างน้อยไม่ควรห่างเกินรูตะแกรง พูดถีงรูตะเเกรง น่าจะใช้เเบบรูกลม ส่วนใหญ่จะเป็นรูยาวทำให้เศษผงเข้าได้ใหญ่กว่า แล้วก็ต้องเเก้ปัญหาด้วยการเอามุ้งเขียวไปพันรอบทางดูดอีก จากคุณ : ต้นกลเรือ เขียนเมื่อ : 6 ต.ค. 54 23:22:44