ความคิดเห็นที่ 1 พืชสวน ไร่นา ท่วมไปน้ำแห้งก็ปลูกใหม่ไถหว่านได้ แต่ระบบเศรษฐกิจและการพานิชย์มันล่มไปไม่ใช่คนกรุงเทพที่เดือดร้อนมันส่งผลต่อคนทั้งประเทศ จากคุณ : -sam- เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 54 17:45:06

ความคิดเห็นที่ 2 ผมว่าคราวนี้น้ำมาหนักมาก ให้พื้นที่เกษตรรับน้ำก่อนแล้วให้พื้นที่เศรษกิจ เตรียมพร้อมพอเตรียมเสร็จก็ปล่อยน้ำเข้าเสียหายบ้างแต่คงไม่มาก เกินไป ดีก่าให้พื้นที่อื่นจมอย่างสิ้นหวังเลยครับ เรื่องแบบนี้ต้องช่วยๆกันอย่าห่่วงเิงนมากกว่าน้ำใจเลยครับแค่ไฟดับก็ ตกใจกันมากแล้ว จากคุณ : เวย์คุง เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 54 17:52:10

ความคิดเห็นที่ 3 ผมว่าเขาถกเถียงกันเรื่องสุพรรณปิดประตูน้ำเกินความจำเป็นใหม กับเรื่องปิดทางน้ำเพื่อไม่เข้ากทมส่งผลกับปริมาณน้ำจังหวัดอื่นจริงหรือไม่ มากกว่านะครับ ส่วนเรื่องสมควรป้องกันจุดเศรษฐกิจใหมนี้ผมว่าคนส่วนมากยอมรับสภาพนะครับ จากคุณ : motenincho เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 54 18:02:40

ความคิดเห็นที่ 5 ดูข่าวเมื่อกี้ เห็นบอกว่า นครสวรรค์ เสี่ยงเข้าขั้นวิกฤตแล้วนี่ครับ อาหมอ เห็นว่าสะพานเดชา จะพังด้วย จากคุณ : Mr.Kito เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 54 18:21:34

ความคิดเห็นที่ 6 ^ ประเด็นนี้คนต่างจังหวัดเริ่มพูดกันเยอะขึ้นแล้วครับว่าชาวนาเป็นกระดูกสันหลังของชาติไทยเจริญ จริงรึเปล่า เรื่องสุพรรณถ้าผมเป็นพ่อเมืองอาจจะตัดสินใจแบบนั้นก็ได้ขอไม่วิจารณ์ดีกว่า แก้ไขเมื่อ 07 ต.ค. 54 18:25:03 จากคุณ : เวย์คุง เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 54 18:22:17

ความคิดเห็นที่ 7 นครสวรรค์ตัวเมืองด้านวัดไทรย์ ซึ่งเป็นหมู่บ้านพักอาศัย รวมทั้งบ้านผมที่อยู่ใน NSC น้ำเข้าท่วมเรียบร้อยหลังจากพนังกั้นน้ำจากแม่น้ำปิงพังลง จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 54 18:35:53

ความคิดเห็นที่ 8 ถ้าไม่มองถึงมูลค่าความเสียหายทางเศรษฐกิจ แต่มองในแง่ของการบรรเทาน้ำท่วมในพื้นที่เกษตร คงจะลืมกันไปว่าเขตเศรษฐกิจไม่ได้มีพื้นที่มากมายอะไรนักเมื่อเทียบกับพื้นที่ทำการเกษตร อาจจะไม่ถึง 5 เปอร์เซ็นต์ด้วยซ้ำไป การไปมองว่าหากยอมให้น้ำเข้าไปท่วมในเขตเศรษฐกิจจะช่วยทำให้ระดับน้ำในพื้นที่เกษตรลดลงได้ เป็นการมองด้วยเหตุผลที่ผิดอย่างเต็มที่ มันไม่ได้ช่วยอะไรเลย แต่จะเป็นการซ้ำเติมความเสียหายให้มากขึ้นไปอีก การเกิดภาวะน้ำท่วมก็เพราะมีปริมาณน้ำที่ไหลเข้าพื้นที่มากกว่าน้ำที่ไหลออกจากพื้นที่ได้ (Qin > Qout then Qin - Qout = Floodwater) in any time ในเขตเศรษฐกิจมีองค์กรมากมายตั้งอยู่ ซึ่งเกษตรกรจะต้องพึ่งพิงและพึ่งพา เช่น ส่วนราชการต่างๆ ธนาคาร โรงพยาบาล ตัวแทนการค้าต่างๆ ฯลฯ ยกตัวอย่าง เช่น หากโรงพยาบาลต้องถูกน้ำท่วม อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ช่วยชีวิตคนไข้ได้รับความเสียหาย บุคคลากรทางการแพทย์ไม่สามารถพักอาศัยอยู่ในโรงพยาบาลได้ต้องอพยพหนีน้ำไปอยู่ที่อื่น อะไรจะเกิดขึ้นเมื่อมีผู้ป่วยจำนวนมากต้องเข้ารับการรักษาระหว่างที่น้ำท่วมและหลังจากน้ำลดลงแล้ว เป็นต้น อย่าให้เสียชื่อสมาชิกห้องหว้ากอที่เป็นผู้มีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์มากกว่าห้องอื่นๆ ต้องวิเคราะห์ให้เป็น อย่าใช้แต่อารมณ์และความรู้สึกมาอยู่เหนือเหตุผลและความเป็นจริง จากคุณ : ลุงแก่ เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 54 18:39:23

ความคิดเห็นที่ 9 คห.4 เรื่องจริงนี่ครับ ที่มันยุ่งเพราะสังคมเรามันรับความจริงไม่ได้ ยิ่งปลูกยิ่งจน ต้นทุนแพง ผลผลิตน้อย แต่ที่ส่งออกเยอะเพราะเน้น ปลูกเอาถึกเข้าว่า รัฐต้องมาอุ้ม ให้เอกชนที่เชี่ยวชาญธุรกิจการเกษตร มาทำดีกว่า จากคุณ : เพื่อน เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 54 18:40:37 A:101.108.102.181 X: TicketID:315997

ความคิดเห็นที่ 10 ถึงเวลาชดเชยจริงๆ ชาวนาเขาไม่ได้เต็มอย่างที่ประกาศสิครับ แถมถ้าไปเก็บพิเศษจากเขตเศรฐกิจ มันก็เป็นแค่อุดมคติไม่มีใครยอมหรอก อย่างมากก็บริจาคเป็นครั้งคราวไป พวกที่ท่วมเขาก็คงคิดว่ามันไม่เสมอภาคกัน ต่อให้พวกทำธุรกิจร่ำรวย ก็ไม่ได้มาแบ่งอะไรพวกเขาซะหน่อย มันเป็นแค่ภาพรวม แต่สุดท้ายก็รวยกระจุก จนกระจายแถมต้องรับน้ำแทนอีก จากคุณ : psybuster เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 54 19:06:23

ความคิดเห็นที่ 11 หากวันกันด้วยตัวเลขก็คงเป็นอย่างที่ Jfk คำนวนไว้ครับ หากมองการเสียหายที่เกิดจากน้ำท่วมแต่ละครั้ง เป็นครั้งๆไป ก็จะพบว่าการปกป้องเขตเมืองและอุตหาสกรรมต้องมาก่อน แต่ถ้าเรามองภาพรวมของประเทศ การทำอย่างนั้นทำให้เกิดความรู้สึกถึงความเหลื่อมล้ำกันชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ หลายๆครั้งๆหลายๆปีผ่านไป รอยร้าวในสังคมยิ่งชัดเจนขึ้น และความเสียหายก็ไม่อาจประเมิณค่าได้ ในความคิดผมหากเรามองภาพรวมในช่วงหนึ่งอายุคนที่ผ่านมา เราจะพบว่าความรู้สึกแตกแยกและไม่พอใจกันเองมันมากขึ้นเรื่อยๆ ความเสียหายนั้นคุ้มหรือไม่ใครจะตอบได้ จากคุณ : มองต้นไม้ไม่เห็นป่า (Wrpstrk) เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 54 19:18:07

ความคิดเห็นที่ 12 เรื่องตลกของน้ำท่วมอุตสาหกรรมอยุธยาคือ ค่าเสียหาย ประมาณ 200,000 ล้าน (ตามที่เขาว่า .. เอาห้าหาร ก็เหลือ 40,000 ล้าน) เพราะมันเสียหายทั้งเครื่องจักร โรงงาน การผลิตสินค้า ฯลฯ แต่ งบป้องกันน้ำท่วมแถบอุตสาหกรรม .. ถ้าจะลงทุน ก็จะแถวๆ 3-500 ล้าน ตีซะว่า 1,000 ล้านก็ได้ เพราะทำแบบฉุกเฉินเร่งด่วน ไม่ยอมจ่าย ไม่ยอมทำ ไม่ยอมลงทุน ยอมให้เกิดความเสียหายหมื่นล้านดีกว่า .. เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย จากคุณ : แมวเหมียวพุงป่อง เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 54 19:19:43

ความคิดเห็นที่ 13 ลองคิดแบบเศรศษฐศาสตร์ดูสิครับ น้ำท่วมโรงงาน บริษัท   เจ๊ง ปลดคน พร้อมๆกันเป็นหมื่นคน แล้วคนหมื่นคนที่ไม่มีงานจะไปทำอะไร ในเมื่อพื้นที่เกษตรก็ถูกน้ำท่วม อัตราวางงานเพิ่มสูงขึ้น แล้วลองนึกดูว่าพนักงาน บริษัท เค้าเป็นใครถ้าไม่ใช่ลูกหลานชาวนา ไหนจะ พวกบัตรผ่อนต่างๆที่พวกเขาไปผ่อนไว้ ค่ามือถือ ค่างวดรถ ค่าผ่อนบ้าน พวกเค้าจะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายถ้าโรงงานปิดตัวไป แล้วแน่นอนปัญหาอาชญกรรมอีกเพียบ จากคุณ : Night Claw เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 54 19:33:10

ความคิดเห็นที่ 14 การจำกัดพื้นที่ที่ได้รับความเสียเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ ตรงไหนหลบไม่ได้เลี่ยงไม่พ้นก็ต้องยอมแล้วล่ะ แล้วไปป้องกัีนพื้นที่ที่เหลืออยู่ให้ดีที่สุด ให้คนที่เดือดร้อนลี้ภัยไปยังพื้นที่ที่ปลอดภัยอยู่สบาย พื้นที่ที่เป็นแหล่งเศรษฐกิจถ้ายังปลอดภัย การสร้างงานมันยังดำเนินต่อไปได้ พื้นที่เกษตรที่เสียหาย พอพ้นไป ยังสามารถพลิกฟื้นผืนดินได้ แถมทำให้ดินอุดมสมบูรณ์ขึ้นด้วย แต่ถ้าพวกโรงงานเครื่องจักรเสียหาย บริษัทห้างร้านปิดตัว ค่าเสียหายฟื้นฟูซ่อมแซมประเมินแล้วเป็นลมดีกว่า แต่ตอนนี้กลายเป็นว่า ชาวบ้านคิดว่า การหาพื้นที่ระบายน้ำยังไงก็ได้ ให้มันออกไปจากที่ตนให้มากที่สุด ซึ่งก็เกิดกรณีแอบพังคันกั้นน้ำ จนในที่สุดก็เละเทะกันทั่วถ้วน ยอดผู้เดือดร้อนก็ยิ่งแผ่กระจาย - - น้ำลด 5 เซน แต่พื้นที่เดือดร้อนเพิ่มขึ้นทวีคูณ - - เยี่ยมมากประชาชนไทย พอมีคนพยายามอธิบายจุดนี้ก็กลายเป็น คนนั้นเห็นแก่ตัวไปแทน - - จากคุณ : พี่น้องที่เคารพ เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 54 19:54:44

ความคิดเห็นที่ 15 คุณหมอครับ  ผมว่าเรื่องหลายๆเรื่อง พี่น้อง ตจว  เค้าเข้าใจดีครับ  เค้าหวังด้านความช่วยเหลือ กำลังใจ เงินชดเชย ไม่ได้หวังจะให้ กทม มาท่วมด้วยอีกเมือง ไอ้ที่เข้าใจย้ากยากกกกกก  ก็พี่น้องหน้าคีย์บอร์ด นี่ละครับ จากคุณ : ARMS STRONG เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 54 20:13:18

ความคิดเห็นที่ 16 เจอมา หลายกระทู้ละทนไม่ไหวละ รู้สึกว่าคพวกคนเมืองจะคิดเห็นแก่ตัวเกินไป  เพราะคุณไม่ได้ประสบกับเหตุการณ์อันเลว ร้ายแบบคนที่อยู่พื้นที่เกษตร "พืชสวน ไร่นา ท่วมไปน้ำแห้งก็ปลูกใหม่ไถหว่านได้"  ตัวผมเองลงทุนลงแรง ไถนา ฉีดยาฆ่าหญ้า แบกปุ๋ยหว่านปุ๋ย ทุกหยาดเหงื่อแรงงานที่ผมได้ทำไป ตากแดดร้อนแสนจะร้อน เหนื่อยแสนจะเหนื่อย ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้ ไม่ทำแล้วใครจะมาทำให้เรา ถ้าสิ่งที่คุณทำไปแบบผมทั้งหมดมันพังทลายเสียหาย แล้วมีใครคนนึงมาบอกมา เอาน่าช่างมัน เสียสละเพื่อคนอื่น เสียสละส่วนเล็กเพื่อส่วนใหญ่ เมื่อไหร่ที่ท่านๆทั้งหลายเป็นส่วนเล็กที่ต้องเสียสละ เมื่อนั้นแหล่ะจะรู้สึก  ไม่เคยได้คิดซิว่า แล้วจะเอาเงินมาจากที่ไหนเป็นต้นทุนในการปลูกใหม่ไถหว่านได้ อย่าคิดว่าคนที่เป็นเกษตรเขาจะมีกินมีใช้อย่างคนเมือง เงินที่ได้จากการชดเชยค่าเสียหาย ท่านๆคนเมืองทั้งหลายรู้หรือไม่ว่ามันมีอะไรบ้าง ช่วงที่ผ่านมาหลายปีก่อน บ้านผมที่นาน้ำท่วมเสียหายกลับได้แค่ของยังชีพที่ใช้กินได้ไม่เกิน 2 วันก็หมด และก็เงิน 20 บาทได้เท่านี้จริงๆ (ผมทำนา 10 ไร่ อยู่นครสวรรค์)  และหลังจากนั้นเงินชดเชยกว่าจะได้ก็ต้องร้องเพลงรอไปพลางๆ และเงินที่ชดเชยกว่าจะมาถึงเรามันลดน้อยถอยลงมาตามลำดับ มันมีความเป็นธรรมอยู่ไหมในประเทศไทย ส่วนปีนี้ยังใจคอไม่ค่อยจะดีกลัวน้ำจะท่วมอีก ถ้าพวกคนเมืองอยู่ในสถานการณ์อย่างผมแล้วจะรู้สึกว่ามันเป็นอย่างไร พูดไปก็คงไม่รู้สึกเพราะไม่ได้เจอเองจริงๆ จากคุณ : PlaTonicp (PlaTonicP) เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 54 20:20:22

ความคิดเห็นที่ 17 ^ ^ ^ เราเคยอ่านความเห็น เขียนลักษณะว่า ของแบบนั้นไม่อยากได้ อยากให้น้ำลดมากกว่า   แล้วมันก็วกกลับมาว่า พวกเขาต้องจมบาดาลเพราะรับน้ำแทน ต่างๆนานา ตอนนี้ชาวบ้าน คิดว่า เพราะปกป้องไอ้พื้นที่ ที่เรียกว่า เขตเศรษฐกิจนี่แหล่ะ ทำให้คนลำบากสาหัส  กั้นน้ำไม่ให้ไหลไป น้ำจึงไม่ลด   ขนาดคนในจังหวัดเดียวกันแท้ๆ ยังไม่ช่วยเหลือกัน นับประสาอะไรกับคนที่อยู่คนละจังหวัด เขามองว่า ทำไมเขาต้องมาลำบากแทนด้วย เห็นใจต่อความเดือดร้อนจริงๆนะคะ แต่เอาเข้าจริงๆ เราก็ต้องมองภาพรวมความเสียหายของประเทศอยู่ดีค่ะ ** คุณอย่าลืมนะคะ และอย่ามองที่ตนเองคนเดียว ว่า คนเมืองที่พวกคุณบอกว่า เห็นแก่ตัวน่ะ มีจำนวนเป็นล้านๆที่ บ้านก็ทำเกษตรแบบคุณ พวกเขาเข้ามาหาอาชีพในเมืองเพื่อหาทางเพิ่มรายได้ในครอบครัว ถ้าบ้านก็ทำเกษตรไม่ได้ สมาชิกข้างนอกบ้านยังตกงานอีก  บ้านนั้นจะใช้จ่ายยังไง จะมีใครช่วยเหลืออีกต้องแบมือรอรัฐอย่างเดียว ซึ่งในเมื่อความเสียหายมันบานปลาย การจะช่วยคนพร้อมๆกันได้ทั่วมันเป้นไปได้ยากมาก แก้ไขเมื่อ 07 ต.ค. 54 20:35:50 จากคุณ : พี่น้องที่เคารพ เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 54 20:20:34

ความคิดเห็นที่ 18 ผมไม่ได้มองถึงเรื่องการเหลื่อล้ำ เราต้องเอาข้อเท็จจริงมาพูด เวลาหน่วยงานรัฐจะตัดสินใจเรื่องอะไร เขาต้องมองถึงประโยชน์สาธารณะก่อนอันดับแรก เห็นด้วยว่าต้องป้องกันพื้นที่ที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจก่อน เราต้องประเมิณความเสียหายออกมาเป็นเม็ดเงินของประเทศที่ต้องเสียหายไปน่ะ จากคุณ : okaunkung เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 54 20:37:05

ความคิดเห็นที่ 19 อยากให้ช่วงหน้าแล้งต้นปีหน้า คุยกันเรื่องการระบายน้ำท่วมเตรียมไว้ คุยตอนนี้ลำบาก ถ้าคิดว่าเขตอุตสำคัญจริงๆต้องทำให้ชาวบ้านเข้าใจชัดๆ ถ้ามันคุ้มกว่าคนที่คุมกระเป๋าตังค์รู้ดีต้องจ่ายเงินชาวบ้านที่น้ำท่วมให้เต็มที่ ที่ช่วยลดความสูญเสียหลายแสนล้าน นึกถึงอกเขาอกเราถ้าคราวนี้จ่ายชาวบ้านไม่เต็มที่ คราวหน้าใครจะอยากท่วม ชาวบ้านเค้าไม่ได้ผิด แต่เค้าไม่เห็นเป็นรูปธรรม จากคุณ : @VVIEWW เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 54 20:43:41 A:58.64.64.226 X: TicketID:173601

ความคิดเห็นที่ 20 ปัญหามันอยู่แค่ที่เงินชดเชยเท่านั้นละผมว่า ต่อให้ช่วยคนได้ทั้งโอลกแต่ไม่มีอะไรตอบแทนกลับมาเลย แถมงวดหน้าก็ต้องเจองี้อยู่ร่ำไป เป็นใครก็ไม่อยากทำหรอก ตรงข้าม หากได้เงินชดเชยที่คุ้มค่า สมมติว่าห้าเท่าของมูบค่าความเสียหาย คนส่วนใหญ่ก็จะยินดีเป็นผู้แบกรับภัยพิบัตินี้อย่างเต็มใจ ต่อให้ทำไปเพื่อปกป้องคนเพียงคนเดียวก็ตาม จากคุณ : ผมไม่ใช่คนดี แต่เป็นคนธรรมดา เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 54 21:25:47

ความคิดเห็นที่ 21 เอาเป็นว่าเจอกันคนละครึ่งทาง อุตสาหกรรมขนาดใหญ่รวมถึงธุรกิจในกทม.ทั้งหมดที่ควรถูกท่วมแต่รอด เพราะเกษตรกรแบกน้ำให้ ต้องบริจาคผลกำไรในรอบปีให้ครึ่งหนึ่งให้แก่พื้นที่รอบด้านที่ประสบภัย ขอเสนอจริยธรรมง่าย ๆ ครับ กล้าได้ต้องกล้าเสียด้วย จากคุณ : ยอมมั้ยคนกรุง เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 54 21:53:53 A:101.109.4.70 X: TicketID:262212

ความคิดเห็นที่ 22 เออ... ตรรกะแบบ นาฉันท่วม กรุงต้องท่วม มีคนคิดเยอะแฮะ.... จากคุณ : สันป่าตอง เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 54 22:03:25

ความคิดเห็นที่ 23 สิ่งที่ทำให้เหตุการขัดแย้งของเกษตรกรพี่น้องชาวไทย ทุเลาได้คือเรื่องการฟื้นฟูพี่น้องเกษตรกรไทยอย่างจริงจังแล้วล่ะครับ ผมว่าพี่น้องตจว.เข้าใจนะครับ ว่าต้องเสียพื้นที่ตัวเองเพื่อรับน้ำ แต่ผมก็อยากให้รัฐช่วยจ่ายเงินตรงนี้แบบยุติธรรม ให้กับพี่น้องเกษตรกรไทย ปัญหาน่าจะทุเลาได้ จากคุณ : grampus01 เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 54 22:05:13

ความคิดเห็นที่ 24 ทำไมไม่เลิกทำนาครับ ถามจริงๆ ถ้าการเป็นเกษตรกรมันเลวร้ายมาก มันไม่ยุติธรรม มันถูกเอารัดเอาเปรียบ ทำแล้วมันจน ไม่รวย อยู่บ้านนอกเจอน้ำท่วมทุกปี คนเมืองเห็นแก่ตัวไม่ยอมรับน้ำ ฯลฯ ทำไมไม่เลิกทำครับ จากคุณ : rp เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 54 22:05:24 A:110.171.8.110 X: TicketID:327691

ความคิดเห็นที่ 25 จะเห็นว่าปัญหาใหญ่อันนึงจริงๆ คือการที่ทางรัฐบาล หลายๆชุดที่ผ่านมา มีการเยียวยาให้กับเกษตรกร ผู้เสียสละอย่างไม่จริงจัง และ ไม่เป็นธรรม ทำให้เกิดความไม่พอใจ และ ไม่ไว้ใจกันตลอดมา อยากให้บทเรียนความขัดแย้งคราวนี้ ทำให้รัฐและผู้รับผิดชอบมองเห็นปัญหา และ ดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจังเพื่อป้องกันปัญหาที่จะเกิดไปในภายหน้า จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 54 22:16:34

ความคิดเห็นที่ 26 กระจกหกด้าน...มองด้านใหนก็ถูก เหรียญมีสองด้าน... นานาจิตตัง....เป็นสังคมของประชาธิปไตย จากคุณ : jojo said>> เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 54 22:57:38

ความคิดเห็นที่ 27 ปัญหาจริงๆ ความเป็นธรรมค่ะ ค่าชดเชยที่ชาวนาได้รับจากความเสียหาย บอกตรงๆว่ามันเหมือนเศษเงิน ถ้าประเทศไทยไม่รีบสร้างความเท่าเทียมและความยุติธรรมให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม และแสดงให้เห็นว่า ประชาชนทุกคนมีค่าเท่ากันแล้วล่ะก็ ความแตกแยกก็ยิ่งจะมากขึ้นเรื่อยๆ คิดบ้างไหมคะว่าทำไมวาทะกรรม คนตจวกับคนกรุง ถึงเริ่มมีคนพูดถึงมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะถ้ามันถูกสร้างขึ้นมาลอยๆ ไม่มีความจริงรองรับ คนเค้าก้ไม่รู้สึกกันหรอกคะ ที่คนเริ่มพูดกันเรื่อยๆ ก็เพราะว่าคิดไปคิดมา เออ มันจริงว่ะ จากคุณ : นางมารร้ายใส่Lacroix เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 54 22:59:54

ความคิดเห็นที่ 28 #24 คุณพูดในสิ่งที่ผมคิดไปหมดแล้วครับ เป็นเกษตรกรแล้วจน ทำไมไม่ผันตัวไปเป็นแรงงานภาคอุตสาหกรรมแทน แรงงานไทยในภาคการเกษตรเมื่อเทียบกับผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นทางเศรษฐกิจ พบว่ามีความคุ้มค่าต่ำกว่าเยอะ แต่ก็ยังจะฝืนทำกันต่อไป แล้วก็ออกมาบ่นว่าเป็นเกษตรกรแล้วจน เป็นแล้วเจ็บ ถามว่ามีใครขอให้คุณโง่จนเจ็บต่อไปเรื่อยๆล่ะครับ? จากคุณ : sleeper_j เขียนเมื่อ : วันเกิด PANTIP.COM 54 23:05:32

ความคิดเห็นที่ 29 #24 #28 เค้าก็ทำเพื่อให้คุณมีข้าว มีขนมปัง กินยังอยู่ไม่ใช่หรอคะ เห็นด้วยกับ จขกท. นะคะ แต่พอเห็นคนอื่นพูดกับเกษตรกรแบบนี้ก็ไม่ไหวเหมือนกัน ถ้ามีคนคิดแบบ 24  28 มีหวังข้าวคงเป็นถุงละ 300 แน่ๆ จากคุณ : ผ้าพันคอสีเขียว เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 54 00:44:42

ความคิดเห็นที่ 30 ดูนะคะ เพื่อจะได้มองอะไรๆให้มันดีขึ้น จากคุณ : นางมารร้ายใส่Lacroix เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 54 00:59:43

ความคิดเห็นที่ 31 เข้าใจว่า คห. 24 และ 28 คงเป็นตัวแทนของไพบูลร์ สินะคะ จากคุณ : นางมารร้ายใส่Lacroix เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 54 01:01:42

ความคิดเห็นที่ 32 คงต้องปฎิวัติการเกษตร หลังการปฎิวัติ อุตสาหกรรมแล้วล่ะครับ การเกษตรขนาดเล็ก อยู่ได้แบบปลอมๆ แล้วรัฐช่วยอุ้มราคาให้ไปวันๆ นานเข้าคนจะเข้าใจว่าเป็นงานที่ต้องเห็นความสำคัญ หรือนำไปใช้ประโยชน์แบบผิดๆ คงต้องปฎิรูปที่ดิน ใช้การจัดการรูปแบบ บริษัทขนาดใหญ่ หรือบริษัทข้ามชาติ ที่มีการจัดการที่ดี มีประสิทธิภาพในการเพาะปลูก และบริหารความเสี่ยงได้ด้วยตัวเอง เป็นผู้ทำการเกษตรตัวจริง เหมือนที่โลกกำลังปรับตัวอยู่ทุกวันนี้ ชาติอาหรับ หรือจีน เริ่มไปเช่าพื้นที่ในชาติด้อยพัฒนาเป็นล้านๆไร่ เพื่อทำการเกษตรขนาดใหญ่ ถ้าเรายังอยู่กับการเกษตรแบบเดิมๆ มีแต่เร่งตัวเองไปสู่ความล้มเหลวทางการเกษตร คนทำไม่ได้สนใจ หรืออาจสนใจ แต่ไม่สามารถอยู่รอดได้จริง ในตลาดการเกษตร แต่มุ่งประโยชน์ไปที่ใช้ชื่อความเป็นเกษตร ไปหาประโยชน์ในด้านอื่นแทน เช่นค่าเช่านาสำหรับน้ำท่วม หรือเอาข้าวชาติอื่นซึ่งเค้าผลิตได้ในราคาที่ถูกกว่า มาขายในราคาแพง โดยอ้างความเป็นเกษตรกรของตน ซึ่งไม่มีชาติไหนในโลกทำกัน จากคุณ : ตามนั้น เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 54 01:04:02 A:110.168.140.99 X: TicketID:052378

ความคิดเห็นที่ 33 วีดีโอ ในความเห็นที่ 30 ใช้ข้อมูลผิดหลายที่ครับ เริ่มตั้งแต่การอุดหนุดด้านการศึกษาเลยครับ จากคุณ : วิศวกร ความรู้น้อย เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 54 01:12:45 A:182.160.112.98 X: TicketID:191297

ความคิดเห็นที่ 34 http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X11163232/X11163232.html จากคุณ : วิศวกร ความรู้น้อย เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 54 01:14:33 A:182.160.112.98 X: TicketID:191297

ความคิดเห็นที่ 35 กระทู้นี้ก็โชว์ตัวเลขมาคร่าวๆแต่เห็นได้ชัดแล้ว ประเทศไทย ไม่มีกฏหมายห้าม แบบหลายชาติซะหน่อย คนเกิดที่ไหนจะย้ายบ้านย้ายที่ทำงานไปไหนง่ายมาก แต่ทำไมไม่ทำล่ะ การโอนย้ายแรงงาน ในแต่ละภาค ต้องเป็นไปตามกลไก ดีมานด์ ซัพพลายด์ เหมาะสมอยู่แล้ว ตอนนี้จีดีพีภาคการเกษตร ไม่ถึงสิบเปอร์เซน แต่เล่นมีประชากรห้าสิบเปอร์เซนทำ จะไม่ให้จนได้ยังไง ไหนบางคนชอบบอกว่าคน เมือง ใจดำ แต่ตัวเองไม่ใจดำเรอะ เล่นมุข ว่า นาข้าไม่รอด เมืงเอ็งก็ต้องจมด้วย เนี่ย ทั้งที่การท่วมเมือง ผลเสียหายโโยรวมจะหนักกว่าเดิมอีกอื้อ ชอบหาว่า โดนดูถูกว่าโง่ ก็ถ้าไม่อยากโดนดูถูกว่าโง่ก็ช่วยหาข้อมูลใส่หัวแล้ววิเคราะห์หน่อย อะไรก็ชัดเจนแล้ว ยังจะบ่นเอาแต่ได้ข้างเดียวแบบไม่สนใจข้อมูลอีก จากคุณ : ขอเอาชื่ออากงเป็นเดิมพัน เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 54 06:19:00

ความคิดเห็นที่ 36 รบกวน จขกท. ช่วยหาเหตุผลด้านจริยธรรม มโนธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพ ให้ด้วย จากคุณ : 4d56t เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 54 08:58:08 A:124.120.119.169 X: TicketID:123179

ความคิดเห็นที่ 37 #29 "เค้าก็ทำเพื่อให้คุณมีข้าว มีขนมปัง กินยังอยู่ไม่ใช่หรอคะ" ขอโทษครับ คนในประเทศ สิงคโปร์ ญี่ปุ่น ซาอุดิอาระเบีย นอร์เวย์ ฯลฯ เขากำลังอดอยากหิวโซ ไม่มีข้าวหรือขนมปังกินกันเหรอครับ? เพราะประเทศเหล่านั้นไม่สามารถผลิตอาหารเองได้เพียงพอแก่ประชาชนของเขา ส่วนประเทศไทยที่มีเกษตรกรเป็นจำนวนมาก มีชาวนาเป็นกระดูกสันหลัง คนทุกคนอิ่มหมีพีมัน มีคุณภาพชีวิตสุดยอด หรือเปล่าครับ? จากคุณ : rp เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 54 10:16:59 A:203.131.208.11 X: TicketID:327691

ความคิดเห็นที่ 38 > ถ้าประเทศไทยไม่รีบสร้างความเท่าเทียมและความยุติธรรมให้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม > และแสดงให้เห็นว่า ประชาชนทุกคนมีค่าเท่ากันแล้วล่ะก็ ในประวัติศาสตร์ของมวลมนุษย์ชาติ ตั้งแต่สมัยอาดัมกับอีฟ มีสังคมไหนที่สามารถทำสิ่งที่คุณบอกได้สำเร็จครับ? จากคุณ : rp เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 54 10:45:53 A:203.131.208.11 X: TicketID:327691

ความคิดเห็นที่ 39 จริงๆ เรื่องสังคมไทยเรา คนทำเกษตร และ คนทำภาคอุตสาหกรรม และการบริการ มัน มีอยู่มากมาย หลายอย่าง หลายคนทำเพราะว่าใจรัก แต่หลายคนทำเพราะว่า เค้าไม่มีทางเลือก ที่ดีกว่านั้น ชาวนาหรือ เกษตรกรส่วนใหญ่ ถ้ามีทางเลือกี่ดีกว่า ที่เค้าทำได้ เค้าก็จะเปลี่ยนแปลงไปทำอย่างอื่นกัน เช่นที่นาแถวนั้น มีถนนตัดผ่านขายได้ราคาก็จะขายเอาเงินไปลงทุนทำอย่างอื่น แต่ ต้องยอมรับ ว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะมีโอกาสดีอย่างนั้น หลายคนไม่มีความรู้ ความสามารถพอที่จะก้าวออกไปทำงานอื่น นอกจากการทำการเกษตร ที่เค้าถนัด เราจึงยังมีทั้งภาคเกษตร และอุตสาหกรรม อยู่ร่วมกัน แต่เราก็ต้องไม่ปล่อยให้พวกเค้าต้องอยู่กันแบบไร้ชะตากรรม  รัฐ และคนที่มีโอกาสดี ในสังคม ยังคงต้องอุ้มชูภาคเกษตร หรือคนด้อยโอกาสในทางสังคมไว้ อย่างเช่น การประกันราคาข้าว หรือ การประกันราคาอ้อย ที่ เมื่อราคาตกต่ำ รัฐต้องเอาเงิน จากภาคอุตสาหกรรม หรือส่วนอื่นที่เก็บได้ ออกมาใช้อุดหนุนเสมอ ส่วนการเลือก ปกป้องพื้นที่เมืองและอุตสาหกรรม ที่ต้องทำมากกว่า ภาคเกษตร ก็อย่างที่บอกไปแล้ว มูลค่าความเสียหาย และผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวม ต่อพื้นที่ที่เหสียหายมันมากกว่า พื้นที่เกษตรมากมาย หลายร้อยเท่า ดังนั้น การช่วยเหลือป้องกันตรงนั้น จึงจำเป็น แต่ ย้ำไปหลายครั้ง ว่าต้องพยายาม ช่วยคนที่เค้าเสียสละรับน้ำแทนให้ได้รับการชดเชยที่เป็นธรรมและพอเพียง ถ้าว่ามันไม่เป็นธรรมและพอเพียง ก็จัดการให้มันเกิดขึ้น ดีกว่า จะปล่อยให้ทังหมดพินาศไปด้วยกัน จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 54 11:17:22

ความคิดเห็นที่ 40 จริงๆ เรื่องสังคมไทยเรา คนทำเกษตร และ คนทำภาคอุตสาหกรรม และการบริการ มัน มีอยู่มากมาย หลายอย่าง หลายคนทำเพราะว่าใจรัก แต่หลายคนทำเพราะว่า เค้าไม่มีทางเลือก ที่ดีกว่านั้น ชาวนาหรือ เกษตรกรส่วนใหญ่ ถ้ามีทางเลือกี่ดีกว่า ที่เค้าทำได้ เค้าก็จะเปลี่ยนแปลงไปทำอย่างอื่นกัน เช่นที่นาแถวนั้น มีถนนตัดผ่านขายได้ราคาก็จะขายเอาเงินไปลงทุนทำอย่างอื่น แต่ ต้องยอมรับ ว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะมีโอกาสดีอย่างนั้น หลายคนไม่มีความรู้ ความสามารถพอที่จะก้าวออกไปทำงานอื่น นอกจากการทำการเกษตร ที่เค้าถนัด เราจึงยังมีทั้งภาคเกษตร และอุตสาหกรรม อยู่ร่วมกัน แต่เราก็ต้องไม่ปล่อยให้พวกเค้าต้องอยู่กันแบบไร้ชะตากรรม  รัฐ และคนที่มีโอกาสดี ในสังคม ยังคงต้องอุ้มชูภาคเกษตร หรือคนด้อยโอกาสในทางสังคมไว้ อย่างเช่น การประกันราคาข้าว หรือ การประกันราคาอ้อย ที่ เมื่อราคาตกต่ำ รัฐต้องเอาเงิน จากภาคอุตสาหกรรม หรือส่วนอื่นที่เก็บได้ ออกมาใช้อุดหนุนเสมอ ส่วนการเลือก ปกป้องพื้นที่เมืองและอุตสาหกรรม ที่ต้องทำมากกว่า ภาคเกษตร ก็อย่างที่บอกไปแล้ว มูลค่าความเสียหาย และผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวม ต่อพื้นที่ที่เหสียหายมันมากกว่า พื้นที่เกษตรมากมาย หลายร้อยเท่า ดังนั้น การช่วยเหลือป้องกันตรงนั้น จึงจำเป็น แต่ ย้ำไปหลายครั้ง ว่าต้องพยายาม ช่วยคนที่เค้าเสียสละรับน้ำแทนให้ได้รับการชดเชยที่เป็นธรรมและพอเพียง ถ้าว่ามันไม่เป็นธรรมและพอเพียง ก็จัดการให้มันเกิดขึ้น ดีกว่า จะปล่อยให้ทังหมดพินาศไปด้วยกัน จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 54 11:20:49

ความคิดเห็นที่ 41 นึกถึงเจ้าสัว เรื่อง สองสุง อยากให้ข้าวแกงจานละสองร้อย เดี๋ยวคนทำนาก็สบาย จากคุณ : ZAPPER เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 54 13:21:29

ความคิดเห็นที่ 42 น้ำท่วมปัจจุบัน มันก็คือน้ำหลาก ที่มาจากฝนธรรมชาติที่ตกมาจนเกินการระบายของระบบแม่น้ำลำคลอง บ้านเมืองไหนที่อยู่ที่ต่ำ ที่ลุ่ม ที่ทางน้ำไหลผ่าน ด้วยธรรมชาติน้ำมันก็ย่อมไหลหลากหาทางลงทะเลเสมอ เป็นมาแต่ไหนแต่ไร ก็ไม่เห็นมีใครคิดจะป้องกันหรือบรรเทาความเสียหายที่รู้อยู่แล้วว่า สักวันมันต้องเกิด มีแต่โครงการต่างๆของในหลวงเท่านั้น ที่มีมาเพื่อป้องกันและบรรเทาสภาวะน้ำท่วมน้ำหลาก ซึ่งก็เห็นอยู่แล้วว่า มันมีไม่เพียงพอ  มีแต่โครงการสร้างเมือง สร้างถนน คั่นทางระบายน้ำ ไม่มีโครงการที่จะขุดคลองระบายน้ำ หรือการพัฒนาแหล่งน้ำใหม่ๆ เกิดขึ้นมาจากฝ่ายการเมืองเลย เขื่อนไม่ต้องไปพูดถึง ยี่สิบปีก็ยังคุยกันไม่รู้เรื่อง ถึงมีก็โกงกินกันมโหฬาร ในมุมมองของเขตเกษตรกรรมหรือ คนตจว. อาจมองได้ว่า เมืองกรุงเทพฟ้าอรม คือตัวขวางทางน้ำลงสู่ทะเลที่ใหญ่ที่สุด เพราะมีระบบป้องกันน้ำท่วมรอบเขตตัวเมือง ทำให้น้ำไหลผ่านได้ช้าลง ซึ่งก็ต้องบอกว่า จริง ที่กรุงเทพคือตัวขวางทางน้ำ แต่ถ้ากรุงเทพจะผิด ก็คงต้องผิดตั้งแต่ประเทศนี้มีเมืองหลวงชื่อกรุงเทพมหานครแล้ว จากคุณ : vespa744 เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 54 17:20:07

ความคิดเห็นที่ 43 ขอบใจนะ ดูแล้วก็ต้องไปทำการบ้านเลย ช่องว่างห่างเกิน ชาติไทยก็มีแต่ถอยหลัง ปรับปรุงด่วน จากคุณ : .......... เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 54 17:22:36 A:171.96.18.27 X: TicketID:303162

ความคิดเห็นที่ 44 ตัดนิ้ว รักษามือ ตัดมือ รักษาแขน ตัดแขน รักษาตัว ตัดไต รักษาหัวใจ ตัดใจ รักษาจิต เป็นเรื่องปกติของสิ่งมีชีวิต จากคุณ : อิทธิธรรม เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 54 17:23:32

ความคิดเห็นที่ 45 หากปัญหาเกิดขึ้นแล้ว ก็ต้องแก้ไขไปตามสถานการณ์ตามแต่ผู้มีอำนาจมีวิจารณญาณ แต่ที่สำคัญ ต้องคิดล่วงหน้า เพื่อป้องกันและบรรเทาหากเกิดเหตุการณ์ซ้ำๆ อยากให้ทางการ จัดทำแผนที่พื้นที่ลุ่มน้ำทั้งหมดในประเทศ ที่เสี่ยงต่อการเกิดน้ำหลาก จัดทำระบบประตูกั้นน้ำแลผันน้ำให้ดีและแบ่งเขตโซนน้ำหลาก โซนอพยพ โซนเศรฐษกิจป้องกันเป็นชั้นๆไป โดยใช้แรงจูงใจจากภาษีและค่าชดเชยเป็นเครื่องมือ ประชาชนที่อาศัยหรือทำกินในโซนน้ำหลาก ต้องยอมรับหากเกิดน้ำหลาก น้ำท่วมขึ้น โดยจะได้รับการเว้นภาษีจากรัฐพร้อมทั้งเงินชดเชยที่คุ้มค่า จัดโซนอพยพที่แห้งและปลอดภัยเพื่อให้ผู้คนที่อยู่ในโซนน้ำหลากได้ย้ายมาอยู่อาศัยชั่วคราว โดยรัฐจัดหาความสะดวกให้ทั้งหมด โซนเศรฐษกิจป้องกัน จะอยู่ในเขตคันกั้นน้ำที่มีประสิทธิภาพเป็นชั้นๆไป โดยแต่ละชั้นจะเสียภาษีน้ำท่วมแตกต่างไป ชั้นในสุดจะต้องเสียเยอะสุดไล่ระดับรองๆกันไป เพราะระบบคันกั้นน้ำ ก็สร้างมาจากเงินภาษีของคนทั้งประเทศเหมือนกัน ภาษีที่เก็บได้จากเขตคันกั้นน้ำจะนำไปชดเชยให้กับเขตน้ำหลากที่จะต้องเสียสละให้น้ำท่วมพื้นที่ตัวเอง หากปีไหนน้ำไม่ท่วม ก็น้ำไปจัดตั้งเป็นกองทุนไว้เพื่อสำรองจ่ายในคราวต่อๆไป จากคุณ : vespa744 เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 54 17:31:57

ความคิดเห็นที่ 46 บางที..เราคิดเรื่องป้องกันเขตเศรษฐกิจ.. ก็คิดว่าคิดถูก..เขตเศรษฐกิจต้องป้องกันเอาไว้มูลค่ามหาศาล พอมาคิดเรื่อง..พื้นที่เกษตร ก็คิดว่าน่าเห็นใจมาก มีแต่ความทุกข์ เราคิดวนไปวนมาแค่นี้ คิดบ้างไหม..ที่น้ำท่วมขังเป็นเดือนเพราะ..น้ำไม่มีทางไป(ต่างฝ่ายต่างป้องกันน้ำไม่ให้ผ่าเข้าทางตัวเอง หรือให้ผ่านได้น้อยที่สุด) ถ้าหาทางให้น้ำไหลลงทะเลเร็วที่สุดได้น่าจะดีกว่า ลพบุรี อยุธยาและเมือง อื่น ๆ ที่จมน้ำ มีพื้นที่อยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลหรืออย่างไร? มองอีกด้านหนึ่ง ผลผลิตอย่างหนึ่ง ใช้เวลาในการผลิตนาน เกือบปี ผลผลิตอีกอย่างหนึ่งใช้เวลาผลิตไม่กีวัน หรือไม่กี่ชม. ผลผลิตอย่างหนึ่งจำเป็นต่อการดำรงด์ชีพ ผลผลิตอีกอย่างเป็นเครื่องสนับสนุนการดำรงด์ชีพ เมื่อน้ำขังเป็นเดือน(ซึ่งไม่ควรจะขังนานขนาดนี้ถ้ามีการระบายลงทะเลอย่างต่อเนื่อง) โรคระบาดจะตามมา อันนี้ยิ่งอันตราย สิ่งที่เสียหายก็จะเป็นชีวิตคน คงไม่ต้องเทียบหรอกนะว่า คนในเขตเศรษฐกิจหรือคนในชนบท ใครมีค่ามากว่ากัน..เพราะ 1 คน ก็สูญเสีย  2คนก็สูญเสีย คิดมากก็วนเวียน ลืมไปว่า...ปัญหาคือน้ำไหลลงทะเลช้า หรือหาทางลงทะเลยาก แก้ไขเมื่อ 08 ต.ค. 54 19:58:50 แก้ไขเมื่อ 08 ต.ค. 54 19:57:23 จากคุณ : ป้าModi (modi) เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 54 19:54:37

ความคิดเห็นที่ 47 ปัญหาคือน้ำไหลลงทะเลช้า หรือหาทางลงทะเลยาก จากคุณ : ป้าModi (modi) เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 54 19:55:40

ความคิดเห็นที่ 48 วันนี้ไปแถวๆ ปทุมฯ มา เลยได้เห็นว่า บ้านคนมีกระสอบทราบวางกั้นกันเองไว้ก่อนแล้ว ซึ่งทางจส.100 ผู้ว่าฯแจง กระสอบทรายทางราชการกำลังขาดแคลน...- -' (ก็แย่งกันซื้อนิหว่า) ฟัง Taxi + มองข้างทาง ได้ความว่า ชาวบ้านกำลังเร่งเกี่ยวข้าว ให้เสร็จจากนั้นจึงค่อยเปิดประตูน้ำให้ท่วมไร่... ถ้าท่วมก่อนก็เจ๊ง... - - (เลยเข้าใจว่าเขากั้นเพื่อ เกษตรกรแถบนี้ ด้วย) สังเกต กระสอบทรายกั้นข้างๆแล้ว แต่น้ำจากทางสะพานมันทะลัก... ขับไปทางเส้น บางคูวัด-บางบัวทอง รถติดตามรูปสภาพข้างทาง...เลยต้องหนีไป ราชพฤกษ์ - -' แก้ไขเมื่อ 08 ต.ค. 54 22:55:15 จากคุณ : A... เขียนเมื่อ : 8 ต.ค. 54 22:54:07

ความคิดเห็นที่ 49 อื้มม ปกป้องเมืองเศรษฐกิจอันนี้ไม่ต้องพูด ไม่มีใครอยากให้เสียหายอยู่แล้ว แต่กรุงเทพเป็นด่านน้ำออกสู่ทะเล แล้วกรุงเทพก็ดันเปิดทางให้น้ำออกได้น้อยมากกก น้ำมันเลยไปไหนไม่ได้ ได้แต่ท่วมเอ่ออยู่อย่างนั้น ต่างจังหวัดตอนนี้ไม่ได้รับน้ำแทนใคร แต่น้ำมันไปไหนไม่ได้ต่างหาก จากคุณ : สดใสซาบซ่า เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 54 15:46:37

ความคิดเห็นที่ 50 เรื่องเงินทดแทน ต้องเยียวยาความเสียหายตามความเป็นจริงน่ะครับ จะให้มากกว่าความเสียหายก็ไม่ได้ อย่าลืมว่าอาจมีบางคนหัวใสจงใจให้น้ำท่วมพื้นที่ท้องนาเพื่อเก็งกำไรจากค่าทดแทน ความเสียหายจึงต้องชดใช้ตามความเป็นจริง จากคุณ : okaunkung เขียนเมื่อ : 11 ต.ค. 54 17:44:08

ความคิดเห็นที่ 51 แต่กรุงเทพเป็นด่านน้ำออกสู่ทะเล แล้วกรุงเทพก็ดันเปิดทางให้น้ำออกได้น้อยมากกก น้ำมันเลยไปไหนไม่ได้ ได้แต่ท่วมเอ่ออยู่อย่างนั้น จากคุณ : สดใสซาบซ่า   ^ ^ เกิดมาและเรียนภูมิศาสตร์ ยังไม่เคยเห็นเลยว่ากรุงเทพเป็นจังหวัดด่านหน้าที่ติดทะเล เฮ้ยยย ไม่ใช่โตเกียวนะเฟ้ยเฮ้ยครับ! จากคุณ : ผึ้งน้อยพเนจร เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 54 00:53:57