ผมรู้ว่าน้ำจะท่วมบ้านล่วงหน้า 3 วันเพราะออกสำรวจรอบๆหมู่บ้านและประเมินสถานการณ์น้ำด้วยตัวเอง
1.อย่าประมาท(อย่างเด็ดขาด)
อย่าคิดว่ามันไม่ท่วมหรอก เกิดมาไม่เคยท่วม อยู่มา 50 ปีแล้วไม่เคยเห็น จะท่วมได้ไง คิดแบบนี้ ตายมานักต่อนักแล้วเพราะไม่รู้ว่าจะหนีน้ำได้ยังไงน่ะสิ ต้องไม่ลืมว่าปีนี้น้ำมากมายมหาศาล แม่น้ำโน้นก็ล้น เขื่อนนี้ก็พัง ที่นั่นก็โดน ที่โน่นก็หนัก หากเราอยู่ใต้น้ำอย่าหวังว่าจะรอด เพราะมันดาหน้ากันมาขนาดนั้น
2.ติดตามข่าวสาร ประเมินสถานการณ์ให้ถูก
หากลพบุรีโดนขนาดมิดหลังคา อยุธยาก็อย่าหวังว่าจะรอด เพราะน้ำจากลพบุรีจะไหลไปสมทบ ที่อยุธยาแน่นอน บ้านผมขนาดน้ำล้นทุ่งไม่ใช่สายตรงยังโดนหางเลขเลย ดูข่าวให้ดี วิเคราะห์ให้ได้ ค่อยๆดูไม่ต้องตื่นตระหนก และประเมินตามสถานการณ์จริง ลพบุรีไปอยุธยา 2-3 วันยังมีเวลาเตรียมตัว
3.เตรียมตัวให้พร้อม โดยเฉพาะข้าวของ และความเป็นอยู่
ข้าวของ
พอรู้ว่า น่าจะท่วมก็เก็บให้พร้อม หากคิดว่ามันจะท่วม 1 เมตร ให้ยกขึ้น 2 เมตร หากคิดว่ามันจะท่วม 2 เมตร ให้ยก 3 เมตร ประเมินเกินจริงไว้ก่อนเราจะไม่ต้องพวง(พะ-วง) กับการยกแล้วยกอีก การยกของในน้ำจะยากกว่าเป็น 5 เท่าตัว(ลื่น-เคลื่อนไหวยาก-ทุลักทุเล)
อาหาร และน้ำดื่ม
เตรียมตุนให้เพียงพอสำหรับการอยู่ 1-2 สัปดาห์ บ้านผมสมาชิก 4 คน ผมตุน 10 วัน ข้าวสาร อาหารแห้ง(ไข่-อาหารที่สามารถเก็บไว้ได้หลายวันโดยไม่บูดหรือเน่าเสีย) แก๊สหุงต้ม(หากน้ำท่วมจะไปซื้อได้ยากมาก และมักจะหมดด้วย) น้ำดื่ม สำคัญมาก ผมตุนขวดใส 6 แพ็คสำหรับดื่ม ขวดขุ่น 6 แพ็คสำหรับหุงข้าวและล้างหน้า เมื่อน้ำท่วมประปามักจะตัดการจ่ายน้ำ หรือไม่ก็ท่อแตก(ทุกปี) จะมาม่งม่ามาหรืออะไรก็เตรียมให้พร้อม อย่ารอความช่วยเหลือ บ้านคุณอาจไกลเกินกว่า ความช่วยเหลือจะเข้าถึงภายในเวลา 3-5 วัน ไม่เช่นนั้นคุณจะอยู่อย่างลำบาก
4.ยารักษาโรค
ปกติบ้านหนึ่งจะต้องมียาสามัญประจำบ้านอยู่แล้ว ควรตรวจเช็คด้วยว่าอะไรหมด อะไรต้องเพิ่ม ขาดไม่ได้คือ ยาทาแก้น้ำกัดเท้า ยาหม่องสำหรับบรรเทาอาการแมลงกัดต่อย พวกแก้ปวดหัวตัวร้อนนี่ต้องไม่ลืมเลย เพราะหากป่วยจะเดินทางออกไปหาหมอได้ยาก (บ้านผมต้องลุยน้ำ 5 กม.จึงจะถึงโรงพยาบาล)
หากมีผู้ป่วยให้ย้ายไปในที่ๆปลอดภัยที่ไกลออกไป อย่าให้ผู้ป่วยอยู่ในสถานการณ์น้ำท่วม เพราะทุกอย่างจะดูยุ่งยากไปหมดหากต้องการความช่วยเหลือ
5.อย่าเครียด
ช่วงรอน้ำจะท่วม ช่วงน้ำท่วม อย่าอยู่เฉยๆนั่งรอนอนรอ พยายามหากิจกรรมอะไรทำ ไม่เช่นนั้นจะเครียดขึ้นเรื่อยๆ จะกลัว จะทะเลาะกันเอง ฯลฯ คอยดูแลเด็กๆให้ดีด้วย หากิจกรรมให้ทำเป็นระยะๆ หากไม่ตัดไฟก็จะมีกิจกรรมมากหน่อย อาจดูทีวี เล่นเกมส์ หากโดนตัดไฟกิจกรรมที่มีทำก็จะน้อยลงมาก รับมือจุดนี้ให้ดี ยิ่งหลายวันยิ่งเครียด หัวหน้าครอบครัวต้องเป็นผู้ควบคุมปัญหาเหล่านี้ อย่าเครียดเสียเอง
6.อุปกรณ์ซ่อมแซมที่ต้องมีไว้
ฆ้อน ตะปู ซิลิโคนหลอด ปูนซิเมนต์ อิฐบล็อค ถุงขยะ PVC. ไม้ระแนง ไม้หน้าสาม ไม้ไผ่ อย่าคิดว่าไม่ได้ใช้หรอก เพราะเวลาน้ำขึ้นเยอะๆ ได้ใช้แน่ หากไม่มีอุปกรณ์ไว้สำหรับป้องกัน ข้าวของที่มีจะถูกน้ำท่วมเสียหายหมด จะมาเสียดายทีหลัง
7.อุปกรณ์สื่อสาร อย่าให้ขาดเชียว
สิ่งสำคัญที่เราสามารถติดต่อญาติพี่น้อง ติดต่อขอความช่วยเหลือ คุยกับเพื่อนคลายเครียด ติดตามสถานการณ์อื่นๆ ฯลฯ คือ โทรศัพท์มือถือ..กรุณาเตรียมให้พร้อม เติมเงินให้พอ เช็คสายชาร์ต และชาร์ตแบ็ตไว้ให้พร้อมตลอดเวลา สำคัญมาก..
8.ตรวจสอบระบบไฟฟ้าภายในบ้านของตนอย่างละเอียด
ปลั๊กไหนต่ำ ย้ายหรือตัดทิ้งไปก่อน(ตัด แยกสายพันไว้ ยกสูงๆ) อย่าให้สายไฟจุดใดถูกน้ำ โดนน้ำหรือพื้นที่ชื้นแฉะ ตรวจให้ทั่วทุกจุด ก่อนน้ำท่วมยิ่งดี เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่จำเป็นต้องใช้ ในช่วงนั้นยกเก็บที่สูงไปเลย ไฟกับน้ำ..ตายง่ายมาก
บ้านผมทำไว้ดีตั้งแต่ตอนสร้างบ้านแล้วปลั๊กในบ้านผมทุกตัว สูง 150 ซม.(พ้นมือเด็ก) ปลั๊กไฟสูงเท่ามิเตอร์หน้าบ้าน หากน้ำท่วมถึงระดับนั้น ไฟถูกตัดทั้งหมู่บ้านแล้ว
9.ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน
หากการเตรียมตัวรับมือกับสถานการณ์ของเราเป็นไปอย่างที่ผมบอก เราจะสามารถรับมือกับ สถานการณ์ได้ในระดับหนึ่ง หากปัญหาเราไม่หนักเกินไป เราก็สามารถช่วยเหลือตัวเองและ ครอบครัวเราได้ อยู่อย่างไม่ลำบากมากนัก
ความช่วยเหลือจากผู้อื่น ถือว่าเป็นโชคของเรา และบุญของคนอื่นที่ทำ ทางที่ดีที่สุดเราต้องช่วยตัวเองให้ได้ก่อน ผมคิดไว้ในใจตั้งแต่แรกว่า อย่างไรครอบครัวผมต้องรอด ต้องทำทุกอย่างให้พร้อมไว้ก่อน ผมไม่สามารถออกไปตลาดได้ 10 วันแล้ว ผมยังอยู่ได้เลย สิ่งของที่บรรเทาทุกข์จาก สส.และมูลนิธิ ผมยังเก็บไว้โดยไม่ได้แกะออกมาใช้เลย กะว่าหลังน้ำลดแล้ว ผมสามารถเดินทางได้จะนำไปบริจาคให้ผู้อื่นอีกต่อหนึ่งให้สมเจตนารมณ์ ของผู้บริจาค
จากคุณ |
:
คนบางปะอิน
|
เขียนเมื่อ |
:
11 ต.ค. 54 15:23:55
|
|
|
|