ความคิดเห็นที่ 1 ลองมาทำความรู้จักกับ สิ่งมีชีวิตคงสภาพดึกดำบรรพ์ (living fossil) บางชนิดกันครับ ++1..มังกรป่าปาปัว (Papuan Forest Dragon) ประเทศปาปัวนิวกินี มังกรป่าปาปัว (Papuan Forest Dragon). เป็นสัตว์เลื้อยคลานจำพวกกิ้งก่า(Lizard ) อาศัยอยู่ท่ามกลางหมู่ต้นไม้ ในป่าท้องถิ่นของปาปัวนิวกินี (Papua New Guinea )กินแมลงและสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังขนาดเล็ก (invertebrates )เป็นอาหาร ภาพมังกรป่าปาปัว (Papuan Forest Dragon) แก้ไขเมื่อ 12 ต.ค. 54 00:01:53 จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 54 00:01:08

ความคิดเห็นที่ 2 มังกรป่าปาปัว มีลักษณะคล้ายกับมังกรป่าอินโดนีเซีย(Indonesian Forest Dragon)หรืออีกชื่อหนึ่งคือ Hypsilurus dilophus ภาพ ลูกมังกรป่าอินโดนีเซีย(Indonesian Forest Dragonหรือ Hypsilurus dilophus ) จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 54 00:05:35

ความคิดเห็นที่ 3 ปาด พรุ่งนี้จะตื่นมาอ่านต่อครับ ขอบคุณจ่ายอดมากครับ จากคุณ : Serial_Nuber เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 54 00:07:08

ความคิดเห็นที่ 4 นักธรณีวิทยาเชื่อว่า ในอดีตยุค The Pleistocene Epoch (1.6 ล้าน -10,000 ปี ที่แล้ว) เกาะนิวกินี New Guinea (ซึ่งปัจจุบันประกอบด้วยปาปัวของอินโดนีเซียและประเทศปาปัวนิวกินี) เป็นแผ่นดินผืนเดียวกับทวีปออสเตรเลีย เรียกว่า ซาอุล Sahul, อธิบายจากภาพด้านล่าง++ สีเเดง..คือแผนที่ในปัจจุบัน จะเห็นว่า ประเทศออสเตรเลียและเกาะนิวกินีแยกออกจากกัน สีเขียว..คือแผนที่ในยุคที่เรียกดินแดนนั้นว่า ซาอุล(Sahul,) ทั้งออสเตรเลียและเกาะนิวกินียังเป็นแผ่นดินผืนเดียวกัน จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 54 00:27:16

ความคิดเห็นที่ 5 ขออนุนญาติ ปาด+กิ๊ฟ+โหวต ก่อนนะครับ พี่เจย์ คืนนี้มะไหวละนอนก่อน พรุ่งนี้จะมาติดตามชม ^^ จากคุณ : กระป๋องด๋อย เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 54 00:31:55

ความคิดเห็นที่ 6 ประเทศปาปัวนิวกินี  (Papua New Guinea )ในแผนที่โลกปัจุบัน จะเห็นว่าเป็นเกาะแยกตัวออกจากทวีปออสเตรเลียอย่างชัดเจน จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 54 00:36:25

ความคิดเห็นที่ 7 2......กบ Father Frog   ประเทศปาปัวนิวกินี เป็นกบสายพันธุ์ Oreophryne frog species จากปาปัวนิวกินีเช่นกัน เวลาไข่แล้วมันจะช่วยกันเฝ้าระวังเอาไข่โดยเอาติดตัวไว้ตลอดเวลา เลยเรียกกันว่า Father Frog  เพราะห่วงไข่ตลอดเวลา จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 54 00:53:52

ความคิดเห็นที่ 8 เนื่องจากเกาะนิวกินี( New Guinea) ก่อตัวขึ้นจากหินปูน( karst formations)   ลักษณะของชั้นทางธรณีวิทยาดั้งเดิมของเกาะ จึงมีธาตุแคลเซี่ยมที่ละลายปะปนอยู่ในผิวน้ำ (water-soluble calcium )ทำให้กบต้องลำบากในการหาบึงและทะเลสาบเพื่อใช้ในการวางไข่และเจริญเติบโตเป็นตัวอ๊อด และแทนที่จะทิ้งไข่ไว้ตามลำพัง พ่อและแม่กบFather Frog จึงนำไข่ติดตัวไปตลอดเวลา มีการปกป้องรักษาไข่โดยทำให้เปียกหมาดๆ (moistening )อยู่ตลอดเวลา แก้ไขเมื่อ 12 ต.ค. 54 00:58:41 จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 54 00:57:20

ความคิดเห็นที่ 9 3.........พืช และ แมลง  บริเวณแหลมทางตอนใต้ของทวีปแอฟริกา           ( Plants and Insects of the Southern Cape) ปลายแหลมทางตอนใต้ของทวีปแอฟริกาเป็นที่สนใจ อย่างยิ่งของนักชีววิทยา biologists  พื้นที่ขนาดเล็กประมาณ 35,000 ตารางไมล์ มีพืชพันธุ์ที่มีลักษณะโดดเด่นแตกต่างจากพื้นที่อื่นของโลกไม่ซ้ำกันมากหลายชนิด จนนักพฤษศาสตร์ botanists เรียกเขตนี้ว่าอาณาจักรของพันธุ์ไม้ที่มีลักษณะพิเศษเฉพาะตัว (own floral kingdom: Capensis,) แผนที่ทวีปแอฟริกา บริเวณ ปลายแหลมทางตอนใต้ปัจุบันมีสิ่งมีชีวิตคงสภาพดึกดำบรรพ์ (living fossil)อยู่มากกว่า 9000ชนิด แก้ไขเมื่อ 12 ต.ค. 54 01:13:28 แก้ไขเมื่อ 12 ต.ค. 54 01:11:53 จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 54 01:11:26

ความคิดเห็นที่ 10 ตอนใต้ของทวีปแอฟริกา เป็นแหลม ที่มีลักษณะของผืนดินสมัยโบราณอย่างแท้จริง ดินมีอายุเกือบครึ่งพันล้านปี เกิดขึ้นจากยุค pre-Carboniferous rocks. ซึ่ง ณ เวลานั้นแผ่นดินของทวีปอัฟริกา ยังเป็นแผ่นดินผืนเดียวกันกับ ทวีปอเมริกาใต้ (South America )ออสเตรเลีย(Australia) และแอนตาร์คติกา(Antarctica.)เป็นทวีปใหญ่ที่เรียกว่า ทวีปกอนด์วานา (the supercontinent Gondwana) ทวีปกอนด์วานา(the supercontinent Gondwana) ในอดีต จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 54 01:44:14

ความคิดเห็นที่ 11 จนกระทั่งเมื่อสิ้นสุดยุค Miocene เมื่อประมาณ หกล้านปีที่แล้ว ที่ดินตอนใต้ของทวีปแอฟริกา มีความชื้น เต็มไปด้วยพืชพันธุ์ไม้เขตร้อนที่มีใบขนาดใหญ่เขียวชอุ่ม  แต่เมื่อสภาพภูมิอากาศเกิดการเปลี่ยนแปลง ต่อมา  แอนตาร์คติกา เริ่มกลายเป็นดินแดนน้ำแข็ง กระแสน้ำในมหาสมุทรมีการผันผวน   พื้นที่แหลมตอนใต้ของอัฟริกา ณ เวลานั้น ก็กลับเย็นและแห้งแล้งทำให้พืชพันธุ์ส่วนใหญ่ตาย  เหลือแต่พืชบนพื้นที่สูงบนเขา ซึ่งสามารถทนสภาพอากาศเย็นและแห้ง ได้ดีกว่าเลยอยู่รอดมาได้ และต่อมาก็ได้แพร่พันธุ์ลงมายังพื้นที่หุบเขาเบื้องล่าง  เกิดระบบนิเวศน์ที่มีความหลากลาย  ทำให้ทุกวันนี้      แหลมทางตอนใต้ของอัฟริกา มีพืชพันธุ์มากกว่า 9000ชนิด และสามในสี่ของพืชเหล่านั้นจะไม่พบในเขตส่วนอื่นๆของโลก (ในภาพ )Fynbos พืชที่คงสภาพดึกดำบรรพ์ไม่แตกต่างจากในอดีต  เป็น  พืชเฉพาะถิ่นในพื้นที่เเหลมทางตอนใต้ของทวีปอัฟริกา แก้ไขเมื่อ 12 ต.ค. 54 02:12:11 จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 54 02:07:54

ความคิดเห็นที่ 12 จากความหลากหลายของพืชพันธุ์ ในเขตแหลมทางตอนใต้ของอัฟริกา ทำให้แมลงมีทางเลือกมากมายในการหาอาหาร เลยกลายเป็นแหล่งอาศัยอย่างดีของตั๊กแตน Grasshoppers มากมากหลายชนิด  ตั๊กแตนเหล่านี้จะมีสีสันและรูปทรงเหมือนกับพืชที่พวกมันกิน   (จากในภาพ)ตั๊กแตนตัวเมีย ในเขตแหลมทางตอนใต้ของอัฟริกา  ที่มีชื่อว่า female  karoo rockhopper สายพันธุ์ Porthetis carinata จะมีลักษณะเหมือนหินที่มันเกาะอยู่  ขนาดของมันเกือบเท่าหนู และป้องกันตัวเอง จากการโดนแดดเผาให้แห้งได้ เพราะมีชั้นผิวหนังกำพร้าแข็งที่ลำตัว ป้องกันการสูญเสียน้ำ แถมยังสามารถปิดรูระบายอากาศของผิวหนังได้ด้วย เวลาหายใจทุกข้อปล้อง (segment) จะมีการขยับเปิดออกเล็กน้อย จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 54 02:19:37

ความคิดเห็นที่ 13 วันนี้มาทัน :~) จากคุณ : ดินแดนแห่งเจ้าตัวร้าย เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 54 02:29:07

ความคิดเห็นที่ 14 4......กบต้นไม้ อัฟริกันตะวันตกในเขต ป่าดิบสงวนเอตวา  ประเทศกานา        (West African Tree Frog in Atewa) เป็นกบสายพันธุ์ Leptopelis occidentalis  อยู่ในเขตป่าสงวน Atewa  ประเทศกานา อัฟริกันตะวันตก เป็นกบที่มีผิวหนังลายเป็นปุ่มเล็กๆ the granular skinใช้ช่วยในการหายใจ ซึ่งผิวหนังของกบชนิดนี้มีความสำคัญไม่น้อยกว่าปอด เพราะยามสภาพอากาศไม่มีความชื้น กบจะหายใจไม่ออก ซึ่งลักษณะที่พิเศษเหล่านี้ ไปคล้ายกับกบต้นไม้ ในทวีปอเมริกาเหนือ +++กบต้นไม้ อัฟริกันตะวันตก ในเขตป่าสงวนเอตวา  (West African Tree Frog in Atewa) จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 54 02:34:51

ความคิดเห็นที่ 15 ก่อนยุค Cretaceous, เมื่อสมัย150ล้านปีที่แล้ว อเมริกาใต้และอัฟริกายังเป็นแผ่นดินเชื่อมติดกัน เป็นส่วนหนึ่งของ ทวีปใหญ่ที่เรียกว่า ทวีปกอนด์วานา the supercontinent Gondwana.(ดูแผนที่ทวีปกอนด์วานาในค.ห10 ประกอบ) ...แต่ต่อมาได้เกิดรอยแยก และแตกออกจากกัน และส่วนที่เป็นทวีปอเมริกาใต้ได้ถอยห่างออกไป หลังจากการแตกออกจากกัน  ส่วนที่เป็นทวีปอัฟริกาในช่วงยุคน้ำแข็ง ความชื้นก็ลดน้อยลงเรื่อย เขตป่าดิบชื้นก็ค่อยๆหมดไป กลายเป็นภุมิอากาศแบบสวันนา (the savannah ภูมิอากาศแบบร้อนชื้นสลับแห้งแล้ง)มากขึ้น ลักษณะภุมิอากาศ แบบสวันนา  (the savannah) ในทวีปแอฟริกา และสิงห์โตแห่งทุ่งหญ้าสวันนา จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 54 02:49:15

ความคิดเห็นที่ 16 ปาดๆๆๆๆ   จากคุณ : มะขามดอง เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 54 03:32:52

ความคิดเห็นที่ 17 เดี๋ยวจะกลับมาต่อให้เสร็จนะครับ จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 54 04:43:36

ความคิดเห็นที่ 18 ปรกติเวลาผมสอนเรื่อง living fossil เนี่ย นิยามที่ผมให้คือ ต้องมีคนเคยเจอฟอสซิลของเจ้าตัวนั้น แต่ยังมีคนเจอมันอยู่ในปัจจุบันโดยที่รูปร่างหน้าตาไม่ค่อยต่างไปจากเดิม (เช่น ปลาซีลาแคนท์ ที่เคยคิดว่าสูญพันธ์ไปแล้ว) เลยรู้สึกว่าหลายๆ ตัวข้างบน มันมีลักษณะของสัตว์โบราณแต่ก็ไม่ได้มีฟอสซิลบ่งบอกเป็นพิเศษนะ แก้ไขเมื่อ 12 ต.ค. 54 08:50:55 จากคุณ : JD300 เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 54 08:50:25

ความคิดเห็นที่ 19 มาต่อครับ... อย่างไรก็ตามในเขตพื้นที่เอตวา Atewa, ของ ประเทศกานา ตั้งแต่ยุค the Miocene เมื่อ10.5ล้านปีที่แล้ว ยังคงมีความชื้นหลงเหลืออยู่ ลักษณะอากาศมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยเท่านั้น และป่าไม้และสัตว์ในเขต Atewa,ได้รับการยอมรับว่ามีความหลากหลายและโดดเด่น และได้รับการจัดตั้งเป็นเขตป่าสงวน Atewaเมื่อปี1926 ช่วงที่ประเทศกานายังเป็นดินแดนอาณานิคม (colony) ของอังกฤษ ภาพนี้คือแมงมุมยักษ์โบราณแห่งป่าสงวนเอตวา The Atewa dinospider (Ricinoides atewa)เพิ่งถูกค้นพบระหว่างปี 2006ที่ แต่สืบเชื้อสายจากยุค Carboniferous เมื่อ300กว่าล้านปีที่แล้ว และไม่เคยมีการเปลี่ยนแปลงรูปร่างใดๆทั้งสิ้น แมงมุมชนิดนี้พบเฉพาะในเขตอัฟริกันตะวันตก อเมริกาใต้และอเมริกากลาง จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 54 09:17:30

ความคิดเห็นที่ 20 ขอบคุณครับ..คุณJD300 ที่มาร่วมแจมเพิ่มเติมข้อมุล ยังไงบางชนิด(ถ้าหาข้อมูลได้)ผมจะพยายามหาซากฟอสซิลมาเปรียบเทียบเพิ่มเติมตอนท้ายๆครับ แก้ไขเมื่อ 12 ต.ค. 54 09:24:59 จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 54 09:23:04

ความคิดเห็นที่ 21 #1 เห็นตัวนั้นนึกภาพไดโนเสาร์พันธุ์ ทีเร็ก ออกเลย ถ้ามันตัวใหญ่เท่าคน ก็ไดโนเสาร์ดีๆนี่เอง จากคุณ : อยากรู้จึงถาม เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 54 09:36:30

ความคิดเห็นที่ 22 แต่ปัจจุบันนี้ป่าสงวนเอตวา Atewa ของกานากำลังตกอยู่ในอันตราย มีการลักลอบล่าสัตว์และตัดไม้ซึ่งผิดกฎหมาย และเนื่องจากในพื้นทีนี้ยังอุดมไปด้วยอลูมิเนียม aluminum และแร่บอกไซด์ bauxite และอาจมีการทำเหมืองแร่เกิดขึ้นในอนาคต จากภาพ..เจ้าหน้าที่ป่าไม้กานา กำลังตรวจสอบสภาพไม้ในเขตป่าสงวนเอตวา จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 54 09:40:37

ความคิดเห็นที่ 23 ชอบกระทู้ของคุณเจออส จากคุณ : sawatcafe เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 54 09:47:00

ความคิดเห็นที่ 24 5.......กบใบไม้ขนาดใหญ่ ในป่าประเทศกายยานา  ( .Giant Leaf Frog in the Forests  of Guyana)... จากภาพที่เห็นคือ Phyllomedusa bicolor เป็นกบใบไม้ขนาดใหญ่ตัวเมีย (a female giant leaf frog)ตากำลังจ้องมองไปที่ตัวผู้ หลังจากเกิดความพึงพอใจต่อกัน หลังจากผสมพันธุ์แล้วมันจะออกไข่จำนวนมากมาย แล้วนำไข่ไปวางติดไว้เหนือสายน้ำในป่า หลังจากนั้น 8-10วันไข่จะกลายเป็นลูกอ๊อด( the tadpoles)  และจะกระโดดตกลงไปในน้ำเป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอนการพัฒนาการ จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 54 09:51:48

ความคิดเห็นที่ 25 ขอบคุณครับ จากคุณ : อยากรู้เจิ๊น เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 54 09:55:22

ความคิดเห็นที่ 26 บริเวณที่พบกบใบไม้ขนาดใหญ่ ในป่าประเทศกายอานา(Guyana) ซึ่งเขตนี้มีชื่อเรียกทางธรณีวิทยาว่าThe  Guiana Shield มีอายุ 1.7พันล้านปี ครั้งหนึ่งในอดีตเคยเป็นดินแดนเชื่อมต่อกับอัฟริกาตะวันตก เป็นส่วนหนึ่งของทวีปใหญ่ชื่อ่าทวีปกอนด์วานา(ในค.ห 10 the supercontinent Gondwana.) ป่าฝนแถบของประเทศกายานา นี้ตามหลักชีววิทยาถือว่าเป็นป่าที่อุดมสมบูรณ์ที่สุด (the biologically richest)และได้รับการรบกวนจากมนุษย์น้อยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก จากแผนที่จะเห็นว่า เขต ลักษณะทางธรณีวิทยาที่เรียกว่า กุยอนา ชีลด์ Guiana Shield(เส้นสีแดง) ครอบคลุมพื้นที่หลายประเทศ ในทวีปอเมริกาใต้ จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 54 10:10:05

ความคิดเห็นที่ 27 6 ตั๊กแตนตำข้าวตัวเมีย (ที่มีลักษณะเหมือนใบไม้ตาย)กำลังพรางตัว    (Female Dead-Leaf Preying Mantis) ตัวนี้พบในเขตพื้นที่ the Guiana Shield ประเทศกายอานา(Guyana)เช่นกัน ตั๊กแตนตำข้าวตัวเมียใช้ฮอร์โมนดึงดูดใจทางเพศหรือที่เรียกว่าฟีโรโมน (sex pheromones)ให้ตัวผู้เกิดความสนใจเมื่อถึงฤดูผสมพันธุ์  เป็นแมลงที่บินไม่ได้  ตัวผู้จะมีขนาดใหญ่ ปีกคล้ายใบไม้ มันจะตามหาตัวเมียเจอ โดยการตามกลิ่นมา จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 54 10:19:36

ความคิดเห็นที่ 29 ....7 ...แมลงที่สามารถคลานบนน้ำแข็ง(Ice Crawlers ) ย้อนกลับไปเมื่อ250ล้านปีที่แล้วในยุคเปอร์เมียน the Permian บรรพบุรุษของ ice crawlers มีขา 2คู่(4ขา) มีปีกขนาดใหญ่หากินอยู่บนละอองเกสรดอกไม้ของต้น conifers เป็นเวลาหลายล้านปีที่แมลง Ice Crawlersเป็นแมลงที่ย้ายแหล่งหากินไปตามที่แบบเดียวกัน เหมือนพวกผีเสื้อ และจะพบแมลง ice crawlersตามเขตอากาศร้อน (tropical regions )ทั่วของโลก เมื่อต้นไม้ conifers ที่มีดอกเหล่านั้นร่วงตายไป  เพราะแมลง Ice Crawlers ตัวใหม่ที่ไม่เชี่ยวชาญในการช่วยผสมเกสร  ทำให้ไม่มีแหล่งอาหาร แทนที่แมลง Ice Crawlers จะสูญพันธ์ตามไปด้วย แมลงเหล่านี้กลับสลัดปีกทิ้งแล้วคลานเข้าไปอาศัยอยู่ตามรอยแตกของธารน้ำแข็ง,ถ้ำ หรือลึกลงไปในดิน พวกมันสามารถอาศัยอยู่ตามอุณหภูมิแช่แข็งต่ำ ถึง-9องศาเซลเซียส แต่ถ้าเราเอามือไปสัมผัสมัน อุณหภุมิความร้อนจากมือจะทำให้มันตายได้ พวกมันกินเกือบทุกสิ่งทุกอย่างเป็นอาหารตั้งแต่ซากแมลงไปจนถึงเศษวัสดุต้นไม้เก่าๆ Ice Crawlers เป็นแมลงที่มีอายุยืนสามารถมีชีวิตอยู่ได้นานถึง 10ปี นักกีฏวิทยา entomologists (นักวิทยาศาสตร์ที่ศึกษาเกี่ยวกับแมลง)บางคนเชื่อว่าแมลงชนิดนี้เคยมีอยู่ถึง44สายพันธุ์ แต่เท่าที่รู้จักในปัจจุบันมีเพียงสายพันธุ์เดียวเท่านั้น แก้ไขเมื่อ 12 ต.ค. 54 11:01:24 จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 54 10:35:55

ความคิดเห็นที่ 30 8....แมงดาทะเล สัตว์โบราณในมหาสมุทร  Horseshoe Crabs, Ocean Ancients .. เมื่อ 245 ล้านปีที่แล้ว ไดโนเสาร์เพิ่งกำเนิดขึ้นในโลก  แต่แมงดาทะเลบางชนิด อยู่มานานก่อนหน้านั้นจนกลายเป็นสิ่งโบราณไปแล้ว แมงดาทะเลกำเนิดขึ้นเมื่อ 445 ล้านปีที่แล้วในยุค Ordovician. แมงดาทะเลบางชนิด อาจจะเพิ่งกำเนิดขึ้นในโลกเมื่อไม่กี่ล้านปี แต่รูปร่างของพวกมันไม่แตกต่างไปจากสิ่งมีชีวิตในยุคสมัยไดโนเสาร์เลย แมงดาทะเล ที่มีสกุลใกล้ชิด กับสัตว์ประเภทแมงมุม arachnids อยู่ได้ทั้งในน้ำจืดและน้ำเค็ม แต่วางไข่บนบก..เหมือนกับสัตว์กินเนื้อของโลกเกือบทั้งหม ที่ครั้งหนึ่งเคยอาศัยอยุ่ในทะเล แมงดาทะเลชนิดนี้ จะมีกระดองส่องแสงเรืองรองเป็นสีม่วงแกมเขียวอ่อนเหมือนแมงป่อง  บางทีอาจเป็นการช่วยให้แมงดาทะเลชนิด หากันเจอเมื่อยามต้องแสงจันทร์ แมงดาทะเลจะมองหาคู่ภายใต้แสงจันทร์ ในฤดูใบไม้ผลิเท่านั้น แสงเรืองรองที่กระดองแมงดาทะเล จะหลุดออกได้ง่ายถ้ามีรอยขีดข่วน ซึ่งบางทีรอยขีดข่วนเป็นตำหนิเหล่านั้น อาจเกิดจากการโจมตี จากปลาฉลามหรือเต่าทะเล หรืออาจเพิ่งลอกคราบใหม่ๆ แก้ไขเมื่อ 12 ต.ค. 54 11:10:47 จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 54 11:09:43

ความคิดเห็นที่ 31 แมงดาทะเล มาชุมนุมกันยามพลบค่ำ เพื่อหาคู่ ที่บริเวณชายฝั่งทะเลที่อ่าว  เดลาแวร์( the Delaware Bay ) แหลม เมย์ (Cape May) รัฐนิวเจอร์ซีย์ (New Jersey) อเมริกา เหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นช่วงน้ำขึ้น และพระจันทร์เต็มดวง เดือนพ.ค ของทุกปี จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 54 11:23:43

ความคิดเห็นที่ 32 ขออนุญาตพักอีกรอบครับ จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 54 11:24:36

ความคิดเห็นที่ 33 กระทู้นี้แหวกดีครับ ที่ผ่านมาเจอแต่น้ำท่วมจนเอือมเลย จากคุณ : เจ๊ปอ เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 54 11:30:04

ความคิดเห็นที่ 34 แมงดาเต็มเลย อิอิ จากคุณ : กระป๋องด๋อย เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 54 11:37:35

ความคิดเห็นที่ 35 นี่มัน Full moon party เลยนะเนี่ย จากคุณ : แข้งบวม เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 54 11:51:36

ความคิดเห็นที่ 36 อ่านเพลินเลยครับ ขอบคุณมาก จากคุณ : mayjom เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 54 12:07:08

ความคิดเห็นที่ 37 แว๊กกกก!!! แมงดาขี่กันเต็มหาดเลย น่าจับไปหงายท้องมันเล่น 5555 ปล. แต่ท้องมันน่ากลัวอ่ะ T_T ปล2. กบใบไม้..มองอย่างงั้นคือพึงพอใจกัน งืมๆๆๆ - -" แก้ไขเมื่อ 12 ต.ค. 54 12:15:45 จากคุณ : A Boy From The Moon เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 54 12:09:56

ความคิดเห็นที่ 38 มาติดตามครับ เข้ามาพักเครียดจากน้ำท่วม จากคุณ : ยำปลากระป๋องใส่ซอสมะเขือเทศ เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 54 12:23:51

ความคิดเห็นที่ 39 31 กินได้ไมครับนั่นตัวใหญ่ไข่เยอะ จากคุณ : BangRon TUN เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 54 12:50:24

ความคิดเห็นที่ 40 ผมสงสัยอย่างหนึ่งครับ กบต้นไม้นี่ไม่มีช่วงการเป็นลุกอ๊อด ใช่ไหมครับ ออกจากไข่ก็เป็นตัวกบเลย เพราะไม่ได้วางไข่ไว้ในน้ำ จากคุณ : Singster เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 54 13:19:48

ความคิดเห็นที่ 41 กำลังงง หางกลม กะ หางเหลี่ยม อันไหนกินได้ อันไหนกินไมได้ฮะ? จากคุณ : เฮียมี่ เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 54 13:34:10

ความคิดเห็นที่ 42 ถ้วยกลมใส่ยาพิษ ถ้วยเหลี่ยมใส่น้ำดื่ม จากคุณ : minkexotic เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 54 15:19:53

ความคิดเห็นที่ 43 #41 หางเหลี่ยมกินได้จ้า(แมงดาจาน) เฉพาะไข่นะ อย่าไปแซะเนื้อตรงตัวมากินสุ่มสี่สุ่มห้า มีเส้นเมาอยู่เหมือนกัน แต่บางคนกินไปแล้วไม่เป็นอะไร บางคนกินแล้วเวียนหัว คลื่นไส้นิดหน่อย พิษไม่แรงเท่าแมงดาถ้วย(หางกลม) จากคุณ : MoonGlade เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 54 15:27:54

ความคิดเห็นที่ 44 แสดงว่าทฤษฏีวิวัฒนาการมีข้อยกเว้น มีหลายตัวอย่าง nature selection ไม่ได้ผลต่อการกระจายพันธุ์และการดำรงอยู่ต่อไป..น่าคิดน่ะครับ จากคุณ : appendiculata191 เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 54 15:41:41

ความคิดเห็นที่ 45 กั้ง ???? จากคุณ : มนุษย์ดาวอังคาร เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 54 15:59:50

ความคิดเห็นที่ 46 คห 44 เข้าใจผิดนะ นี่เป็นตัวอย่างที่สำคัญของสิ่งมีชีวิตที่มีความยืดหยุ่นสูง ปรับตัวเก่ง จึงอยู่รอดในสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลง นอกจากนี้อาจบ่งบอกได้อีกว่า ในบางพื้นที่ สภาพแวดล้อมมีความเปลี่ยนแปลงน้อย อย่างเช่นในทะเลทราย อย่างไรก็ตาม ตัวอย่างที่ยกมาเนี่ยไม่ค่อยมีคำบรรยายที่ทำให้เห็นภาพได้ว่า ทำไมมันจึงไม่เปลี่ยนแปลง จากคุณ : ชาลีฟ (ชาลีฟ) เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 54 16:15:33

ความคิดเห็นที่ 47 ภาพหาจากเน็ตครับ จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 54 16:20:47

ความคิดเห็นที่ 48 ข้อยกเว้นของวิวัฒนาการคือ ความสามารถในการเอาตัวรอดไงครับ ถ้าสภาพแวดล้อมเปลี่ยนไม่มาก และยังเอาตัวรอดได้ดี ก็จะรอด เหมือนนกโดโด ที่ไม่มีผู้ล่าตามธรรมชาติ พอมาเจอคน เล่นเอาสูญพันธ์ เพราะอ้วน จับง่าย จากคุณ : ขอเอาชื่ออากงเป็นเดิมพัน เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 54 16:23:00

ความคิดเห็นที่ 49 #31มาชุมนุมหาคู่ ทำไมเราไม่มีโอกาสแบบนั้นบ้างนะ ขอบคุณครับคุณเจ ลูกชายเป็นไงบ้างครับ จากคุณ : ช้างนาโน เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 54 16:34:59

ความคิดเห็นที่ 50 #45 คุ้นมากกๆ เลยครับ เป็นกั้ง จากร้านอาหาร ในเมืองเล็กๆชื่อ pengerang  ของ มาเลเซียใช่ไหมเนี่ย  คืดแล้วอร่อย อยากไปอีก เหอๆ จากคุณ : สักวันฉันจะอ้วนกลม เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 54 16:47:14

ความคิดเห็นที่ 51 http://www.wired.com/wiredscience/2011/10/living-relics/ สินะ จากคุณ : 0vvaynar0 เขียนเมื่อ : วันออกพรรษา 54 21:13:32

ความคิดเห็นที่ 52 ยำไข่แมงดา น่ากิน จากคุณ : ชินจัง..ชักจะชินแล้ว เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 54 02:08:02

ความคิดเห็นที่ 53 แก้ไขเมื่อ 13 ต.ค. 54 13:17:46 แก้ไขเมื่อ 13 ต.ค. 54 05:04:47 จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 54 05:04:06

ความคิดเห็นที่ 54 9...ฟอสซิล กุ้งฝอย(.The fossil shrimp)  ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ศ. อาวุโส  รอดนี่ย์ เฟลด์มานน์(Rodney Feldmann, professor emeritus),  และ รศ.  คาร์รีย์ ชไวเซอร์(Carrie Schweitzer, associate professor), แผนกวิชาธรณีวิทยา มหาวิทยาลัย รัฐเคนท์(Kent State University's Department of Geology)  ได้แจ้งให้ทราบว่า ฟอสซิลกุ้งฝอย(The fossil shrimp) ที่พบบนหินที่รัฐโอคลาโฮมา ความยาวประมาณ 3 นิ้ว มีอายุมากถึง 360 ล้านปี แลถือว่าเป็นฟอสซิลกุ้งฝอยที่เก่าแก่ที่สุดในโลกที่ถูกค้นพบ ซึ่งก่อนหน้านี้  ฟอสซิลกุ้งฝอย(The fossil shrimp)ที่เก่าแก่ที่สุดในโลกค้นพบที่มาดากัสการ์มีอายุแค่ 245 ล้านปี ภาพ ฟอสซิลกุ้งฝอย(The fossil shrimp) ที่เก่าแก่ที่สุดในโลกอายุ 360ล้านปี เปรียบเทียบกับกุ้งฝอยในปัจุบัน จะเห็นว่าลักษณะเหมือนกันมาก จากหลักฐานนี้ กุ้งฝอยจึงน่าจะถือได้ว่า เป็นสิ่งมีชีวิตคงสภาพดึกดำบรรพ์เช่นกัน แก้ไขเมื่อ 13 ต.ค. 54 07:46:44 แก้ไขเมื่อ 13 ต.ค. 54 07:41:29 แก้ไขเมื่อ 13 ต.ค. 54 06:43:49 แก้ไขเมื่อ 13 ต.ค. 54 06:18:11 แก้ไขเมื่อ 13 ต.ค. 54 05:51:00 แก้ไขเมื่อ 13 ต.ค. 54 05:50:24 จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 54 05:49:21

ความคิดเห็นที่ 55 associate professor ใช้คำไทยว่า รองศาสตราจารย์ ครับ คัวย่อ รศ. ศาสดราจารย์ ใช้ตัวย่อ ศ. ครับ กระทู้สนุกดีๆ ครับ จากคุณ : Maki Roll เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 54 07:16:46

ความคิดเห็นที่ 56 10.....นี้คือหนอนกำมะหยี่ Velvet worms หรือ onychophorans,สิ่งมีชีวิตคงสภาพดึกดำบรรพ์ซึ่งกำเนิดขึ้นในช่วงเวลา Cambrian ช่วงเวลาแรกของยุคPaleozoic( the Paleozoic Era )ประมาณ 530ล้านปีที่แล้ว หนอนกำมะหยี่กลายเป็นหนอนที่อาศัยอยู่ในดินเมื่อราว 250 ล้านปีที่แล้ว แต่ทุกวันนี้มีชีวิตรอดอยู่ได้ในที่มืดชื้นเท่านั้น เช่นอาศัยอยู่ในเศษใบไม้ในป่าของประเทศคอสตาริก้า (Costa Rica) ภาพนี้ถ่ายที่มหาวิทยาลัยฮัมบูร์ก the University of Hamburg in Hamburg ประเทศเยอรมัน Germany จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 54 07:38:48

ความคิดเห็นที่ 57 ค.ห.55 ขอบคุณครับ..ที่ช่วยแก้ไข..บางคำผมไม่ค่อยได้ใช้ก็นึกไม่ออกจริงๆ ขออนุญาตจบนะครับ....ครั้งต่อๆไปจะพยายามตั้งกระทู้ครั้งเดียวให้เสร็จไปเลย.. ขอบคุณทุกท่านที่เเวะเข้ามาอ่านและเเสดง ค.ห.. และข้อมุลต่างๆและรูปภาพบางส่วน มาจากกูเกิล วิกิพีเดียและเวปเหล่านี้ครับ http://www.wired.com/wiredscience/2011/10/living-relics/ http://australianmuseum.net.au/The-Pleistocene-Epoch http://science.nationalgeographic.com/wallpaper/science/photos/carboniferous-period/cockroach/ http://en.wikipedia.org/wiki/Carboniferous http://photography.nationalgeographic.com/photography/photo-of-the-day/velvet-worms-mazzatenta/ http://www.labspaces.net/107596/Professors_study_oldest_fossil_shrimp_preserved_with_muscles แก้ไขเมื่อ 13 ต.ค. 54 09:41:07 แก้ไขเมื่อ 13 ต.ค. 54 09:38:16 แก้ไขเมื่อ 13 ต.ค. 54 09:37:21 จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 54 07:48:51

ความคิดเห็นที่ 58 ^^ จากคุณ : wrought เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 54 09:51:01

ความคิดเห็นที่ 59 จบแล้ว แมงดาชนะเลิศ จากคุณ : กระป๋องด๋อย เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 54 10:21:05

ความคิดเห็นที่ 60 จากคุณ : jayaus  ความคิดเห็นที่ 53 ขอโทษถ้าทำให้คุณหงุดหงิด แต่ผมไม่ได้หงุดหงิดและไม่ได้สนใจว่าคุณจะลง Cr. หรือไม่ประการใด ผมแค่เคยอ่านผ่าน ๆ มาเห็นกระทู้คลับคล้ายคลับคลา ก็เลยแปะ link ไว้ให้แค่นั้น ไม่ได้มีจุดประสงค์อื่น คราวหน้าจะผ่านมาดูเฉย ๆ ก็แล้วกัน จากคุณ : 0vvaynar0 เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 54 12:50:15

ความคิดเห็นที่ 61 ค.ห 49 .คุณช้างนาโน.ขอบคุณครับที่ถามถึงลูกชาย(ยังไงถ้ายังติดตามกระทู้..คงได้เห็นพัฒนาการของลูกชายผม..จะมาเล่าให้ฟังเรื่อยๆครับ...เดี๋ยวลูกโตเมื่อไหร่จะให้มาตั้งกระทู้แทน ส่วนภาพนี้ไม่ใช่สิ่งมีชีวิตดึกดำบรรพ์นะครับ ...น้องโบดี้ลูกชายตอนนี้ อายุได้ 5สัปดาห์..เริ่มเป็นหนุ่มน้อยแล้ว...โตเร็วมากน้ำหนัก 4ก.ก กว่า่แล้ว ..แต่บอกได้คำเดียวยุ่งครับ ทั้งงาน ทั้ง เลี้ยงลูก เหนื่อยครับ..เพราะเลี้ยงกันเองกับแฟน 2 คนและเลี้ยงด้วย นมแม่เท่านั้น     ญาติๆทางเมืองไทยยังไม่มีใครเจอตัวจริงหลานเลย พอดีผมจะกลับเมืองไทยก็สงกรานต์ปีหน้า..กำลังชั่งใจอยู่จะกลับไปตกงานที่เมืองไทย.. หรืออยู่ออสเตรเลียต่อ... จากคุณ : jayaus เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 54 15:08:24

ความคิดเห็นที่ 62 รูปสุดท้ายน่ารักที่สุด จากคุณ : บ่ซ้ำแล้วเน้อ เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 54 16:50:04

ความคิดเห็นที่ 63 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 54 19:52:35

ความคิดเห็นที่ 64 ภาพที่ คห47 อร่อยที่สุด อยากกินๆ จากคุณ : nAHMLeMoN เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 54 21:43:34

ความคิดเห็นที่ 65 #31 ถ้ามาอยู่สมุทรสงคราม นะ แซ่บเว่อ !!! รับรองไม่เกิน 3 วัน เกลี้ยงหาด ค่ะ  อุคริอุคริ จากคุณ : chicagoindept เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 54 23:44:41

ความคิดเห็นที่ 66 ภาพ ปลากรอบ เครดิต อากู๋ จากคุณ : chicagoindept เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 54 23:46:12

ความคิดเห็นที่ 67 นี่มัน คาบูโตะ จากคุณ : kenjiwinness เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 54 12:43:14

ความคิดเห็นที่ 68 แมงดานี่ ผมว่าดีไซด์มันสุดยอดเลยนะ ธรรมชาติสร้างสรรค์ จากคุณ : golf s. เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 54 19:26:40

ความคิดเห็นที่ 69 ผมเห็นแมงดาทีไร ผมจะนึกถึง Facehugger ทุกที XD จากคุณ : Evanescent เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 54 02:11:26

ความคิดเห็นที่ 70 ยังมีตัวทัวทาร่าอีก ที่มีเฉพาะในนิวซีแลนด์อ่ะ........... จากคุณ : Antornz เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 54 11:35:27

ความคิดเห็นที่ 71 สิ่งมีชีวิตโบราณคงอร่อยเนอะ  ดูจากแมงดาทะเล 55 จากคุณ : คุ้มข้าวกล้อง เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 54 14:20:17

ความคิดเห็นที่ 72 โลกของเรานี้มีอะไรที่ยังไม่รู้อีกเยอะนะครับ จากคุณ : นกกระทาแว่น (นกกระทาแว่น) เขียนเมื่อ : 15 ต.ค. 54 22:10:47

ความคิดเห็นที่ 73 ภาพ  ,,ความคิดเห็นที่ 69 ดูแว๊บๆ เหมือนในเกม half-life เลยฮะ* จากคุณ : oDKo เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 05:03:13

ความคิดเห็นที่ 74 กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด facehuggers!!!!  สยอง ดูทีไรก็บรึ๋ยๆทุกที จากคุณ : cashmamamia เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 05:07:17

ความคิดเห็นที่ 75 ฟอสซิลแมงดาทะเล หรือ TRILOBITE เป็นฟอสซิลที่อายุเก่าแก่มากที่สุดที่พบ อยู่ในเมืองไทย พบในหินทรายที่เรียกว่ากลุ่มหินตะรุเตา บริเวณเกาะตะรุเตา จังหวัดสตูล แต่ก็ยังพบTRILOBITE ที่มีอายุอ่อนกว่าที่ตะรุเตาอีกหลายๆที่ เช่นที่จังหวัดเลย เป็นต้น จากคุณ : กุหลาบเก่าเฉาแต่ไม่ตาย เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 09:32:54

ความคิดเห็นที่ 76 #30-31  เห็นแล้วเปรี้ยวปาก จากคุณ : ทังโคริริน เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 21:46:26

ความคิดเห็นที่ 77 จากคุณ : ^__^ (เซ็งอูฐ) เขียนเมื่อ : 17 ต.ค. 54 09:18:53

ความคิดเห็นที่ 78 พวก Living fossil นี้ สารพันธุกรรมของมันเปลี่ยนไปตามกาลเวลาหรือเปล่า? จากคุณ : Ophiophagus เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 54 22:20:28 A:180.183.5.152 X: TicketID:284070