ความคิดเห็นที่ 1 คนเขาไม่รู้ อย่าไปว่าเขาเลยครับ จากคุณ : แอ๊บแบ๊ว เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 07:49:35 A:125.27.126.139 X: TicketID:294750

ความคิดเห็นที่ 2 ไม่รู้ก็รู้จักเงียบแล้ว ฟัง น่าจะดีกว่า จากคุณ : nn_hunter เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 07:56:34

ความคิดเห็นที่ 3 เป็นบทเรียน   สำหรับบุคคลากรในพันทิพประจำห้องหว้ากอ  ...ที่ปราบดาตัวเองว่าเป็นผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน "เทคโนโลยี องค์ความรู้  บางทีก็ไม่มีในตำราเรียนนะครับ" สำหรับผม  "ไม่ขอโทษ"  เพราะผมเห็นด้วย  ตามลิงค์ที่ให้เหตุผลไป คห.9  ในลิงค์ http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X11156743/X11156743.html จากคุณ : Zaytsev เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 07:58:12

ความคิดเห็นที่ 4 มีคนพยายามอธิบายด้วยเหตุผล หลายครั้งเช่นคุณต้นกลเรือ แต่มีพวกที่อยุ่คนละฝั่งกับรัฐบาลมาบอกว่าไม่ได้ผลโดยใช้ความเชื่อ เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ครับ จากคุณ : เขียนบน iPad (BEWOLF) เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 08:19:07

ความคิดเห็นที่ 5 เขาก็ไม่ได้เถียงว่าไม่ช่วยอะไรนิคะ แต่การที่น้ำวิ่งเร็วขึ้น 0.000001% มันไม่ส่งผลอะไรสักเท่าไหร่ในสเกลมหภาค ถ้าอยากรู้จริง ลองไปวัดความเร็วของกระแสน้ำ ณ ปากแม่น้ำ ในขณะที่เดินเครื่องเรือ กับหยุดเดินเครื่องเรือ แล้วเทียบกัน อันนี้ละของจริงว่า เรือมันช่วยได้สักเท่าไหร่ ขำที่ นสพ.บางแห่งลงให้ข่าวว่า ช่วยให้น้ำไหลเร็วขึ้น 30% บ้าง บางที่ยิ่งหนัก บอกว่า เร็วขึ้น 2-3 เท่าบ้าง นี่ถ้าเพิ่มเรือเป็นสามเท่า สงสัยน้ำแห้งแม่น้ำในพริบตา จากคุณ : แ ต ง ก ว า * เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 08:23:55

ความคิดเห็นที่ 6 ไม่ต้องออกมาขอโทษหรอก เวลาเท่านั้นจะบอกได้ จากคุณ : jinks2000 เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 08:25:00

ความคิดเห็นที่ 7 ผมเห็นด้วยมาตลอด จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 08:30:34

ความคิดเห็นที่ 8 ความคิดเห็นที่ 5 ^ ^ จบวิทย์มาหรือเปล่าครับ  หรือจบคหกรรม   การวัดอัตราเร็วการไหลของน้ำเขาวัดกันที่  ปริมาตร/หน่วยเวลา "คุณเล่นเอาระยะทางจากปากน้ำมาเป็นตัววัดความเร็ว"  บ้าไปแล้ว จากคุณ : Zaytsev เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 08:30:52

ความคิดเห็นที่ 9 แค่ดูจากภาพบอกอะไรไม่ได้หรอกครับ ที่ไหลแรงๆอาจจะเป็นแค่ผิวน้ำก็ได้ จากคุณ : SmokedSalmon เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 08:31:12

ความคิดเห็นที่ 10 ให้ไหลเร็วสามเท่า ต้องเรือสีแดงติดเขา จากคุณ : RX-93 เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 08:33:31

ความคิดเห็นที่ 11 ดูจากภาพไม่ได้ ต้องดูจากปริมาณน้ำ/วิ ในส่วนที่ปลายน้ำ จากคุณ : *Cookies* เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 08:41:50

ความคิดเห็นที่ 12 ถึงคห 8 (Zaytsev) อ่าน คห 5 ให้ดีๆก่อนจะด่าเค้าสิครับ   คห 5 เค้าก็อธิบายเรื่องการวัดประสิทธิภาพการระบายน้ำได้โอเคแล้ว คือให้วัดความเร็วของกระแสน้ำที่ปากแม่น้ำ ความเร็ว*พื้นที่หน้าตัด = ปริมาตร/หน่อยเวลา  ไงครับ   - -"   อย่าลืมขอโทษความเห็นที่ 5 ด้วยนะครับ  คุณ Zaytsev   :P จากคุณ : รักต้องการเวลา เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 08:44:23

ความคิดเห็นที่ 13 เท่าที่ดูข่าว เค้าว่าปริมาตรน้ำที่ไหลผ่านเร็วขึ้น 10-20 เปอร์เซ็นต์ครับ ไม่ใช่แค่ผิวน้ำ จากคุณ : Mea Culpa เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 08:44:34

ความคิดเห็นที่ 14 อิอิ ถ้าทฏษฎีนี้ถูกใช้โดยรัฐบาลที่แล้ว  หลายๆคนที่เคยค้านก็จะบอกว่า มันจะไหลออกจากปากแม่น้ำเร็วมากค่ะ ในขณะที่ฝ่ายที่เคยบอกเร็วและเกลียดอีกฝ่ายก็จะบอกไปว่า มันไม่ได้ช่วยไรเลย ทั้งๆที่ของพวกนี้มันวิทยาศาสตร์ล้วนๆ เคยทดลองมากันแล้ว Thailand only จริงๆ จากคุณ : ปีศาจValkyrie เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 08:47:27

ความคิดเห็นที่ 15 ไหลเร็วขึ้นอยู่แล้ว แต่ไหลเร็วขึ้นมากพอจะมี "นัยสำคัญ" หรือเปล่า และคุ้มค่ากับทรัพยากรที่เสียไปหรือไม่ อุปมาเหมือนไปช่วยกันเยี่ยวรดให้อีสานเขียว 1. ดูไหลเร็วแค่ที่ผิวหรือเปล่า ข้างล่างมันอาจไหลไม่เร็วเหมือนข้างบนก็ได้ 2. ของไหลยิ่งไหลเร็วก็ยิ่งมีความหนืดสูง มันไหลเร็วช่วงนี้ อีกสัก 100 เมตรถัดไปทางปลายน้ำ ความเร็วมันก็ตกแล้ว 3. ถ้าดีจริง อยากเห็นตัวอย่างที่ต่างประเทศใช้ ไม่ใช่จะบอกว่าคนไทยคิดอะไรเองไม่เป็น แต่เรื่องพรรค์นี้มันไม่ใช่เรื่องยาก ถ้ามันใช้ได้จริง ต้องมีคนนำไปใช้มาก่อนหน้านี้แล้ว 4. เรื่องพวกการไหล เรื่องพวกนี้เป็นวิทยาศาสตร์ เขาออกแบบโมเดลจำลองคอมพิวเตอร์ได้ ถามว่าก่อนปฏิบัติจริงเนี่ยได้ทำโมดงโมเดลไรเนี่ยขึ้นมาบ้างเปล่า จากคุณ : ธีรภัทร์2 เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 08:50:22

ความคิดเห็นที่ 16 ไอ้เราก็นั่งเฉยๆอยู่บ้าน ไม่ได้เจอแรงกดดันเหมือนคนทำงานเค้า เราจะพูดยังไงก็พูดได้ แต่เมื่อวิกฤติมันเข้ามาหนักขนาดนี้ เร็วขนาดนี้ หาวิธีป้องกันแทบจะทุกทางแล้ว เป็นใครจะไม่เสี่ยงลองทำวิธีอื่นดูล่ะครับ ผมว่ารัฐเค้าก็พยายามทุกทางแล้ว จะได้ผลหรือไม่ ไม่มีเวลามานั่งศึกษาหรอก ทำอะไรได้ก็ทำเลย แม้มันจะช่วยได้น้อยแต่ก็ยังดีกว่านั่งงงๆ ไม่ทำอะไรซักอย่าง จากคุณ : Mea Culpa เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 08:59:40

ความคิดเห็นที่ 17 ไม่มีตัวเลขวัดบอกหน่อยหรือ หรือแค่ตาดูก็เชื่อแล้วแบบ เห็นพญานาคมันพ่นไฟ จากคุณ : A... เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 09:05:31

ความคิดเห็นที่ 18 ผมว่าหลักการมันคล้ายๆกับพัดลมชนิดใหม่นี่ คือ ถ้าริมแม่น้ำมีการผลักดันน้ำให้เคลื่อนที่เร็วขึ้น จะช่วยทำให้น้ำในแม่น้ำทั้งสายเคลื่อนที่เร็วขึ้นด้วย แถมมีลักษณะแบบทวีคูณอีกต่างหาก ไปดูเลยว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไงกัน จากคุณ : แมวเจ้าสำราญ เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 09:12:41

ความคิดเห็นที่ 19 บางคนก็นะ อ่านไม่ได้ศัพท์ก็มี พยายามลากเข้าการเมืองก็มี ปล. อย่าว่าแต่ 10% เลยนะเจ้าคะ  ลำพังแค่ 0.000001% ยังไม่รู้จะถึงรึป่าวเลย จากคุณ : แ ต ง ก ว า * เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 09:12:54

ความคิดเห็นที่ 20 ความคิดเห็นที่ 5     นี่ถ้าเพิ่มเรือเป็นสามเท่า สงสัยน้ำแห้งแม่น้ำในพริบตา   5555555 คิดไปได้  สุดยอดตรรกะจริงๆ   เชิญมาออกความเห็นบ่อยๆนะครับ เพราะความเห็นของคุณสร้างความบันเทิงแก่ผมทุกครั้งเลย  แบบว่าอ่านเอารส ไม่ได้อ่านเอาเรื่อง จากคุณ : Mikoyan เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 09:13:06

ความคิดเห็นที่ 21 ใครอยากเจอตัวเป็นๆ แตงกวาบ้าง ดูซิจะเก่งเหมือนกดแป้น keyboard หรือป่าว จากคุณ : ซิมเปิ้ลแมน เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 09:15:32

ความคิดเห็นที่ 22 ู^ ผมว่าเขาประชดนะ = = มันต้องดูตัวเลขเปรียบเทียบ แน่นอนว่ามันช่วยได้ แต่มันช่วยได้เท่าไหรมันต้องวัดออกมา จากคุณ : KeyboardWarrior เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 09:20:49

ความคิดเห็นที่ 23 กำลังงงว่าหายไปจากหว้ากอาสักพัก พอกลับมาทำไมพวกเลือดแดงมันเยอะขึ้นจังเลยฟระ อย่าง คห บนเนี่ยสงสัยจะเก่งจัด อยู่ๆก็ท้าคนที่ออกความเห็นแบบปกติมาเจอตัว ผมก็ไม่รู้ว่าป้าแตงตัวจริงจะเป็นแบบไหน แต่ตัวจริงผมเก่งเหมือนกับที่กด Keyboard หล่ะ อยากเจอตัวก็มาเยี่ยมที่ นราธิวาสได้เสมอครับ จากคุณ : ธุลีดาว เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 09:26:05

ความคิดเห็นที่ 24 อ้าว ผมดูข่าวเค้าก็ดันได้เพิ่มประมาณ 10% นิครับ ที่คลองลัดโพธิ์วัดปริมาณน้ำออกกับน้ำเข้าน่ะครับ จากคุณ : Faxes เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 09:30:42

ความคิดเห็นที่ 25 1. ดูไหลเร็วแค่ที่ผิวหรือเปล่า ข้างล่างมันอาจไหลไม่เร็วเหมือนข้างบนก็ได้ ข้างล่างมันต้องไหลช้ากว่าอย่าแล้วเพราะพื้นมีแรงเสียดทาน ไม่รู้จัก boundary layer หรอครับ 2. ของไหลยิ่งไหลเร็วก็ยิ่งมีความหนืดสูง มันไหลเร็วช่วงนี้ อีกสัก 100 เมตรถัดไปทางปลายน้ำ ความเร็วมันก็ตกแล้ว ยังงัยความเร็วมันก็ไม่ตกอยู่แล้วเพราะน้ำข้างหลังดันมา มันจะต้านอยู่ได้ยังงัย 3. ถ้าดีจริง อยากเห็นตัวอย่างที่ต่างประเทศใช้ ไม่ใช่จะบอกว่าคนไทยคิดอะไรเองไม่เป็น แต่เรื่องพรรค์นี้มันไม่ใช่เรื่องยาก ถ้ามันใช้ได้จริง ต้องมีคนนำไปใช้มาก่อนหน้านี้แล้ว ข้อนี้แสดงความโง่ได้ชัดเจนมากครับ ทุกอย่างต้องมีครั้งแรก ทำไมต้องมีคนใช้ก่อนหน้านี้ 4. เรื่องพวกการไหล เรื่องพวกนี้เป็นวิทยาศาสตร์ เขาออกแบบโมเดลจำลองคอมพิวเตอร์ได้ ถามว่าก่อนปฏิบัติจริงเนี่ยได้ทำโมดงโมเดลไรเนี่ยขึ้นมาบ้างเปล่า เวลาชาวบ้านเดือดร้อน มัวแต่ใจเย็นทำโมเดล บ้าไปแล้ว มันแสดงเห็นได้ชัดว่าพูดด้วยอคติล้วนๆเลย แต่ทำเป็นอ้างวิทยาศาสตร์ จากคุณ : psybuster เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 09:31:13

ความคิดเห็นที่ 26 ดูยังไงว่าเลือดแดงอ่ะครับ เห็นด้วยกับแนวคิดรัฐบาล = เลือดแดง ? ตรรกะแบบนี้หายไปต่อน่ะดีแล้วครับ จากคุณ : EvaNe เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 09:31:44

ความคิดเห็นที่ 27 ความคิดเห็นที่ 12 ผมจะขอโทษทำไม  ในเมื่อผมก็อธิบายในวิทยาศาสตร์   ในเมื่อเขาต้องการวัดที่ระยะปากน้ำ ก็ต้องไปวัดในหน่วยระยะ T  จุดหนึ่ง  กฏการเคลื่อนที่แนวตรงมันก็อธิบายชัดเจน กฏของเหลวของไหล ก็อธิบายชัดเจน    .... จากคุณ : Zaytsev เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 09:38:04

ความคิดเห็นที่ 28 เถียงยังไงก็ไม่จบเพราะไม่มีใครมีข้อมูลหรอกครับ จากคุณ : N52 เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 09:38:30

ความคิดเห็นที่ 29 ตามความคิดเห็นที 5 เลยครับน้ำมันไม่มีทางไหลได้เลยครับ ด้วยวิธีการดันน้ำแบบนี้ เพราะอคติมันไปขวางทางน้ำ ทำอย่างไรน้ำมันก็ไม่ทางไหลออกไปครับ ความคิดเห็นที่ 15 เห็นพูดเรื่องโมเดลๆ น่าจะรู้จัก CFD นะครับ เก่งๆแบบคุณเนี่ยถ้ารันโมเดลออกมาได้ก็ดีนะครับ จะได้ไปบอกเค้าได้ว่าอย่าทำเลยไม่มีผลหรอก ดีกว่าพิมพ์บั่นทอนจิตใจคนอื่นไปวันๆนะครับ อ้อแล้วที่ให้คนนั้นคนนี้หาโมเดลมาให้ดู ผมว่าสู้คุณหาโมเดลที่บอกว่าทำแบบนี้แล้วไม่มีผลมาให้ดูบ้างสิครับ ^^ จากคุณ : 9 (apexthai) เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 09:38:51

ความคิดเห็นที่ 30 อ่านดูแล้ว แตงกวาไม่ได้พูดผิดอะไรนะ จากคุณ : หัวโตนะ เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 09:41:12

ความคิดเห็นที่ 32 อ่า  คนที่บอกว่าเร็วอย่างเห็นได้ชัดโดยดูแค่ผิวน้ำท้ายเรือก็ไม่ได้เป็นวิทย์สักเท่าไหร่หรอกครับ อย่างน้อยมันก็ต้องไปวัดอัตราการไหลหลังจากที่มันพ้นท้ายเรือไปสักระยะหนึ่ง (ให้ผู้เชี่ยวชาญด้าน fluid mechanic เค้าพิจารณา) แต่ถ้าตัวเลข 10-20% คือที่ปากแม่น้ำ  หรือพ้นท้ายเรือไปหลายๆ กิโลเมตรแล้วผมคิดว่าก็ ok ยอมรับได้ว่ามันมีนัยสำคัญอยู่พอสมควร จากคุณ : rujipars (rujipars_a) เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 09:42:39

ความคิดเห็นที่ 33 ขออีกนิดนะแตงกวาผมก็อยากเจอตัวจริงนะถ้ามีมีทติ้งอยากเห็นจริงๆ ตัวจริงเขาเป็นยังไงอ่านความเห็นเขาทีไรฮากลิ้งทุกที อารมณ์ดีเขาก็ตอบดีๆแต่ช่วงปลายเดือนคงเป็นวันแดงเดือดแตงก็จะเป็นอีกคน ตอบได้มั่วรุนแรงดังนั้นไครอ่านต้องเลือกเสพเอา แต่ปัญหาคือจะแยกได้อย่างไรวันใหนตอบดีๆวันใหนอยากเอาแต่ใจ จากคุณ : V2M เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 09:46:33 A:27.130.190.59 X: TicketID:305129

ความคิดเห็นที่ 34 คห 27 ไม่เข้าใจตรงนี้เท่าไหร่ครับ "ในเมื่อเขาต้องการวัดที่ระยะปากน้ำ ก็ต้องไปวัดในหน่วยระยะ T  จุดหนึ่ง"   คห 5 เค้าวัดความเร็วน้ำที่ปากแม่น้ำไม่ใช่หรอครับ จะได้รู้ๆกันไปเลยว่าน้ำระบายออกจากปากแม่น้ำด้วยความเร็วเพิ่มขึ้นเท่าไหร่ แล้วทำไมต้องไปวัดในหน่วยระยะอะไรด้วย แต่จริงๆ ผมว่าไหนๆเราก็จะเอาเรือไปเดินเครื่องแล้ว  เราก็น่าจะมีการเก็บข้อมูลความเร็วน้ำในบริเวณต่างๆของพื้นที่หน้าตัดแม่น้ำ(ผิวน้ำ ใจกลางแม่น้ำ ก้นแม่น้ำ ขอบแม่น้ำ)  ที่จุดต่างๆของแม่น้ำ รวมทั้งที่ปากแม่น้ำด้วย   จะได้รู้ว่ามันมีผลมากน้อยขนาดไหน  ครั้งต่อไปจะได้พิจารณาได้ว่าสมควรใช้อีกครั้งรึเปล่า  แล้วก็จะได้รู้ๆกันไปเลยด้วยว่าความจริงๆมันเป็นยังไง  ผมว่ามันไม่ผิดหรอกครับที่คนเราจะถกเถียงกันเรื่องที่ยังไม่มีใครรู้  แต่มันจะผิดมากถ้าเรามีโอกาสไขปริศนานั้น แต่เรากลับปล่อยโอกาสไปโดยไม่ทำอะไรเลย  (แต่ถึงพูดอย่างนั้น ผมก็ทำอะไรไม่ได้ครับ เพราะอยู่ไกล(มาก) ประกอบกับไม่มีกำลังและอุปกรณ์ในการทำ  แต่อยากให้กลุ่มใดองค์การใดที่สามารถทำได้ ลงมือทำครับ เพราะมันจะเป็นประโยชน์มาก) จากคุณ : รักต้องการเวลา เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 09:56:00

ความคิดเห็นที่ 35 มีแต่คนโจมตีคุณแตงกวา อ่านๆ มาก็ไม่เห็นจะพูดผิดอะไร ผมค่อนข้างเห็นด้วยกับคุณแตงกวานะ ไปอ่านข่าวหรือฟังข่าวมา มันเชื่อไม่ได้ 100% หรอก ฟังไว้แต่อย่าไปเชื่อทั้งหมด เพราะแหล่งข่าวแต่ละแหล่งตัวเลขก็ไม่เท่ากัน จากในกระทู้นี้ ตัวเลขยังไม่เท่ากันเลย ผมก็เคยได้ยินว่า 2 เท่า แล้วคุณจะเชื่อทั้งหมดนี้เลยเหรอ แล้วตัวเลขไหนคือตัวเลขจริง ดูสเกลแล้ว มันเทียบกันไม่ได้เลยนะ เรือโดยสารลำเล็กๆ เมื่อเทียบกับแม่น้ำ 1000 ลำ ต้องมาดันน้ำตลอดแนวความยาวแม่น้ำ ถ้าเรือบรรทุกเครื่องบิน usa ซัก 1000 ลำละผมจะเชื่อ จากคุณ : ^oio^ เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 09:56:11

ความคิดเห็นที่ 36 เห็นน้ำไหลท้ายเรือตอนเรือเดินเครื่อง แล้วเคยเห็นน้ำไหลที่จุดนั้นตอนไม่มีเรือหรือเปล่า ครับ การวัดอัตราการไหล จะใช้พื้นที่หน้าตัดคูณความเร็ว แต่เนื่องจากการไหลในทางน้ำเปิด ความเร็วของน้ำในแต่ละตำแหน่งมีค่าไม่เท่ากัน สาเหตุหลักก็คือ แรงต้านทานการไหลจากผิวสัมผัส ดังนั้นหากมีการเพิ่มความเร็วของกระแสน้ำได้อย่างมีนัยยะ ซัก 5-10% ความลึกของน้ำเหนือจุดสังเกต (หน้าใบพัด) ซึ่งเมื่อระดับน้ำลดลง ความลาดของผิวน้ำก็จะชันขึ้น  ส่งผลให้ความเร็วน้ำเหนือจุดสังเกตเพิ่มตามไปด้วย จนกว่าจะถึงจุดสมดุล ซึ่งหากอยากทราบว่าได้ผลหรือไม่ ก็ลองสังเกตอัตราการไหลที่ผ่านสถานีวัดน้ำที่บางไทรดู ย้อนหลังไปก่อนเดินเครื่องเรือ อย่าเอาความรู้สึกมาเป็นตัววัด สำหรับ คคห.8  ผมว่าน่าจะกลับเป็นเรียนอ่านไทยมาใหม่ นะครับ จากคุณ : Waterman (LN106) เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 09:56:41

ความคิดเห็นที่ 38 อ.ธนวัฒน์ จารุพงษ์สกุล จาก จุฬาฯ และ อ.เสรี ศุภราทิตย์ จาก ม.รังสิต กล่าวว่า โครงการเรือดันน้ำจะได้ผล ก็ต่อเมื่อ จุดที่ดันน้ำนั้น เป็นแม่น้ำแคบๆ เช่น แม่น้ำท่าจีน หรือตามคลองต่างๆเท่านั้น ไม่ใช่เอาไปดันกันในแม่น้ำเจ้าพระยาทั้งเส้น แบบดื้อๆ นึกจะดันตรงไหนก็ดัน จากคุณ : พิงค์วู เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 10:02:18

ความคิดเห็นที่ 39 ลองทดสอบกันดู ดีมั้ย จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 10:12:27

ความคิดเห็นที่ 40 มาบอกข่าวผู้สนใจว่าวันนี้ช่อง NBT กำลังถ่ายทอดสดการใช้เรือช่วยผลักดันน้ำลงทะเล "เรือประชาอาสาดันน้ำออกทะเล" มีเรือกว่าหนึ่งพันลำจากของทั้งภาครัฐและประชาชนมาช่วยกัน และจะรายงานข่าวทั้งวันค่ะ ลองติดตามกันดู จากที่ประธานอ่านรายงานต่อนายกคาดว่าจะดันน้ำเพิ่มได้อีกวันละ 50 ล้านลบม.จากเดิม 500 ล้าน ลบม.(เพิ่มอีก 10%)ค่ะ ไม่ทราบจริงๆเหมือนกันว่าได้ตามนั้นหรือไม่ จากคุณ : หมูเหมียว เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 10:20:14

ความคิดเห็นที่ 41 ผมคิดว่าถ้ามวลน้ำที่ถูกเร่งมากกว่ามวลน้ำที่ไหลตามปกติ น้ำก็ไหลเร็วขึ้น จากคุณ : massacre เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 10:21:04

ความคิดเห็นที่ 42 ความคิดเห็นที่ 36   ^ ผมความเห็นที่ 8 ครับ    จะให้ผมไปเรียนภาษาไทยใหม่    อ้อไม่ต้องครับ   เพราะภาษาคีย์บอร์ดที่ถูกไวยกรณ์สละสลวย มันไม่ได้ให้ผมฉลาดหรือเรียนรู้อะไรใหม่ๆขึ้นมาเลย    ... และผมก็ไม่ได้รักหรือคลั่งไคล้ภาษาไทยมากจนต้องแ หกตูดดมซะขนาดนั้น จากคุณ : Zaytsev เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 10:21:26

ความคิดเห็นที่ 43 ตอนนี้ ช่วยได้เท่าไหร่ แล้วครับ แล้วถ้าเปลี่ยนจาก ผูกเรือให้อยู่กัยที่ กับ ใช้วิธี แล่นเรื่อทวนน้ำ เป็นขบวนใหญ่ แล้ล่องลงมา แล้่วกลับขึ้นไปอีก จะได้มั๊ย จากคุณ : O_B เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 10:22:24 A:182.255.13.33 X: TicketID:330044

ความคิดเห็นที่ 45 เร็วขึ้น 0.000001%  ก็ถือว่าเร็วขึ้นนะครับ ถ้าคนรู้จักคุณกำลังจะตาย   แล้วมีวิธีรักษาที่ช่วยให้มีอากรารดีขึ้น โอกาสรอดเพิมอีก 0.000001%  และคุณมีเงินจ่ายค่ารักษา   คุณจะทำไหม จริงอยู่  บางทีอาจดูไม่คุ้ม   แต่ทำไมไม่ลองล่ะ แล้วมีใครเสนอวิธีที่ทำได้ทันที และได้ผลกว่านี้ เสียหายน้อยกว่านี้ไหม จากคุณ : AIM-9X เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 10:28:45

ความคิดเห็นที่ 46 การเอาเรือดันน้ำ เนี่ย ผมเห็นมาตั้งแต่สมัยน้ำท่วมกทม ยุคมหาจำลองแล้วนะครับ ไม่ใช่ของรัฐบาลนี้หรอก แต่ศัพท์ "เรือดันน้ำ" เนี่ยยุคนี้ สมัยก่อนเอาเรือหางยาวติดเครื่องไปดันน้ำครับ จากคุณ : bangkokguy เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 10:31:12

ความคิดเห็นที่ 47 EvaNe เห็นด้วยกับรัฐ = เลือดแดง ไม่ใช่ตรรกของผม เพราะคนที่เลือกรัฐชุดนี้แต่ไม่ใช่แดงก็มีไม่น้อย แต่ไอ้พวกที่พูดว่า ไม่เห็นด้วยกับรัฐ = เหลือง นั่นน่ะแดงเลือดควายชัวว์ครับ งานหลักผมคือค้าขาย หากว่ารัฐไหนมาแล้วทำให้ค้าขายง่ายขึ้นผมก็พร้อมจะตอบสนองนโยบาย และที่หายไปนานเพราะช่วงนี้งานยุ่งเท่านั้นแหละ จากคุณ : ธุลีดาว เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 10:34:42

ความคิดเห็นที่ 48 เซงวะ จากคุณ : Serial_Nuber เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 10:36:50

ความคิดเห็นที่ 49 ฟังผมและขอให้จบ อย่างที่เคยยืนยัน นำ้จะยังคงไหลเร็ว เมื่อมันยังคงเหลือพลังงานจล ที่ได้รับ จะเร็วทั้งระบบ หรือเร็วแค่จุดสังเกตุ จะถึงปาดอ่าวหรือเปล่าผมก็ไม่อาจรู้ วัดกันที่ปากอ่าว จะไหลปรีดลงปากอ่าวหรือจะเอ่อท่วมชายฝั่งและย้อนขึ้น บนบก แผ่กองอยู่อย่างนั้น แล้วรอช่วงน้ำลงมาดูดซับลงไป เพราะว่ามันผิดธรรมชาติ คุณอัดผิวน้ำแต่ไม่ขยายร่องน้ำ ไม่เคยคิดขยายปากอ่าว คุณจะมา OverClock CPUปี2018 เพื่อจะมาใช้กับwindow98แล้วเล่นมาริโอ้ เปิดMs word แล้วโพทะนาว่านักคิดคนอื่น ว่ามันเร็วขึ้น ผมรับไม่ได้ จากคุณ : หัวฟูหูกาง (หัวฟูหูกาง) เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 10:39:16

ความคิดเห็นที่ 50 ลืมคำว่า ขอโทษได้เลย เพราะขอไป ก็คงไม่ได้รับโทษตามคำขอ ให้ความจริงลงโทษโดยไม่ต้องขอดีกว่า จากคุณ : ความจริงเท่านั้นยิ่งใหญ่ เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 10:40:28 A:61.90.83.27 X: TicketID:332671

ความคิดเห็นที่ 51 ทำไมต้องขอโทษครับ เจ้าของกระทู้ ประเทศเราเป็นเผด็จการแล้วหรือ  ต่างฝ่าย ต่างมีความคิดเห็นและเหตุผลของตนเอง เห็นต่าง เห็นแย้ง  ทำให้เกิดการพัฒนาได้ถ้าใจกว้าง และไม่เอาอคติทางการเมืองเป็นที่ตั้ง ความเห็นส่วนตัวผมว่า ทำไปก็ช่วยได้ส่วนหนึ่ง ถ้าทำในพวกคลองระบายน้ำต่างๆ น่าจะเห็นผลชัดเจนกว่า ยามเกิดภัยพิบัติแบบนี้   อคติทางการเมืองแต่ละฝ่ายลดลงบ้าง  ใช้คนให้ถูกกับงานประชาชนจะได้ประโยชน์ครับ   จากคุณ : ชื่อสมาชิก เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 10:45:05

ความคิดเห็นที่ 52 บางทีการไม่ทำอะไรเลยจะส่งผลที่ดีกว่าการทำอะไรที่ไม่มีประสิทธิภาพ (จากมุมมองของเศรษฐศาสตร์) เพราะ Opportunity Cost มันเกินกว่าทรัพยากรที่เราลงไป แต่เรื่องเรือดันน้ำเนี่ยผมยังไม่แน่ใจเพราะบทสรุปมันไม่มี ไม่มีการวัดอัตราไหลของน้ำที่จุดต่างๆก่อนและหลังเอาเรือไปวาง จากคุณ : Nexus เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 10:47:39

ความคิดเห็นที่ 53 เอาจริงๆ แบบไม่ใส่สี ใส่ไข่เลยนะ กระทู้นี้ ความคิดเห็นที่ 8 นอกจากโชว์ควายแล้วยัง โชว์เกรียนอีก จากคุณ : like_that เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 10:50:37

ความคิดเห็นที่ 54 ผมไม่เข้าใจว่าจะไปว่าคุณแตงกวาทำไม ปกติผมไม่ค่อยเห็นด้วยกับคุณแตงกวาในหลายกระทู้นะ แต่กระทู้นี้ก็เห็นเธอตอบดีๆ นี่หน่า ส่วนเรื่องช่วยได้หรือไม่ ผมว่าคงมีผลบ้าง แต่จะคุ้มหรือไม่ก็อีกเรื่องหนึ่งผล ถ้าอยากรู้ก็ต้องวัด กันที่ปากแม่น้ำครับ จะใช้แค่ความรู้สึกมาวัดมันไม่ได้หรอก จากคุณ : หวาก เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 10:59:43

ความคิดเห็นที่ 55 ตอนนี้จะเลือดอะไรก็คนไทยเหมือนกัน ช่วยอะไรได้ก็ช่วยกันไป ดีกว่าพวกมือไม่พายเอาเท้าราน้ำ ซึ่งผมเห็นเยอะแถวนี้ จากคุณ : ซิมเปิ้ลแมน เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 11:05:02

ความคิดเห็นที่ 56 ถ้าดันน้ำตอนน้ำลง จะทำให้น้ำใหลเร็วกว่าปกติมาก แต่ถ้าดันตอนน้ำขึ้นไม่ใด้ผลครับ แต่เรื่องนี้ ท่านปลอด ท่านคงจะรู้ดี เพราะท่านเคยเป็น อธิบดีกรมประมงค์เก่า แต่ส่วนตัวเห็นด้วยกับการดันน้ำครั้งนี้ จากคุณ : เฮโรด (Youth In Asia) เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 11:05:51

ความคิดเห็นที่ 57 นี่ก็ไม่จริงอีกเหมือนกัน ---> "ที่คลองลัดโพธิ์วัดปริมาณน้ำออกกับน้ำเข้า" ถ้าวัดแบบนี้ มันก็ต้องเท่ากันล่ะ เพราะถ้าน้ำเข้ามากกว่าน้ำออก น้ำก็ท่วมตลิ่ง ถ้าน้ำออกมากกว่าน้ำเข้า คลองก็แห้งขอด ซึ่งไม่เป็นจริงทั้งคู่ ซึ่งอันที่ถูกคือ น้ำเข้าเท่ากับน้ำออก แต่น้ำผ่านคลองเร็วขึ้น แค่นั้นเอง ดังนั้น จึงต้องวัดความเร็วน้ำที่ปลายทาง เทียบกันระหว่าง ตอนเดินเครื่อง กับตอนหยุดเดินเครื่อง หาค่าเฉลี่ยออกมาเท่านั้น เจ้าค่ะ การจะไปวัดความเร็วรอบของเครื่องยนต์ หรือการวัดความเร็วท้ายใบจักร หรือการวัดด้วยอัตรากินน้ำมัน หรือการมีจำนวนเรือมากๆเป็นพันๆลำ ฯลฯ ไม่ได้บ่งบอกถึงประสิทธิภาพในการผลักดันน้ำลงทะเลแต่อย่างใด !!! แต่อย่างไรก็ดี ไม่ได้ต้องการขัดขวางการดำเนินการนี้แต่อย่างไร ใครใคร่ทำก็ทำไป มีเงินจ่ายค่าน้ำมันก็ว่ากันไป เพียงแต่ต้องการบอกว่า มันช่วยได้เล็กน้อยมากๆๆๆๆ  และที่บอกว่า ผลักดันน้ำได้มากขึ้น 10% อะไรเนี่ย มันเป็นการตกแต่งตัวเลขให้ดูดี แต่แทบไม่มีผลในภาพรวมของการผลักน้ำให้ลงทะเลได้มากขึ้น แค่นั้นเองเจ้าค่ะ จากคุณ : แ ต ง ก ว า * เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 11:09:30

ความคิดเห็นที่ 58 เวลานี้คนไม่สนใจคำว่า "นัยยะสำคัญ" กันแล้วเหรอครับ แต่ก็เข้าใจนะว่ามันไม่ค่อยมีการสอนเรื่อง Cost-Benefit กันเท่าไหร่ แก้ไขเมื่อ 16 ต.ค. 54 11:27:08 จากคุณ : RX-93 เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 11:15:05

ความคิดเห็นที่ 59 ถ้าทำให้ใครไม่สบายใจก็คงต้องขอโทษ แต่ส่วนตัวแล้ว การเอาเรือมาดันน้ำที่ทำกันตอนนี้ มีผลเรื่องกำลังใจมากกว่าครับ แม่น้ำทั้งกว้างและลึก ไม่น่าจะมีผลในการเร่งความเร็วน้ำเท่าไร จากคุณ : suw เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 11:15:27

ความคิดเห็นที่ 60 น้ำจะไหลเอื่อย ๆ หรือจะไหลเร็ว ไหลแรง คนคุมเรือเหล่านั้น เค้าคงไม่ได้เปิดแอร์ เปิดพัดลมเย็นฉ่ำ นั่งพิมพ์คียบอร์ดเหมือนเรา ๆ ท่าน ๆ ลองไปอยู่ในเรือดูครับว่ามันร้อนไหม์ ผมว่ามันไม่สนุกนัก ผมว่าเรามาสนับสนุนกันมาให้กำลังกำลังใจกันไม่ว่าน้ำมันจะไหลหรือไม่ไหล แต่อย่างน้อยคนที่อยู่ตรงนั้น ได้ใจผม ผมขอขอบคุณทุกท่านที่ท่านได้สละเวลามาทำสิ่งที่ยังมองไม่เห็น สิ่งที่จะบันทึกหน้าเป็นประวัติศาสตร์ ขอบคุณทุกคนที่ได้ช่วยให้วิกฤตนี้ผ่านไปอย่างเจ็บปวดน้อยที่สุด ขอบคุณจากใจ จากคุณ : น้ำเค็ม เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 11:17:22

ความคิดเห็นที่ 61 ตกลงมีการวัดข้อมูลเพื่อสึกษาออกมาหรือยังครับ มีเว็บไหนหรือหน่วยงานไหนที่วัดผลตรงนี้บ้าง มีใครทราบไำหม อยากรู้ข้อมูลว่าก่อนและหลังทำมันเป็นยังไง จากคุณ : DigiTaL-KRASH!!! เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 11:30:50

ความคิดเห็นที่ 62 เบื่อการเมืองไม่รู้จะชอบลากกันเข้าไปทำไมหนักหนา อยากพูดเรื่องการเมืองเชิญห้องราชดำเนินไปโน่น จากคุณ : มะกอกสามตะกร้าปาไม่ถูก เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 11:30:53

ความคิดเห็นที่ 63 เรื่อวิ่งได้แปลว่าแรงจากใบพัดที่ดันไปข้างหน้าชนะแรงเสียดทานที่น้ำทำต่อผิวเรือป่ะอ่ะ  ถ้าจอดเรือไว้เฉยๆแล้วผูกกับแผ่นดินเรือก็จะต้านการไหลของน้ำจากแรงเสียดทานที่ผิวเรือส่งต่อ layer ของน้ำที่ติดกับเรือไหมอ่ะ   แต่ถ้าเรือเปิดเครื่องใบพัดทำงาน แรงดันน้ำจาำกใบพัดจะชนะแรงเสียดทาน นั่นหมายความว่าเรือที่ขวางทางน้ำอยู่ไม่ได้เพิ่มแรงเสียดทานที่ทำให้ขวางทางน้ำเพราะเขาชดเชยด้วยแรงจากเครื่องยนตร์แทนไหมอ่ะ   ถ้ากระแสน้ำมีความเร็วเพิ่มขึ้น ความดันของของไหลจะลดลงไหมอ่ะ     น้ำจะเคลื่อนจากจุดที่ ความดันสูงไปหาต่ำไหมอ่ะ    น้ำที่เคลื่อนเร็วขึ้นแล้วหนืดมากหนืดน้อยขึ้นกับชนิดของไหลไหมอ่ะ อันนี้ผมไม่รู้อ่ะ ซอสมะ้เขือเทศ ยิ่งเขย่ายิ่งออกจากขวดง่ายป่าวหว่า จำไม่ได้   แต่เรื่อง cost effectiveness นี่ไม่ทราบ แต่ตอนนี้ แม้ความหวังไม่มาก ก็ทำไปเถิด อย่างน้อยได้เห็นคนไทยมาสามัคคี เอาเรือมาช่วยกันก็ยังดี ต่อให้การดันน้ำไม่ significance แต่ผลต่อจิตใจก็ sig นะผมว่า จากคุณ : poltanapol (poltanapol) เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 11:32:08

ความคิดเห็นที่ 64 ดูจากข่าวได้ประมาณนี้เลยรึเปล่าครับ หรือกว่านี้ จากคุณ : ของเล่นใหม่ เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 11:37:02

ความคิดเห็นที่ 65 ผมก็ไม่ค่อยชอบคุณแตงกวาตอบในหลาย ๆ ครั้งนะ แต่ผมว่าเขาก็มีเหตุผลของเขานะ มีแต่ #8 แหละ พอโดนเบรกแล้วแต๋วแตกเลย เรียน จขกท. ผมก็เชื่อว่ามันจะเร็วขึ้น แต่ผมไม่ค่อยมั่นใจว่ามันจะเร็วขึ้นอย่างมีนัยสำคัญหรือเปล่า ผมต้องขอโทษไหม? สุดท้าย เลิก แดง ๆ เหลือง ๆ กันซักทีเถอะครับ มันน่ารำคาญ กวนประสาท แถมไม่ใช่ประเด็นของกระทู้อีกต่างหาก แก้ไขเมื่อ 16 ต.ค. 54 11:40:52 จากคุณ : สันป่าตอง เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 11:37:31

ความคิดเห็นที่ 66 นี่ห้องวิทย์ครับ พูดจากันด้วยเหตุผล และถ้อยคำที่สุภาพกันดีกว่าครับ จะแซว จะว่ากัน ก็พอท้วมเถอะครับ อยากให้เป็นแบบราชดำเนินสมัยก่อนเหรอ จากคุณ : Yoshitomi เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 11:38:59

ความคิดเห็นที่ 67 ก็อย่าไปทำที่มันกว้าง ลึก สิครับ ที่แคบ ที่ตื้น ก็มีให้ทำ ยังไงต้องได้ผล ถนนกว้างๆน้ำมันก็ไปของมันเอง ไม่ต้องมีตำรวจโบก ตรงแคบๆ ทางโค้ง นี่แหละที่ได้ผล อยากให้มีการวัดค่าเหมือนกัน เพื่อเป็นความรู้ ไม่ได้อยากเดาจินตนาการเอง จากคุณ : @VVIEWW เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 11:40:27 A:58.64.64.250 X: TicketID:173601

ความคิดเห็นที่ 68 จากที่ผมเรียนเรื่องนี้มาค่อนข้างนาน ผมค่อนข้างเห็นด้วยกับคุณแตงกวานะ แต่ผมว่ามันก็ไม่น่าจะได้น้อยถึงขนาด 0.000001% หรอกครับ การใส่ใบพัดลงไบในของไหล มันจะเป็นการเพิ่มพลังงานรวมของน้ำ (Stagnation Pressure) ทันทีระหว่างหน้ากับหลังใบพัด โดยสุดท้ายแล้วมันจะถูกแปลงเป็นพลังงานจลน์+ศักย์ของน้ำไป *อย่างที่เห็นว่าน้ำมันจะเร็วแล้วก็ไปกองๆอยู่นนั่นแหละ* แต่ว่าพลังงานนี้นะครับ มันจะลดลงเป็นกำลัง2ของความเร็ว ลองดูที่สูตรนี้นะครับ http://en.wikipedia.org/wiki/Friction_loss จริงๆผมก็พึ่งเคยเห็น เขาทำให้มันง่ายลงโดยการเอาพวกค่า !@#$#%! ทางวิศวะไปใส่ในตัวแปร C ตัวเดียว พลังงานที่เราต้องใส่ไป เพื่อให้อัตราการไหลของน้ำเปลี่ยนไปนิดนึง (Q เพิ่ม) จะต้องใช้มากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก เนื่องจาก L ของเรามันช่างยาวเหลือเกิน ดังนั้นถ้าจะคำนวณ เริ่มจากสูตรนี้ก็ไม่เลว สรุปเลยก็คือ มันช่วนแน่นอนครับ แต่คงไม่มากถึง2เท่า3เท่าหรอก ฟังธงเลย นั่นอะไม่น่าเป็นไปได้ อย่างคุณแตงกวาว่า ไม่งั้นน้ำแห้งไปละ แต่จะว่ามันไม่ช่วยก็ไม่ใช่ อย่างน้อยเรือที่คุณใส่ไปในแม่น้ำ มันก็ช่วยชดเชย FL ที่สูญเสียไปตามทางน้ำได้ แต่มันจะคุ้มค่าหรือเปล่า ปล. ในกรณีที่มีการคิดจริงๆไม่สามารถใช้สูตรนี้รวมทั้งหมดได้นะครับ เนื่องจากค่า C เปลี่ยนตาม Reynolds Number หรือตามทางแม่น้ำเรื่อยๆ เพราะไม่ได้เป็นการไหลในท่อขนาดหน้าตัดคงที่ แต่หาสูตรอื่นง่ายๆไม่ได้ละ เลยเอามาให้เป็นไอเดียเฉยๆ จากคุณ : Flyer เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 11:49:39 A:125.25.158.223 X: TicketID:114266

ความคิดเห็นที่ 69 เห็นด้วยกับ #58 ที่บอกว่าได้ผล 0.00001% ก็ยังดี นี่คือการใช้ความรู้สึกล้วนๆ มันต้องทำ cost-benefit analysis อย่างละเอียด เทียบค่าใช้จ่าย-ค่าเสียหายที่ลดลงเมื่อน้ำลดเร็วขึ้นกี่ % ก็ว่ากันไป แต่ตอนนี้ไม่มีใครมีข้อมูลพอจะเปรียบเทียบได้อย่างละเอียด เลยเอาความรู้สึกมาเถียงกันไปเรื่อย จากคุณ : Tungsten เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 11:51:30

ความคิดเห็นที่ 70 #8 ครับ เขาวัดอัตรการไหล(Q, flow rate)ครับ ไม่ใช่ความเร็ว(V, velocity)ของน้ำที่จุดนั้นๆ เขาดูปริมาณน้ำที่สามารถผ่านทั้งระบบมีปริมาตรเท่าไหร่ ไม่ใช่ดูความเร็วน้ำ เราต้องวัดความเร็วเฉลี่ยของกระแสน้ำตลอดพื้นที่หน้าตัดแม่น้ำตรงนั้นครับ แล้วคำนวณถึงดูได้ถึงประสิทธิภาพการระบายน้ำ คุณแตงกวา เสนอนั้นถูกต้องแล้วครับ จากคุณ : ชื่อสมาชิก เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 11:57:59

ความคิดเห็นที่ 71 ถ้าถามแค่ว่าเร็วขึ้นไหม คำตอบคือเร็วขึ้นแน่นอนว่ากันด้วยเหตุผลแบบห้องหว้ากาม ถ้าถามว่าคุ้มค่ากับสิ่งที่ทำลงไปไหม คำตอบคือให้ไปถามคนที่กำลังถูกน้ำท่วมอยู่ตอนนี้ว่าเขาเห็นว่าคุ้มค่าหรือเปล่า ปัญหาใหญ่มากมายเกี่ยวข้องกับความเดือดร้อนและชีวิตผู้คนจำนวนมาก " ณ สถานการณ์เฉพาะหน้า " อย่างนี้ อะไรที่ทำได้ก็ควรจะช่วย ๆ กันทำ หรือจะให้จอดเรือใหญ่ทิ้งไว้เฉย ๆ หรือจะให้รอฟ้าฝนโชคชะตามาช่วย บลาๆๆๆ ยังมีเวลาถกเถียงกันอีกเยอะสำหรับเรื่องนี้ แต่จะดีกว่านี้ไหมถ้าจะช่วยทำกันหลังจากวิกฤตินี้มันจบลงไปแล้ว เถียงกันตอนนี้ก็ไม่เห็นจะทำให้อะไรดีขึ้นนอกจากทำให้อัตตาตัวเองพองโตเป็นไข่ห่าน ปล่อย ๆ มันไปบ้างเถอะ .... มันก็จริงนะที่ว่าคิดก่อนทำเป็นสิ่งที่ดี แต่บางครั้งชีวิตแบบสังคมไทยมันก็ไม่ง่ายแบบในอินเตอร์เนทเสมอไปหรอก จริงไหม ! จากคุณ : internetsmile เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 12:06:56

ความคิดเห็นที่ 73 เข้าใจคำว่า   "ทำทุกวิถีทางที่คิดว่าทำได้"  กันหรือเปล่าครับ ใครมีวิธีที่ดีกว่านี้   ก็เสนอมาสิครับ   รัฐเขาจะได้รับไปปฏิบัติ มัวมาคิดว่า มันทำได้ผล - ไม่ได้ผล   ซึ่งการวัดผลมันยาก   เอาไว้วัดทีหลัง ตอนนี้ทำไปก่อน   จะสูญเงินค่าน้ำมันไปบ้าง ก็ช่างมัน  ไว้วัดผลได้ เอาไปปรับใช้กับน้ำท่วมคราวหน้าก็ได้ แต่ถ้าไม่ทำ  แล้วดันวิจัยพบว่า มันมีประสิทธิภาพ พอใช้ได้     จะมาเสียใจทีหลังว่า ไม่ได้ทำ แก้ไขเมื่อ 16 ต.ค. 54 12:18:31 จากคุณ : AIM-9X เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 12:17:07

ความคิดเห็นที่ 74 จะจมน้ำตายห่านอยู่แล้วยังมาชี้หน้าด่ากันควายเหลืองเลือดแดงกันอีก ประเทศนี้นิ! ต้องขอบคุณนายสนธิที่ทำให้คนไทยไปไกลได้ถึงเพียงนี้!!! เกินเยียวยาซะแล้วรอยร้าวในประเทศ น้ำท่วมไปละกัน! จากคุณ : Pride เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 12:26:24

ความคิดเห็นที่ 75 กินอุดมการณ์กันทั้งนั้น  ลมๆแล้งๆ จากคุณ : varitpum2 เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 12:32:35

ความคิดเห็นที่ 76 อย่าเพิ่งด่วนสรุปว่าได้ผลหรือไม่ได้ผล รอดูไปก่อน แต่ถ้าไม่ได้ผลก็ไม่ต้องไปตำหนิ เพราะอย่างน้อยได้ทดลองเพื่อหาวิธีเพิ่มดีกว่าได้แต่มองระดับน้ำไปวันๆ ส่วนที่ตำหนิว่าให้คนไปทำอย่างอื่นดีกว่า คุณจะให้เค้าทิ้งบ้านฝ่ารถติดไปบรรจุกระสอบทรายหรือถุงยังชีพเหรอ แล้วบางที่คนก็ล้นงานแล้ว ในเมื่อทางรัฐมีโครงการที่มีสิ่งที่ถนัดให้ช่วยกัน ก็ควรให้เค้าทำสิ่งนั้นดีกว่า จากคุณ : mynameism เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 12:57:47

ความคิดเห็นที่ 77 ชอบกระทู้นี้ตรงที่ ...ไม่ใช่เอะอะก็ออกมาตำหนิ แล้วก็หลบไปอยู่หลังคีย์บอร์ด   จากคุณ : gift is a present เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 13:05:22

ความคิดเห็นที่ 78 อ่าน คห #5 แล้วก็ไม่มีอะไรผิดนี่นา อยากรู้ว่าได้ผลหรือไม่ ก็ต้องวัด อัตราการไหล ก่อน และ หลัง ใช้เรือในภาวะเดียวกัน น้ำต้นทางระดับเท่ากัน น้ำทะเลหนุนเท่ากัน การวัดความเร็วน้ำที่ถูกต้อง ก็ไม่ใช่วัดที่ท้ายเรือ มันต้องวัดตอนที่ Turbulance ม้นนิ่งแล้ว ซึ่งก็ต้องเป็นระยะห่างจากตัวเรือพอสมควร ไอ้ที่ออกมาให้ข่าวว่าระบายได้เร็วขึ้น 30% น่ะ เอาอะไรมาพูด ถ้ามันเร็วขึ้นขนาดนั้นจริง ตรรกะของคุณแตงกวาก็ใช้ได้ล่ะ จากคุณ : ไก่gosobig เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 13:07:11 A:110.49.243.17 X: TicketID:252022

ความคิดเห็นที่ 79 เคยเห็นการวัดและคำนวนอัตราไหลในคลอง กว้างประมาณ 15 เมตร ลึกประมาณ สองเมตร เขาก็เลือกวัดในจุดที่มี Turbulance น้อยที่สุด และวัดหลายๆจุดกระจายตามหน้าตัด แล้วคำนวนอัตราไหล แบ่งย่อยกันเป็นช่องๆไป แม่น้ำขนาดใหญ่ตรง ตน.ลึกๆ ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะวัดกันอย่างไร ultrasonic ใช้ได้มั้ยใครรู้ตอบที ส่วนเรื่องความตั้งใจทำงานของทุกภาคส่วน ไม่เถียง และยอมรับว่าตั้งใจทำงาน จากคุณ : ไก่gosobig เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 13:13:39 A:110.49.243.17 X: TicketID:252022

ความคิดเห็นที่ 80 รู้สึกเหมือนกำลังเถียงกันคนละประเด็นเลยนะครับนี่ จากคุณ : deepsnows เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 13:30:51

ความคิดเห็นที่ 81 ขอยกตัวอย่างของคุณ(-_-") จากกระทู้หมอJ "เครื่องบินสามารถบินบนท้องฟ้าด้วยแรงขับจากใบพัด แต่ถ้าเอาเครื่องบินมายึดกับที่ในที่โล่ง แล้วให้เรายืนอยู่หลังเครื่อง 100 เมตร เราจะรู้สึกได้ถึงลมจากใบพัดอยู่ไหม? ====================== ถ้าเราเอาพัดลมมาเป่าตัว เรายืนอยู่ห่าง 10 เมตรก็ไม่รู้สึกถึงแรงลมแล้ว แต่ถ้าเราเอาท่อขนาดพอดีกับพัดลม ต่อมาถึงตัวเรา เราก็จะได้รับลมเกือบเต็มๆ ทำไมเรายืนห่างพัดลม 10 เมตร ถึงไม่รู้สึกถึงแรงลม ลมหายไปไหน มันก็กระจายบ้าง โดนลมด้วยกันต้านบ้าง ม้วนกลับบ้าง" ประสบการณ์ส่วนตัว อย่างแถวๆนี้ ฮอ บินกันประจำ ตอนที่มันเริ่มขึ้น รู้สึกถึงลมแรงได้ แต่ตอนบินขึ้นไปหน่อย คนที่อยู่ด้านล่างก็ไม่รู้สึกถึงลมแล้ว ดังนั้นสนับสนุนการวัดที่ต้นทาง-ปลายทางจริงๆ มากกว่าท้ายเรือ แก้ไขเมื่อ 16 ต.ค. 54 13:38:18 จากคุณ : KL เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 13:36:16

ความคิดเห็นที่ 82 อ่านมาแล้วสงสารประเทศไทย พวกเรามานั่งเถียงกัน แบ่งพวกกันก็เพราะนักการเมืองทั้งหลายมันเอาแต่ประโยชน์ส่วนตนเป็นใหญ่กว่าประโยชน์ของชาติ เช่นมีอำนาจก็เอาที่ดินรัฐไปเป็นของส่วนตัว โค่นป่าขายไม้ ทำรีสอร์ท ใช้ที่ดินทำประโยชน์ตนโดยไม่คำนึงถึงผลเสียที่ตามมา เช่น ขวางทางน้ำธรรมช่ติ ผมว่าพวกเราที่เข้ามาโพสท์มาอ่านกระทู้ในที่นี้ล้วนมีความรู้และสำนึกพอที่จะรู้ว่าอะไรดีชั่วกันทุกคน การมาแสดงความคิดเห็นไม่ควรมีอคติต่อกัน ผมว่าเรามาช่วยกันป้องกันไม่ให้คนเลวมาครองเมืองโดยการปลูกฝังความรู้ความคิดประชาธิปไตยให้แก่คนไทยทุกคน ต่อไปนักการเมืองเลวก็ไม่มีโอกาสครองเมือง พวกเราก็ไม่ต้องมาแบ่งฝักแบ่งฝ่ายเมื่อบ้านเมืองเจอวิกฤตเช่นนี้ ผมอายุ 62 ปีแล้ว พวกคุณและคนไทยอีกเป็นสิบๆล้านคนยังต้องอยู่คู่ประเทศไทยไปอีกนาน อย่าให้ชาติไทยเราต้องล่มสลายเพราะนักการเมืองจำนวนแค่หลักร้อยหลักพันคนเลย จากคุณ : kata เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 13:37:44

ความคิดเห็นที่ 83 #45 ยกตัวอย่างไม่ถูก จากตัวอย่าง ผลลัพท์ต่างกันเกินไป คือ รอดกับไม่รอด (ไม่มีรอดมากรอดน้อย) ถ้ารอดตายมาแล้ว เปอร์เซ็นต์จะน้อยเท่าไรมันก็เป็นแค่อดีต ยกตัวอย่างให้ใหม่ ถ้ามีคนรู้จักกำลังจะตาย และมียาชนิดหนึ่ง ทำให้ตายช้าลง 1 วินาที แต่อยู่ไกลต้องเดินทางไปซื้อ ถามว่าจะไปไหม  คงมีคนลังเลไม่น้อย และหลายคนคงเลือกที่จะอยู่ให้กำลังใจคนป่วยมากกว่า เปลี่ยนมาเป็นเรื่องน้ำท่วม สมมติว่า การเอาเรือดันน้ำ ช่วยลดระยะเวลาที่น้ำท่วมให้น้อยลง จาก 24 ชั่วโมงเป็น 23 ชั่วโมง 59 นาที คงต้องมาพิจารณากันว่าคุ้มค่าหรือไม่ เพราะไม่ได้เปลี่ยนจากท่วมเป็นไม่ท่วม แต่ทำให้ท่วมมากกลายเป็นท่วมน้อยลง(นิดนึง) จากคุณ : RX-93 เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 13:38:39

ความคิดเห็นที่ 84 อาจารย์ด้านfluid physics วิศวกรรม เมืองไทยมีกี่คน ทำไมมันห่วยแตกแบบนี้    ก่อนทำ ไม่มีชี้แนะ   เด๋วพอทำเสร็จ   พวกกูรู้จะออกมาเพียบ จากคุณ : Meredith R. McKay เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 13:56:43

ความคิดเห็นที่ 85 คห 81 ไม่วัดระหว่างกลาง ของต้นทางปลายทาง ด้วยเลยละครับ จากคุณ : think4223 เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 14:00:54

ความคิดเห็นที่ 86 คนไทยเลือกข้างไปแล้วครับ ไม่ได้ตัดสิน ให้ความคิดเห็นจากเหตุและผลจริงๆ แต่ใช้ความเอียงของตัวเองบอกออก ซึ่งแสดงให้เห็นว่า เป็นแค่ความคิด และความเชื่อของแต่ละคน ไม่ใช่ความจริง พวกเชียร์ ปชป ก็บอกว่า ไม่ได้ผลหรอก น้ำไม่เร็วขึ้น ถ้ามีคนไปเห็นว่าเร็วขึ้นจริงๆ ก็บอกว่า ไม่จริงหรอก เห็นแค่สายตา ถ้ามีคนไปวัดจริงๆ ว่าเร็วขึ้นจริงๆ ก็บอกว่า ไม่ได้เร็วขึ้นมากหรอก เร็วขึ้นนิดเดียว ไม่คุ้มค่า จากคุณ : ป้อม (Bgate) เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 14:05:33

ความคิดเห็นที่ 87 แนวคิดนี้ เป็นพระราชดำริของใครครับ ปีผ่านๆมา ทำแล้ว ได้ผลครับ เพียงแต่ไม่เป็นข่าว ถ้าใครจะเห็นต่าง ถึงขนาดใช้คำพูดกระแนะกระแหน ประชดประชัน ออกแนวล้อเลียน กรุณาเปลี่ยนพฤติกรรมนะครับ หรือถ้าคิดว่า สิ่งที่พูดและทำมาตลอด เป็นสิ่งที่ถูกต้อง ก็จงทำต่อไปครับ เห็นหลายต่อหลายกระูทู้ บอกได้สั้นๆ "คนดีทำแล้วโดนด่า กับคนไม่ทำ_่าอะไร แล้วเอาแต่ด่าคน" ไม่ต้องมาบอกผมเสื้อสีไหน รำคาญ จากคุณ : LAPD21 เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 14:09:56

ความคิดเห็นที่ 88 มีประสิทธิภาพหรือไม่  ต้องวัดที่ปากแม่น้ำ ถูก แล้วล่ะครับ ลองคุณ มี แม่น้ำยาว สัก สิบกิโล  แต่ปิดหัวปิดท้าย (สรุปมันคือบ่อน้ำยาวๆ) น้ำไม่ได้ไหลไปไหน เอาเรือมาจอดเรียงสิบลำ  ติดเครื่องปั่นน้ำ  มองแล้วก็เห็นว่าน้ำมันไหลเร็วขึ้นจริงๆ แหละครับ   แต่จริงๆ น้ำมันไม่ได้ไหลไปไหนเลย จากคุณ : Triceratops เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 15:24:50

ความคิดเห็นที่ 89 ^ ^ #87 เป็นการเอาแนวคิดมาดัดแปลง ซึ่งถ้าการดัดแปลงทำแล้วแย่ลงหรือไม่ได้ผล ต้องโทษคนดัดแปลง ไม่ใช่เจ้าของแนวคิด ถ้าผมบอกว่า เด็กหนึ่งขวบมีไข้ให้ทานยาลดไข้หนึ่งช้อน คุณให้ผู้ใหญ่หนัก 60 กิโลกินยาลดไข้เด็กแค่หนึ่งช้อนแล้วไข้ไม่ลด ใครผิด แก้ไขเมื่อ 16 ต.ค. 54 15:26:27 จากคุณ : RX-93 เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 15:26:06

ความคิดเห็นที่ 90 . จากคุณ : mingpoo เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 15:37:16

ความคิดเห็นที่ 91 ความคิดเห็นที่ 87 ...คุณเข้าใจผิดอะไรหรือเปล่า ? ...ขอเอาที่เคยตอบกระทู้อื่น มาตอบอีกทีนะครับ ============================================================================= ...จนป่านนี้ ผมยังไม่เคยเห็น link ข่าวที่ว่าเลย ...ว่าโครงการเอา เรือดันน้ำ ในแม่น้ำเจ้าพระยาทั้งเส้น (โครงการประชาอาสา) ...มาจากพระราชดำริ ?? ...หามาให้ดูหน่อยสิครับ เอาแบบ คำต่อคำเลย จะได้รู้ว่า ท่านพูดถึงเรื่องอะไร เงื่อนไขยังไง ที่ไหน เวลาไหน ...ประเภทคนอื่นพูดมาเล่าอีกทีกว้างๆ ไม่เอานะครับ ...ขอที่เป็นต้นฉบับเลย ...เพราะ search ไปก็เจอแต่เป็นนโยบายของ นายปลอดประสพ ที่อ้างว่าเอา idea มาจากการเอาเรือช่วยระบายน้ำที่คลองลัดโพธิ์ ...ซึ่งแนวความคิดมันคนละอย่าง ...ถ้าดูจากแผนที่ คลองลัดโพธิ์เปรียบเหมือนทางลัด ที่ทำให้มวลน้ำไม่ต้องไปอ้อมยาวเป็นทางไกลๆ ...เอาเรือมาช่วยให้น้ำมาผ่านแยกนี้ แทนที่จะอ้อมไปไกลเป็นระยะทางอีก 30-40 เท่า ...ซึ่งประกอบด้วย 2 ปัจจัยสำคัญ 1. เป็น size เล็กขนาดคลอง 2. เป็นคลองลัด ตัดตรง ที่ช่วยประหยัดเวลาเดินทางของน้ำอย่างมหาศาล ช่วยดึงน้ำจาก 3 แยกให้ไหลมาทางนี้แทน ...ซึ่งตรงกับที่ อ.ธนวัฒน์ จารุพงษ์สกุล จาก จุฬาฯ และ อ.เสรี ศุภราทิตย์ จาก ม.รังสิต ...ที่กล่าวว่า โครงการเรือดันน้ำจะได้ผล ก็ต่อเมื่อ จุดที่ดันน้ำนั้น เป็นแม่น้ำแคบๆ เช่น แม่น้ำท่าจีน หรือตามคลองต่างๆเท่านั้น ...ไม่ใช่เอาไปดันกันในแม่น้ำเจ้าพระยาทั้งเส้น แบบดื้อๆ นึกจะดันตรงไหนก็ดัน ...และถึงจะดันตรงคลองลัดโพธิ์ ...ผมก็ไม่แน่ใจว่ามันจะช่วยได้แค่ไหน เพราะน้ำจากข้างบนมามากกว่าปกติเยอะ ทำให้อาจแทบไม่เห็นความเปลี่ยนแปลง ...ถึงอยากให้ทำการทดลองวัดปริมาณการไหลของน้ำไปที่ปากน้ำไปเลย ว่ามีการเปลี่ยนแปลงมากน้อยแค่ไหน ...และถึงแม้จะมาจากพระราชดำริ จริงๆก็ตาม ...เราก็สามารถใช้ข้อมูลที่เป็นข้อเท็จจริง วิพากษ์ วิจารณ์ได้ ครับ จากคุณ : sungod เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 15:37:20

ความคิดเห็นที่ 92 ทุกๆท่าน ถ้ามีเวลาว่างพอจะเถียงกันเนี่ย ไปช่วยทำถุงทรายที่คลอง 6 หน่อยเถอะ เมื่อวานผมไปมาแล้ว ขอเคลียร์งานก่อน แล้วจะไปอีก ข้าศึกตีหัวเมืองแตก ยกทัพมาประชิดชายแดนแล้ว ยังมีแต่คนเก่ง pantip กับคนดี facebook .......เฮ้อ จากคุณ : โอมี (Anna_NSW) เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 15:50:21

ความคิดเห็นที่ 93 คคห. 87 ครับ คำว่า "พระราชดำริ" นั้น ใช้ได้กับบุคคลท่านเดียว คือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครับ และหลักการ การใช้เครื่องผลักดันน้ำ นี้ ก็ไม่ใช่ของใหม่ พระองค์ท่านทรงมีพระราชดำรัสไว้ตั้งแต่ปี 2538 แล้ว โดยรัฐบาลเยอรมันได้ถวายเครื่องผลักดันน้ำนี้รู้สึกว่าจะ 19 เครื่อง ซึ่งกรมชลประทานได้นำมาติดตั้ง เพื่อผลักดันน้ำในคลองต่างๆ ใน กทม. เพื่อเร่งการระบายน้ำ แต่หลังจากวิกฤตการณ์น้ำท่วมในครั้งนั้น เครื่องผลักดันน้ำดังกล่าวผมไม่เคยได้ข่าวว่ามีการต่อยอด เพื่อขยายสเกลสำหรับคลองลัดโพธิ์ การใช้เครื่องผลักดันนี้ ไม่ใช่ว่าจะใช้สะเปะสะปะ ตำแหน่งที่ติดตั้งเครื่องนี้ ควรจะเป็นช่วงแคบหรือคอคอด ที่หน้าตัดการไหลน้อยกว่าหน้าตัดปกติ เพราะเมื่อน้ำไหลมาถึงหน้าตัดนี้ ระดับผิวน้ำจะต้องยกตัวเพื่อให้เกิดความสูงมากพอที่จะทำให้เกิดความเร็วในการไหลมากเพื่อที่จะรักษาอัตราการไหลไว้ และโดยหลักการที่ว่า หากเอาไปติดสะเปะสะปะ มันจะทำให้ระดับน้ำด้านท้ายน้ำยกตัวทำให้ความเร็วของน้ำลดลง แถมการเอาเรือไปขวางทางน้ำก็เท่ากับเพิ่มพื้นที่การต้านทานการไหลของน้ำ (เครื่องผลักดันน้ำที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำริ ส่วนที่อยู่ในน้ำมีเพียงใบพัด กับเพลาขับเท่านั้น ตัวเครื่องอยู่บนโครงสร้างเหนือน้ำ) สำหรับที่ทำที่แม่น้ำท่าจีนโดยการดันน้ำตรงบริเวณตอม่อสะพานอาจมีผลบวกอย่างมีนัยยะสำคัญบ้าง เพราะเป็นบริเวณที่หน้าตัดการไหลถูกบีบ แต่การเอามาทำกับแม่น้ำกว้างๆแถมอยู่ในตำแหน่งตามรูปใน คคห.64 นั้น ในความคิดผมเปลืองน้ำมันโดยใช่เหตุ ครับ สิ่งที่ผู้มีอำนาจสั่งการตอนนี้ควรทำ ก็คือ การใช้เครื่องผลักดันน้ำ เร่งระบายน้ำตามคลองระบายน้ำทั้งทางฝั่งตะวันออก และตะวันตก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการระบาย รวมถึงควรค่อยๆ เพิ่มการระบายในแม่น้ำเจ้าพระยาช่วงที่ผ่าน กทม. ให้เต็มศักยภาพการระบาย (ปริ่มๆ คันกั้นน้ำ) เพระาปริมาณการไหลของน้ำที่ผ่านนี้เป็นแค่ค่าที่เกิดจากการคำนวณ ไม่ใช่ค่าที่เกิดจริง ซึ่งปัจจุบันนี้เหมือนกับว่าห้ามน้ำไหลผ่านกทม. เกิน 3,600 ลบ.ม./วินาที ส่วนเกินส่งให้ 2 ข้างรับเคราะห์ไป จากคุณ : Waterman (LN106) เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 16:09:23

ความคิดเห็นที่ 94 ^ ^ #92 ถ้าอย่างนั้น ก็ให้เวปพันทิปปิดบริการไปก่อน เพื่อให้ทุกคนไปช่วยกันทำถุงทราย เวปบอร์ด มีไว้สำหรับการแสดงความเห็นที่แตกต่างกัน (เรียกอีกอย่างคือเถียงกัน) ซึงผมว่ามันก็ทำหน้าที่ของมันได้ดีอยู่ จากคุณ : RX-93 เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 16:11:30

ความคิดเห็นที่ 95 ก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลยนะครับ ถึงมันจะเป็นเปอร์เซ็นต์ที่น้อยอย่างก็ตามที่ ก็ยังดีกว่าอยู่เฉยๆ ปล.ไม่มีความรู้อะไรทั้งนั้นครับผม แหะๆ จากคุณ : canondale เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 17:23:26

ความคิดเห็นที่ 96 ช่วยได้คับ ช่วยบอกให้ชาวประชาได้รับรู้ว่ารัฐบาลได้ทำงานแล้ว จากคุณ : ทอฟฟี่สีแดง เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 17:44:03

ความคิดเห็นที่ 97 เอิ่ม.... อ่านแล้วไปแพ๊คของต่ออย่างเงียบๆดีกว่า .........ไม่น่าเสียเวลาเลยกุ จากคุณ : Fares เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 17:45:57

ความคิดเห็นที่ 98 ถ้าแนวคิดนี้ทำแล้วสำเร็จ...........ก็คงมีคนออกมาเทิดพระเกียรติว่า เป็นพระราชดำริ แต่ถ้าทำแล้วไม่สำเร็จ...........ทำตามไม่เป๊ะ ๆ นี่หว่า ห่วยเอง จะมาโทษใคร ................... ที่อยากจะบอกคือ เลิกเล่นประเด็นนี้เถอะ....เรือดันน้ำเคยทำกันมาจริงจังสักดี่ครั้ง แล้วทำสำเร็จเห็นผลจริง ๆ เมื่อไหร่บ้าง ก็พึ่งจะรู้จะได้ยินกันเมื่อไม่นานม่านี้ และที่สำคัญ โครงการนี้คิดว่าจะรัฐบาลจะอมพะนำ ไม่กราบถวายรายงานแผนการดำเนินงานหรือไง...นายกเข้าเฝ้าสองครั้งเรื่องนำ้ท่วม............ เพราะฉนั้น.........อย่าเอาเรื่องการเมืองของแต่ละฝ่ายมาดึงสถาบันเข้ามาเป็นประเด็น จากคุณ : คนพิจิตร เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 17:50:55

ความคิดเห็นที่ 99 การดันน้ำครั้งนี้ รํฐบาล  ทำงาน  ได้ใจ แต่ ไม่ได้ผล  แบบมีนัยยะ  หรอกค่ะ จากคุณ : แจนนิเฟอร์ เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 18:04:48

ความคิดเห็นที่ 100 เถียงกันเพื่อ? ตั้งกระทู้  ล่อเป้า ซะ ก็เห็นเห็น ว่าจะ ลงเอยแบบนี้ จากคุณ : takatin เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 18:17:41

ความคิดเห็นที่ 101 อธิบายซ้ำสำหรับพวกที่ชอบโชว์โง่ อัตราการไหล(Q)=พื้นที่หน้าตัด(A) คูณ ด้วยความเร็ว(Vเฉลี่ย) จากสูตรข้างต้นถ้าต้องการให้ Q เยอะๆ โดยที่ A คงที่ ก็ต้องไปเพิ่ม Vเฉลี่ยให้ได้ จากแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ส่วนใหญ่มักจะตั้งสมุติฐานว่าให้ V ที่ผิวล่างและขอบที่เป็นของแข็งไม่เคลื่อนที่มีความเร็วเป็น 0 m/s และจะมี velocity boundary layer เกิดขึ้น แต่การไหลในแม่น้ำตอนนี้มันไม่ใช่การไหลแบบจิตนาการ(ลามิน่า) แต่เป็นการไหลแบบปั่นป่วนหรือ turbulent flow ดังนั้น velocity boundary layer เกิดขึ้นจะบางมากๆ ถ้าเรามีการเพิ่มความเร็วให้ที่ผิวของไหลได้แบบต่อเนื่อง ดังเช่นการดันน้ำแบบต่อเนื่อง มันจะเป็นการเพิ่ม V เฉลี่ยไปในตัว แต่ถ้าดันจุดเดียวมันจะเกิด vortex shedding วนกลับมาซึ่งจะไม่เกิดผลใดๆอันนี้คือ 0 เปล่าแต่ในการทำงานครั้งนี้เหมือนที่หลายๆความคิดเห็นที่บอกว่ามีการใส่พลังงานกลอย่างต่อเนื่อง คือการดันน้ำส่งต่อกันเป็นช่วงๆ ดังนั้นเมือ Vเฉลี่ยเพิ่มขึ้นมันจึงทำให้น้ำไหลออกไปได้เร็วขึ้นนะจ๊ะนู๋ๆ ทั้งหลาย ดังนั้นการเพิ่มความเร็วน้ำก็จะเท่ากับการดันออกไปมันจึงสามารถระบายน้ำออกไปได้(ส่วนจะไปล้นตลิ่งที่ไหนอันนี้ไม่รู้) แต่ถ้าเอาเรือไปลอยเล่นๆ ไม่ทำอะไรเลย มันก็จะเหมือนกับหลายๆคนในกระทู้นี้ นอกจากไม่ช่วยอะไรแล้ว ยังด่าเอามันแบบนี้ แถมยกทฤษฎีมั่วๆ มาจับอีก เฮ้อ...เหนื่อยใจ ^l^ จากคุณ : Fluids Man เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 18:19:03 A:125.25.32.58 X: TicketID:333787

ความคิดเห็นที่ 102 ไม่ว่าจะเป็นความคิดของใคร สิ่งที่ควรสนใจคือว่าความคิดนั้นมันใช้การได้หรือไม่ได้ก็แค่นั้นเอง  - จริงๆผมพูดอย่างนี้เดี๋ยวโดนพวก Ultra Royalist ด่าอีก แต่ผมคิดอย่างนี้จริงๆ และมันก็ต้องพูดด้วย เพื่อเป็นการยืนยันว่าความคิดแบบ Rational อย่างนี้ยังมีอยู่ในสังคมไทย จากคุณ : Nexus เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 18:21:11

ความคิดเห็นที่ 103 แนวคิดนี้ล่ะ เข้าท่ามั้ย??? http://www.pantip.com/cafe/news/topic/NE11203277/NE11203277.html จากคุณ : 007-s เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 18:24:43

ความคิดเห็นที่ 104 เพิ่งอ่านกระทู้ขอรับบริจาคน้ำมันเมื่อกี้ อันนี้แหละเป็นตัวอย่างของคำว่า cost-benefit analysis สมมติว่าเราไม่เอาน้ำมันมาเดินเรือ แต่เอาน้ำมันไปขนของช่วยผู้ประสบภัยแทน Benefit อาจจะมากกว่า โดย Cost ที่เท่ากัน ดังนั้นการทำอะไรก็ตามที่ไร้ประสิทธิภาพ สู้ไม่ทำเสียดีกว่า เพื่อเอาทรัพยากรส่วนที่ไม่ได้ใช้ไปทำอย่างอื่นที่ประสิทธิภาพสูงกว่า จากคุณ : Nexus เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 18:35:35

ความคิดเห็นที่ 105 #21 อยากเจออ่ะ เห็นชอบเข้าห้องสวนลุม กระทู้ติดเรทด้วย 555555 จากคุณ : คนลาดพร้าว71 เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 18:36:06

ความคิดเห็นที่ 106 เรื่องเรือดันน้ำบอกได้คำเดียว  >คนไม่ใช่ ทำอะไรก็ผิด< จากคุณ : คนลาดพร้าว71 เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 18:36:50

ความคิดเห็นที่ 107 ถึงช่วยได้นิดเดียวคนที่เดือดร้อนก็ต้องการ สนับสนุนครับ จากคุณ : Fighting Beaver เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 18:47:25

ความคิดเห็นที่ 108 ฝั่งหนึ่งด่าเลือดแดง ฝั่งหนึ่งด่าเลือดเหลือง อีกฝั่งก็ด่าเลือดฟ้า เมื่อไหร่พวกคุณๆจะเลิกงี่เง่ากันซักทีครับ ผมเลือกเพื่อไทยไม่ได้หมายความว่าผมชอบเสื้อแดง ถามหน่อยว่าถ้านายกยังเป็นพี่มาร์คพวกคุณๆจะออกมาวิจารณ์กันอย่างนี้บ้างรึเปล่า ตอบให้ก็ได้ว่าไม่หรอก แต่ฝั่งตรงข้ามพวกคุณจะออกมาวิจารณ์แทน แล้วเมื่อไหรจะจบ อภิสิทธิ์ยังไปช่วยยิ่งลักษณ์ที่ศปภ.เลย พวกคุณทำ5อะไรมั่ง เอาแต่อวดเก่งอยู่หน้าจอนี่เหรอคือวิธีระบายความฉลาดกันน่ะ พอเถอะครับทุกฝั่งนั่นแหละ ประเทศยุ่งจะตาย5ยังมาทำเรื่องน่าเบื่อโดยการเถียงกันอยู่อีก เถียงกันเรื่องวิชาการจะไม่ว่าเลยซักคำ นี่ห้องหว้ากอนะครับ ไม่ใช่ราชดำเนิน ฝากไว้ "อคติทางการเมือง เป็นเรื่องน่ารังเกียจ" T จากคุณ : anthonoy เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 18:48:55

ความคิดเห็นที่ 109 ความคิดเห็นที่ 102   ไม่ว่าจะเป็นความคิดของใคร สิ่งที่ควรสนใจคือว่าความคิดนั้นมันใช้การได้หรือไม่ได้ก็แค่นั้นเอง  - จริงๆผมพูดอย่างนี้เดี๋ยวโดนพวก Ultra Royalist ด่าอีก แต่ผมคิดอย่างนี้จริงๆ และมันก็ต้องพูดด้วย เพื่อเป็นการยืนยันว่าความคิดแบบ Rational อย่างนี้ยังมีอยู่ในสังคมไทย จากคุณ : Nexus   ^ ^ ก่อนที่สาวก Ultra Communist จะมาดิสเครดิตว่าความคิดใคร ใช้ไม่ได้อย่างไร กรุณาค้นข้อมูลดูก่อนว่าดั้งเดิมนั้น เรือดันน้ำไว้ใช้ผันน้ำ"แบบไหน" และ "ที่ใด"บ้าง เขาไม่ได้ให้มาผันแม่น้ำสายหลัก  เขาเอาไว้ใช้ผันน้ำตามคลอง เหมือนคนออกแบบคิดค้น Tablet แต่มีคนโง่ดันเอาแท็บเล็ตมาใช้งานทำงานซีจี แต่ใครหนอช่างบ้อบอ เอาแนวพระราชดำริมาใช้ผิดประเภทด้วยความโง่เอง ตกลงคุณด่าคนคิดแท็บเล็ต แทนที่จะด่าคนใช้ผิดประเภทแบบโง่ๆซะงั้น จากคุณ : ผึ้งน้อยพเนจร เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 18:51:15

ความคิดเห็นที่ 111 ที่ด่าๆอยู่เนี่ยะ ฟังตามๆกันมา หรือ เรียนฟิสิกส์มา หว่า งงเหมือนกัน   ซึ่งผมไม่ค่อยเชี่ยวเรื่องfluidเท่าไหร่   เท่าที่สังเกต  อีกฝั่งนี้ฟังๆ ตามกันมาทั้งนั้น จะแม่น้ำใหญ่หรือเล็ก ก็ขึ้นอยู๋กับจำนวนเรือ และกำลังของใบพัด เอาตามฟิสิกส์พื้นฐาน ถ้ามีการเสริมของพลังงานกลอย่างต่อเนื่อง เรียงใบพัดให้ถูกต้อง ให้หน้าตัดทำลายterbulance  และถูกจังหวะ มันก็สามารถเพิ่มความเร็วผิวน้ำได้ แต่การปฏิบัติจริงนี้ ไม่รู้จะได้ผลแค่ไหน แต่อย่างไรก็ตาม  หากทำสำเร็จ รัฐบาลก็คงไม่ได้หน้า  เพราะอะไรก็รู้อยู่ แต่หากล้มเหลว  รัฐบาลถูกด่าเต็มๆคนเดียว จากคุณ : Meredith R. McKay เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 19:25:56

ความคิดเห็นที่ 112 ประเทศกำลังวิกฤตยังจะมาการเมืองอยู่ได้ จากคุณ : kodindy เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 19:28:06

ความคิดเห็นที่ 113 เถียงกันจัง จากคุณ : Santa_Baby เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 19:30:01

ความคิดเห็นที่ 114 มันเป็นพระราชดำหริ... เข้าใจนะ จบนะ จากคุณ : Big Worm. เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 20:01:29

ความคิดเห็นที่ 115 จขกท.ชัวร์จริงๆๆๆ... จากคุณ : rapatpee เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 20:15:05

ความคิดเห็นที่ 116 กำลังคิดว่าไอ้เจ้านี้ ช่วยได้มากกว่า รึเปล่า ????? จากคุณ : vn, man เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 20:20:59

ความคิดเห็นที่ 117 ของหนืด เวลาไหล มันจะดึง พวกเดียวกันไปด้วยนะครับ อย่าลืม ไม่ต้องไปดูไหนไกล ดูน้ำในอ่างพอละ น้ำล้น พอเราเอามือพัดให้น้ำออก มันก็ต้องเร็วสิ ไม่ก็ใช้แรงดันน้ำอ่ะครับ  เหมือนสูญญกาศ เวลาเขาดูดน้ำมันด้วยสายยาง  ขอโทดที่อธิบาย งง รอ คห ต่อไป จากคุณ : joyrisus เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 20:24:56

ความคิดเห็นที่ 118 ที่จริงคำตอบน่ะมันน่าจะมีอยู่แล้วแต่ไม่กล้าเปิดเผยหรือเปล่าครับ ทุกวันนี้เราวัดอัตราการไหลของน้ำอยู่แล้วในแม่น้ำเจ้าพระยาอยู่แล้วหลายจุด c.54 ป้อมพระจุล c.4 สะพานพุทธ c.12 สามเสน c.22 ปากเกร็ด หรือว่าทุกที่ที่ว่ามามันไม่ได้วัดปริมาณการไหลของน้ำ ใครรู้ข้อมูลก็เอาตัวเลขออกมาเปิดเผยกันเลยจะได้เลิกเถียงกันเสียที์ แต่ถ้าผมเป็นคนทำแล้ว ถ้าได้ผลจริงผมจะเอาผลที่วัดได้มาแถลงข่าวเลย ใครรู้ช่วยบอกทีครับ ถ้าท่านไม่เดือดร้อนกับการเปิดเผยข้อมูลตรงนี้ จากคุณ : ชมรมคนรักหมา เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 20:26:40

ความคิดเห็นที่ 119 ตามความคิดผมนะ จากคุณ : harvardวิทยาคม เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 20:39:15

ความคิดเห็นที่ 120 ตามความเห็นผมนะ จากคุณ : harvardวิทยาคม เขียนเมื่อ : 16 ต.ค. 54 20:39:42