ความคิดเห็นที่ 1 ... จากคุณ : pinestand เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 54 20:27:08

ความคิดเห็นที่ 3 ... จากคุณ : pinestand เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 54 20:28:31

ความคิดเห็นที่ 4 .. จากคุณ : pinestand เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 54 20:29:05

ความคิดเห็นที่ 6 .. จากคุณ : pinestand เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 54 20:30:53

ความคิดเห็นที่ 7 อันนี้ตัวเลขการระบายช่วงเดือนตุลาคม จากคุณ : pinestand เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 54 20:33:53

ความคิดเห็นที่ 8 ลืมที่มาของข้อมูล http://water.egat.co.th/old-web/sumdam-rep/dam-sk/graph-sk.htm หมายเหตุ ผมไม่้ได้ต้องการให้หาคนมาลงโทษในตอนนี้ เพราะถึงแม้จะตัดหัว อธิบดีกรมชล/รมว.กระทรวงเกษตร นายกรัฐมนตรี คนที่แล้ว หรือว่า คนนี้ แล้วยังไง ???? น้ำมันก็ไม่ได้หายไปไหน นิคมที่มันพังไปแล้วมันยังพัง ที่ตายไป 200 กว่าคน ก็ไม่ได้ฟื้นคืนขึ้นมา รถที่จมน้ำกี่คัน นาที่ล่มไปกี่ไร่ พื้นที่ชุมชนเมือง บรรลัยไปอีกเท่าไหร่ มันก็ไม่กลับมาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรอก คนที่ทำงานก็ยังต้องทำงานกันต่อ หาทางแก้เถอะครับ ทำยังไงมันถึงจะไม่เกิดขึ้นอีก หรือว่า มันจะผ่อนหนักเป็นเบาในรอบหน้า(หรืออาจจะปีหน้า !!!!!!!!!!!!!!!!) ก็ได้ จะได้ไม่ต้องเสียหายกันอีก จากคุณ : pinestand เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 54 20:38:20

ความคิดเห็นที่ 9 ปริมาณน้ำในเขื่อนว่ากันมาหลายรอบ หลายสิบกระทู้แล้ว แต่คนที่มาบอกไม่ยอมพูดถึง จำนวนพายุในช่วงสั้น ๆ ที่มันถล่มเข้ามา เหมือนปริมาณน้ำฝนคนก็บอกว่าแตกต่างจากปีที่แล้วไม่มาก แต่ไม่ยอมพูดถึงช่วงที่มันตกมากเป็นระยะเวลาสั้น ๆ ไม่กี่เดือน แก้ไขเมื่อ 23 ต.ค. 54 20:46:53 จากคุณ : เดอะฟักทองอินเตอร์ เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 54 20:44:56

ความคิดเห็นที่ 10 ก็แค่เอาข้อมูลมาอิงให้ดูมีน้ำหนักจะเบี่ยงประเด็นไปให้คนคล้อยตามพวกที่ตัวเองเชียร์ ไม่ได้ว่ากระทู้นี้นะ แต่เป้นกระทู้ที่ผ่านๆมา ไม่ได้ให้ความรู้ใดๆเลย RIP จากคุณ : Big Zhow เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 54 20:57:23

ความคิดเห็นที่ 11 น่าเบื่อสุดๆ เขื่อนปล่อยน้ำไม่ได้ เพราะถ้าน้ำท่วมนา จะโดนฟ้อง คนที่จะบอกว่าให้ปล่อยน้ำได้ ต้องเป็นระดับ รัฐมนตรี หรือ นายก กรมชลฯ ไม่มีหน้าที่ แก้ไขน้ำท่วม มีหน้าที่เก็บน้ำไว้ทำเกษตร ตั้งมากี่กระทู้แล้ว ยังเฟ้อเจ้ออยู่อีก จากคุณ : .eAT เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 54 20:57:34

ความคิดเห็นที่ 12 อันนี้ copy มาอีกทีละักัน ความคิดเห็นที่ 290   แทงหวยหลังจากมันออก ก็แทงถูกทั้งนั้นแหละ อันนี้ของผู้รู้ท่านนึง เอ้ามาดูเหตุการณ์จริงกันครับ กลางเดือน พค. เริ่มต้นฤดูฝน ตามประกาศของกรมอุตุ มีร่องฝน เข้ามาทางภาคเหนือ ตอนบน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง มีฝนตก บางแห่ง เกิดน้ำท่วม ลำปาง มีน้ำท่วม วันที่ 10 พค. 2554 น้ำจากลำปาง ไหลลงภาคกลาง ไม่ลงเขื่อนภูมิพล (เขื่อนเล็กๆ ก็ อยู่เหนือ จังหวัด) ไหม่า  25 มิย. เป็น D ที่ทางเหนือของลาว ส่งผลให้ภาคเหนือมีฝนมากขึ้น  นี่ครับ ไหม่า นี่แหละ ทำให้พี่น้อง ที่น่าน น้ำตาตก ทำให้ พี่น้องสุโขทัยระทมครับ ปริมาณ น้ำท่า สาขา ของเจ้าพระยา เริ่มยกระดับขึ้นแล้วครับ นกเตน 30 กค. – 3 สิงหาคม ลูกนี้ หนักหนาสาหัสมาก  ทำให้น้ำท่วม 24 จังหวัด  288  อำเภอ ที่สำคัญ คือ ภาคเหนือ ตอนล่าง ภาคกลางตอนบน ดังนี้  อุตรดิตถ์ พิจิตร พิษณุโลก ตาก นครสวรรค์ ตรงนี้ เป็นเวลาที่ คุณ แนะนำว่า เขื่อน ภูมิพลมีระดับ 50 % ต้องรีบปล่อยน้ำนะครับ  ข้อเท็จจริง คือ ปล่อยไม่ไ่ด้ครับ เขื่อนสิริกิต น้ำเกิน 100 % ต้องปล่อยน้ำแล้วครับ เลี่ยงไม่ได้จริงๆ ซึ่ง วันนี้ มีคน บอกว่าให้เขื่อนภูมิพล ปล่อยน้ำซะ  ขณะกราฟ ของเขื่อนมีน้ำเข้ามามาก ข้อเท็จ จริง คือ ปล่อยไม่ได้ครับ    ก้อข้างล่างกำลังอ่วมอยู่ 24 จังหวัด 288 อำเภอไงคับ ไหถ่าง 27 กันยายน  เป็น L ในเวียตนามเหนือแต่ส่งผลถึงไทยคือ 29 กันยายน เชียงใหม่น้ำท่วม เกิดจาก มีฝนตกหนัก แถว ต้นน้ำแม่แตง มวลน้ำก้อนนี้ ไหลลง เขื่อน ภูมิพล ตรงนี้ อีก 7 วัน จะทำให้ น้ำเข้าเขื่อน มีกราฟที่เขื่อน สูงขึ้น  ขณะเดียวกัน สุโขทัย โดนอีกแล้วครับ น้ำยม ไม่มีเขื่อน แล้ว ก็มาสมทบกันที่ นครสววรค์ NALGAE เข้าประชิดชายฝั่งวียตนาม วันที่ 5 ตุลมคม สลายตัวที่ชายฝั่งเวียตนาม ในวันที่  6 -7 ตุลาคม แต่ยังคง ดึง ความชื้น จาก ทะเลอันดามัน เข้าภาคกลาง ทำให้ภาคกลางมีฝนตก เอา หละนี่คือ เหตุการณ์ จริง แล้ว ท่าน จะบริหารจัดการอย่างไรครับ พค.  ร่องฝน เข้าทางเหนือ ผลคือ ลำปาง น้ำท่วม มิถุนา  ไหม่าเข้า น่านน้ำท่วม สุโขทัย อุตรดิตถ์ อ่วม น่านน้ำท่วม เฉพาะน่านน้ำไหลลง เขื่อนสิริกิต กรกฏาคม ปลอดน้ำท่วม แต่ฝน ก็ตกแทบทุกวัน ปลายเดือนฝนชุกขึ้น 1 สิงหา มาแล้ว นกเต็น ท่วม 24 จังหวัด  288 อำเภอ ปลายกันยา ไหถ่าง ทำให้เชียงใหม่น้ำท่วม 2 ตุลาคม ลำปาง น้ำท่วม รอบสอง  น้ำไหลลงภาคกลางอีกคับ 5 ตุลาคม NALGAE ดึงเมฆฝนเข้ามา ซ้ำเติม พี่น้องภาคกลางอีก แล้วจะบริหารจัดการน้ำตอนไหนครับ จากที่ว่า มา นั้น มีเขื่อน อยู่ สองเขื่อนใหญ่ ของสาขา เจ้าพระยาตอนต้น ส่วนอีก สองสาขา ไม่มีนะครับ ถึงมีก้อน้อยมาก เมื่อเทียบกับปริมาณน้ำที่เข้ามา กับ ปริมาณน้ำที่กักเก็บ คือลุ่มน้ำวัง มีสองเขื่อนคือ กิ่วคอหมา มีน้ำไหลเข้ามา 2 เท่า ของปริมาณที่กักเก็บได้ และ เื่ขื่อนกิวลม มีน้ำไหลเข้ามา 4 เท่า ของปริมาณที่กักเก็บได้ สุดท้ายสองเขื่อนนี้ จำต้องปล่อยไหลลงน้ำปิงครับ ส่วนแม่น้ำยม ไม่มีเขื่อน น้ำมาเท่าใด ก้อลงเจ้าพระยาเท่านั้น สองสาขา ก็มีส่วน อย่างมาก ทำให้น้ำในแม่น้ำ เจ้าพระยา เอ่อครับ เราจะดู เฉพาะ เขื่อนภูมิพลอย่างเดียวไม่ไ่ด้ แม้นดูแล้วก็ แก้ไข อะไรยากมาก เพราะ ระบายน้ำไม่ได้ เนื่อง จาก มีน้ำท่วม อยู่แล้ว ในพื้นที่ เจ้าพระยาตอนต้น ดังนั้นที่ท่านเสอนมาว่า ให้พร่องน้ำนั้น ในปีนี้ ทำไม่ได้ ที่ท่านสงสัย หรือให้ความเห็นมา คงรู้แล้วหละ ว่าเรื่องจริงเป็นอย่างไร ส่วนจะรับหรือ อยากจะเบี่ยงไปทางใด ก็สุดแท้แต่ท่านครับ วันนี้ เรารู้ว่า "หวย" ออก อะไร ข้อเท็จจริงเมื่อ ต้นปีคือเดือน 4  เรามีน้ำในเขื่อน ประมาณ 45 % ปีที่แล้ว เรามีน้ำประมาณ  52 % ทั้งปีนะครับ แล้วเราก็ บอกว่า ฉันจะปล่อยน้ำให้ไม่เกิน 50 % ทำอย่างนี้ทุกเขื่อน แล้ว หวยออก ว่าปีนี้ แล้งกว่าปีที่แล้วอีก ------------------------------------------------------------- ชาวนา จะขาดน้ำ พี่น้องภาคเหนือตอนล่าง ไม่มีน้ำทำนาปรัง พี่น้องภาคกลางตอนบน ไม่มีน้ำทำนาปี ก็ร้องให้เขื่อนปล่อยน้ำ  เขื่อนก็ปล่อยน้ำ กระทั่งเหลือ ต่ำกว่าระดับที่ จะปล่อยไ้ดีอีก เป็นอย่างนี้ สองปีติดกัน ------------------------------------------------------------- คน ก็จะบอกว่า Iอ้-here มรึง ปล่อยน้ำทำซาก อะไรฟะ ก็รู้ๆ อยู่ ว่า มันแล้ง ข้อมูลปี  53 น้ำในเขื่อนมี 52 % พอปี 54 เจือก ดันปล่อยน้ำอีก  รัฐบาลเอาคะวาย มาเป็นรัฐมนตรีหรืออย่างไร E-Pu แดง มันโง่ ไม่รู้จัก บริหารให้ดี ออกไป ออกไป ออกไป ------------------------------------------------------------- ผมเชื่อว่า ท่าน ที่เข้ามา ให้ความเห็นว่า ต้องปล่อยน้ำเขื่อนก่อนให้เหลือไม่กิน 50 % ในวันนี้ ก็จะกลับมาพูดแบบข้างบน หรือว่าไม่จริง แล้ว ท่านก้อจะเสนอว่า เรามีเขื่อนไว้เก็บน้ำ เราต้องเก็บน้ำ เอาไ้วใช้ยามขลาดแคลน อย่างน้อย เราควรเก็บน้ำไว้ มากที่สุด เท่าที่จะมากได้ เห็นไหม ครับ พอหวยออก บน เราก็ บอกว่า อย่าแทงล่าง พอหวยออกล่าง เราก็บอกว่า อย่าแทงบน -------------------------------------------------------- พูดอย่างนี้ใครๆ ก็พูดได้ครับ คืออยากให้คิดให้รอบด้านเสียก่อน ให้ดูภาพรวม ดูว่า น้ำฝน หน้าเขื่อน ท้ายเขื่อนเป็นเท่าใด ฝนมีมากมีน้อยเท่าใด ปีนี้ หาก ใจไม่มืดบอดจนเกินไป ย่อมมองเห็นว่า น้ำท่วมอยู่ในเวลานี้ มาจากปริมาณฝน มาก ทั้งประเทศ ทั้ง เหนือเขื่อนและท้ายเขื่อน เรื่องนี้ เป็นอุบัติภัยทางธรรมชาติ และเราโดนมากจริงๆ ถ้า ไม่มาก จีน อเมริกา ญี่ปุ่น ไม่ยื่นมือเข้ามาช่วยดอกครับ คนที่เขาเข้ามาช่วย ยังไม่พูดสักแอะ เลย ว่า เราบริหารน้ำไม่เป็น เพราะเขา รู้ ว่ามันเป็นภัยธรรมชาติ ----------------------------------------------------------- เช่นกัน ในเขมร ก้อท่วมมาก มากเสียจน นายกเขา ต้องเรียกพวกโรงสีมาคุย ว่า อย่าขายข้าวแพงนะ แล้วจีน ก็ควักเงินออกมา 240 ล้านให้เขมรไป เขมร เอง ไม่มีเขื่อน แล้วทำไมน้ำท่วมล่ะคับ หาก เห็นว่าเขื่อน เป็นตัวที่ทำให้น้ำท่วม ลองกลับไปคิดดูนะครับ แทนที่จะหาเหตุให้มาลงที่ คน หรือหน่วยงาน เราควร จะหาทาง ช่วยกัน ไม่ทางใด ก้อทางหนึ่ง ไม่ดีกว่าเหรอ ส่วนอันนี้ของผม ค่อยๆ ปล่อยของคุณหนะ มันเท่าไหร่ บอกหลักคิด/วิธีคิดของคุณ หนะ ตัวอย่างนะ เพิ่มวันละ 2 ล้าน ลบ.ม.ละกัน แล้วก็ค่อยดูว่าน้ำที่ท้ายเขื่อนจะขึ้นเท่าไหร่ ถ้ายังไม่ท่วม งั้นก็เพิ่มเป็นวันละ 5 ล้านละกัน  อุ๊ย ยังไม่ท่วมอีำก งั้น 10 ล้านแล้วกัน  อุ๊ยดีๆ ยังไม่่ท่วม คุณคิดว่าการคิดและวางแผนปล่อยน้ำ มันง่ายขนาดนั้นเหรอ ????  แล้วมันจะทันกับน้ำในเขื่อนที่เพิ่มขึ้นเหรอครับ ??? OK ใต้เขื่อนระยะใกล้ๆ ขอบตลิ่งแม่น้ำสูง ไม่ท่วม แล้วจะแน่ใจได้อย่างไรว่า ห่างจากเขื่อนลงไปเรื่อยๆ ระดับตลิ่งซึ่งมันจะต่ำลงๆกว่าใกล้ๆเขื่อน แล้วมันจะไม่ท่วม ???? ต้องใช้เวลากี่วันดูว่าไม่ท่วมตลอด 2 ฝั่งแม่น้ำที่อยู่ท้ายเขื่อน ??? จนออกทะเล ถ้าผมบอกว่าลองปล่อยย้ำเพิ่มซักอีกวันละ 5 ล้าน ลบ.ม. แล้วดูว่าน้ำจะท่วมหรือเปล่า ตลอดท้ายเขื่อนช่วงต้น ถึงช่วงปลาย มันใช้ เวลา 7 วัน แล้วคุณคิดว่า จะรอดูก่อนซัก 7 วัน เพื่อดูว่าน้ำจะท่วม/ไม่ท่วม เพื่อเอามาประเมิณการปล่อยน้ำเนี่ย รอบต่อไป เกิดมันท่วมที่ท้ายน้ำวันที่ 5 ที่ 6 นี่ ใครถูกด่าครับ ??? ปล่อยไปแล้วมันดึึงกลับได้ที่ไหน ถ้ัาจะบอกว่าปล่อยน้อยๆ เพิ่มขึ้นวันละ 1 แสน ลบ.ม. ละกัน กว่าจะไล่ระดับการปล่อยเป็น 1 ล้าน ลบ.ม./วัน ก็ 10 วันแล้ว ถ้าน้ำมันไหลเข้ามากกว่าที่ปล่อยออก ซักวันละ 10 ล้าน ลบ.ม. ไม่ต้องไล่ระดับไป 3 เดือนเลยเหรอ ?????  แล้วจะทันกับน้ำที่มันเข้ามาในวันที่หลังหรือเปล่า หลักคิดหนะได้ แต่มันต้องอยู่ข้อเท็จจริงด้วย หรือคุณคิดว่าเค้าจะค่อยปล่อยน้ำด้วยวิธีอื่นก็ลอง อธิบายมา ผมอาจจะเข้าผิดก็ได้ จากคุณ : pinestand     เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 54 20:49:39 หมายเหตุ 1.ผมก็เลยบอกตั้งแต่ คห.ที่ 0 แล้วว่า อย่าเพิ่งไปหาคนผิด 2.ผมทำก็เพื่อดักคอพวกนักการเมือง พวกแบ่งสีทั้งหลาย อย่าได้เอามาเอาข้อมูลพวกนี้ไปโบ๊ยให้่ผู้ปฏิบัติงานเค้ารับผิดชอบต้องกลายเป็นแพะ ประมาณว่า เขือนบริหารไม่ดี อั้นน้ำไว้ไม่ยอมปล่อย ผมเห็นใจนะ แค่เขื่อนเดียวก็บริหารจัดการยากแล้ว ถ้าเป็น 2 เขื่อนมันจะยากขึ้นอีก ก็ขอให้เข้าใจที่มาที่ไปของการตั้งกระทู้ครับ จากคุณ : pinestand เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 54 21:10:23

ความคิดเห็นที่ 13 ถ้าเป็นข้อมูลที่เป็นความจริง มีความน่าเชื่อถือ อ้างอิงจากหลักฐานแท้ๆ ก็ดีครับ เพราะ ฝ่างแดง ก็บอกว่าเป็นการวางยา เป็นการวางแผนมาจากรัฐบาลชุดก่อน ฝ่ายหลากสี ก็บอกว่าเป็นแผนของรัฐบาล เป็นแผนของทักษิณที่ปลูกข้าวหอมมะลิเอาไว้กักน้ำไม่ให้ท่วมนาข้าวตัวเอง เอาหลักฐานฟาดหน้าไปเลยครับ จะได้เลิกดึงน้ำท่วมมาผสมน้ำลายทางการเมืองสักที จากคุณ : ปลาวัวตัวอวบอัด เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 54 21:42:07

ความคิดเห็นที่ 14 เอาน้ำมาเทียบกันทั้งปี  มันต่างกันไม่มากหรอก แต่ถ้าเอาช่วงเวลา และลำดับเหตุการณ์  ท่านจะทำอย่างไร ในเมื่อก่อนหน้านี้ แล้งมาก แล้งสุดในรอบสิบปี   ท่านจะทำอย่างไร เมื่อท่านไม่ทราบอนาคต ว่าฝนมันจะตก หรือจะไม่ตก ๑.  ปล่อยน้ำในเขื่อน  ข้อดีมีพื้นที่เก็บน้ำเยอะถ้าน้ำหลาก  ข้อเสียไม่มีน้ำใช้หากฝนไม่ตก ๒.  เก็บน้ำในเขื่อน ข้อดีมีน้ำใช้ยามฝนแล้ง ข้อเสียพื้นที่เก็บน้ำน้อยหากน้ำหลาก เอาล่ะสิ  ประเด็นคือไม่ใช่เอาปริมาณน้ำทั้งปีของแต่ละปีมาเทียบกัน  ทำแบบนี้ใครก็พูดได้ตัดสินใจได้ แต่ปัญหาคือสถานการณ์ที่มันเปลี่ยนแปลงแต่ละช่วง   เข้าใจยั๊ง จากคุณ : ปืนเถื่อน เขียนเมื่อ : วันปิยมหาราช 54 22:28:09

ความคิดเห็นที่ 15 การบริหารจัดการน้ำในเขื่อนผิดพลาดแค่ส่วนหนึ่งของปัญหา คงต้องตรวจสอบต่อไป ปัญหาภัยพิบัติครั้งนี้เป็นความผิดพลาดทั้งระบบ ถ้าบริหารจัดการอาจเบาบางลง บางส่วนอาจหลีกเลี่ยงความเสียหายได้บ้างเท่านั้น ผมคิดว่าเรายังแก้ปัญหาน้ำท่วมโดยการยึดติดกับการกั้นน้ำ สร้างเขื่อน แต่ไม่สนใจการระบายน้ำมากกว่า "พูดความจริงส่วนเดียว  เพื่อสนับสนุนความเชื่อตัวเอง ก็เหมือนโกหก" จากคุณ : ชื่อสมาชิก เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 54 08:19:31

ความคิดเห็นที่ 16 ตอนนี้เขาเลิกโทษเขื่อนแล้วครับ เขาไปโทษกทม.แล้ว จากคุณ : chaiwaru เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 54 10:33:37

ความคิดเห็นที่ 17 กำ กทม.กลายเป็นแพะซังงั้น เฮ่อ จากคุณ : pinestand เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 54 11:28:47

ความคิดเห็นที่ 18 ... จากคุณ : tonjung เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 54 11:38:05

ความคิดเห็นที่ 19 ผมก็ยังงง ทุกคนจะเน้นไปถึงระบบการจัดการเสียมากกว่า เพราะสุดท้ายแล้ว ระบบก็ยังต้องมี คนเป็นผู้บริหารอยู่ดี เดิมหลายๆๆ ปีที่น้ำไม่ท่วม ปริมาณฝนก็ไม่แตกต่างกันมากนัก ทำไมไม่ท่วมนักเท่าครั้งนี้ เพราะสุดท้ายแล้ว ระบบจัดการจะดีอย่างไร หากคนไม่ใส่ใจที่จะทำตามมัน หรือ ไม่มีคนมีความรู้มาตัดสินใจในสถานะการณ์ที่ไม่เหมือนเดิมจากปีก่อนๆๆ มันก็จะน้ำท่วมเหมือนเดิม และก็หาแพะอยู่ร่ำไป ยังไงผมก็ยังเน้นเรื่องต้องหาคนที่เก่ง รู้เรื่องระบบกักเก็บ ระบายน้ำ ไม่โอนอ่อนทำตามนโยบายต่อนักการเมือง ต้องดูประชาชนเป็นหลัก แต่เท่าที่เห็นหากคนเก่ง ดี ที่ไม่ทำตามนักการเมืองก็โดนย้ายทุกที (ผว ปทุม โดนไปแล้ว) แล้วคนที่บอกว่า อย่าโทษคน เดี่ยวไม่มีคนเข้าทำงาน เพราะกลัวลดขั้นหากทำผิดพลาด ผมว่ามันหมายถึงงานที่ไม่ใหญ่มากนัก แต่ถ้าเป็นงานระดับชาติ หากบอกว่า คนไม่ผิด ผมว่า คนก็ไม่กลัวหรอก เค้าก็จะทำงานแบบประมาทได้ ดังนั้น คนที่จะมาบริหารงานด้านนี้ ควรจะต้องเก่งกว่าลูกน้อง เมื่อก่อนผมมีลูกน้อง คนหนึ่งบอกอย่าง อีกคนบอกอย่าง แต่ความรับผิดชอบอยู่ที่ผมตัดสินใจ ดีที่ผมมีความรู้เรื่องนี้ก็ตัดสินใจไม่ยาก ที่จะเชื่อใคร ก็เลยรอดตัวที่จะทำสิ่งที่ก่อให้เกิดความเสียหายให้กับโรงงาน แต่ตอนนี้ก็ออกมาแล้ว เพราะคิดว่าไม่คุมกับผลตอบแทนที่ได้รับ หากเกิดความผิดพลาด ผมไม่โทษลูกน้องเลย เพราะคนการตัดสินใจคือผม แต่หากลูกน้องตัดสินใจแทนผมคือลูกน้องผิด ดังนั้น ผมก็ยังเห็นว่า เหตุการณ์ที่ซ้ำเติมให้น้ำท่วมหนักนอกจากธรรมชาติแล้วคือ คน หากไม่มีระบบเขื่อน ผมก็คิดว่า ท่วมหนักครั้งนี้เป็นเพราะภัยธรรมชาติล้วนๆๆ จากคุณ : niky02 เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 54 13:08:28