ความคิดเห็นที่ 1 ขออภัยนะคับ .... อันนี้ คอมเมนท์ผมครับ >.<  ทำผิด เนื่องจากทางผมได้รับ FWD Facebook เกี่ยวกับ EM Ball ว่ามันดีจริงหรือไม่ ใช้บำบัดน้ำเสียได้จริงหรือ และมีผลข้างเคียงอย่างไร... มีผลต่อมนุษย์หรือไม่ ซึ่งจากประสบการณ์ของผม ซึ่งเคยไปอบรมการใช้น้ำจูลินทรีย์ กับ กระทรวงพัฒนาสังคมอะไรนี่แหละ ว่าสามารถเอามาเช็ดแผล เช็ดทำความสะอาดผิวหนังของเราได้ หรือแม้กระทั่งทาหน้าได้ด้วย ซึ่งจาก FWD FB ที่ได้รับมานั้นมัน ผิดกับความรู้และความเข้าใจของทุกๆคนอย่างมาก จึงได้ขอนำFB และ บนความดังกล่าว มาขอความรู้จากเพื่อนๆ Pantip ทุกคนว่ามันเป็นอย่างไรกันแต่ ซึ่งส่วนตัวผมเห็นใช้กันอย่างแพร่หลาย และมีประโยชน์มากมายตามลำน้ำ ลำคลอง ซึ่งผมหากข้อมูลดังกล่าวมันมั่วหรือไม่ถูกต้อง มันอาจจะกลายเป็นกระแสที่ผิดๆและ ผลเสียต่อกำลังใจ และจิตอาสาสมัครที่กำลังช่วยกันทำ EM Ball ในอยู่ในขณะนี้ได้ ขอความรู้ด้วยครับ ข้อความจาก http://www.facebook.com/WatertoHeart จากคุณ : Spyguy (SpyGuy) เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 13:22:27

ความคิดเห็นที่ 2 ขออภัยด้วยนะคับ ผมตั้งกระทู้ไม่ค่อยเป็น อาจจะโพสผิด โพสถูกก็ขออภัยด้วยคับ จากคุณ : Spyguy (SpyGuy) เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 13:30:00

ความคิดเห็นที่ 3 มีผลการทดลองมาเป็นแบ็คให้กับ hypothesis อันนี้หรือเปล่าครับหรือว่าเป็นคำพูดของคนหนึ่งคน ถ้ามีผลการทดลองที่ทำการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญอย่างน้อย3ท่านแล้วถึงจะเอามานำเสนอต่อไปครับ จากคุณ : chefknife เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 13:46:04

ความคิดเห็นที่ 4 จากข้อมูล FB ที่ได้มา คาดว่าคงไม่มีผลการทดลองหรือวิจัยแย้งใดๆ จากคุณ Chalida Uabumrungjit  นอกจากคำพูดลอยๆใน Facebook แต่ที่ผมต้องการนำเสนอ และต้องการขอข้อมูลนั้น เพื่อนำไปชี้แจ้ง และนำเสนอข้อมูลที่ถูกต้อง มิฉะนั้น หากปล่อยให้ FWD ไปเรื่อยๆ มันจะกลายเป็นกระแสที่ผิดๆ ได้คับ จากคุณ : Spyguy (SpyGuy) เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 13:49:02

ความคิดเห็นที่ 5 ผมอ่านแล้วสรุปความได้ว่า EM ball เป็นก้อนจุลินทรีย์นานาพันธุ์ เมื่อโยนลงน้ำจะไปกินแบคทีเรียไม่ดีในน้ำเสีย แต่หลังจากนั้น เมื่อแบคทีเรียไม่ดีหมดแล้ว ต่อไปจุลินทรีีย์กลุ่มนี้ก็ต้องหาทางรอดของตัวเองต่อ โดยกินสารอาหารต่างๆในน้ำ และใช้ออกซิเจน ในการดำรงชีวิต จะส่งผลให้ออกซิเจนในน้ำมีน้อยลง ส่งผลให้เกิดน้ำเสียอยู่ดี สาเหตุเพราะ ไม่สามารถควบคุมการเจริญเติบโตของกลุ่มจุลินทรีย์ได้ EM ball เหมาะสมกับพื้นที่ปิดเพราะเราจะควบคุมการแพร่กระจายของจุลินทรีย์ได้ จึงไม่อยากให้ใช้ EM ball ในแหล่งน้ำเปิด อันนี้คือ บทความที่ จขกท ต้องการจะนำมาระดมความคิดเห็นกัน **มีคำถามส่วนตัวผมก็คงคล้ยกับ จขกท ถ้าไม่ดี ทำไมจึงมีการฝช้บำบัดน้ำเสียในแหล่งน้ำอื่นๆ ด้วยครับ จากคุณ : ZaTaN_KruZZ เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 13:52:20

ความคิดเห็นที่ 6 ผมก็งูๆ ปลาๆ แต่เท่าที่ทราบ จุลินทรีย์ ในนั้น มีอายุแน่นอน ไม่ขยายพันธ์ ไปเรื่อยๆ จากคุณ : dirtydog เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 13:58:22

ความคิดเห็นที่ 7 ข้อมูลมันยังไม่ชัดเจนจริงๆ ผมเองก็โง่ซะด้วย แต่ไม่อยากให้เกิดกระแสผิดๆ คับ อยากได้ข้อมูลมากกว่านี้จัง T-T จากคุณ : Spyguy (SpyGuy) เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 14:02:13

ความคิดเห็นที่ 8 http://www.eng.chula.ac.th/?q=node/3915 อาจารย์คณะวิศวฯ ภาคสิ่้งแวดล้อม จุฬาฯ อธิบายเป็นวิชาการที่ชัดเจนครับ จากคุณ : เกียร์น้อย เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 14:05:50

ความคิดเห็นที่ 9 มีการใช้งานมานานแล้ว และใช้ได้ผล ไม่ใช่เพิ่งจะมาคิดแล้วทดลองใช้ครั้งนี้ จากคุณ : Autster เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 14:07:00

ความคิดเห็นที่ 10 ไปค้นมา มันไม่ใช้ ออกซิเจน E.M. ย่อมาจากคำว่า Effective Micro-organisms หมายถึง กลุ่มจุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพคิดค้นพบโดย ศาสตราจารย์ ดร.เทรโอะ ฮิงะ (TEROU HIGA) แห่งมหาวิทยาลัยริวกิว เมืองโอกินาว่า ประเทศญี่ปุ่น โดยใช้เทคนิคทางชีวภาพ รวบรวมเฉพาะกลุ่มจุลินทรีย์ หมวดสร้างสรรค์ที่มีอยู่ในธรรมชาติมาใช้ประโยชน์ ช่วยปรับปรุงสภาพความสมดุลของสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อมให้ดีขึ้น จุลินทรีย์หมวดสร้างสรรค์ที่มีใน EM ได้แก่ กลุ่มจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง แลกโตบาซิลัส  เพนนิซีเลี่ยม ไตรโคเดอมา ฟูซาเรียม สเตรปโตไมซิส  อโซโตแบคเตอ ไรโซเบียม ยีสต์  รา  ฯลฯ               จุลินทรีย์ใน EM ส่วนใหญ่เป็นจุลินทรีย์ที่ไม่ต้องการอากาศ และมีพลัง “แอนติออกซิเดชั่น” ซึ่งเป็นพลังสร้างสรรค์ของชีวิต ป้องกันมิให้มีการทำลายชีวภาพที่สำคัญของ เซลล์ได้ป้องกันฤทธิ์ของสารพิษได้หลายชนิด รักษาสภาพธรรมชาติของเซลล์ ได้มิให้เสื่อมสภาพรักษาสุขภาพของคนและสัตว์ มิให้เป็นโรคหรือเจ็บป่วยได้ง่าย จากคุณ : dirtydog เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 14:07:33

ความคิดเห็นที่ 11 http://www.emkyusei.net/index.php ผมใช้ em มากว่า 10 ปีแล้ว การบำบัดน้าเสียผมก็ใช้ โดยใช้ อีเอ็มบอลโยนลงไปในสระ และใช้อีเอ็มขยายลาดบนผิวน้ำ ในสระปลาที่กว้างหลายไร่ ผลก็น้ำจากเน่าเสียก็สอาดดี ในตอนแรกอาจจะมีปลาเกล็ดโดยเฉพาะปลาตะเพียนจะตายบ้าง แต่ปลาหนังที่ไม่มีเกล็ดจะไม่เป็นไร ที่ปลาเกล็ดตายเพราะการเพิ่มอ๊อกซิเจนหลังจากที่เราใส่อีเอ็มลงไป ทำให้ปลาปรับร่างกายไม่ทัน พอนานๆไปปลาปรับร่างกายได้ การตายของปลาก็หมดไป การไฟฟ้าฝ่ายผลิตที่เขื่อนภูมิพลก็ใช้เป้นหลัก ในค่ายทหารก็ใช้ จนเดี๋ยวนี้แพร่หลายไปทั่วแล้วครับ ถ้าใช้แล้วมีผลเสียคงจะไม่มีผู้ใช้มากมายขนาดนี้ครับ จากคุณ : บรรพต 71 เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 14:09:17

ความคิดเห็นที่ 12 งั้นแปลว่าข้อมูล จาก FB ดังกล่าว ไม่ถูกต้องไช่ไหมครับ ผมจะได้ไปชี้แจง หรือหากเพื่อนๆพี่ๆคนไหนเจอ ก็ช่วยชี้แจงด้วยนะคับ ก่อนจะเป็นกระแสที่ไม่ดีๆ ออกไป จากคุณ : Spyguy (SpyGuy) เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 14:13:47

ความคิดเห็นที่ 13 กระทู้รายวัน (มีมาทุกวัน) ก่อนหน้านี้ก็วิพากษ์เรื่องเรือดันน้ำ มาวันนี้วิพากษ์ EM ball ต่อไปจะเป็นเรื่องอะไรต่อดี big bag ดีไหม จากคุณ : T7Promoter เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 14:27:44

ความคิดเห็นที่ 14 พวกจุลินทรีย์ที่ใส่ลงไปโดยมากมันเป็น anaerobic organism ครับ แปลว่าไม่ใช้ออกซิเจนในการดำรงชีวิต ดังนั้นแค่ที่บอกว่าใส่ไป 3 วันแล้วทำให้น้ำเน่าเพราะออกซิเจนลดลงก็ผิดแล้ว โดยตัวที่สำคัญคือ Rhodopseudomonas palustris ตัวนี้เป็นตัวที่สังเคราะแสงและใช้สารประกอบคาร์บอนในน้ำเป็นอาหาร และมันจะปรับการใช้ชีวิตได้ขึ้นกับสิ่งแวดล้อมว่ามีอะไรให้มันกินมากสุด มีออกซิเจนมากก็ปรับมาใช้ออกซิเจนได้ จากคุณ : เขียนบน iPhone (ความจำสั้นสันหลังยาว) เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 14:36:44

ความคิดเห็นที่ 15 Ball มาจากเพื่อนที่ทำงาน ซึ่งจบPHD และทำวิจัยเรื่องน้ำมาจากญี่ปุ่น >>>>>>>>> อยากบอกว่า ใครก็ตามที่เริ่มต้นอ้าง บุคคล เช่นนี้ ผมตั้งธงไว้ก่อน ....ข้อมูลเท็จ เพราะการที่จะเชื่ออะไร ไม่ใช่เชื่อตัวบุคคล ต้องเชื่อหลักวิชาที่พูดออกให้ฟังเข้าใจ และมีเหตุผล ครับ จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 14:42:49

ความคิดเห็นที่ 16 ยกมือด้วยว่าใช้มานานแล้วเหมือนกัน บ่อบำบัดน้ำเสียในโรงบาลผมเค้าก็ใช้อยู่ ที่บ้านผมก็ใช้ในบ่อเกรอะหลังบ้าน ก็ได้ผลน่าพอใจ แรกๆน้ำจะเหม็นแต่พอเติม EM ในปริมาณที่เหมาะสม ทิ้งไว้คืนสองคืนจะเห็นฟองฟอดลอยเต็มเลย แต่กลิ่นไม่เหม็นแล้ว แต่ข้อสังเกตคือแต่ละที่มันเป็นระบบที่ปิด ไม่เหมือนแม่น้ำลำคลองที่เป็นระบบเปิด เพราะงั้นผลการทดลองอาจจะไม่เหมือนกันก็ได้ จากคุณ : มนุษย์ถ้ำ เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 14:46:26

ความคิดเห็นที่ 17 ได้ข้อมูลมาเพิ่มเติม นิดหน่อย https://www.facebook.com/notes/boonie-loh/น้ำเน่ากับem/10150894596805696 ที่ได้ความรู็เพิ่มเติม ว่า สามารถใช้ EM Ball กับน้ำท่วมได้ แต่ต้องใช้ EM สายพันธ์ที่ถูกต้องและ สภาวะเหมาะสม ... ทางที่ดีทางรัฐความจะมาบอกวิธีใช้ EM Ball ที่ถูกวิธีและได้ผมดีที่สุดด้วยนะคับ ขอบคุณพี่ๆเพื่อนๆที่เข้ามายืนยันด้วยนะคับ ^^ จากคุณ : Spyguy (SpyGuy) เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 14:49:12

ความคิดเห็นที่ 18 http://www.eng.chula.ac.th/?q=node/3915 ตามข้อมูลนี้ โดย กลุ่มอาจารย์ภาควิชาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม  คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ขอคัดบางส่วนบางตอนที่สำคัญมาให้ครับ สำหรับคนที่ไม่ได้เข้าไปอ่านดู ===================================== การย่อยสลายสารอินทรีย์ในแหล่งน้ำท่วมขังควรกระทำภายใต้สภาวะที่มีอากาศหรือออกซิเจนเท่านั้น  การย่อยสลายสารอินทรีย์ในสภาวะไร้อากาศถือได้ว่าไม่เหมาะสมอย่างยิ่งในแหล่งน้ำ ถึงแม้ EM ต้นแบบ (ลิขสิทธิ์ Professor Teruo Higa) ซึ่งอ้างว่ามีความสามารถในการกำจัดกลิ่นและทำให้น้ำใส แต่ก็เป็นการช่วยบรรเทาปัญหาชั่วคราวในระยะสั้นเท่านั้น แต่หากสารอินทรีย์ในน้ำยังคงอยู่ และออกซิเจนในน้ำไม่เพียงพอ ก็ไม่สามารถกล่าวได้ว่าน้ำนั้นสะอาดจริง กล่าวคือน้ำดังกล่าวยังไม่ปลอดภัยที่จะนำมาใช้และไม่ปลอดภัยต่อสัตว์น้ำแต่อย่างใด และอาจยังเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรคต่างๆ ได้อยู่ การผลิตน้ำหมักชีวภาพ หรือ EM ในแบบต่างๆ ด้วยตนเอง จุลินทรีย์ที่ได้อาจมีองค์ประกอบที่แตกต่างจากจุลินทรีย์ใน EM ต้นแบบ และหากไม่ได้ผ่านกระบวนการควบคุมคุณภาพที่ดีพอ EM และ น้ำหมักชีวภาพอาจเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของเชื้อโรคได้ เหตุการณ์สึนามิในประเทศญี่ปุ่นก็ได้มีการพยายามจัดการแก้ไขปัญหาน้ำเสียในพื้นที่ต่างๆ ขององค์กรอิสระต่างๆ ที่รณรงค์ร่วมกันใช้ EM เพื่อบำบัดน้ำเสีย อย่างไรก็ตาม ทางหน่วยงานรัฐบาลของประเทศญี่ปุ่น (กระทรวงสิ่งแวดล้อม) ได้ทำการทดลองเพื่อศึกษาความสามารถของ EM ในการบำบัดน้ำเสีย และพบว่า EM ไม่ได้ช่วยในการบำบัดน้ำเสียแต่อย่างใด ในการนี้ กระทรวงสิ่งแวดล้อมของประเทศญี่ปุ่นจึงไม่แนะนำการใช้ EM ในการบำบัดน้ำเสียในสถานการณ์ดังกล่าว ทั้งนี้ทางกลุ่มอาจารย์ภาควิชาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม คณะวิศวกรรมศาตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เข้าใจดีถึงความปรารถนาดีของทุกฝ่ายในการช่วยกันร่วมแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมที่จะเกิดขึ้น หากแต่อยากนำเสนออีกแง่มุมหนึ่งของ EM เพื่อประกอบการตัดสินใจ เพื่อเลือกวิธีการแก้ไขปัญหาที่เหมาะสมที่สุดในการฟื้นฟูปัญหาสิ่งแวดล้อมอันเนื่องมาจากภาวะน้ำท่วมในปัจจุบัน Content maintained by (04 Nov 11) จากคุณ : batt (Batt) เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 15:17:35

ความคิดเห็นที่ 19 ..... แก้ไขเมื่อ 04 พ.ย. 54 15:58:34 จากคุณ : Mariokin เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 15:47:58

ความคิดเห็นที่ 20 กระทู้เรื่องนี้เยอะเหลือเกิน เกิดไวด้วย ตอบกระทู้นึงโผล่มาอีกอัน ขอเอามาแปะแล้วกันครับ คือผมก็อยากหาคำตอบเลยไปค้นทางฝั่งญี่ปุ่นมาอีกเช่นเคย ผลคือ EM ให้ผลดีหลังจากใส่ลงไปจริงๆครับ แต่หลังจากนั้นในระยะยาวไม่มีข้อมูลอีกเลย มีงานวิจัย อย่างเช่นอันนี้ http://www.yuge.ac.jp/download/kiyou/vol33_12.pdf ใช้ EM ในแหลงน้ำไหล อย่างแม่น้ำ และปากอ่าวริมทะเลที่มีการตรวจวัด COD หลังจากเติม EM ลงไป ในระยะแรกให้ผลดี COD เพิ่มขึ้น แต่หลังจากนั้น กลับตกลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งผู้เขียนรายงานนี้บอกว่าสาเหตุอาจเป็นเพราะการเข้าสู่ ช่วงหน้าหนาวของญี่ปุ่น ทำให้แบคทีเรียจาก EM ในแหลงน้ำหยุดเกิบโต ทำให้ COD ตกลงอีก แต่การทดลองนี้ใช้เวลานานเป็นเดือนเป็นปี วัดผลเดือนละครั้ง ผมเห็นว่าทำให้สรุปได้ยากคร้บ ถ้าบ้านเราท่วม 3-4 เดือนผลจาก EM อาจอยู่ในช่วงที่เป็นผลดีก็ได้คร้บ แต่... คนที่คิดค้น EM ที่ความคิดเห็นที่ 7 ถามถึงคือ Prof. Higa Teruo ศ.ในมหาวิทยาลัยริวกิว โอกินาว่า ครับ แรกๆก็โด่งดังครับ แต่หลังๆแกออกจะหลุดจากความเป็นวิทยาศาสตร์ ประมาณน้ำ EM จะช่วยโลก และดูเหมือนจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับลัทธิทางศาสนาที่พูดเรื่อง การทำให้บริสุทธิ เลยทำให้มุมมองต่อ EM จากนักวิทยาศาสตร์อื่นๆในญี่ปุ่นออกไปในอารมณ์ ประมาณน้ำป้าเช้งบ้านเรา ที่บอกกันว่าได้ผล แต่ไม่เคยมีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ที่แน่ชัด ออกไปในทาง Psudo-Science ครับ อีกอย่างที่น่าเป็นห่วง ลัทธิทางศาสนาที่ไปพัวพันนั้น ในวิกิพีเดียของญี่ปุ่นบอกว่ามีคนไทยเป็นสมาชิคนับถืออยู่ถึง 700,000 คน เรื่องนี้จะมีเบื่องหลังเป็น Science, Psudo-Science หรือแม้กระทั่งลัทธิทางศาสนา มาเกี่ยวมั้ยก็ผมไม่อาจบอกได้ครับ ผมคิดว่าคนที่เอา EM มาใช้ในน้ำท่วมครั้งนี้ คงหวังดีเพราะเห็นว่ามันช่วยเรื่องการลดกลิ่นได้จริง แต่อาจไม่ได้รู้ถึง background ในอีกด้าน ของ EM ในส่วนนี้ ถือว่าเล่าสู่กันฟัง เพราะผมก็ค้นเรื่องประสิทธิภาพของ EM ในทางงานวิจัย แล้วมันไปสะดุดในข้อมูลส่วนนี้เอาครับ อ้อ ข้างล่างนี้เค้าบอกว่า Prof.Higa Teruo ไม่ได้เป็นสมาชิคในลัทธิ แต่ลัทธิเอาวิธีของ อาจารย์แกมาใช้เองครับ http://homepage2.nifty.com/yugatsuru/em/em5_e.html จากคุณ : ferrocene เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 16:32:04

ความคิดเห็นที่ 21 เหมือนหลายคนรวมทั้งรัฐบาลจะบอกว่า EM คือยาวิเศษ แก้ไขได้ทุกอย่าง ซึ่งผมไม่เชื่อครับว่ามันไม่มีข้อเสีย แปะให้อีกทีเผื่อไม่กดกัน http://www.eng.chula.ac.th/?q=node/3915 จากคุณ : SnowBee เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 17:22:50

ความคิดเห็นที่ 22 ความคิดเห็นที่ 13 T7Promoter จขกท.เขาสงสัยก็โพลต์ถามดีๆ รู้ว่าทำงาน แต่จะสงสัยไม่ได้หรือ ตกลงมันห้องหว้ากอหรือห้องเลียนายกหว่า หรือจะให้ซาบซึ้งอย่างเด่วหรือยางงงงงงายยยยยย   จากคุณ : ถั่งโถมโหมแรงใจ เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 19:14:09

ความคิดเห็นที่ 23 เรียน คห.22 ไม่ได้เลียนายกฯ ครับ ถ้าอยากจะทราบว่า EM ball เป็นยังไง ก็ควรจะใช้คำสั่้ง search ของพันทิป แล้วไปอ่านข้อมูลที่เค้าเคยวิพากษ์กันก่อนดีกว่าที่จะมาตั้งคำถามสงสัยอยู่เรื่อยๆไป เพราะในหว้ากอ ก็มีการวิพากษ์ EM ball มาเยอะพอสมควรแล้วครับ เว้นเสียแต่ว่า คนที่ตั้งกระทู้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างกระแส หรือ "ดัน" ไม่ยอมให้เรื่องนี้ตกไป ปล. EM ball ใช้ได้ครับ โยนลงในพื้นที่ปิด แล้วเอาไดรโว่พ่นให้มีอากาศใส่ลงไปด้วย จากคุณ : T7Promoter เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 20:24:47

ความคิดเห็นที่ 24 ใจเย็นๆ ครับ ขออีกสัก 20-30 กระทู้ เราจะเปิดห้อง ย่อย EM กันอย่างเป็นทางการ จากคุณ : ReHeat เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 23:47:23

ความคิดเห็นที่ 25 กระทู้นี้เข้าใจง่ายสุด http://pantip.com/cafe/wahkor/topic/X11313374/X11313374.html สรุปโดยย่ิอ ใช้อีเอ็มเพื่อจุดประสงค์ในการกำจัดกลิ่นของน้ำเสียเท่านั้น ไม่ใช่เพื่อบำบัดน้ำเสียด้วยการเพิ่มแก๊สออกซิเจนให้กับแหล่งน้ำ โดยให้ใช้กับบริเวณน้ำท่วมขังเป็นพื้นที่ขนาดเล็ก เช่น บริเวณภายในรั้วบ้านที่น้ำท่วมขัง ไม่ควรใช้กับแหล่งน้ำขนาดใหญ่หรือน้ำไหล ซึ่งเชื้อจะถูกเจือจางหรือไหลไปกับน้ำ ถ้าเลือกได้ ควรเลือกใช้น้ำหมักอีเอ็มมากกว่าก้อนอีเอ็มในการบำบัดน้ำเสีย ในกรณีที่ไม่มีน้ำหมักหรือก้อนอีเอ็ม ให้ใช้ “ปูนขาว” ใส่ลงไปในแอ่งน้ำขังนั้นแทนได้ เพราะสามารถลดกลิ่นแก๊สไข่เน่าได้เช่นกัน ในเวลาอันรวดเร็วและค่าใช้จ่ายไม่สูง การบำบัดน้ำเสียที่ดีที่สุด คือ เก็บขยะมูลฝอยของเสียต่างๆ ออกจากแหล่งน้ำนั้นและไม่ทิ้งขยะลงไปเพิ่ม รวมถึงการเพิ่มแก๊สออกซิเจนให้กับแหล่งน้ำ จะด้วย “การเปิดทางเดินของน้ำให้ลม อากาศ และแสงส่องถึง” เพื่อปล่อยให้ธรรมชาติบำบัดตนเองก็ตาม หรือทำวิธีลัดด้วย “การใช้เครื่องมือต่างๆ กวนน้ำตีน้ำ” เช่น ปั๊มออกซิเจนตู้ปลา เครื่องทำน้ำพุ เครื่องสูบน้ำขนาดเล็ก ไปจนถึงกังหันน้ำชัยพัฒนาขนาดใหญ่ การทดลองของหมอเจ http://pantip.com/cafe/wahkor/topic/X11307597/X11307597.html สรุปโดยย่อ การใช้ EM Ball และน้ำยา EM ในขนาดที่เหมาะสม หรือการใช้ปูนขาว  ช่วยลดกลิ่นและสีของน้ำเน่าได้ ดีกว่าการปล่อยทิ้งไว้เล็กน้อยๆ  แต่ก็ไม่มากจนแทบ จะไม่ต่างกับไม่ใช้เท่าไร และถ้าจะเลือกใช้ EM ต้องระวังในเรื่องของขนาดทีมากเกินไป ตัวปูนขาวก็เป็นตัวเลือกที่ น่าสนใจ ทั้งนี้ทั้งนั้น คงต้องศึกษาเรืองผลกระทบอื่นๆ ต่อสิ่งแวดล้อมมาประกอบกัน แต่ถ้าเป็นไปได้ การเก็บขยะ อินทรีย์ขึ้นจากน้ำ  ให้มากทีสุด เพิ่มการไหลเวียน้ำนั่นช่วยให้น้ำดีขึ้นแน่ๆ ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมใดๆ ทั้งสิ้น จากคุณ : kenjiwinness เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 54 21:34:38