ความคิดเห็นที่ 1 emball แก้น้ำเสีย จากคุณ : Maximumproject เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 17:42:04

ความคิดเห็นที่ 2 มาม่ายิ่งไม่มีขายอยู่ ว่าแต่ ไปเอามาจากไหนครับ อีเอ็มบอลทำน้ำเสีย ทดลองเองหรือมาจากเฟสบุค? ?? จากคุณ : Eakiji Onisuka เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 17:46:07

ความคิดเห็นที่ 3 น้ำลดจะตั้ง " แม่ตา " โฆษกแทนคุณบุญยอด [ จะโดนเก็มไหม่เนีย ] จากคุณ : JackOnell เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 17:46:54

ความคิดเห็นที่ 4 อ้าว ! ก็เข้าข่ายหลอกลวงดิ เห็นมะ ขนาดนายกฯ ยังเกือบจะเอา em ball ให้พระฉันซะแล้ว โชคดีพระท่านหลบบาตรทัน ไม่งั้น นายกฯ ก็บาปลงกระหม่อมแล้วนะนั่น ต้องร้องเรียน ส.ค.บ. ครับ แบบนี้ จากคุณ : เต๋านีโอ เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 17:47:57

ความคิดเห็นที่ 5 มีรายละเอียดมากกว่านี้ไหมคะ เพราะที่ post มาไม่มีข้อมูลทางวิชาการสนับสนุนเลย แม้แต่ ชื่อ ของอาจารย์จุฬา อาจารย์เค้าเชี่ยวชาญด้านไหนคะ จากคุณ : ใจผลิบาน เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 17:48:26

ความคิดเห็นที่ 6 ต่ที่บ้านเคยน้ำหมักชีวภาพ EM ผสมกับน้ำตามอัตราส่วนใช้ราดส้วมเพื่อดับกลิ่น น้องแมวบ้านอื่นชอบมาขี้หน้าบ้านก็เอาEMราดไปกลิ่นก็หาย เราคิดว่าผู้ประสบภัยที่ต้องอยู่กับน้ำเน่าเหม็นนานๆถ้าได้น้ำหมักEM มาราดจะช่วยเรื่องกลิ่นมากกว่าน้ำหายเน่านะคะ ส่วน EM Ball ตอนไปเที่ยวเชิงอนุรักษ์เค้าแจกให้บนเรือแล้วโยนลงทะเลค่ะ จากคุณ : แพนด้าออกโรง เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 17:51:23

ความคิดเห็นที่ 8 เดี๋ยวนี้ อะไร ก็อ้างอาจารย์    ดร.  สถาบันโน้นนี้ เพื่อนๆ เรา ก็เป็นอาจารย์ หลายคน  มั่วก็เยอะนะ   เขาไม่ได้รู้ทุกเรื่องหรอก ที่แย่กว่า คือ อาจารย์ปลอม (แอบอ้างเฉย) จากคุณ : sb*star เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 17:55:22

ความคิดเห็นที่ 9 คห 7 จะด่ายังเกรงใจอีก เออ.... จากคุณ : sb*star เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 17:56:20

ความคิดเห็นที่ 10 คุณ จขกท ว่างมากเหรอคะ  หรืออยากเละ ถึงบอกว่า EM ball  ทำน้ำเสีย  เขาทดลองมาแล้วว่า สามารถย่อยสลายน้ำเสียได้จริง  ใ่ส่ 1 ลูกในน้ำทั้งหมด  มันจะไปต้านไหวได้งัย ตัว here วิ่งมีหน้าบ้านแล้ว  ขอออกไปไล่ก่อน ช่่วยอ่านหน่อย ความคิดเห็นที่ 11 [ถูกใจ] [แจ้งลบ] ติดต่อทีมงาน http://www.emkyusei.net/index.php ผมใช้ em มากว่า 10 ปีแล้ว การบำบัดน้าเสียผมก็ใช้ โดยใช้ อีเอ็มบอลโยนลงไปในสระ และใช้อีเอ็มขยายลาดบนผิวน้ำ ในสระปลาที่กว้างหลายไร่ ผลก็น้ำจากเน่าเสียก็สอาดดี ในตอนแรกอาจจะมีปลาเกล็ดโดยเฉพาะปลาตะเพียนจะตายบ้าง แต่ปลาหนังที่ไม่มีเกล็ดจะไม่เป็นไร ที่ปลาเกล็ดตายเพราะการเพิ่มอ๊อกซิเจนหลังจากที่เราใส่อีเอ็มลงไป ทำให้ปลาปรับร่างกายไม่ทัน พอนานๆไปปลาปรับร่างกายได้ การตายของปลาก็หมดไป การไฟฟ้าฝ่ายผลิตที่เขื่อนภูมิพลก็ใช้เป้นหลัก ในค่ายทหารก็ใช้ จนเดี๋ยวนี้แพร่หลายไปทั่วแล้วครับ ถ้าใช้แล้วมีผลเสียคงจะไม่มีผู้ใช้มากมายขนาดนี้ครับ จากคุณ : บรรพต 71 เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 14:09:17 [แก้ไข] แก้ไขเมื่อ 04 พ.ย. 54 18:09:41 แก้ไขเมื่อ 04 พ.ย. 54 18:04:05 จากคุณ : nuch_tre เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 18:00:51

ความคิดเห็นที่ 11 อ่านเจอนะครับ ไม่รู้จริงหรือเปล่า? http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1320403335&grpid=03&catid=03&subcatid=0305 EM และน้ำหมักชีวภาพ แก้ไขปัญหาน้ำเน่าเสียได้จริงหรือ ? วันที่ 04 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 เวลา 17:37:57 น. โดย กลุ่มอาจารย์ภาควิชาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในช่วงเวลาปัจจุบันมีหลายหน่วยงานและหลายภาคส่วนได้สนับสนุนการใช้ EM (Effective Microorganisms) เพื่อบำบัดปัญหาเรื่องกลิ่นเหม็นและน้ำเน่าเสียในบริเวณน้ำท่วมขัง ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือจากหลายฝ่ายรวมถึงประชาชนทั่วไปเป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อจะอธิบายข้อเท็จจริงและให้ความรู้ในด้านต่างๆ เกี่ยวกับ EM และจะกล่าวถึงกรณีศึกษาในการบำบัดน้ำเสียของต่างประเทศในภาวะฉุกเฉิน ทั้งนี้ บทความนี้มิได้มีเจตนาที่จะก่อให้เกิดความขัดแย้งแต่อย่างใด แต่มุ่งหวังถึงประโยชน์สูงสุดในการปรับปรุงคุณภาพสิ่งแวดล้อมในสถานการณ์น้ำท่วมในปัจจุบัน ปัญหาน้ำเน่าอาจกล่าวได้ว่าเกิดจากการที่สารอินทรีย์ในน้ำมีปริมาณสูง เมื่อเกิดการย่อยสลายโดยจุลินทรีย์จึงส่งผลให้ออกซิเจนในน้ำมีปริมาณลดลง และในที่สุดอาจก่อให้เกิดสภาวะไร้อากาศซึ่งส่งกลิ่นเหม็น และส่งผลเสียต่อปลาและสัตว์น้ำต่าง ๆ ค่าการละลายออกซิเจนนับเป็นพารามิเตอร์หนึ่งที่สามารถบ่งบอกคุณภาพน้ำได้ โดยในแหล่งน้ำที่สะอาด ไม่เน่าเสีย โดยทั่วไปจะมีค่าการละลายออกซิเจนประมาณ 3 - 7 มิลลิกรัมต่อลิตร การย่อยสลายสารอินทรีย์ในสภาวะที่มีออกซิเจนสามารถอธิบายอย่างง่ายดังนี้ EM (Effective Microorganisms) เป็นกลุ่มจุลินทรีย์ที่มีความสามารถเฉพาะทาง ประกอบด้วยจุลินทรีย์ 3 กลุ่มหลัก คือ 1) กลุ่ม Lactic acid bacteria 2) กลุ่ม Yeast และ 3) กลุ่ม Phototrophs (Purple bacteria) ซึ่งได้รับการพัฒนามาจาก Professor Teruo Higa ประเทศญี่ปุ่น รวมถึงได้มีการประยุกต์ใช้งานในหลากหลายด้าน อาทิ ด้านการเกษตร ด้านการหมักขยะมูลฝอยเพื่อทำปุ๋ย และด้านการย่อยสลายสารอินทรีย์ในสุขา (โถส้วม) เป็นต้น โดยทั่วไป จุลินทรีย์ใน EM สามารถทำงานได้ทั้งในสภาวะที่มีออกซิเจน (Aerobic conditions) และไม่มีออกซิเจน (Anaerobic conditions) อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาถึงการประยุกต์ใช้งาน EM ในสภาวะที่ในน้ำท่วมขังซึ่งมีปริมาณออกซิเจนละลายน้ำ (Dissolved Oxygen, DO) อยู่อย่างจำกัด กล่าวได้ว่า EM จะใช้ออกซิเจนในการย่อยสลายสารอินทรีย์ และในช่วงเวลาดังกล่าวจะส่งผลทำให้ปริมาณออกซิเจนในน้ำลดลงและไม่เพียงพอได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าน้ำในบริเวณดังกล่าวมีสารอินทรีย์ปนเปื้อนอยู่มาก รวมถึงมีการใส่ EM ในรูปแบบที่ไม่เหมาะสม (ปริมาณที่มากไปหรือใส่เข้าไปในสภาวะหรือรูปแบบที่ไม่เหมาะสม) ดังนั้น กล่าวได้ว่าการเติม EM อาจส่งผลทำให้เกิดปัญหาน้ำเน่าเสียจากการขาดออกซิเจนที่รุนแรงขึ้นกว่าเดิม อีกประเด็นสำคัญที่ควรคำนึงถึงเกี่ยวกับการเลือกใช้งาน EM กล่าวคือ จุลินทรีย์ใน EM ทั้ง 3 กลุ่มดังกล่าวไม่มีความสามารถในการสร้างออกซิเจนแต่อย่างใด นอกจากนี้ องค์ประกอบของ EM ball หรือ Micro ball ซึ่งมีการปั้นโดยใช้องค์ประกอบเป็นสารอินทรีย์ต่างๆ เช่น กากน้ำตาล และ รำข้าว เป็นต้น ซึ่งตัวอย่างผลกระทบของสารอินทรีย์ข้างต้นต่อการเน่าเสียของแหล่งน้ำ อาทิ กรณีกากน้ำตาล ที่ส่งผลต่อปัญหาน้ำเน่า เช่น การลักลอบทิ้งน้ำเสียจากโรงงานน้ำตาล และกรณีเรือน้ำตาลล่มในแม่น้ำเจ้าพระยาที่เป็นข่าวใหญ่ในช่วงที่ผ่านมา กรณีรำข้าว อาจพิจารณาการที่เรานำรำข้าว หรือ เศษอาหาร ไปทิ้งไว้ในน้ำในปริมาณมากๆ และเป็นระยะเวลานาน ก็ย่อมส่งผลให้น้ำเน่าเสียเช่นกัน ดังนั้น เมื่อโยน EM ball ลงในแหล่งน้ำจึงเปรียบเสมือนการเพิ่มปริมาณสารอินทรีย์ให้กับแหล่งน้ำในบริเวณที่มีการท่วมขังอีกทางหนึ่ง โดยสารอินทรีย์ดังกล่าวที่ยังคงเหลืออยู่ย่อมก่อให้เกิดความต้องการออกซิเจนในน้ำที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้ออกซิเจนในน้ำลดลงได้  และแม้แต่จุลินทรีย์ใน EM เอง เมื่อตายไปก็นับเป็นแหล่งสารอินทรีย์ในน้ำเช่นกันซึ่งก็ยังต้องใช้ออกซิเจนในการย่อยสลายเช่นกัน  ดังนั้น กล่าวได้ว่าการเติม EM นอกจากจะไม่ช่วยสร้างออกซิเจนแล้ว ยังส่งผลทำให้เกิดปัญหาน้ำเน่าเสียที่รุนแรงขึ้นกว่าเดิมจากการลดลงของปริมาณออกซิเจนในน้ำ รวมถึงเพิ่มสูงขึ้นของปริมาณสารอินทรีย์ (ดังที่กล่าวถึงข้างต้น) ทั้งนี้ การย่อยสลายสารอินทรีย์ในแหล่งน้ำท่วมขังควรกระทำภายใต้สภาวะที่มีอากาศหรือออกซิเจนเท่านั้น  การย่อยสลายสารอินทรีย์ในสภาวะไร้อากาศถือได้ว่าไม่เหมาะสมอย่างยิ่งในแหล่งน้ำ โดยสรุป เราสามารถกล่าวได้ว่าการบำบัดสารอินทรีย์ในแหล่งน้ำมีลักษณะแตกต่างจากการบำบัดสารอินทรีย์ในสุขา และการหมักขยะเพื่อทำปุ๋ย  (ซึ่งมีการใช้ EM ร่วมด้วยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ) โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเด็นด้านออกซิเจนละลายน้ำ (DO) ที่เป็นพารามิเตอร์ที่บ่งบอกถึงคุณภาพแหล่งน้ำ รวมถึงเป็นสิ่งจำเป็นและสำคัญอย่างมากต่อคุณภาพแหล่งน้ำ ถึงแม้ EM ต้นแบบ (ลิขสิทธิ์ Professor Teruo Higa) ซึ่งอ้างว่ามีความสามารถในการกำจัดกลิ่นและทำให้น้ำใส แต่ก็เป็นการช่วยบรรเทาปัญหาชั่วคราวในระยะสั้นเท่านั้น แต่หากสารอินทรีย์ในน้ำยังคงอยู่ และออกซิเจนในน้ำไม่เพียงพอ ก็ไม่สามารถกล่าวได้ว่าน้ำนั้นสะอาดจริง กล่าวคือน้ำดังกล่าวยังไม่ปลอดภัยที่จะนำมาใช้และไม่ปลอดภัยต่อสัตว์น้ำแต่อย่างใด และอาจยังเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรคต่างๆ ได้อยู่  นอกจากนี้ หากมองถึงประเด็นการผลิตน้ำหมักชีวภาพ หรือ EM ในแบบต่างๆ ด้วยตนเอง จุลินทรีย์ที่ได้อาจมีองค์ประกอบที่แตกต่างจากจุลินทรีย์ใน EM ต้นแบบ และหากไม่ได้ผ่านกระบวนการควบคุมคุณภาพที่ดีพอ EM และ น้ำหมักชีวภาพอาจเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของเชื้อโรคได้ ซึ่งนับเป็นอีกปัญหาหนึ่งที่ควรระวังและไม่ควรมองข้ามสำหรับทุกๆ หน่วยงานและภาคส่วนที่มีสนับสนุนการใช้ EM เพื่อบำบัดปัญหาเรื่องกลิ่นเหม็นและน้ำเน่าเสียในบริเวณน้ำท่วมขัง ผู้ทรงคุณวุฒิ จากประเทศญี่ปุ่น (ซึ่งไม่สามารถเอ่ยนามได้ เนื่องจากไม่ได้ขออนุญาตไว้) ได้ให้ข้อมูลว่าจากเหตุการณ์สึนามิในประเทศญี่ปุ่นก็ได้มีการพยายามจัดการแก้ไขปัญหาน้ำเสียในพื้นที่ต่างๆ ขององค์กรอิสระต่างๆ ที่รณรงค์ร่วมกันใช้ EM เพื่อบำบัดน้ำเสีย อย่างไรก็ตาม ทางหน่วยงานรัฐบาลของประเทศญี่ปุ่น (กระทรวงสิ่งแวดล้อม) ได้ทำการทดลองเพื่อศึกษาความสามารถของ EM ในการบำบัดน้ำเสีย และพบว่า EM ไม่ได้ช่วยในการบำบัดน้ำเสียแต่อย่างใด ในการนี้ กระทรวงสิ่งแวดล้อมของประเทศญี่ปุ่นจึงไม่แนะนำการใช้ EM ในการบำบัดน้ำเสียในสถานการณ์ดังกล่าว นอกจากนี้ จากเหตุการณ์สึนามิซึ่งระบบบำบัดน้ำเสียถูกทำลาย ทางหน่วยงานรัฐบาลของญี่ปุ่นได้ทำการแก้ไขปัญหาระยะสั้นโดยการเติมคลอรีนเพื่อฆ่าเชื้อโรคลงในท่อบำบัดน้ำเสีย  และเลือกใช้การตกตะกอน (Sedimentation) และการฆ่าเชื้อโรค (Disinfection) เพื่อบำบัดน้ำเสียในระบบบำบัดน้ำเสียชั่วคราว รวมถึงได้มีการวางแผนจะพัฒนาระบบบำบัดน้ำเสียชั่วคราวโดยใช้ระบบบำบัดทางชีวภาพร่วมกับการตกตะกอน และการฆ่าเชื้อโรค  (Biological treatment - Sedimentation - Disinfection) ส่วนในบริเวณชนบทนั้น ดำเนินการบำบัดน้ำเสียโดยทำการรวบรวมน้ำเสีย และทำการการฆ่าเชื้อโรค จากนั้นปล่อยลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ จนกระทั่งระบบบำบัดขนาดเล็กได้รับการฟื้นฟู ทั้งนี้ทางกลุ่มอาจารย์ภาควิชาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม คณะวิศวกรรมศาตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เข้าใจดีถึงความปรารถนาดีของทุกฝ่ายในการช่วยกันร่วมแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมที่จะเกิดขึ้น หากแต่อยากนำเสนออีกแง่มุมหนึ่งของ EM เพื่อประกอบการตัดสินใจ เพื่อเลือกวิธีการแก้ไขปัญหาที่เหมาะสมที่สุดในการฟื้นฟูปัญหาสิ่งแวดล้อมอันเนื่องมาจากภาวะน้ำท่วมในปัจจุบัน จากคุณ : kinkong เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 18:08:18

ความคิดเห็นที่ 12 อย่าด่า จขกท เลยค่ะ เมื่อกี้ก็ได้ยินสัมภาษณ์อาจารย์คนนี้ในทีวี จุลินทรีย์พวกที่ใช้ออกซิเจนในการเจริญเติบโต มันจะดึงออกซิเจนในน้ำมาใช้ มีผลให้น้ำเน่าเสียกว่าเดิม แต่เรื่อง EM Ball เราไม่ทราบว่ามีอะไรบ้างในนั้น ไม่เคยเห็น ไม่กล้าสรุปค่ะ จากคุณ : นกปิ๊ดตาลิวเบิร์ด เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 18:11:16

ความคิดเห็นที่ 13 http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X11287968/X11287968.html ความคิดเห็นที่ 10 [ถูกใจ] [แจ้งลบ] ติดต่อทีมงาน ไปค้นมา มันไม่ใช้ ออกซิเจน E.M. ย่อมาจากคำว่า Effective Micro-organisms หมายถึง กลุ่มจุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพคิดค้นพบโดย ศาสตราจารย์ ดร.เทรโอะ ฮิงะ (TEROU HIGA) แห่งมหาวิทยาลัยริวกิว เมืองโอกินาว่า ประเทศญี่ปุ่น โดยใช้เทคนิคทางชีวภาพ รวบรวมเฉพาะกลุ่มจุลินทรีย์ หมวดสร้างสรรค์ที่มีอยู่ในธรรมชาติมาใช้ประโยชน์ ช่วยปรับปรุงสภาพความสมดุลของสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อมให้ดีขึ้น จุลินทรีย์หมวดสร้างสรรค์ที่มีใน EM ได้แก่ กลุ่มจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง แลกโตบาซิลัส  เพนนิซีเลี่ยม ไตรโคเดอมา ฟูซาเรียม สเตรปโตไมซิส  อโซโตแบคเตอ ไรโซเบียม ยีสต์  รา  ฯลฯ              จุลินทรีย์ใน EM ส่วนใหญ่เป็นจุลินทรีย์ที่ ไม่ต้องการอากาศ และมีพลัง “แอนติออกซิเดชั่น” ซึ่งเป็นพลังสร้างสรรค์ของชีวิต ป้องกันมิให้มีการทำลายชีวภาพที่สำคัญของ เซลล์ได้ป้องกันฤทธิ์ของสารพิษได้หลายชนิด รักษาสภาพธรรมชาติของเซลล์ ได้มิให้เสื่อมสภาพรักษาสุขภาพของคนและสัตว์ มิให้เป็นโรคหรือเจ็บป่วยได้ง่าย จากคุณ : dirtydog เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 14:07:33 [แก้ไข] ความคิดเห็นที่ 11 [ถูกใจ] [แจ้งลบ] ติดต่อทีมงาน http://www.emkyusei.net/index.php ผมใช้ em มากว่า 10 ปีแล้ว การบำบัดน้าเสียผมก็ใช้ โดยใช้ อีเอ็มบอลโยนลงไปในสระ และใช้อีเอ็มขยายลาดบนผิวน้ำ ในสระปลาที่กว้างหลายไร่ ผลก็น้ำจากเน่าเสียก็สอาดดี ในตอนแรกอาจจะมีปลาเกล็ดโดยเฉพาะปลาตะเพียนจะตายบ้าง แต่ปลาหนังที่ไม่มีเกล็ดจะไม่เป็นไร ที่ปลาเกล็ดตายเพราะการเพิ่มอ๊อกซิเจนหลังจากที่เราใส่อีเอ็มลงไป ทำให้ปลาปรับร่างกายไม่ทัน พอนานๆไปปลาปรับร่างกายได้ การตายของปลาก็หมดไป การไฟฟ้าฝ่ายผลิตที่เขื่อนภูมิพลก็ใช้เป้นหลัก ในค่ายทหารก็ใช้ จนเดี๋ยวนี้แพร่หลายไปทั่วแล้วครับ ถ้าใช้แล้วมีผลเสียคงจะไม่มีผู้ใช้มากมายขนาดนี้ครับ จากคุณ : nuch_tre เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 18:11:25

ความคิดเห็นที่ 14 ถ้าทำหน้าเศร้าแล้วเทลงแม่น้ำแบบนักข่าวช่องน้อยสีทำออกทีวี มันก็ไม่มีประโยชน์ ปลุกกระแสได้ดี แต่ไม่ยอมอธิบายการใช้ที่ถูกต้อง จากคุณ : erkDaZe เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 18:13:16

ความคิดเห็นที่ 15 ความคิดเห็นที่ 11 ถ้ากลุ่มอาจารย์มั่นใจขนาดนั้น ทำไมไม่เห็นกลุ่มอาจารย์ลงชื่อสักคน.. จากคุณ : มะด่วย เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 18:16:31

ความคิดเห็นที่ 16 em ที่ผมขยายเก็บใส่ขวดลืมไว้เกือบ 6 เดือน เอามาเปิดดู ก้อยังหอมดี ไม่เน่าไม่เสียนะครับ จากคุณ : nat1234 เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 18:17:58

ความคิดเห็นที่ 17 จขกท ลองใช้ดูยังอะคับ อันนี้ของกระทู้ล่างผมเริ่มงงละ http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X11287968/X11287968.html แก้ไขเมื่อ 04 พ.ย. 54 18:24:02 จากคุณ : Occult เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 18:21:42

ความคิดเห็นที่ 18 share อะไรกรองหน่อยก็ดีนะครับ จากคุณ : korn^_^ เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 18:26:42

ความคิดเห็นที่ 19 แม่ตา ปัญญาอ่อน ขอด่าตรงๆ เลย ไม่หาข้อมูล ก่อนมาตั้งกระทู้ พวก สลิ่ม แมลงสาบหู เบา มีอคติในใจเป็นทุนเดิมไม่ชอบนายกอยู่แล้ว  ก็มักจะเป็นคน จำพวกนี้ ไปหาข้อมูล ก่อน บริษัทน้ำมันแห่งชาติเป็นผู้ทำแจกจ่าย อย่ามา โชว์โง่ จากคุณ : Roses are Forever เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 18:39:10

ความคิดเห็นที่ 20 . จากคุณ : ตะแบกบานแล้วร่วง เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 18:43:38

ความคิดเห็นที่ 21 เฮ้อ anaerope organism คืออะไรอยากฝาก จขกท. ไปถามอ.จุฬาคนนั้นนะครับ ฝากอีกข้อ Rhodopseudomonas palustris  คืออะไร ข้อมูลอะไรได้มาก็กรองๆบ้างนะ จากคุณ : เขียนบน iPhone (ความจำสั้นสันหลังยาว) เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 18:44:54

ความคิดเห็นที่ 22 แม่ตา ชอบใส่ร้าย ป้ายสีคนอื่น คนอย่างคุณ สมองชั้นต่ำ แสดงนิสัยเลวๆ ออกมา ไม่สมควรมาเล่นในห้องหว้ากอเลยนะ ไสหัวไปเลยดีกว่า หูเบา + มีอคติในใจ เพราะ โดนใครล้างสมองไม่ทราบ หรือ เป็นแม่ยก ชื่นชอบ อดีตนายกคนก่อน ดู ซะ หน่วยงานนี้เขาทำ EM Ball ไม่ใช่รัฐบาล เขาทำมาเป็นล้านลูก แก้ไขเมื่อ 04 พ.ย. 54 18:50:35 จากคุณ : Roses are Forever เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 18:45:56

ความคิดเห็นที่ 23 กำลังจะมาโพสถามเลยเรื่องนี้ ส่วนตัวไม่ค่อยมีความรู้แต่รู้ค่ามันต้องการO2 นี่ครับข่าวที่อ.จุฬาเขียน http://news.mthai.com/general-news/139391.html ปล.เนื้อหาในลิ้งเหมือน คห.11 จริงเท็จไม่ทราบครับ ปล2.แล้วเรามีวิธีเพิ่มO2ในน้ำแบบง่ายๆไหม เหมือนกังหันตามบ่อกุ้ง แต่ให้ชาวบ้านทำกันเอง แก้ไขเมื่อ 04 พ.ย. 54 18:53:16 จากคุณ : นายชอล เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 18:50:24

ความคิดเห็นที่ 24 มีประเทศอื่นเขาใช้หรือเปล่าอ่ะ หรือมีแต่ไทยใช้ จากคุณ : ztango เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 18:52:52

ความคิดเห็นที่ 25 เฮ้ยย .. คนหนอคน .. มือไม่พาย ยังเอาปากแกว่งหาเสี้นย  อนุมานว่า แม่ตา คงไม่มีลิปติก "สี" ใช้ จริงมาตั้งกระทู้อะไรแบบเนี๊ยะ บ้านเราก็ใช้น้ำอีเอ็ม มาตั้งนาน ทั้งล้างห้องน้ำ  ดับกลิ่นฉี่ของน้องหมา ถูพื้นบ้าน ขนาดเราไม่ปลื้มกลิ่น เราก็ยังทนใช้   ลองก่อนค่ะ .. ลอง  แล้วค่อยมาตั้งกระทู้ให้คนอื่นเค้าว่า เอาได้ .. ตอนนี้ .. ยังต้องการแรงงานช่วยปั้นอีเอ็มบอล ไปมะคะ .. จากคุณ : Talaychan เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 18:57:15

ความคิดเห็นที่ 26 เราว่าจขกท เค้าคงแค่อยากทราบข้อเท็จจริงนะคะ ไม่เห็นต้องไปว่าเค้าเลย อีกอย่างก็อยากให้ถกกันด้วยข้อมูลมากกว่าจะมาว่ากันนะ เราเองก็อยากทราบข้อเท็จจริงด้วยเหมือนกัน จากคุณ : ตุ่มโบ๊ะ เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 19:01:38

ความคิดเห็นที่ 27 ออกตัวก่อนว่าไอเรื่อง บิ๊กแบ็ค อีเอ็มบอล ผลไม่รู้หรอกว่ามันใช้ได้ผลจริงไหม ได้กี่เปอฯ หรืออะไรยังไง แต่ที่ผมด่า คือ ไอพวกที่คิดหลุดโลก เกินจินตนาการ วนไปเรื่องการเมืองโง่ๆ จากคุณ : Mr.Kito เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 19:03:04

ความคิดเห็นที่ 28 ลิงค์ต้นทางใน คห. 23 ครับ http://www.eng.chula.ac.th/index.php?q=th%2Fnode%2F3915 จากคุณ : Mr.Kito เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 19:07:14

ความคิดเห็นที่ 29 ตกลงยังไงกันแน่ะ เสพข่าวจนงง จากคุณ : cavaliere เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 19:11:56

ความคิดเห็นที่ 30 สู้กันด้วยข้อมูล นับถือทุกท่าน จากคุณ : amnakim เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 19:25:43

ความคิดเห็นที่ 31 น้ำท่วม แพะ บาน แบะ จากคุณ : ซุนจื๊อ เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 20:00:44

ความคิดเห็นที่ 32 ดราม่าเยอะมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ จากคุณ : My life in Japan. เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 20:02:14

ความคิดเห็นที่ 33 ตกลงมันได้ไหมครับ ผมอยากทราบว่ามันได้จริงไม่จริง อย่าเพิ่งด่า จขกท. เลยครับ เพราะข่าวมันมีสองทางจริงๆ ได้ กับ ไม่ได้ จากคุณ : คุณชายทหารไทย เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 20:04:03

ความคิดเห็นที่ 34 โอว ฟังข่าวแล้่วควรหาข้อมูลให้ดีก่อนโพสนะคะ จากคุณ : Ohe27 เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 20:17:11

ความคิดเห็นที่ 35 ต้องด่าแรงขนาดนั้นเชียวหรา  อะไรจะเจ็บแค้นแทนกันได้ขนาดน้านนนนนนนนนนนนนน จากคุณ : ถั่งโถมโหมแรงใจ เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 20:18:53

ความคิดเห็นที่ 36 ไม่ยอมคิดเอง หาข้อมูลเองบ้าง  ฟังแต่คนอื่น  มันก็ดักดาน แถมหาเรื่องใส่ร้ายชาวบ้านเพราะความเขลาของตัวเองอีก จากคุณ : pigka เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 20:31:27

ความคิดเห็นที่ 37 . แก้ไขเมื่อ 04 พ.ย. 54 23:27:34 จากคุณ : ผีน่ารัก เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 20:36:29

ความคิดเห็นที่ 38 แสดงว่า  กองทัพไทย กับ กทม สร้างแผนทำลาย ชาติ หรือ รูปแสดง แผน ทดสอบ และทดลอง !!! จากคุณ : ขนมสาคู เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 20:44:28

ความคิดเห็นที่ 39 ผมขอยืนยันว่า em ใช้ได้ผลจริงๆครับ นอกจากจะประหยัดแล้วยังไม่มีสารพิษด้วย ที่บ้านผมส้วมไม่เคยเต็มเลย เพราะใช้ em หมักกับน้ำซาวข้าวตาม คห.ข้างบน ขัดห้องน้ำทำให้ห้องน้ำ(ส้วม)ไม่มีกลิ่น อีกทั้งยังย่อยสลายทำให้ไม่ต้องดูดส้วมเลย น้ำยาขัดส้วมก็ไม่ต้องเสียตังค์ซื้อ อ่างล้างหน้าก็ไม่เคยตัน ยังมีประโยชน์อื่นๆในชีวิตประจำวันเราอีกมากครับ ล้างรถก็ได้ ถูบ้านก็ได้ เช็ดโต๊ะอาหารก็จะไม่มีแมลงวันมาตอมเพราะกลิ่นอาหารถูกกำจัดไปแล้ว การใช em ในชีวิตประจำวันใช้ em ขยายผสมน้ำ 1:500 นะครับ จากคุณ : บรรพต 71 เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 20:56:05

ความคิดเห็นที่ 40 งงวุ้ย ที่หนังสือกระดูกงู ของ ท ร เค้าก็ใช้กันดี สวนยางบางที่ก็ใช้กันเวลากรีด ไหลยังกะ เขื่อนแตก เอ๊ะไม่เกี่ยวกันนี่ ว่าแต่ข่าวออกแบบนี้ก้อดี มันได้ ราคาถูกๆ ก่อนหน้าซักเกือบ2อาทิตย์ พี่ผมไปได้ มา 10 แกลอน แกลอน ละ 70 บาท ที่ อ ต ก เอาไป แจกตาม เพื่อนบ้าน แบบนี้ น่าจะฟันธงเลย งานนี้ มีคนหน้าแหกครับ จากคุณ : แปปซี่แม้ก โค้กซี่โร่ (SHEEP_DOG) เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 21:01:17

ความคิดเห็นที่ 41 EM ball ยังไม่เคยลอง แต่ EM ที่เป็นน้ำหมักทำอยู่หลายปีแล้ว ผมใช้เฉพาะเปลือกส้ม ส้มโอ เปลือกสัปรด  มะนาว เปลือกมังคุด กากน้ำตาลหรือนำตาลทรายแดง พร้อมเทน้ำ EM ที่เป็น เป็นเชื้อลงไปเพือให้แบคทีเลียขยายพันธ์ได้เร็วขึ้น หมักกลิ่นจะไม่เหม็นจะออกหอมด้วยซ้ำ สังเกตุว่าเปลือกผลไม้ที่หมัก ทิ้งไว้เป็นปีก็ไม่เน่ายังคงรูปค่อนข้างเหมือนเดิม ต่างจากถ้านำ เปลือกผลไม้ดังกล่าวไปแช่น้ำธรรมดาจะเน่าเสียมีกลิ่นเหม็น  ถ้าทำถูกต้อง EM ขยายพันธ์ได้ ทั้งไว้สัปดาห์หรือสองสัปดาห์น้ำจะเริ่มใส่ ด้านบนมีวุ้นคลุมรอบเหนือน้ำ ถ้าได้แบบนี้จะแก้น้ำ เสียได้  ส่วน EM Ball ไม่เคยลอง แต่ก็สงสัยเหมือนกันว่าเวลาทำ ก่อนนำไปใช้จะต้องหมัก ให้ EM กินรำและขยายพันธ์ให้ได้ปริมาณมากในระดับหนึ่งก่อนหรือไม่ เหมือนการหมักปุ๋ย ถ้าเราเอาน้ำ EM ผสมรำปั้นให้เป็นลูกบอลแล้วนำไปโยนลงน้ำทันที แบคทีเรียยังไม่ทันได้ กินรำเข้าไปเท่าไหร่ พอโดนน้ำก็แตกกระจาย รำก็เป็นรำไม่มีแบคทีเรียผสมอยู่ ก็อาจเหมือน โยนข้าวสวยลงน้ำแล้วเน่าอย่างที่อาจารย์ที่จุฬาฯ ว่า การใช้ EM แก้น้ำเสียจะได้ผลกับน้ำที่ขังนิ่ง  กรณีน้ำไหลผมว่าใช้ EM ไม่ได้ผลเพราะ แบคทีเรียชนิดดีจะกระจัดกระจายและมีปริมาณน้อยเกินกว่าจะแก้น้ำเสียได้ จากคุณ : Rahoo เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 21:01:17

ความคิดเห็นที่ 42 คนสงสัย ไม่ผิด ผิดที่โยงเข้าเรื่องการเมือง สรุป อะไรก็จะโยงเข้าการเมืองให้ได้ คนหนอคน ความเกลียดชังทำให้ อคติบังตาซะจนตามืดบอดกันหมดแล้ว จากคุณ : ข้าวปั้นหน้าไข่กุ้ง เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 21:01:28

ความคิดเห็นที่ 43 แบบว่า Em เนี้ย มันคือจุลินทรีย์ ช่วยการกำจัดแบคทีเรีย ในน้ำระดับนึง เหมือนเรากินนมเปรี้ยวอ่ะครับ  และคนที่น้ำขังในบ้านนานๆ มันจะเน่าเสีย มีกลิ่นเหม็น ลองใส่ในปริมาณที่พอเหมาะ ก็จะทำให้กลิ่นน้ำเน่า ลดลงได้ วิธีการใช้ ต้องกะคำนวณเอา ตามสภาพน้ำ นะครับ อย่าเพิ่งด่าอะไร เพราะเขาใช้กันมานานมากครับ แก้ไขเมื่อ 04 พ.ย. 54 21:05:48 จากคุณ : boycoolsign เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 21:05:06

ความคิดเห็นที่ 44 จะบอกว่า em ใช้ได้จริงนะ  มันก็คือ จุลินทรีย์หรือ แบคทีเรีย ผมเลี้ยงปะการัง ปลาทะเล ผมก็ต้องใส่   แต่ถ้ามันมีมาก เกินไป ตอนสุกท้ายมันจะเป็นของเสียนะ เวลาจุลินทรีย์ มันตาย แล้ว เวลาใส่เยอะๆ มันทำให้ O2 หายเพราะ จุลินทรีย์ มันกิน ถ้าใส่ ควร เติม O2ลงใน น้ำด้วยอาจะทำให้น้ำมัน ไม่อยู่นิ่ง แล้วอีกอย่าง  ที่เค้าผสมรำข้าวลงไปมันก็คือ อาหารของจุลินทรีย์หรือแบคทีเรีย แต่อยากจะถามว่าจะใส่ทำไม ในเมือน้ำมัน เสียอยู่แล้ว เราก็เติม แค่จุลินทรีย์ EM ลงไปอย่างเดียว   แล้วมันก็จะไปกำจัด เสียของเสีย ตัวอย่าง ตอนผมเลี้ยงปลาทะเล ปะการังช่วงแรกๆนนั้น จุลินทรีย์แบคทีเรีย ยังน้อยยังไม่เป็น ระบบ   ผมเลยต้องใส่ เนื้อกุ่งสดๆลงไปในตู้ปลา ทำให้น้ำในตู้มันเน่า  แล้วก็ใส่จุลินทรีย์ ลงไป  ซะพักน้ำมันก็จะสะอาด จากคุณ : ..NuPaopaO.. เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 21:15:42

ความคิดเห็นที่ 45 สรุปสั้นๆว่าจขกท ชอบดมน้ำเยี่ยวมากฝ่า จากคุณ : 666 เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 21:17:56 A:183.89.140.100 X: TicketID:295253

ความคิดเห็นที่ 46 ในฐานะคนที่เรียนมาทางนี้ ขอให้ความเห็นว่า มันใช้ไม่ได้ผลครับ มันมีเงื่อนไขเยอะ ไม่ได้มั่วๆแล้วจะดี คำว่า EM บ้านเรา มันใช้กันจนเหมือนของวิเศษ จากคุณ : GreenEyes เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 21:20:28

ความคิดเห็นที่ 47 ความคิดเห็นที่ 46 เห็นด้วยครับ   มันมีเงื่อนไขเ ในการใช่  ถึงจะได้ประสิทภาพ จากคุณ : ..NuPaopaO.. เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 21:22:10

ความคิดเห็นที่ 48 ประเด็นที่ อ.จุฬา กล่าวถึง คือ ประสิทธิภาพในการกำจัดกลิ่น ช่วยย่อย อันนั้น มีประสิทธิภาพแน่นอน แต่ต้องเป็นในพื้นที่ ที่เหมาะสมด้วย เพราะ เชื้อที่ใส่ลงไป มันจะไปดึง อ๊อกซิเจนในน้ำให้ลดลง ถ้าน้ำมันขัง ไม่ไหลเวียน ระดับอ๊อกซิเจนในน้ำต่ำ น้ำนั้นก็ยังเน่าเสียอยู่ดี  แต่ถ้าคุณสามารถทำให้น้ำมีการไหลหมุนเวียนได้ ยกตัวอย่างแบบ โง่ ๆ  ก็เอาขาตีน้ำ ให้น้ำกระด็นขึ้นมาละลายอ๊อกซิเจนในอากาศได้ อันนั้นก็จะไม่มีปัญหาอะไร สรุป คือ ใช้ได้ แต่ต้องใช้ให้ถูก อธิบายให้คนที่จะใช้ เข้าใจ ไม่ใช่ โฆษณาชวนเชื่อว่าเป็นสารวิเศษ กำจัดน้ำเสียได้ชะงัด จากคุณ : beverage144 เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 21:22:44

ความคิดเห็นที่ 49 เข้ามาอ่านเพราะความไม่รู้จริงๆ เกี่ยวกับ EM Ball คืออะไร ความคิดเห็นที่ 38ิ กระจ่างมากเลยค่ะ รวมทั้งท่านที่ให้ข้อมูลต่างๆ ว่าใช้ได้จริง ขอบคุณจริงๆ ในสภาวะ นํ้าท่วมอย่างงี้ จากคุณ : ตาตาโต เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 21:30:58

ความคิดเห็นที่ 50 ประเด็นคือ 1. em มันลดการเน่าเสียของน้ำ ได้จริงหรือไม่ ไม่มีใครตัดสินได้แน่นอนในการใช้จริง เพราะมีทั้งคนที่ใช้แล้วดีและไม่ดีต่างกันไป จขกท.กล่าวว่า "การถูกหลอกใช้โดยผู้ไม่หวังดีต่อประเทศ" หรือท่านกำลังจะบอกว่า ใครที่ใช้วิธีนี้ ต้องเป็นผู้ไม่หวังดีต่อประเทศ เช่นนั้นหรือ 2. จขกท.กล่าว่า "หลังจากนี้เมื่อน้ำเน่าถึงจุด จะมีคนใหญ่คนโตใช้งบประมาณซื้อเครื่อง บำบัดน้ำเสียจากต่างประเทศเข้ามาใช้" ถามว่า ประเทศมีเครื่องบำบัดน้ำเสีย ไม่ดีหรือ หากสิ่งที่เขาทำเป็นประโยชน์ต่อประเทศ 3. จขกท กล่าวว่า "มันมีแผนเป็นขั้นตอน ไม่อย่างนั้นเขาไม่เป็นพรีเซนเตอร์เองหรอกคะ" ความหมายคือ คนไทยโง่ โดนคนในรัฐบาลหรอกทำem ball ไปโยนให้น้ำเสียเล่น แล้วจะได้ซื้อเครื่องบำบัดน้ำเสียมาแก้ จขกท ท่านกำลังดูถูกคนไทยหลายสิบล้านคนว่าคิดไม่เป็นเช่นนั้นหรือ หรือคนไทยหลายสิบล้านคนกำลังคิดว่าท่านไม่ชอบรัฐบาลหรือไม่ จากคุณ : แคนู เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 21:39:46

ความคิดเห็นที่ 51 น้ำมหาบำบัดป้าเช็ง.. เป็นต้น จากคุณ : paefah เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 21:39:57

ความคิดเห็นที่ 52 ศึกษาให้ดีก่อนดีกว่า อย่าไปเทียบกับ big bag หรือ โยงเข้าการเมือง มันคนละเรื่องกัน   และก็อย่าหยาบคายให้มากนัก เดี๋ยวเขาจะว่าอันธพาลโง่ๆครองเมืองจริงๆเลย จากคุณ : จันทร์สุขสดใส เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 21:40:44

ความคิดเห็นที่ 53 อ่านจนงงไปหมดแล้ว ไม่รู้จะเชื่อข้อมูลไหนดี ต่างคนต่างมีเหตุผล หน่วยงานที่เกี่ยวข้องน่าจะชี้แจงข้อเท็จจริงให้ทราบนะ จากคุณ : mc_samrong เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 21:43:20

ความคิดเห็นที่ 54 EM ball = war of micro-organisms ตามหลักของ Ecology แล้ว มันจะมีตัวห้ำและตัวเบียน เพื่อทำลายล้างแมลงที่เราไม่ต้องการ เพื่อให้เกิดความสมดุลทางธรรมชาติ น้ำเน่า เกิดจาก sulphate reducing bacteria (anaerobic bacteria) ซึ่งแบคทีเรียชนิดนี้จะใข้ SO4- เป็น ตัวรับอิเลคตรอน ในกระบวนการย่อยสลายอินทรีย์วัตถุ และได้มาซึ่ง ATP หรือแหล่งพลังงานของพวกมัน จากนั้นจะผลิตก๊าซไข่เน่า H2S เป็น by product โดยปกติsulphate reducing bacteria จะทำงานได้ดีเมื่อมีค่า rodox potential ต่ำกว่า 0 หรือ ติดลบ และเป็นเพื่อนกับ fermentative bacteria แต่ยังมีแบคทีเรียอีกกลุ่มหนึ่งที่ใช้ไนเตรทและเหล็กเป็นตัวรับอิเลคตรอน (nitrate reducer/ denitrifier กับ iron reducing bacteria) ในตระกูล psudomonas แบคทีเรียจำพวกนี้จะไม่ผลิตก๊าซที่มีกลิ่น แต่จะผลิตก๊าซไนโตรเจนแทน นอกจากนี้จะผลิตสารละลายเหล็ก (Fe2+) ซึ่งจะไม่มีสีแต่พอเจออ๊อกซิเจนจะถูกอ๊อกซิไดซ์กลายเป็นเหล็ก (Fe3+) เป็นคราบสีแดงบ้างเหลืองบ้าง และจะทำงานได้ดีในสภาพน้ำที่มีค่า rodox potential 0.2 - 0.4 V หลักการง่ายก็คืออย่าให้ซัลเฟตรีดิวเซอร์แบคทีเรียทำงานหรือเจริญเติบโตได้ น้ำก็จะไม่มีกลิ่นครับ เช่นเดียวกันเวลาเราท้องเสียเราก็ดื่มยาคู้ลซักหกขวด รับรองว่าหายเป็นปลิดทิ้งครับ จากคุณ : Duke of York เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 21:44:56

ความคิดเห็นที่ 55 มันไม่ทันได้ บำบัดหรอ เดียยมันก็ไหล ลง ทะเลไปหมดแล้ว ปัญหาตอนนี้คือ  คนเข้าใจคิดคิดว่า มันเป็น ลูกบอลวิเศษ จริงๆมันใช้ได้จริง แต่ มันต้องมีวิธีที่ถูกต้อง เห็นในข่าวบอกใส่ลงไปในน้ำนิ่ง -*- มันก็ยิ่งเน่าซิครับบ ยกตัวอย่าง เอาน้ำเน่า ใส่ ถัง 3ใบ ถังที่1  ใส่EMน้ำ  ใส่ออกซิเจน ถังที่2  ใส่แต่ ออกซิเจน ถังที่3  ใส่แต่ Em น้ำ ถังที่1 จะเปลี่ยนเป็นน้ำดี เร็วสุด แต่ถึงยังไงมันก็ต้องใช่เวลาซะพัก ไม่ใช่จะเป็นน้ำดีเลยใน วัน2วัน ถังที่2 ก็เหมือนเป็นน้ำดีเหมือนกัน แต่ใช่เวลานานกว่า ถังที่1 ถังที่3  ก็ดองไว้อย่าวนั้นอะเน่า นานเลย จากคุณ : ..NuPaopaO.. เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 21:51:15

ความคิดเห็นที่ 56 อ่านแล้วรูํ้สึกว่าเรา รู้มากกว่า อาจารย์ จุฬา เยอะเลย อาจารย์จุฬาคนนี้ชื่ออะไรครับ ไปอ่าน ลูกดังโง๊ะ ของญี่ปุ่นก่อน ค่อยไปว่าเขา ถ้าเป็นกลางจริงๆ ต้องไม่พูดแบบนี้ ของเขามีจุดอ่อนตรงไหนว่ามา พอดีจบคณะทรัพยากรธรรมชาติ เลยรู้เรื่อง แบบนี้ครับ จากคุณ : แมวสีเทา เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 22:20:19

ความคิดเห็นที่ 57 เสียดายป้าเช็งคนที่เคยทำน้ำหมักเป็นยาสารพัดโรคขายจนรวยเป็นร้อยๆล้านไม่เข้ามาเล่นเน็ต ไม่งั้นแกคงเข้ามาเม้นท์ให้พวกเราฟังว่ามันดียังงัย แต่ๆแนๆแกคงบอกว่ามันดีตรงที่ทำให้แกรวยยยยยยยย จากคุณ : kata เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 22:32:09

ความคิดเห็นที่ 58 อาจารย์ จุฬา ที่ว่าเนี่ยะ แกเป็นอาจารย์ สักยันต์ ชื่อจุฬา  น้องแกชื่อ ปักเป้า จากคุณ : dirtydog เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 22:41:39

ความคิดเห็นที่ 59 ดี ไม่ ดี   ไป ถามป้าเช็ง ไป จากคุณ : ตุ่นตาสว่าง เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 22:57:36

ความคิดเห็นที่ 60 EM มันก็คือของเสียที่ไปย่อยของเสีย ถ้าใส่เยอะเกินไปก็จะทำให้ออกซิเจน(ค่า DO)ในน้ำหมด ก็จะทำให้เป็นการสลายโมเลกุลโดยไม่ใช้ออกซิเจน ซึ่งจะมีกลิ่นเหม็น เพราะได้ก๊าซไข่เน่า ดังนั้น ถ้าจะใช้ EM ควรใช้ในปริมาณที่เหมาะสม จากคุณ : meklord เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 23:00:14

ความคิดเห็นที่ 61 ใครที่ด่าไปแล้ว โดยยังไม่ได้อ่านบทความของอาจารย์ท่านนั้น กรุณาไปอ่านก่อนค่ะ  เดี๊ยนอ่านแล้วไม่เห็นแกจะโยงการเมืองที่ตรงไหน ตามข่าวเขาก็บอกแล้วนี่คะว่า  มันมีเงื่อนไขในการใช้  แค่เขาออกมาเตือน ไม่โดนใจหน่อยเดียว ต้องหยาบคายกันด้วยเหรอคะ มีอะไรไม่ตรงจริตตนหน่อย ก็ถึงกับไล่ให้เขาไปทำโน่นทำนี่ บางคนก็บอกว่าตัวเองเก่งกว่า รู้มากกว่า บางคนแรงกว่านั้นอีก รับฟัง  แล้วพิจารณากันก่อนนะคะ ไม่ใช่ช่วงนี้น้ำมา ก็ตามน้ำกันใหญ่ จากคุณ : isiss12 เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 23:12:55

ความคิดเห็นที่ 62 ตอนนี้เรื่อง EM ball ออกช่อง TPBS อยู่ครับ จากคุณ : FLOGER เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 23:19:55 A:223.207.73.12 X: TicketID:336875

ความคิดเห็นที่ 63 ประธานสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย ศ.ธงชัย พรรณสวัสดิ์ ให้สัมภาษณ์อยู่ครับ จากคุณ : FLOGER เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 23:22:34 A:223.207.73.12 X: TicketID:336875

ความคิดเห็นที่ 64 คนเป็นอาจารย์ เก่งเฉพาะ ทาง บางทีก็ไม่ได้ขำนาญ บางทีก็ตาบอดมืดมัว ด้วยคิดว่าตนเองนั้นรู้ดีแล้ว เข้าใจแล้ว ออกมาพูดแบบนี้ (ดูข่าวช่อง 3 เมื่อกี๊)   เห็นได้ชัดเจนว่า ไม่เคยรู้จักไม่เคยสัมผัสหรือใช้ EM เลย พูดเหมือนคิดเองเออเอง ใส่สารอินทรีย์ย์ที่เน่าเสียได้ ลงน้ำไยิ่งจะทำให้น้ำเน่า ผมไม่ค่อยอยากด่าคน แต่ให้ก๊ฟ คห.7 ไปแล้ว 55555  ผมแจกกิ๊ฟยากครับ อันนี้ให้ป 3 กิีฟเลย คห.24 ใช้กันมากกว่า 30 ประเทศครับ ต้องใช้ในระบบน้ำที่นิ่งสักหน่อยครับ บ่อปลา บ่อกุ้ง  หนองน้ำเน่า  บ่อบำบัด  บ่อส้วม ได้ผลครับ มาโยนใส่ น้ำไหลบ่าข้ามถนนมันก็ไม่เห็นผลครับ แต่ผมชอบนะ ข่าวออกแบบนี้ ช่วยโฆษณาประชาสัมพันธ์ การใช้อย่างถูกต้องเสียที ทุกวันนี้ใช้กันไม่กี่วงการ  พวกทำเกษตร  พวกบำบัดน้ำเสีย พวกทำบ่อปลา บ่อกุ้ง เท่านั้นเอง หากใช้ไม่ได้ผล คงไม่ทำกันมากมายขนาดนี้หรอกครับ ควรเอาไปแจกจุดที่น้ำท่วมขังเน่าเหม็น มาก ๆครับ 2-3 วัน กลิ่นเน่าจะน้อยลงอย่างชัดเจนถ้าใช้ถูกวิธีและปริมาณเพียงพอ พวกทำปุ๋ยหมักถ้ามีตัวนี้เข้าไปชฃ่วยจะย่อยสลายเร็วมาก มากกว่าไม่ใช้เป็นเท่าตัวเลยครับ จะเกาะกระแสดัง  ก็ทำไปเถอะ  ออกมาทุ่มเต็มตัวอย่างนี้ พลาดขึ้นมา จะหาปี๊บคลุมหัวลำบาก จากคุณ : ReHeat เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 23:27:45

ความคิดเห็นที่ 65 #56 คุณแมวสีเทาครับ ที่ว่ารู้เรื่องนี้ ช่วยอธิบายหลักการของมัน ให้หน่อยได้มั๊ยครับ เคยอ่านแล้วก็ยังไม่เข้าใจว่ามันช่วยให้น้ำดีขึ้นได้ยังไงครับ ...คล้ายๆว่า มันช่วยย่อยสารอินทรีย์ในน้ำ โดยจุลินทรีย์จะย่อยสารอินทรีย์โดยใช้ออกซิเจนในน้ำและเมื่อไม่มีออกซิเจนก็ยังสามารถย่อยต่อได้ ผมว่าถ้าเป็นอย่างนั้น ออกซิเจนในน้ำก็จะลดลงไปเรื่อยๆ แล้วน้ำที่มีออกซิเจนในน้ำน้อยๆเนี่ย ก็น่าจะไม่ใช่น้ำที่ดีนักนะ หรือผมจะเข้าใจอะไรผิด ขอบคุณล่วงหน้าครับ จากคุณ : Yoshitomi เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 23:29:09

ความคิดเห็นที่ 66 เราก็อยากทราบข้อเท็จจริง ถ้าสิ่งที่จขกท.โพสมานั้นไม่ถูกต้องก็ไม่เห็นต้องด่าเขาเลย อธิบายด้วยเหตุและผลดีกว่ามั้ยคะ เพราะคนที่ไม่รู้เรื่องอย่างเราจะได้รู้อะไรมากขึ้น จากคุณ : Rich ka เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 23:38:56

ความคิดเห็นที่ 67 เห็นด้วยกับ คห.56 มากกกกกกก จริงๆ อ.จุฬา ต้องพูดทั้งข้อดี ข้อเสีย ข้อจำกัด ไม่ใช่มาพูดแต่ข้อเสียอย่างเดียวครับ เพราะมันทำให้คนที่ไม่พอใจรัฐบาลเป็นทุนอยู่แล้ว เชื่อสนิทใจโดยไม่ไตร่ตรอง และนำไปสู่การขยายประเด็น สารภาพ ผมก็รู้แค่ว่า EM มันดี แ่ค่นั้น แต่การที่ อ.จุฬาพูดมา ทำให้ผมมีความรู้มากขึ้น คือมองอีกมุมหนึ่ง แล้วข้อดีล่ะ ท่าน อ.จุฬา จะไม่ชี้แจงหน่อยหรือ? จากคุณ : amnakim เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 23:39:03

ความคิดเห็นที่ 68 เพลียใจกับหลายคนในนี้ อาจารย์ท่านบอกแล้ว ว่าข้อดีเป็นอย่างไงครับ ที่ข่าวสามิติเอามาออกนั่นมันคือการสัมภาษณ์ย่อๆ ครับ ส่วนบทสัมภาษณ์เต็มๆ หาอ่านเอาเองนะครับ ว่ามันข้อดีแล้วข้อเสียอย่างไง ท่านบอกแล้ว น้ำที่ท่วมมีปริมาณมาก em ball เท่าที่ทำมาไม่สามารถทำให้น้ำหายเน่าได้ ถึงถ้ามันได้ผลจริง น้ำก็ไม่หายเน่า เพราะปริมาณน้ำมีมาก อีกอย่างพอใส่ไปสักพักน้ำมาใหม่ มันก็พัดจำนวนเชื่อจุลินทรีย์ตัวนี้หายไปหมด ไม่คิดว่าคนห้องหว้ากอจะโง่ขนาดนี้ ไม่ได้อ่านแต่อยากวิจารณ์ เพลียจริงๆ จากคุณ : ครับ เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 23:59:47 A:27.130.177.157 X: TicketID:170505

ความคิดเห็นที่ 69 ตาม #68 ครับ จากคุณ : FLOGER เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 54 00:04:57 A:223.207.73.12 X: TicketID:336875

ความคิดเห็นที่ 70 อืม เห็นด้วยกับ #68  โดยเฉพาะบรรทัดสุดท้าย แต่แจกกิฟท์ไม่ได้ จากคุณ : system idle เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 54 00:18:41

ความคิดเห็นที่ 71 เท่าที่ได้ยินมา คือ ใช้ EM ball แก้ไขปัญหาน้ำที่ขังอยู่ "ในบ้าน" ตอนนี้ ไม่ใช่เหรอครับ เห็นว่าตอนไปรับ EM ball เขาจะขอข้อมูลว่า บ้าน/ห้องมีพื้นที่เท่าไหร น้ำสูงขนาดไหน แล้วจึงคำนวณและจัดหา EM ball ขนาดที่เหมาะสมให้ จากคุณ : TheShadow เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 54 00:28:47

ความคิดเห็นที่ 72 ถ้าเป็นไปตาม #71 ทุกที่ก็เหมาะสมครับ แต่ผมว่าข้อมูลไม่ทั่วถึงนะ จากคุณ : FLOGER เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 54 00:35:30 A:223.207.73.12 X: TicketID:336875

ความคิดเห็นที่ 73 http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X11290107/X11290107.html จากคุณ : KANAK เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 54 01:11:11

ความคิดเห็นที่ 74 เฮ้อออออ... เพลียใจกับไอ้พวกที่ด่าๆกันจริงๆ พูดดีๆกันก็ได้ คนที่ไม่รู้จริง แต่คิดว่าตัวเองรู้  มันมีเยอะในประเทศไทยจริงๆ จากคุณ : xisum66 เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 54 01:55:07

ความคิดเห็นที่ 75 ตาม คห 68 เลยครับ เพลียกับแต่ละ คห จริง จากคุณ : เคยผมยาว เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 54 02:41:13

ความคิดเห็นที่ 76 ที่ จขกท โดนด่าก็สมควร  เพราะเหมือนเสพข่าวจากสื่อสมคบคิด  แล้วฟันธงโป้งเดียว ถึงขั้นบอกว่าเค้ามีการวางแผนเป็นขั้นตอน  ออกมาดิสเครดิตไม่ให้คนช่วยน้ำท่วมยังไงยังงั้น แต่ถ้ามาตั้งเพราะสงสัยจะไม่ว่าเลย  เพราะคนอ่านจะได้ความรู้เพิ่ม ที่บ้านเราก็ใช้มาหลายปี  ตอนแรกต่อต้านมากๆๆๆ  นึกว่าพ่อโดนหลอก แต่พอน้ำขังจนเป็นบ่อปลาหลังบ้าน  น้ำไม่เหม็นเลย  แล้วก็ใส แต่การใช้ให้ได้ผลมีข้อจำกัด  คือต้องเป็นบริเวณน้ำขัง และต้องคำนวณปริมาณที่พอดี  รวมถึงการเติมออกซิเจนลงในน้ำด้วย (ที่บ้านจะเปิดเครื่องสูบให้น้ำมันตีๆๆ เกิดฟองอากาศตลอด) ส่วนตัวคิดว่า EM Ball ที่ทางการใช้อยู่กับน้ำท่วมไม่ได้ผลหรอก เพราะน้ำมันมหาศาล  นอกซะจากให้ชาวบ้านไปใช้กับบ้านเรือนตัวเองในบริเวณจำกัด รวมถึงใส่ในถุงอุจจาระ  (EM แบบน้ำ) จากคุณ : XziBitch เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 54 03:09:07

ความคิดเห็นที่ 77 อ.จุฬา  ไม่ผิดหรอกค่ะ  เพราะท่านบอกข้อจำกัดไว้ อาจจะต้องการเตือนคนใช้  เกรงว่าจะใช้ในที่ที่ไม่เหมาะสม  อ่านความรู้จากหลาย ๆ ท่านเลยรู้ว่าข้อดีมากกว่าข้อเสีย  แต่อาจารย์พูดถึงน้อยมาก ที่เขาตำหนิกันในกระทู้นี้  คือคนตระครุบข่าวเพื่อหวังผลทางการเมืองค่ะ บอกตรง ๆ บอดสนิท จากคุณ : Jampoon เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 54 06:04:41

ความคิดเห็นที่ 78 อีกหน่วยที่ทำสำหรับน้ำทะเลด้วย กรุงเทพฯ--20 ต.ค.--อพท. ที่ผ่านมา องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. ได้ดำเนินโครงการ DASTA Ball เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๔ ระยะเวลาของโครงการ ตั้งแต่วันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๓ และสิ้นสุดโครงการภายในสิ้นเดือนธันวาคม ๒๕๕๔ ตามโครงการนี้ อพท. ได้ผลิตดาสต้าบอลไปแล้วจำนวน ๑ ล้านลูก และได้รับการตอบรับในคุณภาพการบำบัดน้ำเสียจากผู้ใช้เป็นอย่างดี เช่น กรมทรัพยากรน้ำ กรมควบคุมมลพิษ หน่วยงานราชการระดับจังหวัด ตำบลและอำเภอ รวมทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคประชาชน และภาคเอกชน โดยเฉพาะในสถานการณ์ปัจจุบันที่หลายจังหวัดประสบอุทกภัยอย่างหนัก อย่างไรก็ตาม ยังมีหน่วยงานราชการและสื่อมวลชน ที่อาจมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนเกี่ยวกับ “ดาสต้าบอล” และ “อีเอ็มบอล” ที่ใช้บำบัดน้ำเสีย พ.อ.ดร.นาฬิกอติภัค แสงสนิท ผู้อำนวยการ อพท. กล่าวว่า ดาสต้าบอลเกิดจากสายพันธุ์แบคทีเรียที่มีประสิทธิภาพสูงเพาะเลี้ยงจากกรมประมง และผสมเข้ากับน้ำทะเล แร่เพอร์ไลท์ น้ำหมักปลา รำละเอียดและกากน้ำตาล ผสมให้เข้ากันและปั้นเป็นก้อนกลมขนาดลูกปิงปอง ซึ่งการปั้นเป็นลูกกลมขนาดเท่าปิงปอง เพื่อให้แบคทีเรียมีบ้านยืดเกาะและสามารถรับออกซิเจนในการหายใจ และมีน้ำหนักพอจะทำให้จมลงในน้ำได้ดี จึงทนกับสภาพแวดล้อมได้ดีกว่าจุลินทรีย์บำบัดน้ำเสียทั่วไป ดังนั้น อพท. จึงได้ขอจดอนุสิทธิบัตรส่วนผสมของดาสต้าบอลเป็นการเฉพาะเรียบร้อยแล้วเมื่อปี ๒๕๕๓ แบคทีเรียใน DASTA Ball จะออกจากบอลจุลินทรีย์ไปกำจัดน้ำเน่าและกลิ่นเหม็นให้หายไปใน ๒๔ ชั่วโมง และหลังจากผ่านไป ๔๘ ชั่วโมง น้ำจะใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัด “พอแบคทีเรียถูกโยนลงไปในน้ำขังเน่าเสีย มันจะออกไปปฏิบัติการบำบัดน้ำเสีย ด้วยการกินไนโตรเจนและสิ่งเน่าเสียเป็นอาหาร แล้วกลับเข้าบ้านก็คือแร่เพอร์ไลท์ที่มันสามารถยึดเกาะ แล้วออกไปปฎิบัติการบำบัดน้ำเสียจนหมดอายุการทำงาน ดาสต้าบอลของ อพท. จึงมีความแตกต่างจาก อีเอ็มบอล (Effective Microorganisms) ทั่วไป ทั้งในแง่หัวเชื้อจุลินทรีย์ วัต:-)ืดเกาะคือแร่เพอร์ไลท์ และเทคนิคเฉพาะการปั้นบอลจุลินทรีย์ การปรับค่าความเป็นกรด-ด่างของน้ำให้เหมาะสมกับการทำงานของแบคทีเรีย ดาสต้าบอลสามารถกำจัดไนโตรเจนซึ่งเป็นส่วนประกอบของก๊าซไข่เน่าที่ทำให้เกิดกลิ่นเหม็นได้ ที่ผ่านมาเราได้ใช้ดาสต้าบอลมา 2 ปีแล้ว เพื่อช่วยฟื้นฟูสภาพน้ำแหล่งท่องเที่ยวในเขตพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวที่ อพท. เข้าไปจัดรูปแบบการท่องเที่ยวตอบสนองความจำเป็นทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม เช่น ในพื้นที่พิเศษหมู่เกาะช้างและพื้นที่เชื่อมโยง” ผู้อำนวยการ อพท. กล่าว ส่วนการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในขณะนี้ อพท. ดำเนินการอยู่ภายใต้ โครงการ DASTA Ball เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๔ อพท. จึงขอความร่วมมือจาก หน่วยงานราชการ ภาคเอกชน และสื่อมวลชน ที่ขอความอนุเคราะห์จาก อพท. นำดาสต้าบอลไปใช้บำบัดน้ำเสียหรือเป็นผู้เผยแพร่ข่าวสาร โปรดนำเสนอข่าวให้ถูกต้องว่าจุลินทรีย์ที่ใช้บำบัดนำเสียมาจากหน่วยงานใดเป็นผู้ผลิต เนื่องจากตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา อพท. ได้มีส่วนเข้าไปช่วยเหลือในภารกิจแก้ไขปัญหาน้ำเสียด้วยการส่งมอบ ดาสต้าบอล ผ่านหน่วยงานต่าง ๆ และประชาชน อยู่ตลอดเวลา แต่กลับมีการประชาสัมพันธ์ว่าเป็น อีเอ็มบอล จากคุณ : คนแดนไท เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 54 07:09:36

ความคิดเห็นที่ 79 กำ ห้อง หว้ากอ มีดราม่าด้วย  เท่าที่อ่่านๆมา ก็จริงอย่าง อาจารย์ท่านนี้ว่านั้นละ   กากน้ำตาล ที่ยังไม่ย่อยสลายก็คือกากน้ำตาล นั้นละ   มันไม่ได้หายไปไหน   ใครอคติ บังตา ผมว่าไปอ่านห้องการเมืองเถอะ ต่อให้มีความรู้ จบสูงแค่ไหน          มันคงเหมือน น้ำ+มอลต์+ข้าวสาลี+ฮอปส์+ยีสต์ที่ยัง ไม่ได้หมัก  ผสมเสร็จ แล้วเท ลงแก้ว ดื่มเลย  มันคงเป็นเบียส์หลอกนะ              EM ball ผสมเสร็จ คงต้องหมักไว้สักระยะ ให้ จุลินทรีย์ ย่อยสลาย กากน้ำตาล ให้หมดก่อน ถึงจะใช้ได้   สรุป EM ball หรือ น้ำหมัก เป็นของดี แต่ ต้องให้ถูกวิธี จะให้ดี ควรมีฉลากแปะอ่านก่อนใช้ กัน ดราม่าเหอๆ จากคุณ : ปุถุชนเดินดิน เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 54 07:25:29

ความคิดเห็นที่ 80 งั้นก็ตาม คห.68 เลยครับ เพราะผมก็เสพข่าว EM แค่ในบอร์ดนี้เท่านั้นครับ แต่ จขกท. น่าจะเอาความเห็น ของ อ.จุฬา มาทั้งหมดนะครับ เพราะอ่านกระทู้มา หาข้อดีไม่เจอเลยครับ จากคุณ : amnakim เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 54 08:13:17

ความคิดเห็นที่ 81 เพราะหลังจากนี้เมื่อน้ำเน่าถึงจุด จะมีคนใหญ่คนโตใช้งบประมาณซื้อเครื่อง บำบัดน้ำเสียจากต่างประเทศเข้ามาใช้ มันมีแผนเป็นขั้นตอน ไม่อย่างนั้นเขาไม่เป็นพรีเซนเตอร์เองหรอกคะ จากคุณ : แม่ตา   เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 54 17:19:58   ------------------ น่าเห็นใจ จขกท.จริงๆ ที่โพสต์เพราะไม่รู้เรื่อง  เรื่อง EM แต่ที่ทิ้งท้ายไว้แบบนี้น่ะ  ทำให้ผมต้องขอขอบคุณท่านที่ด่า จขกท. เพราะมันตรงกับใจผมครับ ปล.เอ๊ะ.. หรือที่ทิ้งท้ายไว้แบบนี้ก็เพราะ จขกท.ฟังเขามาอีกที คือ.. มันไม่รู้เหนือ รู้ใต้ อะไรทั้งนั้น จำแต่ขี้ปากเขาอย่างเดียว แก้ไขเมื่อ 05 พ.ย. 54 08:30:33 จากคุณ : Ozzman เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 54 08:27:14

ความคิดเห็นที่ 82 ตกลงมีที่ไหน เอาไปใช้แล้วโอมั่งเนี่ย ช่วยเข้ามายืนยันกันเยอะหน่อยนะ กำลังจะไปช่วยปั้น EM BALLอยู่ จะได้มั่นใจเพราะว่าช่วยหรือทำลายกันแน่ จากคุณ : งงจัง เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 54 09:34:53 A:183.89.172.165 X: TicketID:336946

ความคิดเห็นที่ 83 ถ้าน้ำเน่าอยู่ ทางที่ 1 ไม่ใส่ EM ผลลัพธ์ที่เป็นไปได้=น้ำเน่าเหมือนเดิม ก็ต้องแก้ปัญหาต่อ ทางที่ 2 ใส่ EM ผลลัพธ์ที่เป็นไปได้=น้ำหายเน่า หมดปัญหา ผลลัพธ์ที่เป็นไปได้=น้ำเน่าหนักกว่าเดิม ก็ต้องแก้ปัญหาต่อ กรณีนี้ก็ต้องชั่งน้ำหนักว่ารับได้มั๊ยถ้าล้มเหลว ปล.จริงๆ น่าจะทดลองสักพื้นที่นึงก่อนนะ จากคุณ : -TSW- เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 54 09:53:07

ความคิดเห็นที่ 84 ผมเชื่อว่า EM ไม่มีผลกับการแก้น้ำเสีย แต่การที่ จขกท เติมเชื้อไฟว่าเป็นแผนสมคบคิดโดยไม่มีหลักฐานนี่ควรตำหนิไหม? แก้ไขเมื่อ 05 พ.ย. 54 10:25:52 จากคุณ : today_newspaper เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 54 10:24:10

ความคิดเห็นที่ 85 ลองผิดลองถูกดีกว่าไม่ทำอะไรเลย ทุกวันนี้แทบไม่มีอะไรจะเสียแล้ว จากคุณ : กุบกับ1 เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 54 10:51:48

ความคิดเห็นที่ 86 เมื่อคืน ข่าวสามมิติก็ออก อาจารย์คนนี้ฟังดูไม่เคยแม้กระทั่งลองใช้ ออกมาวิจารณ์ตามความคิดและภูมิรู้ที่มีอยู่ในตัวเอง จึงพูดแบบไม่รู้จริง อาจารย์แบบนี้มีเยอะครับ !!!!! เหมือนหลาย คห.ในกระทู้นี้แหละ ผมน่ะใช้แล้ว ทีแรกไม่เชื่อว่าจะได้ผล ใช้กับห้องส้วมโรงเรียนขนาดใหญ่มาก คนเป็นพันๆ ซึ่งเดิมมีกลิ่นเหม็นมาก เทไปสองขวด ไม่กี่วันกลิ่นหายครับ ผมจึงใช้มาตลอด จึงกล้าพูดว่าใช้ได้จริง จากคุณ : rcya เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 54 10:53:50

ความคิดเห็นที่ 87 แต่ประเด็นสำคัญของกระทู้นี้ไม่ได้อยู่ที่ตัวอาจารย์ที่พูด แต่อยู่ที่ จขกท. คือ จขกท.พยายามให้เป็นกระทู้การเมือง น่าเกลียดจริงๆ จากคุณ : rcya เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 54 10:57:07

ความคิดเห็นที่ 88 ขอก็อปความเห็นตัวเองจากทู้โน้นมาตอบนะคะ ขอให้ความคิดเห็น ในฐานะที่พอจะมีความรู้ด้านนี้อยู่บ้าง ไม่มากนะคะ ไม่เถียงนะคะว่า EM ใช้ไม่ได้ผล มันได้ผลค่ะ แต่เป็นในแง่ของการดับกลิ่น เช่นการใช้ถูพื้น หรือราดกองขยะ แต่ในแง่ของการบำบัดเนี่ย ต้องบอกว่าจะได้ผลก็ต่อเมื่อมีสภาวะเหมาะสมจริงๆเท่านั้น จากงานวิจัยที่พี่ๆ ด้านบน ยกตัวอย่างมา ไม่มีงานวิจัยไหนบอกให้นำเจ้า EM ใส่ลงไปในน้ำ/น้ำเสีย แต่จะเป็นการทดลองกับระบบบำบัดน้ำเสียมากกว่า ซึ่งระบบบำบัดน้ำเสียชุมชนส่วนใหญ่จะเป็นระบบชีวภาพ ชนิดเติมอากาศ ใช่แล้วค่ะ จุลินทรีย์ที่มีอยู่ใน EM เป็นชนิดที่ต้องการอากาศในการดำรงชีวิต หากเรานำไปหย่อนลงในน้ำที่มีออกซิเจนไม่เพียงพอ ฮีโร่ในการบำบัดจะไม่ใช่จุลินทรีย์ที่ใช้อากาศในการดำรงชีวิต (Aerobic Bacteria) แต่จะเป็นจุลินทรีย์ที่ไม่ใช้อากาศในการดำรงชีวิต (Anaerobic bacteria) ซึ่งจะก่อให้เกิดก๊าซไฮโดรเจนซัลไฟล์ หรือก๊าซไข่เน่า ที่กำลังเป็นปัญหาอยู่ตอนนี้นี่เองค่ะ ใน EM Ball เข้าใจว่าจะต้องมีอาหารเลี้ยงเชื้อ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นกากน้ำตาล ซึ่งกากน้ำตาลเนี่ย มี BOD Loading สูงมากนะคะ สมมติ เราโยนเจ้า EM Ball นี้ลงไปในน้ำ แสนลูก ค่า BOD Loading มหาศาลเลยค่ะ และคาดว่านี่คือสิ่งที่นักสิ่งแวดล้อมกลัวกัน กลัวอะไรกัน!!! ตอนนี้น้ำท่วม เรากำลังรอให้น้ำลงทะเลใช่มั๊ยคะ EM Ball ที่เราโยนลงไป พร้อมกับ BOD Load มหาศาล จะก่อให้เกิดผลกระทบอะไร แน่นอน มันลงทะเลค่ะ ลงทะเลแล้วเกิดอะไร น้ำทะเลเน่า เกิดปรากฎการณ์ยูโทรฟิเคชั่น (Eutrophication) หรือปรากฎการณ์ขี้ปลาวาฬ ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศมหาศาล นี่คือความคิดเห็นส่วนตัวของเด็กผู้หญิงคนนึงค่ะ ส่วน EM Ball หากจะนำไปใช้จริงๆ คงต้องมีการศึกษากันมากกว่านี้ หรือหาวิธีการใช้ที่เหมาะสมกว่านี้ค่ะ จากคุณ : ลิตเติ้ลวิงส์ เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 54 15:30:51

ความคิดเห็นที่ 89 คห.61 ผมว่าคุณอ่านที่ จขกท.เขียนให้ดีก่อนดีกว่า ว่า จขกท.จิตนาการล้ำเลิศแค่ไหน  ว่ามีการวางแผนเป็นขั้นเป็นตอน   เอะอะก็ว่าคนอื่นตามน้ำๆ  ตัวเองตามน้ำยังไม่รู้ตัวอีก จากคุณ : Deadhunt เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 54 16:39:00

ความคิดเห็นที่ 90 น่ากลัวจริงๆ ค้านไม่ได้ ติไม่ได้ ด่ากราด กระจาย.. จากคุณ : kittenishly เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 54 19:43:59

ความคิดเห็นที่ 91 เราดูข่าวสามมิติเมื่อคืนเราว่าอาจารย์คนนั้นใส่ความคิดเห็นของตัวเองลงไปเยอะเลย จริงๆ น่าจะมีคนลองทำการทดลองนะ ออกแบบการทดลองก็ง่ายๆ เอง จะได้พิสูจน์กันไปเลยว่าได้ผลรึเปล่าบางทีสมมติฐานกับการทดลองจริงๆ มันอาจจะต่างกันก็ได้นะ จากคุณ : รักแฟน เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 54 20:14:45

ความคิดเห็นที่ 92 ผมก็ใช้ครับ ใช้มานานแล้ว การไฟฟ้านครหลวงก็มีแจกมานานแล้ว มีหลายสูตร ใช้ประโยชน์ได้หลายแบบ น้องเขยเป็นญี่ปุ่น ทำเป็นครับ ทำเก่งมาก แต่เขาเน้นทำเพื่อการเกษตรครับ ยืนยันว่าใช้บำบัดน้ำเสียได้ครับ จากคุณ : Eazyy เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 54 20:22:18

ความคิดเห็นที่ 93 คคห 5 และ คคห 8 ขอแจ้งให้ทราบด้วยว่าอาจารย์ที่ออกมาให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่อง EM Ball เป็นอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญจริง จากคณะวิศวกรรมศาสตร์ สิ่งแวดล้อม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ดิฉันเป็นหนึ่งในนิสิตคณะนี้สถาบันนี้ ส่วนผลการวิัจัยสามารถดูได้ตามลิงก์นี้ http://www.eng.chula.ac.th/index.php?q=th%2Fnode%2F3915  ซึ่งจะอธิบายเหตุผลทางวิชาการไว้ด้วย (ถ้าพอจะมีวิจารณญาณในการทำความเข้าใจ) ผลงานต่าง ๆ ถ้าอยู่ในวงการนี้จะทราบว่าอาจารย์มีผลงานทางวิชาการมากมาย ถ้ายังพอมีใจเป็นกลาง ลองศึกษาประวัติข้อมูลอาจารย์ดูบ้าง ก่อนที่จะใส่ความคิดเห็น จากคุณ : ขอยืนยัน (mimi_eng) เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 54 21:10:13

ความคิดเห็นที่ 94 จุลินทรีย์สังเคราะห์แสงเป็นกลุ่มที่ปลดปล่อยอากาศออกมาในน้ำ ช่วยให้น้ำมีออกซิเจน เหมือนต้นไม้ที่สังเคราะห์แสงแล้วปลดปล่อยออกซิเจนลงมาสู่โลกครับใครที่เคยเพาะจุลินทรีย์เองก็จะเห็นได้ว่า ขวดที่เพาะจะเริ่มบวมๆขึ้น เพราะมันกำลังกินอาหารและคายก๊าซออกมา จุลินทรีย์อีเอ็มแท้ของดร.ฮิหงะนั้น ถูกคัดมาจากกลุ่มที่เป็นมิตรต่อคนและสิ่งแวดล้อม จึงไม่มีอันตรายใดๆทั้งสิ้น จุลินทรีย์สังเคราะห์แสงที่ใช้ในการทำน้ำให้ใสนั้น ได้ตัวอย่างเชื้อมาจากปล่องภูเขาไฟ ซึ่งสามารถทนความร้อนได้ถึง 3000 องศา จึงสามารถทนทานอยู่ได้ไม่ว่าจะในสภาวะใด และมันก็ช่วยปลดปล่อยออกซิเจนได้นาน จากบทความที่กล่าวถึง น่าจะหมายถึงสภาวะที่อยู่ในภาชนะทดลอง คือถ้าใส่ไว้ในขวดนานๆ พอขาดอาหาร หรือจุลินทรีย์เติบโต กินอาหารจนหมด มันก็จะเริ่มแย่งอาหารกันจนตายไปเอง แต่ในกรณีที่เทลงสู่แหล่งน้ำที่เน่าเสีย จุลินทรีย์ที่เพาะจนพักตัว จะเริ่มขยายพื้นที่อีกครั้ัง และเพิ่มปริมาณออกซิเจนในน้ำ ทำการยึดพื้นที่จากจุิลินทรีย์ฝ่ายทำลายมาเป็นอาณาจักรของตัวเองอีกครั้ง เรื่องอาหาร ไม่ต้องห่วงว่าจุลินทรีย์จะขาดอาหาร เพราะคนเราปกติให้อาหารจุลินทรีย์อยู่ทุกวันอยู่แล้ว เราล้างจาน เทเศษอาหาร ขับถ่ายลงในน้ำทุกวัน และน้ำเหล่านั้นไม่ใช่เหรอที่กลับมาหาเรา จากบทความที่เรากลัว คือน้ำจะขาดออกซิเจน แต่ถ้ามีจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง ก็เหมือนเราปลูกต้นไม้ในน้ำ ครับ จุลินทรีย์เหล่านี้ พอมันอยู่ในน้ำ มันก็ทำให้น้ำสะอาด และใช้ชีวิตแพร่ขยายต่อไป ไม่สร้างปัญหากับคน เพราะอีเอ็มของแท้นั้น มันไม่มีอันตราย ผมเองเคยใช้ทาแผล และแผลแ้ห้งได้เร็วมาก ไม่ีมีการอักเสบหรือติดเชื้อแต่อย่างใด บางคนใช้แก้อาการน้ำกัดเท้า เพราะเป็นการใช้จุลินทรีย์ รักษาโีรคจากจุลินทรีย์ เป็นเทคโนโลยีแบบนาโนครับ ทีนี้ เราก็ต้องมาตัดสินใจกันแล้วว่าต้องการแบบไหน อยากได้จุลินทรีย์แบบที่เราคุ้นเคยกันอยู่ คือจุลินทรีย์แบบทำให้น้ำเน่าที่เราคุ้นชิน หรือแบบสร้างสรรค์ จุลินทรีย์ที่มีอยู่ในธรรมชาตินั้นดีครับ แต่ถ้ามันมีอยู่ในแหล่งน้ำที่เน่าเสียมากนั้นไม่ดีแน่ ต้องมีการแก้ไข เพราะมันมีมากแล้วเราทนไม่ได้ มันทำให้เกิดโรค เราจะรอธรรมชาติบำบัดเหรอครับ น่าจะยากเพราะคนที่อยู่ริมน้ำส่วนใหญ่ไม่รู้วิธีแก้ไข แต่กลับเพิ่มปัญหาเข้าไปอีก เพราะเราต้องบริโภคและขับถ่าย การเพิ่มจุลินทรีย์เพื่อสิ่งแวดล้อมจึงเข้าไปแก้ปัญหานี้ บางคนที่ได้ข่าวนี้แล้ว ก็รู้สึกโล่งใจครับ เพราะเราไม่ต้องไปทำอะไรกับน้ำ ไม่้ต้องไปนั่งปั้นก้อนอีเอ็ม แล้วเราก็จะผ่านไปด้วยกัน หรือรู้สึกโล่งใจที่ตั้งคำถามว่าเอแล้วอีเอ็มมันแก้ได้จริงๆหรือเนี่ย พอได้รับคำตอบกับอาจารย์ก็โล่ง เพราะมีคนมาตอบคำถามแล้ว แต่เราเคยถามอาจารย์กลับไหมว่า อาจารย์คิดว่ามันจะมีวิธีไหน ที่จะแก้ปัญหาน้ำเน่าได้จริงๆ กังหันชัยพัฒนา คงแก้ปัญหาได้จริงแต่เราจะเอากังหันมาจากไหนมากมาย เอาไฟมาจากไหน หรือปูนขาว แก้สภาพน้ำได้ แต่ไม่ได้แก้ปัญหาอีกหลายๆอย่างที่เกิดจากจุลินทรีย์ได้ ข้อหนึ่งที่บอกว่า อีเอ็มช่วยแก้ปัญหาในน้ำท่วมครั้งนี้เพราะมันใส่เท่าไหร่ก็ไม่พอ ก็จริงครับ แต่ต้นเหตุของปัญหาก็คือ คนเราก็คิดเช่นนี้เหมือนกันว่า แค่เราคนเดียวทิ้งขยะชิ้นนึงลงน้ำมันคงไม่เป็นไรหรอก แต่ที่จริงทุกคนก็อาจคิดเช่นเดียวกัน มันเลยเกิดปัญหาดังเช่นทุกวันนี้ เท่าที่ฟังอาจารย์ และถ้าฟ้ังกันดีๆ อาจารย์ก็ใช้คำพูดจากการคาดเดา และความรู้สึกครับ เช่น "ผมไม่เชื่อว่า ผมคิดว่า นั่นมันความเชื่อ ไม่ใ่ช่วิทยาศาสตร์" แต่เราเห็นนักวิชาการ อาจารย์มหาลัยที่ทำพลาดมากี่ท่านแล้วครับ อาจารย์จุฬาด้วย การปิดกั้นโดยมีอคตินำหน้าก็อาจทำให้เราไม่เชื่อในสิ่งที่เราไม่ชอบก็ได้ และเท่าที่ฟัง อาจารย์ยังไม่ได้ทดสอบด้วยตัวเอง เช่น เรื่องอีเอ็มช่วยให้ภูเขาไม่ถล่มได้ยังไง อันที่จริงภูเขามันไม่ถล่มลงมาเองอยู่แล้ว แต่อาการดินสไลด์ มันเกิดจากดินมันไม่มีคุณภาพ และอีเอ็ม นั้นช่วยปรับสภาพดิน จึงทำให้ดินแข็งตัวขึ้นและไม่ทำให้ภูเขาพังลงมา เรื่องต่างๆที่ใช้กับร่างกาย ผมก็เคยทดลองด้วยตนเองมาแล้ว จึงรับรองว่าทำได้จริง อาจารย์บอกว่า เอาของที่มันเน่าเสียใส่ลงในน้ำเน่้ามันจะดียังไง ขอบอกว่ามันไม่ใช่ของเน่าเสียนะครับ คำว่าหมักก็บอกอยู่แล้วว่ามันเป็นการทำให้ของจะเสีย ไม่ให้เสีย ดูอย่างขยะ หรืออาหาร ถ้าเราเอาอีเอ็มใส่ไป ทำไมมันถึงไม่เน่า เพราะมันถูกจุลินทรีย์คลุมไว้ เหมือนการถนอมอาหาร ทำไมของดอง ของหมักเราถึงกินได้ เพราะมันเป็นจุลินทรีย์ที่ดี แต่พออาจารย์มาพูดครั้ังนึง เรากลับทำเป็นรังเีกียจ เราก็ต้องมาตัดสินใจกันแล้วว่าต้องการแบบไหน อยากได้จุลินทรีย์แบบที่เราคุ้นเคยกันอยู่ คือจุลินทรีย์แบบทำให้น้ำเน่าที่เราคุ้นชิน หรือแบบสร้างสรรค์ .... กรณีที่ว่า ใส่กากน้ำตาลเข้าไป ทำให้น้ำเสียนั้นก็เป็นคำชวนเชื่อครับ อีเอ็มหมักได้แม้กระ้ทั้งด้วยน้ำผลไม้ นม หรือปัสสาวะ ที่พระพุทธเจ้าทรงสอนให้หมักปัสสาวะผสมลูกสมอนั้น ก็คือน้ำชีวภาพนี่เองครับ มีใครที่บอกว่า โยเกิร์ตคือนมบ้าง น้ำผลไม้ เมื่อหมักจนครบกระบวนการก็คือน้ำชีวภาพ ไม่มีใครเอามากินเป็นน้ำผลไม้อีกต่อไป รำก็เช่นกัน เพราะมันคือถูกยึดพื้นที่ด้วยจุลินทรีย์ จึงไม่มีส่วนไหนของน้ำที่จุลินทรีย์ชนิดอื่นจะมากินได้ อีเอ็มทำงานรวมกลุ่มกัน ทั้งช่วยฆ่าเชื้อโรค เติมอากาศ ย่อยสลาย ดับกลิ่น มันจึงมีประสิทธิภาพพอรวมแก๊งค์กันทำลายจุลินทรีย์เจ้าถิ่นได้ เราจึงเห็นได้ว่า มีคนที่ทำแล้วประสบความสำเร็จมากมายจากการใช้อีเอ็มบำบัด ที่เกาะพิทักษ์ ประเทศไทย http://youtu.be/32atXlzCspw อันนี้ที่ญี่ปุ่น http://youtu.be/_Uf3NHeObmM กัมพูชา http://youtu.be/kQqfo_2EgZQ มาเลเซีย http://youtu.be/sUIpUJhq0YA อันนี้ของฝรั่งครับ http://youtu.be/DJRDMFsF-4w การที่ไม่เคยใช้และไม่ได้ปฏิบัติ แต่ออกมาพูดตามหลักวิชาการนั้น อาจไม่เห็นผลตามที่เป็นจริงครับ เหมือนถ้าเราบอกว่านั่งสมาธิแล้วเกิดอภิญญาได้ นักวิทยาศาสตร์ ที่ยึุดหลักวิชาการคงไม่เชื่อ และค้านหัวชนฝา ถ้าเรามีอคติและไม่กล้าลอง เราก็คงเชื่อเช่นนั้นตลอดไปครับ อันที่จริงการใช้อีเอ็ม ก็คือการเลือกซื้อสิีนค้าบนชั้น ถ้าเราไม่ชอบ ก็ไม่ต้องใช้ เช่นถ้าจะดับกลิ่นห้องน้ำ แต่ไม่ชอบกลิ่นอีเอ็ม ก็อย่าซื้อไปใช้ หรือถ้าเราอยากคิดว่าทนน้ำท่วมขังได้ หรือไม่เชื่อมั่น ก็ไม่ต้องใ้ช้ เราก็ต้องมาตัดสินใจกันแล้วว่าต้องการแบบไหน อยากได้จุลินทรีย์แบบที่เราคุ้นเคยกันอยู่ คือจุลินทรีย์แบบทำให้น้ำเน่าที่เราคุ้นชิน หรือแบบสร้างสรรค์ จากคุณ : พันทองทิพย์ เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 54 22:07:06

ความคิดเห็นที่ 95 ลองอ่านความเห็นส่วนใหญ่สิครับ ถ้าบอกว่าไม่เห็นด้วยเลยว่าอีเอ็มดี อย่างงั้นอย่างนี้ มีใครเคยใช้บ้างไหมครับ หรือมีการทดสอบจริง รู้จริงหรือไม่  ส่วนมากมาจากความคิดเห็นจากอาจารย์จุฬาท่านนั้น และหากฟังจนตลอด อาจารย์ก็ไม่ได้ปฏิบัติจริง มีแต่คำว่าผมเชื่อว่า ผมไม่เชื่อว่า คนที่บอกว่า ใช้ได้จริง ส่วนใหญ่เคยทดลองมาด้วยตัวเองแล้ว มีประสบการณ์จากการเคยใช้มาแล้ว   แต่คนมักจะเชื่อในสิ่งที่ตนอยากเชื่อครับ   แต่ไม่ยอมทดลองปฏิบัติ จากคุณ : พันทองทิพย์ เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 54 22:16:42

ความคิดเห็นที่ 96 คนที่บอกจขกท.แสดงว่าไม่เคยรู้เรื่องอะไรเลยรึเปล่า ที่ทดลองEMแท้รึเปล่าครับถ้าใช้แล้วไม่ย่อยสลายน่ะ เพื่อนที่ จขกท.พูดถึงที่เป็นอาจารย์นี่จบไรมาครับไสย์ศาสตร์ รึวิทยาศาสตร์ครับ จากคุณ : เอ๋abc (sarunyup) เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 54 22:47:49

ความคิดเห็นที่ 97 ไอ้พวกสาวก EM นี่ มันกากเกรียนจริงๆ ศ.ธงชัย พรรณสวัสดิ์ ท่านเป็นผู้เชี่ยวชาญทางสิ่งแวดล้อมระดับอาจารย์ของอาจารย์ของอาจารย์เลยด้วยซ้ำ ข้อมูลที่ท่านให้มาก็เป็นเหตุเป็นผลดี สาวก EM ทำไมยังคงสภาวะแบบเดียวกับพวกตักน้ำส้วมดื่มอั๊กๆอยู่ได้วะนั่น จากคุณ : นายข่วย เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 08:07:44

ความคิดเห็นที่ 98 พูดอะไรก็เชื่อ+เชื่อในสิ่งที่เห็น+เชื่อในสิ่งที่ศรัทธา.. แก้ไขเมื่อ 07 พ.ย. 54 10:29:43 จากคุณ : Feliciano เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 10:21:36

ความคิดเห็นที่ 99 EM Ball ไม่ช่วยทำให้น้ำหายเน่าค่ะ แต่ EM ball มันช่วยทำให้น้ำเน่า โดยที่ไม่มีกลิ่นค่ะ หลายคนบอกว่าใช้ในห้องน้ำอย่างนู้น อย่างนี้ ไม่มีกลิ่นเลย ก็ใช่สิ แต่มันไม่ได้ช่วยให้ของเสียส้วมกลายเป็นน้ำสะอาดดื่มได้หรอกนะคะ จากคุณ : ลอยไปเถอะนะ เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 15:28:02 A:101.108.108.110 X: TicketID:292939

ความคิดเห็นที่ 100 สั้น ๆ ง่าย ๆ อยากรู้ก็ทดลองสิ !!!! เถียงกันไปมาตอนนี้เพื่อ ??? ทดลองเลย ได้ผลออกมาแล้วค่อยมาเถียงกันว่าจะทำยังไงต่อดีกว่า .. จากคุณ : yoami เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 54 04:38:36

ความคิดเห็นที่ 101 เมื่อคืน ผมทนนั่งดูรอบดึกไปสามช่วง สรุปได้ดังนี้ 1.เรื่องบำบัดน้ำเสีย อาจารย์จุฬากับ อาจารย์หัวขาว บอกว่า   1.1.ใส่ em ลงไปก็ไม่ทำให้น้ำที่เสียอยู่หายเสีย   1.2.ใส่ em ลงไปก็ไม่ทำให้เกิดน้ำเสียเพิ่มอย่างมีนัยยะสำคัญ เพราะ จุลินทรีย์ในน้ำเสียมีมหาศาล การโยน em ลงไปตามสัดส่วนที่ระบุ ไม่ทำให้เกิดการเพิ่มของจุลินทรีย์อย่างมีนัยยะสำคัญ ถ้าอยากจะทำก็ทำ แต่คงได้แค่เรื่องสภาพจิตใจ อาจารย์ abac กับ อาจารย์ปักษ์ใต้ บอกว่า แก้ได้ จากประสบการณ์ที่ไปแก้น้ำเสีย ที่เกาะสมุย ที่เกาะอะไรไม่รู้ที่ชุมพร และอื่นๆ 15 ปี ทุกที่ ดีขึ้นหมด 2. เรื่องทางเลือกอื่นในการแก้น้ำเสีย อาจารย์จุฬากับหัวขาว บอกว่า หลักๆมีสองอย่าง คือ   2.1 ใส่ oxygen   2.2 เก็บขยะออกจากน้ำ   2.3 รอ อาจารย์ abac กับ อาจารย์ปักษ์ใต้ บอกว่า โยน em ลงไปตามสูตร แก้ได้ สรุป ผมไม่รู้เหมือนกันว่า ในสถานการณ์จริง em จะแก้ได้จริงไหม แต่ผมอยากรู้เหมือนกันว่า 3.เวลาน้ำไหลเข้่าบ้านแล้วบ้่านถูกตัดน้ำตัดไฟเนี่ย ใครมันจะเติม oxygen ได้ 4.ลงไปเก็บขยะจากน้ำ ชาวบ้านทำในบ้านตัวเองได้ แต่จะเอาขยะไปทิ้งที่ไหนครับ กองไว้บนหลังคาเหรอ 5.แล้วต้องรออีกนานแค่ไหนให้น้ำหายเหม็น อีกเป็นหลายเดือน 6.ในเมื่อ โยนem ลงไปมีแต่เจ๊ากะเจี๊ยะ ผมก็ไม่รู้ว่าจะเถียงกันไปทำไม จากคุณ : cantona_z เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 54 12:53:59

ความคิดเห็นที่ 102 กระทู้นี้เข้าใจง่ายสุด http://pantip.com/cafe/wahkor/topic/X11313374/X11313374.html สรุปโดยย่ิอ ใช้อีเอ็มเพื่อจุดประสงค์ในการกำจัดกลิ่นของน้ำเสียเท่านั้น ไม่ใช่เพื่อบำบัดน้ำเสียด้วยการเพิ่มแก๊สออกซิเจนให้กับแหล่งน้ำ โดยให้ใช้กับบริเวณน้ำท่วมขังเป็นพื้นที่ขนาดเล็ก เช่น บริเวณภายในรั้วบ้านที่น้ำท่วมขัง ไม่ควรใช้กับแหล่งน้ำขนาดใหญ่หรือน้ำไหล ซึ่งเชื้อจะถูกเจือจางหรือไหลไปกับน้ำ ถ้าเลือกได้ ควรเลือกใช้น้ำหมักอีเอ็มมากกว่าก้อนอีเอ็มในการบำบัดน้ำเสีย ในกรณีที่ไม่มีน้ำหมักหรือก้อนอีเอ็ม ให้ใช้ “ปูนขาว” ใส่ลงไปในแอ่งน้ำขังนั้นแทนได้ เพราะสามารถลดกลิ่นแก๊สไข่เน่าได้เช่นกัน ในเวลาอันรวดเร็วและค่าใช้จ่ายไม่สูง การบำบัดน้ำเสียที่ดีที่สุด คือ เก็บขยะมูลฝอยของเสียต่างๆ ออกจากแหล่งน้ำนั้นและไม่ทิ้งขยะลงไปเพิ่ม รวมถึงการเพิ่มแก๊สออกซิเจนให้กับแหล่งน้ำ จะด้วย “การเปิดทางเดินของน้ำให้ลม อากาศ และแสงส่องถึง” เพื่อปล่อยให้ธรรมชาติบำบัดตนเองก็ตาม หรือทำวิธีลัดด้วย “การใช้เครื่องมือต่างๆ กวนน้ำตีน้ำ” เช่น ปั๊มออกซิเจนตู้ปลา เครื่องทำน้ำพุ เครื่องสูบน้ำขนาดเล็ก ไปจนถึงกังหันน้ำชัยพัฒนาขนาดใหญ่ การทดลองของหมอเจ http://pantip.com/cafe/wahkor/topic/X11307597/X11307597.html สรุปโดยย่อ การใช้ EM Ball และน้ำยา EM ในขนาดที่เหมาะสม หรือการใช้ปูนขาว  ช่วยลดกลิ่นและสีของน้ำเน่าได้ ดีกว่าการปล่อยทิ้งไว้เล็กน้อยๆ  แต่ก็ไม่มากจนแทบ จะไม่ต่างกับไม่ใช้เท่าไร และถ้าจะเลือกใช้ EM ต้องระวังในเรื่องของขนาดทีมากเกินไป ตัวปูนขาวก็เป็นตัวเลือกที่ น่าสนใจ ทั้งนี้ทั้งนั้น คงต้องศึกษาเรืองผลกระทบอื่นๆ ต่อสิ่งแวดล้อมมาประกอบกัน แต่ถ้าเป็นไปได้ การเก็บขยะ อินทรีย์ขึ้นจากน้ำ  ให้มากทีสุด เพิ่มการไหลเวียน้ำนั่นช่วยให้น้ำดีขึ้นแน่ๆ ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมใดๆ ทั้งสิ้น จากคุณ : kenjiwinness เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 54 21:34:18

ความคิดเห็นที่ 103 ผมไม่คิดว่า EM ball มันจะได้ผลกันน้ำเน่าจำนวนมากหรอก เพราะถึงแม้ว่าเชื้อ EM ball จะสามารถฆ่าเชื้อในน้ำเน่าได้ จากที่หลาย คห บอกว่าต้องหมักให้หัวเชื้อหมด แล้วพอลงไปในน้ำเชื้อมันจะเอาอาหารไหนมาเจริญเติบโตและขยายพันธุ์ เชื้อเองก็ต้องมีที่อยู่มีอาหารที่เหมาะสมมันถึงจะเจริญเติบโตได้ และพออยู่ในสภาพที่ไม่เหมาะสมมันก็จะตาย Lactobacillus casei และ Saccharomyces cerevisiae ที่อยู่ใน EM กินน้ำตาลเป็นอาหาร อุณหภูมิที่เหมาะสมคือ 37 องศาเซลเซียส ยังไงในน้ำเน่าก็ไม่ใช่สถานที่เหมาะสมแน่แน่ๆ ยิ่งลงไปในน้ำเน่าเชื้อก็จะโดนน้ำเจือจางมันจะไปสู้เชื่อที่อยู่ประจำและเติบโตอยู่อย่างต่อเนื่องได้อย่างไร และตัว EM เองก็ไม่ได้ฆ่าเชื้อแบคทีเรียอื่นๆได้แต่ว่ามันแค่ยับยั้งไม่ให้แบคทีเรียอื่นๆเติบโตและบังคับให้อยู่ในสภาพจำศีลเพื่อป้องกันตนเองโดยการปล่อยกรดแลคติก(แบคทีเรียส่วนใหญ่จะไม่ชอบสภาวะกรด)ถ้าน้ำเน่ามันกลายเป็นกรดจนถึงกับทำให้เชื้อในน้ำตายได้ก็ถือว่าเป็นน้ำเสียอยู่ดี ถ้าจะฆ่าเชื้อในน้ำเน่าไม่สู้เอา ไฮโดรเจนเปอออกไซด์ ไปเทใส่เลยหล่ะไม่ก่อให้เกิดมลพิษด้วย และน้ำเน่าก็มีเชื้อราด้วย เชื้อ EM ไม่สามารถจัดการได้ ที่ว่าล้างห้องน้ำสอาดมันคนละเรื่องกับน้ำเน่าเลย เพราะล้างห้องน้ำใช้ทั้งน้ำสอาดฉีดใช้ทั้งแปลงขัดไหนจะ EM ที่เป็นกรดแลคติกอีก มันจะไม่สอาดได้ยังไง ทางวิทยาศาสตร์มันจะต้องมีงานวิจัยที่เชื่อถือได้มาอ้างอิง เช่น journal ถ้าทดลองจะกี่ครั้งก็ต้องได้เหมือนเดิม ไม่ใช่มาบอกว่ากรูล้างห้องน้ำสอาดดีบ้าง เอาไปเป็นปุ๋ยดีบ้าง แล้วมาบอกว่าช่วยแก้ปัญหาน้ำเน่าได้ไม่เห็นจะเกี่ยวกันเลย จากคุณ : ไม่มีน้องสาว เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 54 00:05:19