ความคิดเห็นที่ 1 ลองอ่านจากมติชนตาม Linkข้างล่าง นี้ ( 1 ต.ค.54 )ก่อนน่ะครับจะได้ต่อเรื่องติด..ว่าเขามอบ EM BALL หรือ DASTA BALL..? http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1317449625&grpid=&catid... 25/10/2011 อพท. ชี้แจงความแตกต่างระหว่าง “ดาสต้าบอล” กับ “อีเอ็มบอล” ที่ใช้บำบัดน้ำเสียและการให้ความช่วยเหลือแก่ภาครัฐและประชาชน ที่ผ่านมา องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. ได้ดำเนินโครงการ DASTA Ball เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๔ ระยะเวลาของโครงการ ตั้งแต่วันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๓ และสิ้นสุดโครงการภายในสิ้นเดือนธันวาคม ๒๕๕๔ ตามโครงการนี้ อพท. ได้ผลิตดาสต้าบอลไปแล้วจำนวน ๑ ล้านลูก และได้รับการตอบรับในคุณภาพการบำบัดน้ำเสียจากผู้ใช้เป็นอย่างดี เช่น กรมทรัพยากรน้ำ กรมควบคุมมลพิษ หน่วยงานราชการระดับจังหวัด ตำบลและอำเภอ รวมทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคประชาชน และภาคเอกชน โดยเฉพาะในสถานการณ์ปัจจุบันที่หลายจังหวัดประสบอุทกภัยอย่างหนัก อย่างไรก็ตาม ยังมีหน่วยงานราชการและสื่อมวลชน ที่อาจมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนเกี่ยวกับ “ดาสต้าบอล” และ “อีเอ็มบอล” ที่ใช้บำบัดน้ำเสีย พ.อ.ดร.นาฬิกอติภัค แสงสนิทผู้อำนวยการ อพท. กล่าวว่า ดาสต้าบอลเกิดจากสายพันธุ์แบคทีเรียที่มีประสิทธิภาพสูงเพาะเลี้ยงจากกรม ประมง และผสมเข้ากับน้ำทะเล แร่เพอร์ไลท์ น้ำหมักปลา รำละเอียดและกากน้ำตาล ผสมให้เข้ากันและปั้นเป็นก้อนกลมขนาดลูกปิงปอง ซึ่งการปั้นเป็นลูกกลมขนาดเท่าปิงปอง เพื่อให้แบคทีเรียมีบ้านยึดเกาะและสามารถรับออกซิเจนในการหายใจ และมีน้ำหนักพอจะทำให้จมลงในน้ำได้ดี จึงทนกับสภาพแวดล้อมได้ดีกว่าจุลินทรีย์บำบัดน้ำเสียทั่วไป ดังนั้น อพท. จึงได้ขอจดอนุสิทธิบัตรส่วนผสมของดาสต้าบอลเป็นการเฉพาะเรียบร้อยแล้วเมื่อ ปี ๒๕๕๓ แบคทีเรียใน DASTA Ball จะออกจากบอลจุลินทรีย์ไปกำจัดน้ำเน่าและกลิ่นเหม็นให้หายไปใน ๒๔ ชั่วโมง และหลังจากผ่านไป ๔๘ ชั่วโมง น้ำจะใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัด “พอแบคทีเรียถูกโยนลงไปในน้ำขังเน่าเสีย มันจะออกไปปฏิบัติการบำบัดน้ำเสีย ด้วยการกินไนโตรเจนและสิ่งเน่าเสียเป็นอาหาร แล้วกลับเข้าบ้านก็คือแร่เพอร์ไลท์ที่มันสามารถยึดเกาะ แล้วออกไปปฎิบัติการบำบัดน้ำเสียจนหมดอายุการทำงาน ดาสต้าบอลของอพท. จึงมีความแตกต่างจาก อีเอ็มบอล (Effective Microorganisms) ทั่วไป ทั้งในแง่หัวเชื้อจุลินทรีย์ วัต:-)ืดเกาะคือแร่เพอร์ไลท์ และเทคนิคเฉพาะการปั้นบอลจุลินทรีย์ การปรับค่าความเป็นกรด-ด่างของน้ำให้เหมาะสมกับการทำงานของแบคทีเรีย ดาสต้าบอลสามารถกำจัดไนโตรเจนซึ่งเป็นส่วนประกอบของก๊าซไข่เน่าที่ทำให้เกิด กลิ่นเหม็นได้ ที่ผ่านมาเราได้ใช้ดาสต้าบอลมา 2 ปีแล้ว เพื่อช่วยฟื้นฟูสภาพน้ำแหล่งท่องเที่ยวในเขตพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยว ที่ อพท. เข้าไปจัดรูปแบบการท่องเที่ยวตอบสนองความจำเป็นทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม เช่น ในพื้นที่พิเศษหมู่เกาะช้างและพื้นที่เชื่อมโยง” ผู้อำนวยการ อพท. กล่าว ถ้าของไม่ดี คนเขาไม่ขอไปใช้หรอกครับ..ผมลองคัดมาเป็นตัวอย่าง..ที่สำคัญผมก็เห็นและ พิสูจน์ด้วยตนเองแล้วว่าภูมิปัญญาชาวบ้านไม่ได้ด้อยกว่าที่ไหนเลย..เพลาๆ เรื่องทฤษฎีบ้างก็น่าจะดีน่ะครับ ทุกวันนี้ผมแทบจะสำลักวิชาการ จนกลายเป็นวิชาเกินที่ผมจะรับได้แล้ว..โดยเฉพาะกับเรื่องน้ำท่วม.. http://www.dasta.or.th/th/News/detail_news.php?ID=1031&Subject=datanews http://www.dasta.or.th/th/News/detail_news.php?ID=1012&Subject=datanews http://www.dasta.or.th/th/News/detail_knowledge.php?ID=1227 จากคุณ : เทวดาน้อย เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 54 08:34:42

ความคิดเห็นที่ 2 อพท. ร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลห้วยทราย บำบัดน้ำเสียในคลองระบายน้ำของพื้นที่ห้วยทราย ด้วย DASTA Ball 22/07/2011 ++++++++++ จากคุณ : เทวดาน้อย เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 54 08:37:45

ความคิดเห็นที่ 3 มาหาความรู้ ^^ จากคุณ : ธารวรี เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 54 08:39:14

ความคิดเห็นที่ 4 เชิญชาวกรุงเทพฯ ร่วมบำบัดแหล่งน้ำในสวนรถไฟ ด้วย DASTA Ball 23/07/2011 +++++++++++ จากคุณ : เทวดาน้อย เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 54 08:40:39

ความคิดเห็นที่ 5 อพท. ชี้แจงความแตกต่างระหว่าง “ดาสต้าบอล” กับ “อีเอ็มบอล” ที่ใช้บำบัดน้ำเสียและการให้ความช่วยเหลือแก่ภาครัฐและประชาชน 25/10/2011 +++++++++++ จากคุณ : เทวดาน้อย เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 54 08:43:08

ความคิดเห็นที่ 6 องค์ความรู้ใหม่ แต่ชื่อเรียกยังเรียกแบบเก่า ๆ อยู่ ++++++++ แก้ไขเมื่อ 05 พ.ย. 54 09:15:51 จากคุณ : เทวดาน้อย เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 54 08:44:46

ความคิดเห็นที่ 7 ขอบคุณที่นำมาฝาก จขกท ช่างค้นหาจริงๆ จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 54 08:55:23

ความคิดเห็นที่ 8 โอ้ ขอบคุณครับ กำลังสงสัยอยู่พอดี จากคุณ : aonesung เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 54 09:18:08

ความคิดเห็นที่ 9 นับถือเจ้าของกระทู้ครับ จากคุณ : jackbua (jackbua) เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 54 09:35:59

ความคิดเห็นที่ 10 เครดิตประชาไท คุณแมวน้ำสีคราม ครับ ผมแค่นำมาเผยแพร่ต่ออีกที ++++++++ จากคุณ : เทวดาน้อย เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 54 09:47:08

ความคิดเห็นที่ 11 ชื่ออย่างกับ dragon ball จากคุณ : starbless เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 54 10:07:35

ความคิดเห็นที่ 12 .......เปลี่ยนชื่อแต่หลักการแบบเดียวกันนี่นา นอกเรื่อง : ก๊าซไข่เน่ามีสูตรเคมีคือ H2S ไม่มีส่วนประกอบของไนโตรเจนนะครับ จากคุณ : oryze เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 54 10:09:47

ความคิดเห็นที่ 13 ต้องเริ่มที่สื่อแล้วครับในการเรียก Dasta ball ++++ ให้มันสมกับที่เราเป็นคนพัฒนาสายพันธุ์ และคิดค้น แก้ปัญหาความเข้าใจผิด หรือเข้าใจเดิม ๆ ด้วย จากคุณ : เทวดาน้อย เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 54 10:10:02

ความคิดเห็นที่ 14 อย่างไรก็ตาม ยังมีหน่วยงานราชการและสื่อมวลชน ที่อาจมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนเกี่ยวกับ “ดาสต้าบอล” และ “อีเอ็มบอล” ที่ใช้บำบัดน้ำเสีย พ.อ.ดร. นาฬิกอติภัค แสงสนิทผู้อำนวยการ อพท. กล่าวว่า ดาสต้าบอลเกิดจากสายพันธุ์แบคทีเรียที่มีประสิทธิภาพสูงเพาะเลี้ยงจากกรม ประมง และผสมเข้ากับน้ำทะเล แร่เพอร์ไลท์ น้ำหมักปลา รำละเอียดและกากน้ำตาล ผสมให้เข้ากันและปั้นเป็นก้อนกลมขนาดลูกปิงปอง ซึ่งการปั้นเป็นลูกกลมขนาดเท่าปิงปอง เพื่อให้แบคทีเรียมีบ้านยึดเกาะและสามารถรับออกซิเจนในการหายใจ และมีน้ำหนักพอจะทำให้จมลงในน้ำได้ดี จึงทนกับสภาพแวดล้อมได้ดีกว่าจุลินทรีย์บำบัดน้ำเสียทั่วไป ดังนั้น อพท. จึงได้ขอจดอนุสิทธิบัตรส่วนผสมของดาสต้าบอลเป็นการเฉพาะเรียบร้อยแล้วเมื่อ ปี ๒๕๕๓ แบคทีเรียใน DASTA Ball จะออกจากบอลจุลินทรีย์ไปกำจัดน้ำเน่าและกลิ่นเหม็นให้หายไปใน ๒๔ ชั่วโมง และหลังจากผ่านไป ๔๘ ชั่วโมง น้ำจะใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัด “พอ แบคทีเรียถูกโยนลงไปในน้ำขังเน่าเสีย มันจะออกไปปฏิบัติการบำบัดน้ำเสีย ด้วยการกินไนโตรเจนและสิ่งเน่าเสียเป็นอาหาร แล้วกลับเข้าบ้านก็คือแร่เพอร์ไลท์ที่มันสามารถยึดเกาะ แล้วออกไปปฎิบัติการบำบัดน้ำเสียจนหมดอายุการทำงาน ดาสต้าบอลของอพท. จึงมีความแตกต่างจาก อีเอ็มบอล (Effective Microorganisms) ทั่วไป ทั้ง ในแง่หัวเชื้อจุลินทรีย์ วัต:-)ืดเกาะคือแร่เพอร์ไลท์ และเทคนิคเฉพาะการปั้นบอลจุลินทรีย์ การปรับค่าความเป็นกรด-ด่างของน้ำให้เหมาะสมกับการทำงานของแบคทีเรีย ดาสต้าบอลสามารถกำจัดไนโตรเจนซึ่งเป็นส่วนประกอบของก๊าซไข่เน่าที่ทำให้เกิด กลิ่นเหม็นได้ จากคุณ : เทวดาน้อย เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 54 10:11:45

ความคิดเห็นที่ 15 อ๊อกไซด์ของไนโตรเจน ++++++ http://goo.gl/FFbPv ที่มา : ตำราระบบบำบัดมลพิษอากาศ กรมโรงงานอุตสาหกรรม ผู้เขียน : นพภาพร พานิช และคณะ แก้ไขเมื่อ 05 พ.ย. 54 10:25:45 จากคุณ : เทวดาน้อย เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 54 10:21:46

ความคิดเห็นที่ 16 รัฐบาลเขารอให้น้ำนิ่ง ขังและเริ่มเน่าเหม็น ถึงเอาตัว das ball มาหย่อนใส่ +++++ ขนาด 1 ลูกต่อ 5/5 ลูกบาศก์เมตร กว้าง*ยาว*ลึก จากคุณ : เทวดาน้อย เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 54 10:36:50

ความคิดเห็นที่ 17 เรื่องนี้เป็นตัวอย่างที่ดีของ "ความเห็นทีท่วมท้น แต่พื้นฐานไม่อยู่บนข้อเท็จจริง" จากคุณ : XP เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 54 10:48:15 A:124.122.126.96 X: TicketID:060402

ความคิดเห็นที่ 18 ไม่แสวงหาความจริงมากกว่าครับ +++++++ จากคุณ : เทวดาน้อย เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 54 12:59:58

ความคิดเห็นที่ 19 "ดาสต้าบอลสามารถกำจัดไนโตรเจนซึ่งเป็นส่วนประกอบของก๊าซไข่เน่าที่ทำให้เกิดกลิ่นเหม็นได้" แค่ประโยคนี้ ก็บั่นทอนความน่าเชื่อถือของความรู้วิทยาศาสตร์ของผู้พูดแล้วครับ จากคุณ : JD300 เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 54 13:37:06

ความคิดเห็นที่ 20 em นิยมใช้การดูแลน้ำเสียในประเทศมาเลเซีย +++++ ผลการทดลองในคลองน้ำเสีย จากคุณ : เทวดาน้อย เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 54 14:29:46

ความคิดเห็นที่ 21 ในมาเลเซีย +++++++ ไม่มีวิกฤตศรัทธาที่นักวิชาการสร้างขึ้นแบบประเทศเรา จากคุณ : เทวดาน้อย เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 54 14:33:34

ความคิดเห็นที่ 22 มาเลเซีย ++++ จากคุณ : เทวดาน้อย เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 54 14:36:46

ความคิดเห็นที่ 23 Cleaning the beach: The staff throwing mud balls into the sea. จากคุณ : เทวดาน้อย เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 54 14:42:11

ความคิดเห็นที่ 24 ขอบคุญเจ้าของกระทู้ที่นำมาให้อ่านครับ ซึ่งประเด็นที่ผมสนใจคือเรื่องกลิ่น พยายามอ่านและในเรื่องการบำบัดผมค่อนข้างที่เห็นด้วย  ในแง่ที่ว่าสามารถทำให้น้ำสามารถใช้ย่อยสลาย สารอินทรีย์ได้เร็วขึ้น  มีการนำไปใช้กับน้ำทะเล (อันนี้น่สนใจ)   น้ำที่นำไปใช้คือน้ำที่มี O2 ต่ำ แน่นอนเวลาเกิดการหมัด ก็จะได้ H2S  ขึ้นมา และก๊าช ที่มีกลิ่น และ CH4 ตอนแรกคิดว่าเชื้อจะมีความสามารถดักจับ H2S ได้ แต่ก็ไม่น่าจะใช่ ส่วนคนที่คิดว่าลดกลิ่นได้อาจจะเป็นเพราะว่า สมมุติเมื่อมีการเปรียบเทียบกันกับ บ่อบำบัดสองบ่อ   บ่อหนึ่งใช้เชื้อ อีกบ่อไม่ใช่ บ่อ 1 น้ำเน่า + เชื้อ  --->    น้ำดี  (สมมุติ 5 วัน) บ่อ 2 น้ำเน่า + ตามธรรมชาติ --->  น้ำดี (อาจจะเป็นหลายๆเดือน) เมื่อสารอินทรีย์หมด จุลินทรีย์มันไม่มีอาหารมันก็ตายเอง ปริมาณของก๊าซ ที่ปล่อยมาจากบ่อที่ 1 และสองน่าจะไม่ต่างกันมาก เพียงแต่ว่าบ่อที่หนึ่งใช้เวลาในการปลดปล่อยกลิ่น 5 วัน แน่นอนครับ กลิ่นที่ได้มีความรุนแรงมาก เพราะฉะนั้นอาจารย์จุฬา ก็พูดไม่ผิด ว่าน้ำก็ยังคงมีกลิ่นแถมมีกลิ่นแรง แถมน่าจะแรงกว่าก่อนบำบัด และพอหลังจาก 5 วัน สารอินทรีย์หมดแบคที่เลียไม่มีอะไรกิน มันก็เริ่มตาย กลิ่นก็เริ่มหายไป น้ำก็ปรับสภาพกลายเป็นน้ำดี  จขกท ก็ไม่ผิดว่ามันสามารถ บำบัดน้ำเสียได้ โดยทั่วไปหลังจากการบำบัดก็จะมีตะกอนตกลงมา ส่วนบ่อที่ปล่อยตามธรรมชาติ มักก็จะค่อยปรับตัวมันเอง ในช่วงมี่น้ำยังเสียมันก็ปล่อยกลิ่นอย่างต่อเนื่องมาเรื่อยๆ  ซึ่งต้องใช้เวลานานในการบำบัด ถ้าใครเคยทำ ก๊าซชีวภาพ จะพบว่ามูลที่ดีที่สุดในการใช้ผลิตก็คือมูลที่ได้จากสัตว์ พวกที่กินเนื้อ  ส่วนมูลวัว จะทำยากหน่อยเพราะกินพืช  มูลที่ผ่านการหมักแล้ว จะมีกลิ่นน้อยมาก หรือแทบไม่มี น้ำก็น่าจะเป็นแบบเดียวกัน ถ้าหลังบำบัดกลิ่นจะน้อย PS  จาก rep 5  ... H2S มันเป็นก๊าซ ใข่เน่า ไม่ใช่พวกสารประกอบ N  แต่แน่นอนสารประกอบ N ที่เป็นโมเลกุลเล็กๆ ก็มีกลิ่นที่รุนแรงเช่นกัน จากคุณ : Organic_D เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 54 16:02:49

ความคิดเห็นที่ 25 ไม่เจง ไม่เห็นเขียนไว้ในตำราเลย เป็นไปไม่ได้ อิอิอิ จากคุณ : Ao+ เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 54 22:00:54

ความคิดเห็นที่ 26 ผมไม่เชื่อ Dasta Ball เพราะผมไม่เชื่อการทำงาน อพท ถ้าใช้วิทยาศาสตร์ ชี้แจงความจริงเรื่องลูกบอลนี้ได้ก็ดีครับ จากคุณ : รถเล็ก เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 06:37:03

ความคิดเห็นที่ 27 เห็นด้วยกับ คหที่ 26 เพราะมีเพื่อนทำงานวิจัยให้ อพท.อยู่พบว่าใช้บอลแล้วค่าฟอสเฟตสูงขึ้นมาก แล้วที่โฆษณาชวนเชื่อว่าน้ำใสภายใน 24-48 ชั่วโมงด้วยการทำงานของจุลินทรีย์ค่อนข้างเชื่อยากหากมีความรู้ทางด้านจุลชีววิทยาสิ่งแวดล้อม เหตุผลที่น่าจะพออธิบายได้คืออาจจะเกิดจากแร่เพอไรต์ที่ใส่ลงไปซึ่งคิดว่าน่าจะมีคุณสมบัติในการตกตะกอนบ้างน้ำจึงใสขึ้นและกลิ่นหายไป แต่ต้องวัดความสกปรกในน้ำประกอบด้วย เช่น ค่า BOD COD หรือออกซิเจนที่ละลายในน้ำ โดยปกติแล้วในสิ่งแวดล้อมหรือในธรรมชาติการย่อยสลายจะเกิดขึ้นตลอดเวลาทั้งที่มีออกซิเจน ไม่มีออกซิเจน มีแสง ไม่มีแสง พูดง่ายคือจุลินทรีย์ทำงานในทุกสภาวะแต่อาจจะมีสภาวะที่เหมาะสมที่สุด(ซึ่งขึ้นอยู่กับชนิดของจุลินทรีย์) ดังนั้น ไม่ว่าเราจะใช้บอลหรือไม่ กิจกรรมของจุลทรีย์ต้องทำงานต่อไปคือ หน้าที่ในการย่อยสลาย (เปลี่ยนสารอินทรีย์ให้เป็นสารอนินทรีย์ทำให้เกิดการหมุนเวียนของสารอาหารในระบบนิเวศ) พบว่าในเรื่อง dasta ball เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ การป้องที่ดีที่ คือประชาชนทุกภาคส่วนต้องรักษาสภาพของแหล่งน้ำ ไม่ทิ้งขยะของเสียต่าง ๆลงสู่แหล่งน้ำ แต่หากต้องการใช้บอลก็ใช้ได้ แต่สิ่งสำคัญทุกคนต้องสร้างวินัยในตนเองที่จะดูแลรักษาสภาพแวดล้อมให้ดี ครับ ความคิดเห็นส่วนตัวครับ จากคุณ : จักรพันธ์ โพธิพัฒน์ เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 20:40:47 A:118.172.245.171 X: TicketID:308141