ความคิดเห็นที่ 1 เขาบอกว่า EM จะทำให้ o2 ในน้ำหมดไป มีวิธีวัด o2 ในน้ำหรือเปล่าครับ มันจะชัดเจนมากขึ้นกว่า blind test มันจะโหดร้ายเกินไปหรือเปล่าถ้าใส่ปลาหางนกยูงลงไปสัก ถังละ 50 ตัว จากคุณ : WindMaster เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 10:20:32

ความคิดเห็นที่ 2 สนับสนุนครับ ได้ผลอย่างไรช่วยมาชี้แจงด้วยนะครับ จากคุณ : T7Promoter เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 10:27:47

ความคิดเห็นที่ 3 เข้ามาเชียร์ พี่หมอน่าจะลองทำอีกชุดทดลองด้วยนะครับ ใช้ผักตบฯ แทน EM จากคุณ : เศียรนาคา ... เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 10:30:46 A:110.49.250.173 X: TicketID:255126

ความคิดเห็นที่ 4 เยี่ยมมากครับคุณหมอ ถ้าเป็นไปได้ อยากรบกวนให้มีภาชนะที่ใส่ปูนขาวด้วยนะครับ ไอเดียเรื่องที่ใส่ปลาลงไปด้วยก็ดีมากครับ แต่ปลาหางนกยูงทนเก่ง อาจจะไม่เห็นผลชัดนัก มีประเด็นนิดนึงว่าปัญหาที่ทางเราไม่เห็นด้วยไปเน้นที่ตัว EM ball ครับ (ไม่ใช่น้ำหัวเชื้อ EM) ว่าถ้าโยนปริมาณน้อย ก็น่าจะไม่ค่อยได้ผล และถ้าให้เยอะได้ผล ก็กลายเป็นเพิ่มขยะอินทรีย์กับน้ำ แก้ไขเมื่อ 06 พ.ย. 54 10:39:52 จากคุณ : JD300 เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 10:31:56

ความคิดเห็นที่ 5 ดีครับ ผมว่าเอาแค่กำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ก็พอ เพราะปัญหาน้ำเน่าเสียคือกลิ่นเหม็นนี่เอง ส่วนตัวผมเคยใช้ผสมน้ำ ราดกรงหมา ซึ่งมีกลิ่นเหม็นจากฉี่หมา ปรากฏว่า กำจัดกลิ่นได้ดีมาก .... จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 10:32:22

ความคิดเห็นที่ 6 ในแง่ปลาหางนกยูง ถ้า emball กิน o2 หมดจริง ทนแค่ไหนก็ตายครับ ต้องย้อนกลับไปดูตอนที่เรือบรรทุกน้ำตาลล่ม ข่าวเงียบไปแล้ว คงไม่มีการฟ้องเรียกค่าเสียหาย ตอนเรือบรรทุกน้ำตาลล่ม แบคทีเรียและจุลินทรีย์ที่ใช้ น้ำตาลเป็นอาหารเจริญเติบโตจน o2 เกลี้ยง ปลาตายเป็นเบือ งั้นต้องปล่อยปลานิล เพราะเรารู้ว่ามันตายจากการขาด o2 แล้วช้อนปลามาทอดกินได้ จากคุณ : WindMaster เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 10:40:52

ความคิดเห็นที่ 7 แต่ #5 ของคุณ TinyNu น้ำไม่ขังนี่ครับ แค่กำจัดกลิ่น แล้วก็ล้างน้ำลงท่อไป แต่กรณีนี้ น้ำขัง อาจจะจำกัดกลิ่งได้ช่วงนิดหนน่อย แล้วพอ o2 หมด ความเน่าก็มาเยือนมากขึ้น จากคุณ : WindMaster เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 10:42:10

ความคิดเห็นที่ 8 ไม่ต้องทดลองให้เสียเวลาหรอกครับ ได้ผลแน่นอน ผมใช้มาแล้ว แต่ต้องเป็นของคิวเซนะครับของยี่ห้ออื่นไม่เคยใช้  http://www.emkyusei.net/  ผมเคยใช้บำบัดน้ำเสียจากบ่อปลา กว้างเป็นไร่ครับ เดิมเป็นนาเจ้าของตักดินไปถมบริเวณข้างเคียงเพื่อตั้งโรงงาน หลักจากนั้นก็ปลูกบ้านคล่อมบ่อ และนำปลาหลายพันธ์มาปล่อยลงบ่อเช่นปลาบึก เห็นปลาอะไรก็ซื้อมาปล่อยจนมากเกินไป นอกจากนั้นยังกลัวปลาจะอด เอาอาหารเทให้จนเหลือสะสมในบ่อ นานเข้าพอเดินเข้ารั้วบ้านก็เหม็นคาว เหม็นน้ำเน่าแล้ว เมื่อผมไปพบผมจึงได้ขยาย em ประมาณ 100 ลิตร (มากเกินไป) เทราดลงไป ผลปากฎว่าในวันรุ่งขึ้นมีปลาตะเพียนลอยตายเต็มบ่อเลย ส่วนปลาหนังหรือปลาที่ไม่มีเกล็ดไม่ตาย ลืมบอกไประหว่างที่ราด em บนผิวน้ำผมได้ใช em ball โยนลงไปหน้าดินก้นสระด้วย พอตอนสายมีแดดออกมีฝ้าลอยขึ้นมาเต็มบ่อหมด ดูสกปรกมาก ได้ให้คนงานช้อนทิ้งมาตากบนขอบบ่อ แต่ก็ไม่หมด สาเหตุที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่า ในบ่อน้ำสกปก อ๊อกซิเจนน้อย เมื่อราด em ลงไปทำให้ปริมาณอ๊อกซิเจนในน้ำมากขึ้นอย่างเร็ว ทำให้ปลาเกล็ดโดยเฉพาะตะเพียนปรับตัวไม่ทันตาย แต่ปลาหนังไม่เป็นไร ส่วนที่มีฝ้าลอยขึ้นมาเหนือน้ำเพราะ em ได้กำจัดสิ่งสกปกบริเวณหน้าดินลอยขึ้นมา ถ้าไม่ตักทิ้งมันจะค่อยๆจมลงไปเองไม่เป็นไร อีกเดือนต่อมาผมก็เติม em ลงไปอีก ประมาณ 50 ลิตร ปลาเกล็ดตายน้อยลง ฝ้าลอยน้อยลง กลิ่นน้ำเน่าเบาลงไป และหายไปในที่สุด หลังจากนั้นผมเติม em ลงไปทุกเดือนน้ำหายเน่าและใสขึ้น แต่ก็ไม่ถึงกับนำน้ำไปดื่มได้นะครับ เคยเว้นระยะไม่เติม em ประมาณสามเดือน น้ำก็ชักมีกลิ่นคาว แต่พอเติม em ลงไปก็หายครับ จากคุณ : บรรพต 71 เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 10:51:00

ความคิดเห็นที่ 9 บ้านผมตอนนี้ขอEMหน่อยได้มั้ยครับ ผมเอาปั๊มอากาศของตู้ปลา มาเติมอากาศให้น้ำในบ้านแล้วว แต่น้ำในบ้านยังไหลเข้าไหลออกอยู่บ้า' ตามการขึ้นลงของน้ำทะเล แต่โดยรวมมันก็ยังขึ้นอยู่วันละ3-4ซม.-"- จากคุณ : คนไร้สมอง เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 10:54:55

ความคิดเห็นที่ 10 เขาบอกให้ชิงเปิดน้ำดีให้เต็มบ้านก่อนครับ สิ่งสกปรกจะมีแค่ ซึมผ่าน แต่ถ้าปล่อยน้ำเข้าบ้าน สิ่งสกปรกมากับน้ำทั้งหมดเต็มๆ จากคุณ : WindMaster เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 11:02:13

ความคิดเห็นที่ 11 อย่างที่ว่า ตัวแปรอื่นๆ นี่ มันก็คุมยากหน่อย เรื่อง O2 ในน้ำจะลดลงไป ถ้าไม่ได้เน่าเสีย ไม่ได้ส่งกลิ่นเหม็นมากๆ นี่น้ำในแหล่งน้ำใหญ่อย่างนี้ ผมว่าคนส่วนใหญ่คงรับได้ แต่ประเด็นที่อจ.เจษฏร์ทักมา ว่า ถ้าเป็นน้ำ EM อาจจะได้ผล แต่พอเป็น EM Ball อาจจะได้ไม่ได้ผล เพราะว่ากากชีวิภาพ ที่สาดลงไปด้วยอาจจะไปเพิ่ม ของเสียให้กับน้ำ นั่นก็น่าคิดอีกเหมือนกัน เด๋วถ้าหา EM Ball ได้ อาจจะลองควบไปด้วย อยู่บ้านนอก แอบทดลองเอง นี่ลำบากเหมือนกันหาของยากหน่อย จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 11:03:09

ความคิดเห็นที่ 12 ใช่ครับ กรงหมาน้ำไม่ขัง บางทีผมใช้ผสมน้ำเช็ดถูพื้นบ้านก็ใช้ได้ กลิ่นหมา แมวหมดไป อันนี้ไม่ทราบว่า จุลินทรีย์มันช่วยลดกลิ่นได้อย่างไร แต่มันลดได้แน่ๆ ผมทำใช้ประจำบ้าน จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 11:03:50

ความคิดเห็นที่ 13 อ้อ จะเพิ่ม ตัวอย่าง การใช้ปูนขาวเพื่อเปรียบเทียบ ใครรู้สัดส่วนปริมาณ ที่แนะนำให้ใช้ ว่าใช้เท่าไรต่อน้ำกี่ คิว กี่ ลิตร  รบกวนด้วยครับ จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 11:05:19

ความคิดเห็นที่ 14 คุณหมอ ครับ ผมนอนไม่ค่อยจะหลับ เอ๊ย ม่ายช่าย ขอแถมซัก 2 -3 ตัวอย่างได้ไหมครับ ลองใส่สารละลายจุนสี (CuSO4)  ความเข้มข้นซัก 10 , 100 ,และ 1,000 ppm หน่อยว่ามันมีผลอย่างไร เพราะเมื่อ 10 กว่าปีก่อน เพื่อผมมันเคยแนะนำน้ำยาตัวนึง ซึ่งเป็นคีเลทของ CuSO4 ซึ่งทางเพื่อนผมมันไปเอามาจากเมืองนอกจะทำตลาด (แต่ว่าแพงไปหน่อย) เท่าที่เอามาทดลองตอนนั้น ขนาดน้ำเสียจากโรงงานฆ่าสัตว์ ดำปี๋ ยังทำให้ใสได้ใน 1 อาทิตย์ น่ะครับ ช่วยแถมด้วยครับ นะนะ จากคุณ : Waterman (LN106) เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 11:22:50

ความคิดเห็นที่ 15 ตอนนี้เกิดปัญหา ที่คาดไม่ถึงกระทันหัน เตรียมออกไปลอง น้ำยา EM สองขวดที่เห็นตั้งอยู่ พี่สาวผมเอากลับไปลองเท ที่บ้าน ในเมืองซะแล้ว ตอนนี้ ที่มีอยู่ในมือ คือ SM700 เป็นผงจุลินทรีย์ กำจัดกลิ่น  และ ย่อยสลายกากอุจาระ หลักการเดียวกับ EM แต่เป็นคนบริษัท เด๋วบ่ายนี้จะให้เด็กลองออกไปที่จุดน้ำท่วม ดูสิ ว่ามีคนมาแจก EM BAll กันบ้างหรือป่าว จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 11:30:42

ความคิดเห็นที่ 16 ส่วนจุนสี ของคุณ Waterman นี่แถวนี้ สงสัยหายาก อิๆ จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 11:31:41

ความคิดเห็นที่ 17 อาหมอครับเมื่อวานเจอรถกระบะอาหมอช่วงอำเภอขานุ ผมขับคัมรี่สีเทา 9440 ที่หลบให้อาหมอขึ้นไปก่อนอะครับ ขับตามอยู่พักนึงนึกว่าอาหมอจะจอดได้แวะทักครับ จากคุณ : เขียนบน iPad (บาวทรัสเตอร์) เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 11:40:13

ความคิดเห็นที่ 18 รอผลการทดลองครับ  และการทดลองก็ทำได้ไม่ยากจนเกินไป เป็นกำลังใจให้ครับ จะได้ผลเบื้องต้น ว่ามันใช้งานได้หรือไม่ได้ จากคุณ : หัวใจเดินทาง เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 12:02:02

ความคิดเห็นที่ 19 ชี้ 17 เมื่อวานพี่สาว เอาไททั่นผม ไปส่งแม่บ้านพม่า กลับไปเที่ยวบ้านที่แม่สอดครับ  หลังจากจัดการ ทำความสะอาดบ้านในเมือง หลังน้ำลดแล้ว พอดี เค้าทำบัตรอนุญาตไว้เวลาเดินทาง ออกนอกจังหวัด นายจ้างต้องไปด้วย เลยต้องคอยไปรับไปส่ง จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 12:02:35

ความคิดเห็นที่ 20 มันต้องได้ผลสิน่า เห็นเขาทำมาหลายปี ไม่เห็นแสนแสบ ดีขึ้นหรือ เน่าลงเลย จากคุณ : ลาวโพน เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 12:05:46 A:110.77.169.155 X: TicketID:293540

ความคิดเห็นที่ 21 น่าจะขอความอนุเคราะห์เครื่องวัด DO จากสำนักงานสิ่งแวดล้อมได้ เพราะเคยเห็นที่ขอนแก่น จัดค่ายให้เด็กนำไปศึกษาเรื่องคุณภาพน้ำอยู่ เห็นขายกันอยู่เครื่องละสองหมื่นกว่า นี่แหละค่ะ ที่เราถึงอยากให้มหาวิทยาลัยเป็นคนทดลอง เพราะมีเครื่องไม้เครื่องมือพร้อม บุคลากรก็พร้อม ผลลัพธ์ก็มีความน่าเชื่อถือ สามารถเผยแพร่เป็นความรู้ความเข้าใจให้กับชุมชนได้ กลายเป็นประชาชนสงสัยอะไร ต้องมาทดลองเองซะงั้น ขอบ่นอีกทีเถอะ จากคุณ : หมูอ้วน เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 12:08:32 A:61.7.189.55 X: TicketID:330431

ความคิดเห็นที่ 22 คห 20 ข่าวแสนแสบเน่าขึ้น หลังทดลองใช้ EM จากคุณ : JD300 เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 12:09:09

ความคิดเห็นที่ 23 น้ำในคลองแสนแสบใสดีขึ้น ไม่รู้เกี่ยวกับ EM Ball หรือเปล่า จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 12:44:37

ความคิดเห็นที่ 24 อ้า มาส่งข่าวเพิ่ม หลังจากไล่ตามหา โทรเช็คกับเพื่อนๆ และน้องๆที่รับดูแล เรื่องการช่วยเหลือ ประชาชนน้ำท่วมทั้ง ที่สิงห์บุรี และนครสวรรค์ แอบถามคร่าวๆ เค้าบอกว่า ที่ใช้กัน ไม่ได้เห็นผลชัดเจน ว่าได้ผล น้ำที่ท่วม ที่ไหลใหม่ๆ ใส่กับไม่ใส่ ก็ไม่ได้เห็นไรต่างกัน แต่ตอนที่น้ำเริ่มขังเน่าเหม็น  ใส่ลงไป ก็ไม่ได้เห็นผลชัดเจน  ขยังคงเน่าเหม็น ไม่ต่างกัน ต้องสูบทิ้ง ระบายให้แห้ง ก็ยังเหม็นค้างกันอีกเหมือนกัน ต้องรอเวลา ตอนนี้ ที่หลานชาย ที่เป็น ที่ปรึกษา นายก อบจ. เค้ามี EM Ball ที่ได้จากสำนักวิจัยน้ำแจกมาเหลือ ไม่ได้ ใช้อยู่ 5-6 พันลูก และมี EM น้ำ อีกเยอะ   ตกลงได้ ทั้ง EM Ball และ น้ำ เด๋วไปหา ปูนขาว รอไว้อีกอย่าง ค่ำๆ นี้ให้เด็กไปเอามาแล้ว สั่งเค้าเตรียมไว้ 50 ลูก กับ หัวเชื่ออีก 5 ลิตร เด๋วได้แล้ว จะเริ่มลงมือทดสอบกัน จะทดลองโดย ใช้ น้ำเน่าๆ ปล่าวๆทิ้งไว้   น้ำเน่า กำลังให้เด็กไปตักจากแหล่งน้ำขังจากน้ำท่วม  เอาตัวอย่างมาดูด้วยตาและดมแล้ว กลิ่นแรงพอใช้ สีคล้ำพอสมควร  เน่าได้ที่กำลังดี เด๋วกำลังให้เอา รถขนถังไปตักมาเพิ่ม ใช้ปูนขาว สอง ความเข้มข้นเด๋วจะค้น ดูว่าตัวเลขเท่าไร พอเหมาะ (ใครมีตัวเลขในมือ ) แจ้งมาได้เลยครับ) ใช้ EM Ball ความเข้มข้น อ้างอิงจาก ขนาดที่เค้าแนะนำให้ใช้ ต่อพื้นที่ 25 ตรม.ต่อลูก(จริงๆมันต้องเป็นปริมาตรนะ ) แต่ Assume ให้เป็น ลึก หนึ่งเมตร หรือ 25 คิวล่ะกัน แล้ว จะเพิ่มความเข็มข้นต่างๆ กัน ซัก สามสี่ตัวอย่าง และ ใช้น้ำยา EM ที่ไม่ได้ทำบอล  ด้วย อีกซักสองความเข้มข้น แยก ตากแดด กับไม่โดนแดด และ ปิดอีกหนึ่งตัวอย่าง แล้วจะมาแจ้งผลให้ทราบครับ จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 12:49:19

ความคิดเห็นที่ 25 อย่างที่บอกไปแล้ว ว่า การใช้งานในน้ำที่ไหล ได้ผลหรือไม่ อันนั้นก็ว่ากันไป (ผมเองแอบคิดว่า ถ้าน้ำมันไหลมันก็ไม่เน่าอยู่แล้ว ใส่ไปมันก็ลอยไปไหนๆ คุมไม่ได้บอกไม่ได้หรอกว่าได้ผลหรือไม่) แต่ถ้าน้ำเริ่มท่วมขัง ไม่หมุนวน มีของเสียลงไปผสม นั่นแหละ ที่จะเริ่มเน่า และคงต้องการ อะไรที่ช่วยให้มันหายเน่า หรือ อย่างน้อยก็ลดกลิ่นที่ รบกวนเรา อยู่ ส่วน ปริมาณที่ใช้ พอเพียงหรือไม่ เด๋ว ค่อยคำนวนย้อนจากการทดลองเรากันอีกที และเพื่อไม่ให้เกิด Bias การตัดสินกลิ่นจะให้ Blind Test จากคนอื่น ซักสิบคน โดยผมจะคอยบันทึกเท่านั้น จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 12:58:42

ความคิดเห็นที่ 26 คุณหมอคะ ที่เขาแนะนำกันในกรุงเทพ คือ EM ball 1 ลูก ต่อน้ำ 4 ตร.ม. นะคะ ทีนี้จะคิดเป็นปริมาตร เราเดาใจคนแนะนำ เราว่าเขาคิดกันว่าน้ำท่วมในกรุงเทพเฉลี่ยประมาณ 50 เซนติเมตร นี่เอาตาม รศ.เสรี ที่เป็นขวัญใจคนกรุงเทพตอนนี้ จึงคิดว่าเขาน่าจะหมายถึงน้ำ 2 ลูกบาศก์เมตร ถ้าคิดว่าน้ำสูง 1 เมตร ปริมาตรก็เป็น 4 ลูกบาศก์เมตร ไม่ใช่ 25 ลูกบาศก์เมตรแน่นอนค่ะ แต่ส่วน EM น้ำนี่ไม่มีความรู้เลย ให้เป็นข้อมูลไว้ค่ะ เพราะเดี๋ยวก็ต้องมีข้อกังขากันอีกถึงปริมาตรน้ำ ถ้าคุณหมอจะใช้ในอัตราส่วน 1 ลูก/25 คิว จากคุณ : หมูอ้วน เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 13:05:55 A:61.7.189.55 X: TicketID:330431

ความคิดเห็นที่ 27 เยี่ยมมากเลยครับคุณหมอ จะรอฟังผลอย่างใจจดใจจ่อ จะได้มีหลักฐานและเหตุผลไปคุยกับเค้าได้ จากคุณ : ตาแห้ง เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 13:06:11

ความคิดเห็นที่ 28 ขออนุญาต โหวต เป็นกระทู้แนะนำนะครับ จากคุณ : ตาแห้ง เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 13:09:06

ความคิดเห็นที่ 29 คุณ fjk ครับ ขอบคุณที่ช่วยทดลอง อย่าลืมว่าต้องมีคอนโทรลด้วย และถ้าจะวัดผลจากสายตาหรือกลิ่นเท่านั้น ควร double blind ด้วย เช่นคนใส่ EM กับคนดม ต้องเป็นคนละคน และไม่บอกข้อมูลกัน มันเคยมีการทดลองที่ว่า น้ำตาลจะทำให้เด็กสมาธิสั้นไหม แต่มันมีจุดเปลี่ยนนิดหนึ่งก็คือคนทำการทดลองโกหกผู้สังเกต ซึ่งในที่นี้ให้ครูและผู้ปกครองสังเกต ว่าคนไหนกิน หรือไม่กินน้ำตาล ผลปรากฎว่า เด็กกินน้ำตาลหรือไม่ ไม่มีผลไดๆทั้งสิ้น แต่เด็กดันไปบอกผู้สังเกต ว่ากินน้ำตาลไป ผู้สังเกตบอกว่ามันก้าวร้าวขึ้น หรืออีกนัยหนึ่ง ถ้าเอาคนมาเป็นตัวตัดสิน ให้ระวัง factor คนสังเกตการด้วย จากคุณ : tiktaalik เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 13:22:41 A:110.168.129.148 X: TicketID:287399

ความคิดเห็นที่ 30 แนะนำอาหมอว่าเป็นไปได้ตักดิน/โคลนในน้ำเสียมาใส่ในภาชนะด้วยครับ เพราะเป็นจุดกำเนิดหลักของกลิ่น จากคุณ : KL เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 13:32:40

ความคิดเห็นที่ 31 ขอบคุณคุณหมูอ้วน สำหรับข้อมูล ปริมาณการใช้   แต่ถ้าบอก พื้นที่ 4 ตรม.นี่คือ ต้องโยนกัน  ตรกม.(1 ล้านตรม.) ล่ะ 2.5 แสนก้อนเลยนะ เฉพาะในกทม. นี่ต้องใช้ หลายสิบล้านก้อนเลย แต่ไม่เป็นไร ที่คิดไว้คือ จะใช้ ความเข้มข้น สามระดับ อันแรก  ตาม ที่ แนะนำไว้ เอาเป็นหนึ่งก้อน ต่อ 4 ลบ.เมตรก็ได้ ส่วนอันสอง และสามเพิ่มขึ้น 10 และ 100 เท่าตามลำดับ คิดว่าคงครอบคลุมได้ พอเพียงทั้งหมด  เรื่อง Blind Test แน่นอนครับ ผมเป็นคนเตรียม แต่ สำหรับ คนดม และสังเกตุสี อีกสิบคน จะเป็นคนที่ไม่รู้ ว่าอันไหนผสมอะไร ตามที่บอกไว้แล้ว ข้างบน ไม่งั้นก็ไม่เป็นBlind Test สินะ แต่ไม่ต้องกลัวว่า ผมจะบิดเบือนผลการทดลองเพราะว่าไม่มีส่วนได้เสีย ทำแค่อยากรู้ ให้ตัวเอง  และฝากเพื่อนๆน้องๆ ที่สนใจเท่านั้น และเผื่อจะมีใคร ไปทำต่อ เท่านั้นครับ การทดลองนี้ คงเน้น ว่า มันช่วยให้น้ำขัง นิ่งลดกลิ่นลงไปได้มากน้อยแค่ไหนกับปริมาณ ที่แนะนำให้ใช้  เพียงพอหรือไม่  ในการที่จะได้ผล และเมื่อเทียบกับ ชนิดน้ำอันไหนได้ผลดีกว่ากว่ากัน คงไม่เอาไปเทียบกับการขว้างในน้ำไหล ซึ่งคงได้ผลต่างออกไป(ได้ผลน้อยลง) อย่างน้อย ถ้ามันได้ผลในการลดกลิ่นก็จะได้เป็นทางเลือกให้กับชาวบ้านได้เลือก ใช้ ตอนน้ำลดเหลือน้ำขังเน่า จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 13:39:17

ความคิดเห็นที่ 32 มาให้กำลังใจหมอ เจครับ จากคุณ : jackbua (jackbua) เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 14:02:20

ความคิดเห็นที่ 33 #31 ก็อย่างนั้นแหละค่ะ ชาวบ้านเขาก็เอาไปใช้ในบ้านเรือนตนเอง ใครพอจะหาได้ เขาก็ช่วยกัน ประเด็นปริมาณน้ำนี่เราเห็นด้วยกับคุณหมอ ว่ามันมาก ยังไงมันก็ไ่ม่พอหรอก เห็นเราสนับสนุนให้ทดลอง ไม่ได้แปลว่า เราที่เชื่อว่า EM ball มันใช้ได้ผลนะ เราบอกตั้งแต่ความเห็นแรก ๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะตั้งแต่เรายังเรียนอยู่ เกือบยี่สิบปีที่แล้ว ตอน EM มันเข้ามาเมืองไทยใหม่ ๆ คนที่ทำให้เรารู้จัก EM ก็คืออาจารย์มหาวิทยาลัยนี่แหละ พาไปดูการบำบัดน้ำเสียด้วย EM แต่เราคิดว่ามันไม่ได้ผล เราอยากทำวิจัยเรื่องนี้ แต่อาจารย์ที่สอนไม่เห็นด้วย บอกแค่ว่าไม่ได้ผล ไม่ต้องไปทำหรอก เราคิดว่ามันไ่ม่ถูก เพราะมันไม่มีคำตอบที่เป็นหลักฐานทางวิชาการให้กับสังคมเลย แต่จะให้นิสิตตัวเล็ก ๆ อย่างเราไปทะเลาะกับครูอาจารย์ ก็จะพาลเรียนไม่จบกันพอดี จนผ่านมาเกือบยี่สิบปีแล้ว เราไม่คิดจริง ๆ ว่าไม่มีมหาวิทยาลัยสนใจหาคำตอบในเรื่องนี้เลย มันเลยน่าผิดหวังมากสำหรับเรา จากคุณ : หมุอ้วน เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 14:24:40 A:180.183.233.112 X: TicketID:330431

ความคิดเห็นที่ 34 #คห8 ขอเห็นแย้ง #คห8 นะครับ และขอสนับสนุนการทดลองของคุณหมอครับ การทดลองแบบนี้เนี่ยแหละ จะได้เห็นผลกันชัดๆไปเลยว่ามันดีหรือไม่ มีข้อจำกัดอย่างไรบ้าง ถ้าของมันดีจริง คุณไม่ต้องกลัวหรอกครับว่ามันจะไม่ได้ผล ผมเรียนวิทยาศาสตร์มา ผมก็อยากเห็นการทดลองที่เป็นจริงเป็นจัง จะได้รู้ไปเลยว่าเป็นยังไง ไม่ต้องมานั่งเทียนเถียงกันให้เสียเวลาเปล่า จากคุณ : บอร์นคุง เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 16:11:11

ความคิดเห็นที่ 35 โอ้..หมอเจสุดยอดอีกแล้ว ขนาด ศจ.เกียรติคุณจากจุฬา แกยังไม่คิดจะทดลองพิสูจน์ให้เห็นจะจะเลย ทั้งๆที่เป็นนักวิทยาศาสตร์เต็มตัว เห็นในคลิป เอาแต่ด่าอย่างเดียว ฮี่ๆๆๆ จากคุณ : แ ต ง ก ว า * เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 16:14:08

ความคิดเห็นที่ 36 กลับมารอบบ่าย เตรียมน้ำไว้เรีบบร้อยแล้ว รอ EM Ball กับ น้ำ EM ที่กำลังให้เด็กไปเอามา ตอนไปรับส่งพยาบาล คงได้มาตอนค่ำ ตอนนี้ ไปอ่านเจอ รายงานอันนี้ เกี่ยวกับการใช้ปูนขาวบำบัดน้ำเสีย http://kruvijai.files.wordpress.com/2010/11/5-anv-jaturong.pdf ก็น่าสนใจดี ในการทดลองนั้น เค้าพบว่า ปริมาณปูนขาว 0.8 กรัม ต่อน้ำ 500 ซีซี  หรือ  1.6 กรัม ต่อลิตร หรือ 1.6 กก. ต่อน้ำคิวบิกเมตร เป็นปริมาณ ปูนขาวที่เพิ่มค่า BOD ให้น้ำได้ดีสุด แต่เค้าไม่ได้พูดถึง เรื่องกลิ่นเท่าไร ดังนั้นในการทดลองนี้ ปริมาณของปูนขาวที่ใช้ จะใช้ 0.4 กรัม 0.8 กรัม และ 1.2 กรัม ต่อน้ำทดลองที่เราใช้ 500 ซีซี ส่วน EM Ball จะใช้ตามปริมาณ ที่เค้าแนะนำคือ 1 ลูกต่อ 4 ลบ.เมตร หรือ = 1/8000 ก้อน ต่อ น้ำ 500 ซีซี ที่เราจะใช้  และจะเผื่อเพิ่ม 10 เท่า และ 100 เท่า ของที่เค้าแนะนำไว้ด้วย คือ จะใช้ 1/8000 ก้อน 1/800 ก้อน และ 1/80 ก้อน (เด๋วขอชั่งน้ำหนักมันอีกทีก่อน และจะไม่บด แต่จะใส่เป็นก้อนลงไปให้ใกล้เคียงคอนเซ้ปเค้าที่ค่อยให้มันละลายออกมา) ส่วนน้ำยา EM เด๋วจะดู อีกทีว่าเค้าแนะนำให้ใช้เท่าไรบ้าง และจะเผื่อความเข้มข้นเพิ่ม 10 และ 100 เท่าเช่นกัน อันนี้ ขวดน้ำที่รอ เติม เขียน Label ไว้แล้ว น้ำทุกกระป๋อง ในสามเซ็ท เท่ากันหมด 500 ซีซี ชุดที่หนึ่งกระป๋องมีฝาปิด จะปิดไว้เลย อีกสองชุดทำเหมือนกัน แต่อีกชุดจะเอาเข้าเก็บในห้องมอร์เตอร์ไซค์ผมไม่ได้ให้โดนแสง อีกชุดปล่อยไว้กลางแดด ชุดกลางแดด จะเติมปลาหางนงยูง กระป๋องล่ะสามตัว (เตรียมไว้แล้ว) เป็นการทดลอง ขออย่าหาว่าทรมาณสัตว์เลยนะครับ แต่ล่ะชุดจะเติม แบบ สุ่มไม่ให้รู้ว่ากระป๋องไหน มีไรบ้าง (แต่ไม่ให้วุ่นวายนัก จะให้ทั้งสามชุด เป็นเลขเดียวกัน เช่น สมมุติ กระป๋อง 1 ใช้ปูนขาว สัดส่วน 0.4 กรัม  ก็จะเหมือนกันทั้งสามชุด จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 16:19:01

ความคิดเห็นที่ 37 อันนี้ น้ำในถังที่ไปตักเตรียม มา เน่าพอสมควร กลิ่น ซัลไฟด์แรงพอดู ดูสีในถังคล้ำพอสมควร สงสารชาวบ้านที่เค้าต้องอยู่กับน้ำขังแบบนี้เป็นเดือนๆเหมือนกัน จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 16:20:33

ความคิดเห็นที่ 38 แต่เวลาแบ่งใส่ขวด มันดูสีไม่เข้มมากเท่าไรนะ แต่กลิ่นใช้ได้ ตอนบรรจุพยายามค่อยๆบรรจุให้ได้น้ำ กระจายๆ เท่าๆกัน จากที่ตักมา ตัดปัญหาน้ำก้นถัง กับบนถัง มีตะกอนไม่เท่ากันออกไป เด๋วได้ผลไง จะคอยมารายงานต่อเป็นระยะๆ ครับ คิดว่า คงจะสรุป ในราวๆ 3 วันก่อน แล้ว อาจจะทิ้งไว้แล้วดูต่อไปอีกระยะ แต่เชื่อว่าพื้นที่ตื้นๆ แบบนี้กลิ่นของ ซัลไฟด์เองมันก็คงระเหยไปได้ด้วยตัวเองมากในระดับนึง ไว้ อาจจะทดลองแบบ ถังลึกๆใหญ่ดูว่าจะดีขึ้นด้วยมั้ย จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 16:23:07

ความคิดเห็นที่ 39 สู้ๆครับ แวะมารอผล จากคุณ : ซูกัสเหลียง เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 16:37:26

ความคิดเห็นที่ 40 ขอบคุณค่ะ จากคุณ : atiporn เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 17:26:16

ความคิดเห็นที่ 41 ทดลองในระบบปิดแบบนี้ ยังไม่มีใครบอกว่าไม่ได้ผลเลย ตรงกันข้ามมีแต่คนบอกว่าได้ผล จึงไม่เห็นประเด็นจำเป็นต้องทดลอง เพราะถ้าไม่ได้ผลขึ้นมาคงต้องหาสาเหตุต่อ น่าจะทดลองน้ำขังจริงๆที่บ้านด้วย ไหลมาก ไหลน้อย ขังนาน ขังไม่นาน ลดช้า ลดเร็ว ขยะมาก ขยะน้อย เหม็นมาก เหม็นน้อย จากคุณ : จันทร์สุขสดใส เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 17:27:43

ความคิดเห็นที่ 42 โฮ่  หลังน้ำลดงานก็เข้าหมอเจเลย  อิอิ เอ  ผมสงสัยว่ามีเครื่องมือตัวไหนใช้วัดความเหม็นไหมนะ  หรือต้องใช้จมูกมนุษย์เท่านั้น ? จากคุณ : Zew เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 17:29:15

ความคิดเห็นที่ 43 ตอบ 42 เรื่องการวัดกลิ่นปกติ เค้ามีการวัดค่า Sulfide ในน้ำครับ แต่ต้องใช้น้ำยาฟิกซ์ ส่งเข้าแล็บกทม. ผมเองก็ส่วเข้าประจำ แต่ว่า ในเบื้องต้นเอา แค่ว่ามันช่วยให้คนรู้สึกดีขึ้น ในระดับนึง ก็ถือว่าโอเค เลยใช้ คนทดสอบ แบบ Blind Test ประมาณสิบคน แล้วเอามาเปรียบเทียบ ถ้ามันเห็นผลต่างอย่างมีนัยยะสำคัญก็คงช่วยบอกได้ ระดับนึงครับ ไว้รอผลออกมาอีกทีนะครับ ################### ปล.ต้องขอโทษเพื่อนๆด้วย ที่ต้องให้รอผล ที่ยังไม่ได้ข้อสรุป ที่ไม่ได้รอให้ทดลองเสร็จก่อนแล้ว ค่อยมาสรุปให้ฟังทีเดียว ก็เพราะว่าอยากให้พวกเรามีส่วนร่วมเสนอความเห็น จะได้เอามาปรับปรุงการทดลอง ร่วมกัน ตอนนี้ ปลาหางนกยูงทั้ง 5 ตัว ในแต่ละกระป๋อง ทั้งสิบกระป๋อง ยังแข็งแรงดี อิๆ แก้ไขเมื่อ 06 พ.ย. 54 17:56:48 จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 17:36:30

ความคิดเห็นที่ 44 สงสัยอีกคนครับ เป็นเด็กสายวิทย์ เชื่อยากถ้าไม่พิสูจน์ครับ โดนเฉพาะในภาวะที่เชื่อใครไม่ค่อยได้แบบนี้ ขอบคุณคุณหมอ(เห็นเขาเรียกกัน)ด้วยครับ : ) จากคุณ : เทาขาว เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 17:37:05

ความคิดเห็นที่ 45 มารอดูครับ ดีใจที่มีคนลงมือทำเสียที ผมเป็นคนที่เชื่อถือ Learning by Doing เป็นที่สุด จะรอผลนะครับ ขอขอบคุณอีกครั้ง จากคุณ : ReHeat เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 18:31:46

ความคิดเห็นที่ 46 แ ต ง ก ว า ตอนนี้จุฬาฯก็ทดลองอยู่นะครับ คนทำเค้าไม่มาโพสต์บอก=ไม่ทำ ตรรกะแย่มาก จากคุณ : evenpokzo เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 19:48:00

ความคิดเห็นที่ 47 รบกวนคุณหมอใช้ pH paper เช็ค pH ด้วยได้ไหมคะ ไม่ทราบว่าพอจะมี pH paper หรือเปล่า ถ้าไม่มีไม่เป็นไรค่ะ จากคุณ : jinjung เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 20:51:40

ความคิดเห็นที่ 48 ช่าง แ ต ง ก ว า เขาเถอะครับรายนั้นเขาทนไม่ได้ที่มีคนไปทำให้ความเชื่อเขาสั่นคลอน นี่เพราะเป็นคนดังอย่างหมอเจหรอก แกถึงได้พูดหวานๆด้วย จากคุณ : oryze เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 20:59:11

ความคิดเห็นที่ 49 มาเพิ่มข้อมูลว่า ทางภาควิชาจุลชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ กำลังร่วมกับ ปตท. เริ่มทำการทดลองวิจัยเกี่ยวกับ EM จะเน้นพิสูจน์การใช้ EM กับน้ำเสียที่เกิดจากน้ำท่วมในครั้งนี้และจะเน้นที่การใช้งาน ได้ผลคืบหน้าอย่างไร จะมาแชร์ให้ฟังครับ จากคุณ : JD300 เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 21:03:10

ความคิดเห็นที่ 50 เยี่ยมครับ จากคุณ : tunaz เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 21:04:01

ความคิดเห็นที่ 51 อยากให้ใส่แบบเกิดพอดีด้วยครับ เพราะมันมีประเด็นว่า ใส่มากจะเน่ายิ่งขึ้นใส่น้อยจะไม่ได้ผลด้วยครับ จากคุณ : Starfight เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 21:09:12

ความคิดเห็นที่ 52 ปูเสื่อกันเลยทีเดียว ว่าแต่ว่าปลาคราฟบ้านพี่หมอเป็นไงบ้างครับ จากคุณ : Night Claw เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 21:13:18

ความคิดเห็นที่ 53 หมอครับ ฝากคำนวนปริมาณการใช้ด้วยนะครับ 1> น้ำท่วมบ้าน 1 หลัง ใช้ EM Ball กี่ลูก คิดเป็นกี่กรัม ดังนั้น กระป๋องปลามีน้ำกี่ลิตรควรใช้กี่กรัม 2> ถ้าไม่ใช้ Blind test วัดค่าตัวเลขมันมี probe วัด DO ในน้ำนะครับ คนที่เลี้ยงสัตว์น้ำเป็นอาชีพน่าจะมี (โดยเฉพาะพวกบ่อกุ้ง บ่อปลา) ห จากคุณ : เต่าตนุ เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 21:17:58 A:202.91.18.170 X: TicketID:333626

ความคิดเห็นที่ 54 รอฟังผลด้วยคนนะครับ จากคุณ : deepsnows เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 21:22:39

ความคิดเห็นที่ 55 จะมา FU ต่อนะขอรับ จากคุณ : xanyz เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 21:27:57

ความคิดเห็นที่ 56 ตอบเพื่อนๆข้างบนก่อน เรื่องกระดาษ Ph นี่ ที่นี่ไม่มีเลยขอข้ามไป เรื่องการวัด BOD นี่คงต้อง ฝากให้หน่วยงานใหญ่ๆ ที่มีอุปกรณ์พร้อม ช่วยดูให้ ส่วนเรื่อง ใหญ่ที่จะดูตอนนี้ คือสีกับกลิ่น ซึ่งเป็นเรื่องของกายภาพ ที่คนสนใจกันมาก เพราะว่ามีผลต่อชีวิตประจำวัน เลยเน้นดูตรงนี้ว่าการใช้สารต่างๆมีผลแบบเห็นได้ชัดจนรู้สึกแตกต่างไปกว่า ไม่ต้องใส่อะไรมั้ย โดยใช้ Sample เป็นพยาบาล และเจ้าหน้าที่ในรพ.ช่วยพิสูจน์สีและกลิ่น และให้ความเห็นโดย ไม่ให้รู้ว่าอันไหนเติมอะไรไปบ้าง ตอนนี้จัดการเติมสารต่างๆเรียบร้อยหมดแล้ว แต่อยากบอกเป็นข้อมูลเพิ่มใว้ก่อนตอนนี้เลย ก็คือ น้ำที่ตักเอามาจากแหล่งน้ำเสียตอนบ่าย ทิ้งไว้ถึงค่ำ ลองไปดมดูใหม่กลิ่นมันลดไปเองเยอะเลยทีเดียว ทั้งที่ยังไม่ได้ทำอะไรเลย ดังนั้น คงเนื่องจากที่ Sulfide ในน้ำมันระเหยออกไปมาก  แต่เด๋วลองดูกันว่า หลังจากที่ลองเติมสารต่างๆ แล้วมันจะช่วยให้ดีเพิ่มไปมากกว่า ไม่เติมหรือไม่อย่างไร จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 21:33:38

ความคิดเห็นที่ 57 ทำไมคนฝากหมอทำอะไรเยอะจังครับ แค่เห็นแล้วรู้สึกว่าเกรงใจแทน = = จากคุณ : เทาขาว เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 21:36:24

ความคิดเห็นที่ 58 หมอเจครับ   คนดูแลระบบบำบัดน้ำเสีย ของ รพ หมอเจ น่าจะมีทั้ง เครื่องตรวจ DO และกระดาษตรวจ กรดด่าง นะครับ   ปล   ถ้าผ่าน HA นะ จากคุณ : precham เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 21:52:00

ความคิดเห็นที่ 59 เตรียมรูปเสร็จกลับมาต่อกัน EM Ball  และ EM หัวเชื้อ EM น้ำ ที่ผมได้มา เป็นของรัฐบาล ที่แจกให้กับ อบจ.นำมาแจกต่อกับ ประชาชนในเขตน้ำท่วม ในช่วงที่ผ่านมา ตัวก้อน EM Ball ที่ผมได้มาก้อนค่อนข้างเล็ก ไม่ใช่ก้อนเท่าลูกเทนนิส เหมือนที่เค้า ปั้นกันตอนนี้และ แนะนำให้ใช้ 1 ลูกต่อน้ำ 4 ตรม.หรือ 2-4 ลบเมตร น้ำ ลองดูขนาดในมือผม จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 21:56:08

ความคิดเห็นที่ 60 หนึ่งลูกชั่งได้เฉลี่ย ประมา 40 กรัม ดังนั้นเลย Assume ให้ลูกใหญ่ขนาดเทนนิสนั่นเท่ากับประมาณ 120 กรัมล่ะกัน จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 21:57:56

ความคิดเห็นที่ 61 การทดลองคราวนี้ ค่าแรก ใช้ค่าที่เค้าแนะนำ การใช้ EM Ball ลูกขนาดประมาณ 120 กรัมต่อน้ำ 2 ลบ.เมตร ( 4 ตรม. ลึก  0.5 เมตร) หรือ 0.03 กรัม ต่อ 500 ซีซี  เป็นตัวอย่างแรก ดูสิ หั่นออกมาได้ชิ้นกระติ๊ดแค่นี้เอง จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 22:01:44

ความคิดเห็นที่ 62 หมอ J  อันแรก BOD ไม่ใช่ออกซิเจนละลายน้ำ ออกซิเจนละลายน้ำ คือ  DO ครับ ส่วน EM เป็นเชื้อ Facultative เป็นส่วนใหญ่ เรื่อง O2 หมดไปจากน้ำ ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะค่า BOD มันมาก  (BOD บ่งชี้ถึง อินทรีย์สารในน้ำ) ประเด็นคือเราจะเอา อินทรีย์สารออกจากน้ำได้อย่างไร อาจารย์จุฬาเอง ก็พูดผิดไปเยอะ (อาจารย์วิศวะนะ เพราะผมเห็นอาจารย์คณะวิทย์ จุฬาอันนี้เขาพูดได้โอเคกว่า) เพราะต่อให้ ไม่มีออกซิเจน  อินทรีย์สาร ก็ ออกไปจากน้ำได้ด้วยกลุ่มจุลินทรีย์ไร้อากาศ     หมักสารอินทรีย์ให้อยู่ในรูปของ CH4  และ มี Sulfur Reducing Bacteria เปลี่ยน S  ให้อยู่ในรูป  H2S ซึ่งนี้คือกลิ่นน้ำเสีย  และ เห็น ดำๆ ด้วย metal Sulfur.   ดังนั้น ถ้าหมอ จะวัดเฉพาะค่า DO และสรุปว่าน้ำเสีย มันจะเป็นการทดลองที่ผิดพลาดครับ เพราะน้ำเสียต่างหาก ทำให้ DO หมดไป นอกจากนี้  จะมีอากาศ หรือ ไม่มี    จุลินทรีย์ก็ กำจัดสารอินทรีย์ในน้ำได้อยู่ดี จากคุณ : ช้างยิ้ม เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 22:02:30

ความคิดเห็นที่ 63 อีกตัวอย่างเป็น EM Ball ที่เพิ่มปริมาณขึ้นมากกว่าที่แนะนำอีก 10 เท่า เป็น 0.3 กรัม ต่อ น้ำเสีย 500 Ml จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 22:02:55

ความคิดเห็นที่ 64 อันนี้ตัวอย่างที่สาม เพิ่ม EM Ball  เป็น 100 เท่า เป็น 3 กรัม ต่อน้ำ 500 Ml ปล.จะเห็นได้ว่าขนาดของ Ball เมื่อเทียบกับน้ำจริงๆ แล้วมันน้อยมากโดยเฉพาะค่าที่แนะนำ ดังนั้นถ้าใช้แค่ปริมาณที่แนะนำ ผมว่าน่าจะมีผลต่อการเพิ่ม อินทรีย์สารลงไปในน้ำ ที่จะส่งผลเสียให้น้ำเสียเพิ่มขึ้นไม่มากนัก  แต่จะได้ผลหรือไม่ก็ว่ากันอีกที ปล.ไม่ต้องห่วงแผ่นกระดาษ ที่มีน้ำหนักประมาณ 0,8 กรัมนะครับ อันนั้นเวลาปูรอง จะ set Tare ที่เครื่องชั่งให้มันหักค่ากระดาษออกก่อนชั่งต่อ จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 22:06:58

ความคิดเห็นที่ 65 EM  น่าสนใจตรงไหน  สังเกตุว่า EM เวลาเราหมัก เราหมัก ปิดฝา ใช่ไหม แปลว่า เราหมัก ไม่ได้ใช้อากาศ นี้คุณสมบัติ  ของ EM คือ ต่อให้ไม่มีอากาศ มันสามารถย่อยสลายสารอินทรีย์ได้ จุดเด่นคือ ย่อมสารอินทรีย์  แต่ ให้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เกิดกลิ่นต่างหาก นี้คือประเด็นสำคัญของ EM ไม่ได้เกี่ยวกับ  ทำให้  ออกซิเจนในน้ำหมดไปอะไร แบบที่ อ.วิศวะจุฬา พูดเลย มันคนละวัตถุประสงค์กันอย่างชัดเจน ถาม EM กินสารอินทรีย์ได้ไหม ให้เรานึกถึง  ตอนเราหมัก และ เราพบว่าเกิดก๊าซเวลาหมัก ใครเคยหมักจะเห็นชัดว่า ก๊าซเยอะมาก ตรงนี้ EM จะเปลี่ยนน้ำตาล ให้อยู่ในรูป CO2  ในสภาวะมีอากาศน้อย  นั้นคือ สารอินทรีย์  เปลี่ยนเป็น CO2  และ ลอยออกไปจากน้ำ นีั้คือ กลไกการบำบัดน้ำเสีย ครับ ซึ่งเหมือนกันทั้งโลก ถ้าเติมอากาศ  จุลินทรีย์ย่อย  สารอินทรีย์กลายเป็น CO2 ถ้าไม่มีอากาศ (ส้วม) จุลินทรีย์ย่อย สารอินทรีย์  ให้เป็น CH4  และ ลอยออกไป กลไกการบำบัดน้ำเสียทั้งมวล คือ เปลี่ยนสารอินทรีย์ที่ละลายน้ำอยู่ใน อยู่ในรูป ก๊าซ และ ระเหยออกไปจากน้ำ จากคุณ : ช้างยิ้ม เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 22:07:41

ความคิดเห็นที่ 66 ตัวอย่างชุดที่สอง เป็นหัวน้ำเชื้อ EM ที่ทางกระทรวงแจกมา คำแนะนำในการบำบัดน้ำเสีย คือ ใช้ 1:10000 หรือ 20 ซีซี ต่อน้ำ 200 ลิตร หรือ 0.1cc / น้ำเสีย 1 ลิตร ดังนั้นตัวอย่างเรา ใช้ 500 cc จะใช้หัวเชื้อ EM 0.05 ซีซี  แต่มันละเอียดเกินเลย Dilute ก่อน 10 เท่าจาก 1 Dilute เป็น 10 cc แล้วนำมาใช้ กับตัวอย่างละ 0.5 ซีซี จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 22:10:30

ความคิดเห็นที่ 67 หมอเจ นอกจาก จุลินทรีย์  ที่นำมาใช้ ย่อยสารอินทรีย์  EM ยังมี Pupple bacteria สังเกตุว่า ตัวนี้จะสีม่วง  (หมอไปเอาตรงอื่นมาใส่ในน้ำเสียการทดลองมันจะเพี้ยนนะ ถ้าจะใส่ ให้ใส่ตรงที่สีม่วงๆ) แบคทีเรียสีม่วงตัวนี้  ฟังมาจากอ.จุล เขาบอกว่า ในกลไก หนึ่งสามารถ เปลี่ยน S ในรูปสารประกอบ ให้อยู่ในรุป S0 ได้ ซึ่งเป็น ธาตุ และไม่ละลายน้ำ Sulfur Reducing Bacteria อีกกลุ่ม เปลี่ยนให้อยู่ในรูป S0 ไม่เปลี่ยนให้อยู่ในรุป H2S ทำให้น้ำเหม็นลดลง ดังนั้น ถ้าใช้ EM ball เลือกตรงสีม่วงๆ นะ อย่างไปใช้ตรงอื่นแด๋วการทดลองมันเพี้ยน   ขอเตือน จากคุณ : ช้างยิ้ม เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 22:11:38

ความคิดเห็นที่ 68 หัวเชื้อ ระวัง เป็นหัวเชื้อเก่า  ดูจากสีแล้ว  น่าจะเก่า พอควร ให้นึกถึง การเลี้ยงจุลินทรีย์ตอน lab จุลสมัยเด็กๆ ระวังเข้า Dead phase นำมาใช้ไม่ค่อยได้ผล   ควร Activated ก่อน นำมาใช้ ขอรอ ฟังผลการทดลองต่อไป จากคุณ : ช้างยิ้ม เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 22:13:41

ความคิดเห็นที่ 69 ตัวอย่าง อีกสองตัวอย่างใช้ EM ที่เข้มข้นกว่า ที่แนะนำ คือเพิ่มเป็น 1:1000 (ใช้ น้ำยา EM ที่ไม่ได้ เจือจาง  0.5 ซีซี ต่อน้ำเสีย 500 ซีซี และ อีกชุด ใช้ EM ที่เข้มข้น เพิ่มเป็น 1:100 หรือ ใช้น้ำยา 5 ซีซี ต่อน้ำเสีย 500 ซีซี สังเกตุ ปริมาณ 1:100 นี่คงเข้มข้นเกินจนสังเกตุเห็นสีน้ำเปลี่ยนได้เลย  เด๋วรอไปสรุปตอนเลิกกันอีกทีอิๆ จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 22:14:40

ความคิดเห็นที่ 70 หมด ตัวอย่างชุด EM ทั้ง Ball และหัวเชื้อ มาต่อด้วย ปูนขาว ปูนขาว ค่าที่ ทางขอนแก่นใช้ในการทดลองของเค้า ที่ได้ผลดี คือ 0.8 กรัมต่อ น้ำ 500 ซีซี เราเลยใช้ค่านี้ ของเค้าเป็นค่ากลาง จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 22:17:10

ความคิดเห็นที่ 71 อีกตัวอย่าง ใช้เพิ่มขึ้นไปเป็น 1.2 กรัม จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 22:18:05

ความคิดเห็นที่ 72 และอีกตัวอย่าง ใช้ปูนน้อยกว่า ค่าแนะนำ 0.4 กรัม เป็น 0.4 กรัม ต่อ 500 ซีซี จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 22:20:10

ความคิดเห็นที่ 73 สรุป ตอนนี้ ตัวอย่าง 10 ตัวอย่าง สามชุด รวม สามสิบตัวอย่าง เสร็จหมดแล้ว แต่ล่ะชุดประกอบด้วย น้ำเสียตัวอย่างล่ะ 500 ซีซี 1 น้ำเสียปล่าวๆ ไม่เติมอะไร 2 น้ำเสียผสม EM Ball ตามขนาดแนะนำ  1 ลูก (120 กรัม) ต่อน้ำ 4 ตรม.ลึก 0.5 เมตร คำนวนได้ 0.03 กรัม ต่อ 500 ซีซี   3 น้ำเสียผสม EM Ball เพิ่มจากขนาดแนะนำ 10 เท่า หรือ คำนวนได้ 0.3 กรัม ต่อ 500 ซีซี 4 น้ำเสียผสม EM Ball เพิ่มจากขนาดแนะนำ 100 เท่า หรือ คำนวนได้ 3 กรัม ต่อ 500 ซีซี 5 น้ำเสียผสม หัวน้ำเชื้อ EM  ตามขนาดแนะนำ คือ 1:10.000   6 น้ำเสียผสม หัวน้ำเชื้อ EM  มากกว่าขนาดแนะนำ 10 เท่า คือ 1:1.000   7 น้ำเสียผสม หัวน้ำเชื้อ EM  มากกว่าขนาดแนะนำ 100 เท่า คือ 1:1.00 8 น้ำเสียผสมปูนขาว ตามขนาดที่ทาง ขอนแก่นเคยทดลองได้ผลดีสุด คือ 0.8 กรัมต่อ น้ำ 500 ซีซี 9 น้ำเสียผสมปูนขาว น้อยกว่า ขนาดที่ขอนแก่นเคยทดลองได้ผลดีสุด โดยใช้ 0.4 กรัมต่อ น้ำ 500 ซีซี 10 น้ำเสียผสมปูนขาว มากกว่า ขนาดที่ขอนแก่นเคยทดลองได้ผลดีสุด โดยใช้ 1.2  กรัมต่อ น้ำ 500 ซีซี ตัวอย่างชุดที่หนึ่ง ปิดฝา ไม่ให้อากาศภายนอก เข้าไปและ ไม่ให้ก๊าซระเหยออก ตัวอย่างที่สองเปิดฝา ทิ้งไว้กลางแจ้ง ชุดนี้แถมเพิ่มปลาหางนกยูงไว้กระป๋องละห้าตัวดูว่ามันจะรอด กันแค่ไหน แต่ผล นอกจากปริมาณอ๊อกซิเจนแล้ว อาจจะมีตัวแปรอื่นเช่นกากอาหารจาก EM อาจจะช่วยเป็นอาหารให้มันก็ได้ หรือ EM กับปูนขาวที่เข้มเกินอาจจะเริ่งให้มันตายได้ แต่อันนี้แถม อิๆ ตัวอย่างที่สาม เปิดฝา แต่เก็บไว้ในห้องปิดทึบที่แสงน้อย จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 22:30:33

ความคิดเห็นที่ 74 ตัวอย่างชุดสุดท้ายที่เก็บไว้ เอาไปเก็บในห้องมอร์เตอร์ไซค์แล้วปิดทึบไว้แสงจะค่อนข้างน้อยมาก จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 22:31:29

ความคิดเห็นที่ 75 กลับมาตอบคำถาม และคุยกับเพื่อนๆ 49 อจ.เจษฏร์ รบกวน ได้ผลแล้วเอามาฝากเพื่อนๆด้วยนะครับ 51 ปริมาณที่ใช้ ใช้ตามปริมาณที่เค้าแนะนำไว้เป็นหลักอยู่แล้วครับ แต่ และ เพิ่มเผื่อเหนียว ไปด้วยกรณีกลัวว่ามันน้อยไป (แต่ที่แน่ๆ ดูเหมือน EM น้ำ 1:100 นี่มากไปเยอะจนสีเปลียนเลย อิๆ) 52  ปลาคาร์ฟ ไปกับน้ำหมดบ่อครับ ปลาหมอสี ใช้เครื่องให้อาหารอัตโนมัติ ดึงไฟจากชั้นสองมาจ่ายให้มัน แต่เครื่องดันค้างจ่ายอาหารน้อย เข้าไปเช็คหนึ่งสัปดาห์ปลาผอมเลย ต้องปรับให้อาหารเพิ่ม ตอนนี้ อ้วนแล้ว อิๆ น้ำแห้งเก็บบ้านเรียบร้อย รอช่างเฟอร์นิเจอร์เข้าไปเก็บงานกับ ปูหญ้าสนามใหม่ครับ 53 ปริมาณต่างๆ มีไว้ข้างบนแล้ว ครับ ถ้าจะใชักับพื้นที่ไหนปริมาตร น้ำแค่ไหนคำนวนกันได้เลย หรือ บอกพื้นที่ บอกความลึกมาช่วยกันคิดก็ได้ครับ 58 รพ.ผมเป็นรพ.ขนาดเล็ก จดทะเบียนต่ำกว่า 30 เตียง ตามกฏหมาย จริงๆไม่ต้องมีระบบบำบัดน้ำเสีย แต่ว่า ตอนตั้ง ทำไว้ก็เลยดูแลมันต่อ และส่งน้ำตรวจที่ สนง.ดูแลน้ำดินแดง ครับไม่ได้ตรวจเอง เลยไม่มีเครื่อง อิๆ ตอบคุณช้าง ขอบคุณที่ช่วยแก้ให้เรื่องอ๊อกซิเจนที่ละลายในน้ำ แต่อย่างที่บอกไปแล้วข้างบน รอบนี้ไม่เน้นค่า อ๊อกซิเจนในน้ำ หรือ ค่าต่างๆเป็นตัวเลข แต่อยากรู้เหมือนชาวบ้านอยากรู้ว่ามันทำให้กลิ่นน้ำเน่า และสีน้ำเน่า ในน้ำที่ขังอยู่และเหม็นชิกหาย เนีย หายไปได้จริง หรือป่าว และดีแค่ไหน น่ะครับ ส่วนค่าต่างๆขอให้ผู้ที่มีความพร้อมลองดูกันต่อ ส่วนเรื่องน้ำเน่าน้ำเสีย และการทำงานของแบคทีเรียต่างๆผม ว่ากระทู้นี้ เจ้าของกระทู้เขียนได้ดีเข้าใจง่าย คับ http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X11292055/X11292055.html ส่วน ตัว Ball และ น้ำยา EM เป็นของใหม่ที่ทางรมต. เค้านำมาแจกให้กับทางจังหวัดเร็วๆนี้ ครับ แต่ทางจังหวัด เค้าเห็นว่าที่ใช้ๆไปไม่ค่อยเห็นผลอะไรเท่าไร และพอเห็นข่าวทางจุฬา แถลงออกมาก็ เลยไม่ค่อยอยากจะใช้กันต่อ จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 22:50:19

ความคิดเห็นที่ 76 คุณหมอ อย่างลืม "หมักจนขึ้นรา" ด้วยครับ เค้าว่าไม่งั้นไม่ได้ผล จากคุณ : lnW_Ball เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 22:52:06

ความคิดเห็นที่ 77 คุณหมอเจ อย่าลืมให้อาหารปลานะคะ ^^ จากคุณ : mint_la เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 23:00:56

ความคิดเห็นที่ 78 ดีครับ มีคนทดลองเเล้ว ขอบคุณ ทุกท่านมากครับ อย่าน้อย ก็ช่วย ชี้แจง กันไปได้ รอดูผล ^^ จากคุณ : turnontable เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 23:23:09

ความคิดเห็นที่ 79 ขอบคุณคุณหมอมากค่ะ สำหรับความทุ่มเท และเสียสละ เพื่อแบ่งความรู้ให้กับเพื่อนๆในห้องหว้ากอ กดกิ๊ฟไปไม่ได้นับเลย ^^ ขอรอติดตามผลด้วยเช่นกันค่ะ จากคุณ : ดิฉันขำขันมาก,,* เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 23:27:18

ความคิดเห็นที่ 80 เพื่อนๆ เรียกร้อง Ph กันมาหลายท่านเลยจัดเติมไปให้ด้วย ไม่มี PH meter  และ PH Pater ในมือ แต่มี แถบทดสอบ ปัสสาวะที่มี Parameter  PH อยู่ด้วย เลยเอามาทดสอบเพิ่มให้ ก่อนและหลังการทดลอง แต่ขอทำเฉพาะ อันที่เป็นระบบเปิดโดนแสงนะครับ วัดเมื่อซักครู่ (ประมาณสองชม.หลังจากเติมสารต่างๆลงไป 1 น้ำเสียปล่าวๆ ไม่เติมอะไร " PH 7 " 2 น้ำเสียผสม EM Ball ตามขนาดแนะนำ  1 ลูก (120 กรัม) ต่อน้ำ 4 ตรม.ลึก 0.5 เมตร คำนวนได้ 0.03 กรัม ต่อ 500 ซีซี   " PH 8 " 3 น้ำเสียผสม EM Ball เพิ่มจากขนาดแนะนำ 10 เท่า หรือ คำนวนได้ 0.3 กรัม ต่อ 500 ซีซี " PH 7" 4 น้ำเสียผสม EM Ball เพิ่มจากขนาดแนะนำ 100 เท่า หรือ คำนวนได้ 3 กรัม ต่อ 500 ซีซี " PH 7 " 5 น้ำเสียผสม หัวน้ำเชื้อ EM  ตามขนาดแนะนำ คือ 1:10.000   " PH 8 " 6 น้ำเสียผสม หัวน้ำเชื้อ EM  มากกว่าขนาดแนะนำ 10 เท่า คือ 1:1.000   " PH 6 " 7 น้ำเสียผสม หัวน้ำเชื้อ EM  มากกว่าขนาดแนะนำ 100 เท่า คือ 1:1.00 " PH 6 " 8 น้ำเสียผสมปูนขาว ตามขนาดที่ทาง ขอนแก่นเคยทดลองได้ผลดีสุด คือ 0.8 กรัมต่อ น้ำ 500 ซีซี " PH 6.5 " 9 น้ำเสียผสมปูนขาว น้อยกว่า ขนาดที่ขอนแก่นเคยทดลองได้ผลดีสุด โดยใช้ 0.4 กรัมต่อ น้ำ 500 ซีซี " PH 6.5" 10 น้ำเสียผสมปูนขาว มากกว่า ขนาดที่ขอนแก่นเคยทดลองได้ผลดีสุด โดยใช้ 1.2  กรัมต่อ น้ำ 500 ซีซี " PH 7 " จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 23:28:15

ความคิดเห็นที่ 81 เบ้ย   ผมไม่ได้มาขอความรู้นะหมอ มาแค่แนะนำ การทดลองที่หมออาจจะไม่ได้ ควบคุม ปล.ว่าแต่  วัด pH แล้วจะแปลผลยังไง ผมรอฟังผลทดลองต่อละกัน จากคุณ : ช้างยิ้ม เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 23:31:12

ความคิดเห็นที่ 82 แปลกใจกับตัวเลข ค่า PH เหมือนกัน จนหลายตัวต้องจุ่มซ้ำดูใหม่ รออ่านผมตามเวลาหนึ่งนาทีเป๊ะ ก็ยังคงเหมือนเดิมแปลกใจเหมือนกัน น้ำเสียปล่าวๆอยู่ที่ ประมาณ 7 แต่ ตัวที่ผสม EM ทั้งบอล และ น้ำในขนาดที่แนะนำ ความเข้มข้นไม่มากกลับพบว่า มันมีความเป็นด่างเพิ่มขึ้น ค่า PH อยู่ที่ประมาณ 8 ทั้งสองตัว แต่ถ้าใช้ความเข้มข้นสูง กลับพบว่า ความเป็นด่างลดลง กลับค่อนข้างไปทางเป็นกรดด้วยซ้ำ และที่แปลกใจเป็นพิเศษ คือ ปูนขาว ซึ่งละลายน้ำแล้วมันควรได้ Ca(OH)2 ซึ่งน่าจะเป็นด่างเพิ่มขึ้นไม่มากก็น้อยแต่กลับ กลายเป็นว่า PH ลดลงไปเล็กน้อยอีก แอบงง เกิดปฏิกริยาอะไรขึ้นหรือป่าว เด๋วจะลองวัดวันล่ะครั้งก็ได้   แล้วไปสรุปกันตอนจบอีกที จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 23:34:30

ความคิดเห็นที่ 83 1. ขอข้อสรุปด้วยนะคร๊าบ อ่าน แล้ว ไม่ค่อย GET 2. ชื่นชมทุกท่านจากใจจริงๆ ที่มีจิตสาธารณะ + 3. รัฐบาล ก่อนทำ emball ก่อนทำอะไรทำไม ไม่ บอก สื่อมวลชนก่อนทำ  ถ้าไม่ดีจะได้ ปรับปรุง ไม่ใช่ทำ แล้ว มาโดนด่าทีหลัง - - จากคุณ : lazarn เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 23:37:29

ความคิดเห็นที่ 84 ตอบคุณช้าง มิบังอาจให้ความรู้คุณช้าง ครับ ที่แปะลิ้งค์นั้นแค่บอกว่าผมอ่านอันนั้นแล้วผมชอบ ครับ เข้าใจง่ายและดูเป็นเหตุเป็นผลดี คุณช้างเชิญถกกับเพื่อนๆที่กระทู้นั่นได้เลยครับ ส่วนการทดสอบผมเน้นกลิ่น และสีต่างๆ ตามที่บอกไปแล้ว ส่วนวัสดุ ก็เอาที่หลวงเค้าแจกนี่แหละ  มีคุณภาพ หรือไม่ดีอย่างไร  ต้องโทษคนแจก ปล.ก้อน EM Ball ที่ทาง รัฐบาลแจกมาให้ นี่ เนื้อมัน Homogeneus ไม่มีสีฟ้า สีน้ำเงินอะไรแปลกๆ ให้เลือกใช้ครับ สีมันเหมือนๆกันเป็นเนื้อเดียวกันกระจายเกือบหมด ส่วน PH เพื่อนๆเค้าขอ อาจจะอยากทราบว่าเมื่อเติมสารต่างๆเข้าไปแล้ว PH น้ำมันเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร (มีผลต่อแบคทีเรียต่างๆอย่างไร) และเมื่อเกิดปฏิกริยาเปลียนแปลงไปแล้วมันเปลียนแปลงไปอย่างไร แก้ไขเมื่อ 07 พ.ย. 54 00:03:50 จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 23:38:44

ความคิดเห็นที่ 85 รอติดตามผลทดสอบด้วยครับ จากคุณ : ลิงกังศิษย์จ่ามู (juan de Lingkung) เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 54 23:41:47

ความคิดเห็นที่ 86 เยี่ยมครับ คุณ จขกท ก็ถ่อมตัวเกินไปว่าเป็นแบบบ้านๆ ทำการทดลองมาได้ขนาดนี้ ก็ขอเป็นกำลังใจให้ครับ จะคอยดูผล จากคุณ : YanwalyunTh เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 00:14:41

ความคิดเห็นที่ 87 อ้อ ลืมบอกไป ว่า แอบทดลอง แบบถังใหญ่ น้ำ 12 ลิตรไว้สองถัง(พอดีมีถังใหญ่เหลือแค่สองใบ ทำเปรียบเทียบกัน ระหว่าง ปูนขาวตามอัตราส่วนที่เค้าแนะนำ คือ 0.8 กรัม ต่อ 500 ซีซี หรือถังนี้ 12 ลิตร ใช้ ปูนขาว 19.2 กรัม จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 00:45:26

ความคิดเห็นที่ 88 ส่วน EM Ball ใช้ ตามสเกล หนึ่งลูก 120 กรัมต่อน้ำ 2 คิวเหมือนกัน รอบนี้ใช้ 0.72 กรัม จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 00:46:25

ความคิดเห็นที่ 89 จะว่าไป พวกหัวเชื้อ EM แถวบ้านผมนี่ ชาวบ้าน ใช้กันเพื่อทำปุ๋ยอะไรพวกนี้กันเยอะ และบางคนก็เอาไปใช้ราดส้วมตันกัน ก็มี ส่วนการศึกษา เรื่องการบำบัดน้ำเสีย นี่ผมเองก็ไม่เคยลองดูอย่างจริงจังว่าได้ผลจริงหรือไม่ ระบบบำบัดน้ำเสียมาตรฐาน ที่ใช้ ก็คงมีแต่การใช้ ถังบำบัดที่มีถังพักและตกตะกอน แล้ว ใช้ตัว พลาสติคเป็นมีเดียให้แบคทีเรียเกาะอาศัย กับมีตัวอัดอากาศ เข้าไปเติมอ๊อกซิเจนให้กับน้ำเท่านั้น อันนี้หน้าตา หัวเชื้อ EM  กลิ่นหวานๆอมเปรี้ยวผมว่ากลิ่นมันคล้ายน้ำมะขามเปียกใส่น้ำตาล หรือ มะยมเชื่อม จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 00:50:30

ความคิดเห็นที่ 90 ผมว่า criteria ที่จะตัดสินว่าบำบัดน้ำเสียตอนน้ำท่วมได้หรือไม่ ควรเป็น 1 กลิ่น 2 เชื่้อโรค เขาบอกว่า EM ช่วยฆ่าเชื้อโรค(อันนี้คุณหมอทดสอบลำบาก) ถ้า EM ช่วยได้สองเรื่องนี้ก็ถือว่าใช้ได้แล้ว ส่วนเรื่องปลาตาย เพราะลด O2 นั่นไม่จำเป็นกรณีน้ำท่วม เราบำบัดให้คน ไม่ใช่ให้ปลา อ.เจษยังหลงประเด็นอยู่เลย ว่าบำบัดแล้วปลาตาย จากคุณ : Ao+ เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 02:01:03

ความคิดเห็นที่ 91 EM Ball ตามคำแนะนำ เห็นว่าให้ทิ้งไว้ 2-3 วัน จนมีราปุย ๆ ขึ้นมาก่อนใช้นะครับ ไม่แน่ใจว่าถ้าไม่ทิ้งไว้ เอามาใช้เลย ผลจะคลาดเคลื่อนหรือเปล่าครับ จากคุณ : Ph0enix เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 02:38:07

ความคิดเห็นที่ 92 ...มาช่วยคุณหมอเจหายสงสัยเรื่องค่า pH ของน้ำ... ...อธิบายโดยใช้สรีรวิทยาของแบคทีเรียแบบง่าย ๆ นะคะ.. ...เมื่อใส่ EM น้ำ (หมักโดยใส่กากน้ำตาลหรือเปล่า....) หรือ EM ball ลงในน้ำเสีย แน่นอนว่ามีการเจริญของแบคทีเรีย สภาพ pH ย่อมต้องเปลี่ยนแปลงไป...คุณหมอบอกว่าเพิ่งใส่ไปไม่นาน ดังนั้นจึงเป็นการเปลี่ยนแปลงในระยะต้น ...สภาพ pH ของน้ำเสียเปลี่ยนเป็นด่าง แสดงว่ามีการตัด amino group ของกรดอะมิโน เพื่อจะนำไป metabolize ต่อ โดยอาจใช้วิถี fermentation, aerobic respiration หรือ anaerobic respiration ขึ้นกับสภาวะที่คุณหมอจัดให้เป็น (anaerobic respiration ในแบคทีเรียวิถีไม่ต่างจาก aerobic respiration ความต่างอยู่ที่ตัว electron acceptor เป็นสารอื่นที่ไม่ใช่ออกซิเจน ซึ่งถ้าแจ็คพ็อตเป็น  SO4, S2O3 หรือ elemental sulfur ละก็ก๊าซไข่เน่า (H2S) จะตามมา) ...amino group ที่ถูกตัดออกมาจะเปลี่ยนรูปเป็นแอมโมเนีย....ละลายน้ำ....pH เปลี่ยนเป็นด่าง.... ...สภาพ pH ของน้ำเสียเปลี่ยนเป็นสภาพกรด  แสดงว่าเกิด acid fermentation (คุณหมอน่าจะพบในกรณีที่ใช้ EM น้ำซึ่งหมักโดยใส่กากน้ำตาล) จะหมักผ่าน pathway  ซึ่งอาจเป็น  Emden Meyerhof Panas (EMP) ที่คุณหมอคุ้นเคยดี หรือจะเป็น  Heterolactic ก็ได้ .. (ใส่น้ำตาลลงไปขนาดนั้น  ยังไงก็มี Pasteur  Effect  (ปรากฏการณ์ที่น้ำตาลความเข้มข้นสูง (> 6 เปอร์เซ็นต์) กดกระบวนการหายใจ ซึ่งลุงหลุยส์ ปาสเตอร์เป็นผู้พบ)  และผลผลิตที่ได้คือกรดซึ่งละลายน้ำ.....เป็นผลให้ pH ลดลง . จากนี้...อยากให้คุณหมอลองสังเกตุการเปลี่ยนแปลงว่าเป็นแบบนี้หรือไม่.... 1) มีกลิ่น H2S เพิ่มมากขึ้น 2) กลิ่น H2S หายไป   ก่อนอธิบายขอแจ้งก่อนว่า ในสภาพธรรมชาติจุลินทรีย์อยู่ร่วมกันหลากหลายกลุ่ม แต่ละกลุ่มจะมีจำนวนมากหรือน้อย(ในที่นี้รวมถึงอาจล้มหายตายจากไปได้ด้วย) ขึ้นกับสภาพโภชนะในขณะนั้นว่าเป็นทีของใครจะสามารถนำไปใช้ได้ ...กรณีที่ 1 ..เกิดการหมักให้กรด เมื่อหมักน้ำตาลจนหมดและสภาพกรดสูงมาก แบคทีเรียจะหนีไปใช้วิธีอื่นในการเจริญซึ่งการณ์นี้ขึ้นกับ ...คุณหมอจัดให้....ถ้าคุณหมอจัดอากาศให้ ...จะใช้ aerobic respiration..pH ควรจะสูงขึ้นหรือคงตัวนะ ?  และถ้าคุณหมอจัดให้นิ่ง ๆ และในระบบดั๊นมี SO4, S2O3 หรือ S อยู่ และเนื่องจากในน้ำเสียที่คุณหมอทดลองมีพวกแบคทีเรีย sulfate reducer อยู่แล้ว งานนี้คุณหมอเตรียมมาสก์ไว้ปิดจมูกด้วยเวลาตรวจสอบผลการทดลอง เพราะมันจะเน่ายิ่งขึ้น ...กรณีที่ 2... H2S หายไป..ในสภาวะที่คุณหมอจัดไว้แบบนิ่ง ๆ ไม่ให้อากาศ ...อาจเกิดได้เนื่องจากแบคทีเรียกลุ่ม sulfate reducer ถูกกำจัดไปจากระบบ อาจเพราะเจริญแข่งกับ fermentative bacteria ไม่ได้ หรือเพราะพวก lactic acid bacteria ใน EM น้ำ ผลิต lantibiotics ไปพิฆาตเข่นฆ่าพวกมันไปแล้ว ..และถ้าคุณหมอ set ระบบโดยอัดอากาศให้เต็มที่ (จากตัวให้ออกซิเจนตู้ปลาก็ได้ เพราะเห็นจากภาพการทดลองของคุณหมอมีขนาดที่ตัวปั๊มพวกนี้ควงหน้าที่ไหว) และคุณหมอโชคดีในน้ำเสียที่คุณหมอเก็บมามีแบคทีเรียกลุ่ม chemolithotroph พวก sulfur oxidizing bacteria อยู่  เขาจะใช้ H2S, S2O3 และ S เพื่อเป็น electron donor สำหรับสังเคราะห์ ATP และ NADH เพื่อการเจริญของเขา  โดยตัว electron acceptor คือ oxygen (นี่คือเหตุผลที่ต้องให้อากาศ) ..... ในกรณีนี้น้ำจะคล้ำ จะดำ จะขุ่นคลั่ก อย่างไรไม่เป็นปัญหา....เขาจัดการให้แต่อาจใช้เวลานิด หลังจากที่กลิ่นหายไป คุณหมออยากให้น้ำใสก็หยุดให้อากาศ และใส่ chelating agent เพื่อให้มีการจับตัวตกตะกอน น้ำก็จะใสปิ๊ง  และในกรณีนี้  pH จะลดลงไปอีก เพราะผลผลิตที่เกิดจากกระบวนการคือ H2SO4 และเผื่อคุณหมออยากจะทดลองเพิ่ม....อาบแดดให้น้ำเสีย หรือจะส่องไฟจากหลอดทังสเตนก็ได้ค่ะ อย่าลืมหาตัวม่วงของคุณช้างยิ้มใส่ไปด้วยนะคะ พวกนี้คือแบคทีเรียสังเคราะห์แสงสีม่วง (purple sulfur photosynthetic bacteria) ที่เป็นตัวการในการกำจัด  H2S เขาใช้ช่วงแสงในช่วงต่างจากพวกพืช สาหร่าย และ ไซยาโนแบคทีเรีย คือใช้ช่วงคลื่นยาวกว่าเป็นแหล่งพลังงาน โดยสังเคราะห์ ATP และ NADH ผ่าน cyclic photophosphorylation  และในการสร้าง NADH ของเขาจะมีการดึง electron ไปใช้ (เกิด reverse electron flow) จึงต้องมีตัวรีดิวซ์คอยเติม electron ให้ระบบ ซึ่งเจ้าตัวรีดิวซ์นั้นเขาสามารถใช้ H2S, S2O3 และ S ได้  ดังนั้นถ้าเขาใช้ H2S กลิ่นจะหายไป และคุณหมอจะได้น้ำที่เป็นกรดมาแทนที่เพราะผลผลิตคือ H2SO4 (ถ้าจะวัดให้ชัด ๆ ต้องตรวจหา SO4 โดยวิธีทางเคมี เพราะถ้าดูการเปลี่ยนแปลง pH อาจจะเห็นไม่ชัด เพราะสรีรวิทยาในระบบไม่ได้เกิดจากจุลินทรีย์กลุ่มเดียว) ...หวังว่าจะช่วยให้คุณหมอเห็นทิศทางของการเปลี่ยนแปลงในแต่ละถังที่ทดลองได้บ้าง... ...ส่วนเรื่องเอา EM น้ำ และ EM ball (ที่เตรียมอย่างถูกวิธี) ไปใช้จริงนั้น no comment... ..Prof. David Perlman ว่าไว้ว่า “Microorganism can do anything” ..ลุงหลุยส์ ปาสเตอร์ ว่าไว้ว่า “The role of definitely small is definitely large” แก้ไขเมื่อ 07 พ.ย. 54 03:12:53 จากคุณ : ..ค่อยหายงง.. (MissMicrobe) เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 03:09:45

ความคิดเห็นที่ 93 คคห. ๙๐ "ส่วนเรื่องปลาตาย เพราะลด O2 นั่นไม่จำเป็นกรณีน้ำท่วม เราบำบัดให้คน ไม่ใช่ให้ปลา อ.เจษยังหลงประเด็นอยู่เลย ว่าบำบัดแล้วปลาตาย" สงสัยว่าปลาตาย มีผลกับระบบนิเวศน์หรือไม่ ?- - น้ำท่วมแถวบ้าน /me เป็นผืนเดียวกับคลอง, แอ่งน้ำ ... (ปลาตัวใหญ่ ๆ มาว่ายในสวนด้วยฮะ !^^)     . จากคุณ : pF ;) (pinkFloyd.ads) เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 05:21:09

ความคิดเห็นที่ 94 มาติดตามผลด้วยความสนใจ ผมให้ความสำคัญกับการกำจัดกลิ่น น้ำเสียเน่าขังมีกลิ่นเป็นปัญหา เราต้องการกำจัดกลิ่น ถ้า EM มันช่วยได้ ก็ถือว่า ผ่าน แต่ในขณะเดียวกันก็คำนึงถึงสภาพแวดล้อม ดับกลิ่นน้ำเน่าได้  แต่ไม่ควรทำให้ปลาตาย เช่นที่ผมใช้ราดกรงหมา ดับกลิ่นฉี่หมาได้ผล ทดสอบผล่งานแล้ว โดยเพื่อนบ้านรั้วติดกันคนขี้บ่น + จ้องจับผิด ... หายบ่นครับ จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 06:30:31

ความคิดเห็นที่ 95 ขอบคุณ คุณช้างยิ้ม คห. 65 67 มาให้ข้อมูลเรื่องบำบัดน้ำเสีย จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 06:32:38

ความคิดเห็นที่ 96 69 มีผู้ยอมสละชีพด้วย ขอให้ทุกตัวโชคดี... เพื่อการพัฒนาไปอีกขั้นของวิทยาศาสตร์ไทย.... จากคุณ : think4223 เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 07:25:34

ความคิดเห็นที่ 97 คห 90     "อ.เจษยังหลงประเด็นอยู่เลย ว่าบำบัดแล้วปลาตาย" อย่าใส่ความกันครับ ผมไม่เคยพูดอย่างนั้น ชอบจับผิดกันเรื่อย คงมีไอเดียตามมาเพิ่มเติมหลังจากที่คุณหมอเจเริ่มทำการทดลองแล้ว ว่าน่าจะเพิ่มนั่นลดนี้ .... ผมว่าเราน่าจะแค่รอดูผลเฉพๆ ดีกว่า เพราะรบกวนเค้ามากแล้ว ไม่งั้นก็ควรจะลงมือทดลองกันเองมาเทียบกัน เรื่องค่าพีเอชผมเป็นคนเสนอให้คุณหมอวัดด้วย เพราะมีหลายท่านที่ห่วงว่าปูนขาวจะทำให้พีเอชสูงเกินไปเป็นอันตรายต่อคนที่ย่ำน้ำ  .... ลูก EM ball ที่คุณหมอใช้น่าจะเป็นของหลวง ที่ใช้เชื้อ พด.6 ซึ่งคนละสูตรกับของที่ไประดมปั้นกันแล้วต้องรอให้ราขึ้นฟูก่อน ไม่รู้เหมือนกันว่าสูตรนี้เค้าปั้นจากอะไรดูดำมากกว่าน้ำตาล เลยคิดว่าน่าจะเป็นเหตุของพีเอชที่เปลี่ยนไปด้วย ตอนนี้ไปตั้งกระทู้โหวตไว้ช่วยลุ้นผลของคุณหมอเอาสนุกๆ ที่ http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X11298136/X11298136.html มาทายกันล่วงหน้าดีกว่าว่าชุดทดลองไหนจะได้ผลดีที่สุด (เน้นเอาเป็นชุดที่เปิดฝา ทิ้งไว้กลางแจ้ง ละกันครับ จะได้คล้ายๆ กับน้ำท่วมขังจริงๆ หน่อย) ดูผลล่าสุดได้ครับ จากคุณ : JD300 เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 08:04:50

ความคิดเห็นที่ 98 ตอบ 91 Em ball ที่ใช้เป็นอันที่เค้าสำเร็จ แล้วแจกมาให้พร้อมใช้ครับ ขอบคุณคุณ miss microbe สำหรับความรู้เชิงลึก ทำให้เก็บไว้คิดต่อ แต่รอบนี้คงเน้นดูผลงานในการกำจัดกลิ่นของมัน โดยเฉพาะอัน เปิดฝา และตั้งกลางแจ้ง ใช้สัดส่วนตามคำแนนำ และอันน้ำปล่าวเพื่อเทียบสถานะการณ์จำลองน้ำขัง ส่วนอันอื่น เอาไว้เปรียบเทียบเป็นข้อมูลเพิ่ม และดูผลที่แตกต่างออกไป ขอบคุณอจ เจษฐ์  สำหรับข้อมูลด้วยครับ จากคุณ : -=Jfk=- เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 08:42:26

ความคิดเห็นที่ 99 1วันแล้วน่าจะเริ่มเห็นผลแล้วหรือเปล่า น้ำแค่นิดเดียว เห็นหลายเว็บว่า2วันก็เห็นผลชัดเจนนะ จากคุณ : sex เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 09:04:02 A:223.206.135.31 X: TicketID:165031

ความคิดเห็นที่ 100 อีเอ็มมันต้องใช้ออกซิเจนในการย่อยสลายสารอินทรีย์  เวลาลงน้ำมันก็ทำให้ออกซิเจนลดลงเป็นธรรมดา  ถ้ามีปลาในน้ำเมื่อออกซิเจนต่ำจนถึงจุดที่มันทนไม่ไหวมันก็ตาย  ผมว่ามันเป็นเรื่องปกติ   ส่วนเรื่องแบคทีเรียในอีเอ็มบางตัวเป็นแบคทีเรียสังเคราะห์แสงได้ก็จริง  แต่มันนิดเดียวเทียบกับแพลงตอนพืชในน้ำยังไม่ได้เลย  แต่ถ้าน้ำนิ่งเมื่อไรบริเวณน้ำลึก ๆ หน่อยมันไม่โดนแสงแพลงตอนพืชมันก็ใช้ออกซิเจนตามปกติรวมถึงแบคทีเรียย่อยสลายสารอินทรีย์ด้วย  น้ำนิ่งมันถึงได้เน่า ส่วนเรื่องปูนขาวมันเป็นออกซิไดซิ่งเอเจนท์ (แบบเดียวกับคลอรีน ด่างทับทิม) มันลงไปก็ไปออกซิไดซ์สารอินทรีย์  พวกที่ย่อยสลายง่ายก็พวกแกสและสารอินทรีย์พอออกซิไดซ์เรียบร้อยตัวมันก็กลายเป็นแคลเซียมคาร์บอเนตหรือปูนดิบแบบพวกปูนมาลธรรมดาซึ่งไม่ละลายน้ำหรือละลายน้อยมาก ๆ หลังจากนั้นกระบวนการย่อยสลายตามธรรมชาติเหมือนเดิมก็ดำเนินต่อไป  ส่วนปูนขาวของคุณหมอเจที่ใส่น้ำแล้วพีเอชไม่เพิ่มอาจจะมาจากปูนขาวมันเก่าเก็บ  หรือเป็นปูนดิบซึ่งเป็นพวกแคลเซียมคาร์บอเนตไม่ใช่ปูนเผา (แคลเซียมออกไซด์หรือแคลเซียมไฮดรอกไซด์) อีเอ็มย่อยสลายสารอินทรีย์ในน้ำได้ก็จริง  แต่กระบวนการก่อนที่น้ำจะดีขึ้นมันต้องผ่านช่วงเน่า ๆ ก่อนครับ จากคุณ : tingo เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 09:08:24

ความคิดเห็นที่ 101 น้ำปกติ PH ควรอยู่ที่เท่าไหร่ ครับ จากคุณ : vn, man เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 10:16:35

ความคิดเห็นที่ 102 #8 "ในบ่อน้ำสกปก อ๊อกซิเจนน้อย เมื่อราด em ลงไปทำให้ปริมาณอ๊อกซิเจนในน้ำมากขึ้นอย่างเร็ว ทำให้ปลาเกล็ดโดยเฉพาะตะเพียนปรับตัวไม่ทันตาย แต่ปลาหนังไม่เป็นไร ส่วนที่มีฝ้าลอยขึ้นมาเหนือน้ำเพราะ em ได้กำจัดสิ่งสกปกบริเวณหน้าดินลอยขึ้นมา" สงสัยว่าคุณได้วัดปริมาณ oxygen ที่ละลายในน้ำหรือเปล่าหรือว่าสรุปเอาเองครับ เพราะโดยปกติทั่วไปค่า DO จะถูกจำกัดไว้ที่ค่าๆหนึ่งจากอุณหภูมิและระดับความสูงจากผิวน้ำ ดังนั้นต่อให้ oxygen ถูกผลิตออกมามาเกิน มันก็จะไม่ละลายในน้ำอยู่ดีครับ แต่ลอยขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศในรูปของก๊าซ ดั้งนั้นภาวะ oxygen supersaturation แทบจะเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วในระบบเปิด อีกอย่างปลาสามารถทนอยู่ในที่ภาวะ oxygen สูงได้ (ตราบใดที่ pH stress ยังไม่มากเกิน) แล้วก็ฝ้าที่บอกว่าลอยขึ้นมาเหนือน้ำ น่าจะเป็น colony ของเชื้อบางจำพวกมากกว่า หรือพวกตะกอนเบาที่ลอยขึ้นมา เนื่องจากถูกดันจากก๊าซที่เกิดขึ้นจาก EM ในกระบวนการหมัก ซึ่งไม่ได้หมายความว่ามันไปกำจัดสิ่งปฏิกูลที่ผิวหน้าดินแต่อย่างไดครับ จากคุณ : เฉาก๊วยกะบ๊วยเค็ม - -" เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 10:19:24

ความคิดเห็นที่ 103 ผมคิดว่า จุดประสงค์หลักคงเป็นเรื่องกลิ่น แต่ถ้าปลา หรือ สิ่งมีชีวิตขนาดเล็กตายไปด้วย มันไม่ยิ่งเน่าเหรอครับ -_-" จากคุณ : BLiNDiNG เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 10:20:12

ความคิดเห็นที่ 104 ปูเสื่อรอ ดูผลการทดลองคะ จากคุณ : leknoy1 (leknoy1) เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 10:25:47

ความคิดเห็นที่ 106 แก้ไขเมื่อ 07 พ.ย. 54 10:43:36 จากคุณ : tingo เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 10:41:12

ความคิดเห็นที่ 107 ความคิดเห็นที่ 8 ที่บ้านผม ปลาที่เลี้ยงไว้หลายชนิดในบ่อ ถ้าช่วงไหนอากาศปิดน้ำไม่ดี ปลาตะเพียนจะลอยตายก่อนเพื่อนเสมอ เนื่องจากมันมีอีอกซิเจนในน้ำน้อยครับไม่ใช่มากเกิน และมันทนได้ไม่ดีเท่าปลาอื่น จากคุณ : S40 เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 10:51:01

ความคิดเห็นที่ 108 แล้วถ้าโยน EM Ball ลงไป พร้อมกับ เติม Oxygen ลงไปด้วยมันจะช่วยอะไรได้ไหมครับ หรือไม่มีผลอะไรเลย จากคุณ : แข้งบวม เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 11:00:58