ความคิดเห็นที่ 1 อ. จากนิด้าหรือเปล่าครับ ไม่ใช่จุฬา จากคุณ : Mikamura Kaoru เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 18:41:22

ความคิดเห็นที่ 2 คุณนั่นแหละไม่ใช่ จากคุณ : tiktaalik เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 18:42:04 A:115.87.133.59 X: TicketID:287399

ความคิดเห็นที่ 3 เรื่องอื่นผมไม่รู้นะ แต่ที่ผมติดใจคือ ทำไมไปว่า ผู้ร่วมรายการอีกท่านนึงว่า คุณไม่ใช่นักวิทยาศาสตร์เป็นนักทางสังคม ต้องให้นักวิทยาศาสตร์เค้าพูดกัน ผมฟังแล้วเอิ่มมม ติดลบไปเลยครับอาจารย์ท่านนี้ แล้วยังท่าทางของแกตลอดรายการอีก เหอๆ จากคุณ : boydz เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 18:42:58

ความคิดเห็นที่ 4 งง เล่นอะไรกัน จากคุณ : nat1234 เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 18:44:29

ความคิดเห็นที่ 5 #3 ก็เรากำลังคุยกันเรื่องวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่เรื่องความเชื่อนี่ครับ เราคุยกันเรื่องได้ผลหรือไม่ได้ผล ไม่ใช่ว่าใช้แล้วคนไทยรักกันซักหน่อย จากคุณ : Mikamura Kaoru เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 18:44:30

ความคิดเห็นที่ 7 ปลัดเขาก็ออกมาบอกเองนิ น้ำจะดีขึ้นแค่ 2-3 วัน จากนั้นจะกลับมาเน่าเหมือนเดิม... จากคุณ : Wulin เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 18:45:37

ความคิดเห็นที่ 8 #3 อาจารย์ท่านนั้นพูดถูกแล้วครับ ต้องเอาทฤษฏีมาถกกันครับ ไม่ใช่มาใช้ความเชื่อ บีลีฟมีๆๆๆ แบบนี้ไม่ไหวนะ จากคุณ : grampus01 เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 18:46:18

ความคิดเห็นที่ 9 ชอบที่อาจารย์จุฬาพูดทำนองว่า ถ้า EM Ball มันแก้น้ำเสียได้จริง เราก็ไม่ต้องทำโรงบำบัดน้ำเสียให้เปลืองเงินหลายร้อยล้าน โดนใจจัง จากคุณ : ckt เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 18:47:03

ความคิดเห็นที่ 11 จริงๆอ.จากจุฬาแกก็เป็นนักวิทย์ ทำไมอ.ไม่ทดลองดูก่อนที่จะออกสื่อล่ะคะ จะได้มีหลักฐานคือผลการทดลองของแกเองด้วย อ.จากจุฬาไปว่าอ.จากนิด้าว่าคุณไม่ใช่นักวิทย์พูดเชิงสังคม ถ้าอ.จากจุฬาเป็นนักวิทย์จริงก็ควรทดลองเองก่อนเลยค่ะ ตอนนี้เราเองก็อยากรู้จริงๆว่าตกลงมันยังไงกันแน่ จากคุณ : SpanishFlu เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 18:50:05

ความคิดเห็นที่ 12 เรื่องนั้นที่คุยกันเรื่องวิทยาศาสตร์พอจะเข้าใจครับ แต่ว่าแกใช้คำดูแบบว่า เอิ่ม กำลังออกอากาศอยู่เลยนะนั่น อาจจะเป็นบุคลิกห้วนๆของแกก็ได้เนอะ จากคุณ : boydz เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 18:50:35

ความคิดเห็นที่ 14 ผมว่าแกแถมากกว่า อย่างถ้า EM ดีทำไมไม่ใช้กับการทำโรงบำบัดนำ้เสีย แกรู้ได้ไงว่้าเค้าไม่ใช้ จากคุณ : กัดจัง เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 18:55:53

ความคิดเห็นที่ 15 3 ครับ เรื่องวิทยาศาสตร์ ก็ต้อง ปรักษา ด้านวิทยาศาสตร์ สิครับ ทุกวันนี้ สังคมมันเพี้ยน เพราะ วางคนไม่ตรงกับงาน พอแล้วครับ ประเภท พวก ให้ ผู้นำกระทรวงไอซีที ไปดู แลจัดการ น้ำท่วม พอจัดการไม่ได้ ก็บอกว่า อย่างน้อย ก็ลงมือทำ สุดความสามารถแล้ว ผมว่า กรณีนี้ มันมีเยอะจนเกินพอแล้ว นะครับ อ. วิศวจุฬา ที่เขาเป็นข่าวเพราะ เขาออกมาเตือน ถึงการใช้ การสร้างความเชื่อผิดๆ ให้ประชาชน เพราะ ทุกคนที่ผมรู้จักตอนแรก เฮโล ไปปั้น EM ที่ ราชประสงค์เพราะ คิดว่าเป็น ลูกบอลวิเศษ โยนลงน้ำ แล้ว หายเหม็น ใสปิ๊งทันที เชื่อสิ ว่า คนส่วนใหญ่ ที่ เฮโล ไป คิดแบบนี้จริงๆ แล้วพอหลังจาก น้ำลด เจ้า EM นี่แหละ จะเป็น ธุรกิจแนวใหม่ แบบน้ำป้าเชง ที่มีคน ไปบูชา เอามาอาบ เอามาล้าง เอามาเช็ด จนกลายเป็นน้ำวิเศษ มันน่ากลัวนะครับ เพราะ ข้อมูล ที่บอกว่า อ.อิงะ ผู้คิดค้น เนี่ย ที่ ญี่ปุ่น ประเทศแม่ เขาเอง ก็ไม่ยอมรับ แถม ตอน ซึนามิเข้า ญี่ปุ่น ก็ไม่ได้ใช้ EM บอล มันเข้าข่ายตอน เรื่อง GT200 ยังจำกันได้ไหม ว่า สิทธิบัตรจด ดูน่าเชื่อถือ เหมือนคราวนี้เลย ขนาดมาจาก เยอรมัน นะ แต่มีใครใช้บ้าง แงะ ออกมาดูแล้วเป้นไงบ้าง กองกำลังทหาร แห่ง เยอรมันนี ก็ไม่เคยใช้ GT200 ครับ เพราะเครื่องนี่ มันอาศัย ความเชื่อ เข้าชี้นำ เหมือน ลูกบอล EM นี่แหละ ส่วนการทดลอง กำลังทำกันอยู่นี่ครับ กระทู้แนะนำนี่ ไง http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X11295250/X11295250.html จากคุณ : turnontable เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 19:00:48

ความคิดเห็นที่ 16 ผมว่าหลายๆคนต้องกลับไปดูย้อนหลังใหม่ ดูให้ ทุกคำ ทุกเม็ด ทุกดอก จากคุณ : safety first เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 19:03:31

ความคิดเห็นที่ 17 ท่าทางแกมีปมด้อย  คือขอทุนวิจัยแล้วไม่ได้.....อิอิ สรยุทธ์บอกให้โยนที่บ้าน บอกบ้านผมไม่เหม็นข้างบ้านก็เหม็น.....มันจะแถทำไมไม่เข้าใจ จากคุณ : DangDame เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 19:13:58

ความคิดเห็นที่ 18 เหนื่อยใจ ถึงว่าทำไมประเทศไทยถึงล้าหลัง เพราะคนไม่ชอบเรียนวิทยาศาสตร์กัน เอาแต่ perception ของตนเองเป็นใหญ่ เก่งกว่าศาสตราจารย์ทางด้านวิศวกรรมสิ่งแวดล้อมกันทั้งนั้น จากคุณ : บัตรผ่านด้อยสิทธิ์ เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 19:16:59 A:58.181.167.237 X: TicketID:282622

ความคิดเห็นที่ 19 เข้ามาบอกสาวก em ball หรือคนที่ยังไม่เข้าใจคำว่าวิทยาศาสตร์อย่าง #11 ว่าอย่าเข้าใจคำว่าวิทยาศาสตร์ผิด คำว่าวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่ว่าต้องทำการทดลองก่อน มีผลก่อน ถึงจะเอามาพูดได้ แต่มันมาตั้งแต่กระบวนการคิดอย่างมีหลักมีผล เอาผลวิจัย หรือความรู้เดิมที่พิสูจน์แล้วมาใช้ในกระบวนการคิด ก็สามารถคาดการณ์ผลได้คร่าวๆ แล้ว โดยไม่จำเป็นต้องทดลองด้วยซ้ำ ดังนั้น ไอ้ลูก EM ที่มันมีแต่ความเชื่อ  นักวิชาการเค้าก็บอกแล้วว่าจากหลักการทำงานของมัน มันแก้ปัญหาน้ำเสียไม่ได้ มีแต่จะทำให้เน่ามากขึ้น ยังไม่ต้องทดลองก็ออกมาตักเตือนได้ เหมือน GT200 แค่ดูหลักการทำงาน คนที่มีความรู้วิทยาศาสตร์บ้าง ใช้เหตุผลมากกว่าความเชื่อ ก็สรุปได้แล้วโดยไม่ต้องทดลอง ว่ามันหลอก เพียงแต่การทดลองจะสนับสนุนให้แน่นขึ้น ว่าหลอกจริง ให้พวกที่มีแต่ความเชื่อหัดตาสว่างบ้าง ก็เหมือนกับที่นักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญดาหน้ามาบอกว่า EM มันไม่ได้ผล  เค้าออกมาบอกเพราะหลักการของมัน มันผิด แถมจากองค์ประกอบมัน ทำให้คาดได้ว่าระยะยาวยิ่งสร้างปัญหา น้ำจะยิ่งเน่า ดังนั้นอย่ามาแถว่าต้องทดลองให้ได้ผลสรุปก่อนค่อยมาให้ความเห็น ไม่งั้นไม่วิทฯ เพราะแบบนี้มันตรรกะวิบัติ เพราะกว่าจะรอตอนนั้น  ปัญหามันจะยิ่งลุกลาม แถมการทุ่มแรงงานไปทำ em ball ทำให้เสียแรงงานไปทำอย่างอื่นที่มันจะมีประโยชน์มากกว่า จากคุณ : ประกอบ เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 19:21:43

ความคิดเห็นที่ 20 อ.แกต้องเรียนวิชาทางด้านวิทยาศาสตร์ครับ จขกท. ลองดูนะ http://www.google.co.th/search?source=ig&hl=th&rlz=&q=thongchai+panswad&oq=thongchai+pan&aq=0vL&aqi=g-vL1&aql=&gs_sm=e&gs_upl=1619l7250l0l9182l9l9l0l3l3l0l639l2167l2-1.1.1.2l5l0#q=thongchai+panswad&hl=th&prmd=imvns&ei=nM23Tt7tBIztrQet9cD3Aw&start=10&sa=N&bav=on.2,or.r_gc.r_pw.,cf.osb&fp=d349339decf3a02c&biw=1366&bih=637 จากคุณ : บัตรผ่านด้อยสิทธิ (pinestand) เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 19:23:50

ความคิดเห็นที่ 21 ถ้า อจ.แกไม่ทดลอง ก็ต้องถือว่า นั่นเป็นแค่ความเชื่อ เป็นเพียงสมมุติฐาน ยังไม่ถึงขั้นทฤษฎีด้วยซ้ำไป เสียแรงเป็นถึง ศจ.เกียรติคุณ น่าจะมีเครดิต มีความน่าเชื่อถือมากกว่านี้ หรืออย่างน้อย ก็มีเหตุผลหรืออะไรที่น่าเชื่อถือมากกว่าน้ำลาย จากคุณ : แ ต ง ก ว า * เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 19:36:42

ความคิดเห็นที่ 22 ปลัดเขาก็ออกมาบอกเองนิ น้ำจะดีขึ้นแค่ 2-3 วัน จากนั้นจะกลับมาเน่าเหมือนเดิม... จากคุณ : Wulin ***** ถ้าใครดูข่าวช่วง 2-3 วัน ที่ประเด็น em เริ่มเป็นที่ถกเถียง ตอนนี้ ทางรัฐเริ่ม "ชิ่ง" ลอยตัว ไม่รับรู้ผลที่ตามมาว่า "ไม่ได้ผล" เรียบร้อยแล้วนะครับ อย่าบอกนะว่า ดูข่าวแล้วจับประเด็นตรงนี้ไม่ออกนะครับ 666 ใครจะว่าไงไม่รู้ในบ้านผมน้ำไม่มีกลิ่นหลังใช้มา สิบกว่าวันแล้ว ผมเองประหลาดใจมาก เพื่อนบ้านยังขอไปใช้เลย ก็ได้ผล ถ้าเป็นเรื่องที่สเกลใหญ่ๆผมไม่ทราบนะครับ จากคุณ : Motaka ***** คนที่บอกไม่ได้ผล ก็คือ คนที่สอน ด้าน วิศวกรรมสิ่งแวดล้อม ที่สอนเกี่ยวกับ น้ำเสีย อากาศเสีย มลพิษ โดยตรง ถ้าคนที่เรียนระดับนี้ จบ ดร วิศวกรรมสิ่งแวดล้อมที่เมกา มา งั้น ก็ยุบคณะวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม ทั่วโลก ทิ้งไปเลยดีไหมครับ เพราะ สอนกันผิดๆ ทั่วโลก ***** เรื่องวิทยาศาสตร์ เป็นเรื่องที่ สามารถทดลองได้ ทำซ้ำได้ ไม่ใช่เรื่องของ "ความเชื่อ" นะครับ ประเทศนี้ที่ไม่เจริญ ก็เพราะ คนยึดติดกับ "ความเชื่อ" มากกว่า "ความรู้" นี่แหละ จากคุณ : monsungja เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 19:42:39

ความคิดเห็นที่ 23 แตงกวา มามุดอยู่ห้องนี้เอง หุหุ เห็นไปเกรียนอยู่ห้องข่าวพักนึง~~ จากคุณ : Muyan เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 19:51:51

ความคิดเห็นที่ 24 ได้ผล... จากคุณ : meddy hao เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 19:55:11

ความคิดเห็นที่ 25 ได้ผลจริงจริ๊ง... จากคุณ : meddy hao เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 19:58:30

ความคิดเห็นที่ 26 ไม่ทดลองก็ถือว่าเป็นแค่สมมุติฐาน ไม่ใช่ผลสรุป ตั้งสมมุติฐาน ทดลอง สรุปผล นี่คือวิทยาศาสตร์ จากคุณ : สหายสายธาร เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 20:02:58

ความคิดเห็นที่ 27 คนที่สอน ด้าน วิศวกรรมสิ่งแวดล้อม แล้วมันยังไงเหรอ จบ ดร วิศวกรรมสิ่งแวดล้อมที่เมกา แล้วมันยังไงเหรอ เหาะได้ป่าว หายตัวได้ป่าว น่าแปลกที่คนระดับ ศาสตราจารย์ ออกมาโต้แย้งความเชื่อ โดยอาศัยน้ำลายเพียวๆ ไม่จำเป็นต้องทดลอง หรือมีหลักฐานอะไรทั้งนั้น จะเรียกตัวเองว่านักวิทยาศาสตร์ได้มั๊ย ปล. ไม่เกี่ยวกับประเด็นใช้ได้ผลหรือไม่ได้ผลนะ ประเด็นที่สงสัยคือ สิ่งที่แกใช้ในการโต้แย้งนั้น เป็นกระบวนการวิทยาศาสตร์หรือไม่ ศาสตราจารย์ทั่วโลกเขาใช้วิธีการเยี่ยงนี้ในการค้นพบสิ่งต่างๆหรือไม่? น้ำลายสามารถใช้อ้างอิงได้โดยไม่จำเป็นต้องมีหลักฐานอื่นจริงหรือไม่? จากคุณ : แ ต ง ก ว า * เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 20:03:44

ความคิดเห็นที่ 28 วิทยาศาสตร์ว่ากันด้วยหลักเหตุผล การสังเกตครับ คำพูด น้ำลายแกคงไม่ได้มาเปล่าๆหรอกครับ ความรู้ต้องมี เหตุผลต้องมี สืบค้นข้อมูลได้ในระดับหนึ่งแหละครับ ผมไม่เข้าใจว่าคุณแตงกวากำลังจะสื่ออะไร นอกจากแค่คุณจะดิสเครดิตคำพูดของอจ. แล้วถ้าดิสเครดิตได้แล้วมีประโยชน์ต่อประเด็นนี้ยังไง จากคุณ : int.anti เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 20:17:38

ความคิดเห็นที่ 29 เหาะได้ป่าว หายตัวได้ป่าว ---------------- 555+ จากคุณ : Mr.Feynman เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 20:19:42

ความคิดเห็นที่ 30 ดูไม่จบ ฤ ครับ กรมวิทย์ฯ ทดลองแล้วกับบ่อข้างกรม  ได้ผลแล้ว มีเปเปอร์แล้ว เลิกใช้แล้ว อยากรู้ว่าผลที่ได้เป็นยังไงถึงเลิกใช้ ก็ไปขอกรมวิทย์ฯ เอาเอง อย่าบอกนะว่า กรมวิทย์ฯ ก็ไม่น่าเชื่อถืออีกกรม ... จากคุณ : monsungja เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 20:20:24

ความคิดเห็นที่ 31 อาซิ่มถ้าจะตอบดีๆก็ตอบเป็นนี่หว่า จากคุณ : ค้างคาวเฒ่า เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 20:21:51

ความคิดเห็นที่ 32 อีกอย่าง ผมว่าทดลองไปก็เปล่าประโยชน์ครับ ตัวแปรควบคุมในห้องแลปมีไม่กี่ตัว แต่ภายนอกเป็นล้าน เป็นไปได้ว่า บ้านคุณอาจจะใช้ได้ดี แต่ถัดไปสองหลัง ทำให้น้ำเน่ามากขึ้น ก็เป็นไปได้ เพราะน้ำแต่ละที่ไม่เหมือนกัน ยิ่งเป็นเรื่องจุลินทรีย์ยิ่งละเอียดอ่อนครับ มันมีกี่ชนิดกัน แล้วแต่ละตัวมีช่วย ไม่ช่วยเนี่ย บ้านผมเคยทำนากุ้งรู้ดี และเจ็บมาเยอะพอตัวครับ จากคุณ : int.anti เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 20:22:08

ความคิดเห็นที่ 33 ผมได้ดู คลิบวิดีโอ แล้ว ผมว่า ท่าน อาจารย์ อธิบาย เหตุ และ ผลดีมากครับ จากคุณ : ช่างกล พระนครเหนือ เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 20:22:12 A:115.87.13.132 X: TicketID:336979

ความคิดเห็นที่ 34 อ.ธงชัย มีความรู้ มีประสบการณ์มากครับ น่าจะเบอร์ 1 ของประเทศไทยแล้ว ทั้งชีวิตอาจารย์คือวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม .. มากพอที่จะทราบว่า อะไรมันจริง อะไรมันลวงโลก .. โดยที่ไม่ต้องมาทดลองครับ ฟังหลักการ ของ EM ball อ.ท่านก็คงทราบแล้วล่ะ ว่ามันใช้ไม่ได้ .. การจะทดลองอะไร ก่อนอื่นมันก็ต้องมีหลักวิชาการมาซัพพอร์ท แต่เรื่อง EM ball มันไม่มีหลักอะไรเลยที่จะมาบอกว่าบำบำน้ำเน่าในน้ำท่วมได้ แต่ในรายการคุณสรยุทธ อ.ท่านก็มั่นใจ ท้าให้ทดลองดูได้ครับ อ.ก็อยากให้สังคมไทยได้เห็นจะๆ ว่ามันใช้ได้รึเปล่า พี่แตงกวาลองดูนะฮะ ว่าทางการเค้าจะทดลองรึเปล่า แล้วผลการทดลองออกมายังไง .... ผมฟันธงไว้ 2 ผลลัพธ์ 1. ผลออกมาว่า EM ball ใช้ไม่ได้ 2. ไม่กล้าที่จะมีผลการทดลองออกมา จากคุณ : Duckcovery เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 20:23:47

ความคิดเห็นที่ 35 #27 : แ ต ง ก ว า * ^ ^ แล้วน่าแปลกกว่ามั๊ยครับ ที่คนที่ไม่ได้ศึกษาอะไรมาทางนั้นเลย แต่เถียงคอเป็นเอ็นกับดร.ด้านนั้นโดยตรง โดยไม่มีอะไรมากำกับคำพูดตัวเองเลยเหมือนกัน คุณจบอะไรมา สมัยคุณไปเรียนคุณถามอาจารย์ก่อนมั๊ยว่า "จารย์เหาะได้มั๊ย หายตัวได้มั๊ย" ถ้าจารย์เหาะไม่ได้ หายตัวไม่ได้ คุณก็จะไม่ฟังที่เค้าพูดเลยรึไง งั้นผมถามกลับเลย ว่าแล้วตัวคุณเองล่ะมันยังไง คุณเหาะได้ป่าว หายตัวได้ป่าว บางอย่างมันเป็นองค์ความรู้ แค่ใช้สมองคิดก็สามารถเข้าใจได้ เช่น ลาวาร้อนมากถึงขึ้นสามารถเผาผลาญสิ่งต่างๆได้ แล้วถ้ามีใครไม่รู้มาอวดตัวว่า เค้าเอามือจุ่มลาวาร้อนๆได้โดยไม่เป็นอะไร แต่เค้าไม่ยอมจุ่มให้ดู คุณจะต้องทดลองเอามือจุ่มลาวาด้วยตัวเองมั๊ย ถึงจะไปเถียงเค้าได้ว่ามันไม่จริง ถ้าคุณยืนยันว่า ไม่ได้ๆ ยังไงก็ต้องทดลองก่อน แสดงว่าคุณไม่ได้มีความรู้ติดหัวเลยว่าลาวามันร้อนขนาดไหน จึงไม่สามารถฟันธงได้ตั้งแต่แรกว่ามันไม่จริง จากคุณ : meddy hao เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 20:24:23

ความคิดเห็นที่ 36 อาจเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่เก่ง  แต่มารยาททางสังคม คงต้องปรับปรุง !!!! จากคุณ : สามทับหนึ่ง เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 20:24:27

ความคิดเห็นที่ 37 จริงๆแล้วมันก็ต้องเอาผลการทดลองของแกมายืนยันนั่นแหละ หรือแกจะชินกับแลปแห้ง จากคุณ : 4d56t เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 20:25:26 A:65.49.14.85 X: TicketID:123179

ความคิดเห็นที่ 38 #36 อ.ท่านเป็นคนพูดตรงๆ ตามหลักวิชาการ ไม่ประดิดประดอยฮะ  .. อะไรดีก็บอกว่าดี อะไรเฮงซวยอ.ก็ต้องบอกตามนั้น จากคุณ : Duckcovery เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 20:26:35

ความคิดเห็นที่ 39 นอกจากคุณแตงกวาจะพูดดิสเครดิตอาจารย์แล้ว คำพูดของคุณยังดิสเครดิตตัวคุณเองอีกด้วย  จากคุณ : meddy hao เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 20:26:57

ความคิดเห็นที่ 40 มายาคติของ EM Ball จากคุณ : int.anti เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 20:27:53

ความคิดเห็นที่ 41 ต่อครับ จากคุณ : int.anti เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 20:28:25

ความคิดเห็นที่ 42 แตงกวา นี่.... พิสูจน์ทางวิทย์แล้วววว .....มีหน้าที่เกรียนอย่างเดียว จากคุณ : Muyan เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 20:38:28

ความคิดเห็นที่ 43 ไม่ได้ดู แต่ได้ร่วมงานกับอาจารย์วิศวกรรมสิ่งแวดล้อมของจุฬาฯ พอสมควร โดยเฉพาะเมื่อ 2-3 ปีก่อน แก้ไขเมื่อ 07 พ.ย. 54 20:47:28 จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 20:46:38

ความคิดเห็นที่ 44 ประทานโทษ หนูไม่ได้โต้แย้งคำพูดของ อจ.เลย แต่หนูสงสัยกระบวนการการพิสูจน์ความจริง ที่ อจ.ได้แสดงออกมา ในคลิปที่ปรากฏใน youtube ซึ่งไม่มีตรงไหนที่บ่งบอกเลยว่า อจ.ได้ทำการทดลองมาจนแน่ใจ มีหลักฐานที่เชื่อถือได้ มีเปเปอร์ตีพิมพ์ ฯลฯ ทั้งหมดในคลิป มีแต่น้ำลายเพียวๆ อ้างทฤษฎีร้อยแปด อ้างหลักการมากมาย... ซึ่งในความเป็นจริง มันอาจจะจริงอย่างที่ อจ. ว่าก็ได้ แต่..มันมีคำถามว่า สิ่งที่ปรากฏในคลิปนั่นสอดคล้องกับกระบวนการทางวัทยาศาสตร์ ที่ศาสตราจารย์เกียรติคุณ พึงปฏิบัติหรือไม่ แค่นี้แหละ จากคุณ : แ ต ง ก ว า * เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 20:52:21

ความคิดเห็นที่ 45 แตงกวา ครับ คุณก็น้ำลาย ดร.เขาก็น้ำลาย เป็นผม ไปซื้อผัก ผมก็ต้องเชื่อ น้ำลายพ่อค้าขายผัก มากกว่าให้ผมไปเชื่อ น้ำลายพ่อค้า ขายเนื้ออยู่เเล้วครับ แค่ฟังดูก็รู้ ถึงเหตุและผล แล้วครับ ถ้าพ่อค้าเขาขายผักมาจริง ผมไม่จำเป็นต้องเสียเวลา นั่งรถเข้าไปชมถึงสวนผักของเขาเลยด้วยซ้ำ ว่าเขาปลูกผักจริง น่ะ จากคุณ : turnontable เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 20:54:39

ความคิดเห็นที่ 46 +++++++++++++++++++++++++++++++++++++ อย่าเพิ่งเชื่อตามที่ฟังๆ กันมา อย่าเพิ่งเชื่อตามที่ทำต่อๆ กันมา อย่าเพิ่งเชื่อตามคำเล่าลือ อย่าเพิ่งเชื่อโดยอ้างตำรา อย่าเพิ่งเชื่อโดยนึกเดา อย่าเพิ่งเชื่อโดยคาดคะเนเอา อย่าเพิ่งเชื่อโดยนึกคิดตามแนวเหตุผล อย่าเพิ่งเชื่อเพราะถูกกับทฤษฎีของตน อย่าเพิ่งเชื่อเพราะมีรูปลักษณ์ที่ควรเชื่อได้ อย่าเพิ่งเชื่อเพราะผู้พูดเป็นครูบาอาจารย์ของตน****** ++++++++++++++++++++++++++++++++++++ จากคุณ : เราก็ศิษย์มีอาจารย์หนึ่งบ้าง เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 20:55:40

ความคิดเห็นที่ 47 คุณแตงกวา คุณสอบเข้าจุฬาฯไม่ติดแล้วแค้นหรือเปล่า จากคุณ : int.anti เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 20:57:38

ความคิดเห็นที่ 48 เหมือนคุณจะขอทุนงานวิจัยอะไรสักอย่าง แล้วคุณหอบข้อมูลต่างๆมากองหน้าอาจารย์เพื่อพิจารณา  อาจารย์ท่านนั้นเห็นหัวข้อวิจัยแล้วก็หยิบแฟ้มหยิบข้อมูลของคุณโยนทิ้งถังขยะทันที คุณว่าเพราะอะไร ? คุณจะไปเถียงจารย์หรอว่า ผมยังไม่ได้ทดลองนะ นู้นนี่นั่น สุดท้ายโดนไล่ออกจากห้อง จากคุณ : grampus01 เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 21:01:45

ความคิดเห็นที่ 49 ความคิดเห็นที่ 36   อาจเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่เก่ง  แต่มารยาททางสังคม คงต้องปรับปรุง !!!! จากคุณ : สามทับหนึ่ง   ^ ^ เห็นด้วยครับ จากคุณ : ผึ้งน้อยพเนจร เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 21:09:07

ความคิดเห็นที่ 50 ผมว่าเรื่องนี้ไม่ต้องทดลองยังพอคาดคะเนผลจากการใช้ EM BALL ได้เลยครับ ใครที่อยากรู้จริงๆ ลองไปหา text ทางวิศวะสิ่งแวดล้อมก็ได้คร้ับ มาอ่านดู กระบวนการบำบัดน้ำเสียทางชีวภาพ แล้วลองคิดถึงคำตอบเองละกันว่าได้ผลหรือไม่ได้ผลแบบไหน แนะนำ Wastewater treatment and reuse ของ Metcraft & Eddy ครับ จากคุณ : พิราบขาวในห้องแดง เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 21:09:38

ความคิดเห็นที่ 51 สละเวลาดู #40 และตอนต่อ ผมว่าชัดเจนนะครับ ทำไม่ถึงต้องออกมา ออกมาแล้วโดนผู้(ไม่)รู้จิกหัวด่า ในกระทู้นี้ เพราะว่าประเทศไทย มันไม่สนใจเรื่อง "ความรู้" ใช้แต่ "ความรู้สึก" และ "ความเชื่อ" เท่านั้น จากคุณ : .eAT เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 21:12:47

ความคิดเห็นที่ 52 ยังไงซะ  กรณีนี้ ผมว่าใกล้อวสานแล้วครับ  EM   จะมีประโยชน์การใช้ที่ชัดเจนซะที  ดีใจที่สังคมไทยไม่ปล่อยให้เรื่องคลุมเครืออย่างนี้ลอยนวลไป   ต่อไปจะเป็นกรณีของบั้งไฟพญานาคบ้าง    เห็นเตรียมการรออย่างดี ปล   กรณี EM  ผมแทงข้าง อ.จุฬา คร้บ   ผมไม่กั๊กหรอก หงายไพ่ไปเลย จากคุณ : precham เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 21:31:24

ความคิดเห็นที่ 53 มันมีใช้ใน งานศึกษาด้านสิ่งแว้ดล้อมมาช้านานแล้วครับการใช้ จุรินทรีย์ในการบำบัดเนียะ จะทดลอง ต่อจากงานวิจัยที่เขาทำไปแล้วทำไมก็ไม่รุ แต่มันน่าแปลกตรง คนที่จะให้พิสูจน์ว่ามันใช้ได้กลับไม่มีผลการทดลองจริงว่ามันใช้ได้แต่กลับถามหาผลการทดลองว่ามันใช้ไม่ได้แทน เหมือนคนที่ไปท้าว่า จงพิสูจน์ว่าผีไม่มีจริงไหนจับผีมายืนยันสิว่ามันไม่มี จากคุณ : polyodon เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 21:31:49

ความคิดเห็นที่ 54 คลิป จากคุณ : ขี่รถถีบไปจีบเธอ เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 21:36:44

ความคิดเห็นที่ 55 แตกกากครับ รู้สึกช่วงนี้คันหูแล้วไม่มีคนเกาให้หรือครับถึงออก คห ติ่งๆซะเยอะเลย แก้ไขเมื่อ 07 พ.ย. 54 21:56:36 จากคุณ : ธุลีดาว เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 21:41:31

ความคิดเห็นที่ 56 ไม่ได้ดูรายการที่ว่าหรอกนะคะ แต่อ่านจากกระทู้นี้ ติดใจความเห็นที่9 ที่บอกว่า "ชอบที่อาจารย์จุฬาพูดทำนองว่า ถ้า EM Ball มันแก้น้ำเสียได้จริง เราก็ไม่ต้องทำโรงบำบัดน้ำเสียให้เปลืองเงินหลายร้อยล้าน" อันนี้พูดเอามันไปหรือเปล่าคะ คือจุดประสงค์การทำโรงบำบัดน้ำเสีย กับการใส่EM ลงน้ำที่ท่วมขังในบริเวณบ้านมันต่างกันนะ เหมือนจะเข้าใจความต้องการของชาวบ้านผิด ไม่ได้อยากได้น้ำสะอาด(ได้มันก็ดี แต่เข้าใจว่าทุนสูง) แต่ต้องการกลิ่นที่มันเน่าน้อยลงมากกว่า เพราะทนกลิ่นไม่ไหว หายใจลำบาก คิดว่างั้นนะ จากคุณ : บัตรใหม่กิ๊ก เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 21:41:47 A:110.169.69.174 X: TicketID:337358

ความคิดเห็นที่ 57 เรื่องมารยาทางสังคม อะไรผมไม่รู้นะว่า อ.เขาจะดูหยิ่ง จองหอง ผยอง หรืออะไร ก็ตามแต่ แต่ ความรับผิดชอบ ต่อสังคม ผมว่า อ.แกมี สูง เพราะ เป็นผมเองไม่แน่ก็ไม่กล้าออกมาพูด มาขวางลำสังคมแบบนี้หรอก ส่วนตัว ในคลิป ที่ นศ ถ่าย ดูกันเองมากกว่า แต่ใน ทีวี ดูแข็งๆ เพราะ อ.แก เกร็งในการออกทีวีหรือเปล่า อันนี้ผมไม่รู้นะแค่เดาๆ เอา จากคุณ : turnontable เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 21:47:10

ความคิดเห็นที่ 58 เรื่องใช้ได้ไม่ได้ ทดลองดูก็น่าจะรู้แล้ว... แต่เืรื่องมารยาทสังคมเนี่ย... ผมว่าคุณแตงกวาพอฟัดพอเหวี่ยงอยู่นะครับ... จากคุณ : จิบเดียวก็ซึ้งแมน เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 21:49:02

ความคิดเห็นที่ 59 แตงกวาครับ การที่ทำอะไรโดยไม่ดูซ้ายขวาว่าใครเคยทำอะไรมาก่อน อย่างนี้ไม่ฉลาดครับ ทำซ้ำกับคนอื่น เสียเวลาครับ ไม่งั้นในการทำ Thesis เ้ค้าจะมี literature review ทำไมครับ ??? ถ้าคุณฟังในคลิป ที่ อ.คนนั้นแกให้สัมภาษณ์   แกบอกเองเลยว่าไม่มีนักวิัจัยหน้าไหนทดลอง เกี่ยวกับ EM แล้วสรุปทำเป็น paper ออกมา แล้วผลการทดลองน่าเชื่อถือได้เลยซักอันครับ หวังว่าจะเข้าใจ และไม่ใช้ตรรกกะประหลาดๆ แบบนั้นนะครับ copy มาละกัน จากคุณ : pinestand เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 21:49:15

ความคิดเห็นที่ 60 ศ.ดร.ธงชัย ถ้าเป็นวิศวกรสิ่งแวดล้อม คงไม่มีใครไม่รู้จักปรมาจารย์ท่านนี้ ท่านนี้เป็นอาจารย์ที่เป็นอาจารย์จริงๆ เป็นเมธีวิจัยของ สกว ด้วย ในแวดวงสิ่งแวดล้อม เห็นด้วยกับอาจารย์ทั้งนั้นนะครับ แต่กระแสสังคมมันแรงจริง สู้สู้ จากคุณ : ดร. คนหนึ่ง เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 22:00:59 A:180.183.203.158 X: TicketID:335670

ความคิดเห็นที่ 61 เรื่อง EM Ball ตอนนี้ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญของสังคม เพราะกลุ่มนึงบอกว่าใช้แล้วได้ผล อีกกลุ่มนึงบอกใช้ไม่ได้ผล ที่ได้ผลเพราะความเชื่อ ดังนั้นกลุ่มที่บอกว่าใช้ไม่ได้ผล จะต้องพิสูจน์ให้แน่ชัดครับ จะอ้างทฤษฏีไม่ได้ เพราะทฤษฏีไม่สามารถเอาชนะความเชื่อได้ ไม่งั้นก็ไม่ต่างไปจากนักวิทยาศาสตร์โบราณที่ไม่เชื่อว่าโลกกลม จากคุณ : nuzaap เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 22:02:13

ความคิดเห็นที่ 62 ok. ผมกองหนุนคุณแตงกวาเอง    น่างงกะนักวิทย์ในห้องนี้ ซะจริงๆ   มิน่าประเทศถึง... จากคุณ : กัป' เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 22:15:31

ความคิดเห็นที่ 63 ... วุ่นวาย จากคุณ : กัป' เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 22:20:06

ความคิดเห็นที่ 64 เวลาเขาจะอนุมัติให้ใช้ยาได้เขาก็ต้องทดลองแล้วพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์มาก่อน กรณีนี้เหมือนกับที่บอกว่า ยาผีบอก ที่อิฉันลองใช้กับญาติของฉันได้ผลดีมากๆเลยนะฮ้า ถ้าไงทุกคนลองเอาไปใช้ได้เลยนะฮ้า ส่วนคนที่ออกมาค้าน ก็ถูกด่าให้ไปหาหลักฐานการทดลองทางิทยาศาสตร์มาแย้งว่ายาที่ว่าเนี่ยมันใช้ไม่ได้ผล ฮ่วย จากคุณ : mod (Leontief) เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 22:35:16

ความคิดเห็นที่ 65 i think.... engineer know nothin abt bio naaa... ....unless u r bio engineer or chem engineer naaa... แก้ไขเมื่อ 09 พ.ย. 54 02:49:24 จากคุณ : Advil (Advil) เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 22:36:42

ความคิดเห็นที่ 66 ไม่ใส่สายวิทย์โดยตรงหรอกนะครับ เพียงแค่สงสัยว่าคนที่บอกว่าใช้แล้วได้ผลควรจะมีเหตุผลที่เป็นวิทยาศาสตร์หน่อย ไม่ใช่ว่า "เค้าเคยใช้กันมาตั้งนานแล้ว" "คนนั้นคนนี้ใช้แล้วได้ผล" ื แต้ควรจะเป็น "เพราะจุลินทรีย์ A ทำปฎิกริยากับ B ซึ่งเป็นของเสีย ทำให้เกิดสาร C ระเหยไปในอากาศ" อะไรก็ว่าไป แต่ไม่มีคนที่สนับสนุนแนวคิดนี้พูดเป็นเหตุเป็นผลได้สักคน แค่ทำตาม ๆ กันมา ไม่งั้นมันก็ไม่ต่างอะไรกับ "ความเชื่อ" อย่างน้ำหมักป้าเช็ง หรือ gt200 เลย ที่สำคัญควรจะต้องเป็นฝ่ายพิสูจน์ครับ ว่ามันได้ผล ไม่ใช่ไล่ให้คนที่เห็นแย้งไปพิสูจน์ซิิว่ามันไม่ได้ผลยังไง ตรรกะวิบัติพอดี จากคุณ : Meloncrape เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 22:44:25

ความคิดเห็นที่ 67 เอาเป็นว่า อาจารย์  ธงชัย พูดถึง  ออกซิเจน หมดไปจากน้ำ ทำให้น้ำเน่า สิ่งต้องถามอาจารย์คือ  EM  มัน เป็น Facultative ไม่ใช่เหรอ อันนี้ อ.จุฬา ตอบไม่ได้   ไม่จำเป็น ศ. หรือ อะไร  วิชาการคือวิชาการ   ไอเดีย EM คืออะไร ถ้าเราไม่คุยกันทางวิชาการ แต่เราเลือกเชื่อ ศ.จุฬา เพราะมีชื่อเสียง เราเลือกไม่เชื่อ แตงกวา เพราะเธอคือใครก็ไม่รู้ แน่ใจหรือว่า วิศวจุฬา ที่เรียน ด้านจุลินทรีย์มาน้อย  จะรู้ดีกว่า คนที่เราไม่รู้จักว่าใคร สิ่งที่อ.จุฬา พูด มีข้อโต้แย้งทางวิชาการมากมาย เพียงแต่ เราเข้าใจที่เขาโต้แย้งหรือเปล่า ถ้าเราไม่ค่อยเข้าใจเรื่องนี้ ผมว่าค่อยๆ ฟังคนที่เขารู้เรื่องคุยกันแล้วค่อยๆ ตัดสินดีไหม รศ.วิทย์จุฬา ก็พูดถึงเรื่องนี้   มันคนละเรื่อง  กับ  ศ.วิศวะ  ทีเดียว พื้นฐานความรู้มันต่างกัน ถ้าคนสงสัย ว่า ผิดถูกต้องไหน คงต้องตั้งกระทู้ discuss ในรายละเอียด นะผมว่า จากคุณ : ช้างยิ้ม เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 22:47:46

ความคิดเห็นที่ 68 ที่จริง  เขามีการทดลอง และ ใช้ได้ผล มีผลงานตีพิมพ์จำนวนมาก เราเริ่มจากการหาข้อมูลอ่าน หรือ ว่า เริ่มจากการพิมพ์วิจารณ์ ถ้าเราเริ่มจากการพิมพ์วิจารณ์  แล้วก็มาพร่ำบอกว่า  ให้ทดลอง หรือ ให้วิจัย อยากจะบอกว่า เขาวิจัย กันจน ปรุง ไปหมดแล้วล่ะ ถึงมีผลิตภัณฑ์ ออกมาขาย ที่จริง มัน มีเกือบทุกประเทศ แม้แต่ในเมกา ก็มีขาย เอามาขายในไทยด้วย เพียงแต่  คุณไม่รู้   กันเองเฉยๆ นะ จากคุณ : ช้างยิ้ม เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 22:49:44

ความคิดเห็นที่ 69 @65 คิดง่ายไปป่าวคุณ วิศวะ ก็มาจากวิทยาศาสตร์ที่เกิดจากการประยุกต์ ที่เอาวิทยาศาสตร์หลายๆตัว มาประยุกต์ให้เกิดองค์ความรู้ทางด้านนี้ แล้ววิศวะสิ่งแวดล้อม เค้าก็ต้องเรียนเกี่ยวกับกลไก ทางนี้อยู่แล้ว ยิ่งเกี่ยวกับระบบน้ำเสีย จะไม่มีความรู้ทางด้านนี้เลยหรอ !?! จากคุณ : caelum เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 22:52:00

ความคิดเห็นที่ 70 ^ ^ Environmental engineering is the only branch of engineering in which students must study microbiology in order to understand how microbials can treat wastewater. This is their specialty. Of course, they know bio subjects very well !! จากคุณ : dd เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 22:53:35 A:1.46.220.149 X: TicketID:335670

ความคิดเห็นที่ 71 @70 แล้วมันผิดยังไงอะครับ แก้ไขเมื่อ 07 พ.ย. 54 22:58:44 แก้ไขเมื่อ 07 พ.ย. 54 22:57:30 จากคุณ : caelum เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 22:57:05

ความคิดเห็นที่ 72 Chemical engineer ไมไ่ด้เรียน Bio ครับ โดยเฉพาะ microbiology แล้วก็ Biochemistry จากคุณ : pinestand เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 22:59:04

ความคิดเห็นที่ 73 สิ่งที่อาจารย์ออกมาพูดแม้จะเสี่ยงกับกระแสสังคม ที่รุนแรงแต่แกก็ทำ ผมว่านี่แหละ ค่อยสมกับเป็นนักวิชาการที่ให้แสงสว่างกับความมืดบอดทางปัญญาของสังคม จากคุณ : นายเบียร์ เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 23:04:19

ความคิดเห็นที่ 74 ^ ^ ^ เค้าทดลองกับอะไร และนี่นำมาใช้กับอะไร ตัวแปรคนละแบบ ผลิตภัณฑ์ที่ออกมาใช้ได้ผลกับน้ำอะไร ใช้ที่ไหนได้ผล ชนิดจุลินทรีย์ ประเภทน้ำ อุณหภูมิ มันก็แตกต่างกันแล้วครับ เราอยู่เมืองไทย องค์ความรู้จะต้องพึ่งคนไทยที่มีการศึกษาอยุ่ครับ เกี่ยวไรกับเมกา อันนี้ไม่เข้าใจ ถ้าเมกาใช้อะไรอยู่แสดงว่าสิ่งนั้นดี เยี่ยม ใช่หรือไหม แล้วที่เค้าวิจัย ผมคิดว่านะ (คิดเอง) การทดสิบน่าจะทำในสภาวะน้ำนิ่ง ที่เรารู้ตัวแปรเรื่องชนิดของสิ่งเจือปนทำให้เราสามารถทดลองหาตัวย่อยมาใช้อย่างได้ผล ส่วนน้ำท่วมนี่ทั้งปริมาณน้ำ สารพัดสารอินทรีย์ อุณหภูมิ เวลา บลาๆ ไม่น่าจะเอามาใช้กันได้ แม้ผมจะเชื่ออาจารย์ที่ฟังจากทฤษฎีแล้วใช่ แต่ยังไงก็รอผลการทดลองแล้วกัน เดลหาว่าเราไม่ใช่นักวิทญาศาสตร์อีก คริๆๆ จากคุณ : นักเทคนิคการแพทย์น้อย (wan_medtech) เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 23:06:51

ความคิดเห็นที่ 75 69  วิศวะ ก็ วิศวะ ครับ วิทยาศาสตร์ หลายๆ ตัวมันคนละเรื่อง ประเทศเราผิดเองแหละที่คิดว่า ว่า วิศวะคือพระเจ้า ประเทศอื่นไม่ใช่อย่างนั้นซะหน่อย หึหึหึ จากคุณ : ช้างยิ้ม เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 23:07:23

ความคิดเห็นที่ 76 คนเรียน วิศวกรรมศาสตร์ เข้าใจ Bio Very well เลยหรือ คนเรียน ตัวเดียวปนๆ กันหลายอย่าง กับ คนเรียน หลายตัว เน้นเฉพาะไปทางจุลินทรีย์ จะมีความรู้เท่ากัน พระเจ้า มีคนคิดแบบนี้อยู่อีกในโลกหรือเนียะ คิดพอๆ กับ  เอาคันสูง 2 เมตร กันน้ำ เอาอยู่เลย 5555 จากคุณ : ช้างยิ้ม เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 23:09:43

ความคิดเห็นที่ 78 จริงๆ EM ball ที่ทำอย่างถูกหลักมันก็มี แต่ที่มันเกร่อๆ ที่ อ เขากล่าวถึงคือ สูตรที่ผสมกากน้ำตาลและอาหารแบคทีเรียอื่นๆ จำนวนมากลงไปใน ball ซึ่งเหมาะกับการหมัก ไม่ได้เหมาะกับการบำบัดน้ำเสีย ซึ่งดูก็รู้แล้วว่ามันไม่ได้ผล เหมือนเห็นส่วนประกอบ GT200 ก็รู้แล้วว่ามันใช้ไม่ได้ มันผิดตั้งแต่ต้นแล้ว การทดลองก่อนจึงไม่จำเป็นเพราะมันไม่คลุมเครือ มันชัดเจน จากคุณ : GreenEyes เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 23:15:00

ความคิดเห็นที่ 79 ที่จริง อ.ธง พูดไม่ผิด ในระดับหนึ่ง และ พูดผิดในระดับหนึ่ง EM ball ปั้น แล้วใช้เลย เป็นการเพิ่มอินทรีย์สารในน้ำ  อันนี้ถูกต้อ แต่ EM ball ที่เขาหมักจะ จนได้จุลินทรีย์ที่ต้องการเยอะ และ สารอินทรีย์เหลือน้อย (หมัก 15-20 วัน)  อันนี้มันมีสารอินทรีย์ที่ ส่งลงไปในน้ำเพียงเล็กน้อย อันนี้ ที่ อ.ธง  ไม่ได้ พูดถึง  แต่ พูดแค่ อันแรก ทำให้ ผิดหลักการหมักจุลินทรีย์เพื่อใช้ประโยชน์ อย่างแรง คุณจะเอา EM ball หรือ EM น้ำ มาใช้สิ่งที่สำคัญ หมักให้ สารอินทรีย์เหลือน้อย และ มี จุลินทรีย์ที่เราต้องการจำนวนมาก  เพื่อปรับสภาพน้ำ อันนี้เป็นสิ่งที่อ.ธง ไม่พูดถึง และ ดูเหมือนจากที่พูดดูไม่ค่อยเข้าใจเรื่องกลไกของการสร้างจุลินทรีย์เท่าไร ถ้าคนอยู่ในงานด้านนี้ ต้องรู้จัก AS   คือระบบบำบัดน้ำเสีย ระบบบำบัดน้ำเสีย เราทำอย่างไร เราเลี้ยงจุลินทีย์จำนวนมากในบ่อ  เพื่อให้มากินสารอินทรีย์  โดยกินเสร็จ ได้ ผลิตภัณฑ์ออกมาหลายอย่าง ตัวที่มุ่งเน้น มี  ก๊าซ คาร์บอนไดออกไซค์ที่ระเหย ออกไปจากน้ำ และ ตัวเซลจุลินทรีย์ที่   แยกออกมากับตะกอน การบำบัดสารอินทรีย์ไม่ใช่อากาศได้ไหม  มันก็ได้ อยู่แล้ว เพราะมีจุลินทรีย์ไม่ใช่อากาศ  อันนี้แหละที่ทำให้เหม็น ดังนั้นจะไปพูดว่า ออกซิเจน มันจะหมดไปจากน้ำ  ก็ต้องถามอาจารย์ว่า ออกซิเจนในน้ำ ตอนยังไม่มี EM มันยังเหลืออยู่อีกเหรอ??????????? มันไม่เหลือแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้วนะครับ เอา  อาจารย์นิด้า ไปสู้ เลยดูจะพลาดไปหน่อย ถ้าเอาอาจารย์ ไมโครไปพูด   อาจจะได้ผล  ตรงกันข้าม หึหึหึหึ จากคุณ : ช้างยิ้ม เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 23:15:50

ความคิดเห็นที่ 80 วิศวกรรมสิ่งแวดล้อม มีเรียน Biology 2 ตัวค่ะ วิชานึง เรียน ให้รู้จัก จุลชีพทั้งหลายแหล่ที่มีในน้ำ ส่องกล้อง ทำแลบเพาะเชื้อในจาน อีกวิชา เรียน เกี่ยวกับการควบคุมจุลินทรีย์ในน้ำ ทำแลบ pilot ระบบำบัดน้ำเสีย เหมือนเดินระบบจริง นอกจากนี้วิชาบำบัดน้ำเสียที่เราเรียน 1 ต้องรู้วิชากลศาสตร์ ปั๊ม มอเตอร์ สำหรับ Physical Treatment 2 รู้ Chemistry โดยเฉพาะเคมีวิทยาในน้ำ สำหรับ 3 รู้ Ecological ในแหล่งน้ำแบบต่างๆ น้ำดี น้ำเสีย เพื่ออกแบบระบบบำบัดน้ำเสียชีวภาพได้ถูกต้อง ซึ่งก็ต้องเรียนทั้งระบบเติมอากาศ ไร้อากาศ เรียน วัฏจักรธาตุด้วยค่ะ เพื่อให้เข้าใจ pathway ของการบำบัดน้ำเสียค่ะ 4 Hydrology, Hydraulic Engineering เรื่อง ฝนตก เรื่องเขื่อน เรื่องการผันน้ำ เราก็เรียน ค่ะ เล่าให้ฟังนะคะ จะได้รู้จัก วิศวกรรมสิ่งแวดล้อมมากขึ้นค่ะ จากคุณ : ซินดรี้ (sinilicious) เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 23:16:04

ความคิดเห็นที่ 81 Green eye ถ้าไม่เข้าใจ เรื่องจุลินทรีย์แนะนำว่า อย่างออกความเห็น เขาหมักเอาจุลินทรีย์ไปใช้ นะจ๊ะ ดังนั้นสิ่งที่ต้องการคือตัวจุลินทรีย์ และ จุลินทรีย์ มันตัวใช้ในการจัดการสารอินทรีย์ใน้น้ำนะจ๊ะ ไม่ว่า จะ EM หรือ จุลินทรีย์ในส้วม จุลินทรีย์ในธรรมชาติ ทั้งหมดนี้คือกลไกการจัดการสารอินทรีย์ในน้ำทั้งสิ้น แต่เขาคัด EM มา เพราะว่า มันกินสารอินทรีย์แล้ว  ไม่ให้ H2S ต่างหาก อันนี้ไม่เกี่ยวกับ GT200 ถ้าไม่มีความรู้จุลินทรีย์ ผมแนะนำให้ฟัง คนที่เขารู้ ตอบโต้กันนะ หึหึหึ จากคุณ : ช้างยิ้ม เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 23:18:11

ความคิดเห็นที่ 82 จะเชื่อฝั่งใหนก็ไม่มีปัญหา   แต่จะยืนยันว่าตัวถูกคนอื่นผิดโดยไม่ทดลองพิสูจน์มันก็คงไม่เวิร์ค เพราะมันก็ต่างคนต่างเชื่อพอๆกัน        ว่าไป น่าจะมีคำแนะนำอื่นเพิ่มเติม ว่าควรทำยังไง ถึงจะดี      จะได้ช่วยกันคิด ในเวลาที่รีบเร่งแบบยังงี้ด้วย จากคุณ : กัป' เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 23:18:27

ความคิดเห็นที่ 83 คุณช้างยิ้มเห็นตามสนับสนุน EM เรื่อยๆ ผมว่ามันอาจจะดีแง่อื่น แต่ไม่ใช่กรณีนะครับ อ.ธงชัย ค่อนข้างตอบชัดเจนมากแล้ว นอกจากนี้ อาจารย์ก็บอกไปแล้วว่าตัวเองก็เคยทดลอง แต่ไม่ได้ผล ของถ้ามันได้ผลจริงันก็น่าจะดีตลอด หรือแนวโน้มบวกเหมือนกัน ถ้าผลมัน random เหตุครั้งนี้ไม่ต่างกับ GT200 เลยครับ ทางออกและวิธีง่ายๆตอนนี้ก็ปูนขาวไงครับทั้งอ.เจษ และอ.ธงชัย แนะตรงกัน ไม่มั่วชัวร์ ปล.วศ. สิ่งแวดล้อม เรียนและทำงานกับเรื่องน้ำจริงๆ ไม่ใช่แค่เรียนเฉยๆนะครับ เป็นconsult วิเคราะห์น้ำเสียโรงงานต่างๆ เพื่อให้ผ่านเกณฑ์ตามกฎหมายคุณภาพน้ำทิ้ง คือ อยากบอกว่าอาจารย์ท่านไม่ได้มั่วหรือดักทางใครเพราะสิ่งที่พูดมา ก็มาจากการทำงานจริง แก้ไขเมื่อ 07 พ.ย. 54 23:20:52 จากคุณ : evenpokzo เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 23:18:49

ความคิดเห็นที่ 84 ซินดี้  เข้าใจ Path way ของ  purple bacteria ไหมล่ะจ๊ะ ว่า purple bacteria เขามี กลไกในการจัดการ S อย่างไร ซินดี้ เข้าใจ จุลินทรีย์กลุ่มอื่นๆ ไหมล่ะ ว่าเขาใช้จัดการสารอินทรีย์แล้วได้ pathway อะไร ที่มันไม่เกิด H2S ซินดี้คิดว่า ตัวไหน ทำให้เกิด H2S หรือ metal sulfur ล่ะ   เรื่องนี้ ผมเชื่อว่า วิศว ไม่ได้เรียน เพราะเรียน  ในส่วนเชื้อที่ใช้ในการบำบัดน้ำเสียในกับระบบบำบัดน้ำเสีย เท่านั้น จริงม่ะจ๊ะ ดังนั้น กลไก การใช้ EM ไม่ใช่เป็นกลไก การจัดการสารอินทรีย์ ที่ใช้ในระบบบำบัดน้ำเสีย ไม่มีใครเอา EM ไปใส่ในระบบบำบัดน้ำเสียแน่นอน เพราะไอเดียมันคนละตัวกันนะครับ โปรดพิจารณาครับ จากคุณ : ช้างยิ้ม เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 23:22:20

ความคิดเห็นที่ 85 คุณ Even ผมยังยืนยันว่า อ.ธงชัย ตอบไม่ชัดเจน อย่างน้อย ในแง่ เชื้อ แบบ Facultative ครับ ผมเห็นว่าไม่ถูกผมขอโต้แย้ง เพียงแต่ตอนนี้ผมเห็นว่าสังคมเรากำลังจะเน้นไปตามความเชื่อมากเกินไป การเชื่อ GT200 ก็ผิด การเชื่อว่า EM ใช้ได้ หรือ ใช้ไม่ได้ โดยไม่พูดถึงหลักวิทยาศาสตร์คุยกันแต่เชื่อในตัวบุคคล ผมว่า มันจะไม่ต่างกันนะ โปรดพิจารณาครับ จากคุณ : ช้างยิ้ม เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 23:24:24

ความคิดเห็นที่ 86 คุณช้างยิ้ม ที่คุณว่า "อาเป็นว่า อาจารย์ ธงชัย พูดถึง ออกซิเจน หมดไปจากน้ำ ทำให้น้ำเน่า สิ่งต้องถามอาจารย์คือ EM มัน เป็น Facultative ไม่ใช่เหรอ อันนี้ อ.จุฬา ตอบไม่ได้ " ผมก็ตอบไม่ได้ ไม่เข้าใจว่าคุณเข้าใจอะไรบ้างไหม EM เป็น facultative ไม่ใช่หรือ ผมก็ไม่แน่ใจเพราะไม่เคยไปตรวจ แล้วก็ไม่รู้ว่าคนทำมันโกหกหรือเปล่า แต่ถ้ามันเป็น Facultative มันจะไม่ทำให้น้ำเน่าได้ยังไง ? มีหลักการอะไร บอกว่า พวก FAcultative anaerope ไม่ทำให้น้ำเน่า คุณมั่วมาก และมีความรู้น้อยเกินกว่าจะเอาศัพท์วิชาการมาพูด ไม่ต้องอ้างว่าเราเชื่อ อ. เพราะเป็น ศ. ไม่เชื่อแตงกวา เพราะมันเป็นใครไม่รู้ ผมไม่เชื่อแตงกวา เพราะเหตุผลของเธอไม่มีความรู้พอที่จะตั้งข้อสังเกตด้วยซ้ำ เหมือนกับคุณนั่นแหละ จากคุณ : tiktaalik เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 23:24:31 A:115.87.133.59 X: TicketID:287399

ความคิดเห็นที่ 87 เรียน คุณ even    การใช้ ปูนขาว ที่จริงมีคำถามอาจารย์ที่น่าเชื่อถือทั้งสองว่า แก้ไข ถาวรได้อย่างไร??? 1. ปูนขาว   จะไปจับกับ S  กลายเป็น ยิปซัม CaSO4  ทำให้ กลิ่นลดลงในทันทีอันนี้ผมเห็นด้วย ปรับ pH ให้สูงขึ้น  แล้ว จุลินรีย์กลุ่ม Sulfur ruducing bacteria ไม่ทำงาน แต่ สิ่งที่ต้องตอบต่อ อันนี้  มันถาวรจริงหรือ สารอินทรีย์ที่อยู่ในน้ำล่ะ  ??????? ไปไหน  มัน ก็ยังอยู่ในน้ำ จุลินทรีย์ แบบไร้อากาศย่อย  เมื่อย่อย จะมี acidogenic bacteria ก็จะทำให้สารเปลี่ยนวไปอยู่รูปกรด และ pH ก็จะ drop อยู่ดี เมื่อ pH Drop   จุลินทรีย์  ผลิตก๊าซไข่เน่าก็ทำงานอยู่ดี ตกลง  ปูนขาว จัดการ   น้ำเสีย ได้ตลอดไปจริงหรือ ผมขอใช้ วรรณะกรรม ของอาจารย์ ธง เอง ที่กล่าว EM ว่า ถ้า EM มันใช้ได้จริง  ก็ไม่ต้องมีระบบบำบัดน้ำเสีย ถ้า ปูนขาว มันใช้ ได้จริง  ก็ไม่ต้องมีระบบำบัดน้ำเสียเช่นกันนะครับ จริงม่ะ จากคุณ : ช้างยิ้ม เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 23:29:27

ความคิดเห็นที่ 88 tiktaa   มั่วไม่มั่ว ไม่รู้ใครมั่ว มั่ว ล่ะ ถ้าใครเคยหมัก EM  ในน้ำตาล   จะพบว่า มันมีฟอง และ มันไม่เหม็น แต่ ถ้า ใครเอาน้ำตาลมาทิ้งไว้ ในน้ำ เช่น เรือน้ำตาลล่ม โดยให้จุลินทรีย์ธรรมชาติมาจัดการในสภาวะไม่มี  ออกซิเจน น้ำมันจะเหม็นไหม   ถ้าได้ดูทีวีบ้างก็จะรู้ว่ามันเหม็น อันหนึ่งหมักในขวด โดย EM ไม่เหม็น   อันหนึ่งหมักโดยใช้จุลินทรีย์ธรรมชาติ และเหม็น อันนี้พูดให้ฟัง สำหรับ คนไม่เข้าใจรายละเอียด  ผมคิดว่า เรื่องง่ายๆ แค่นี้พูดถ้านึกตามน่าจะเข้าใจนะครับ ที่จริงอยากจะบอกคุณ tik ว่า ไม่ต้องไปตรวจหรอก ไปอ่านดู  เขามีรายละเอียดเยอะจนไม่ต้องไปตรวจใหม่นะจ๊ะว่าใน EM มันมีเชื้ออะไรบ้างนะจ๊ะ แก้ไขเมื่อ 07 พ.ย. 54 23:33:38 จากคุณ : ช้างยิ้ม เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 23:32:34

ความคิดเห็นที่ 89 อันนี้อีก "ที่จริง อ.ธง พูดไม่ผิด ในระดับหนึ่ง และ พูดผิดในระดับหนึ่ง EM ball ปั้น แล้วใช้เลย เป็นการเพิ่มอินทรีย์สารในน้ำ อันนี้ถูกต้อ แต่ EM ball ที่เขาหมักจะ จนได้จุลินทรีย์ที่ต้องการเยอะ และ สารอินทรีย์เหลือน้อย (หมัก 15-20 วัน) อันนี้มันมีสารอินทรีย์ที่ ส่งลงไปในน้ำเพียงเล็กน้อย อันนี้ ที่ อ.ธง ไม่ได้ พูดถึง แต่ พูดแค่ อันแรก ทำให้ ผิดหลักการหมักจุลินทรีย์เพื่อใช้ประโยชน์" คือว่า ตัวจุลินทรีย์ มันไม่ใช่สารอินทรีย์หรือครับ วิธีที่จะให้น้ำมันเน่าน้อยลง C มันต้องออกไปจากน้ำ จะออกไปในรูป co2 หรือ ch4 ก็แล้วแต่ เชื่อ EM มันเทพมากขนาดเจริญเติบโตจนเต็มที่แล้วก็หายไปจากจักรวาลเฉยๆหรือไง จากคุณ : tiktaalik เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 23:33:12 A:115.87.133.59 X: TicketID:287399

ความคิดเห็นที่ 90 มั่วไม่มั่ว ไม่รู้ใครมั่ว มั่ว ล่ะ ถ้าใครเคยหมัก EM ในน้ำตาล จะพบว่า มันมีฟอง และ มันไม่เหม็น แต่ ถ้า ใครเอาน้ำตาลมาทิ้งไว้ ในน้ำ เช่น เรือน้ำตาลล่ม โดยให้จุลินทรีย์ธรรมชาติมาจัดการในสภาวะไม่มี ออกซิเจน น้ำมันจะเหม็นไหม ถ้าได้ดูทีวีบ้างก็จะรู้ว่ามันเหม็น อันหนึ่งหมักในขวด โดย EM ไม่เหม็น อันหนึ่งหมักโดยใช้จุลินทรีย์ธรรมชาติ และเหม็น คือถ้าเอาน้ำตาล ไม่ต้องใส่เชื้ออีเอ็ม แต่หมักในขวด มันก็ไม่เหม็นเหมือนกันนั่นแหละ คุณนั่นแหละที่มั่ว ที่มันเหม็นเพราะในแม่น้ำมันมี S เอาน้ำตาลมาหมักในขวดมันจะเอา S จากไหนมาเหม็น มั่วแล้วอย่าไปทำให้คนไม่รู้เขาเข้าใจผิด จากคุณ : tiktaalik เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 23:36:54 A:115.87.133.59 X: TicketID:287399

ความคิดเห็นที่ 91 คุณ 77 ผมเอง คงไม่มีส่วนได้ส่วนเสีย กับ EM ไม่ใช่คนขายนะ แต่ถ้าในความเห็น ใช้ EM น้ำ ดีกว่า EM ball เพราะมันจะให้เชื้อเยอะกว่า มีโอกาสได้ผล มากกว่า แต่ ผลจะใช้ได้ไม่ได้  มันขึ้นอยู่กับใช้เหมาะสมกับสภาวะ และ ใช้เป็นไหม ถ้าหมัก EM ball สองวันและไปใช้ อันนี้ใช้ไม่ได้แน่ๆ  ผมก็เห็นด้วยครับ จากคุณ : ช้างยิ้ม เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 23:37:08

ความคิดเห็นที่ 92 ถามความเห็นคุณช้างยิ้มนะครับ น่าจะเป็นจุดที่ผมว่าชาวบ้านอยากรู้มากที่สุด EM Ball ที่ทำๆโยนๆกันอยู่ในขณะนี้จะแก้ปัญหาจากน้ำเน่าได้ผลหรือไม่ ก. ได้ผล ข. ไม่ได้ผล เป็นข้อสอบแบบกากบาท เลือกกาได้ข้อเดียว คุณช้างยิ้มกาข้อไหนครับ (ต้องกาเท่านั้น จะกาสองข้อไม่ได้ จะไม่กาเลยก็ไม่ได้ และคนตรวจข้อสอบไม่ต้องการคำอธิบายเพิ่ม) จากคุณ : meddy hao เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 23:37:46

ความคิดเห็นที่ 93 S มันมี ทั่วไปนะหนู Tik ในกากน้ำตาลเอง ก็ มี S นะจ๊ะ ทำความเข้าใจ แล้ว ว่ากากน้ำตาลมี S ช่วย แก้ตัวใหม่ ยังไม่เข้าเป้าครับ 555 จากคุณ : ช้างยิ้ม เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 23:38:43

ความคิดเห็นที่ 94 ผมว่าไม่เกี่ยวกับว่า เรียนอะไรกันมา เรียนมาแค่ไหน เพราะพวกนี้มันอยู่กับตรรกะพื้นฐานทั้งนั้น ถ้าเราเข้าใจหลักการที่แท้จริงของเรื่องราว ไม่ต้องเรียนทางลึกก็พอเดินไปตามทางที่ถูกต้องได้แล้ว ถ้าไม่พยายามเบี่ยงประเด็นให้มันลึกลับซับซ้อนเกินไป หลักของ EM คือเอาจุลินทรีย์ไปทำลายอินทรีย์สารที่อยู่ในน้ำ ที่เป็นตัวการทำให้น้ำเน่าเสีย ดังนั้นถ้ามีจุลินทรีย์ถูกชนิด (เหมือนใช้ยาถูกโรค) และมีปริมาณเหมาะสม คิอกินของไม่ดีหมด ตัวมันเองก็ตายไปหมดเหมือนกัน มันก็ไม่มีอะไรตกค้าง แต่ประเด็นก็คือ ตัวการที่ทำให้น้ำเน่านั้นมีได้หลายร้อยชนิด ยาที่จะใช้ได้ถูกโรค ก็ต้องเป็นยาครอบจักรวาล แน่นอนยาพวกนี้ ต้องมีสารตกค้างเยอะ เหมือนกับมียาเม็ดนึง ผสมทุกอย่างตั้งแต่ยาแก้ปวด ยาแก้อักเสบ ลดกรด ฯลฯ เป็นอะไรก็กินยาตัวนี้ ก็หายหมด แต่ผลตกค้างที่มีต่อร่างกายมันก็คงมหาศาล การทำ EM ที่ได้ผลจริง ๆ ก็คงต้องจุลินทรีย์หลายชนิด ย่อยสลายอินทรีย์สารหลัก ๆ หลายตัว มันถึงจะได้ผลจริง แต่ปัญหาก็คือ จุลินทรีย์พวกนี้มีอยู่ที่ไหนบ้างแน่ องค์ความรู้พวกนี้แน่นอนขนาดไหน ระยะเวลาในการทำ สภาพแวดล้อมในตอนทำ เพราะบางทีจุลินทรีย์ที่ต้องการมันอาจจะตายตั้งแต่ตอนทำ เลยไม่เหลือจุลินทรีย์นั้น ๆ ไปใช้งาน มันก็เลยไม่ได้ผลก็เป็นไปได้ หรือบางทีทำแล้วได้จุลินทรีย์อีกอย่างนึง ทำงานคล้ายกัน แต่ให้ผลอีกรูปแบบ เป็นผลเสียจากที่ต้องการ มันก็คือไม่ได้ผล ถ้าพยายามใช้ตรรกะคิดตามไปเรื่อย ๆ ก็น่าจะคิดได้ว่า โอกาสที่เป็นยาครอบจักรวาลมันเป็นไปได้น้อย เพราะตอนนี้ที่ดำรงอยู่เป็นเพราะความเชื่อ พอโดนการกระทบจากคนที่ไม่เชื่อ ก็เลยทนทานไม่ค่อยได้ เพราะไม่ได้อยู่บนหลักความเป็นจริง ว่าเป็นการใช้งานได้จริง ตอนนี้เหตุผลหลักที่ได้ยินมา ก็จะเป็นไปทางว่าใช้แล้วได้ผล ไม่ใช่เหตุผลที่ว่า ได้ผลเพราะว่าอะไร เพราะถามคนทำ ก็ตอบไม่ได้อย่างแท้จริงว่า จุลินทรีย์ชนิดนั้น ๆ ได้มาจากไหน แล้วที่ทำอยู่มีจุลินทรีย์นั้น ๆ จริงมั้ย แต่ที่แน่ ๆ ตอนนี้น่าจะยอมรับกันได้ระดับนึงว่า ถึงแม้คำว่าได้ผล ยอมรับระดับที่ว่า น้ำหายเหม็น ใสขึ้น แต่มันจะดำรงอยู่แค่ไม่กี่วัน ถ้าขังเป็นเดือน ๆ ใส่ทุกสามวันห้าวัน ก็ยังไม่มีอะไรเป็นหลักประกันว่ามันไม่ดื้อยา แล้วสารตกค้างที่สะสม จะมีอันตรายมากขนาดไหน ตอนน้ำลดหมดแล้ว จากคุณ : Lpg_Horse เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 23:41:06

ความคิดเห็นที่ 95 แถไปกากน้ำตาลแล้วหรอครับ เอากากน้ำตาลก็ได้ เอามาหมักในขวดมันก็ไม่เหม็น จากคุณ : tiktaalik เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 23:41:30 A:115.87.133.59 X: TicketID:287399

ความคิดเห็นที่ 96 ตอนแรกบอกเรือน้ำตาลร่ม ตอนหลังกลายเป็นกากน้ำตาล จากคุณ : tiktaalik เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 23:42:06 A:115.87.133.59 X: TicketID:287399

ความคิดเห็นที่ 97 ความคิดเห็นที่ 94 หลักของ EM คือเอาจุลินทรีย์ไปทำลายอินทรีย์สารที่อยู่ในน้ำ ที่เป็นตัวการทำให้น้ำเน่าเสีย ดังนั้นถ้ามีจุลินทรีย์ถูกชนิด (เหมือนใช้ยาถูกโรค) และมีปริมาณเหมาะสม คิอกินของไม่ดีหมด ตัวมันเองก็ตายไปหมดเหมือนกัน มันก็ไม่มีอะไรตกค้าง ตัวมันเองตายไปแล้ว มันก็เป็นสารอินทรีย์นะครับ ไม่ใช่มันตายไปแล้วดับสูญ ไม่เหลืออะไรเลย จากคุณ : tiktaalik เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 23:44:16 A:115.87.133.59 X: TicketID:287399

ความคิดเห็นที่ 98 คุณ Meddy heo เล่นแบบนี้ผมหนักใจแย่ซิครับ ผมตั้ง บ้าง ว่า ปูนขาว แก้น้ำเสียได้ไหม ให้เลือกแบบตัวเลือก ก ได้ ข. ไม่ได้ ผมว่าตั้งแบบนี้ อ.ธง มายัง กาก ไม่ได้เลยครับ 5555 เชื่อไหม คำตอบมันไม่ใช่ เรื่องว่า ใช้ได้ หรือ ไม่ได้ แต่สิ่งที่เราควรคุย คือ ใช้อย่างไรให้ มีโอกาสใช้ได้มากที่สุดมากกว่า ผมว่ามันจะเป็นประโยชน์ต่อ การนำไปใช้งานมากกว่าครับ   ไม่มีอะไร ใช้ได้ ทุกอย่าง และ ไม่มีอะไร ใช้ไม่ได้ซักอย่างทั้งนั้นแหละ สำหรับผมเอง ถ้าให้เลือก EM ball กับ EM น้ำ เลือก EM น้ำ ถ้าเลือก EM ball เพราะมันปั้นง่ายขนส่งง่าย   แนะนำว่า 1. หมักจนราขึ้น และ หมักต่อไปอีกซักห้าวัน(รวมๆ แล้ว น่าจะสิบกว่าวัน) 2. EM ที่เอามาปั้น ถ้าให้ดี  หมักแบบน้ำให้เจริญดีก่อน แล้วค่อยเอาไปปั้น ดีกว่าซื้อมาแล้วใช้เลย เพราะตรงนั้น จุลินทรีย์อ่อนแอมาก ต้องรอ lag phase นาน และยิ่ง โดยกากน้ำตาลเข้มๆ มีโอกาสเกิด เซลเหี่ยวสูง 3. การเอาไปโยน พื้นที่ น้ำนิ่ง ไม่ลึกมาก ดีกว่า ลึกมาก ใต้พื้นจะกลายเป็น anaerobic phase ไม่เหมาะกับชนิดจุลินทรีย์เท่าไร น้ำ ไม่เกิน 1.5 น่าจะโอเคกว่า 4. พื้นที่โดนแสง ดีกว่า ไม่โดนแสง 5. ถ้าพื้นที่น้ำยังไม่เน่า น่าจะใช้ได้ผลดีกว่า พื้นที่น้ำเน่าแล้ว ผมเสนอ สภาวะที่น่าจะพอใช้ได้ดีที่สุดแล้วกัน อย่างให้ถึงกับ ใช้ได้ใช้ไม่ได้เลย เพราะปูนขาว ถ้าจะถกกันจริงๆ ก็ใช้ไม่ได้เหมือนกัแหละ จากคุณ : ช้างยิ้ม เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 23:45:00

ความคิดเห็นที่ 99 ใครจะเชื่อช้างน้อย ก็คิดหน่อยแล้วกัน จากคุณ : tiktaalik เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 23:45:29 A:115.87.133.59 X: TicketID:287399

ความคิดเห็นที่ 100 ขอโทษนะครับ คุณจำผิดตรงไหนหรือเปล่าจากลิงค์นี้ http://www.youtube.com/watch?v=I9MKHTZ0lrU&feature=watch_response ตรงนี้เขาคุยกันเรื่องกำจัดพวกจุลินทรีย์ที่เหลือจาก em ball ทางอาจารย์นิดา ก็พูดว่า "ในน้ำนั้นอาจจะมีสัตว์เลี้ยง หรือให้มันแปรสภาพไปเป็นพวกโปรโตซัว ฯ ตรงนี้ก็อาจจะช่วยได้" แล้วอาจารย์จุฬาก็พูดว่า "จารย์ นี่เป็นวิทยาศาสตร์นะ" อ.นิดา "คะ" อ.จุฬา "อาจาย์มาทางสังคมแล้วครับ ผมคิดว่าเรื่องนี้นักวิทยาศาสตร์ต้องพูด อีกอย่างพวกโปรโตซัวพวกไปกินอะไรเนี้ย ผมว่า เดี๋ยวพวกนักวิทยาศาสตร์เขาจะว่าอาจารย์กำลังจะทำให้คนหลงผิด" อ.นิดา ก็พยายามเอาประสบการณ์ที่เคยทดลองมาพูด ตัดไปอีกจุดสำคัญ http://www.youtube.com/watch?v=D58jDnlSMRo&feature=watch_response ปลัดกระทรวงทรัพย์ฯ "ใช้ไป กลิ่นจะหายไป 2-3 วันก็กลับมาอีก ใช้บรรเทาเฉพาะหน้า" ฉีกหน้าอ.นิด้า ที่ได้พูดมาทั้งหมด ว่า em ball แก้ไขน้ำเน่าได้จริง จากคุณ : Wulin เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 23:46:53

ความคิดเห็นที่ 101 คุณ ช้างยิ้มอาจจะเข้าใจเจตนาที่ซินดรี้พยายามจะชี้แจงให้คนรู้จักวิศวกรรมสิ่งแวดล้อมมากขึ้นผิดไป จึงตอกกลับมาด้วยอคติที่จะเอาชนะ นะคะ แต่ว่า ซินดรี้ให้อภัยได้ค่ะ เป็นเรื่องอารมณ์จะเอาชนะคะคานธรรมดาน่ะค่ะ ซินดรี้จะตอบให้นะคะ ถ้าไม่ตอบ ก็ดูจะไร้ความภาคภูมิใจในวิชาชีพอ่ะค่ะ "ซินดี้  เข้าใจ Path way ของ  purple bacteria ไหมล่ะจ๊ะ" >>> สิ่งที่ต้องรู้คือว่า pathway ของ มลภาวะแต่ละตัว จะเอาออกจากน้ำเสียยังไงค่ะ seed ก้ไปซื้อเข้ามา แต่จะ maintain ระบบยังไง ให้ seed สามารถ remove contaminant ได้ นั่นคือสิ่งที่เราเชียวชาญค่ะ "ว่า purple bacteria เขามี กลไกในการจัดการ S อย่างไร" >>> เคยเรียนค่ะและคุ้นๆค่ะ และลืมไปแล้วค่ะ เพราะไม่ได้นำมาใช้งานจริง แต่สิ่งเราที่ต้องเข้าคือว่า จะเอา S- ออกจากน้ำได้อย่างไรมากกว่าค่ะ seed หาซื้อได้ค่ะ "ซินดี้ เข้าใจ จุลินทรีย์กลุ่มอื่นๆ ไหมล่ะ ว่าเขาใช้จัดการสารอินทรีย์แล้วได้ pathway อะไร ที่มันไม่เกิด H2S" >>>  จุลินทรีย์ เรียนเพื่อให้รู้จัก และเราก็รู้จักว่า จุลินทรีย์ในสิ่งแวดล้อมคือสิ่งที่คุมยากค่ะ แต่สภาพแวดล้อมของจุลินทรีย์ที่มันอยู่อาศัยได้คือสิ่งที่เราคุมได้ และวิศวกรสิ่งแวดล้อมเชียวชาญเรื่องนี้ค่ะ ซินดี้คิดว่า ตัวไหน ทำให้เกิด H2S หรือ metal sulfur ล่ะ   >>> คิดม่ได้อ้ะค่ะ เพราะไม่ได้เรยน microbiology ค่ะ แต่อยากจะเสริมนะคะว่า สิ่งที่ทำให้เกิด H2S ไม่ได้มาจากจุลินทรีย์เท่านั้นอ้ะค่ะ อยู่ที่ควบคุมพารามิเตอร์อื่นๆด้วย เช่น pH เป็นต้นค่ะ เรื่องนี้ ผมเชื่อว่า วิศว ไม่ได้เรียน >>> ใช่ค่ะ ไม่ได้เรียนอ้ะค่ะ เพราะเรียน  ในส่วนเชื้อที่ใช้ในการบำบัดน้ำเสียในกับระบบบำบัดน้ำเสีย เท่านั้น จริงม่ะจ๊ะ >>> จริงด้วยค่ะ ^^' ดังนั้น กลไก การใช้ EM ไม่ใช่เป็นกลไก การจัดการสารอินทรีย์ ที่ใช้ในระบบบำบัดน้ำเสีย ไม่มีใครเอา EM ไปใส่ในระบบบำบัดน้ำเสียแน่นอน เพราะไอเดียมันคนละตัวกันนะครับ >>> ดังนั้น ทุกท่านก็ควรจะปล่อยให้ EM อยู่ในที่ๆมันควรจะอยู่นะค่ะ เอามาใส่น้ำเสียถึงเป็นหัวหน๊าแก๊งใส่เกราะก็ตายหมดค่ะ โปรดพิจารณาครับ >> ได้พิจารณาแล้วค่ะ   ปล. อยากให้รู้จัก วิศวกรรมสิ่งแวดล้อมากขึ้นเท่านั้น ว่าทำไมอาจารย์ ถึงกล้าออกมานำเสนอทางวิชาการ จุลินทรีย์อยู่ในหม้อ อยู่ในไห อยู่ในถังหมัก เราสู้คุณไม่ได้ แต่ถ้ามีตัวอะไรตายมา หรือ มลภาวะอะไรปนเปื้อนมาในน้ำเสีย วิศวกรรมสิ่งแวดล้อมเราเชียวชาญกว่าแน่นอนค่ะ ปล. 2 ขอบคุณนะคะ ที่มีโอกาสให้ชี้แจง แต่ เวปบอร์ดที่นี่ไม่น่าเล่นเลยค่ะ สมาชิกไม่น่ารักเลยค่ะ จากคุณ : ซินดรี้ ค่ะ (sinilicious) เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 23:47:08

ความคิดเห็นที่ 102 tik นี้  เป็นนักภาษาศาสตร์   น้ำตาล มันคือน้ำตาล แหละ C Source กะจะเอา แป๊ะๆๆๆ ผมว่า คุณเรียน กฏหมาย มาหรือเปล่า ปล. จริงหรือ ถ้า เอา กากน้ำตาลไปหมักกับจุลินทรีย์ในส้วมแล้วมันไม่เหม็น หึหึหึ ว่างๆ ลองทำดูนะจ๊ะ ลองด้วยตัวเอง ดีกว่า ผมดี ผมไม่มี ศ.นำหน้า พูดไปคงไม่น่าเชื่อถือเนอะๆๆๆ จากคุณ : ช้างยิ้ม เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 23:48:27

ความคิดเห็นที่ 103 แหมผมบอกแล้วไงว่าจะเลี่ยงไม่กาก็ไม่ได้ และคนตรวจข้อสอบ(ชาวบ้าน)ไม่ต้องการคำอธิบายเพิ่ม 555 ไม่เป็นไรน่าครับ ถือว่ามั่วข้อสอบกันขำๆ ถ้าเป็นคุณช้างยิ้ม จะมั่วกาข้อไหนดีครับ ^_^ จากคุณ : meddy hao เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 23:49:11

ความคิดเห็นที่ 104 ช้างน้อยบอกว่า 1 หมักจนราขึ้น และ หมักต่อไปอีกซักห้าวัน(รวมๆ แล้ว น่าจะสิบกว่าวัน) เชื้อรามันเป็น facultative หรือครับ เชื้อรามันโต มันลงไปในน้ำมันก็ตาย 2. EM ที่เอามาปั้น ถ้าให้ดี หมักแบบน้ำให้เจริญดีก่อน แล้วค่อยเอาไปปั้น ดีกว่าซื้อมาแล้วใช้เลย เพราะตรงนั้น จุลินทรีย์อ่อนแอมาก ต้องรอ lag phase นาน และยิ่ง โดยกากน้ำตาลเข้มๆ มีโอกาสเกิด เซลเหี่ยวสูง เชื้อที่เจริญดีในของเหลวแบบไม่มีอากาศ มันจะเจริญได้ดีใน media ของแข็งได้ยังไง 3. การเอาไปโยน พื้นที่ น้ำนิ่ง ไม่ลึกมาก ดีกว่า ลึกมาก ใต้พื้นจะกลายเป็น anaerobic phase ไม่เหมาะกับชนิดจุลินทรีย์เท่าไร น้ำ ไม่เกิน 1.5 น่าจะโอเคกว่า ก็ไหนบอกในน้ำเน่ามันไม่มี O2 แต่แรกไง 5. ถ้าพื้นที่น้ำยังไม่เน่า น่าจะใช้ได้ผลดีกว่า พื้นที่น้ำเน่าแล้ว มันยังไม่เน่าแล้วข้อยจะไปใส่ให้มันเน่าทำไมฟะ 4. พื้นที่โดนแสง ดีกว่า ไม่โดนแสง ชัวสิ แค่อุณหภูมิสูงกว่ามันก็ดีกว่าอยู่แล้ว จากคุณ : tiktaalik เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 23:51:39 A:115.87.133.59 X: TicketID:287399

ความคิดเห็นที่ 105 สวัสดีครับคุณ ซินดี้ จริงๆ ไม่ได้ตั้งใจกวน แต่มันกวนธรรมชาติขออภัยอย่างแรง ที่จริงคุณ ซิ้นดี้ พยายามตอบผม  ผมอยากให้คุณซินดี้ใจเย็น คนเรามีความรู้ไม่เท่ากัน ครับ  เช่นผมถามซินดี้ จะเห็นว่าคุณซินดี้ ตอบไม่ได้หลายส่วน ซึ่งตรงนี้มันกลไกสำคัญ ในการจัดการ S ของ EM ครับ การที่เราไม่รู้ เลยทำให้ไม่เข้าใจ ผมเอง ก็จะ อ่อนคำนวนสู้ ทางวิศวกรรม ไม่ได้แน่นอน สำคัญคือ เราควรจะฟังในความเห็นที่แตกต่างกัน และ ช่วยกัน ไปให้ดีที่สุดครับ ผมว่ามันจะสนุกว่า มาเถียงว่าใครเก่งกว่าใคร ที่จริง เก่งกันคนละทางนะครับ ด้วยความนับถือ ขออภัยในบางลีลา ^_^ จากคุณ : ช้างยิ้ม เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 23:52:42

ความคิดเห็นที่ 106 ไหนบอกเรือน้ำตาลล่ม ไม่ได้บอกเรือกากน้ำตาลล่ม ในน้ำตาลมี s ต่ำมากจนถึงไม่มี ส่วนกากน้ำตาล หมักยังไงมันก็กลิ่นแบบเดิมไม่จำเป็นต้องใส่เชื้อเพิ่ม ลองแล้ว อย่าไปหลอกคนไม่รู้เลย จากคุณ : tiktaalik เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 23:54:42 A:115.87.133.59 X: TicketID:287399

ความคิดเห็นที่ 107 "ผมตั้ง บ้าง ว่า ปูนขาว แก้น้ำเสียได้ไหม ให้เลือกแบบตัวเลือก ก ได้ ข. ไม่ได้ ผมว่าตั้งแบบนี้ อ.ธง มายัง กาก ไม่ได้เลยครับ 5555 เชื่อไหม". กาได้ครับผม เพราะก็บอกกันอยู่แล้วว่าไม่ได้ทำให้น้ำหายเน่า - - จากคุณ : Fares เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 23:54:47

ความคิดเห็นที่ 108 เรื่องปูนขาว จ. บอกแค่ว่า ถ้าจะใช้บอลแค่ "ในการกำจัดกลิ่นชั่วคราว" ใช้ปูนขาวแทนไม่ดีกว่า ฤ ถูกกว่าด้วย และไม่เป็นการเพิ่มอินทรีย์สารลงไปในน้ำ เรื่องปูนขาว จ.หมายถึงแค่การกำจัดกลิ่นเท่านั้นเอง ไม่ได้เกี่ยวกับการบำบัดน้ำเสียจนเอามาเถียงกันในนี้เลยซักนิด ... จากคุณ : monsungja เขียนเมื่อ : 7 พ.ย. 54 23:57:51

ความคิดเห็นที่ 109 tik  EM มันมีหลายตัว อุ้ยยย อ่านหนังสือครบก่อนได้ไหม  ผมขี้เกียจตอบ เอานิดหนึ่งแล้วกัน   ราที่ต้องขึ้นก่อน เพราะมันจะย่อยรำที่เป็นแป้ง ย่อยเป็นน้ำตาล และ bac ตัวอื่นๆ  จะใช้น้ำตาลในการขยายตัวเองอีกทีจ๊ะ (ที่จริงไม่ค่อยเห็นด้วยแต่เขาทำแบบนั้นเลยอธิบายไอเดียที่เขาคิดให้ฟังนะ) 2. ในของแข็งมันก็โตได้  เพียงแต่จำนวนเชื้อมันจะได้น้อยกว่าเท่านั้นจ๊ะ เหมือนราขึ้นบนขนมปังได้ฉันได้  ก็จะเห็น ราที่ขึ้นปนๆ ในน้ำที่เน่าได้ฉันนั้น  bateria ต้องการความชื้นมากกว่าหน่อย ก็จะโตตามมาจากราให้  น้ำในเซลมันแตกออกมาก่อนแล้วใช้ Free water ตรงนั้น  ส่วนในน้ำ Bat โตได้เลยในทันที นะจ๊ะ 3.ออกซิเจน มีไม่มี อ.ธง ๆบอกนะจ๊ะ และอ้างว่าเป็นน้ำเสีย  พี่บอกน้องว่าตัวนี้ เป็น facultative นะจ๊ะ มัน อยู่ได้ จ๊ะ แต่ถ้า obligate anaerobic (ใต้น้ำลึกๆ ไม่มีออกซเจนเลย) มันก็ไม่ค่อยชอบเท่าไรนะจ๊ะ   พูดไปพูดมา แด๋วกลับไปหา อ.ธง ของตัวเองนะหึ 4. เหมือนศพไงน้อง ใส่ ก่อนเน่าจะได้ไม่เน่า  แต่ถ้าเน่าแล้วใส่ไปไม่มีประโยชน์ บ่ะเข้าใจยากจริง   อ่านทำความเข้าใจนิดหนึ่ง ข้างบนเขียนไว้  เขาใส่เพื่อแย่งหม่ำสารอินทรีย์  และสู้กับเชื้อธรรมชาติ ที่หม่ำแล้วเหม็น ถ้าใส่ก่อน EM เยอะกว่า หม่ำสารอินทรีย์ได้ก่อน กลิ่นก็มีโอกาสลดลงไงจ๊ะ 5.ไม่เกี่ยวกับ อุณหภูมินะหนู  มันเกี่ยวกับ  photo bacteria นะจ๊ะ อุณหภูมิ แตกต่างกันไม่เท่าไรหรอก จุลินทรีย์ เป็น mesophile ไม่ต่างกันนะจ๊ะ (รู้จักเปล่าหว่า) 4. จากคุณ : ช้างยิ้ม เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 54 00:01:30

ความคิดเห็นที่ 110 คุยกันบนพื้นฐานทางความรุ้ที่แตกต่างกันคงจะมีประโยชน์แก่ส่วนรวมนะครับ สมัยพวกผมเราเรียกว่าคุยกันคนละ wave length ยังไงก็พวกที่จะลากไปเทียบระหว่างวิดยากับวิดวะก็คิดให้รอบคอบด้วยเดี๋ยวจะเสียใจ จากคุณ : cpbu เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 54 00:03:15

ความคิดเห็นที่ 111 มีคนมาแก้แว้ว เรื่อง อ.ธง เรื่องปูนขาว ขอบคุณครับ ว่าแต่  แล้ว ตกลง  สุดท้ายจะให้ทำไงดีล่ะ  อะไรๆ  ก็ไม่ได้ผล EM ก็ไม่ได้ ปูนขาว ก็ไม่ได้  Cl  ก็ฆ่าเชื้อชั่วคราว พอดีอารมณ์พาไป เพราะมีบางคนเขียนว่า อ.เจษ อ.ธง ให้ใช้ ปูนขาว ผมเลยจะถามต่อไปนั้นแหละสุดท้ายมันเน่าอยู่ดีนะครับ เราควรคุยกันวิชาการจริงม่ะ จากคุณ : ช้างยิ้ม เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 54 00:03:42

ความคิดเห็นที่ 112 เห็นด้วยครับ คุณ cpbu ^_^ จากคุณ : ช้างยิ้ม เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 54 00:05:34

ความคิดเห็นที่ 113 เรียนคุณช้างยิ้ม ซึ่งอาจจะไม่ได้ยิ้มจริงๆ มีสิ่งหนึ่งที่ ซินดรี้ตั้งข้อสงสัย ถ้าคุณช้างยิ้มจะช่วยตอบคำถามได้ก็เป็นประโยชน์ให้วงการวิศวกรรมไปออกแบบ และพัฒนาระบบำบัดน้ำเสียให้ดียิ่งขึ้นได้นะคะ คำถามคือว่า 1. EM ball แบบได้มาตรฐานพร้อมใช้แล้วเนี่ย bacterial growth อยู่ใน เฟส ไหนคะ หลังจากที่สมาชิกทั้ง 3 ตระกูล ถูกขังไว้ในก้อนแกลบเป็นเวลานาน? 2. เมื่อโยนลงไปในน้ำแล้ว สมมติว่าเชื้อทนได้ ไม่ตายก่อน มันต้องใช้เวลาปรับตัวแค่ไหนคะ (อาจจะตอบเป็นช่วงเวลาไม่ได้ แต่น่าจะตอบสภาวะที่มันพร้อมทำงานได้ แบคทีเรียแต่ละกลุ่มก็จะมีความทนทานต่อสิ่งแวดล้อมที่แตกต่างกันถูกไหมคะ?) 3. การทำงานของจุลินทรีย์ที่อยู่ในก้อน Mud ball เนี่ยนะคะ มันทำงานในสภาวะ suspended(ลอยไปกับน้ำ) หรือ attached to media(ต้องเกาะกับก้อนตัวกลาง) คะ แล้วจะแน่ใจได้อย่างไร ว่าจุลินทรีย์มันสามารถอยู่รอดออกมาจากก้อน ball ได้โดยไม่เสื่อมสภาพก่อน ข้อสงสัยเหล่านี้ อันนี้ก็จะช่วยให้การควบคุมทางวิศวกรรมสามารถส่งเสริมการทำงานของ EM ball ได้ค่ะ ก็ต้องให้วิทยาศาสตร์ช่วยดูแล้วล่ะค่ะ จากคุณ : ซินดรี้ (sinilicious) เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 54 00:06:12

ความคิดเห็นที่ 114 สิ่งที่ผมรู้สึกอย่างหนึ่งในวันนี้ หรือ ช่วงนี้คือ ตกลงปัญหาน้ำเน่า เราสิ้นคิดกันขนาดนี้แล้วหรือ ถ้าจะหาสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อจัดการมันไม่ได้เลยหรือ นี้คือสิ่งที่เรา ควรพูดคุยกันมากขึ้นหรือเปล่า ผมขอลากระทู้ แต่เพียงเท่านี้ครับ ง่วงล่ะ จากคุณ : ช้างยิ้ม เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 54 00:07:17

ความคิดเห็นที่ 115 สังเกตว่า สมาชิกผู้สนับสนุนเชื้อจุลินทรีย์ EM  จะพูดถึงแง่ความสามารถของจุลินทรีย์ แต่ไม่ค่อยกล่าวถึง ข้อจำกัด หรือ สภาวะที่เป็น toxic ในตัวเองเลยนะคะ ใครพอจะเล่าให้ฟังได้บ้างคะ แลกเปลี่ยนกันนะคะ จากคุณ : ซินดรี้ (sinilicious) เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 54 00:09:06

ความคิดเห็นที่ 116 สวัสดีครับ คุณ ซินดี้ ผมขอตอบในความเห็นของผมนะครับ ซึ่งก็เป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง อาจจะถูกหรือผิดก็ได้ แต่ถ้าได้ Discuss กัน ก็น่าจะสนุกนะ 1. ถ้าด้วย idea ของการเลี้ยงจุลินทรีย์ ควรจะเลี้ยงให้อยู่ในสภาพ ปลาย log phase ครับ คราวนี้ นานเท่าไร เนื่องจาก EM ball ไม่ใช่ของมาตรฐาน ซับสเตรทไม่เท่ากัน เชื้อเริ่มต้น มีความแข็งแรงไม่เท่ากัน มีผลกับอัตราการเจริญเติบโตมาก ดังนั้นถ้าจะให้ตอบว่ากี่วันนั้น ยอมรับว่า ยากจริงๆๆ  แต่ ถ้าจะให้ดูแบบง่ายๆ ราต้องขึ้นก่อน เพราะราจะย่อยรำ ครับ  รำจะเป็นน้ำตาล bac ตัวอื่นๆ ก็จะ โตตามมาจนมีจำนวนมากที่สุด  อันนี้คุยกับเพื่อนหลายคน ในสภาวะแห้ง น่าจะมี ซัก สามถึงห้าวัน ถึงจะใช้เกือบๆ หมดครับ ถ้าใช้ EM น้ำ  ดูฟอง CO2 ที่เกิดขึ้น  พอฟองเริ่มเกิดลดลง สำหรับชาวบ้านน่าจะพอแปลผลได้ว่า สารอินทรีย์น่าจะเริ่มหมดแล้ว อันนี้ให้ดูง่ายๆๆๆ สำหรับชาวบ้านครับ ไอเดีย ของ EM น้ำ หรือ ball ผมเข้าใจว่าต้องการ Dominate กลุ่มจุลินทรีย์ให้ เป็นกลุ่มนี้ครับ  เพราะเชื้อไหน มันเด่น มันมีกลไกในการ ยับยั้งเชื้อชนิดอื่นพอควร แต่ EM มันแข็งแรงสู้เชื้อธรรมชาติไม่ได้ สังเกตุได้จากการใส่ในส้วม มันจะไม่อยู่ตลอดไป  ถ้าจะใช้ให้พอได้ ผมว่าคงต้องใส่ไปเรื่อยๆ เพื่อให้เด่นอยู่เรื่อยๆ และ แย่งกิน สารอินทรีย์ในน้ำให้เหลือน้อยที่สุดนะครับ แบคสีม่วง ตัวนี้  สะสม S ให้อยู่ใน S0 และ สะสมในตัวเอง ทำให้ เกิด H2S ได้ลดลง  รอเวลาสารอินทรย์ลดลงมากๆ  เหลือจุลินทรีย์น้อยลง ออกซิเจนละลายทัน S0 ก็จะไม่ถูกเปลี่ยนกลับมาเป็น H2S นะ  ถ้าอยู่ในรุป Metal S แล้วก็สบายไป เพราะค่อนข้างคงตัว 2. อย่างที่อธิบายไว้ ในความเชื่อผมเอง EM ไม่ได้ เก่งกว่าเชื้อธรรมชาติ มันไม่คงตัวในธรรมชาติครับ ไงไง ต้องใส่เพิ่มไปเรื่อยๆ มากกว่า (แต่ข้อดีคือเราหมักในบ้านและใส่ไปเรื่อยๆ ได้โดยไม่ต้องไปหาซื้อมา ตรงนี้ถ้ามันได้ผล มันหาง่ายกว่าปูนขาว  ใช้กากน้ำตาลขวดเดียวอาจจะหมักได้จนน้ำลด) ดังนั้นคำถามว่ามันจะเข้า lag เข้า log เมื่อไร ในธรรมชาติ คงต้องตอบว่ายากทีเดียว  ให้นึกถึง stabilization pond แม้จะไม่ใช้ EM แต่ มันกำหนด lag log phase ได้จริงๆไหมล่ะ  มันไม่ใช่ AS ซะหน่อย ไม่ต้องกำหนดขนาดนั้นครับ 3. mud ball เป็น Suspended หรือ attach  มันจะเจริญไปตามสารอินทรีย์ที่มันกินได้ครับ ถ้ากินได้ มันโต ผมว่ามันอยู่กับ กองสารอินทรีย์ในรูปแบบ Suspended ไงไงลอยออกไปกับน้ำไปหา สารอินทรีย์กิน และ แพร่พันธ์  คงไม่ยึดติดอยู่ที่ ball เท่านั้นแบบที่หลายๆคนพยายาม present ออกมานะ ^_^ จากคุณ : ช้างยิ้ม เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 54 00:21:41

ความคิดเห็นที่ 117 คุณช้างยิ้ม ผมยังไม่ได้บอกเลยนะว่าปูนขาวบำบัดน้ำเสีย กรุณาอย่าจับแพะชนแกะ EM ที่คุณเชื่อว่าได้ผลนั่นแหละ มีข้อมูลมากมายที่เคลมว่าบำบัดน้ำเสียได้ อาจารย์่ธงชัยก็เลยพูดขึ้นมาว่าถ้ามันได้จริง ก็ไม่ต้องมีระบบบำบัดแล้ว ส่วนกรณีปูนขาวที่ผมพูดขึ้นมา ผมตอบเพราะคนต้องการกำจัดกลิ่นน้ำนิ่ครับ (ซึ่งท่านปลัดก็บอกเองแก้เฉพาะหน้า) และอ. สองท่านก็แนะนำจริง ราคาก็ถูกด้วย มันง่ายกว่า EM BALL เยอะ ส่วน EM มันคงจะมีตัวที่ดับกลิ่นได้จริง แต่ถ้าคนละสูตรมันเหม็นกว่าเดิมทำไง? เราก็เลือกอันที่มันชัวร์ๆดีกว่ามั้ยครับ แก้ไขเมื่อ 08 พ.ย. 54 00:24:48 จากคุณ : evenpokzo เขียนเมื่อ : 8 พ.ย. 54 00:22:36