Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เปิดข้อมูลอีเอ็มบอลโดยชาวคณะวิทยาฯ จุฬาฯ ติดต่อทีมงาน

หลังจากประชุมถกเถียงกันอยู่หลายครั้งในคณะทำงานของคณะวิทยาศาสตร์ เพื่อรับมือกับวิกฤติศรัทธา EM ball ในขณะนี้ ซึ่งเราพบว่าเรื่องมันซับซ้อนกว่าที่คิดมาก โดยเฉพาะในการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์เพียวๆ เกี่ยวกับ EM ยังมีคำถามคาใจกันหลายที่ทำให้ฟันธงยากกกก จริงๆ ว่ามันดีหรือไม่ดียังไงกันแน่
สุดท้ายก็เริ่มได้แนวทางที่ชัดเจนขึ้น โดยแถลงการณ์อันนี้ที่จะเผยแพร่ผ่านสื่อมวลชนจะเป็นเอกสารแรกในซีรีส์ที่คณะวิทย์ จุฬาฯ จะส่งออกมาครับ ก่อนที่จะไปถึงผลการวิจัยที่กำลังทำกันอยู่ตอนนี้
------------------------------------------------


ก้อนอีเอ็ม (EM ball) กับการบำบัดน้ำเสีย
ตอนที่ 1 รู้จักกับอีเอ็มและแนวทางในการใช้อีเอ็มอย่างเหมาะสม

คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
9 พฤศจิกายน 2554


ความจำเป็นที่ต้องจัดทำเอกสารชุดนี้

จากการที่มีการตั้งข้อสังเกตของนักวิชาการผู้ทรงคุณวุฒิ เกี่ยวกับประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือของการใช้เชื้อจุลินทรีย์ที่เรียกว่าอีเอ็ม (EM ย่อจาก Effective Microorganisms) มาบำบัดน้ำเสียจำนวนมหาศาล อันเกิดจากวิกฤติการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ในปีนี้ ขณะที่หน่วยงานและองค์กรต่างๆ ที่นำอีเอ็มมาใช้ ได้ยืนยันถึงความสำเร็จจากการนำอีเอ็มไปใช้ได้ผลในกรณีอื่นๆ มาแล้ว จนเริ่มมีการโต้แย้งและนำไปสู่ความสับสนของสังคมเป็นวงกว้าง
คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยคณาจารย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านจุลินทรีย์โดยตรง รวมกับคณาจารย์จากภาควิชาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง จึงได้จัดบทความชุดนี้ขึ้น เพื่อให้ข้อมูลความรู้ทางวิทยาศาสตร์แก่ประชาชน โดยในบทความในตอนที่ 1 นี้ เน้นที่การ “รู้จักกับอีเอ็มและแนวทางในการใช้เชื้ออีเอ็มอย่างเหมาะสม”  ควบคู่ไปกับการทำวิจัยเพื่อทดสอบประสิทธิภาพของอีเอ็มอย่างเป็นระบบ โดยจะทราบผลและนำเสนอผลการวิจัยเป็นระยะ ในตอนต่อ ๆ ไป

อีเอ็มคืออะไรและทำหน้าที่อะไร

อีเอ็มเป็นกลุ่มจุลินทรีย์ที่มีความสามารถเฉพาะทาง มักจะประกอบด้วยจุลินทรีย์ 3 กลุ่มหลักซึ่งทำงานได้ทั้งสภาวะที่มีและไม่มีอากาศ (ออกซิเจน) ได้แก่ 1. กลุ่มแบคทีเรียที่ทำให้เกิดกรดแล็กติก (lactic acid bacteria) 2. กลุ่มยีสต์ (yeast) และ 3. กลุ่มแบคทีเรียสีม่วง(phototrophic purple bacteria) ซึ่งสังเคราะห์แสงได้แต่ไม่มีความสามารถในการสร้างออกซิเจน ทั้งนี้อีเอ็มที่มีจำหน่ายในท้องตลาดหรือชนิดที่เตรียมขึ้นเองล้วนมีส่วนประกอบจุลินทรีย์ที่แตกต่างกันทั้งสิ้น   ในยุคแรกๆ นั้น ได้มีการใช้อีเอ็มเพื่อทำปุ๋ยโดยทำการหมักสิ่งปฎิกูล ของเสีย และของเหลือใช้ต่างๆ เพื่อให้สารอินทรีย์ย่อยสลายเป็นโมเลกุลขนาดเล็กลง ทำให้ง่ายต่อการที่พืชนำไปใช้และทำให้พืชโตเร็วขึ้น  นอกจากนี้เชื้อบางตัวในส่วนประกอบอีเอ็มมีความสามารถในการเปลี่ยนสารที่ก่อกลิ่นเหม็น เช่น   แก๊สไข่เน่า (ไฮโดรเจนซัลไฟด์) และสารที่ระเหยได้อื่น ๆ  ในน้ำเน่า ให้อยู่ในรูปสารประกอบอื่นที่เปลี่ยนไป ทำให้ไม่มีกลิ่นเหม็นเน่า
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีการกล่าวอ้างว่าเชื้ออีเอ็ม สามารถนำมาใช้ในการบำบัดน้ำเสียได้สำเร็จในหลายประเทศ แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า การค้นคว้าวิจัยเรื่องนี้อย่างเป็นระบบตามมาตรฐานการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่สามารถตรวจสอบได้ ยังมีอยู่ค่อนข้างน้อย

แก้ไขเมื่อ 10 พ.ย. 54 11:26:15

จากคุณ : JD300
เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 54 11:24:49




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com