ความคิดเห็นที่ 1 เวลา พลังงาน ยังไม่มีขอบเขตเลย มันเกิดขึ้นได้เรื่อยๆ และไม่มีวันสิ้นสุดแน่ แต่ว่ามันเกิดขึ้นได้ไง และครั้งแรกที่เกิด เกิดเพราะอะไร เกิดที่ไหน ไม่มีใครรู้ครับ เผลอๆทฤษฏีบิ๊กแบก อาจจะเป็นแค่ทฤษฏีแหกตาว่าความจริงแล้วเราเกิดมาจากบิ๊กแบก แต่ความจริงมันอาจจะเิกิดจากอย่างอื่นก็ได้ ไม่รู้ใครรู้เหมือนกัน พิมพ์ผิดจ้า บิ๊กแบง ไม่ใช่ บิ๊กแบก อินกระแสไปหน่อย 555 แก้ไขเมื่อ 18 พ.ย. 54 01:26:18 จากคุณ : Focus 4 ever เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 54 00:57:09

ความคิดเห็นที่ 2 ทุกอย่างเป็นสิ่งสมมุติครับ บางที... อวกาศที่พวกเราคิด อาจจะอยู่ในโอ่งหน้าบ้าน ของยักษ์ ก็ได้ จากคุณ : meetwinzz เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 54 00:58:30

ความคิดเห็นที่ 3 คห.1 ทฤษฎีบิ๊กแบก เขาเอาไว้กันน้ำแถวดอนเมืองนะ ไปหละ.... ฟิ้วววววว.... จากคุณ : Edna Mode เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 54 01:03:47

ความคิดเห็นที่ 4 ผมว่ามันเหมือนกับมดตัวนึง  ซึ่งไม่มีทางจะรู้ว่าโลกมีขอบเขตแค่ไหนอ่ะครับ จากคุณ : yariv_80 เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 54 01:05:14

ความคิดเห็นที่ 5 สมองมนุษย์มีแค่นี้ครับ  ที่พูดๆ อวดฉลาด ทฤษฏี นั่น โน่น นี่ พระพุทธเจ้าสอนไว้แล้ว ลองหาดูครับ ตายไปก็เอาไปไม่ได้ เผลอๆลูกหลานเดือดร้อน เอ๋? อะไรหว่าเนี่ย ไปแระ ฟริ้ววว จากคุณ : Whalephant เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 54 01:05:49

ความคิดเห็นที่ 6 มียิ่งกว่านั้นอีก (แต่อาจจะมีใครคิดว่ามันไม่เป็นวิทยาศาสตร์) http://topicstock.pantip.com/religious/topicstock/2009/09/Y8376609/Y8376609.html จากคุณ : Edna Mode เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 54 01:13:13

ความคิดเห็นที่ 7 มีอะไรที่มีสาระกว่า คคห 5 กับ 6 มั้ยครับ จากคุณ : Shinjitsu เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 54 01:23:21

ความคิดเห็นที่ 8 คห.6 ที่สุดของจักรวาลคือ นิพพานสินะครับ เอาแบบนั้นเลยสินะ!! จากคุณ : okaunkung เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 54 01:25:14

ความคิดเห็นที่ 9 ผมก็เคยนั่งคิดตอนเป็นเด็กน้อยนี่แหละครับ เรื่องจักรวาลไม่มีที่สิ้นสุด ตอนนี้ผมล้มเลิกความตั้งใจที่จะคิดแล้ว มันเกินสามัญสำนึกของคน คำพูดที่ว่า จักรวาลไม่มีที่สิ้นสุดน่ะ อาจจะนึกภาพไม่ออกจริงๆ จากคุณ : okaunkung เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 54 01:27:11

ความคิดเห็นที่ 10 เราเองก็คิดเหมือน คห2 นะ เคยคิดว่าตัวเองเกิดมาในโหลจำลองจักรวาลของบ้านใครสักคนหรือเปล่า หรือจักรวาลที่เราอาศัยอยู่จริงๆเรามันเป็นเพียงแค่ความฝัน เพราะตอนเราตายไปทุกอย่างก็หยุด หรือเราอาจจะเป็นเพียงแค่จิตนาการของเอเลี่ยนบางดาวอยู่ก็ได้ นับวันยิ่งเพ้อเจ้อนะเนี่ย 5555 คห6 ผมเชื่อว่า วิทยาศาสตร์กับศาสนา แทบจะไม่มีทางไปทางเดียวกันได้เลยนะ เพราะศาสนา จะเน้นให้เราเชื่อในพระเจ้ามากกว่า แต่วิทยาศาสตร์จะให้เราพิสูจน์ ซึ้งมีการเปลี่ยนแปลงตลอด จากคุณ : Focus 4 ever เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 54 01:30:58

ความคิดเห็นที่ 11 เคยสังเกตุไหม ?? ว่าบางที มันอาจเป็นเพราะเรา "คิด" เป็นเพราะเรา "สมมติมันขึ้นมา" ก็คือ ยังไม่เคยมีใครเห็นขอบของจักรวาล ยังไม่เคยมีใครไปเห็นจุดสิ้นสุดของจักรวาล แต่ทุกวันนี้ นักวิทยาศาสตร์ กลับบอกพวกเราว่า จักรวาล ไม่มีขอบเขต และไม่มีที่สิ้นสุด นั่นคือ พวกเขา "คิดเอาเอง" ใช่ไหม ก็เหมือนกับพวกเรา.. ถ้าให้เราคิดเอง เราก็ต้องคิดว่า มันไม่มีที่สิ้นสุด เพราะถ้าเราเหาะไปเจอกำแพงเราก็ทุบกำแพง มันก็มีที่อื่นไปอีกเรื่อยๆๆๆ ไม่มีที่สิ้นสุด นี่คือ.. "ความคิดของเรา" ที่แท้ นักวิทยาศาสตร์ ก็คิดเอง แล้วก็ เอาความคิด ที่คิดเอาเอง แล้วมาบอกว่า เป็นความจริง (ทั้งๆที่ ไม่เคยไปเห็นมากับตา) คุณว่า จริงไหม ? แก้ไขเมื่อ 18 พ.ย. 54 01:34:16 จากคุณ : จขกท. (mooesha) เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 54 01:33:41

ความคิดเห็นที่ 12 ^ ผมเคยพูดอย่างนั้นกับเพื่อนที่เป็น เด็กค่ายโอลิมปิกด้วยอะครับ มันบอกให้ผมไปบวช 555555555555555555555555 จากคุณ : meetwinzz เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 54 01:36:02

ความคิดเห็นที่ 13 ความเห็น #10 หากคุณ เอาอคติออก ถ้าคุณคิดว่า อะไรๆ มันก็เป็นไปได้.. แล้วคุณจะมองเห็นอะไรๆได้มากขึ้น! ตราบใดที่คุณยังไม่เคยลอง จับลมหายใจเข้า หายใจออก ตราบใดที่ ทุกๆคืน คุณไม่เคยรู้ว่า คุณหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ เมื่อนั้น.. คุณก็ยังไม่เข้าใจว่า คุณเป็นอะไร และคุณ เกิดมาทำไม และมีชีวิตอยู่ เพื่ออะไร และขอบเขตของจักรวาลอยู่ที่ไหน ??? คุณรู้ไหม ที่คุณนอนหลับทุกๆคืน คุณหลับไป ตั้งแต่เมื่อไหร่ ?? ทำไมคุณจำไม่ได้.. แล้วหลังจากที่หลับล่ะ คุณรู้สึกอย่างไร ??? คุณรู้จักคำว่า "สติ" ไหม ?? ถ้าคุณมีสติอยู่ตลอดเวลา คุณจะรู้ว่า คุณหลับตั้งแต่เมื่อไหร่ และตอนที่คุณกำลังจะหลับอ่ะ มันเกิดอะไรขึ้น เราก็พูดได้แค่นี้อ่ะนะ สำหรับคนที่ชอบ สร้างกรอบให้กับความคิดของตัวเอง ก็จะคิดนอกกรอบไม่ได้ ถ้าความจริงที่ค้นหามันอยู่นอกกรอบคุณจะไม่มีทางหาเจอ เพราะคุณมัวแต่ คิดในกรอบ จากคุณ : จขกท. (mooesha) เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 54 01:38:00

ความคิดเห็นที่ 14 สิ่งที่หาที่สุดไม่ได้ จิตคน ความทรงจำ เอกภพ เวลา หาไปก็ไม่เจอหรอก คิดมากอาจเสียสติได้ จากคุณ : จริงๆนะจะบอกให้ เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 54 01:48:51 A:174.34.174.4 X: TicketID:334297

ความคิดเห็นที่ 15 กรอบเป็นสิ่งสมมุติ  ไม่มีที่สิ้นสุดก็เป็นสิ่งสมมุติ ทั้งสองอยู่ในมิติของกาลเวลาที่มนุษย์รับรู้ได้   ส่วนนอกกรอบที่มนุษย์รับรู้ได้คือรับรู้ไม่ได้ เมื่อรับรู้ไม่ได้จึงไม่สามารถนิยามได้ แก้ไขเมื่อ 18 พ.ย. 54 14:32:18 จากคุณ : นิ้วจิ้ม เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 54 02:08:41

ความคิดเห็นที่ 16 นอกกรอบ ไร้กรอบได้ครับ แต่อย่าหลงทาง จากคุณ : จอมพล G a Y * เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 54 02:09:38

ความคิดเห็นที่ 17 ...ที่จริงมันมีขอบเขต     ....แต่แสงมันเร็วไม่พอที่จะมาถึงโลกยามนี้ ทุกวันนี้กล้องฮับเบิ้ล  ส่องออกไปในจักรวาลระยะทาง   1.37 หมื่นล้านปีแสง หมายความว่า  แสงเดินทางมาถึงโลกใช้เวลา  1.37 หมื่นล้าน ปี แสดงว่า  เราสามารถดูอดีตของจักรวาลได้ ย้อนหลังไปได้ถึง  1.37 หมื่นล้าน ปี ...แล้วก่อน 1.37 หมื่นล้านปีแสง หล่ะ มันมีอะไรหลังม่าน ที่แสงยังเดินมาไม่ถึงโลก จากคุณ : Zaytsev เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 54 02:35:45

ความคิดเห็นที่ 18 มีขอบเขตสิครับ ใครว่าไม่มี .........                                                                                                                   > Shine on you crazy diamond < จากคุณ : Romancini เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 54 02:50:36

ความคิดเห็นที่ 19 จักรวาลมันกว้างซะจนพระอรหันต์หลงทางครับ จากคุณ : Sawakato เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 54 02:59:36

ความคิดเห็นที่ 20 แล้วคุณ จขกท จะพิสูจน์จักรวาลว่าไงอะครับ ?? ประมาณว่าผมนั่งรถด่วน กาแล็คซี่แอ็กเพรส ไปถึงจุดสิ้นสุดของเอกภพ แล้วเคาะประตูเอกภพ 2 ทีแล้วก็มีเอเลี่ยนจากเอกภพอื่นมาเปิดประตูแล้วบอกว่า welcome hello hello will you get some food ? คงใช่หรอกครับ ร่างกายไม่มีทางปิดสวิตท์ตัวเองได้หรอกครับ ประมาณว่าเข้านอนแล้วกดปุ่ม turn off  พร้อมกับนอนคร่อกฟี้ๆ แล้วกดปุ่ม turn on แล้วตื่น การนอนก็เหมือนปิดสวิตท์ชั่วคราว แต่มีบางอยางที่ต้องทำงาน แต่ถ้านอนแล้วไม่ยอมปิดสวิตท์เหมือนที่ จขกท ว่าอันนั้นเรียก insomnia(สะกดถูกมั้ย) ครับ จากคุณ : Focus 4 ever เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 54 03:12:12

ความคิดเห็นที่ 21 เราไม่มีทางรู้หรอกครับว่าเราอยู่ในอะไร ?  จนกว่าจะออกไปข้างนอกของสิ่งที่อยู่ได้ แล้วสมมุตนะ  ถ้าเราออกไปข้างนอกได้นั่นแปลว่า ... มันก็ยังมีขอบเขตนอกเหนือจากนั้นอีกอยู่ดี (ไม่ยังงั้นเราจะไปอยู่ได้ยังไงล่ะ เหมือนกับออกจากห้องไป พึ่งรู้ตัวว่าก็ยังอยู่ในห้องโถงอีกทีนึงนี่หว่า) บางคนเชื่อว่ามีที่สิ้นสุด บางคนเชื่อว่ามันเป็นอนันต์ ส่วนตัวผมมองว่า สิ้นสุดมันอยู่ในอนันต์อีกทีนึงเสมอ เราใส่ใจกับสิ่งที่ไม่อาจจะพิสูจน์ในชีวิตนี้ได้จริง  เราใช้ชีวิตให้สนุกสนาน อาจมีค่ามากกว่ามานั่งคิดอะไรแบบนี้ก็ได้ (เผื่อบางท่านกำลังหมกมุ่น) ที่แน่ๆ ที่ไหนน้ำเยอะระวังตุ๊กเข้ไว้ระกัน 55 จากคุณ : hahesfha เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 54 03:21:22

ความคิดเห็นที่ 22 คำตอบมันมีแน่ๆครับ   แต่มนุษย์เรายังศึกษาเรียนรู้ไปไม่ถึงตรงนั้น จากคุณ : AwayG.com เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 54 03:51:08

ความคิดเห็นที่ 23 จขกท.ครับ ขี้เกียจปีนบันไดอ่าน อย่าปรัชญานักเลย มีสติตอนหลับจะเรียกว่าหลับเหรอ ? มีสติตอนหลับจะทำให้รู้แจ้งเห็นจริงเหรอ ? คิดเองหรือฟังใครเค้าพูดมา จากคุณ : annalog เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 54 06:59:45

ความคิดเห็นที่ 24 นี่เป็นความเชื่อของผม Base on ทฤษฏีและสิ่งที่ผมเรียนรู้มา - จักรวาลมีขนาดไม่จำกัดใน 3 มิติ (เนื่องจากมันโค้งและมันไม่มีขอบเพราะเราอยู่ที่ขอบของจักรวาล 4 มิติ) - จักรวาลมีขนาดจำกัดใน 4 มิติ (เป็นไฮเปอร์สเฟียร์ที่กำลังขยายตัว) ไม่เน้นปรัชญาวุ่นวาย ผมตอบตรงหัวข้อเป๊ะๆเลยนะ จากคุณ : ECOS (thelegendofm) เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 54 07:17:37

ความคิดเห็นที่ 25 ทำไมต้องมีขอบเขตด้วยล่ะเจ้าคะ ยกตัวอย่าง ความคิดของคน มันจำเป็นต้องมีขอบเขตด้วยรึป่าว คิดไปได้แค่สุดขอบกะลาแล้วก็ต้องหยุด หรือว่าคิดไปได้เรื่อยๆเท่าที่มีความสามารถพอจะคิดได้? จากคุณ : แ ต ง ก ว า * เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 54 07:27:52

ความคิดเห็นที่ 26 จักรวาลเป็นสิ่งที่เรียกว่า "อจินตัย"  อย่าไปคิด เดี๋ยวบ้า (คำแปล) หลายคน คิดคล้ายผมเลย โลกอาจเป็น แค่สิ่งเล็กๆจนมองไม่เห็น ของสิ่งมีชีวิตอื่นที่ใหญ่จนเราไม่เห็น เหมือนที่ virus ไม่รับรู้ถึงความมีอยู่ของเรา จากคุณ : dirtydog เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 54 07:30:59

ความคิดเห็นที่ 27 ถ้าใช้ความคิด คิดว่ามีขอบมันก็มี คิดว่าไม่มีมันก็ไม่มี ถ้าเอาข้อเท็จจริง ยังไม่มีคนรู้ ยังไปไม่ถึงขอบ(เอ๊ะ หรือว่ามันไม่มีขอบ) จากคุณ : letpost เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 54 07:46:29

ความคิดเห็นที่ 28 ต้องมองในมุมกลับ ระหว่าง มี-ไม่มี ห้องถูกกำหนดขอบเขตด้วยกำแพง ซึ่งเป็นสสาร เป็นพลังงาน บ้านถูกกำหนดขอบเขตด้วยรั้ว ซึ่งก็เป็นสสารและพลังงาน แต่ถ้าไม่มีกำแพง ไม่มีรั้ว ไม่มีสสารพลังงาน ก็ไม่มีขอบเขต อาจจะบอกว่าขอบเขตก็โลกไง แต่โลกก็เป็นสสารและพลังงาน จักรวาลไม่มีขอบเขต มันกว้าง ไม่มีที่สิ้นสุด แต่สิ่งนีั้ไม่ใช่ "มี" แต่เป็น "ไม่มี" คือมันไม่มีอะไรเลย ไม่มีสสารหรือพลังงานอะไร จะมาเป็นขอบเขต จักรวาลเป็นความว่างเปล่า มันก็แค่ไม่มีอะไรเลย จากคุณ : ปลาๆงูๆ เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 54 08:06:43

ความคิดเห็นที่ 29 จำนวนอะไรที่มากที่สุด และจำนวนอะไรที่น้อยที่สุด? จากคุณ : เฮียมี่ เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 54 08:57:47

ความคิดเห็นที่ 30 จักรวาล  เป็นวงกลมค่ะ กว่าเราจะบินวนรอบจักรวาล ตรงจุดเริ่มต้น ก็ปลี่ยนสภาพไปจากเดิมแล้ว จนทำให้เรารู้ว่ามันไม่สิ้นสุด  เพราะจุดเริ่มต้น มันเปลี่ยนไป และระหว่างทาง จักรวาลจะเป็นเหมือนเขาวงกต  ไม่ได้กว้าง แต่ซ้อนๆ กันหลายชั้น ไม่ใช่เป็นทางตรงยาว  ๆ จากคุณ : Korea so sad เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 54 09:24:38

ความคิดเห็นที่ 31 โมเดลจักรวาลแบบไม่มีขอบเขต ก็คือเราไม่สามารถรับรู้ว่ามีขอบเขตอยู่ตรงไหน ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม พูดง่ายๆก็คือจักรวาลที่เราสังเกตได้ไม่มีขอบเขต ในเมื่อเราไม่พบขอบเขตของจักรวาลเราก็ไม่รู้แน่ว่ามันไม่มีขอบเขตจริงหรือเปล่า จากคุณ : เจกัน เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 54 09:30:23 A:58.11.150.29 X: TicketID:204597

ความคิดเห็นที่ 32 '' เพราะเราคิด สิ่งนั่นจึงมี เพราะเราไม่คิด สิ่งนั้นจึงไม่มี '' จากคุณ : kodindy เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 54 09:37:46

ความคิดเห็นที่ 33 นี่ครับจักรวาลเรา มันเป็นทรงกลม มันเลยไม่มีขอบเขต จากคุณ : kodindy เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 54 09:46:59

ความคิดเห็นที่ 34 อวกาศ ไม่มีที่สิ้นสุด แต่มีขอบเขต คับ เป็นพื้นผิวโค้ง 4 มิติ คือก็เหมือนโลกอะ หากเราเดินเท้าไปเรื่อยๆมันก็ไม่มีที่สิ้นสุด จะวิ่งไปยังไงก็ออกนอกโลกไม่ได้ แต่โลกก็มีขอบเขตชัดเจนคือ เป็นรูปทรงกลม 3 มิติ ตราบใดที่เรายังอยู่ใน 3 มิติ จักรวาลก็ไม่มีที่สิ้นสุดสำหรับเราครับ จากคุณ : Firion เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 54 10:07:58

ความคิดเห็นที่ 35 จักรวาล กับ จักรภพ มันต่างกันไหม จากคุณ : speedline เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 54 10:40:46

ความคิดเห็นที่ 36 ไม่มีหรอกครับ จักรวาลอะไรนั่น มันเป็นของที่ระบบสร้างสภาพแวดล้อมให้เราแบบหลอกๆเท่านั้น เพราะจริงๆแล้ว เราทั้งหมดอยู่ในระบบ Matrix จากคุณ : NATSKI13 เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 54 10:41:05

ความคิดเห็นที่ 37 เวลาก็ไม่มีขอบเขต  จักรวาลกับเวลาสัมพันธ์กัน ย่อมไม่มีขอบเขตเช่นกัน จากคุณ : DangDame เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 54 10:50:17

ความคิดเห็นที่ 38 ผมคิดเล่นๆว่า มนุษย์ถูกสร้างมาให้รับรู้แค่นี้ อะครับ จริงๆมันอาจจะมีคำตอบที่แขวนไว้อยู่แล้ว เพียงแต่เราถูกกำหนดให้ มีการรับรู้และคิดได้เพียงเท่านี้ เช่นยกตัวอย่าง ถ้าสมมุติธรรมชาติ สร้างให้โครงสร้างร่างกายของมนุษย์ ไม่สามารถที่จะเงยหน้ามองขึ้นบนฟ้าได้เลย ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดๆก็ตาม... เราก็จะไม่มีวันรู้เลยว่า บนท้องฟ้า มีดวงจันทร์ ...อะไรแบบนี้อะครับ จากคุณ : chan ty เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 54 10:55:55

ความคิดเห็นที่ 39 #36 ตรูว่าแล้ว....คุณคือผู้ปลดปล่อยใช่ไหม นิโอ จากคุณ : speedline เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 54 11:22:52

ความคิดเห็นที่ 40 ผมว่าทุกอย่างมันมีเริ่มต้น และมีจุดสิ้นสุด แค่เราไม่สามารถหาหรือพบมันได้แค่นั้น เราอาจเป็นเหมือนจุลินทรีย์กลางมหาสมุทร หรืออยู่ในร่างกายมนุษย์ ซึ่งมันไม่รู้หรอกว่ามนุษย์หรือหมาสมุทรรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไรถึงแม้มันจะออกมาจากตรงนั้นมาแล้ว จากคุณ : Elliptic เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 54 11:37:16

ความคิดเห็นที่ 41 #38 นอนลงซิครับ 555 จากคุณ : MortalR2 เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 54 11:40:26

ความคิดเห็นที่ 42 #4 ผมคิดว่าใช่ โดยพิจจาณาตรรกะ จาก #4 และสถิติ ที่เคยพบมาในชีวิต ผมเห็นว่า ก่อนที่คุณจะคิดว่าวิทย์ผิด ต้องถามว่า คุณ เข้าใจ #4 นั่นหรือเปล่า เช่นเดียวกัน ผมก็บอกไม่ได้ว่า วิธีคิดของคุณ อาจจะโอเคกว่า หรือแย่กว่าแบบวิทย์ ตราบใดที่ผมยังไม่เข้าใจ ยังไม่ได้เห็นซักที จากคุณ : aLITTLEspaceAround7day เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 54 12:17:25

ความคิดเห็นที่ 43 เรียนจขกท กรุณาแยกแยะความแตกต่างระหว่าง 1.คิดนอกกรอบ 2.คิดหลุดโลก จากคุณ : หมอเถื่อน เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 54 12:22:54

ความคิดเห็นที่ 44 ยานสำรวจที่ไปไกลที่สุดตอนนี้คือ Voyager I แต่ก็แค่ออกนอกระบบสุริยะไปยังไม่ถึง solar system อื่นเลยด้วยซ้ำ กระดึ้บไปได้ไม่ถึงเสี้ยวของทางช้างเผือก ไม่ต้องพูดถึงกาแลคซี่อื่นเลย จักรวาลยิ่งแล้วใหญ่ แล้วยังมีนอกจักรวาลอีก Universe Multiverse Metaverse Xenoverse Hyperverse Omniverse กินข้าวแล้วไปทำงานดีกว่าตู จากคุณ : thReality เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 54 13:01:10 A:202.94.73.23 X: TicketID:202234

ความคิดเห็นที่ 45 เพราะมันมีสิ่งที่เล็กกว่่าและใหญ่กว่าเราไม่มีสิ้นสุดไงครับ จริงๆ โลกก็คือพวกนิวตรอนโปรตอน มีอิเล็กตรอนซึ่งเทียบได้กับดวงจันทร์หมุนรอบโลก พอส่องไปดูอะตอมก็เช่นเดียวกันเพียงแต่คนละสเกลกัน เรามองเห็นอะตอมวิ่งไวมากๆ เกือบเท่่ความเร็วแสง เพราะอะตอมมันเล็กกว่่เรามาก เวลาของมันเดินเร็วกว่่าเวลาของเรา ซึ่งพอเปรียบเทียบสเกลใหญ่เหมือนโลก เราคิดว่ามันหมุน 1 ปี ถึงครบรอบดวงอาทิตย์ แต่คนที่ส่องกล่องจุลทรรศน์มองเราอยู่ก็มองเห็นว่า เฮ้ยอิเล็กตรอนโลกทำไมมันหมุนรอบโปรตอนนิวตรอนดวงอาทิตย์เร็วเกือบเท่าความเร็วแสงเลยวะ แสดงว่าเวลาของคนที่มองเราจากล้องจุลทรรศน์จะช้ากว่่เรามากๆๆ เหมือนตอนที่เรามองอะตอม แล้วตอนนี้เราก็กำลังอยู่ในมิติที่ไม่มีวันเห็นสิ่งมีชีวิตอีกมิติ เรากำลังถูกขังอยู่เหมือนอะตอมของสิ่งมีชีวิตที่ส่องกล้องจุลทรรศน์แล้วเห็นมันวิ่งๆ อยู่นั่นแหละ ไม่มีวันรู้ว่ามีคนส่องมัน ไม่มีวันรู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหน มองเห็นแค่ความเป็นไปของอะตอมที่เราอาศัยอยู่ เวลาของเราช้ากว่่าสิ่งมีชีวิตที่เล็กกว่าเรา แต่เร็วกว่าสิ่งมีชีวิตที่ใหญ่กว่าเราแต่เรามองไม่เห็น เพราะเรากำลังกลายเป็นโลก 2มิติ สำหรับคนที่ส่องกล้องจุลทรรศน์มองเราอยู่ จากคุณ : เชื่อเสียงหัวใจ เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 54 13:05:51

ความคิดเห็นที่ 46 ไม่แน่คนที่ส่องเราอยุ่อีกมิติ กำลังเรียนกันอยู่ว่่า อิเล็กตรอนหมุนรอบนิวเคลียสซึ่งประกอบไปด้วยโปรตรอนและนิวตรอน แล้วก็กำลังใช้กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนส่องกันอยู่ก็ได้ 555 แต่ตอนนี้เราไม่รู้ครับว่าเรากำลังอยู่ที่ไหน  ทำไมจักรวาลขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ไม่แน่เราออาจะเป็นแค่ไวรัสของสิ่งที่มีชีวิตก็ได้ เราอาจกำลังอาศัยอยุ้ในร่างกายของสิ่งมีชีวิตหนึ่ง โดยมีดวงอาทิตย์เป็นตัวเผาผลาญให้พลังงานแก่เซลล์เซลล์นี้ ไม่งั้นจักรวาลจะขยายไปทำไม การขยายคือการเจริญเติบโต สิ่งไม่มีชีวิตขยายขนาดไม่ได้ มีเพียงสิ่งมีชีวิตที่ขยายขนาดได้  ถ้าคิดอย่างนี้อาจจะรับไม่ได้แต่มันก้อน่่าคิด ที่เห็นอวกาศมืดๆ แท้จริงมันอาจเป็นเลือดของสิ่งมีชีวิตนี้ เพียงแต่เราไม่เข้าใจ จากคุณ : เชื่อเสียงหัวใจ เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 54 13:20:59

ความคิดเห็นที่ 47 วิทยาศาสตร์กับศาสนาไปด้วยกันได้ นักจักรวาลวิทยาพยายามไขปริศนากำเนิดจักรวาล ทฤษฎีที่น่าเป็นไปได้ทฤษฎีหนึ่งที่ว่ามีมิติซ้อนกันอยู่ แต่ยังพิสูจน์ไม่ได้ ต้องใช้กล้องชนิดพิเศษ (ที่เทคโนโลยีปัจจุบันยังไม่สามารถสร้างได้) ส่องดู วิทยาศาสตร์และศาสนากำลังวิ่งมาบรรจบกัน จากคุณ : GravityOfLove เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 54 14:28:55

ความคิดเห็นที่ 48 เหมือนในอดีต เราคิดว่าโลกแบนไงครับ พอเรามีวิทยาการ+ความรู้ที่ดีพอ ทุกอย่างก็จะเปิดเผย จากคุณ : เด็กขงเบ้ง เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 54 15:05:58

ความคิดเห็นที่ 49 อย่าพยายามอยากรู้มากกันเลยครับเพราะถ้ารู้มากไป คนใส่แว่นคนนี้จะมาหา.... จากคุณ : negative energy เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 54 17:41:19

ความคิดเห็นที่ 50 เรื่องเกี่ยวกับจักรวาล/เอกภพ คือวิชาจักรวาลวิทยา(Cosmology)-วิทยาศาสตร์แขนงนึง Cosmology is the discipline that deals with the nature of the Universe as a whole. http://en.wikipedia.org/wiki/Cosmology ทำไมอวกาศ ไม่มีขอบเขต/ไม่มีที่สิ้นสุด ?... จักรวาลวิทยาบอกว่า จักรวาลที่สังเกตได้เป็นทรงกลมรัศมี 4.6 หมื่นปีแสง อายุจักรวาล 1.37 หมื่นปี ผลจาก CMBR ที่สังเกตได้ ถ้าอวกาศมีไฮโดรเจน > 6 อะตอม/ลูกบาศก์เมตร จักรวาลจะปิด และตรงข้าม การเรียนรู้จักรวาลคงต้องใช้วิทยาศาสตร์/ดาราศาสตร์ ... ไม่ใช่ใช้ศาสนา หรือนั่ง/นอน/ยืน คิดเอาเอง The region visible from Earth (the observable universe) is a sphere with a radius of about 46 billion light years universe's age is 13.7 billion years old, based on observations of the cosmic microwave background radiation http://en.wikipedia.org/wiki/Universe#Size.2C_age.2C_contents.2C_structure.2C_and_laws six hydrogen atoms on average per cubic metre of cosmic space. If the actual cosmic average is greater than this value, the universe is bound (closed) and, though currently expanding, will end in a crush of unimaginable proportion. If it is less, the universe is unbound (open) and will expand forever. http://www.britannica.com/EBchecked/topic/122189/closed-universe จากคุณ : เมษ (ชื่อนี้ได้มั้ยฮะ) เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 54 18:56:45

ความคิดเห็นที่ 51 เอกภพมีขนาด แต่ไม่มีที่สิ้นสุด จากคุณ : หมั่นไส้ เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 54 20:38:45

ความคิดเห็นที่ 52 เราขอยกข้อความของ จขกท มาแค่นี้นะคะ "ของทุกอย่าง มันต้องมีขอบเขต แล้วทำไม อวกาศ ถึงไม่มีขอบเขต และไม่มี ที่สิ้นสุด ??? มันจะเป็นไปได้ อย่างไร ??????? พวกเรา ยอมรับความจริงนี้ ได้หรอ ?? O.O " จากกระทู้นี้ และอื่นๆเรามองว่า จขกท กำลังต้องการแสดงให้เห็นว่าเป็นคนคิดนอกกรอบ แต่ก็ยังพยายามเอากรอบความคิดของตัวเองมากำหนดให้คนอื่นคิดตามอยู่เลย 1. อะไรเป็นตัวกำหนดให้ จขกท คิดว่าของทุกอย่าง "ต้องมีขอบเขต"เหรอคะ 2. ขอบเขตที่ต้องมีนั้น อะไรเป็นขอบเขตของอะไรบ้าง     และเป็นขอบเขตที่สิ้นสุดในตัวของมันจริงๆ หรือขอบเขตที่สร้างขึ้นมาโดยมนุษย์ 3. จขกท มองอะไรคือความเป็นไปได้และอะไรคือความเป็นไปไม่ได้     แล้วสำหรับ จขกท อะไรคือปัจจัยที่ทำให้บางสิ่งเป็นไปได้ และบางสิ่งเป็นไปไม่ได้ 4. ถ้าจะแย้งและชี้ให้เห็นถึงจุดบกพร่องของสมมติฐานนี้ อย่าเพิ่งเรียกว่า     "ความจริง" สิคะ  ถ้ามันเป็นความจริงแล้วก็จะกลายเป็นว่าคุณไม่ยอมรับความจริงไปนะเออ  จากคุณ : นางงอมจักรวาล (ดิฉันขำขันมาก,,*) เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 54 20:52:07

ความคิดเห็นที่ 53 ทำไมถึงคิดว่าอวกาศไม่มีขอบเขตไม่มีที่สิ้นสุดล่ะคะ? ดิฉันคิดว่านี่เป็นเพียงแนวคิดหนึ่งแนวคิดเดียวจากร้อยๆพันๆแนวคิดเกี่ยวกับเอกภพ มันยังไม่ใช่ทฤษฎีที่พิสูจน์ได้ว่าเป็นความจริง หรือยังไม่ใช่แม้กระทั่งแนวคิดที่คนทั้งโลกเห็นพ้อง จากคุณ : ใครบอก? เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 54 20:58:13 A:114.180.77.16 X: TicketID:299625

ความคิดเห็นที่ 54 สงสัยที่บอกว่าจักรวาลขยายออกไปเรื่อยๆอ่ะครับ คือ ถ้ามันขยายออกไปเรื่อยๆก็เเสดงว่าต้องมีสิ่ง/พื้นที่ ที่ใหญ่กว่าจักรวาลครอบจักรวาลอยู่ใช่มั้ยครับ แต่ถ้าบอกจักรวาลไม่สิ้นสุดก็พอนึกภาพออกว่าพื้นที่ทั้งหมดเป็นพิ้นที่ของจักรวาลได้ ปล.ผมไม่ใช่เด็กวิทย์นะครับ แต่สงสัยมานานมากละ :) จากคุณ : Moonlight Kiss เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 54 00:11:31

ความคิดเห็นที่ 55 จริงๆ จขกท ก็ยึดติด ในกรอบความเชื่อ ที่เรียกว่า พระพุทธศาสนา นั่นแหละ แต่หลงคิดว่า นั่นคือที่สุด ของ ที่สุด พระพุทธศาสนา เน้นในเรื่องของจิต โดยเชื่อว่า สามารถ ใช้จิตสัมผัสความจริง หรือ รู้ได้ทุกอย่าง ถ้าผ่านการฝึกฝนในทางจิต ที่มากพอในแง่มุมหนึ่ง แต่สิ่งที่นอกเหนือจาก..จิตมนุษย์สัมผัสได้ อะไร คือ ข้อพิสูจน์ว่า สิ่งนั้น... ต้องไม่มี --- ศาสนา ก็เป็นกรอบความเชื่ออย่างหนึ่ง ...นั่นแหละ ... จากคุณ : The Rounder เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 54 11:07:36

ความคิดเห็นที่ 56 ศาสนามีแง่มุม ที่น่าสนใจ แต่จะกลายเป็น สิ่งที่ไร้ค่า ถ้าคนที่นับถือ เอามาใช้... ในทางที่ผิด v v http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X11347071/X11347071.html#25 จากคุณ : The Rounder เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 54 11:14:06

ความคิดเห็นที่ 57 ยอมรับว่ายังไม่มีอะไรยืนยันแน่ชัดว่าไม่มีที่สิ้นสุด แต่ขอดูหลักฐานที่ว่าสิ้นสุดหน่อย จากคุณ : หว่างฮั่น2011 เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 54 11:24:55

ความคิดเห็นที่ 58 รู้จักคำว่า อิฟินิตี้ไหมครับ จากคุณ : think4223 เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 54 14:33:42

ความคิดเห็นที่ 59 ทุกครั้งที่คุณ เจอขอบ แสดงว่า คุณจะเจอ สิ่งที่อยู่นอกขอบเสมอ แก้ไขเมื่อ 19 พ.ย. 54 14:35:57 จากคุณ : think4223 เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 54 14:35:38

ความคิดเห็นที่ 60 "สิ่งที่นอกเหนือจาก..จิตมนุษย์สัมผัสได้ อะไร คือ ข้อพิสูจน์ว่า สิ่งนั้น... ต้องไม่มี" เห็นด้วยครับ คุณ The Rounder จากคุณ : kk (jj kal) เขียนเมื่อ : 23 พ.ย. 54 15:56:06