ความคิดเห็นที่ 1 อวัยวะภายในของแพทย์จีนต่างกับแพทย์ปัจจุบันครับ มีชื่อกับรูปร่างเหมือนกัน การทำงานจะเป็นไปตามทฤษฎีแพทย์จีน ดังนั้นรู้ถึงม้ามไหม ก็รู้ครับ แต่รู้ในแบบแพทย์จีน ดังนั้นไปฟังหมอจีนมาแล้วอย่าสับสนครับ ส่วนศาสตร์นี้สากลยอมรับไหม ระดับโลกยอมรับมานานกว่าในไทยครับเพราะก่อนหน้านี้ไทยติดเรื่องจีนเป็นคอม ส่วนปัจจุบันแพทย์จีนในไทยมีการออกใบอณุญาตแล้วครับ ดังนั้นควรไปรักษากับหมอที่มีใบรับรองเท่านั้นนะ จากคุณ : donutpla2 เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 54 08:11:43

ความคิดเห็นที่ 2 ผมแนะนำว่า หาก จขกท ต้องการหาคำตอบที่มีประสิทธิภาพ ปราศจากการชี้นำ เจ้าของกระทู้ไม่ควรทำลิ้งค์ให้ไปอ่านคำตอบที่อื่นก่อน เพื่อจะได้ความคิดเห็นที่เป็นอิสระ และมีประสิทธิภาพ ส่วนตัวผมคิดว่า มีความเป็นไปได้ การเต้นของหัวใจ + จังหวะหนักเบา + สีหน้าเลือดฝาด ฯลฯ เหล่านี้เป็น input เอามาประมวลผล จากตาราง Database ที่ร่ำเรียนมา ควรจะบอกอาการอะไรได้บ้าง ประสบการณ์จริง เป็น Data หนึ่งได้ไหม ? น้องคนหนึ่ง เส้นเลือดหัวใจอุดตัน CAD จะเริ่มอาการปวดกราม ร้าวไปตามหัวไหล่ ตลอดแขนข้างซ้าย วันหลัง เจอใครเริ่มอย่างนี้ ก็น่าจะบ่งอาการของโรคนี้ได้ จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 54 08:18:28

ความคิดเห็นที่ 3 ลองอ่านบทความนี้ จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 54 08:22:39

ความคิดเห็นที่ 4 การเชื่อมโยงของจุดต่างๆ ที่ฝ่าเท้า จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 54 09:00:33

ความคิดเห็นที่ 5 ใช่ๆ มีให้แลบลิ้นด้วย ผมลืมไป ขอบคุณคุณ TinyNu ด้วยครับ จากคุณ : สมบัติดี เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 54 13:28:51

ความคิดเห็นที่ 6 เค้าบอกว่า คนมีตังก็กินยาบำรุงร่างกาย คนไม่มีตังก็ใช้วิธีแช่เท้าในน้ำร้อนถึงอุ่นแทนกันได้ค่ะ จากคุณ : แทบง เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 54 14:18:52

ความคิดเห็นที่ 7 เคยเจอกับตัวเอง อยากบอกว่าเขารู้ได้อย่างน่าตกใจมาก จนผมเองอยากไปเป็นลูกศิษย์เลยครับ จากประสบการณ์ส่วนตัว ผมเชื่อว่าศาสตร์นี้เป็นของจริงครับ จากคุณ : นาย X-MAN เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 54 18:20:00

ความคิดเห็นที่ 8 จับชีพจร มีหลายลักษณะ มีชีพจร ลอย ชีพจร ลอยกระจาย ชีพจร ลอยใหญ่แต่ช่วงกลางว่างเปล่า ชีพจร จม ชีพจร จมลึก ชีพจร จมตึงแนน่ ชีพจร เต้นช้า ชีพจร เต้นเชื่องช้า ชีพจร เต้นเร็ว(สู้ม่าย) ชีพจร เต้นเร็วกว่าสู้ม่าย ชีพจร ใหญ่ ชีพจร เล็ก(ซี่ม่าย) ชีพจร ส้น ชีพจร พร่องไม่มีแรง ชีพจร อ่อนนุมและจมลึก ชีพจร เล็กกว่าซี่ม่ายและอ่อนนุ่ม ชีพจร แกร่ง ชีพจร ลื่น ชีพจร สั่น ชีพจร ฝืด ชีพจร ตึง ชีพจร ตึงแน่น ชีพจรลอยตึง ชีพจร ลอยอ่อน ชีพจร เต้นช้าจังหวะหยุดไม่แน่นอน ชีพจร เต้นช้าจังหวะหยุดไม่แน่นอน ชีพจร เต้นเร็วจังหวะหยุดไม่แน่นอน แต่ละชีพจรก็จะบ่งบอกหลายๆอย่างได้ เดี้ยวนี้แพทย์แผนปัจจุบันหันมาเรียนแผนจีนเยอะขึ้นแล้วนะ แมะปกติใช้3นิ้วอ่ะนะ แมะซ้าย ก็หัวใจ ตับ  ไต(อิน) แมะขวาก็ปอด ม้าม ไต(หยาง) จากคุณ : เขียนบน nokia N73 (ถุงกระดาษเปื้อนน้ำตา) เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 54 20:31:57

ความคิดเห็นที่ 9 เพิ่งนึกขึ้นได้ เพื่อนผมคนหนึ่ง เขาสนใจวิชานวดดัดกระดูก เรียนๆไปก็ได้วิชาตรวจโรคพื้นฐาน คล้ายๆ หมอแมะ แต่เขาใช้นิ้วบีบคลึง บริเวณข้อต่อที่นิ้วมือข้างซ้ายหรือขวา ผมก็จำไม่ได้ ระหว่างนั้นถ้าเรารู้สึกเจ็บที่ข้อนิ้วไหน ให้เราบอกเขา แต่ละจุดจะเชื่อมโยงกับอวัยวะภายในต่างๆ ผมลองนึกถึงการตรวจของแพทย์แผนปัจจุบัน ที่ใช้วิธีเคาะหัวเข่า เพื่อตรวจการทำงานของระบบประสาท มาเทียบกัน ผมว่าการตรวจทั้งสองวิธี น่าจะมีความเป็นไปได้ครับ ปล. เสียดายทีผมไม่มีเวลาว่าง จึงไม่ได้ทดลองตรวจกับเพื่อนครับ จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 3 ธ.ค. 54 20:37:26

ความคิดเห็นที่ 10 ในทางการแพทย์แผนปัจจุบัน การดูผิวหนัง การดูตา การดูลิ้น และอื่นๆเพียงการ"มอง" เป็นหนึ่งใน4ของการตรวจร่างกายครับ การจับชีพจร เป็นส่วนเล็กๆหนึ่งในการตรวจอื่นๆแบบการ"คลำ" ดังนั้นไม่แปลกหากว่าจะใช้ได้ เพราะหลายโรคพอจะวินิจฉัยได้โดยการดูและคลำ แต่ไม่ใช่ทุกโรค ถ้าจะพิสูจน์ง่ายๆเรื่องความแม่นยำ อาจจะหาคนเป็นความดันสูงสัก10คน กับความดันปกติสัก10คนไปให้ทาย แล้วเทียบกับการวัดความดันปกติ ค่าความผิดพลาดให้ยอมรับได้ที่1คน (เพราะถือว่าเป็นการตรวจที่ง่าย ใช้เครื่องมือราคาถูก) หรือเอาคนที่เคยโดนตัดมดลูก สัก 10คน กับคนที่มดลูกอยู่ดี10คน ไปให้ตรวจ แล้วลองดูว่าจะมีเจอการวินิจฉัยว่าเลือดไม่ดี ประจำเดือนมาเป็นลิ่มๆในคนที่เคยโดนผ่าตัดไปแล้วสักกี่คน โรคทางตะวันตกกับทางแผนจีน ที่มาที่ไปไม่เหมือนกัน นิยามไม่ตรงกัน ถ้าจะมาเทียบกันก็ต้องหามาตรฐานเทียบด้วยครับ จากคุณ : หมอแมว เขียนเมื่อ : 4 ธ.ค. 54 17:53:06