ความคิดเห็นที่ 1 ผมเคยเจอแต่หมอที่นึกว่าคนไข้โง่น่ะสิครับ - -" จากคุณ : ECOS (thelegendofm) เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 02:10:16

ความคิดเห็นที่ 2 ไม่ได้เป็นหมอ แต่ขอตอบว่ามีครับ ตาม ตจว. ก็มี เคยเจอ 1. ผมกลับจากป่า มีอาการหนาว ๆ เลยไปหาหมอ (โรงพยาบาล ตจว. ใหญ่ และก็ดัง) ตอนนั้นพยาบาลเรียกเข้าไปนั่งรอหน้าห้องแล้ว (ยิ้มจะถึงเราแล้ว) ปรากฎว่า มีหญิงสูงอายุ (คนนี้มาเป็นประจำ) มาที่จุดคัดกรองโรค พยาบาลสอบถามอาการ คนไข้หญิงนั้นแจ้งแก่พยาบาลว่าคุณหมอนัด เพื่อให้มาเจาะเลือดตรวจ (งานเริ่มเข้า) พยาบาลบอกให้หมอตรวจและสั่งให้ไปเจาะเลือดก่อน ถึงจะไปได้ คนไข้ไม่ยอมท่าเดียว (คงอยากไปเจาะเลือดตรวจ) แล้วให้หมอวินิจฉัยโรค เสร็จในครั้งเดียว) เริ่มโวยวายว่ากลัวไม่มีเงินจ่ายหรือไง หมอออกมาดู และชี้แจง คนไข้ไม่ยอม ถามว่าหมอชื่ออะไร พร้อมกับเอาปากกามาจดชื่อหมอ แล้วก็เดินจากไปพร้อมกับบ่นไปด้วย ฝ่ายหมอที่เป็นผู้หญิง กระสับกระส่าย แล้วก็เดินจากไป ผม งง สิครับ งานนี้ อ้าวหมอก็หนีไปแล้ว รอมาตั้งนาน พอมาถึงคิวเรา ทำไมเป็นแบบนี้ (ผมเข้าใจหมอนะ) สักพักหมอก็มา สั่งไปเจาะเลือด บอกไม่เป็นไรหรอก จำได้แต่ว่ามีเชื้อเบียน ๆ นี่แหละ จำไม่ได้ กินยาไม่กี่วันก็หาย 2. ผมเองครับ ที่ไม่เชื่อหมอ ลูกสาวตัวน้อย ไม่สบายมาก็หลายวัน เย็นวันอาทิตย์น้ำมูกซักเยอะ ตัวร้อน ไม่หายซักที รีบพาไปคลีนิคเด็ก (มีหมอเด้กสองคน) หมอบอกว่าเป็นหวัดธรรมดา ให้ยามากินบอกว่าไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวก็หาย กินยาไปสองรอบ ตื่นเช้ามาอาการมีแต่เพิ่ม ตัดสินใจพาไปโรงพยาบาล ที่เดียวกับ ข้อ 1. ครับ รอคิวนานมากเพราะเด็กป่วยเยอะ แต่หมอตรวจแป๊ปเดียว ถามอาการ (วัดอุณภูมิก่อนแล้ว) เอาหูฟังแนบตามตัว หร้อมกับทำหน้าสงสัย แล้วก็เขียนใบอะไรก็ไม่รู้ บอกว่าไปเอ็กซเรย์ เอาฟิล์มเอ็กซเรย์มาให้หมอวินิจฉัย หมอบอกว่าลูกสาวเป็นโรคปอดบวม ต้องนอนโรงพยาบาล นี่แหละครับ การไม่เชื่อหมอ สองเรื่อง จากคุณ : แอ๊บแบ๊ว เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 02:29:04 A:125.27.125.71 X: TicketID:294750

ความคิดเห็นที่ 3 สวนลุมน่าจะดีกว่ามั่งครับ จากคุณ : hideto b1 เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 02:42:49

ความคิดเห็นที่ 4 เคยได้ยิน และประสบ เองบ่อยเรื่อง หมอ วินิจฉัย อาการโรคผิด  ตาย ก็เยอะ  รักษาไม่ถูกก็บ่อย  ท่านเก่ง แต่งานท่านก็มากเช่นกัน  งานมากย่อมมีโอกาสผิดพลาด  คนนะไม่ใช่เทวดา ถึงจะไม่ผิดพลาด แต่ ผมไม่อยากให้ความผิดพลาด เกิดขึ้นกับ คนในครอบครัวผมแน่นอน   อาชีพหมอ ก็แค่อาชีพหนึ่งที่ คุณๆเลือกจะเป็น แต่ไม่ได้หมายความว่า คุณจะฉลาดหรือสติปัญญาเหนือกว่า คนอาชีพอื่น   หัดฟังคนไข้ แล้วลองพิจารณาดูว่า อาจเป็นแบบที่เขาว่าไหม  ใครอยากเป็นหมอที่คนไข้รัก หรืออยากเป็นหมา ที่คนไข้สาปส่งลับหลัง  เลือกเอาครับ  ^^ จากคุณ : ปุถุชนเดินดิน เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 02:47:16

ความคิดเห็นที่ 5 เวลาเป็นอะไรที่หนักๆ เค้าจะหาหลายๆหมอครับ เพื่อเปรียบเทียบเพราะหมอแต่ละคนวินิจฉัยไม่เหมือนกันครับ บางทีวินิจฉัยเหมือนกันแต่การรักษาต่างกันครับ จากคุณ : harryoop เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 06:22:13

ความคิดเห็นที่ 6 เคยเจอ แต่ " หมอรู้ หมอเรียนมา "  เพื่อนผมเปนหมอหลายคน เพื่อบอกว่า อะไรที่หมอวินิจฉัยไป อาจะไม่ตรงก็ได้ ทั้งนี้คนไข้รู้สึกอย่างไรหรือสงสัย ให้ถามหมอหรือแย้งหมอบ้าง จะดีที่สุดครับ เพราะเรื่องบางเรื่องคนไข้จะรู้ดีกว่าหมอ เพราะมันเปนตัวของคนไข้เอง              ถ้า จขกท. เปนหมอมานานและอยู่ใน รพ.ชุมชน  และวันนึง ผมไปรักษา กับคุณหมอ ด้วยเหตุว่าผมปวดท้องบริเวรกระเพาะอาหาร แล้วคุณหมอบอกว่า เปนกระเพาอาหารอักเสบ  ให้ยาบรรเทากระเพาะอาหารมาทาน เกิดผมถามหมอไปว่า "เปนไปได้มั๊ยครับคุณหมอ ว่าผมอาจะจะเปนนิ่วในถุงน้ำดี"  ถ้าผมถามแบบนี้ หมอจะมีความรู้สึกเหมือนที่ ตั้งกระทู้มาหรือไม่ครับ                ฝากคุณหมอลองไปเช็คดูครับ ว่า คนเปนนิ่วในถุงน้ำดี แล้วหมอวินิจฉัยว่าเปนโรคกระเพาะกี่คนครับ ถ้าหาไม่เจอ ผมพอจะมี HN อยู่ครับ คงยังไม่ได้ทำลายออกจาก ระบบ เวชระเบียน จากคุณ : บองหลา เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 06:33:06

ความคิดเห็นที่ 7 ใครดูseriesเรื่องHOUSE มาบ้างละครับ หมอบ้านแกเจอประจำ เอาเข้าจริงๆแล้วไม่มีใครอยากไปเถียงหมอหรอกครับ เดี๋ยวจะโดนตอกหน้าหงายให้ไปเรียนแพทย์อีก6ปีแล้วค่อยวินิจฉัยตัวเอง แต่หมอก็คน คนพลาดได้ ทำงานมากๆเจอคนไข้เยอะๆก็สับสนได้ และคนไข้มีสิทธิ์หาsecond opinionเสมอ ไม่ว่าจะจากInternetหรือการค้นคว้า สอบถามหมอคนอื่น ถ้าเอามาDiscussได้กับหมอ ก็อาจช่วยลดโอกาสผิดพลาดได้ จากคุณ : Zeichnung (Zeichnung) เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 07:20:30

ความคิดเห็นที่ 8 ไม่เคยเถียงครับ แต่เจอแบบพลาด ผมหูอื้อมาหลายวัน... เลยไปหาหมอ...หลังจากหมอตรวจเสร็จ หมอบอกว่าเป็น แก้วหูฉีก ต้องรักษาด้วยการผ่าตัด... ผมนี่ช๊อก...ถอยรถออกจากซองเจ็ดรอบไม่ผ่าน เอารถจอดอีกหลายรอบกว่าจะได้... อีกวันขอไปหาอีกหมอเถอะ... เป็นหมอเฉพาะทางของโรงพยาบาลนครปฐม ใจดีมาก ไปหาที่คลินิค สรุป....ขี้หูตัน แคะขี้หูออก เสร็จแล้ว 150 บาท...จบข่าว... จากคุณ : seto16 เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 08:17:46

ความคิดเห็นที่ 9 ไม่เคยคิดว่ารู้ดีกว่าหมออ่ะครับ  แต่ถ้าสงสัยก็จะถามคุณหมอไปเลย คุณหมอก็จะอธิบายให้ฟังว่าที่เราสงสัยนั้นมีแนวโน้มมั๊ย  บางคุณหมอเห็นเรากังวลก็ตรวจเพิ่มเพื่อความสบายใจของคนไข้ บางครั้งคุณหมอว่าควรตรวจเพิ่มเราก็ยินยอมเพื่อความชัวร์ แต่มีบางครั้งที่เราอยากรู้ และคุณหมอรำคาญที่จะตอบ เราก็อาศัย google นี่แหละ เป็นคุณหมอ เว็บรวมยา เป็นคุณเภสัช ฐานข้อมูลการวิจัยทางการแพทย์ เป็นแหล่งความรู้เพิ่มเติม จากคุณ : arakball เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 08:22:59

ความคิดเห็นที่ 10 แบบที่ เวลาเราวินิจฉัยไปแล้ว เค้าแย้ง ไม่ยอมรับ และอวดภูมิออกมาบ้างไหมครับ >>>>>>>>>>>>>>  คำพูดของ จขกท ในฐานะคุณหมอ สะท้อนให้เห็นจิตใจที่คับแคบ ไม่ยอมรับฟังคนไข้ เพราะไปตั้งธงว่า ตนเองรู้มาก ครับ ที่ถูกแล้ว หมอก็คือคนที่เรียนมา แต่สิ่งที่นอกเหนือจากการเรียนของคุณหมอ นั่นคือ ข้อมูลข่าวสาร ที่มัน update ทุกๆวัน ถ้าคุณหมอ งมงายกับสิ่งที่ตนเรียน ละเลยไม่ยอมฟัง คนไข้บอกเล่า ข้อมูลข่าวสารใหม่ๆ เสียบ้าง ถามจริงๆ เถอะครับ คุณหมอจะมีช่องทางไหน ที่จะรับรู้บ้างครับ นั่งเทียน หรือ ? คนฉลาด มีความรู้ จะยิ่งเพิ่มเติมความฉลาดได้ เมื่อเปิดใจรับฟัง ครับ   จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 08:38:04

ความคิดเห็นที่ 11 บอกก่อนว่า ผมไม่ได้มีอคติกับหมอทุกคน ตรงกันข้ามผมกลับรู้สึกชื่นชมคุณหมอที่ทำหน้าที่ รักษาชีวิตคนไข้ แต่ผมผิดหวัง เมื่อเจอหมอที่ไม่ยอมรับฟังคนไข้ คุณแม่ผมทำตัวเป็นเด็กดี เอะ อะ อะไรก็อ้างว่า หมอบอก ในขณะนั้นยา Avandia กำลังมีปัญหากับคนไข้ในอเมริกา เพื่อนหมอที่อเมริกาเตือนผมให้บอกคุณแม่ว่า ให้บอกหมอประจำตัวของท่าน ซึ่งไม่ใช่หมอกิ๊กก๊อก แต่เป็นหมอที่มีชื่อเสียงมากคนหนึ่ง   เมื่อคุณแม่เล่าเรื่องปัญหาของ Avandia ที่อย.อเมริกากำลังจะห้ามใช้ เชื่อไหมครับ   หมอประจำตัวตอบว่า "อย. ของเรายังไม่ห้าม"   หลังจากนั้น ไม่นานนักคุณแม่ผมเสียชีวิต จากอาการหัวใจวาย ซึ่งเป็นอาการสำคัญ ที่เพื่อนผมเตือนไว้ก่อน จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 08:43:42

ความคิดเห็นที่ 12 หมอจบใหม่มีโอกาสวินิจฉัยพลาดเยอะครับ เรียนมาก็จริงแต่การจะวินิจฉัยให้ถูกต้องมันต้องอาศัยประสบการณ์ด้วย แม้ตอนเรียนจะเคยอยู่วอร์ดมาก็ตามแต่มันไม่พอมันต้องเก็บชั่วโมงบินเพิ่มอีกเยอะกว่าจะเก่ง สังเกตดูถ้าเป็นหมอจบใหม่จะค่อนไปทางโอเวอร์ไดแอคคือวินิจฉัยโรครุนแรงกว่าความจริงเวลาใช้ยาก็จะอัดหลายตัวซึ่งบางครั้งไม่จำเป็น แต่อย่างว่าแหละ เดี๋ยวนี้คนไข้มันคือพระเจ้าไปแล้วเอะอะอะไรก็ฟ้องหมอก็เลยต้องเซฟตัวเองบ้าง ส่วนหมอเฉพาะทางนี่โดยมากโรคมันมาทางนั้นแล้วเค้าก็มักไม่ค่อยวินิจฉัยผิดเมื่อเทียบกับหมอจบใหม่ซึ่งต้องดูโรคครอบจักรวาลโอกาสวินิจฉัยผิดก็มากกว่า  ........... ส่วนเรื่องคนไข้หัวหมอนี่ก็อีกเรื่องมีทุกที่ยิ่งพวกมีแบ็คดีๆ เช่นลูกเรียนมาสูงๆ เข้าไปอีกนี่พูดให้จบยาก เจอแบบว่าลูกให้หยุดกินยาเบาหวาน ยาความดันเพราะกลัวไตเสื่อมก็หยุด บอกให้กินต่อก็ไม่ยอม ถามว่าทำไมเชื่อลูกก็บอกว่าลูกจบโทเคมีนะกินยาเยอะเดี๋ยวไตพังเงี๊ยะ พูดแล้วพูดอีกว่าน้ำตาลก็สูงไม่กินยาแล้วจะลดยังไงก็เถียงอยู่นั่นแหละว่าไตจะพัง แบบนี้บ่อยครับพวกโรคเรื้อรัง ..... แต่ผมว่ายังไงต่างจังหวัดก็คงเจอพวกหัวหมอน้อยกว่าในโรงพยาบาลใหญ่ๆ เพราะแถวๆ บ้านนอกคนไข้ก็ยังมองว่าหมอคือคนที่มีความน่าเชื่อถือยำเกรงอยู่ดีถ้าไม่สะเพร่าจนคนไข้ตายโดยมากก็ไม่ค่อยมีปัญหา ........ พูดยากครับ เรื่องแบบนี้ เห็นใจทั้ง 2 ฝ่าย จากคุณ : Always Red เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 08:45:58

ความคิดเห็นที่ 13 หมอไม่แน่ว่าจะเก่งไปทุกเรื่องครับ บางทีถนัดเรื่องนั้นไม่ถนัดเรื่องนี้ แต่หมอมักอีโก้สูงหรือมีความรับผิดชอบสูงมากๆ มักจะส่งเคสให้หมอคนอื่นช่วยวินิจฉัยเมื่อจนปัญญาจริงๆ คนไข้ต้องพยายามวินิจฉัยหมออีกทีว่าหมอตรวจถูกหรือเปล่า หรือพยายามเปลี่ยนหมอหลายๆคนเพื่อยืนยัน คนไข้ก็ตามปกติครับ ร้อยพ่อพันแม่ ไม่แปลกที่จะเจอคนรู้มากหรืออีโก้สูงเหมือนกัน จากคุณ : เจกัน เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 09:31:00 A:58.11.233.80 X: TicketID:204597

ความคิดเห็นที่ 14 ผมว่า พอๆ กันละครับ ระหว่าง หมอ VS คนใข้  แต่ที่เห็นๆ เวลาหมอสั่งยา ทำไมต้องเขียนให้อ่านไม่ค่อยรู้เรื่องด้วย จะมีหมอคนไหนรายมือสวยๆ บ้างมั๊ย ผมยังไม่เคยเจอ ผมอ่าน และแปลภาษาอังกฤษได้ แล้วก็พอรู้ศัพท์ทางการแพทย์ และชื่อยาอยู่บ้าง ยังอ่านแทบไม่ออกเลย อย่างนี้จะเรียกว่าคนใช้รู้มากไปหรือเปล่าครับ ผมสงสัย แบบขำๆ นะครับ ไม่ได้ซีเรียส (แต่ผมก็มักทำเป็นโง่กับหมอไว้ก่อนล่ะครับ) จากคุณ : E22QV เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 09:33:39

ความคิดเห็นที่ 15 เจอหมอผู้หญิงจบใหม่มาคนอย่างซวยเลยครับ พอดีกลับบ้านช่วงสงกรานต์เมื่อ 2-3ปีก่อน ตอนนั้นผมรู้สึก มีไข้แล้วทานอาหารไม่มีรสชาติที่ขาด้านบนส่วนในมีปื้นแดงๆเกิดขึ้นรู้ได้ทันทีว่าผมป่วยเป็น ไข้เลือดออกแน่ๆพอไปหาหมอที่โรงบาลหมอบอกว่าน่าจะเป็นโรคฉี่หนูไปดินลุยน้ำในนา มารึเปล่า เ่อ่อ-*-ผมเพิ่งมาจากกรุงเทพเนี่ยนะที่บ้านก็ไม่ได้ทำนา ผมเลยบอกว่าที่ขาผม ไม่รู้เป็นอะไรมีปื้นแดงๆเกิดขึ้นหมอ(ผู้หญิง)เลยเอาผ้ามาคลุมขาแล้วดูส่วนที่เป็นปื้นแดง แล้วหมอก็ให้ลงจากเตียงไปนั่งแล้วบอกออกมาว่า ออไม่มีอะไรหรอกแค่อ้วนขึ้นแล้วลด ลงมันเลยมีรอยแตกที่ขา ผมงี้ปวดหัวมิ้งเลยดูตรงใหนฟะนั่น ตูให้ดูปื้นแดงๆที่ขาไม่ใช่รอยแตกเล็กๆนั่น-*- ผมเลยบอกว่าผมไม่ได้เป็นไข้เลือดออก หรือครับหมอบอกหมอเป็นหมอนะ เลยไม่เถียงตอบครับๆเข้าห้องพิเศษไป แล้วก็เจาะเลือดไปตรวจ พยาบาลที่มาตรวจเลือดผมดูตาแล้ววัดไข้บอกว่าน้องเป็นไข้ เลือดออกนั่นแหละเดี๋ยวผลตรวจออกมาหมอก็เชื่อเอง(แสดงว่านินทาตูซินั่นไม่รู้ซะละ พยาบาลคนนี้ฉีดยาตูตั้งแต่ตูอยู่ปฐมจบบ้านอยู่หลังบ้านตูเนี่ยแหละตอนจบมาใหม่ๆสวย มาก) วันที่ 2 ให้พนักงานเอาตัวผมไปตรวจอีกบอกว่าไม่น่าใช่โรคฉี่หนูน่าจะเป็นไข้หวัด ใหญ่เพราะไม่มีอาการคนเป็นโรคฉี่หนูเลยผมฟังพยาบาลมาแล้วเลยเฉยไว้ อืมๆ และแล้ววันที่ 3 ผลตรวจออกมาได้เป็นไข้เลือดออกซะทีเฮ้อ..พยาบาลคนเดิมเดินมา บอกหมอเชื่อว่าเป็นไข้เลือดออกแล้วนะเพราะผลตรวจออกมาแล้ว เอาน้ำเกลือมา เปลี่ยนแล้วเจาะเลือดที่นิ้วทุก ช.ม.(เจ็บจิอ๋าย-*-หลับอยู่พยาบาลก็ไม่เว้นไม่รู้หมอแค้นใจเลยสั่งแบบนี้รึเปล่า) แล้วให้ฉี่ใส่ขวดเพื่อดูว่ากินน้ำเข้าไปเท่าไหร่ฉี่ออกเท่าไหร่ สรุปได้อยู่้ห้องพิเศษอีก 7 วันได้ออกจากโรงพยาบาล ถ้าหมอไม่บอกว่า หมอเป็นหมอ นะแต่ถามว่าทำไมคิดว่าตัวเองเป็นไข้เลือดออกละจะได้ตอบว่าเคยเป็นไข้เลือดออกมา 4-5 ครั้งแล้วอาการแบบนี้แหละจำได้ จากคุณ : เวย์คุง เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 10:42:53

ความคิดเห็นที่ 16 พี่ TinyNu  ผมไม่ได้เป็นหมอครับ เรียนสาย Communication art หนะครับ จากคุณ : Nanoดะ เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 21:23:46

ความคิดเห็นที่ 17 อิฉันเป็นคนไข้มาตลอดชีวิต  ตอนนี้ก็อยู่โรงบาล  เบื่อมากเลย  โชคดีที่หมอสนิทกันอนุญาตให้เล่นเนท  (คิดดูเข้า ๆ ออก ๆ จนสนิทกัน) ^^   เลยถามหมอให้  ท่านว่า  เจอเยอะคนไข้รู้มากและชอบเถียง  โดยเฉพาะพวกที่เป็นโรคธรรมดาสามัญ  (ท่านนินทาเล็กน้อย รู้แล้วมาหาหมอทำไม  เปลืองตังค์) ต้องฟังท่านเล่าสนุกดี  พอดีอิฉันอาการไม่สู้ดีท่านเลยหาเรื่องเล่ามั๊ง   ท่านว่า  ตอนเป็นหมอมือใหม่ ไฟแรง  เจอคนไข้มือโปร  โดนต้อนหนักเหมือนกัน  ต้องใช้วิชาว่าด้วย  ชื่นชมคนไข้  แบบเก่งรอบคอบ  คนไข้จะได้ไม่ต่อล้อต่อเถียงกลับไปเร็ว ๆ และรีบไปหาความรู้เพิ่มมารับมือ  บางอันนอกตำรา เดี๋ยวนี้หมอมือเก่าแล้ว  มีวิธีใหม่คือ  บอกไปตรง ๆ ว่าคนไข้รู้แล้ว  ไม่ต้องรักษากลับบ้านได้เลย ^^  หมอฝรั่งโหดร้ายได้เสมอ ส่วนตัวในฐานะคนไข้ที่ดีมาก ๆ  ชอบถามนะคะ  ทำไม  เพราะอะไร  แบบไหน  อย่างไร กับใคร  ถามไปเถอะ  ไม่ต้องเสียตังค์  คนตอบก็เป็นหมอค่าตัวแพง  อยู่ดี ๆ ท่านคงไม่มานั่งตอบคำถามช่างซักแน่ ๆ  แต่ถ้ารู้จักคุยขอความรู้  จะได้ความรู้ดี ๆ มากมาย ได้ความเมตตามาก ๆ จากหมอประจำที่รักษาเราค่ะ  เหมือนที่เราถาม ๆ หนะเพราะต้องการดูแลตัวเองดี ๆ  สร้างความสนิทสนม  การรักษาก็คล่องขึ้นด้วยแหละค่ะ Health is wealth. จากคุณ : gift is a present เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 54 13:05:06

ความคิดเห็นที่ 18 คนทำงานเก่งคนทำงานไม่เก่งมีเหมือนกันทุกวงการ หมอเองก็ใช่ว่าจะทำงานในหน้าที่หมอได้ดีได้เก่งกันทุกคน จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมคนไข้จึงต้องควรแย้งหมอบ้างและหมอเองก็ควรฟังคนไข้บ้าง ป.ล.เคยเจอแต่หมอคิดว่าคนไข้โง่เหมือนความเห็นข้างบน จากคุณ : คนไข้แสนรู้ เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 54 09:51:03 A:114.180.77.16 X: TicketID:299625