ความคิดเห็นที่ 1 การทดลองเบื้องต้น เพื่อทดสอบประสิทธิภาพของ EM อีเอ็ม ในการบำบัดน้ำเสีย คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 6 – 16 ธันวาคม 2554 โจทย์วิจัย : เชื้อจุลินทรีย์ที่ประสิทธิภาพ หรือ อีเอ็ม EM (effective microorganism) สามารถจะบำบัดน้ำเสีย ให้มีคุณภาพดีขึ้น เช่น เพิ่มปริมาณค่าออกซิเจนที่ละลายในน้ำ ได้จริงหรือไม่ และความสามารถในการบำบัดน้ำเสียดังกล่าว (ถ้ามี) มาจากการทำงานของเชื้อจุลินทรีย์ในน้ำเสีย หรือมาจากผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่เชื้อสร้างขึ้นระหว่างนำมาขยายด้วยกากน้ำตาลก่อนเอาไปใช้ ทดสอบสมมติฐาน : อีเอ็มสามารถทำให้น้ำเสียที่มีปริมาณออกซิเจนละลายในน้ำต่ำ ให้มีค่าออกซิเจนและค่าปัจจัยอื่นๆ ที่ชี้บ่งคุณภาพของน้ำ เพิ่มดีขึ้นได้ภายในหนึ่งสัปดาห์ สถานที่ทดลอง : ห้อง 103 อาคารคลุ้ม วัชโรบล ภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ จากคุณ : JD300 เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 10:36:12

ความคิดเห็นที่ 2 วิธีการทดลอง 1. เก็บน้ำเสียจากบริเวณที่มีการท่วมขังในสถานการณ์น้ำท่วมใหญ่ในปัจจุบันมา 80 ลิตร (ถังทึบแสงขนาด 20 ลิตร 4 ใบ) ใส่น้ำเต็มถังและปิดฝาขณะขนย้ายเพื่อป้องกันการละลายของออกซิเจนในอากาศลงไป 2. ผสมน้ำเสียเข้าด้วยกัน ตวงใส่โหลแก้วขนาด 2 ลิตร โหลละ 1 ลิตร จำนวน 45 ใบ 3. จัดแบ่งโหลน้ำเสียเป็น 3 ชุดการทดลอง คือ ชุดควบคุม (C ไม่ใส่อีเอ็ม) ชุดน้ำอีเอ็ม (E ใส่อีเอ็มที่เตรียมจากการนำหัวเชื้ออีเอ็มที่เป็นที่นิยมยี่ห้อหนึ่ง มาขยายเพิ่มด้วยกากน้ำตาลตามปริมาณที่กำหนด เป็นเวลา 2 วัน) และชุดน้ำอีเอ็มปลอดเชื้อ (W ใช้น้ำอีเอ็มที่ขยายแล้ว มากรองเอาเชื้อออกด้วยกระดาษกรองเนื้อละเอียดสูง) ชุดการทดลองละ 3 ซ้ำ 4. จัดวางชุดการทดลองเรียงตามลำดับวันที่จะเก็บตัวอย่างน้ำไปตรวจ คือ ชุดวันที่ 0 (วันแรก) 1 วัน 2 วัน 4 วัน และ 7 วัน โดยใช้ตารางสุ่มในการวางตำแหน่งของโหลน้ำเสีย เพื่อให้แสงจากหลอดไฟขนาด 60w ที่ฉายให้วันละ 12 ชั่วโมงสามารถกระจายได้ทั่วถึงโดยสุ่ม เปิดฝาขวดทิ้งไว้เผื่อให้น้ำสัมผัสกับอากาศ 5. ในแต่ละครั้งที่เก็บตัวอย่างน้ำไปตรวจ จะวัดคุณภาพน้ำเบื้องต้นด้วยการวัดค่า DO (dissolved oxygen คิดหน่วยเป็นมิลลิกรัมต่อลิตร) ค่า pH (ความเป็นกรดด่าง) และค่าอุณหภูมิน้ำ ด้วยหัวตรวจอิเล็กทรอนิกส์ แล้วนำมาถ่ายรูปกับฉากหลังฟิวเจอร์บอร์ดสีขาว 6. จากนั้นแบ่งตัวอย่างน้ำไปตรวจค่า BOD ซึ่งจะต้องใส่สารเคมีเพื่อตรึงออกซิเจนในน้ำก่อน น้ำที่เหลือนำใส่กระบอกส่งไปหน่วยงานมาตรฐานที่รับตรวจคุณภาพน้ำ โดยขอตรวจค่า BOD, COD, DO (ด้วยวิธีไตเตรต) ค่าไนเตรตอินทรีย์ในน้ำ และค่า TSS (total suspended solid ของแข็งที่แขวนลอยอยู่ในน้ำ เพื่อดูความสามารถในการตกตะกอนของอีเอ็มให้น้ำใสขึ้น) 7. นำผลที่ได้มาวิเคราะห์หาค่าเฉลี่ยและค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานเพื่อวิเคราะห์ประสิทธิภาพของอีเอ็ม จากคุณ : JD300 เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 10:36:53

ความคิดเห็นที่ 3 (ซ้าย) การจัดชุดทดลองสำหรับแต่ละวันที่เก็บตัวอย่างน้ำ แบ่งเป็น 3 ชุด คือ ชุดควบคุม ชุดใส่อีเอ็ม ชุดใส่น้ำอีเอ็มปลอดเชื้อ (ขวา) ชุดการทดลองทั้งหมดสำหรับการเก็บตัวอย่างน้ำ 5 ครั้งใน 1 สัปดาห์ จากคุณ : JD300 เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 10:38:21

ความคิดเห็นที่ 4 (ซ้าย) ตัวอย่างน้ำเสียที่เก็บมาจากพื้นที่น้ำท่วม นำมาผสมกันในถังใหญ่ก่อนแบ่งใส่โหล (ขวา) น้ำอีเอ็มหลังจากนำมาเลี้ยงขยายด้วยกากน้ำตาลแล้ว ในหลอดเป็นน้ำอีเอ็มที่ผ่านการกรองเชื้อทิ้งไป จากคุณ : JD300 เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 10:39:39

ความคิดเห็นที่ 5 (ซ้าย) แบ่งตวงน้ำเสียใส่โหลแก้ว โหลละ 1 ลิตร (ขวา) นำไปจัดวางตามชุดการทดลอง สุ่มตำแหน่งในการวางโหลโดยตารางเลขสุ่ม จากคุณ : JD300 เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 10:40:49

ความคิดเห็นที่ 6 (ซ้าย) เติมน้ำอีเอ็มลงในน้ำเสียตามชุดการทดลอง (ขวา) เปิดไฟให้แสงสว่างเลียนแบบธรรมชาติ จากคุณ : JD300 เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 10:42:03

ความคิดเห็นที่ 7 (ซ้าย) วัดค่าปัจจัยคุณภาพน้ำด้วยหัวตรวจอิเล็กทรอนิกส์ (ขวา) ถ่ายรูปเพื่อดูการเปลี่ยนแปลงของสีและความขุ่นใสของน้ำ จากคุณ : JD300 เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 10:43:06

ความคิดเห็นที่ 8 (ซ้าย) แบ่งตัวอย่างน้ำสำหรับส่งตรวจใส่ขวด BOD เติมสารเคมีต่างๆ เพื่อตรึงปริมาณออกซิเจนในน้ำ (ขวา) เก็บตัวอย่างน้ำที่เหลือใส่กระบอกพลาสติก ส่งไปวิเคราะห์ค่าคุณภาพน้ำ ใช้เวลา 3-5 วันในการวิเคราะห์แต่ละชุด จากคุณ : JD300 เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 10:44:36

ความคิดเห็นที่ 9 ตอนนี้ก็ต้องอดใจรอการทดลองในเสร็จครบหนึ่งสัปดาห์และก็รอผลการวิเคราะห์ออกมาว่าเป็นอย่างไรบ้าง น้ำเสียที่ได้มานี้ไม่ค่อยมีกลิ่นเท่าไหร่เพราะไม่ใช่ประเด็นหลักของการทดสอบ แต่ก็เหลืองขุ่นใช้ได้และก็ค่าออกซิเจนที่ละลายในน้ำก็ต่ำกว่า 3 mg/l นับได้ว่าเป็นน้ำเสียตามนิยามทั่วไป จากคุณ : JD300 เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 10:46:47

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ มากๆค่ะ ช่วยให้ข้อเท็จจริงกับชาวบ้าน จากคุณ : mint_la เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 11:02:56

ความคิดเห็นที่ 11 โหวตค่ะ! จากคุณ : mint_la เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 11:03:12

ความคิดเห็นที่ 12 ตั้งใจรอเช่นกัน จากคุณ : เวย์คุง เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 11:47:25

ความคิดเห็นที่ 13 อยากให้เปิดเผยผลการทดลองอันเก่าครับ ว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่ว่าจะแง่ไหน การไม่เปิดเผยแบบนี้ จะทำให้คนคิดไปได้ว่า ทางจุฬาทำออกมาแล้วไม่ได้ผลตาม ที่ตัวเองต้องการ จึงต้องมาเริ่มทดลองใหม่ การพูดมากว้างๆ ว่ามีปัญหาแบบนี้ มันเหมือนนักการเมืองหมกเม็ดมากไปหน่อยครับ "เรา" เป็นนักวิทยาศาสตร์ ตามจรรยาบรรณแล้ว ผลลัพท์ที่ได้น่าจะเปิดเผยออกมา และมาวิเคราะห์กันว่า มันพลาดตรงไหนมากกว่า จากคุณ : outsider_from_within เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 12:27:28

ความคิดเห็นที่ 14 หลังจากอ่านแล้ว เท่าที่ผมเข้าใจคือ ถ้าเอานิยามคำว่าน้ำเสียตามทฤษฏีเป๊ะ ถือว่า อีเอ็มบอลใช้ไม่ได้ผล เพราะมีปริมาณออกซิเจนต่ำไป แต่ถ้าเอานิยามน้ำเสียตามที่ชาวบ้านรับรู้คือ น้ำสีดำ สกปรก ที่ส่งกลิ่่นเหม็น ถือว่าบำบัดได้ค่อนข้างดี เพราะน้ำดำน้อยลง กลิ่นเหม็นหายไป แต่ความสกปรกยังอยู่ ดังนั้นผมคิดว่าขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ที่เอาไปใช้นะ หากเอาไปใช้เพื่อให้บ้านมีกลิ่นเหม็นน้อยลงเพื่อให้อาศัยได้ ก็โอเค แต่ถ้าหวังจะให้น้ำสะอาดเพื่อเดินลุย เดินแช่ได้ก็ไม่ควรนำมาใช้ จากคุณ : ผมไม่ใช่คนดี แต่เป็นคนธรรมดา เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 12:58:32

ความคิดเห็นที่ 15 ขอเอาใจช่วยครับ แต่ถึงผลออกมาแบบใหนเดี๋ยวก็มีเสียงแย้งตามๆ มาเหมือนสมัยทดลอง em ball - หัวเชื้อ em ของใคร ถ้าไม่ใช่ของ บ. ฉัน ก็ใช้ไม่ได้ (ขอบอกตรงๆ ว่า ถ้าลองทุก em ทุกเจ้า ชาติ็นี้ก็ไม่ครบ - -") - ขยายดีหรือเปล่า ขยายเป็นมั๊ย... ( ...โทษตรูอี๊ก) - โหย... ทดลองแค่นี้เหรอ.... สภาพมันไม่เหมือนก๊านนนน ในธรรมชาติมันมีตัวแปรเย้ออออ..... ( จากคุณ : บัตรผ่านจริงๆ นะเออ เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 13:02:20 A:110.164.189.193 X: TicketID:337301

ความคิดเห็นที่ 16 ขอเอาใจช่วยครับ แต่ถึงผลออกมาแบบใหนเดี๋ยวก็มีเสียงแย้งตามๆ มาเหมือนสมัยทดลอง em ball - หัวเชื้อ em ของใคร ถ้าไม่ใช่ของ บ. ฉัน ก็ใช้ไม่ได้ (ขอบอกตรงๆ ว่า ถ้าลองทุก em ทุกเจ้า ชาติ็นี้ก็ไม่ครบ - -") - ขยายดีหรือเปล่า ขยายเป็นมั๊ย... ( ...โทษตรูอี๊ก) - โหย... ทดลองแค่นี้เหรอ.... สภาพมันไม่เหมือนก๊านนนน ในธรรมชาติมันมีตัวแปรเย้ออออ..... (= = รู้จักสถานการณ์จำลองมะงับ ก็ย่อสัดส่วนมาจากของจริงนั่นแหล่ะ) - โหย...ไม่ต้องทดลองหรอกแบบนี้ คนมันไม่เชื่อก็หาทางมาบิดเบือนให้ผลออกมาไม่ดีอยู่ดีแหล่ะ... ( อ่า... ทำไมท่านไม่ทำออกมาเองเลยล่ะ) - โจมตีแบบนี้เพราะกลัวจะเด่นเกินหน้านะซี่่..... (อ่า.... ถ้าเกินหน้าไม่เท่าไหร่ครับ ถ้าเกินตาไปละก็... ล้านแน่ๆ) me/นั่งรอฟังผล ทำตาปริบๆ จากคุณ : บัตรผ่านจริงๆ นะเออ เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 13:04:38 A:110.164.189.193 X: TicketID:337301

ความคิดเห็นที่ 17 รอชม ปล. 1. น้ำเสียใสจัง นำมาจากตรงไหน เก็บอย่างไร น่าจะอธิบายเพื่อเติมให้คล้ายๆ หับ Materiel method นะครับ ปล. 2. EM น้ำหมัก 2 วัน จริงๆ เหรอ? ใช้แนวคิดอย่างไร ถึงหมัก EM เพียง 2 วันก่อนนำไปใช้ จากคุณ : ช้างยิ้ม เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 13:34:07

ความคิดเห็นที่ 18 ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าผลจะออกมาเป็นยังไง แต่เรื่องนี้ เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์จากผู้ผลิตหลายๆ ราย คาดเดาได้เลยว่าต้องมีการออกมาโต้แย้งวิธีการทดสอบ และผลการทดลองแน่นอนครับ จากคุณ : suw เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 13:49:37

ความคิดเห็นที่ 19 เห็นการทดลองแล้วนึกถึงตอนเรียน lab eco เลยค่ะอาจารย์ >< รอฟังผลการทดลองอยู่เหมือนกันค่ะ อยากทราบข้อมูลเพิ่มเติมค่ะ ว่า หัวเชื้อที่นำมาทดสอบเป็น "หัวเชื้ออีเอ็มที่เป็นที่นิยมยี่ห้อหนึ่ง" อันนี้เป็นเชื้อที่เคยมีรายงานว่า "ได้ผล" จากการใช้ในพื้นที่จริงมาก่อนหรือเปล่าคะ? และเป็นเชื้อที่ทางหน่วยงานต่างๆ ทั้งทางราชการและจิตอาสา นำไปแจกจ่ายให้ผู้ประสบอทุกภัยในครั้งนี้หรือไม่คะ? จากคุณ : group A Rh negative เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 14:01:30

ความคิดเห็นที่ 20 รอดูผลด้วยคนครับ จากคุณ : deepsnows เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 14:18:31

ความคิดเห็นที่ 21 ทำที่ไหนครับนั่น Gen Sci หรือครับ แหม จริงๆ ค่าวิเคราะห์ ก็เอาเป็น blind test ให้นิสิต ซัก 2-3 คนทำแล้วเปิด Lab direction ก็น่าจะได้นะครับ 5555 รอดูๆ จากคุณ : pinestand เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 15:03:24

ความคิดเห็นที่ 22 ^ ตึกคลุ้มที่ติดกับตึก gem อ่ะครับ ชั้น1-2 เป็นของ bio 3-4 marine 5-7 biochem ปล. หัวเชื้อนี่ ตอนนี้วางอยู่ใต้ sci รึเปล่าครับ เห็นกองอยู่หลายแกลลอนมาก จากคุณ : BC@CU เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 15:45:27

ความคิดเห็นที่ 23 อ่อ ทำที่ห้อง Lab ภาค Bio นี่เอง จากคุณ : pinestand เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 15:55:53

ความคิดเห็นที่ 24 คห 13 ผลการทดลองเก่า มี 2 อันครับ อันแรกทำกันง่าย 3 ถังเอง แต่ยังออกแบบไม่ดีนักเพราะใช้ถังทึบทำ (อาจารย์เค้าหวังว่าจะเหมือนน้ำเน่าจริงๆ ที่ไม่มีแสง) ผลออกมา ชุดอีเอ็มแย่มากเมื่อเทียบกับ control ... แต่รับรองว่าเปิดเผยไปก็โดยตีตายเลย ส่วนอีกอันนั้น ออกแบบการทดลองดีมาก มีการเก็บค่าหลายอย่าง ก็ติดปัญหาสิทธิทางปัญญา Intellectual Property เนื่องจากได้รับการสนับสนุนจากบริษัทเอกชน เลยยังเปิดเผยผลไม่ได้ ... ผมเอง ก็ยังไม่เคยผลการทดลองชุดนี้เลย น่าเสียดาย สุดท้ายเลยต้องลงมือทำกันเองอย่างที่เห็นน่ะครับ คห 14 คิดคล้ายๆ กันครับ แต่จากที่คุยกับหลายๆ คน พบว่ามันมักจะได้ผลไม่กี่วันเองด้วย หลังจากนั้นกลิ่นก็กลับมา / ลงไปดูพื้นที่สภาพน้ำท่วมจริงๆ พบว่ามันทำได้ยากมากด้วย เพราะใส่ไปวันนี้ เดี๋ยววันถัดไปมันก็มีน้ำเสียมวลใหม่แทรกซึมเข้ามาแทนที่อยู่ดี คห 16 น่านนน นะสิ  :-) คห 17 จากที่ลงพื้นที่น้ำท่วม 2-3 ครั้งที่ดอนเมือง มันก็น้ำประมาณนี้แหล่ะครับถ้าตักขึ้น ไม่ได้น้ำขุ่นดำอย่างที่มองลงไปซึ่งน่าจะมาจากพื้นมากกว่า / พื้นที่เก็บ ก็เป็นของแถวบ้านอาจารย์ท่านหนึ่งที่น้ำท่วมยังไม่ลงเลย / การเก็บก็ใช้ถังทึบ 20 ลิตรนั้นใส่น้ำมาโดยให้น้ำเต็มถังอย่างที่เล่าข้างบน ส่วนการขยายเชื้อ เดี๋ยวต้องไปขอเช็คกับทีมงานอีกทีว่า 2 วันหรือมากกว่านั้น (ไปซื้อเชื้อมาวันศุกร์ เอาลงมาให้ที่แล็บผมวันอังคาร) ... แถมไอเดียหน่อยว่า ความเห็นส่วนตัวของทีมงานเชื่อว่าการขยายเชื้อ จริงๆ แล้วไม่ได้ช่วยเพิ่มจำนวนเชื้อเท่าไหร่หรอก แต่เป็นการให้เชื้อสร้างสารผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น เอนไซม์ แอลกอฮอล์ กรดแล็กติก ซึ่งเป็นตัวการหลักในการทำให้น้ำใส-ลดกลิ่น ได้ภายใน 2-3 ชั่วโมงเท่านั้น ตามที่ชอบสาธิตกัน คห 18 เราก็อยากเห็นการโต้แย้งตามมาครับ โดยเฉพาะการแย้งจากผลการทดลองของหน่วยงานอื่นที่ทำภายใต้สภาวะควบคุมเหมือนกัน ตอนนี้มีแต่การกล่าวอ้าง (โดยเฉพาะเรื่องอีเอ็มทำให้ออกซิเจนเพิ่มได้) แต่ไม่มีการแสดงผลการวิเคราะห์จริงๆ ให้ดู คห 19 อีเอ็มยี่ห้อนี้ ดังที่สุดแล้วล่ะครับ (บอกใบ้แค่นี้พอนะ) คห 21 ทำที่ตึกผมที่ภาคชีวะครับ (สุดท้าย ชีวะ ต้องรับเป็นเจ้าภาพเรื่องนี้) / ตอนแรกก็ว่าจะวิเคราะห์กันเอง แต่ไม่มีคนช่วยเท่าไหร่ เลยส่งตรวจดีกว่า เป็นมาตรฐานมั่นใจผลได้ คห 22 ใต้ sci เป็นถัง น้ำยาฆ่าเชื้อ ครับ เป็นสิ่งประดิษฐ์ตัวใหม่ล่าสุดที่คณะฯ เราทำแจกประชาชน สามารถล้างพื้นได้สะอาดพร้อมฆ่าเชื้อโรคเชื้อราไปในตัวด้วย จากคุณ : JD300 เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 16:01:19

ความคิดเห็นที่ 25 ^ ^ ^ ถ้างั้นก็ต้องทดลองเพิ่มว่า มันสามารถลดกลิ่นได้กี่วันด้วยสินะครับ แล้วผู้บริโภคก็มีหน้าที่ตัดสินใจเองหลังจากได้รับรู้ข้อมูลว่า ในอรรถประโยชน์เท่านี้ คุณยังต้องการใช้มันอยู่หรือไม่ จากคุณ : ผมไม่ใช่คนดี แต่เป็นคนธรรมดา เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 16:44:54

ความคิดเห็นที่ 26 มาลงชื่อดูด้วยคนครับ จากคุณ : แมวสีเทา เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 16:51:07

ความคิดเห็นที่ 27 มารออ่านครับ   ขอบคุณ อาจารย์ JD300 ที่กรุณาสละเวลามาเล่าอย่างละเอียด จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 17:18:18

ความคิดเห็นที่ 28 สนับสนุนครับ เห็น lab แล้วนึกถึงสมัยเรียนแล็บกริ้งงง ตอนปี 1 ^ ^ จากคุณ : Perovskite เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 17:30:00

ความคิดเห็นที่ 29 ยิ่งถ้า อ. ใช้แนวคิดว่า รอ by product จากการหมัก 2 วันที่อาจารย์หมัก  ยิ่งน่าจะทำให้ ไม่ได้ผลอย่างที่ต้องการครับ เชื้อ ยังไม่โตเท่าไรเลย ถ้าใช้หัวเชื้อที่อ่อนแอ เพราะอยู่ในรูปการพักตัว รอโตได้ใช้เวลาพอประมาณ เท่าที่เคยทำ น่าจะเริ่มผ่านช่วง lag phase ประมาณ 2-3 วัน ส่วนเชื้อโตดีจริงๆ ประมาณ 7 วัน Substrate ที่ต้องการ ซึ่งยังไม่รู้ว่าตัวไหน (ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน) ก็น่าจะนานกว่านั้น ใช้สองวัน ใส่เลยว่า ว่า น้ำตาลยังเหลือเยอะอยู่มากครับ แต่ไงไง ก็วัด BOD แล้ว ผมมารอดูผล ต่อไปล่ะ น่าสนุกดี ปล.สนับสนุนการทำการทดลอง และวิจารณ์กันตามหลักวิทยาศาสตร์ครับ ปล. น้ำเสียที่อยู่ในคำกำจัดความ  เขาไม่ได้พูดถึงว่า มันไม่มี ออกซิเจนนะ หลายคนเข้าใจสับสน ไม่มีออกซิเจน นั้นเป็นผลที่เกิดจากสารปนเปื้อนในน้ำเสีย น้ำเสียหลายชนิด ยังไม่เสีย มีออกซิเจน แต่ ถ้าทิ้งลงธรรมชาติ ก็ทำให้ ออกซิเจนหมดได้ ตัวที่สนใจคือ  สารปนเปื้อน ไม่ใช่ออกซิเจน ปล.ให้เดาผลการทดลอง  DO 0 mg/l ทุก การทดลองแน่นอนครับ ถ้าไม่ใช่ 0 การทดลองมีปัญหาบางอย่างล่ะ จากคุณ : ช้างยิ้ม เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 18:23:12

ความคิดเห็นที่ 30 คห 25 จริงๆ ก็อยากทำการทดลองวัดค่าเกี่ยวกับกลิ่นเหมือนกัน แต่มันยากกว่าที่คิดมากเลยครับ นั่งถกกันหลายครั้งแล้ว จะวัดจากค่าซัลไฟด์ซัลไฟต์ก็ไม่เหมาะสมด้วย คห 28 โห.. ถ้าเคยเรียนห้องแล็บนี้ตอนปี 1 ก็ต้องอายุแก่ราวผมล่ะมั้งเนี่ย ฮะฮะ จากคุณ : JD300 เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 18:27:31

ความคิดเห็นที่ 31 มาลงชื่อ... รอผล  จากคุณ : DJ-kornkyoko เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 20:23:38

ความคิดเห็นที่ 32 อ. JD300 > น้ำยาฆ่าเชื้อใน คห 24 นั่นคือ silver nano หรือเปล่าคะ ไปรับมาขวดหนึ่งเมื่ออาทิตย์ก่อน จากคุณ : jackfruit_k เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 21:05:17

ความคิดเห็นที่ 33 มารอดูผลด้วยคนครับ :)) จากคุณ : ผู้รอดชีวิตในฤดูหนาว เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 21:19:38

ความคิดเห็นที่ 34 คห 32 ไม่ใช่ครับ อันนี้เป็นสารลดแรงตึงผิว บวกกับยาฆ่าเชื้อ บวกกับน้ำมันหอมกลิ่นสน ส่วนอันซิลเวอร์นาโน แพงกว่า เหมาะใช้ฉีดดับกลิ่นพรม กลิ่นเฟอร์นิเจอร์ครับ จากคุณ : JD300 เขียนเมื่อ : 7 ธ.ค. 54 21:30:09

ความคิดเห็นที่ 35 เสริมให้ครับ น้ำเสียที่เห็นดำๆที่นั่นที่นี่ ผมเก็บมาหลายที่แล้ว รวมถึงบ้านของพี่ผมเองด้วย น้ำเสียที่ว่า มักเป็นน้ำเสียที่ขังอยู่ในบ้าน เน่าเสีย เหม็น เพราะเฟอร์นิเจอร์เน่า น้ำนี้จะมีลักษณะดำมาก ถ้ามองลงไป แต่ถ้าตักขึ้นมาจะไม่ดำ จะใสๆ(แต่เหม็น) แต่จะมีตะกอนดำๆ ซึ่งที่ทีแรกเห็นว่าดำ เพราะคราบดำ มันเกาะตามพื้นผิวต่างๆใต้น้ำจนหมด และมีตะกอนดำๆลอยอยู่มาก พอมองไปเลยเห็นว่าดำนั่นเอง จากคุณ : GreenEyes เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 54 11:13:49

ความคิดเห็นที่ 36 คห 35 ขอบคุณมากครับ หวังว่าบ้านคุณพี่น้ำจะลดแล้วนะ จากคุณ : JD300 เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 54 11:44:49

ความคิดเห็นที่ 37 ขอขอบพระคุณอาจารย์และทีมงาน และเป็นกำลังใจในการทำงานด้วยคนครับ จากคุณ : BAIMAIWAI เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 54 12:46:13

ความคิดเห็นที่ 38 ใช้ EM ยี่ห้อ ป้าเช็ง รึป่าวครับ ดังสุดสุด จากคุณ : ken_jung เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 54 13:23:01

ความคิดเห็นที่ 39 ลงชื่อรอดูเช่นกันครับ จากคุณ : วิศวกรไทย (dewie) เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 54 19:02:34

ความคิดเห็นที่ 40 เรื่องกลิ่นนี่ผมว่าน่าจะให้นักศึกษาสักจํานวนหนึ่ง ปิดตาแล้วดมเทียบกันระหว่างนํ้าเน่ากับนํ้าเน่าที่ผ่าน em แล้ว น่าจะได้คําตอบนะครับ จากคุณ : Lennon50 เขียนเมื่อ : 8 ธ.ค. 54 20:26:54

ความคิดเห็นที่ 41 เรื่องกลิ่นน้ำเน่า ชาวบ้านใช้ EM ball ดับกลิ่นได้ผล แต่ไม่กี่วันก็ต้องใส่เพิ่ม ห่ลังจาก EM ball หมดแล้ว ผมให้เขาไปขอ EM น้ำ ที่สำนักงานเขตเขาทำแจก เอามาราดก็ดับกลิ่นได้ ส่วนตัวผมว่า EM น้ำจะใช้ดับกลิ่นได้ดีกว่า ภาพนี้ เป็นน้ำเน่าภายในบ้าน บ้านนี้อยู่ริมคลองแสนแสบ ยังไม่ประกาศเป็นเขตภัยพิบัติ ผมไปถ่ายรูปให้เขาไปส่งให้ประธานชุมชนรวบรวมลงทะเบียนไว้ก่อน ครับ จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 54 06:52:21

ความคิดเห็นที่ 42 เท่าที่ผมตระเวณดูน้ำท่วม บ้านที่อยู่ในที่ลุ่ม น้ำเอ่อเข้ามาท่วมได้ แต่พอน้ำลด น้ำท่วมในที่ลุ่ม น้ำยังขังอยู่ต่อ ไม่แห้ง ต้องใช้ปั้มสูบน้ำออกไป บ้านที่เป็นแอ่งลึกเหล่านี้ มีเป็นจำนวนมาก น้ำท่วมขังนานกว่าปกติ น้ำเน่าเหม็น ชาวบ้านเดือนร้อนจากกลิ่นเหม็นของน้ำเน่า คุณยายบ้านนี้เล่าให้ฟังว่า เหม็นสุดๆ จนนอนไม่หลับ สิ่งที่ชาวบ้านต้องการมากที่สุด คือ ใช้อะไรก็ได้ที่จะมาดับกลิ่นเหม็น เป็นการบรรเทาทุกข์ไปก่อน รอวันที่จะสูบน้ำออกไปทิ้ง ครับ จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 54 07:03:02

ความคิดเห็นที่ 43 ปริมาตร EM ที่ใส่ในน้ำเสียที่ทดลอง นี่ เท่าไหร่หรือคะ ถ้าใส่ มากหรือน้อยไปมีผล ไหมคะ จากคุณ : cryo16 เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 54 09:02:21

ความคิดเห็นที่ 44 น่าสนใจครับ จะรอฟังผลด้วยคน จากคุณ : ARMS STRONG เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 54 09:11:56

ความคิดเห็นที่ 45 คุณ Greeneyes ลองมองลึกๆ ในข้อท้วงติงของผมดูนะครับ ว่าผมท้วงติงอะไรอยู่ ปล.  บนผิวน้ำใสอันนี้ถูกต้องและเห็นด้วยครับ ^_^ ผมกลัวว่าจะเสียเงินฟรี นะ จากคุณ : ช้างยิ้ม เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 54 10:03:01

ความคิดเห็นที่ 46 ผมและน้องๆทีมงานก็ซุ่มทำการทดลองอยู่เหมือนกันครับ มีการเปรียบเทียบกันด้วยระหว่าง EM Ball กับ EM น้ำ และcontrol โดยตามหลังการใส่เชื้อลงไป ตั้งแต่ day 0 ,1, 4, จนถึงday 12 ใน 10 พารามิเตอร์ได้แก่ BOD, DO ,TCB, FCB ,Total solids, sulfides ,pH, Colour, tubidity และอื่นๆ  ผลชุดแรกใกล้จะออกมาแล้วครับ ได้ผลอย่างไรจะมาตั้งกระทู้ โพสให้วิพากษ์กันครับ   ทีมงานบ่นกันเรื่องเก็บตัวอย่างน้ำ ใช้ตัวอย่างน้ำเยอะมากๆๆ หนึ่งตัวอย่างใช้น้ำมากถึง 80 ลิตร ทั้งแบก ทั้งหามกันหลังอานเลยครับ จากคุณ : สันปันน้ำ เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 54 10:07:31

ความคิดเห็นที่ 47 กองเชียร์จุฬาฯ ติดตามด้วยคนนึงครับ ประเทศไทยโชคดีที่มีจุฬาฯ รู้สึกปลาบปลื้มจนแทบกลั้นน้ำตาไม่อยู่ครับ จากคุณ : พ่อพระ เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 54 14:25:49 A:58.8.60.40 X: TicketID:340782

ความคิดเห็นที่ 48 ปล. น้ำเสียที่อยู่ในคำกำจัดความ  เขาไม่ได้พูดถึงว่า มันไม่มี ออกซิเจนนะ หลายคนเข้าใจสับสน ไม่มีออกซิเจน นั้นเป็นผลที่เกิดจากสารปนเปื้อนในน้ำเสีย น้ำเสียหลายชนิด ยังไม่เสีย มีออกซิเจน แต่ ถ้าทิ้งลงธรรมชาติ ก็ทำให้ ออกซิเจนหมดได้ ตัวที่สนใจคือ  สารปนเปื้อน ไม่ใช่ออกซิเจน >>>>>>>>> น้ำเสีย เขาไม่ได้พูดว่า ไม่มีออกซิเจน ... อันนี้รับฟังได้ แต่ คณาอาจารย์จุฬาคณะวิศวะ ที่ออกมาพูด ท่านพูดถึงสูตรสำเร็จของการบำบัดน้ำเสีย  โดยการเติมอากาศ นี่ครับ จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 54 16:42:48

ความคิดเห็นที่ 49 ผ่านมาขำให้บางคน ตลกดี อ่านแล้วรู้สึกคลายความเครียด จากคุณ : sinilicious เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 54 20:48:18

ความคิดเห็นที่ 50 เห็นตาม คห. ๔๘   เพิ่มเติม  -   ผมว่าไปอ่านคำว่า "บำบัด" ในพจนานุกรมก่อนดีกว่าไหมคุณคณาจารย์ทั้งหลาย ! เอ้อ ถ้า เขาใช้คำว่า  EM ช่วย "รักษาความสะอาด"  ก็ว่ากันไป ทดลองเพื่อเอาชนะ คนที่เขาบอกว่า   "ใช้ EM ช่วยบำบัดน้ำเสียในลำคลองได้ดีระดับหนึ่งเนี่ยนะ" ทำตัวเหมือนระดับ "พรีเมี่ยม" กันจริงเทียว จากคุณ : sagonlapat เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 11:21:30

ความคิดเห็นที่ 51 ช่างมันดีกว่า แก้ไขเมื่อ 11 ธ.ค. 54 00:18:55 จากคุณ : ช้างยิ้ม เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 13:03:14

ความคิดเห็นที่ 52 ผลการทดลองยังไม่ได้ออกมาสักหน่อยว่าใช้ได้จริงหรือไม่จริง ทำไมบางคนเต้นเป็นเจ้าเข้าหล่ะเนี่ย จากคุณ : ธุลีดาว เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 19:13:28

ความคิดเห็นที่ 53 อ.เจษ  set การทดลองผิดแค่ นั้นแหละ ไม่ได้มีใครคิดอะไร นอกจากคุยวิชาการหรอก การทดลอง ตั้งตามสมมุติฐาน ทฤษฏี และ แนวคิด โดยรอบครอบ การ Set การทดลอง ไม่มี ทำให้ผลที่ได้ออกมาไม่สามารถเชื่อถือได้ ในการทดลองนี้ มีจุดอ่อนใหญ่ๆ หลายจุด อย่างที่ติงไว้ แค่นั้นแหละ จากคุณ : ช้างยิ้ม เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 54 00:22:25

ความคิดเห็นที่ 54 #16 สรุปชัดเจน #28 คิดถึงแล็บกริ๊งเหมือนกัน 555 ยังไงก็เอาใจช่วยครับ ทำดีแล้วโดนด่า ดีกว่าไม่ทำ HA แล้วด่าคน... จากคุณ : iDRAMA ฮาอย่างเดียว (Pakinai) เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 54 01:55:06

ความคิดเห็นที่ 55 คิดถึงตึกคลุ้มเลย จากคุณ : icheerbank เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 54 20:22:32

ความคิดเห็นที่ 56 รอดูต่อครับ ถ้าทำ Lab เอง COD ทำแบบ Close reflux น่าจะได้ตัวเลขเร็วหน่อย ประมาณ 2 ชม. ส่วน BOD รอ 5 วันเพราะเป็น BOD5 จากคุณ : pinestand เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 54 21:23:46

ความคิดเห็นที่ 57 สนใจเรื่อง EM มาก ชอบมากที่ พวกเราสรุปจากหลักการ มากกว่าความรู้สึก ผ่านการทดลอง ทำกันได้ดี  และทำเพื่อส่วนรวม เพื่อประเทศ ก็ขอยกย่องครับ อย่าลืมว่า กระแสสังคมแรงมาก มีผู้ได้ และเสียผลประโยชน์มากกันทีเดียว เชื่อว่า ต้องมีผู้กล่าวโต้แย้งอยู่ดี เพราะหลายคนได้รางวัล จากภาครัฐ และเอกชน (เช่น PTT), หลายหน่วยงานสนับสนุน, บริษัทตั้งขึ้น เพื่อหาผลประโยชน์, รัฐบาลยุคนี้ ก็อยู่ข้าง EM ball อีก. ควรอยู่บนพื้นฐานความจริง ข้อมูลที่เป็นจริง เราจึงควรทำการทดลอง มิฉะนั้น ไม่อาจสรุปได้  ประเทศต้องเสียเงิน เสียเวลา และเสียทรัพยากรอื่นอีก โดยเปล่าประโยชน์. ในฐานะที่มีประสบการณ์ทางวิจัย ก็ขอให้ความเห็นดังนี้ - เช่นเดียวกับ คห 40 > การวัดกลิ่น sulfide ไม่น่าเป็นปัญหาเลย  ลองปรึกษาทางฝ่ายสำรวจอาหารล่ะก็ จะรู้ว่าง่ายมาก  และที่สำคัญถูกมาก  เราสามารถ standardize ผู้ดมได้อย่างง่าย  หากไม่เหม็นโดยใช้คนวัด ก็ต้องโดนโต้แย้ง. - วัดสี ก็ควรมีที่ใช้ผู้คน  เป็น blind test ไป ในทำนองเดียวกับกลิ่น  รู้ว่าผู้ทดสอบแต่ละคน เชื่อถือได้หรือไม่ ก็ให้ลอง ตัวอย่าง positive  negative หลายซ้ำไป  ก็บอกได้แล้ว ว่าเชื่อถือได้หรือไม่ - ระดับน้ำดำ > น้อยไป > ไม่ควรให้ความสำคัญว่า น้ำเสียส่วนใหญ่ประมาณนี้  ก็เลยต้องเอาระดับไม่ดำ แบบนี้ > ไม่เหมาะ.  (แม้ว่าบางท่านจะบอกว่า ตักขึ้น  มา ก็ไม่ดำเหมือนที่อยู่ใต้น้ำ) (เรือน้ำตาลล่มที่อยุธยา ยังดำ)  ขนาด อ.มนัส (ที่ระบุว่าเป็นนักปฏิบัติ ไม่ใช่  นักวิชาการ) ที่ออกรายการ บอกเล่าเก้าสิบ กํบ ดร.เจษฏา ก็บอกแล้วว่า  น้ำแบบที่รายการนำมานั้น 'ไม่ดำ'   หากไม่ดำ ก็โดนโต้แย้ง.  สรุปว่า > ควรต้องดำ.   - ขวดโหลในการทดลองขนาดเล็กเกิน > ไม่เกิดสภาพ anaerobic และ  microaerobic ก็อาจโดนโต้แย้งว่าไม่เหมาะกับสภาพสำหรับ  แบคทีเรียสังเคราะห์แสงใน EM. - ขวดโหลขนาดเล็กเกิน > ค่า DO ออกมาคงแสดงความแตกต่างไม่ชัด เพราะ  O2 ลงสู่น้ำได้ง่าย. ======== จากคุณ : Albert (Albert_Chin) เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 54 21:55:30

ความคิดเห็นที่ 58 ช้างน้อยเข้าใจเรื่องอัลดีไฮด์รึยัง ? ถ้าไม่เข้าใจถาม อ. ก่อนค่อยวิจารณ์แก จากคุณ : tiktaalik เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 54 21:56:10 A:58.9.57.74 X: TicketID:287399

ความคิดเห็นที่ 59 รอดูผล แก้ไขเมื่อ 12 ธ.ค. 54 00:06:18 แก้ไขเมื่อ 12 ธ.ค. 54 00:05:04 แก้ไขเมื่อ 11 ธ.ค. 54 23:53:26 จากคุณ : ช้างยิ้ม เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 54 23:51:39

ความคิดเห็นที่ 60 ขอเห็นต่างนิดนึง น้ำ เน่าเสีย มันเน่าที่ตัวน้ำเอง   หรือ สภาพแวดล้อมทำให้น้ำมันเน่า ตัวน้ำเน่ากลิ่นเหม็นมันเป็นแค่ผล  ตัวสาเหตุจริงๆ มันอยู่ที่สภาพแวดล้อม ไปตักน้ำเน่ามาใส่โหลแก้ว  ทิ้งไว้เฉย ๆ มันก็น่าจะใสเองได้ไม่ต้องทำอะไร ไปตักเอาน้ำเน่า  มาทดลอง มัน ตัวสาเหตุที่ทำให้ เน่ามันไม่มาด้วย   ทิ้งไว้เฉย ๆ ใช้เวลานานหน่อย เดียวน้ำมันก็ใส มันไม่น่าจะวัดผลการทดลอง   ให้เห็นผลเด่นชัดซักเท่าไหร การทดลอง  น่าจะเอา ไซค์ ให้ใหญ่หน่อย  เอาซักบ่อ ซีเมนกลม แล้วเอาพวก เศษ สารอินทรี ใส่ไปด้วย  หมักเอาให้เน่าสุด ๆ   แล้วค่อยเริ่มทำการทดลอง น่าจะ วัดผล ของการแก้ปัญหา ของ เจ้า em บอลได้ชัดเจนกว่า จากคุณ : กระดุมพี เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 54 02:17:42

ความคิดเห็นที่ 61 อยากเห็นสิ่งดี เกิดขึ้นกับสังคมไทย   ขอยกย่อง JD300 และ CU ที่ทำเพื่อประเทศไทย การมีชุดทดลอง W เป็นแนวคิดที่ดีมาก.  ขอให้ผลการทดลองบ่งชี้ได้เด็ดขาด. ข้อสังเกต - การกรองมีขั้นตอนอย่างไร และ pore size ขนาด? - ค่าชี้วัด มีหลายตัวเกินจำเป็น? ==== เห็นด้วยกับ คห 60 หากชุด C เปลี่ยนเป็นน้ำดี ที่ไม่ดำ ไม่เหม็น และชุดการทดลองอื่นก็ดีขึ้นกัน (โดยเฉพาะดีขึ้นใกล้เคียงกับ C) ก็คงสรุปไม่ได้ว่า EM ช่วย/ไม่ช่วย บำบัด หากชุด C เปลี่ยนเป็นน้ำดีขึ้น และ ชุด E ยังดูเสียอยู่ ก็สรุปได้. เนื่องจากขวดโหลใบเล็ก และน้ำดำไม่พอ แนวโน้มเป็นไปได้ว่า ชุด C เป็นน้ำดีขึ้น เพราะขวดโหล และปากกว้างมีปริมาตรเล็กเกิน  O2 เข้าได้ง่าย   ยิ่งตั้งหลายวัน O2 ก็มีพอให้ จุฯ บำบัดความเน่าเสียได้มากพอ ทำให้ทุกโหลมีดัชนีค่าทั้งหลายต่างกันน้อยได้ รวม control โดยเฉพาะในวันท้าย  ระดับความเน่าเสียของทุกใบก็จะดีขึ้นใกล้กัน โดยเฉพาะเมื่อเริ่มต้นด้วยน้ำไม่ดำ ไม่เหม็นนัก  ผมคิดว่า ความแตกต่างของแต่ละชุด น้อยไป ทำแนวคุณหมอ ที่ขอนแก่น (?) คือ ใช้ภาชนะเป็นแนวทรงสูงยาว ปากแคบ น่าจักได้ชุดควบคุมที่ยังคงความเหม็น และดำได้ดีกว่า ซึ่งบ่งชี้ความแตกต่างของชุดอื่นได้ จากคุณ : Albert (Albert_Chin) เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 54 10:42:08

ความคิดเห็นที่ 62 นานเป็นแรมเดือนกว่าผลการทดลองสุดท้ายจะออกมาได้ ขอเชิญชมครับ จากคุณ : JD300 เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 55 11:25:27