ความคิดเห็นที่ 1 นักการเมือง จากคุณ : rabbit hole เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 17:40:20

ความคิดเห็นที่ 2 เรื่องนี้ตอบยากครับ บางคนเรียนจบแล้วยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองชอบอะไร ถ้าเป็นลูกผมๆจะแนะนำว่าทำอะไรก็ได้เรียนอะไรก็ได้สนับสนุนทุกอย่าง แต่ขออย่างเดียวต้องแน่วแน่กับมันต้องพยายามให้ถึงที่สุด แล้วทุกอย่างจะดีเอง จากคุณ : Big Worm. เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 17:48:21

ความคิดเห็นที่ 3 ตราบใดคนยังต้องใช้ปัจจัย สี่ อาชีพ ที่เกี่ยวกับ อาหาร ที่อยูุ่(วิศวกร) ยารักษาโรค(หมอ) ก็จะยังเป็นอาชีพที่อยู่ระดับ บนๆครับ จากคุณ : เฉพาะกิจน้ำท่วม เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 17:50:19

ความคิดเห็นที่ 4 อีกตั้งไกล  คอยสังเกตดีกว่าว่าเค้าชอบอะไรนะ จากคุณ : bermAggie เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 17:59:11

ความคิดเห็นที่ 5 วิศวกรแน่นอน ดูจากที่บอกว่า ชอบเล่นพวกของเล่นตัวต่อ จิ๊กซอว์ รถประกอบ พวกกลไกง่ายๆ ชอบดูเครื่องยนต์ เครื่องจักรเวลามันทำงาน ยิ่งพวกรถไถ รถตักดิน เครื่องสูบน้ำ ฯลฯ ชอบมาก ดูได้ทั้งวันไม่เบื่อ คือ อาชีพวิศวกร มันก็ไม่อาชีพที่ดีสุดโต่งอะไรหรอกนะครับ  พูดถึงรายได้ยังห่างชั้นกับหมอมาก แต่ก็เป็นอาชีพที่ ถ้าเอาดีและได้ดี ก็ไม่อดตายแน่ๆ แถมเลี้ยงพ่อแม่ได้ด้วย จากคุณ : Sgt.Oat เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 18:08:47

ความคิดเห็นที่ 6 ทำในสิ่งที่ชอบดีที่สุดครับ เพราะ มันจะช่วยเสริมสร้างความสามารถไปได้ไกลกว่า จากคุณ : มวยมีค่าย เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 18:09:50

ความคิดเห็นที่ 7 อาชีพ ป๋า ครับ /me เผ่น จากคุณ : RXRZ เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 18:36:19

ความคิดเห็นที่ 8 อาชีพอะไรก็ได้ ขอให้เก่งและเชี่ยวชาญ จากคุณ : แ ต ง ก ว า * เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 18:41:39

ความคิดเห็นที่ 9 ปัจจุบันประเทศไทยยังขาดแคลนหมอมากครับ  จำไม่ได้ว่าอัตราส่วน 1 ต่อเท่าไร ถึงจะอีก 20 ปี จบหมอมายังไงก็ดีครับ ส่วนวิศวกร  ถ้ามีความสามารถก็มีงานทำแน่นอนครับ   ยิ่งถ้าชอบเครื่องจักรกล  มีงานทำเยอะแยะครับ   ตามโรงงานตามนิคมอุตสาหกรรมต่าง ๆ   ก็ต้องใช้เครื่องจักรทั้งนั้น จากคุณ : yariv_80 เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 18:47:23

ความคิดเห็นที่ 10 แกนนำ จากคุณ : topiero7 เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 18:52:46

ความคิดเห็นที่ 11 ผมว่า คนเป็นพ่อแม่ไม่ควรจะชี้นำลูกอย่างนั้น ควรฝึกหัดให้ลูกรู้จักคิด รู้จักวางแผนการเรียนด้วยตัวเอง เพื่อลูกจะได้รู้จักวางแผนชีวิตได้ด้วยตัวของเขาเอง ครับ อย่าคาดหวังอะไรมากเกินไป ผมเคยอ่านเรื่อง Foot Note เด็กที่ไม่มีแขน ใช้เท้าทำอะไรแทนแขนทั้งสองข้าง เธอพูดประโยคหนึ่งที่ผมประทับใจ พ่อแม่ภูมิใจตัวเธอ เพราะเธอคือลูกของพ่อแม่ ไม่ได้ภูมิใจที่เธอทำอะไรได้ดี จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 19:00:08

ความคิดเห็นที่ 12 อาชีพขายชา บีบน้ำตาสักหน่อยก็ขายได้เหมือนเอาไปเททิ้ง จากคุณ : ธุลีดาว เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 19:07:25

ความคิดเห็นที่ 13 ตามคห.1 นักการเมือง จากคุณ : ใครบ้างเล่นการเมืองแล้วไม่รวย เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 19:44:11 A:115.87.146.203 X: TicketID:334856

ความคิดเห็นที่ 14 ลักษณะนิสัย เหมือนผมตอนเด็ก ๆ ครับ เป็นวิศวกร ดีแล้วครับ จากคุณ : ผู้เฒ่าสายลม เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 19:47:54

ความคิดเห็นที่ 15 เป็นอะไรก็ได้ ถ้าประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน ดีด้วยกันทั้งนั้น ยกตัวอย่างใน คหสต. ผม อัยการ ผู้พิพากษา แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ อาจารย์เก่ง ๆ หรือจะเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ หรือถ้าจะรับราชการต้องระดับรองอธิบดีขึ้นไป  จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 19:49:12

ความคิดเห็นที่ 16 ขายก๋วยเตี๊ยว ถ้าขายก๋วยเตี๊ยวต้องอร่อยแบบไม่มีใครเหมือน เพราะต้นทุนน้อย กำไรบาน ถ้าลูกค้าติดแล้วรวยกว่าหมออีก แต่มีข้อเสียคือ แต่งตัวให้ลูกค้าเห็นว่ารวยไม่ได้ เดี๋ยวลูกค้าหมั่นไส้ จากคุณ : ยองเจียงใหม่ เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 19:51:34

ความคิดเห็นที่ 17 พายเรือรับจ้าง จากคุณ : psybuster เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 19:56:45

ความคิดเห็นที่ 18 เอาจริงๆ น้ะ ผมว่า นายทหาร น้ะรุ่งสุดๆ ทหาร มีแต่คนชม เรียกได้่ว่าแตะต้องไม่ได้เลย เงินเดือน เงินเบี้ยเลี้ยงต่างๆ มากมาย สบายไปทั้ง ชาติ ไม่มีตกงาน ไม่มีรบกันแล้วด้วยสมัยนี้ แถมชุด เทห์ มีกระบี่ ด้วย จากคุณ : 0ib เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 20:00:00 A:93.182.132.103 X: TicketID:340977

ความคิดเห็นที่ 19 ทำไมถึงคิดว่าหมอรวย พี่ผมเป็นวิศวะกรเงินเดือน เดือนละแสน ผมเป็นหมอจนchipหายเลย จากคุณ : หมอคานู เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 20:13:34

ความคิดเห็นที่ 20 ปลัดคมนาคม จากคุณ : Jackchan เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 20:19:31

ความคิดเห็นที่ 21 ---เป็นนักการเมืองดีกว่า...ง่าย..เงินเยอะ (ถ้าโกงเป็น) จากคุณ : กำนันเปล่ง เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 20:20:51

ความคิดเห็นที่ 22 หัดพื้นฐานให้เขาเยอะๆ จะดีกว่าครับ วัยนั้นเหมาะจะฝึกอะไร ก็ตามนั้นเลยครับ พื้นฐานดี จะไปทางไหน ก็ไม่ลำบาก จากคุณ : oppertunity เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 20:27:33

ความคิดเห็นที่ 23 ทำนาสมัยนี้ ก็รายได้ดีไม่ใช่น้อย อาชีพหวิดสวะกอน มนุุษย์เงินเดือน มีรายได้/ปี โดยเฉลี่ยอย่างมากก็แค่ล้านเศษๆ เอง สู้ทำนาไม่ได้ ขายข้าวฤดูหนึ่ง (4 เดิอน) ก็ได้กำเงินล้านกว่าๆแล้ว ปีหนึ่ง ทำแค่ 2 ครั้ง ก็พอ    หน้าจะได้ไม่ดำมาก แต่...ต้องมีที่นา อยู่ในพื้นที่จัดรูป 100 ไร่ขึ้นไป หนะ จากคุณ : sba เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 20:31:49

ความคิดเห็นที่ 24 นักบินการบินไทย รายได้เดือนละ 3-5 แสน จากคุณ : Coach The Lead เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 20:42:09

ความคิดเห็นที่ 25 20 ปีข้างหน้า อาชีพอะไรดี หมอ,วิศวกร...คงใช่ครับ ลูกชาย 3 ขวบให้ลูกชายเป็นอะไรดี ไม่มีใครแนะนำอะไรกับชีวิตเลย คนส่วนใหญ่คงไม่มีใครแนะนำกับการดำเนินชีวิตหรอก อย่าน้อยใจไป ต้องลองผิดลองถูกเอง สรุปบทเรียนเอง คนที่มีคนช่วยชี้นำนับว่าโชคดี ผมว่า คนเราถ้าเก่งได้ก็ดี ถ้าไม่เก่งก็ขอให้เป็นคนดี ถ้าไม่ดีก็ขอให้มีความสุข ในที่สุดแล้ว ขอให้ลูกของคุณ โตขึ้นได้ใช้ชีวิตแบบมีความสุขก็พอ จากคุณ : เมษ (ชื่อนี้ได้มั้ยฮะ) เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 21:04:47

ความคิดเห็นที่ 26 ขอตอบในฐานะครูแนะแนวก็แล้วกันนะครับ ตลอดเวลาที่ผ่านมา ประเทศไทยมีอาชีพที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปเรื่อยๆ เป็นยุคๆ ไป ที่คุณ คห.3 ตอบมา นั่นก็ถูก อาชีพปัจจัย 4 ยังไงก็มีอนาคต อาหาร(เกษตรกร) เครื่องนุ่งห่ม(ดีไซเนอร์) ที่อยู่(วิศวกร สถาปนิก) ยารักษาโรค(แพทย์ พยาบาล เภสัชกร) จากข้อมูลที่เก็บมา อาชีพต่างๆ ล้วนแต่มีช่วงเวลาดี เวลาตก เป็นรอบๆ ไป ตามนโยบายของรัฐบาลและการเปลี่ยนแปลงทางสังคม ขออนุญาตเล่าอาชีพที่ฮอตฮิตในอดีตก่อน เริ่มตั้งแต่ "ครู" อาชีพที่ฮอตสุดยอดที่คนหัวกะทิจะต้องเรียนครู แต่ทว่า จากนโยบายของท่านผู้นำที่ต้องการเพิ่มประชากรของประเทศ  และนำไปสู่ การคาดการถึงความต้องการครูในอนาคต จึงได้มีการเร่งผลิตครูขึ้นมามาก และนั่นนำไปสู่การผลิตที่ไม่ได้คุณภาพ และสุดท้ายนำไปสู่ภาพลักษณ์ที่แย่ๆ ของครูทั้งหลายในยุคหนึ่ง และหลังจากนั้น การบรรจุครูมีจำนวนน้อยลงเป็นอย่างมาก และมีการลดอัตรากำลังครูอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สอดคล้องกับจำนวนประชากรของประเทศที่เพิ่มขึ้นในอัตราที่ลดลง และปัจจุบัน ภายในระยะเวลา 8 ปี จำนวนครูจะเกษียณมากถึง 40 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนครู ซึ่งมีผลทำให้อาชีพครูมีโอกาสที่จะกลับมาอีกครั้งหนึ่งในยุคนี้ นิเทศน์ศาสตร์ เป็นอาชีพที่เคยบูมมาก อีกเช่นกัน เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของประชากร และการเน้นอุตสาหกรรม ทำให้ของใช้พื้นฐานมีความจำเป็นในการดำเนินชีวิต และนำไปสู่การโฆษณา ไม่ว่าจะเป็นสื่อ สิ่งพิมพ์ นิเทศน์ศาสตร์ในยุคหนึ่งมีคะแนนสูงยิ่งกว่าหมอและวิศวกร แต่หลังจากการบูมในครั้งนั้น เหล่านักศึกษายังคงทำงานในวงการ และมีความเป็นหนุ่มเป็นสาว และมีความเก๋าเกมมากยิ่งขึ้น จนยากที่คนรุ่นใหม่ๆ จะสามารถเบียดแทรกตัวเข้าไปในระบบงานได้ ดังจะเห็นได้จาก คะแนนสอบเข้าคณะนิเทศศาสตร์ตกฮวบจนกลายเป็นคณะกลางๆ ไป วิศวกร สถาปัตย์ เป็นคณะที่บูมสุดยอดในยุคก่อนฟองสบู่ ที่ประเทศไทยได้รับการขนานนามว่า "เสือตัวที่ 5 ของเอเชีย" จากการเจริญเติบโตของประเทศที่อยู่ร้อยละ 10 ต่อปี ยิ่งโหมกระพือความต้องการวิศวกรและสถาปนิก จนมีความต้องการเป็นอันดับ 1 ของประเทศและมีความต้องการมากยิ่งกว่าแพทย์ด้วยซ้ำ บัญชี เป็น 1 ในไม่กี่อาชีพหลังยุคฟองสบู่ที่เป็นที่ต้องการ เนื่องมาจากมีความจำเป็นในทุกๆ บริษัท และนั่นทำให้อาชีพนี้มีความต้องการเป็นอย่างมากหลังยุคฟองสบู่และมีคะแนนสูงเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศจนถึงปัจจุบัน ว่ากันว่า "บัญฃี คือแผนกสุดท้ายที่จะยุบ ก่อนจะยุบบริษัท" หมอ เป็นอาชีพที่เป็นที่ต้องการสุดยอดเช่นกัน หลังยุคฟองสบู่ เนื่องมาจากความมั่นคง เพราะหลังจากยุคฟองสบู่ ความต้องการความมั่นคงในอาฃีพพุ่งสูงมาก และหมอเป็น 1 ในไม่กี่อาฃีพที่มีทั้งความมั่นคงและความมั่งคั่ง ขอยกตัวอย่าง เพื่อนผม อายุ 27 ปี ตอนนี้เป็นหมอประจำอำเภอ ในจังหวัดร้อยเอ็ด เงินเดือนรวมทุกอย่าง แล้ว 90,000 บาท! ผู้พิพากษา ยังคงความขลังจวบจนปัจจุบัน อัยการ อาชีพที่ผมไม่ค่อยมีข้อมูลเท่าไหร่ แต่เท่าที่รู้จักอัยการ จากตำรวจยศร้อยเอก เงินเดือนสองหมื่นกว่า เมื่อได้เป็นอัยการ ชีวิตเปลี่ยนไปในทันที สุดท้าย ทุกอาชีพล้วนมีขึ้นมีลง เป็นของธรรมดาอยู่แล้ว ไม่มีอาฃีพใดอยู่ค้างฟ้าครับ ขึ้นกับว่าจังหวะและโอกาส แต่ถ้าให้ผมเดา ในอีก 20 ปีข้างหน้า ผมขอทายว่าเป็นอาชีพเกษตรกร และอาชีพช่าง ครับ เหมือนในประเทศที่เจริญแล้วทั้งหลาย ปัจจุบัน ผมรู้จักช่างเชื่อมอาร์กอน เงินเดือน 80,000 บาท และช่างขับเครื่องจักรของเชฟรอน เงินเดือน 120,000 บาท ทั้งสองคนจบ ม.6! หวังว่าคงทำให้ จขกท. ไม่คิดมากเกินไป สรุป อาชีพอะไรก็ได้ครับ ดีหมดนั่นแหละ -_-" จากคุณ : amnakim เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 21:14:03

ความคิดเห็นที่ 27 ตอบในฐานะวิศวกร คิดว่า20ปีข้างหน้าวิศวกรตันครับเพราะยุคคอมพิวเตอร์จะทำงานได้ทุกอย่างและใช้วิศวกรน้อยลง ส่วนหมอเป็นอาชีพที่ไม่มีคอมพิวเตอร์มาเป็นคู่แข่งยังไงก็รวย จากคุณ : t (chat725) เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 21:40:50

ความคิดเห็นที่ 28 นิยมเป็นเสมียน จากคุณ : นราธิศคับ เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 21:59:23

ความคิดเห็นที่ 29 เป็นหมอไม่จำเป็นต้องรวยนะคะ หมอที่รวยคือหมอที่ทำงานในโรงพยาบาลด้วยวิ่งรอกเปิดคลินิกด้วยหรือเป็นหมอที่เปิดคลินิกเพียวๆ ซึ่งสมัยนี้มีตัวอย่างให้เห็นเยอะมาก แต่หมอประเภทนี้เข้าข่าย นักธุรกิจด้านสุขภาพมากกว่าที่จะเป็นหมอจริงๆ (ประเภทมีคลินิกสาขาหรือไม่ก็ออกสื่อเพื่อสร้างกระแสเป็นระยะๆ)พวกนี้จะให้เรียกหมอก็รู้สึกแปลกๆ ถ้าเป็นหมอที่ทำหน้าที่ดูแลป้องกันและรักษาโรคให้คนในชุมชนจริงๆ ถึงจะไม่เรียกว่าขัดสน แต่ดิฉันว่าไม่ถึงกับร่ำรวยอู้ฟู่ ทั้งยังต้องแลกกับการทำงานหนักหามรุ่งหามค่ำไม่เป็นเวล่ำเวลาอีกต่างหาก หากลูกของคุณรักที่จะเป็นหมอเพราะมีแรงบ้นดาลใจหรืออะไรก็ตาม ก็ส่งเสริมไปแต่ไม่มีความจำเป็นต้องผลักดันให้เป็นหมอ เพราะดิฉันเห็นหมอหลายๆคนที่รู้จักแล้วรู้สึกสงสัยว่าเค้าจะเอาเวลาที่ไหนไปใช้เงิน คุณภาพชีวิตดูแย่จนบางทีรู้สึกเวทนาทั้งๆที่ก็รู้ว่าเค้ามีเงินในธนาคารเยอะกว่าเรา ...ดิฉันเห็นด้วยกับคุณครูแนะแนวข้างบน ว่าอาชีพ ช่างฝีมือ (ช่างอะไรก็ได้)จะเป็นที่ต้องการและจะได้รับค่าตอบแทนสูง และสามารถไปทำงานที่ไหนก็ได้ในโลกโดยไม่จำเป็นต้องรู้ภาษาอะไรเลย เพราะถ้าเจ๋งจริงเค้ามีล่ามให้พร้อมสรรพ จากคุณ : อ่าวโตเกียว เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 22:03:38 A:114.180.77.16 X: TicketID:299625

ความคิดเห็นที่ 30 ในปัจจุบัน อาชีพของคนที่จบ วิศวกร แปลไป หนทางที่เขาเห็นครับ จากคุณ : lyonheartz เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 22:09:03

ความคิดเห็นที่ 31 เป็นอะไรก็ได้ แต่ห้ามเป็นครู เพราะผิดเป็นครู ตลอด จากคุณ : คิดผิดหมดอนาคต เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 22:10:09 A:58.9.23.165 X: TicketID:332671

ความคิดเห็นที่ 32 #29 หมอบ้านนอกนี่แหละ รวย รวยแบบ จำใจรวยอะ บางรพ. มีหมอคนเดียว กวาดค่าเวรทั้งเดือน เงินเดือนแสนกว่าบาท แต่สองเดือนนะ ไม่ต้องออกจากประตู รพ. เลย กินนอน ที่วอร์ดนั่นแหละ จากคุณ : Mdiic~* เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 23:20:58

ความคิดเห็นที่ 33 ขอตอบสไตล์คนชานเรือนละกันค่ะ ตอบที่เนื้อหา ไม่ได้ตอบตามหัวกระทู้นะคะ การที่คุณเข้าใจเรื่องนี้ ถือเป็นโอกาสที่ดีของลูกคุณแล้วค่ะ ในเมื่อคุณสังเกตเห็นความชอบของลูกแล้ว ก็ค่อยๆ หนุนเอา แต่ไม่แนะนำให้ดันอย่างโจ่งแจ้ง ส่วนหนึ่งเพราะปัจจัยที่จะสร้าง หรือ เปลี่ยนเด็กคนหนึ่งที่ค่อยๆ โตขึ้น มันมีหลายอย่าง เกิดมีอะไรหักมุมขึ้นมา เดี๋ยว(คุณ)จะหัวเสียซะเปล่า จะว่าไปแล้ว ที่ลูกคุณชอบ ก็เป็นส่วนใหญ่ที่เด็กผู้ชายเขาชอบกันอยู่แล้ว ไม่อย่างนั้น สายช่าง หรือสายวิทย์(ฟิสิกส์) หรือวิศวะ จะมีผู้ชายเรียนกันเยอะขนาดนั้นเร้อ ^^ จากคุณ : พาระวี เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 23:41:46

ความคิดเห็นที่ 34 เขาจะเป็นอะไรไม่สำคัญครับ แต่คุณต้องสอนเขาให้รู้จัก "ขายสมอง" ตัวอย่างเช่น "สิทธิบัตร" และ "ลิขสิทธิ์" เพราะจะซื้อกับเขาได้เท่านั้น นี่แหละครับ คือ monopoly ที่ถูกต้องในโลกเสรี จากคุณ : เศียรนาคา ... เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 54 00:24:57 A:180.183.88.198 X: TicketID:255126

ความคิดเห็นที่ 35 อีก 20 ปีข้างหน้า อาชีพที่ลูกชอบ แล้วก็ทำแล้วมีความสุข จะเป็นอาชีพที่ดีที่สุดของลูก คิดว่างั้น ไม่ทราบว่าจะถูกหรือเปล่า อ้างอิงจากหลักการที่ว่า หาง หาง โหย่ว จ้อง หยวน  (สำเนียงแถวๆ นี้ แหละ เป็นภาษาจีน แปลว่า ทุกอาชีพย่อมมี        จอหงวน ) ตอนลูกเรียน ฝึกให้ลูกเรียนเก่ง ลูกก็จะประสบความสำเร็จในอาชีพการเรียน เป็นจอหงวนแห่งการเรียน  ลูกก็จะชอบการเรียนมากเลย พอจบมา ลูกก็หางานที่ลูกชอบได้มากกว่าคนเรียนไม่เก่ง  ในสาขาเดียวกัน โอกาสที่จะประสบความสำเร็จจากอาชีพที่เรียนมา ย่อมมากกว่าพวกเรียนไม่เก่งแน่นอน แล้วลูกจะเรียน สาขาไหน ? คิดว่ามีพ่อที่สนใจลูกแบบนี้ ติดตามลูกแบบนี้ ดูแป๊บเดียวก็รู้แล้วว่า ลูกชำนาญทางไหน ก็ให้ลูกเรียนสาขานั้น ดีหมด ( แต่ถ้าให้เราชอบ เราชอบพวก ออกแบบชิปหรือสถาปัตยกรรม คอมพิวเตอร์ อะไรพวกเนี๊ยะ กับอีกอันหนึ่งก็คือ พวกตัดต่อพันธุกรรม ไบโอเทค อะไรพวกเนี๊ยะ แต่เราก็ไม่ได้เป็นทั้งสองอันเลยนะ  พอดีเรียนไม่เก่ง อ้า) แต่ตอนนี้ก็มีความสุขระดับหนึ่ง ตามควรแก่อัตภาพ ความสุขในอีก 20 ปีข้างหน้า ยังอาจจะไม่ชัด แต่ในอีกสัก 50 -100ปี ข้างหน้าคิดว่า อาจจะไม่ได้ใช้เงินเป็นตัววัดแล้ว คือไม่ได้คิดว่าคนที่มีเงินมากกว่า รวยกว่า จะเท่ห์ กว่าคนมีเงินน้อยกว่า แต่จะยกย่องคนที่มีความสุขมาก และมีธรรมะมากเท่านั้น ที่จะเท่ห์มากกว่า พอดีเมื่อกี๊อ่านข่าวเจอว่า Japan to adopt Bhutan's principles of Gross National Happiness; Taiwan, too ของ Forbes เค้า http://www.forbes.com/sites/lisanapoli/2011/12/09/japan-to-adopt-bhutans-principles-of-gross-national-happiness-taiwan-too/ เห็นได้ว่า คนไต้หวัน ที่รวยอันดับที่ 20 ของโลก กับคนญี่ปุ่น  ที่รวยอันดับที่ 24 ของโลก  น่าจะต้องเท่ห์กว่า ภูฐาน  ที่รวยอันดับ 109 ของโลก ในการคิดแบบปัจจุบัน ที่ใช้เครื่องมือในการคำนวณแบบ GDP  per capita (PPP) แต่นี่ ไต้หวัน กับญี่ปุ่น ชักจะรับเอา GNH แบบภูฐานมาร่วมคิดด้วยแล้ว เทรนมันชักไม่ใช่เงินแล้ว กลายเป็นความสุขแล้ว คิดว่างั้นนะ คือเดาเอา จากคุณ : abcz เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 54 00:37:25

ความคิดเห็นที่ 36 ไม่เห็นใครพูดถึงอาชีพนักวิทยาศาสตร์ตามคอนเซ็บของหว้ากอเลยน่ะ จากคุณ : Ter @ AFC เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 54 03:52:03

ความคิดเห็นที่ 37 ถ้าวัตถุปะสงค์คือรายได้เพื่อไม่ลำบาก เงิน ก็ต้องเป็นนักการเงินค่ะ ถ้าชอบคำนวณก็ math financeก็ได้ แนวคิดนี้เกิดขึ้นตอนเราเรียนตรี วิทยาศาสตร์ เดินตามรอยพ่อเรา พ่อเคยบอกว่าเรียนผลิตก็ต้องเรียนขาย เราเลยต่อโทบริหาร จนรํ้สึกว่าชอบการเงินมากกว่่าการตลาด ตอนจะเลือกงาน เราเห็นว่า อาชีพที่ประสบความสำเร็จก็ต้องบริหารเงินอยู่ดี เราเลยทำงานด้านการลงทุน สถาบันการเงิน แล้วพบว่าจริง จากคุณ : คน กทม. เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 54 08:22:29 A:110.49.249.83 X: TicketID:336212

ความคิดเห็นที่ 38 ถ้าจะคาดการณ์ในอีก นาน ขนาดยี่สิบปีข้างหน้า ผมว่าก็อยากเอาการ เพราะว่ามันต้องทำนายความต้องการของมนุษย์ในอีกยี่สิบปีข้างหน้าครับ (ความต้องการทางสังคม มีส่วนอย่างมากในการกำหนด) เอาแบบนี้ก่อนหล่ะกัน ปัจจุบัน อาชีพที่ดีคืออาชีพที่รายได้สูงเป็นหลัก  และเสริมด้วยความสามารถเลือกได้ดังใจว่าวันนี้ ต้องการทำงาน วันนั้นไม่ต้องการทำงาน ผลของค่านิยมเลยเป็นดังที่เราเห็นในปัจจุบัน เนื่องจากตัวรายได้นี่เอง ทำให้ แอร์ของการบินไทย จึงมีคนแย่งกันทำงานมากกว่า ของนครชัยแอร์ ส่วนเทรนด์ในอดีต เรื่องเงินอาจจะไม่จำเป็นมาก เพราะว่าสินค้าต่างๆที่ต้องใช้เงินหามา ก็ไม่มีมากมาย คนในอดีตจึงเข้าสู่การอิ่มตัวทางการเงินได้ง่าย เช่น ออกไปหาปลาวันเดียวได้ปลาทะเลมามากมาย เอาเงินไปกินหล้าได้สองสามวัน เทรนด์ของอาชีพในอดีตจึงเป็นอาชีพที่มีลูกน้อง มีบริวาร สำหรับในอนาคตอีกยี่สิบปีข้างหน้า ถ้ามองในประเทศไทย คนไทยกำลังมีประชากรลดลง และประชากรเหล่านี้ล้วนได้รับการศึกษา ผมคิดว่าเทรนด์ด้านอาหารสำหรับประเทศนี้คงจะไม่โดดเด่นสักเท่าไหร่ ผมว่าน่าจะเป็นเทรนด์ทางด้าน ไลฟ์สไตล์ครับ อาชีพที่ต้องใช้ความโดดเด่น เช่น ดีไซน์เนอร์ สถาปิก ครีเอดทีฟสูงๆ เอนจิเนียร์ที่เอาศาสตร์ทุกด้านของวิศวะมาผสม ออกเป็นนวัตกรรมใหม่ๆ อำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวัน และอีกทางหนึ่งคือ เทรนทางด้านดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ แน่นอน หลีกไม่พ้นอาชีพหมอ พยาบาล มีคนเอ่ยถึงอาชีพนักวิทยาศาสตร์ นักวิทยาศาสตร์ มันเลื่อนลอยจับต้องไม่ได้ในเมืองไทย การวิจัย ไม่สามารถตามทันเทคโนโลยีในด้านที่เราไม่ถนัด  ถ้าเอ่ยถึงอาชีพนี้ นักวิทยาศาสตร์บ้านเรา ไม่ได้อาชีพที่จำเป็นต้องสร้างความรู้ใหม่ แต่เป็นอาชีพที่ต้องรับความรู้ใหม่เข้ามา อาชีพนักวิทยาศาสตร์บ้านเราควรจะเน้นไปทางด้านพันธุวิศวกรรม ประเทศไทยเราโชคดีที่หลุดพ้นความต้องการทางด้านอาหารและน้ำดื่มไปได้ จึงมุ่งหน้าเข้าสู่ประเทศขายนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์(ทั้งทางด้านการผลิตที่มีประสิทธิภาพและ การออกแบบที่เข้ากับไลฟ์สไตน์ผู้คน) และประเทศนี้ห้ามมุ่งหน้าไปสู่ประเทศขายแรงงานถูกๆเด็ดขาด การกดค่าแรงเพื่อดึงดูดนักลงทุน แล้วหวังว่าเค้าจะเพิ่มค่าแรงให้ปีละเล็กน้อยนั่นไม่ใช่ทิศทางที่ประเทศควรจะเดินไป เพราะ ประเทศไทยกำลังจะเข้าสู่ประเทศคนแก่ คนหนุ่มไม่สามารถทำงานที่ราคาน้อย เพื่อเลี้ยงทั้งพ่อแม่และลูกในเวลาเดียวกันได้ จากคุณ : หล่อเขลา เบาปัญญา เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 54 12:46:39

ความคิดเห็นที่ 39 อะไรคือคำนิยาม ของคำว่าดีที่สุดครับ เงิน เวลา อิสรภาพในการใช้ชีวิต สุขภาพที่แข็งแรง อาชีพเป็นเพียงเครื่องมือในการดำเนินชีวิต ทุกอาชีพดีหมดละครับ อยู่ที่ว่าเราเลือกเครื่องมืออะไร แล้วมีความสุขกับชีวิตมากที่สุด จากคุณ : มนุษย์ไฟฟ้า เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 54 14:12:10

ความคิดเห็นที่ 40 แต่จะมีอาชีพนึงที่จะยังขายดีเป็นเทน้ำเทท่า คือสาวน้อยตกน้ำแถวๆอ่าง โดยกระจายรายได้มาจากทุกๆอาชีพที่กล่าวมาด้านบน จากคุณ : สวย ส่ายสุดๆ เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 54 17:01:59

ความคิดเห็นที่ 41 สนับสนุน ปลัดคมนาคม สุดยอด จากคุณ : กกกก เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 54 17:29:55 A:27.130.155.233 X: TicketID:341625

ความคิดเห็นที่ 42 วันนี้  อาชีพ นักการเมือง...... แต่ไม่ใช่ นักการเมืองอาชีพ... ....... อีก 20 ปี  อาชีพ คนดี..   . คนดี ต่อไป    จะเป็น อาชีพ... .... เพราะ เพราะเทศไทย  โดนนักการเมือง  รุมทึ้ง.. จนประเทศไทย.. เหลือ แค่   กทม.. .. นอกนั้น เป็น ของ ต่างชาติ  หมด. จากคุณ : นาย หุ้น n-park (prince-npark) เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 54 17:44:13

ความคิดเห็นที่ 43 นักการเมืองครับ จากคุณ : สยึมกึ๋ย เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 54 23:48:55

ความคิดเห็นที่ 44 ยุคหน้า การคมนาคมขนส่งจะก้าวหน้าขึ้นมาก ทั้งรถไฟ เครื่องบิน รถยนต์ เรือ แนะนำครับ "ปลัดกระทรวงคมนาคม" จากคุณ : moojiw เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 54 13:03:36

ความคิดเห็นที่ 45 ถ้ายังมีเรื่องอุทกภัย ภัยพิบัติ กระทบต่อทั่วโลก เราคิดว่า อาหาร เกษตร อสังหา น่าจะราคาดี จากคุณ : and then เขียนเมื่อ : 12 ธ.ค. 54 13:18:31