ความคิดเห็นที่ 1 ผมสนใจเรื่องการฝังเข็ม ตั้งแต่ได้อ่านบทความใน Reader's Digest สมัยนิกสัน ไปเยือนจีน จีนโชว์การฝังเข็ม "ผ่าตัดหัวใจ" ในขณะที่คนไข้นั่งดูดน้ำส้มเฉย (อันนี้ ผมมารู้ภายหลังเมื่อน้องชายผมไปทำ"สายสวน ใส่บอลลูน" ที่ Heart Center ศิริราช ผมแอบดูทางช่องกระจก แผนปัจจุบันเขาก็ทำอย่างเดียวกัน เห็นน้องผมพูดคุยกับทีมหมอ) ด้วยความสนใจ ผมจึงพยายามไปดูวิธีการฝังเข็มด้วยตัวเอง ไปถึงเขาวัดชีพจร+ความดันด้วยเครื่องมือแพทย์-แผนปัจจุบัน (ทราบว่าเมื่อก่อนใช้มือจับ หรือ แมะ ) ผู้ให้การรักษาเป็นคนหนุ่ม หน้าตาดี ท่าทางเป็นคนทันสมัย หลังจากตรวจแล้ว โรคอะไรรักษาไม่ได้เขาจะบอกว่าไม่ได้ เช่น โรคหัวใจ อันนี้น้องชายผมลองภูมิ อิอิ ระหว่างนั้น ผมพูดคุยกับคนไข้ที่ไปรักษา มีการรักษาอาการเสียวฟัน หลังจากฝังเข็มแล้ว เขาก็ไม่เสียวฟัน แถมบอกเหมือนในโฆษณาคอลเกตว่า "ให้เคี้ยวน้ำแข็งสิบก้อนก็ได้"   ... โอเค อันนี้มีความเป็นไปได้ อาจจะฝังไปกดจุด ที่ทำให้เสียวฟัน ผมเป็นเบาหวาน หมอบอกว่า รักษาไม่หายหรอก แต่ทำให้อาการดีขึ้นโดยการกระตุ้น การทำงานของตับอ่อนได้ "จุดนี้อยู่ที่ฝ่าเท้า" บริเวณนี้คงมีเส้นประสาทเยอะ เวลาฝังเข็มจะเจ็บมากเอาเรื่อง แต่จุดอื่นๆไม่เจ็บเลย ผมลองมาเปิดหนังสือสุขภาพที่สั่งซื้อจาก "สรรสาระ" มีแผนผังจุดเชื่อมโยงกับอวัยวะ ซึ่งสอดคล้องกับการฝังเข็ม ดังภาพ แก้ไขเมื่อ 14 ธ.ค. 54 08:21:18 จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 54 08:17:28

ความคิดเห็นที่ 2 จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 54 09:15:19

ความคิดเห็นที่ 4 ควรใช้เมื่อไร จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 54 09:16:26

ความคิดเห็นที่ 5 ข้อควรระวัง จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 54 09:17:04

ความคิดเห็นที่ 6 ที่มาของการฝังเข็ม จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 54 09:17:33

ความคิดเห็นที่ 7 ความคิดเห็นส่วนตัวต่อแผนจีนครับ ส่วนมากแล้วเห็นด้วยนะครับ 4. ผลข้างเคียง เช่น การใช้สมุนไพรไม่ได้มีการสกัดสารที่ออกฤทธิ์ออกมาโดยเฉพาะ ผู้ป่วยอาจจะได้รับสารที่ไม่พึงประสงค์เข้าไปด้วย (แต่มีผลกระทบมากหรือน้อยอย่างไรครับในทางปฏิบัติ?) พวกสมุนไพรไม่ค่อยมีผลอะไรมากครับ คนไข้ก็ปกติดีไม่ได้รับอะไรมากมายเพราะระหว่างที่รับยาก็มีการตรวจร่างกาย(ตอนมาพบแพทย์)อยู่ร่วมด้วย เพิ่มเติมครับ 1. อยากให้ช่วยวิจารณ์ถึงข้อเสียอื่นๆ ที่ทำให้การแพทย์แผนปัจจุบันยังอยู่ในตำแหน่งที่เหนือกว่า หลักๆคงเป็นเรื่องทฤษฎียอมรับได้ยากนะครับเนื่องจากไม่เกี่ยวอะไรกับแผนปัจจุบันเลย เรียกว่าเหมือนย้ายศาสนาเลยทีเดียว อีกอย่างนึงคือพวกต้มตุ๋นเยอะมาก ทำให้ตัวจริงลำบากไปด้วย สุดท้ายคือแน่นอนว่าขอบเขตการรักษาแคบกว่า แต่ส่วนดีคือขอบเขตนั้นมันมีส่วนที่แผนปัจจุบันไม่ครอบคลุมด้วย 2. วิจารณ์ถึงประสิทธิภาพและอุบัตติเหตุจากการรักษาโดยเปรียบเทียบกับแพทย์แผนปัจจุบัน แผนปัจจุบันน่าจะก้าวข้ามแผนจีนไปแล้วนะครับเพราะกว้างกว่าด้วย แต่มันก็ต้องดูว่ามันมาบาดเจ็บตรงส่วนที่แผนจีนถนัดพอดีรึเปล่า ถ้าเท้าแพลงมือส้นก็รักษาได้อยู่แต่ถ้าแขนขาดก็ต้องผ่าตัดนะครับ 3. ความเป็นไปได้ที่จะนำการแพทย์ทางเลือก (ไทย จีน อินเดีย) เข้าสู่ระบบการแพทย์มีศักดิ์เทียบเท่า (หรือวันหนึ่งอาจจะลดบทบาทของ) การแพทย์แผนปัจจุบัน แนะนำเป็นบทความหรืองานวิจัยก็ได้เช่นกันครับ ขอบคุณครับ ช่วงนี้เห็นพัฒนาเร็วนะครับ เวบก็เยอะขึ้น แผนจีนมีการออกใบอณุญาตแล้วด้วย หวังว่าจะทำให้พวกต้มตุ๋นลดน้อยลง เรื่องการพัฒนาต่อยอดมาใช้รักษาร่วมกับแผนปัจจุบันแบบประเทศจีนคิดว่ายังอีกนาน เอาแค่ให้ได้มาตรฐานก่อนก็พอแล้วครับ ความเห็นส่วนตัวนะครับ อย่าเชื่อมาก จากคุณ : keerati Arm เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 54 09:44:19

ความคิดเห็นที่ 8 ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญแต่คิดว่าจุดแข็งอย่างนึงเลยของแพทย์แผนจีนคือการแมะ ซึ่งเป็นการตรวจสภาพร่างกาย และอาการโรคที่บางครั้งแพทย์แผนปัจจุบันตรวจยากหรืออาจใช้เวลานาน หรือกรณีที่ผู้ป่วยเป็นเด็กซึ่งอธิบายอาการของโรคตัวเองไม่ได้ จากคุณ : Grunge Agina เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 54 09:47:34 A:202.149.29.81 X: TicketID:275557

ความคิดเห็นที่ 9 ข้อด้อยก็คงเป็นทฤษฎีอย่างที่ว่าแหละครับ เพราะมันไม่ได้โยงกับวิทยาศาสตร์ปัจจุบัน แต่กลับเอาหลักหยินหยาง และระบบธาตุมาอธิบายแทนซึ่งงงมาก และยังน่าทึ่งอีกว่าคนสมัยโบราณรู้พวกจุดฝังเข็มได้อย่างไร ทั้งที่เส้นชีพจรลมปราณมันมองไม่เห็น และไม่ได้มีลักษณธทางกายภาพให้เห็นได้ (คือผ่าศพมาก็ไม่เจอเส้น) หรือว่าหมอสมัยก่อนมันลองผิดลองถูก จิ้มทุกจุดจนรู้หรือเปล่า ฮาๆ จากคุณ : Grunge Agina เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 54 09:53:18 A:202.149.29.81 X: TicketID:275557

ความคิดเห็นที่ 10 การแมะ นี่ผมว่ากึ่งๆดูดวงเลยนะครับ อาจจะมีจริงครึ่งอีกครึ่ง นี่เดาจากรูปร่างลักษณะ และ อายุ คนตรวจทั้งนั้น และเวลาพูดนี่จะเหมือน การดูดวงเลย ตะล่อมๆกึ่งทายกึ่งถาม ท่าไม่เข้าเค้าก็ เปลี่ยนเนียนๆ ถ้าเข้าเค้าหน่อยก็จี้ไปว่า หยั่งงี้ใช่มั้ย อย่างนั้นใช่มั้ย นั่นไง ต้องเป็นนั่นนี่แน่ๆ ปล เคยไป แมะ ที่ศูนย์การแพทย์จีน ที่ปักกิ่ง แมะ ผช ทุกคนเป้นโรคเดียวกันทุกคน แมะ ญ กี่คนก้โรคเดียวกันหมด(ตอนแมะนี่แยกกันนะ) จากคุณ : ความจริงที่ไม่มีจริง เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 54 10:10:27

ความคิดเห็นที่ 11 จุดด้อยของแพทย์แผนจีน คือ "คน" เนื่องจากคนที่ยึดแผนแพทย์แผนจีนเป็นอาชีพ มีแนวโน้มที่จะหลอกลวง หรือโฆษณาเกินจริง ทำให้โดยรวมมันไม่น่าเชื่อถือ และเนื่องจากแพทย์แผนจีนพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ไม่ได้ เราจึงไม่สามารถแยกแยะว่าใครจริงใครหลอก *อยากเพิ่มว่าคนที่ชอบแพทย์ทางเลือกมักมีอารมณ์กวี เวลาเขาพูดถึงคนป่วยที่รักษาแบบตะวันตกมักพูดว่าเขา ทุกข์ทรมานสุดๆ แต่เมื่อมารักษาแผนจีนทุกอย่างมันช่าง เพริศแพร้วพรรณราย ทำให้คนหลงเชื่อง่าย จากคุณ : polpris เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 54 11:10:15

ความคิดเห็นที่ 12  FDA อ.ย.อเมริกา ให้ความสำคัญกลไกการออกฤทธิของยาแผนปัจจุบัน แบบ Molecular Formula การรักษามุ่งที่การ "แก้ไข" เช่น ไขมันในเลือดสูง ..ก็ใช้ยาลดไขมัน ออกฤทธิเป็น inhibitor ไปยับยั้งตับให้ชลอการผลิต Cholesterol ผลการตรวจเลือดครั้งต่อไป Cholesterol Level ก็ลด ... กลไกการรักษาไขมันในเลือดสูงแบบนี้ ยาเข้าไป "ยับยั้ง" การทำงานของอวัยวะ(ตับ) ข้อเสีย ทำให้สมดุลของร่างกายเสียไป ระยะยาวส่งผลข้างเคียงตามมา ในขณะเดียวกัน โครงสร้างของยาสมุนไพรออกฤทธิแบบ Multimolecular "ทำงานเป็นทีม" กลไกการทำงานแบบ "ฟื้นฟูมากกว่ามุ่งแก้ปลายเหตุ" การรักษาอาจใช้เวลามากกว่า   ข้อเสีย ใช้เวลานานกว่า แต่สมดุลร่างกายไม่เสียไป ระยะยาวจะดีกว่า จะเห็นได้ว่า ยาแผนปัจจุบันมีบทบาท sickness care แก้ไขปลายเหตุ ทำให้สมดุลร่างการเสียไป ระยะยาวมีผลเสีย ยาสมุนไพร มีบทบาทฟื้นฟูกลไกการทำงานให้ดี หรือ health care จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 54 12:37:11

ความคิดเห็นที่ 13 แพทย์แผนโบราณก็ที่มาของปัจจุบันนั่นแหละครับ ถ้าว่าเรื่องสมุนไพรนะ มันคือสิ่งเดียวกัน แค่แผนปัจจุบันเค้าอยากรู้เพิ่มเติมว่าสมุนไพรตัวนี้มันมีสารอะไรที่ทำให้หายโรคได้ แล้วก็สกัดเฉพาะตัวนั้นมาทำเป็นยาแคปซูล ส่วนแผนโบราณให้กินทั้งหมดทั้งต้นไปเลย ต่างกันแค่นี้เองครับ ปัญหาของแพทย์แผนโบราณคือไม่ชอบถ่ายทอดองก์ความรู้ และไม่ชอบการพิสูจน์ทราบอย่างแน่ชัดมากกว่า มักจบแค่ที่รักษาหายก็พอใจ แต่ไม่ชอบการต่อยอด คนอยากศึกษาแผนโบราณในเชิงวิจัยมีเป็นหลายพันคน แต่คนที่ให้องก์ความรู้ได้แบบจริงๆ ว่าตกลงคุณเอายังไงกันแน่ มีน้อยมากนะครับ เอาแค่ง่ายๆ สมุนไพรหนึ่งตัวแพทย์แผนโบราณที่บอกขอบเขตแน่ชัดว่า "รักษาโรคนี้ได้ โรคนี้ไม่ได้" ก็ไม่มีแล้ว ส่วนมากมีบอกแค่ช่วยบรรเทาได้ทุกอย่าง แต่จะดีจริงๆ กับโรคไม่กี่โรค (จริงๆ นอนเฉยๆ ก็บรรเทาได้ทุกโรคนั่นแหละ) อีกปัญหาคือเราแบ่งแยกกันเอง อนาคตถ้าสิ่งที่เคยเป็นเรื่องโบราณอย่าง ฝังเข็ม เค้าวิจัยกันจนเสร็จแล้วมีเครื่องมือทันสมัยในโรงพยาบาล เป็นเครื่องจักรทำไม่ใช่มนุษย์ฝัง ฝังจุดแม่นยำเป๊ะให้ความร้อนเป๊ะๆ ทำทุกอย่างเป๊ะอธิบายเป็นภาษาอังกฤษว่าเข็มนี้จะฝังเข้า Nerve A เพื่อให้ Nerve B ส่งกระแสไฟฟ้าไปสู่ Nerve C แล้วมีผลต่อสมองโดยลดอาการเจ็บปวด คนก็จะมองว่าเป็นปัจจุบันไปอีก แล้วก็จะบอกว่าการสกัดจุด ประคบร้อน เป็นโบราณ แปลกที่อะไรที่วิจัยแน่ชัดมีขอบเขตชัดเจนว่าทำอะไรได้บ้าง มันดูไร้ความฝันและเข้าใจง่ายเสียจนคนคิดว่าสิ่งที่ไม่มีขอบเขตอย่างความรู้แพทย์ที่เราไม่แน่ใจ จะมีพลังมากกว่า มันคงดูให้ความหวังได้ดีมั้งครับ ยิ่งกับคนที่หมดหวังกับสิ่งที่มีขอบเขตชัดเจน เค้าก็ย่อมเลือกอะไรที่ดู "ให้ความหวัง" ได้อยู่แล้ว จากคุณ : Mariel เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 54 12:49:15

ความคิดเห็นที่ 14 ศาสตร์ที่ไม่ได้มีสอนทั่วไป ก็มักจะหวงความรู้ไว้ เพื่อให้ลูกหลานสืบต่อ แต่ปัญหาคือ มันไม่ถูกพัฒนา ไม่งั้นป่านนี้คงรักษาเอดส์ได้แล้ว จากคุณ : NaCl เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 54 14:56:11

ความคิดเห็นที่ 15 เห็นด้วยกับ 11,12 และ 13 จากคุณ : พาระวี เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 54 15:20:09

ความคิดเห็นที่ 16 1. ขาดข้อมูลทางวิทยาศาสตร์รองรับ - หลายๆอย่างมีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์มารองรับแล้วนะครับ แต่อีกหลายอย่างพิสูจน์ได้ว่ามันได้ผล แต่ยังพิสูจน์ไม่ได้ว่าเพราะอะไร เพราะวิทยาศาสตร์ยังไปไม่ถึง 2. ขนาดรับประทานยาก ปริมาณบริโภคสูงและได้ผลช้า - ยาแผนปัจจุบันเป็นยาสกัด ซึ่งจะให้ผลได้เร็วกว่า แต่ผลกระทบก็มากกว่าครับ ส่วนยาจีนส่วนมากเป็นตัวสมุนไพรเลย ซึ่งอาจให้ผลช้ากว่า แต่ก็เกิดผลข้างเคียงได้น้อยกว่าเช่นกัน ก็ต้องมองไปเป็นเคสๆละครับ ว่าอันไหนจะเหมาะกว่า 3. ขอบเขตของโรคและการรักษาไม่เป็นวงกว้างเท่าแพทย์แผนปัจจุบัน (โดยยึดจากที่WHOยอมรับ) - ถูกครับ เพราะแผนจีนเองก็มีความรู้จำกัด ซึ่งส่วนมากจำกัดแค่ในประเทศจีน จึงไม่ครอบคลุมเท่าแผนปัจจุบัน 4. ผลข้างเคียง เช่น การใช้สมุนไพรไม่ได้มีการสกัดสารที่ออกฤทธิ์ออกมาโดยเฉพาะ ผู้ป่วยอาจจะได้รับสารที่ไม่พึงประสงค์เข้าไปด้วย (แต่มีผลกระทบมากหรือน้อยอย่างไรครับในทางปฏิบัติ?) - เช่นเดียวกับข้อ 2 ครับ เพราะไม่ได้สกัดสารออกมาโดยเฉพาะ ผลกระทบมันเลยน้อยกว่า และส่วนมากเขาก็จะรู้กันอยู่แล้วว่าอะไรมีผลกระทบอะไรบ้าง จึงไม่ค่อยให้ยาผิดมากนัก เพิ่มเติมครับ 1. อยากให้ช่วยวิจารณ์ถึงข้อเสียอื่นๆ ที่ทำให้การแพทย์แผนปัจจุบันยังอยู่ในตำแหน่งที่เหนือกว่า - แผนปัจจุบันมีวงกว้างกว่ามากครับ อย่างแรกคืออะไรๆที่ค้นพบใหม่ถือว่าเป็นแผนปัจจุบันหมด เมื่อมีโรคใหม่ๆจึงมักเป็นหน้าที่ของแพทย์ปัจจุบัน อย่างที่สอง แพทย์ปัจจุบัน ส่วนมากอธิบายได้ว่าเกิดขึ้นเพราะอะไร อย่างไร จึงเป็นที่เข้าใจ และยอมรับได้มากกว่า แผนจีน ที่หลายๆอย่างไม่อาจอธิบายได้ด้วยวิทยาศาสตร์ในปัจจุบัน 2. วิจารณ์ถึงประสิทธิภาพและอุบัตติเหตุจากการรักษาโดยเปรียบเทียบกับแพทย์แผนปัจจุบัน - ไม่ขอเทียบละกันนะครับ เพราะตรงนี้ไม่มีข้อมูลรับรอง แต่ถ้าเกิดจากแผนปัจจุบัน มักจะร้ายแรงกว่าแผนโบราณครับ โดยเฉพาะเรื่องยา 3. ความเป็นไปได้ที่จะนำการแพทย์ทางเลือก (ไทย จีน อินเดีย) เข้าสู่ระบบการแพทย์มีศักดิ์เทียบเท่า (หรือวันหนึ่งอาจจะลดบทบาทของ) การแพทย์แผนปัจจุบัน - การนำแพทย์ทางเลือกเข้ามานั้นเป็นไปได้ครับ แต่ก็ต้องมีการพิสูจน์ว่ามันได้ผลจริง และถ้าเรามีความรู้มากพอที่จะอธิบายว่ามันรักษาได้อย่างไร ก็จะเป็นที่ยอมรับในวงการแพทย์ยุคใหม่ได้ แต่ไม่มีทางที่แผนปัจจุบันจะลดบทบาทลงครับ อย่างมากจะเป็นการนำวิถีการรักษาแบบโบราณ มาอธิบาย ประยุคให้เข้ากับสมัยใหม่เท่านั้นเอง วันก่อนดูรายการเกี่ยวกับแพทย์ทางเลือกครับ วิธีการรักษาแบบฝังเข็ม ก็ถูกนำไปพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์แล้ว ว่าสามารถใช้ลดการเจ็บปวดได้จริง ด้วยการใช้ MRI รุ่นใหม่ตรวจสมองแบบ Realtime พบว่าสมองส่วนรับรู้ความเจ็บปวด มีการตอบสนองเปลี่ยนแปลงจริง ที่เหลือก็แค่ศึกษาว่าทำไมมันจึงเป็นเช่นนั้นได้ จะเห็นได้ว่า ด้วยวิทยาการปัจจุบันเองก็ยังมีขีดจำกัดในการพิสูจน์อยู่ครับ ไม่ได้รู้ไปทุกเรื่อง แต่เมื่อนำมาใช้ศึกษาทำความเข้าใจแพทย์แผนโบราณบางอย่างที่ แผนปัจจุบันไม่เข้าใจ แต่ทราบว่าได้ผล ก็อาจทำให้เกิดองค์ความรู้ใหม่ก็เป็นได้ ไม่แน่อีกไม่เกิน 20 ปี เราอาจทำความเข้าใจ และพัฒนาต่อยอดแพทย์แผนโบราณเหล่านี้ ให้เป็นส่วนหนึ่งของแพทย์สมัยใหม่ก็เป็นได้ จากคุณ : หมาข้างถนนคนบ้าการ์ตูน เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 54 16:05:33

ความคิดเห็นที่ 17 วิทยาการทางการแพทย์แผนปัจจุบันยังไม่สามารถพิสูจน์ความจริงทุกอย่างในจักรวาลนี้ จากคุณ : Living Extreme เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 54 17:11:32

ความคิดเห็นที่ 18 เคยโดนแมะไปครั้งหนึ่งเมื่อนานมาแล้ว จากวันนั้นจนถึงวันนี้ ผมเชื่อสนิทใจเลยเรื่องการแมะเนี่ย... จากคุณ : นาย X-MAN เขียนเมื่อ : 14 ธ.ค. 54 19:56:57

ความคิดเห็นที่ 19 ผมคิดว่าแพทย์แผนไทย แผนจีน หรือแผนโบราณทั้งหลาย ยึดติดกับแบบแผนโบราณเกินไป จะใช้สมุนไพรก็ต้องใช้เครื่องชั่งโบราณ สมัยนี้มีเครื่องชั่งดิจิตอล ละเอียดและแม่นยำกว่า ทำไมไม่ใช้ แพทย์แผนปัจจุบันใช้เครื่องมือช่วยหลายอย่าง X-Ray, MRI, CTSCAN วัดความดัน อุณหภูมิ แต่แพทย์แผนโบราณดันไม่ใช้ ทำไมแยกไม่ออกว่าเครื่องมือเหล่านั้นไม่ใช่วิชาแพทย์แผนปัจจุบัน แต่เป็นผลพวงของการพัฒนาทางวิชาฟิสิกส์ประยุกต์ ไม่ว่าแพทย์แผนใดก็ใช้ได้ จากคุณ : Zeichnung เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 54 08:28:58

ความคิดเห็นที่ 20 ^ ^ แพทย์จีนที่ฝังเข็ม เขาใช้เครื่องวัดความดันแบบดิจิตอล ไม่ได้แมะแบบโบราณแล้ว จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 54 14:56:17

ความคิดเห็นที่ 21 กดจุดให้ชาเฉพาะที่ได้ ใช้ผ่าตัดเล็กได้โดยไม่ต้องใช้ยาชา ควรมีใครออกแบบเครื่องมือกดจุดนะ จะได้ไม่ต้องกลัวหลุด และไม่ต้องซื้อยา ซื้อเครื่องมือทีเดียวจบ จากคุณ : NaCl เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 54 20:34:01