 |
ต้องเป็นจุฬาเท่านั้นรึเปล่าครับ ผมก็วิทยาศาสตร์ ฟิสิกส์ แต่ไม่ใช่จุฬา และเรียนวิศวกรรมศาสตร์มาเทอมนึงและไม่ใช่จุฬาอีกเช่นกัน (ตอนนี้ลาพักการศึกษาเพราะไม่มีตัง)
1. เพื่อนผมจบฟิสิกส์แต่ต่อโทวิศวะได้ เห็นมันบอกว่า ต่อได้ทุกสาขาเลยหรอครับ อันนี้ผมงงมากเพราะมีทั้งคนต่อ ด้านโยธา ไฟฟ้า คอม - ต่อได้ครับ ผมก็เคยต่อมาก่อน แต่ต้องปูพื้นกันใหม่ตั้งแต่ต้น อาจจะต้องสู้และเหนื่อยกว่าคนที่จบวิศวกรรมศาสตร์มา
2.วิทยาศาสตร์ ฟิสิกส์ เรียนยากกว่าวิศวะจริงหรอ - จริงบางส่วนและไม่จริงบางส่วน ถ้าถามว่าอันไหนยากกว่า ผมว่ามันเทียบกันไม่ได้ เพราะทั้งสองอย่างแนวคิดมันต่างกัน ฟิสิกส์สายบริสุทธิ์ วิศวะสายประยุกต์ ฟิสิกส์แนวคิดค่อนข้างจะละเอียดและเป็นสากลมากกว่า วิศวะแนวคิดจะไม่ละเอียดเท่าตัดทอนหลาย ๆ ส่วนจากวิทยาศาสตร์ไป แต่สามารถนำไปใช้สร้างอะไรต่อมิอะไรได้ดีกว่า การแก้ปัญหาแบบเดียวกัน ฟิสิกส์กับวิศวะยังใช้ต่างวิธีกันเลย ยกตัวอย่างเช่นจะหากระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านในตัวเก็บประจุ ฟิสิกส์ -> แก้สมการเชิงอนุพันธ์สด ๆ และสมการที่ได้มาจะต้องสามารถอธิบายระบบได้ทั้งอดีต ปัจจุบันและอนาคต วิศวะ -> เทคลาปลาซกลายเป็นปัญหาพีชคณิตธรรมดา ง่ายขึ้นเยอะ แต่โดเมนหายไปครึ่งนึง แต่วิศวะบอกไม่แคร์ เพราะยังไม่ได้กดสวิตช์ ไปเรียนวิศวะมาเทอมนึงแทบไม่ต้องแก้สมการอะไรให้ยุ่งยากเลย เล่นอธิบายบนโดเมนลาปลาซหรือไม่ก็ฟูเรียร์ให้มันเป็นปัญหาพีชคณิตง่าย ๆ ซะมาก นอกจากวิชาคณิตศาสตร์ที่แก้สมการเยอะหน่อย แต่เพราะเรียนสายฟิสิกส์มาอยู่แล้วคณิตศาสตร์เลยแน่นไม่รู้สึกลำบาก ขนาดที่ว่าเพื่อน ๆ ที่เรียนด้วยกันขนาดจบวิศวะมาโดยตรงเห็นเรานั่งแก้สมการถึงขั้นบอกว่าถ้ามีลูกจะส่งลูกเรียนฟิสิกส์ก่อนแล้วค่อยต่อโทวิศวะเลยทีเดียว - -" จริง ๆ คือไม่ได้เก่งอะไรแต่ฟิสิกส์มันแก้เลขยากกว่า ไปเรียนวิศวะเลยชิล ๆ
3. วิทยาศาสตร์ ฟิสิกส์ จุฬาเด็กพวกโอลิมปิค เข้าเยอะจริงรึเปล่าครับ ผมดาราศาสตร์โอลิมปิกเมินจุฬาไปเรียนม.ช. รุ่นน้องโอลิมปิกผมก็มีตั้งแต่ชีววิทยา วิศวกรรมศาสตร์ ฯลฯ กระจายไปตามมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ไม่เจาะจงว่าจะต้องเป็นที่จุฬา แต่ที่น่ากลัวผมว่าไม่ใช่เด็กโอลิมปิกนะ พวกเด็ก พสวท. น่ากลัวกว่าเยอะ ไม่รู้ว่ากินอะไรเป็นอาหาร (-_-")a แต่ถ้าเป็นป.โทคาดว่าเด็กเหล่านั้นคงไปต่อต่างประเทศกันหมดแล้วมั้ง
4.คุณคิดว่าที่จุฬา โดยเฉลี่ยแล้วยากกว่าที่อื่นจิงรึเปล่าครับ หมายถึงทุกคณะ ไม่เสมอไป ผมว่าไม่จำเป็นต้องไปเจาะจงมหาวิทยาลัยใดมหาวิทยาลัยหนึ่งเลยจะดีกว่า ให้เจาะดูเครื่องมือกับโครงสร้างหลักสูตรเลยจะดีกว่า ดูว่าที่ไหนเด่นเรื่องอะไร อย่างเช่นถ้าไปฟิสิกส์จุฬาอาจจะดีด้านโซลิดสเตต แต่ด้านอื่นจะด้อยกว่ามหาวิทยาลัยอื่นเพราะไม่มีอุปกรณ์ ถ้าไปด้านซิงโครตอนก็ต้องไปมหาวิทยาลัยสุรนารี เพราะมีเครื่องกำเนิดลำแสงซิงโครตอน ถ้าไปดาราศาสตร์ก็ต้องไปมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เพราะมีหอดูดาวสิรินธร อาจารย์ดาราศาสตร์ก็มารวมกันที่นี่ แถมยังอยู่ใกล้ NARIT อีกต่างหาก ถ้าไปนิวเคลียร์ก็ต้องไปมหาวิทยาลัยเกษตร เพราะมีเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์สำหรับวิจัย แต่ถ้าจะเอาทฤษฎีขั้นเทพไม่เน้นปฏิบัติมากก็ต้องไปมหาวิทยาลัยมหิดล มันก็แล้วแต่ใครจะไปด้านไหน แปลกที่เด็ก ๆ มักจะมองแค่ว่าอยากเข้าเพราะมหาวิทยาลัยอันดับต้น ๆ ของประเทศ แต่ไม่เคยแง้มดูหลักสูตรเลยว่าดีจริงรึเปล่า เค้าเรียนอะไรบ้าง อาจารย์สอนอะไรบ้าง ระบบเป็นยังไง ตรงนี้แนะนำว่าก่อนที่จะเข้าไปสมัครเรียน ลองไปเดินเล่น ๆ ในมหาวิทยาลัยแล้วเดินไปคุยกับอาจารย์ภาควิชานั้น ๆ ดู ตอนก่อนผมจะสอบเข้าผมก็ทำแบบนี้แหละ ส่งเมลไปหาอาจารย์แล้วนัดคุยกันเลย ถึงได้รู้ว่าอาจารย์ที่ผมอยากทำวิจัยด้วยเน้นไปทางสายไหน เหมาะกับตัวเราหรือไม่ แล้วอาจารย์ชี้แนวทางการสอบเข้าให้ด้วยว่าทำยังไงถึงจะผ่าน สอบช่วงไหน ยังไม่พออาจารย์ยังบอกรายละเอียดด้วยว่ามีทุนเรียนฟรีอะไรบ้าง วันนั้นประทับใจสุด ๆ และเพิ่งไปสอบเมื่อวานซืน คาดหวังไว้ว่าจะได้เรียนและได้ทำวิจัยกับอาจารย์
ก่อนอื่นถ้าจะเข้าวิทยาศาสตร์ ฟิสิกส์ แนะนำให้ลูกพี่ลูกน้องไปดูว่าฟิสิกส์คืออะไร มันมีอะไรบ้าง สนใจแนวไหน วิชาฟิสิกส์ที่เรียนกันตอนม.ปลาย มันค่อนข้างจะออกแนววิศวะปนฟิสิกส์ อาจจะเอามาเทียบกันไม่ค่อยจะได้ เอาเป็นว่าเดี๋ยวผมจะแบ่งคร่าว ๆ ละกัน เผื่อจะเอาไปเป็นคีย์เวิร์ดให้ลูกพี่ลูกน้องไปเลือกว่าจะไปสายไหน สาขาของฟิสิกส์ (ที่นึกออกตอนนี้) แบ่งเป็น Astronomy - ดาราศาสตร์ เกี่ยวกับเรื่องดวงดาวบนท้องฟ้า Classical mechanics - กลศาสตร์ดั้งเดิม พวกนิวตัน การเคลื่อนที่ ฯลฯ ตอนนี้สาขานี้ผมว่ามันค่อนข้างจะตัน ๆ แต่เห็นก็รุ่นพี่ทำวิจัยอยู่บ้างนิดหน่อย Quantum Mechanics - กลศาสตร์ควอนตัม (แทบจะใช้ทุกศาสตร์) Solid state - เกี่ยวกับของแข็ง พวกผลึก สารกึ่งตัวนำ ฯลฯ ออกแนวแชร์ความรู้กับพวกวัสดุศาสตร์ Electromagnetic - ไฟฟ้ากับแม่เหล็ก Thermodynamics/Statistical Mechanics - อุณหพลศาสตร์ (ไม่เหมือน Heat transfer ของวิศวะนะ ของฟิสิกส์เจอแต่สมการเชิงอนุพันธ์) ส่วน Statistical Mechanics เป็นภาคต่อของอุณหพลศาสตร์ ผมเรียนไม่รู้เรื่อง เจออาจารย์รีบไปไหนไม่รู้ 200 สไลด์/คาบ สรุปคือเป็นอะไรที่สนใจที่สุดแต่ก็ไม่ได้อะไรที่สุดเลย TT_TT ส่วนรุ่นพี่ไม่ค่อยทำฟิลด์นี้กัน อาจจะเป็นเพราะตอนนั้นไม่มีอุปกรณ์ที่มอ Computational Physics - เขียนซิมมูเลชั่น คิดว่าสายนี้เป็นสายที่คนจบวิศวะเรียนง่ายสุดแล้วมั้ง Optics - ทัศนศาสตร์ พวกแสง เลนส์ กระจก ฯลฯ เห็นรุ่นพี่คนนึงทำฟิลด์นี้ จบออกไปแล้วไปทำงานธนาคารเกี่ยวกับ Hologram ที่อยู่บน ATM Nuclear Physics - พวกปฏิกิริยานิวเคลียร์ทั้งหลาย Theoretical Physics - ทฤษฎีต่าง ๆ นานา ขั้นเทพ เช่นทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไป อะไรงี้ สายนี้มักจะเรียนกันไม่กี่คนเพราะมันยาก แถมคนเรียนออกแนวเนิร์ดอีกต่างหาก การสอนฟิสิกส์ - ง่ายสุด เหมาะสำหรับเรียนไปเป็นครูมัธยมและอาจารย์มหาวิทยาลัยโดยเฉพาะ
จริง ๆ มันแบ่งมากกว่านี้อีก แถมแบ่งย่อยลงไปอีก อย่างเช่น Optics, Electromagnetic, ดาราศาสตร์ (ดาราศาสตร์ค่อนข้างจะเป็นศาสตร์ใหญ่ ถ้าเป็นมหาวิทยาลัยต่างประเทศบางประเทศจะแยกออกจากฟิสิกส์ไปเลยก็มี) เช่นแบ่งเป็น Practical astronomy, Astrophysics, Planetary astronomy, Cosmology, etc. อะไรทำนองนี้ แต่คิดว่าให้ลูกพี่ลูกน้องไปดูสาขาย่อย ๆ แบบนี้แล้วตัดสินใจเอาเองดีกว่าว่าจะเลือกสาขาไหน มหาวิทยาลัยไหน
ถ้าเกิดเรียนฟิสิกส์ไปวิศวะไม่ยากเท่าไหร่ แต่ถ้าวิศวะมาฟิสิกส์ผมว่ายากมาก ต้องไปไฟต์คณิตศาสตร์ขั้นสุดยอด เจอควอนตัมกับสแตตเมคอีก (ขนาดเด็กฟิสิกส์เองยังหืดขึ้นคอเอาตัวแทบไม่รอด สมการเชิงอนุพันธ์ทั้งเรื่อง แล้วต้องแก้สมการแบบไร้ตัวช่วยโนสตันท์แมนสแตนด์อินอีกต่างหาก)
จากคุณ |
:
Seiki
|
เขียนเมื่อ |
:
20 ธ.ค. 54 04:07:21
|
|
|
|
 |