ความคิดเห็นที่ 1 ปัจจุบันก็มี "แมลงวาป" กันทุกบ้านอยู่แล้ว จากคุณ : bakasama เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 54 13:13:36

ความคิดเห็นที่ 2 ผมฝันถึงการเดินทางด้วยความเร็วเท่าเดิม แต่ได้ระยะทางมากขึ้นมากกว่านะครับ อันนี้น่าจะยากสุด แต่เรื่องการเดินทางเข้าใกล้ความเร็วแสงนี่ ถ้าด้วยเทคโนโลยีขนาดนี้ ผมว่าไม่น่าจะเกิน 250 ปี น่าจะได้อยู่มั้ง จากคุณ : CaminoReal เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 54 13:15:50

ความคิดเห็นที่ 3 ***     ก่อนจะทำแบบนั้นได้เราต้องสามารถคิดค้นเทคโนโลยีที่ทำให้มนุษย์สามารถเดินทางเร็วกว่าแสงได้เสียก่อนครับ  เพราะการ "วาร์ป" นั้นไม่ใช่การเคลื่อนย้ายจากที่นึงไปยังที่นึงแบบในการ์ตูนดราก้อนบอล  แต่มันคือการเดินทางผ่าน "รูหนอน" ซึ่งเป็นช่องทางที่สามารถย่นระยะเวลาของการเดินทางในห้วงอวกาศได้  โดยรูหนอนที่ว่านี้อาจจะมีอยู่แล้วตามธรรมชาติ (เหมือนในลิเกอวกาศ Starwars) หรือเป็นการสร้างจำลองขึ้นมาด้วยฝีมือสิ่งมีชีวิตก็ได้ (เหมือนในเกมส์ Mass Effect)       ซึ่งถ้าใครยังไม่เข้าใจผมแนะนำให้หากระดาษเปล่ามาแผ่นหนึ่งแล้วลองมาร์คจุด A ไว้ที่ขอบกระดาษด้านหนึ่ง  จากนั้นมาร์คจุด B ไว้ที่ขอบกระดาษปลายสุดอีกด้านหนึ่งแล้วลากเส้นเชื่อมต่อระหว่าง2จุดนี้  โดยเส้นที่เราลากนี้ก็เปรียบเสมือนระยะทางที่ต้องใช้ในการเดินทางจากจุด Aไป B  ทีนี้การเดินทางผ่าน "รูหนอน" ก็หมายถึงการที่เรา "งอ" กระดาษเข้าหากันโดยให้จุด A มาประกบกับจุด B ซึ่งไิอ้เจ้าทางเส้นใหม่ที่ย่นระยะมานั้นก็คือ "รูหนอน" นั่นเองครับ ป.ล. "Prometheus" หนังที่เล่าถึงเรื่องราวก่อนหน้าภาพยนตร์ "เอเลี่ยน" ภาคแรก  ซึ่งเป็นผลงานของผกก. "ริดลี่ย์ สก็อต"(ผกก.เอเลี่ยนภาคแรก) ใกล้เสร็จสมบูรณ์แล้ว  แฟนๆที่ชื่นชอบหนังไซไฟเขย่าขวัญเตรียมล้างคอรอได้เลยครับ (เข้าฉายช่วงกลางปีหน้า) (May the Spoil be with you) ขอสปอยล์จงสถิตย์อยู่กับท่าน จากคุณ : เจไดหนุ่ม เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 54 13:16:55

ความคิดเห็นที่ 4 Prometheus +1 จากคุณ : bakasama เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 54 13:39:14

ความคิดเห็นที่ 5 อืม.. ผมว่ามันเป็นอะไรที่โหดหินมากครับ การจะถ่างรูหนอนให้เิปิดขึ้นได้ต้องอาศัยพลังงานลบจำนวนมาก ซึ่งเรายังแทบจะไม่มีความเข้าใจเกี่ยวกับมันเลย และไม่รู้จะหามันจำนวนมากจากไหนด้วย การเปิดรูหนอนคงทำบนที่ที่มีสนามโน้มถ่วงรบกวนได้ยาก ต้องทำในอวกาศเปิดอีก และใช้พลังงานมหาศาลมากๆ อีกทั้งเราต้องเ้ข้าพฤติกรรมของแรงโน้มถ่วงเป็นอย่างดีก่อนด้วย ผมค่อนข้างแน่ใจว่ามนุษย์จะได้เดินทางไปดาวนอกระบบสุริยะก่อนที่เกิดการวอร์พครั้งแรกขึ้นจริงครับ และมันคงตามมาได้ในอีกพักนึง ที่ผมคาดไว้คือหลักพันปีในอนาคตเลยล่ะ ปล. นี่เป็น Timeline จากนิยายผม แบบย่อๆ หน่วยเป็นปีในอนาคต 60 นาโนคาร์บอนกลายเป็นเทคโนโลยีมาตรฐาน 68 ควอนตัมคอมพิวเตอร์เข้าแทนที่เซมิคอนดักเตอร์โดยสมบูรณ์ 88 พลเมืองคนแรกบนนิคมดวงจันทร์ 91 AI เหมือนมนุษย์ตัวแรก 99-105 WWIII 120-150 ภาวะโลกร้อนขั้นวิกฤต (ผลจาก WWIII) 170 หยุดภาวะโลกร้อน และยุคฟื้นฟูอารยธรรม 309 พลเมืองแรกบนนิคมดาวอังคาร 351 ดาวอังคารประกาศอิสรภาพ 354-369 WWIV + สงครามโลก-ดาวอังคาร 425-432 SSWI (Solar system War I) กรณีขัดแ้ย้งสถานีพลังงานเหนือดาวพฤหัส 508-516 SSWII เขตแดนทับซ้อนดงดาวเคราะห์น้อย 585 บังคับใชุ้ชุดชีวภาพ LCSSS หุ่นยนต์นาโนเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย 663-669 เกราะสนามไฟฟ้าและแม่เหล็กสมบูรณ์ชนิดแรก 667-670 สงครามแถบไคเปอร์ 718 ระบบภาพ 3 มิติแบบไม่อาศัยฉากกลายเป็นกระแสหลัก 742 ยานสำรวจ(ไร้มนุษย์) ลำแรกรอบระบบดาวพรอกซิม่า เซนเทารี่ 756 คลื่นวิทยุแรกที่บ่งบอกถึงภูมิปัญญานอกระบบสุริยะ 809 Quarks computer 881 ยานอวกาศความเร็วใกล้แสง 909 ถิ่นอาศัยระบบดาวเซนเทารี่ 1021 ควบคุมเทคิออนได้สำเร็จ 1086 Quark-Tachyon computer 1105 เปิดใช้งาน Quantum Entanglement Transportation Network (QETN) เป็นครั้งแรก 1152 ควบคุมกราวิตอน 1184 นิคมอิสระแรกรอบดาวฤกษ์(ไม่เริ่มส่งจากระบบสุริยะหลัก) 1225 First Warp <<อยู่นี่ครับ 1275 โคโลนี่ 12 แห่งประกาศอิสรภาพ 1300 รวมชาติบนโลกสำเร็จ 1314 ยานสำรวจถ่ายภาพสิ่งมีชีวิต(ด้อยพัฒนา)นอกระบบได้เป็นครั้งแรก . . . อีกยาว พอแค่นี้ดีกว่า จากคุณ : ECOS (thelegendofm) เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 54 13:44:25

ความคิดเห็นที่ 6 นึกถึง สตาร์เทร๊ก เรื่องแบบนี้ต้องถาม องค์กร CERN กับ NASA จากคุณ : so เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 54 13:54:26 A:180.183.203.132 X: TicketID:339489

ความคิดเห็นที่ 7 วอร์ป ไม่ใช่ วาร์ป จากคุณ : icheerbank เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 54 14:21:33

ความคิดเห็นที่ 8 อ่านของพี่คห.5 แล้ว รู้สึกหดหู่ว่า โอ้ว เราจะต้องตายอีกกี่ร้อยกี่พันชาติเนี่ยถึงจะถึงยุคที่โลกรวมกันได้เป็นหนึ่ง(ไม่มีสงครามโลกอีกต่อไป) จากคุณ : หนุ่มหล่อเมืองขอนแก่น เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 54 14:29:23

ความคิดเห็นที่ 9 ^ ที่ผมเขียนไว้ รวมสำเร็จแค่ "ดาวโลก" น่ะครับ เนื่องจากความกดดันด้านการเมืองสหสุริยะกับนิคมต่างๆ รวมกันเสร็จก็รบกับนิคมอวกาศต่อ... กว่าจะรวมกันได้จริงก็ตอนทำสงครามกับมนุษย์ต่างดาวโน่นแน่ะครับ จากคุณ : ECOS (thelegendofm) เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 54 14:42:53

ความคิดเห็นที่ 10 #3 การเปรียบเทียบงอกระดาษเป็นการย่นระยะทาง ไม่ได้ช่วยอธิบายอะไรเพิ่มเติมได้เลย  แค่พารากราฟแรกที่ท่านเขียนก็อธิบายจินตนาการได้อยู่แล้ว  ซึ่งอาจจะไม่ใช่รูปแบบการงอกระดาษ  ส่วนจะเป็นแบบไหนนั้นคิดว่าตอนนี้มนุษย์หยั่งไม่ถึงหรอกเรียกว่าอจินไตย  ที่พอจะจินตนาการได้ก็ประมาณการหายตัว การสลายอนุภาคแล้วไปฟอร์มอนุภาคใหม่ยังอีกที่หนึ่ง   อนาคตไม่แน่ เพราะหลายอย่างที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน คนโบราณคงทึ่งมาก  ถ้าเรางอถนนให้กรุงเทพกับเชียงใหม่เป็นจุดเดียวกันได้ก็ดีนะ แต่พวกบริษัทรถและสายการบินจะยอมเหรอ  ว่าแต่เอารถไฟความเร็วสูงให้ได้ก่อนดีกว่า จากคุณ : จันทร์สุขสดใส เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 54 14:46:22

ความคิดเห็นที่ 11 น่าจะง่ายพอๆกับสร้างไทม์แมชชีน จากคุณ : annalog เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 54 14:46:34

ความคิดเห็นที่ 12 #5 ต่ออีกครับ ชอบๆ จากคุณ : กระป๋องด๋อย เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 54 14:55:33

ความคิดเห็นที่ 13 น่าสนใจดี ใครเป็นคนคิดทฤษฎีรูหนอน มีจริงไหม แล้วอะไรทำให้คิดขึ้นมาครับ บอกหน่อย จากคุณ : usdollar เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 54 15:04:47

ความคิดเห็นที่ 14 กลัววาร์ปได้แล้วจะเป็นแบบนี้ จากคุณ : CaminoReal เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 54 15:10:32

ความคิดเห็นที่ 15 เอารถไฟความเร็วสูงก่อน ดีมั๊ย 5555555 จากคุณ : pom-yel เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 54 15:15:46

ความคิดเห็นที่ 16 #13 .... "รูหนอน"  คือสิ่งที่เชื่อกันว่าจะเป็นประตูพาข้ามเวลาไปยังอดีตหรืออนาคตรวมถึงเอกภพอันห่างไกลได้     โดยภาพง่าย ๆ ของทางลัีดนี้สามารถแสดงได้โดยการเจาะรูตรงปลายแผ่นกระดาษ 2 รูด้านตรงข้ามกันซึ่งแสดงถึงจุดที่ห่างไกลกันในเอกภพ แล้วม้วนด้านใดด้านหนึ่งให้มาซ้อนทับกันและหากบิดเบี้ยวเวลาด้วยวิธีนี้ได้   คนเราอาจจะกระโดดลงรูหนอนแล้วไปโพล่ยังกาลเวลาที่ห่างออกไปหรือสถานที่อันไกลโพ้น โดยต้องผ่านบริเวณ “คอขอด” (throat) ของรูหนอนที่มีลักษณะคล้ายท่อและปลายทั้ง 2 ด้านที่บานออก      และตามแนวคิดหนึ่งเกี่ยวกับรูหนอน ประตูข้ามเวลานี้จะเปิดอยู่ได้ด้วยการบรรจุสิ่งที่เรียกว่า  “วัตถุอันแปลกประหลาด” (exotic matter) ลงในคอขอดรูหนอนหรือบริเวณรอบๆ ซึ่งเป็นวิธีอันน่าแปลกที่เดียวแต่่วัตถุเหล่านั้นจะถูกผลักมากกว่าถูกดูดโดยแรงโน้มถ่วง  ซึ่งกล่าวได้ว่ามีพลังงานเป็นลบและมีความหมายที่น่าปวดหัวมากกว่าอวกาศที่ว่างเปล่า (ไม่มีพลังงาน)  ดังนั้นเพื่อจะอธิบายวิธีการนี้ นักวิทยาศาสตร์ต้องมองข้ามกฎฟิสิกส์ดั้งเดิมไปสู่โลกของกลศาสตร์ควอนตัม  ทั้งนี้ตามหลักความไม่แน่นอนของไฮเซนเบิร์ก (Heisenberg's ncertainty Principle)ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของควอนตัมฟิสิกส์ (Quantum Physics) เมื่ออนุภาคเล็กๆ ในระบบๆ  หนึ่งสั่นด้วยช่วงเวลาหนึ่ง (t) จะเกิดพลังงาน(E) ขึ้นมาจำนวนหนึ่งเมื่อคูณค่าทั้ง 2 เข้าด้วยกันแล้วจะได้มากกว่าหรือเท่ากับค่าคงที่ค่าหนึ่งที่เรียกว่า “ค่าคงที่ของพลังค์” (Planck's constant) และถ้าระบบใดๆไม่มีพลังงาน (E=0) นั่นหมายความว่าอะตอมต้องสั่นด้วยเวลาเป็นอนันต์ (infinite) คือสั่นอย่างไม่สิ้นสุดนั่นเอง ที่มา : นิทรรศการออนไลน์ จากคุณ : Kaokrabi Deawdaay เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 54 15:35:42

ความคิดเห็นที่ 17 หนังในความคิดเห็นที่14 ยังหลอนผมไม่หายเลยแม้จะดูมานานแล้ว ไมกล้าพูดเดี้ยวจะกลายเป็นspoilครับ จากคุณ : แน่ข้างเดียว เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 54 15:36:24

ความคิดเห็นที่ 18 เบื่อคำว่า "อจินไตย" จากคุณ : เฮียมี่ เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 54 17:03:03

ความคิดเห็นที่ 19 #18 ทุกวันนี้ผมยังไ่่ม่่รู้เลยว่ามันหมายถึงอะไรกันแน่ 55+ #12 จะดีหรอครับ ยาวมากๆเลยนา แถมไม่ค่อยเกี่ยวกับกระทู้ด้วยสิ =_= จากคุณ : ECOS (thelegendofm) เขียนเมื่อ : 24 ธ.ค. 54 17:32:08

ความคิดเห็นที่ 20 #19 มารออ่านด้วยคนครับ :) จากคุณ : จ๊อบ (จ๊อบน้อย) เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 54 03:41:34

ความคิดเห็นที่ 21 #18,19,20 อจินไตย น่าจะมาจากศัพท์ทางศาสนาพุทธที่กล่าวว่าเป็นเรื่องที่เกินความสามารถที่จะเข้าใจได้ ซึ่งมี 4 เรื่องคือ พุทธวิสัย(การตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า)  ฌานวิสัย(สมาธิขั้นสูง) กรรม(ผลจากการกระทำ) โลก(การกำเนิดโลกและจักรวาล) ข้อแรก ก็คงพิสูจน์หรือทดลองอะไรกันไม่ได้ ข้อสอง มันไม่ง่ายที่จะทดลอง น่าจะมีการทดลองอยู่ เพียงแต่ไม่กลับมาบอก  วิเคราะห์หรือเขียนตำราทางวิทยาศาสตร์ ข้อที่สาม กรรมวิบาก อันนี้ก็เคยมีการศีกษาเรื่องความสัมพันธ์ทั้งหมดของผลกระทบรอบด้าน เช่นทฤษฎี chaos ซึ่งตัวแปรและความสัมพันธ์มันเยอะมากๆ อันนี้ยังไม่รวมเรื่องตัวตนและชาติที่แล้ว(ซึ่งไม่รู้ว่าจริงหรือไม่จริง) ข้อที่สี่ โลกและการกำเนิดโลก จักรวาล แค่จักรวาลกว้างไม่มีทีสิ้นสุดก็จินนาการไม่ออกแล้วว่า มันเป็นยังไง แล้วให้จินตนาการเรื่องเวลาด้วยว่ามันเกิดมานานมากแล้วแค่ไหน และมันจะดำรงอยู่ต่อไปอีกชั่วนิจนิรันดร์นี่มันหมายความว่าอย่างไร เขาว่ากันว่าเรื่องเหล่านี้ถ้าใครพยายามคิดพยายามเข้าใจ อาจจะบ้าได้ หรือ ถ้าใครเข้าใจเรื่องพวกนี้ จะสื่อสารและอธิบายให้คนอื่นเข้าใจได้อย่างไร แค่อธิบายเรื่องการงอกระดาษก็ยากที่จะยอมรับได้แล้ว ไหนจะเรื่องเวลาไม่เป็นเส้นตรงแต่เป็นเส้นโค้งอีก...งง จากคุณ : จันทร์สุขสดใส เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 54 10:20:50

ความคิดเห็นที่ 22 #5 น่าแต่งนิยายวิทยาศาสตร์ขาย จากคุณ : torterm เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 54 11:56:16

ความคิดเห็นที่ 23 คห5 น่าสนใจดีครับ ผมชอบดูหนังประเภท space battle ถึงแม้โลกมนุษย์เรารวมกันเป็นชาติเดียวได้แล้ว แต่ก็ยังไม่หยุดพัฒนาเทคโนโลยีได้ ก็จะพัฒนาไปยังจักวาล ทำสงครามกาแลกซี่ต่อ ไม่มีทางจะหยุดได้หรอกครับ หรือถ้าไม่มีสงครามแล้ว ก็คงทำภารกิจค้นหา สิ่งมีชีวิตและดาวดวงใหม่ๆไปเรื่อยๆ จากคุณ : I_Hate_Home_Work เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 54 15:38:59

ความคิดเห็นที่ 24 ใน RO ก็มีอ่าคับ... จากคุณ : Kradanseetao เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 54 16:45:14

ความคิดเห็นที่ 25 - คนสมัยก่อนเคยคิดไหมว่าเราจะเหาะได้ - ใครจะคิดว่าเราจะไปอวกาศได้ - ใครจะเชื่อว่าเราเดินทางใต้น้ำใด้ - ใครจะเชื่อว่าจะผลิตเครื่องประมวลผลที่ต้องมีทุกบ้าน - ใครจะเชื่อว่าคนจะเป็นทาสแมว ผมว่าสักวันมีนคงมีคนต้องทำมันให้ได้ แต่คงไม่ใช่ช่วงชีวิตเรา  อนาคตเราอาจค้นพบสมการในการเคลื่อนที่ที่มีตัวแปรอะไรมากขึ้นกว่านี้และสามารถเอาตัวแปรมาผันแปรแบบก้าวกระโดดได้น่ะ จากคุณ : Tears เขียนเมื่อ : 25 ธ.ค. 54 23:22:34

ความคิดเห็นที่ 26 สมัยก่อนมีนะเรื่องเหาะได้ เช่นพวกนิทานพื้นบ้าน หากแต่ใช้คนละวิธีกับปัจจุบัน เรื่องอวกาศ สมัยก่อนอาจจะคิดกันไม่ถึง ใต้น้ำก็มีนะแบบสินสมุทร สุดสาคร แบบนั้น หรือไม่ก็เรือนอติลุส เรื่องคอมพิวเตอร์เรื่องสื่อสาร สมัยก่อน ก็น่าจะเป็นจินตนาการเรื่องพลังจิต(ใช้คนละวิธีกัน) เรื่องเป็นทาสแมว อันนี้คล้ายๆการเมืองไป ไม่วิจารณ์ เห็นด้วยว่าในอนาคต อาจจะมีอะไรที่คาดไม่ถึง อาจจะมีหลายอย่างที่เรายังไม่รู้ยังศึกษาไม่ถึง แต่ไม่มีอะไรอยู่เหนือกฏเกณธรรมชาติและเราใช้วิธีวิทยาศาสตร์ในการศึกษาธรรมชาตินั้น จากคุณ : จันทร์สุขสดใส เขียนเมื่อ : 26 ธ.ค. 54 09:07:47

ความคิดเห็นที่ 27 - ใครจะเชื่อว่าคนจะเป็นทาสแมว << ทาสแมว ไม่ใช่แม้วเน้ออ  ไม่เกี่ยวการเมือง จากคุณ : Tears เขียนเมื่อ : 27 ธ.ค. 54 14:10:53