ความคิดเห็นที่ 1 Gravure ค่าแม่พิมพ์คงแพงมากอะ เพราะทำยากกว่า Offset นิยมมากถูกสุด แต่ หมึกจะต้องใช้ เชื้อน้ำมันเท่านั้น (oilbase ink) และใช้ตัวทำละลายที่กัดกร่อนสูงๆ ไม่ได้เพราะแม่พิมพ์ไม่สามารถทนได้ Flexo จึงน่าจะเป็นทางออกที่ดี และ ระบบ flexo เสถียร์กว่า offset เยอะนะคับ จากคุณ : อิก (อิก) เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 10:42:22

ความคิดเห็นที่ 2 ลองค้นหารูปภาพ Gravure ใน google ดูครับ ปรากฎว่า..... จากคุณ : อินทรีย์ผยอง เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 13:14:12

ความคิดเห็นที่ 3 ระบบกราเวียร์มันเร็วมาก แม่พิมพ์เป็นดรัมหมุนความเร็วสูง มันต้องเป็นฟีล์มเท่านั้นถึงป้อนเข้าระบบได้ เฟล็กโซ่ มันใช้พิมพ์อะไรได้หลากหลาย พิมพ์ฟีล์มก็ได้ พิมพ์ถ้วย พิมพ์แก้ว พิมพ์ขวด พิมพ์ปากกาก็ได้ เพราะระบบออกแบบมาให้พิมพ์ได้หลายรูปแบบ แต่ความเร็ว ความคมชัดจะสู้แบบกราเวียร์ไม่ได้ ยังมีการพิมพ์แบบผ้าไหม พิมพ์แบบออฟเซต อีกหลายอย่าง จากคุณ : Peet Reloaded เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 13:31:26

ความคิดเห็นที่ 4 Flexo เป็นระบบการพิมพ์ที่เมกาพยายามยึดเป็นหลัก เนื่องจากฉลากส่วนใหญ่ เกี่ยวข้องกับงาน QC ในกระบวนการผลิต จึงยึดระบบเมกันเป็นหลัก เพื่อป้องกันการกีดกันทางการค้า เพราะเมกัน สร้างตลาด Flexo ขึ้นมาด้วยการกล่าวหา ว่าการพิมพ์ระบบกราเวียร์ ไม่ดีต่อสิ่งแวดล้อม หรือมีสาร VOC ในกระบวนการผลิต แต่เพราะระบบ Flexo มันเน่าในตัวเองมานานแล้ว คือความคมชัด สู้กราเวียร์ไม่ได้ อีกทั้งต้องการการปรับตั้งมากกว่า เพราะแม่พิมพ์ไม่ได้ solid ในที่สุด ความพยายามที่อเมริกาจะแทรกตัว Flexo ลงไปในงานบรรจุภัณฑ์อ่อน ก็ล้มเหลว เพราะมันได้พิสูจน์ตัวมันเอง ถึงความไม่สม่ำเสมอในคุณภาพงาน และอายุของแม่พิมพ์ สู้ Gravure ไม่ได้ ข้อสำคัญคือ ในการพิมพ์ฟิล์มพลาสติก มันยังต้องใช้สาร solvent ที่อเมริกากล่าวหาว่าเป็นภัยต่อสิ่งแวดล้อมเหมือนที่ระบบกราเวียร์ใช้อยู่ดี งาน Flexo จึงจำกัดวงอยู่ในตลาดเลเบล ที่ยึดข้อเด่นของตนเอง คือใช้แม่พิมพ์ขนาดเล็กและทำแม่พิมพ์ได้เร็ว ว่ากันตรงๆแบบไม่ bias งานพิมพ์สติ๊กเกอร์ที่สวยที่สุด ต้องมาจากระบบ UV offset แต่ทว่า offset ติดปัญหาที่ไม่สามารถเปลี่ยนวงรอบขนาดแม่พิมพ์ได้เหมือน Flexo รึ Gravure มันก็เลยหวยออกที่ Flexo จากคุณ : อิๆ เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 14:53:17 A:58.9.38.209 X: TicketID:052378

ความคิดเห็นที่ 5 ขอบคุณทุกความเห็นครับ ทำงานในวงการพิมพ์กันรึเปล่าครับ รู้ละเอียดดีจัง ขอถามเพิ่มนะครับ ถ้าได้กลับมาอ่าน คห. 1 ทำไมflexo ถึงเสถียรกว่าครับ คห. 3 ที่กล่าวมา น่าจะหมายถึงSilk Screen มากกว่านะครับ ไม่ใช่ Flexo คห. 4  ปัญหารอบวงพิมพ์ เห็นแก้ไขกันด้วย Intermittant หรือ Semi rotary ใช่รึเปล่าครับ แล้วทำไมUSA ต้องดันตลาดFlexoด้วยครับ เพราะลงทุนพัฒนากันไปเยอะใช่รึเปล่า อย่างเช่นยี่ห้อ Mark-andy จากคุณ : vv (ฐฐ) เขียนเมื่อ : 28 ธ.ค. 54 21:45:51

ความคิดเห็นที่ 6 เข้าใจผิดแล้วครับ Gravure พิมพ์ได้ทุกอย่างที่เป็นม้วน ไม่ว่าจะเป็นกระดาษ พลาสติก กระสอบ ผ้า ข้อดีFlexo คือเหมาะสำหรับทำงานเล็ก ยอดไม่สูง หากยอดสูงเมื่อไร ต้นทุนสูงกว่าGravureทันที เพราะหมึกแพงกว่า เดี๋ยวนี้ปัญหาเรื่องความคมชัดFlexo ทำได้ดีขึ้นมากแล้ว(เทคโนโลยีของKodax) แต่ก็ยังเทียบเท่าGravureไม่ได้อยู่ดี #3กล่าวมาถูกต้องแล้วครับ เพราะFlexo คือแม่พิมพ์ยาง ไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะการพิมพ์แผ่น (ตรายางก็นับเป็นFlexoนะ) เท่าที่ผมเคยหาข้อมูลเครื่องพิมพ์ Flexo ถูกกว่า Gravure  (ในเกรดเดียวกันเช่น Windmoeller & Hoelscher กับ Rotomach ) จขกท. Intermittant  กับ Semi rotary นี่คืออะไรอ่ะครับ ผมอยู่แต่วงการ Gravure เลยไม่รู้จัก แก้ไขเมื่อ 29 ธ.ค. 54 01:25:02 จากคุณ : HWalker เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 54 01:21:55

ความคิดเห็นที่ 7 http://www.chesnuteng.com/gravure_casestudy_results.html เจอข้อมูลที่น่าสนใจครับ จากคุณ : HWalker เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 54 01:46:38

ความคิดเห็นที่ 8 ขออธิบายแบบภาษาชาวบ้านๆตามเท่าที่รู้มาละกันนะครับ การพิมพ์ระบบRotary ทั่วๆไป คือระบบที่มีการหมุนแม่พิมพ์แบบFull-rotary เช่น Flexo , Gravure ซึ่งแบบนี้จะไม่มีการหมุนชดเชยรอบพิมพ์ แก้ไขโดยการเปลี่ยนขนาดลูกแม่พิมพ์ตามชิ้นงาน และต้องทำเพลทให้ขนาดพอดี เพื่อให้ได้รอบการพิมพ์ที่คุ้มค่าที่สุด ตอนRunงาน ลูกแม่พิมพ์จะหมุนอัตราเร็วคงที่ตลอด Intermittant คือระบบการพิมพ์แบบRotary ที่มีการชดเชยรอบพิมพ์โดยการถอยหลังกลับของลูกแม่พิมพ์ ซึ่งลูกแม่พิมพ์จะมีขนาดเดียว เวลาติดเพลทจะไม่จำเป็นต้องติดรอบลูกแม่พิมพ์ ติดแค่บางส่วนก็พอ ตอนRun เมื่อพิมพ์หมึกลงบนงานชิ้นแรก ลูกแม่พิมพ์จะมีการหมุนถอยหลัง เพื่อรอช่วงว่างของงานที่จะมารับRepeatต่อไป ส่วน Semi-rotary คือชดเชยรอบพิมพ์โดยหมุนไปข้างหน้าให้เร็วขึ้น เวลาติดเพลทจะไม่จำเป็นต้องติดรอบแม่พิมพ์เช่นกัน ตอนRunงาน จะกลับกันจากIntermittant คือ จะมีการหมุนเร่งให้เร็วขี้น เพื่อให้ทันRepeatงานต่อไป ผิดถูกยังไงชี้แนะได้ครับ แก้ไขเมื่อ 29 ธ.ค. 54 09:02:55 แก้ไขเมื่อ 29 ธ.ค. 54 08:56:17 จากคุณ : vv (ฐฐ) เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 54 08:34:13

ความคิดเห็นที่ 9 พิมพ์แบบวิ่งหยุด มันไม่ได้ volumn ครับ ส่วนใหญ่เท่าที่เห็นพรรคพวกใช้ Flexo กัน ล่อกันแบบเปลี่ยนดรัมทั้งนั้น ที่พี่กันต้องดัน Flexo เพราะ ตลาดอุตฯการพิมพ์โลกยุคก่อนหน้านี้ เมกันแทรกตัวเข้าไปไม่ได้เลยครับ เพราะติดปัญหาในเครื่องความน่าเชื่อถือกับเทคโนโลยี คนอยู่ในวงการพิมพ์จะเห็นว่า ตลาดเครื่องจักรวงการพิมพ์ ถ้าเป็นออฟเซ็ท จะถูกเยอรมันกินหมด มีญี่ปุ่นตามมา ส่วนตลาดบรรจุภัณฑ์อ่อน ก็เป็นเครื่องจักรในยุโรปกันเป็นส่วนใหญ่ เหลือแต่ตลาดแมสมีเดีย พวก นสพ. ที่มีเครื่องพิมพ์เว็บ ของพี่กันแทรกเข้าไปได้บ้าง แต่มูลค่าก็ไม่เพียงพอ เพราะเครื่องพวกนี้ซื้อทีนึงใช้กันยาวนาน เมกันก็เลยต้องคิดหาหนทาง ชนทางอ้อมครับ เพราะชนตรงๆมันแพ้ เลยต้องหาวิธีเปลี่ยนแนวทาง แนวคิดทัศนคติทางการพิมพ์ไป แบบนี้ถ้าเริ่มกันใหม่ ก็เท่ากับออกวิ่งพร้อมกันใหม่หมด ไม่เสียเปรียบในเรื่องเครดิตชื่อเสียง ก็เลยยก Flexo เข้ามาในวงการพิมพ์ แต่ Flexo มันมีข้อจำกัดในตัวเอง ถ้ามันมีดีกว่าเค้าจริง ก็คงโตกว่า offset รึ Gravure ไปนานแล้ว หวยก็เลยไปออกที่วิชามารครับ คือให้ร้ายระบบพิมพ์พวกนั้นว่าก่อให้เกิดสารพิษเป็นภัยต่อสิ่งแวดล้อม แต่ Flexo ไม่เป็นเพราะใช้หมึกน้ำ พอเอาเข้าจริงๆ เมื่อคุณต้องพิมพ์วัสดุที่เลี่ยงไม่ได้ คุณก็ต้องใช้สารโซลเว้นท์กับ Flexo อยู่ดีหนีไม่พ้น ถึงยังงั้นคนในวงการธุรกิจ ก็ต้องทำตามครับ เพราะมันกลายเป็นข้อกำหนดกีดกันทางการค้าไปโดยปริยาย ทำนองว่า ถ้าแกไม่พิมพ์ด้วยระบบ Flexo ฉันคอนซูเมอร์โปรดักส์รายใหญ่ๆจะไม่ซื้อสิ่งพิมพ์ของแก เรื่องมันลงเอยด้วยประการฉะนี้ จากคุณ : อิๆ เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 00:33:10 A:58.9.52.26 X: TicketID:052378