ความคิดเห็นที่ 1 เสถียรในแง่ไหนคะ? แหะๆ ไม่ค่อยกล้าตอบเหมือนกัน (รบกวนเอาชื่อบริษัทออกให้หน่อยค่ะ - -') ตัวนี้มีสารที่คุณ จขกท สนใจ ที่เข้ามาถามครั้งที่แล้วด้วยค่ะ จากคุณ : group A Rh negative เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 54 20:50:38

ความคิดเห็นที่ 2 ลงให้ใหม่ค่ะ เดี๋ยวมาพิมพ์เพิ่มให้นะคะ จากคุณ : ต้นไม้สีเทา เพลงเบาเบากับลูกอม เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 54 22:11:34

ความคิดเห็นที่ 3 เราแยกส่วนประกอบออกมาดูเป็นกลุ่มๆ ค่ะ จะได้ดูง่ายๆ (หมายถึงเราเอง แหะๆ) สงสัยตัวไหนเอ่ย? UVB chemical sunscreen:   Homosalate   Ethylhexyl Salicylate   Octocrylene UVA chemical sunscreen:   Butyl Methoxydibenzoylmethane (หรือ Avobenzone)   * ตัวนี้ชอบมีปัญหาเรื่อง stability กับ Titanium Dioxide บางเจ้า แต่ในสูตรนี้ไม่ได้ใส่ UV chemical sunscreen (broadspectrum ได้ทั้งช่วง UVA & UVB):   Benzophenone-3 (หรือ Oxybenzone)   * ตัวนี้คือตัวที่มีรายงานว่าเป็นตัวก่อการแพ้เมื่อถูกแสง (photosensitizer)   แต่ทาง safety assessor ประเมินว่ายังใช้ได้อยู่ แต่ต้องระบุคำเตือนบนฉลากว่า   "contains oxybenzone" UV physical sunblock:   ไม่มี Emulsifier:   PEG-40 Stearate   PEG-15 Cocamine (ใส่น้อยมากน่าจะประมาณ 0.1-0.2%w/w) Wax & Emollient:   Isopropyl Myristate   Paraffinum Liquidum (หรือ liquid paraffin เป็นสาร petrochemical)   Cera Alba (หรือขี้ผึ้ง beeswax) Thickening Agent:   Hydroxyethylcellulose   Carbomer ใช้ร่วมกับ Triethanolamine   *ปัจจุบันตัว Triethanolamine มีปัญหาเรื่องการปนเปื้อนด้วย nitrosamine พอสมควร   ทางผู้ผลิตสารตัวนี้ต้องออกเอกสารรับรอง Preservatives:   Phenoxyethanol   Benzyl Alcohol   Methylparaben   Propylparaben ส่วนผสมอื่นๆ   Aqua (Water)   น้ำ ส่วนผสมหลักของอิมัลชัน :p   Silica   ใส่ไว้ช่วยปรับ feeling ให้เหนอะน้อยลง และช่วยดูดซับความมัน   Tocopherol   วิตามินอี น่าจะมีประมาณ 0.1%w/w   Aloe Barbadensis (Aloe Vera) Leaf Juice   ว่านหางจรเข้ น่าจะมีประมาณ 0.1%w/w เช่นกัน แหะๆ just for claim แก้ไขเมื่อ 29 ธ.ค. 54 23:45:23 จากคุณ : group A Rh negative เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 54 23:39:43

ความคิดเห็นที่ 4 ที่บอกว่าสนใจตัวนี้อยู่ ไม่ใช่จะซื้อนะคะ คือลองเอากันแดดแต่ละแบรนด์มานั่งดู พอมาดูตัวนี้แล้วก็งง เรียงตามลำดับส่วนผสม -------- Homosalate : max abs. 306nm UVB filter Ethylhexyl salicylate : max abs. 307nm ,weak UVB absorbers.improves photostability of others. ทั้งสองตัวนี้อยู่ในตระกูลSalicylatesเหมือนกัน ตามtextบอกว่า ตระกูลนี้จะมีค่าSPFต่ำ แต่มีประสิทธิภาพสูงมากเมื่ออยู่ร่วมกับingredientsอื่นๆ [ไม่แน่ใจว่าอื่นๆที่ว่ามีอยู่ในนี้มั้ย] -------- Butyl Methoxydibenzoylmethane : max abs. 360nm UVA filter ,photounstable.enhances the photodegradation of octinoxate. Benzophenone-3 = oxybenzone : range 288-325nm/270-350nm UVA filter เป็นmost commonของ UVA filter แต่ก็เป็นmost commonที่ทำให้เกิดอาการแพ้เช่นกัน -------- Isopropyl myristate : เป็นmoisturizer Octocrylene : max abs. 303nm/280-320 nm UVB filter ,photostable.improves photostability of photolabile filters. Cera Alba : เป็นmoisturizer Paraffinum Liquidum :  mineral oil เคลือบผิว PEG-40 Stearate : ปกติมีในตระกูลCleansing ไม่แน่ใจว่าใส่มาในนี้ทำไม Silica Carbomer : เป็นGelling Agent Phenoxyethanol : สารกันเสีย Benzyl alcohol Hydroxyethylcellulose PEG-15 Cocamine Methylparaben : สารกันเสีย Propylparaben : สารกันเสีย Tocopherol : วิตามินE Aloe Barbadensis (Aloe Vera) Leaf Juice Triethanolamine -------- UVA filtersที่ใส่มา ไม่ได้กันUVได้ครบจนถึง400nm อันนี้เข้าใจถูกใช่มั้ยคะ สารกันเสีย แต่ละตัวอาจจะไม่ได้ใส่ในปริมาณที่มากหรือเกินกำหนด แต่ก็มีมากถึง3ตัวเท่าที่เห็น มีตัวที่unstable แต่ก็มีตัวที่improve stability(เป็นของตัวที่unstableรึเปล่าก็ไม่แน่ใจ) มีตัวที่เป็น weak filterด้วย เลยงงว่า ทำไมคนที่ใช้ถึงบอกว่ากันแดดจัดๆได้ดีมาก ทั้งๆที่มันไม่ครบตลอดช่วงUVAและUVB จากคุณ : ต้นไม้สีเทา เพลงเบาเบากับลูกอม เขียนเมื่อ : 29 ธ.ค. 54 23:40:26

ความคิดเห็นที่ 5 UV filter กัน UV ได้ยาวจนถึง 400 nm มั้ย - กันได้ค่ะ สาร UV filter ส่วนใหญ่จะดูดเลยช่วง UV มาจนถึง visible light ที่เป็นโซนสีม่วงด้วยซ้ำ    เพราะฉะนั้นเราจะเห็นตัววัตถุดิบพวกนี้เป็นสีเหลือง ส่วนพวกที่เป็น wax พอละลายใน oil ที่ไม่มีสีก็จะเหลืองเหมือนกัน    (เพราะว่ามันดูดสีม่วงออกจากแสงขาว เลยเหลือสีเหลืองให้เราได้เห็น :p)   และส่วนใหญ่พวก UVA filter จะเหลืองกว่าพวก UVB filter ด้วยค่ะ เพราะ lambda max มันอยู่ใกล้ช่วง visible light - ข้อมูลการดูดกลืนที่คุณ จขกท เข้าใจ คือมันเป็นค่า lambda max ของสารค่ะ ว่ามัน peak ตรงนั้นเป็นพิเศษ   แต่บริเวณอื่นมันก็ยังดูด แต่ดูดน้อยกว่าเฉยๆ (ลักษณะเดียวกับ spectrum ของสารอินทรีย์ เวลาที่เรียนเคมีค่ะ) ******************************************************************************** เรื่อง preservative ต้องใส่ตามข้อกำหนด ไม่อย่างนั้นเวลาโดนสุ่มตรวจเจอ โรงงานมีสิทธิแหกได้ค่ะ - -' และข้อกำหนดของสารบางกลุ่ม นอกจากกำหนดปริมาณของสารแต่ละตัวแล้ว ยังกำหนดปริมาณรวมของสารกลุ่มเดียวกันด้วยค่ะ เช่น ของ ASEAN และ EU กลุ่ม paraben จะกำหนดว่าแต่ละตัวต้องไม่เกิน 0.4% (คำนวณในรูป acid) และผลรวมของ paraben ทุกตัวต้องไม่เกิน 0.8% (acid) ค่ะ เพราะฉะนั้น ถ้าใส่ Methylparaben 0.4% Propylparaben 0.4% Butylparaben 0.4% อย่างนี้ไม่ผ่านค่ะ ^^ ปล ไม่ต้องกลัวเรื่อง preservative เกินนะคะ เพราะโดยปกติแล้วผู้ผลิต จะพยายามใส่ให้น้อยที่สุดที่สามารถคุมเชื้อได้ เพราะว่าใส่เยอะมันเปลืองค่ะ น่าจะห่วงว่าใส่น้อยเกินจนคุมเชื้อไม่อยู่มากกว่า - -' ******************************************************************************** เดี๋ยวมาต่อเรื่อง unstable จากคุณ : group A Rh negative เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 00:12:57

ความคิดเห็นที่ 6 ว้าว ขอบคุณมากค่ะ เริ่มสงสัยแล้วว่า คุณgroup A Rh negativeเป็นใครกัน ตอบให้แต่ะครั้งละเอียดจังเลย ดึกแล้ว ไปนอนก่อนนะคะ พรุ่งนี้มีเรียนแต่เช้าเลย จากคุณ : ต้นไม้สีเทา เพลงเบาเบากับลูกอม เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 00:43:46

ความคิดเห็นที่ 7 คือปกติลักษณะของสูตรกันแดด โดยเฉพาะอย่างยิ่งสูตรที่มี SPF สูงๆ เราไม่สามารถใช้ UV filter ตัวเดียวเป็นส่วนผสม เนื่องจาก - เราไม่สามารถใส่ได้เยอะตามใจชอบ เพราะสารกันแดดเป็นสารที่ถูกควบคุมปริมาณการใช้    จึงต้องใส่หลายๆ ตัว ช่วยกัน boost ค่า SPF เพื่อไม่ให้ปริมาณของตัวใดตัวหนึ่งเกินกฎหมายกำหนด - การใช้หลายสารที่มี lambda max ต่างกัน ก็ยิ่งช่วยเพิ่มสามารถในการดูด UV ได้    ในช่วงกว้างขึ้น (broad spectrum) ทีนี้ในสูตรสมัยเก่าๆ เค้าจะใช้ Ethylhexyl Methoxycinnamate เป็นตัวหลัก (อีกชื่อหนึ่งคือ Octyl Methoxycinnamate (OMC) หรือ Octinoxate) เพราะว่าดูดกลืน UVB ดีสุด โดยใส่ลงในสูตรปริมาณเยอะสุด (แทบจะถึง maximum limit เผื่อไว้หน่อยนึง เพราะตอนผลิตจริงอาจมี error จากการชั่งได้) และใช้ตัวเสริมเป็น Ethylhexyl Salicylate (Octisalate) และ Octocrylene ซึ่งมีประสิทธิภาพการดูดกลืน UVB น้อยกว่า แต่ใส่มาช่วยดูดกลืน UV เพื่อเพิ่มค่า SPF และช่วยไม่ให้ตัว OMC มันสลายเร็วเกินไป คือโดยหลักการแล้ว เวลาที่ UV filter ได้รับพลังงานจากแสง UV มันก็มีโอกาสบ้างที่ e- ถูกกระตุ้นเกินไป จนกระเด็นหาทางกลับไม่เจอ - -' ทำให้พันธะมันสลาย และสารกันแดดของเราสลายตัว อันนี้เป็นที่มาของคำว่า improve photostability (ในความเข้าใจของเรา) คือช่วยให้ OMC สลายตัวช้าลง แต่ไม่ได้หมายความว่า OMC นั้นไม่เสถียร (instability) ซึ่งสูตรพวกนี้ส่วนใหญ่จะไม่มีการ claim เรื่อง UVA protection เลย (โบราณมาก) เพราะสารกันแดดที่ใช้มันไม่ได้ดูดกลืน UVA แต่เค้าแก้ปัญหานี้โดยใส่พวก physical คือ Zinc Oxide เข้าไปด้วย เพื่อให้คลอบคลุม ในส่วน UVA (บางเจ้าก็ใช้ Titanium Dioxide แต่ต้องเป็นเจ้าที่มี particle size ที่ดูดกลืน UVA ได้ด้วย) แต่ก็ทำให้มีปัญหาเรื่อง "หน้าวอก" เพราะหลักการคือมันใช้วิธีสะท้อนแสง ไม่ได้ดูดกลืนเหมือนพวก chemical ********************************************************* ขอพักแปป แก้ไขเมื่อ 30 ธ.ค. 54 00:45:52 จากคุณ : group A Rh negative เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 00:43:52

ความคิดเห็นที่ 8 ทีนี้ หลังๆ มีการพัฒนา UVA filter ที่เป็นกลุ่ม chemical ขึ้นมาใหม่ คือ Butyl Methoxydibenzoylmethane หรือ Avobenzone (ไม่แน่ใจว่าต้นฉบับคือ Eusolex 9020 ของบริษัท Merck หรือเปล่า ถ้าผิดพลาดต้องขออภัย) ซึ่งแก้ปัญหาหน้าวอกได้ โดยเราสามารถลดปริมาณ Zinc Oxide ในสูตรลงหรือตัดออกจากสูตรได้ และใช้ Avobenzone ทดแทน แต่มีปัญหาคือมันไม่ compatible กับ OMC ซึ่งเป็น UVB filter หลักในสูตร อันนี้เราไม่รู้เหมือนกันว่ามันทำ reaction หรือ interaction กันอย่างไร? ใครสลาย? หรือสลายทั้งสองตัว? แต่เราเคยลองผสมสูตรที่มีทั้ง 2 ตัวนี้ดู (ตอนนั้นเพิ่งทำงานใหม่ๆ แอบโง่ 555+) ปรากฎว่าทิ้งครีมไว้ข้ามคืน คืนเดียว เนื้อครีมเปลี่ยนจากสีขาวเป็นสีเหลืองชัดเจน (แสดงว่าจากที่มันดูดช่วง UV อยู่ดีๆ มันกลายเป็นดูดช่วงสีม่วงของ visible light - -') พอมีปัญหาแบบนี้ แต่ลูกค้าชอบแบบไม่วอกมากกว่า เลยต้องเลือกเอา Avobenzone ไว้ ตัด OMC ออก และเพื่อทดแทนในส่วนของ UVB filter หลักที่หายไป เลยต้องเพิ่มปริมาณของตัวอื่นเพิ่มขึ้น หรือเอา UVB filter ตัวอื่นๆ มาช่วยอีก ซึ่งแน่นอนตัวอื่นๆ ก็ไม่ได้ดูดกลืนดีเท่า OMC (ที่ใน text บอกว่ามัน weak คือมัน weak จริงๆ เมื่อเทียบกับ OMC) ในสูตรนี้ก็เช่นกัน เค้าใช้ Homosalate และ Ethylhexyl Salicylate ช่วยกันเป็นตัวหลัก และใช้ Octocrylene กับ Benzophenone-3 ช่วยเสริม ******************************************************************* เล่ามายืดยาว ประเด็นคืออะไรหว่า? 555+ มึนค่ะ *-* สรุปก็คือ - UV filter ทุกตัวในสูตร stable หมดค่ะ    เพราะว่าถ้ามันไม่ stable มันคงสลายตัวตั้งแต่อยู่ในถังวัตถุดิบแล้ว ฮาๆ - และถ้าในสูตรมี UV filter 2 ตัวที่ไม่ compatible กัน (แบบเราเป็นต้น)    มันไม่มีทางได้รับการอนุมัติผ่านมาจนถึงโรงงานได้หรอกค่ะ    ดับดิ้นอยู่ในห้อง lab นั่นแหละ - -' - UV filter กลุ่ม salicylate นั้น weak (กว่า OMC) จริงๆ    แต่สามารถแก้ไขได้โดยการเพิ่มปริมาณที่ใช้ และใช้หลายๆ ตัวช่วยกัน แฮ่กๆๆ จบ ^^ จากคุณ : group A Rh negative เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 01:21:44

ความคิดเห็นที่ 9 นอนไม่หลับ เมื่อเย็นแอบนอนไปเยอะเลยแว้บมาดู ดีใจจังเลยค่ะที่มีคนตอบคำถามและพยายามอธิบายให้เข้าใจมากขนาดนี้ ตอนแรกว่าจะแว้บมาถามว่าพี่มีtextแนะนำให้อ่านมั้ย พี่จะได้ไม่ต้องอธิบายยาว  ปรากฏว่าได้ความรู้จากประสบการณ์ตรงเลยทีเดียว ปกติจะหาอ่านตามtextพวกdermatologyแต่มันก็อธิบายไม่ค่อยละเอียดเท่าไหร่ เจอแบบนี้ยิ่งอยากไปหาอ่านเพิ่ม ขอบกุณมากนะคะ จากคุณ : ต้นไม้สีเทา เพลงเบาเบากับลูกอม เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 01:46:51

ความคิดเห็นที่ 10 ^ ^ ด้วยความยินดีค่ะ ตอบทุกเรื่องเท่าที่สามารถตอบได้ แต่ถ้าถามถึงเรื่องที่เป็นความลับเฉพาะ หรือโจมตีแบรนด์ไหน อันนี้เราขอไม่ตอบค่ะ เดี๋ยวความซวยจะมาเยือน อิอิ (พรบ คอมพิวเตอร์เค้าแรง) (ที่ตอบยาวเพราะกลัวอ่านไม่รู้เรื่องค่ะ เราเป็นคนพูดไม่ค่อยรู้เรื่อง ฮาๆ) ถ้าจะให้แนะนำ text นี่ ไม่รู้จะแนะนำเล่มไหนเหมือนกันค่ะ :p คือตอนที่เราศึกษาเรื่องพวกนี้ใหม่ๆ เราเคยพยายามอ่านจาก text เหมือนกัน แต่เป็น text ของทาง cosmetic science นะคะ ไม่ใช่ dermatology แต่ติดปัญหาตรงเนื้อหาใน text มันมักจะล้าหลังมากๆ (หรือเราอ่านผิดเล่มก็ไม่รู้? - -') ประมาณว่าพูดถึง cold cream, vanishing cream บ้าบออะไรก็ไม่รู้ 555+ สูตรในเล่มก็เป็นประมานว่าใช้ stearic acid มา sapon. ด้วย NaOH ล้าหลังมากๆ ค่ะ (ประมาณว่าเป็นสูตรในยุคสร้างโลกจนถึงยุคไดโนเสาร์เคี้ยวหมาก - -') โลกเค้าไปไหนต่อไหนแล้ว หลังๆ เราเลยใช้วิธีอ่านจากเอกสารของ supplier แทนค่ะ ซึ่งมัน update เป็นปัจจุบันมากกว่า (ในอินเตอร์เน็ตก็มีให้โหลดบ้าง สำหรับเจ้าใหญ่ๆ ที่ worldwide หน่อย) แล้วถ้าสนใจอันไหนเป็นพิเศษ ค่อย request ขอรายงานวิจัยฉบับเต็มได้ค่ะ เป็นวิธีลัดที่สะดวกดี อิอิ ^^ ********************************************************* ไม่ทราบว่าคุณ จขกท เรียนเกี่ยวกับเครื่องสำอางโดยตรงหรือว่าศึกษาเองคะ สามารถแยกหน้าที่ของส่วนผสมในครีมกันแดดได้ขนาดนี้เราถือว่ารู้เยอะแล้วค่ะ ^^ (r&d บางคนที่ไม่เคยทำสูตรกันแดด ยังไม่รู้ถึงขนาดนี้เลยค่ะ) จากคุณ : group A Rh negative เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 02:29:00

ความคิดเห็นที่ 11 ขอดู ด้วย คน ชอบ อะ จากคุณ : pedpukking (pedpukking) เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 05:31:43

ความคิดเห็นที่ 12 เป็นการซื้อครีมกันแดด ที่น่าคารวะเป็นอย่างยิ่ง .. ได้ความรู้มากมาย จากคุณ : ฟหด เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 06:14:12 A:110.168.72.57 X: TicketID:250855

ความคิดเห็นที่ 13 หาตัวที่มี Zinc Oxide ตามที่ความเห็นบนๆบอกเลยครับ ตัวนี้ กัน UV ได้ครอบจักวาล แต่ข้อเสีย ทาแล้วจะเหมือนเราเป็นมนุษย์ชุบโครเมียม ตัวจะมันวาวๆ เพราะ Zinc Oxide เองมันสะท้อนแสง :D จากคุณ : Maki Roll เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 09:07:32

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณคุณกรุ๊ปเอมาก มีความรู้ดีครับ จากคุณ : Peet Reloaded เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 11:34:03

ความคิดเห็นที่ 15 ไม่ได้เรียนโดยตรงหรอกค่ะ อาศัยอ่านเองตามหนังสือตามเน็ตไปเรื่อยๆ อยากรู้อะไรๆที่ใกล้ตัวก็เลยอ่านๆเอาเข้าว่า มันดูเป็นความรู้ที่ได้ใช้น่ะค่ะ ของรอบๆตัว บางอย่างใช้ทุกวันด้วยซ้ำ ไม่ค่อยชอบอะไรที่เป็นแบบ เค้าบอกว่า.. ได้ยินมาว่า.. เท่าไหร่น่ะค่ะ ฟังแล้วเกิดความไม่มั่นใจในชีวิต 555 เวอร์ไปนิด ขอบคุณพี่มากค่ะ ---- ตอบคุณ Maki Roll ตอนแรกแอบเล็งตัวนี้ไว้เหมือนกันค่ะ แต่พอมาดูมันเป็นแบบChemicalนี่หว่าก็เลยเปลี่ยนใจ ชอบใช้แบบที่มีPhysicalเป็นหลักน่ะค่ะ มันขาวฉ่ำๆดูเป็นคนมีชีวิตดี เพราะปกติไม่แต่งหน้า ทาแต่แป้งฝุ่น ไม่อยากให้หน้าเป็นแป้งๆดูเกินวัย อีกอย่าง แบบChemicalถึงจะรู้สรรพคุณมันพอสมควรแต่พอทาแล้วซึมหายลงไปก็เกิดอาการไม่สบายใจว่ามันหายไปไหน ต้องมานั่งนึกว่าจะกันแดดให้เรามั้ยเนี่ย ถึงมันจะเคยใช้แล้วมันกันได้ดีจริงๆก็เถอะ แก้ไขเมื่อ 30 ธ.ค. 54 12:19:01 จากคุณ : ต้นไม้สีเทา เพลงเบาเบากับลูกอม เขียนเมื่อ : 30 ธ.ค. 54 12:02:49