 |
^ #34 ผมไม่รู้หรอกว่าหนังสือเซ็นจูรี่เขียนไว้ว่าไงบ้าง แต่พอหนังสือเซ็นจูรี่ออกพระนางแคทรีน เมอซิดีก็เรียกไปพบมันก็แปลว่านอสตราดามุสไม่ได้เขียนกำกวม และถ้าคุณคิดว่านอสตราดามุสไม่ได้ทำนายถูกจิงๆแต่เป็นเพราะนอสตราดามุสครอบงำฟรั่งเศสอยู่ทำให้ชาวฟรั่งเศสทั้งหลายจำต้องอวยนอสตราดามุสล่ะก็ผมว่าคุณนั่นแหล่ะที่คิดผิด ...
#35 ผมไม่รู้หรอกว่าพระนารายณ์ประทานให้กับใครและไม่มีใบส่งของเป็นหลักฐาน ผมแค่บอกว่าโหราศาสตร์ไม่ใช่สถิติที่จะต้องแก้ไขปรับปรุงสมการตามยุคสมัยตลอดเวลาหรอกคับ มันมีความถูกต้องในตัวของมันอยู่แล้วโดยที่ไม่จำเป็นจะต้องอาศัยนักวิทยาศาสตร์เข้ามาจัดการ (แต่อาจจะต้องอาศัยนักประวัติศาสตร์เข้ามาจัดการ ...) เพราะว่าโหราศาสตร์ที่พระนารายณ์เอามาปล่อยนั้นเป็นโหราศาสตร์ของพระเจ้าที่อาศัยดาว 10 ดวงในการคำนวณ แต่ที่ไทยใช้กลับใช้แค่ 8 ดวง (ส่วนพม่าใช้ 7 ดวงด้วยซ้ำ -"-) อันนี้ผมคิดว่าโหราศาสตร์น่าจะถูกปล่อยไว้แถบบริเวณอินเดีย (เพราะโหราศาสตร์อินเดียใช้ดาวคำนวณ 10 ดวง) และเข้าไทยในสมัยของพระโสณะและพระอุตระที่มาเผยแพร่พุทธศาสนาตามบัญชาของพระเจ้าอโศกมหาราช และตามหลักโหราศาสตร์แล้วพระพุทธเจ้าจะมีอุจจ์อยู่ 8 ตัว (อุจจ์คือลักษณะที่ดีที่สุดตามหลักโหราศาสตร์) ซึ่งพระพุทธเจ้าจะขาดอุจจ์ไปอยู่ 2 ตัวด้วยกัน พระโสณะกับพระอุตระเลยตัดดาวออก 2 ดวงเพื่อทำให้ดาวมันเหลือ 8 ดวง พระพุทธเจ้าจะได้มีอุจจ์ครบหมดทั้ง 8 ตัวจากดาว 8 ดวง ดูแล้วยิ่งใหญ่ที่สุดมีบุญบารมีสูงสุดตามหลักโหราศาสตร์เพื่อเป็นการอวยพระพุทธเจ้าจะได้เผยแพร่ศาสนาได้ง่ายๆ แต่จิงๆแล้วพระพุทธเจ้าไม่ได้มีบุญสูงสุดหรอกคับ ดาวมันมี 10 ดวง มันยังมีอุจจ์ 9 ตัวกับ 10 ตัวเหลืออยู่ที่มีบุญเหนือกว่าพระพุทธเจ้า
ส่วนเรื่องของนอสตราดามุส นอสตราดามุสไม่จำเป็นจะต้องเรียนโหราศาสตร์หรอกคับ นอสตราดามุสเองมีญาณอะไรมั่งผมก็ยังไม่รู้ แต่นอสตราดามุสมีอุจจ์อยู่ 9 ตัวคับนั่นคือนอสตราดามุสมีบุญบารมียิ่งกว่ากว่าพระพุทธเจ้า และถ้าคุณยังจำสารคดีที่เคยออกสมัยก่อนปี 2,000 ได้ในสารคดีนั้นเขาจะบอกไว้หมดแหล่ะคับว่าโหราศาสตร์ที่แม่นที่สุดคือโหราศาสตร์โบราณที่ใช้ดาวคำนวณ 10 ดวงและนอสตราดามุสมีจำนวนอุจจ์สูงที่สุดคือมีอุจจ์อยู่ 9 ตัวโดยที่ขาดอุจจ์อาทิตย์ไปแค่ตัวเดียว รองลงมาคือพระพุทธเจ้ามีอุจจ์อยู่ 8 ตัวและพระเยซูมีอุจจ์อยู่ 7 ตัว และเขาก็ยังบอกด้วยว่ามีโครงกลอนของนอสตราดามุสที่ยังไม่มีใครตีความได้อยู่บทหนึ่งที่เขียนว่า "เราคือผู้สร้าง" อะไรทำนองนี้??? ซึ่งโครงบทนี้ไม่ได้ตีความยากเย็นเลยมันก็ตีความตรงตัวนั่นแหล่ะคือนอสตราดามุสเป็นพระเจ้า
ความเป็นพระเจ้าของนอสตราดามุสนั้นมีหลักฐานชัดแจ้งอยู่อย่างหนึ่งคับ คือเมื่อเวลาที่พระนารายณ์ได้ลงมานั้นจะเป็นช่วงเวลาที่ความรู้ของมนุษย์จะเจริญสูงสุดเพราะพระนารายณ์ก็จะเอาศาสตร์อะไรปล่อยมาให้กับมนุษย์ด้วย อย่างเช่นโหราศาสตร์เป็นต้นอย่างความรู้เรื่องขอพรจากดาวตกนั้นก็เกิดขึ้นในสมัยของพระเยซู โดยที่พระเยซูเป็นคนบอกเองว่าถ้าขอพรจากดาวตกแล้วพรนั้นจะเป็นจิง และก็ยังมีหลายๆเรื่องไสยศาสตร์ที่พระเยซูบอกไว้เรื่องที่ดังๆก็คือเรื่องของ "จอกศักดิ์สิทธิ" ซึ่งพระเยซูบอกเอาไว้ว่าพระองค์มีจอกศักดิ์สิทธิอยู่ซึ่งใครก็ตามที่ได้ดื่มน้ำจากจอกศักดิ์สิทธินั้นจะไม่มีวันแก่ไม่มีวันตาย ซึ่งคริสเตียนทั้งหลายก็แปลความหมายกันไปเป็นจอกที่รองรับพระโลหิตของพระเยซูซึ่งไม่ใช่เลย จอกศักดิ์สิทธินั้นก็คือหัวกระโหลกของพระเยซูนั้นแหล่ะ ถ้าใครได้ดื่มน้ำจากหัวกระโหลกของพระเยซูคนๆนั้นจะไม่แก่และไม่ตายซึ่งพลังนี้ผู้ที่มีอยู่มีเพียง 2 คนเท่านั้นในจักรวาลนี้ก็คือพระนารายณ์กับพระเจ้า แต่เรื่องของจอกศักดิ์สิทธิที่เป็นสัญลักษณ์ของความเป็นพระเจ้านี้กลับปรากฏอยู่ในบทกลอนของนอสตราดามุสด้วยซึ่งนอสตราดามุสได้ทำนายไว้ว่า ผู้ที่ดื่มน้ำจากหัวกระโหลกของเขาจะไม่แก่และไม่ตาย แต่ใครที่มายุ่งกับศพของเขาจะไม่ตายดี... ... นั่นแหล่ะนอสตราดามุสนั่นแหล่ะที่เป็นพระเจ้า พลังนี้มนุษย์ไม่มีทางมีขนาดพระพุทธเจ้ายังไม่มีจอกศักดิ์สิทธิเลย...
จากคุณ |
:
Catwater
|
เขียนเมื่อ |
:
วันปีใหม่ 55 17:30:31
A:171.4.100.104 X: TicketID:329908
|
|
|
|
 |