ความคิดเห็นที่ 1 ยาววว.... จากคุณ : Mdiic~* เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 01:05:00

ความคิดเห็นที่ 2 เห็นด้วยว่า วิศวกร เก่งๆ ก็ยังหางานทำได้ง่ายๆ อยู่ดี แต่พวกที่ได้ปริญญาออกมาแต่ สูตรพื้นฐานไม่กระดิก เป็นแต่ผสมปูน คุมเครื่อง พวกนี้ต่างหากที่ล้นตลาดครับ จากคุณ : กะปิเคยกุ้ง เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 03:22:56

ความคิดเห็นที่ 3 ผมว่ามันไม่ได้ล้นตลาดหรอกครับ แต่วิศวกรสมัยนี้เกี่ยงงานมากกว่า จากคุณ : GEAR OF SAREN เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 03:22:57

ความคิดเห็นที่ 4 ผมตามไปอ่านกระทู้นั้นมา มีหลายคนยังเข้าใจประเด็นผิดไปนิดหน่อย (ไม่ใช่เจ้าของกระทู้) โดยเฉพาะที่มองว่าปัญหาวิศวกรด้อยคุณภาพ อยู่ที่การปล่อยให้ ปวช ปวส (ที่บางความเห็นบอกว่า ไอคิวเฉลี่ยหรือศักยภาพด้อยกว่าสายสามัญ) เข้าเรียนวิศวะได้ จริงๆ แล้วในประเทศอื่น ปวช ปวส ก็เรียนวิศวะได้ (ถ้าอยากจะเรียน คือ เค้ามีพื้นฐานพอจะเรียนได้) สมัยผมทำงาน ก็เจอวิศวกรเยอรมันที่มาจากสายอาชีพกันมาก ประเด็นจึงอยู่ที่ทำไมประเทศเราจึง ปวช ปวส ที่ไม่ได้คุณภาพมากนัก (ที่จริง พอมาสอนมหาวิทยาลัยเอกชน ผมพบว่าไม่ได้มีความต่างกันเลยระหว่างเด็กช่างและเด็กสายสามัญที่ไม่ได้คุณภาพ เราผลิตเด็กสายวิทย์ที่ด้อยคุณภาพ พื้นฐานไม่พอมาจำนวนมากด้วย) สรุปคือ ถ้าวิศวกรคุณภาพสูงไม่ได้ล้นตลาด แสดงว่าปัญหาอาจอยู่ที่ระบบการศึกษาพื้นฐาน (สายสามัญและสายอาชีพ) จากคุณ : today_newspaper เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 03:26:03

ความคิดเห็นที่ 5 เพื่อนผมเรียนปี 4 แต่คิดเลขเป็นร้อยละไม่ได้.... จากคุณ : Calypsol_Red เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 03:32:45

ความคิดเห็นที่ 6 ไม่ใช่แค่วิศวะหรอกค่ะ  มาตรฐานระดับป.ตรีของไทย  ต่ำเกือบหมดทุกสาขาอาชีพนั่นแหละเจ้า  -*- จากคุณ : กุนซือเอกแห่งรัฐวุ่ย เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 03:37:04

ความคิดเห็นที่ 7 ถ้าบอกว่าด้อยคุณภาพ ผมก็เห็นว่าด้อย หมดเกือบทุกสาขาอาชีพล่ะครับ จากคุณ : hahesfha เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 03:59:37

ความคิดเห็นที่ 8 ล้น เพราะ ป.ตรี (หลายคณะ ไม่เฉพาะวิศวะ) ปีนึงผลิตออกมาปริมาณมาก จากคุณ : j เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 04:34:51 A:27.130.213.52 X: TicketID:268645

ความคิดเห็นที่ 9 ผมเป็นวิศวะกร ผมยอมรับว่าเลือกเรียนเพราะชอบ แต่เมืองไทยเรายังไม่ใช่ประเทศอุตสาหกรรม ผมจบใหม่ไฟแรง สมัครงานที่ไหนก็ไม่มีคนรับ เพราะจบใหม่ ไม่มีประสบการณ์ ทีนี้ประเทศเราไม่ได้ผลิตสินค้าอุตสาหกรรม วิศวกร เข้าไปก็ไม่ได้คิด ไม่ได้ออกแบบอะไรหรอก งานวิศวกรจึงไม่ค่อยมี สุดท้ายก็ไปเป็นวิศวกรขาย เอาดีกรีเป็นใบเบิกทาง ข้านี่ วิศวกร นะเฟ้อ แต่จริงๆไม่ค่อยได้เอาความรู้ที่เรียนมาใช้สักเท่าไร พอทำงานสักพัก ผมรับน้องใหม่วิศวกรเข้ามาทำงาน จึงรู้ว่า วิศวกร ที่จบออกมาไม่มีคุณภาพ ตัวอย่างเช่น ให้คำนวณแรงม้าที่ต้องใช้กับรถคันนี้ ให้วิ่งได้เร็วเท่าไร เขาคิดจากอัตราทด หาจากรอบสูงสุดเครื่องยนต์ แล้วออกมาเป็นความเร็ว โดยไม่มี "แรงม้า" เข้ามาคิดด้วย นี่แหละครับ คุณภาพวิศวกร (คนหนึ่ง) และอีกหลายคนที่ทำงานทำนองนี้ จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 07:55:07

ความคิดเห็นที่ 10 มาเล่าต่อ พอคุยกันเรื่องรถ เรื่องเรือ คนมักจะอ้าง "วิศวกรบอก" ผมถามว่า ทำไมต้องให้วิศวกรบอก หลายเรื่องชาวบ้านก็รู้มากกว่าวิศวกร วิศวกรไม่ได้รู้ทุกเรื่อง โดยเฉพาะข้อมูลใหม่ๆ ที่วิศวกรไม่รู้ก็มีเยอะ ข้อมูลที่เราได้รับฟัง มีเหตุผล บางเรื่องและหลายเรื่อง คิดด้วยหลักตรรกะง่ายๆก็เข้าใจได้ โดยเฉพาะ "ข้อมูลข่าวสารใหม่ๆ" ... วิศวกรและชาวบ้านชาวนา มีสิทธิรับรู้ได้ทุกคน ครับ ทำนองเดียวกับข้อมูลข่าวสารทางการแพทย์ ที่เขาออกมาเผยแพร่ใหม่ๆ หมอกับชาวบ้าน มีสิทธิรับรู้ได้เท่ากันทุกคน ข้อมูลทางการแพทย์หลายอย่าง ที่เขาวิจัยจนได้ "ข้อสรุปแล้ว" เราไม่จำเป็นต้องไปถามหมอ เพราะเขาวิจัยจนได้ข้อสรุปกันแล้ว หมายเหตุ ไม่ได้มีอคติกับหมอครับ พูดจากข้อเท็จจริง แก้ไขเมื่อ 03 ม.ค. 55 09:07:53 จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 09:05:20

ความคิดเห็นที่ 11 วิศวกรยังขาดแคลนครับ แต่วิศวกากมันล้นตลาด เด็กสมัยนี้เข้ามาเรียนเอาเฉพาะในหลักสูตรเก่าๆที่ป้อนให้้เท่านั้น ไม่เคยคิดจะไขว้คว้าไล่ตามเทคโนโลยีในปัจจุบัน ไม่เคยดูความรู้ที่ตามความต้องการของตลาด ไม่เคยลงไปศึกษาถึง Application ที่ใช้งานในปัจจุบัน ไม่เคยลงมือทำของจริง พอสุดท้ายจบไป ทำอะไรไม่เป็น ไม่มีจุดเด่น จุดสนใจ ที่เขาจะรับเข้าทำงาน สรุปแล้วจบมาก็เป็นได้แค่วิศวกากๆเกรียนๆ ตกงาน จากคุณ : jubchay เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 09:59:35

ความคิดเห็นที่ 12 รู้จักระบบ QA มั้ยครับ เป็นงานเอกสารที่จะบอกว่าม.ฯี้ได้มาตรฐานหรือไม่ ม.ก็มีวิธีง่ายๆด้วยการดูดัชนีชี้วัดว่ามันมีอะไรบ้างแล้วก็ทำตามนั้น ปัญหาคือคุณภาพบัณฑิตที่จบออกมานี่มันว่ากันเป็นดัชนีชี้วัดไม่ได้ มันก็เลยไม่ทำกัน ยิ่งระบบคัคคนเข้ากลายเป็นง่อย เน้นรับคนมากๆ (ได้เงิน) แล้วมันจะไปเหลือเรอะ ผมไม่ได้หมายความว่า QA มันห่วยนะ แม้ว่ามันก้ห่วยจริงเหอะ แต่น่าจะเป็นเพราะเราเอามาใช้กันไม่ค่อยเหมาะมากกว่ามั้ง อย่างที่สองที่ผมมักบอกเสมอว่านศ.ที่เข้ามาเรียนในมหาวิทยาลัยส่วนมากไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งก็เป็นปัญหาใหญ่ระดับมหภาคนู่นแหละ ตั้งแต่ระบบการคัดเลือก การเรียนในช่วงก่อนมหาลัย ค่านิยมของสังคม แก้ไขเมื่อ 03 ม.ค. 55 10:27:45 จากคุณ : amscmu เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 10:24:21

ความคิดเห็นที่ 13 ผมก็วิศวะคนนึงครับ ยอมรับว่าที่มันล้น มักจะล้นในส่วนที่มาจากมหาลัยที่ไม่ค่อยดังก็แค่นั้น แต่ไม่ใช่ว่าวิศวะที่มาจากสถาบันดังๆจะเก่งทุกคนเช่นกัน  ส่วนที่มีคนบอกว่าเพราะว่าเด็กสมัยนี้เลือกงานคงบอกว่าจริงครับเพราะผมก็เลือก เพียงแต่คงบอกว่า ถ้าคุณมีสิทธิเลือก เป็นคุณคุณจะยอมอยู่ดักดานที่เก่ารึเปล่าถ้ามันไม่ดีและที่สำคัญ ส่วนใหญ่เป็นบริษัทเอกชนไม่ใช่ราชการ  ผมคนนึงที่ขอเลือกหัวหน้า ไม่ใช่ให้หัวหน้าเลือกลูกน้องอย่างเดียวซึ่งมันเป็นเรื่องปกติของมนุษย์เงินเดือน สำหรับเรื่องความรู้เฉพาะ ผมก็คงบอกว่า หลายๆคนมักต้องการคนที่จบมาแล้วทำงานได้เลย ซึ่งมันเป็นไปได้ยากครับ เพียงแต่ผมก็คงบอกว่าบริษัทใหญ่ๆเขามีความคิดว่ารับวิศวะกรมาเพื่อเลือกเอาคนที่มีพื้นฐานมาแนวนี้ เพราะสามารถเรียนรู้ได้เร็ว  แล้วก็ค่อยมาอบรมสั่งสอนเทคโนโลยีบริษัทต่อไป  ถ้าเกิดเรียนรู้ได้ช้ากว่าที่ตั้งเป้าไว้ ก็โบกมือลาได้เลยเมื่อถึงวันประเมิณ จากคุณ : Tadae เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 10:41:44

ความคิดเห็นที่ 14 ปัญหานี้มันลุกลามมากขึ้นเรื่อยๆครับ วิธีแก้คือมหาลัยต้องเด็ดขาด เด็กเรียนไม่ไหวก็ต้องให้F รีไทร์ก็ต้องรีไทร์ ทุกวันนี้ปล่อยจบมาแบบง่ายๆ ไม่เฉพาะวิศวกรครับ สาขาอาชีพอื่นก็ด้วย ไม่รู้จะรับนักศึกษาเยอะๆ หารายได้เข้ามหาลัยกันอีกนานมั้ย บางที่ผมเห็นว่าคนเรียนไม่ได้เรื่องเรย แต่เกรดสูงเกิน2.5แทบทุกคน ยังงี้ไม่ ทำปริญญาออกมาขายเรยล่ะ จากคุณ : คนไร้สมอง เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 10:47:56

ความคิดเห็นที่ 15 หัวข้อ แคลสสสสสสิคจริงๆ จากคุณ : หมึกสด เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 10:49:34

ความคิดเห็นที่ 16 คนที่มีวุฒิ วศ.บ. มีเยอะมาก คนที่เป็นวิศวกร มีน้อย คนที่เป็นวิศวกรที่ทำงานได้ มีน้อยยิ่งกว่าน้อย จากคุณ : Arc_ เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 10:53:59

ความคิดเห็นที่ 17 ความเห็นผมนะครับ 1. ระบบการศึกษาอาชีวะสายช่าง และค่านิยมทางช่างที่นิยมส่งเสริมในบุรุษ กีดกันสตรี ทำให้พฤติกรรมเฉพาะกลุ่มเป็นไปในทางสัมผัสกับอบายมุข เช่น ช่างต้องดื่มเหล้า สูบบุหรี่ วิศวกรก็ต้องดื่มเหล้า สูบบุหรี่ รวมทั้งผู้ที่เข้าไปศึกษาเริ่มแรกอยากได้รับการยอมรับจากกลุ่ม การส่งเสริมพฤติกรรมต่อสู้ระหว่างชนเผ่าเช่นเดียวกับคนป่าจึงทำได้ง่าย เช่นการยกพวกตีกันของนักศึกษาอาชีวะระหว่างสถาบัน 2. การมีพิธีพระราชทานปริญญาบัตร ทำให้เกิดความคิดว่าผู้ได้รับปริญญานั้นเป็นบุคคลมีคุณค่า ราวกับวีรบุรุษในตำนานที่ฝ่าฟันอุปสรรคเรื่อยมาจนได้รับองค์ความรู้จากทวยเทพ ค่านิยมคนจบปริญญาในไทยรุนแรงมาก หากคุณจบประมาณบัญชี หรือเศรษฐศาสตร์ ใส่เสื้อยืด ขายของอยู่หน้าบ้าน มีแต่คนดูถูกดูแคลน ต้องเอาใบปริญญา เอารูปถ่าย มาใส่กรอบแขวนไว้โชว์ 3. สำหรับองค์กร สถานประกอบการ ที่ให้คุณค่าที่กระดาษปริญญา ละเลยความสามารถ ค่าแรงของผู้ที่ได้รับปริญญานั้นสูงกว่าผู้จบปวช.ปวส. 4. ด้วยสาเหตุในข้อ1.-3. ทำให้พ่อแม่ผู้ปกครองพยายามเคี่ยวเข็ญให้ลูกหลานที่ถนัดทางช่าง เรียนให้จบวิศวกรรมศาสตร์ในมหาวิทยาลัย แม้ว่าจะเรียนทางสายสามัญอ่อนมากก็ตาม เพื่อให้ ลูกหลานปลอดภัยจากการยกพวกตีกันในระดับหนึ่ง(ถ้าไม่ใส่เสื้อช็อปขึ้นรถเมล์น่ะนะ) เพื่อให้ได้รูปถ่ายงานรับปริญญาไว้อวดข้างบ้าน และให้ลูกหลานมีงานค่าแรงสูงขึ้นในระดับหนึ่ง จากข้อ4. ทำให้ผู้มีความสามารถทางช่าง พยายามเรียนเอาปริญญา ส่วนพวกที่เรียนปวช.ปวส.กลายเป็นผู้ที่ไม่มีทางเลือก นั่นคือเรียนสายสามัญไม่ไหวจึงมาเรียนสายอาชีพ ทำให้คุณภาพของบุคลากรสายอาชีพแย่ลง ส่วนผู้ที่ถนัดทางช่างที่ไปเรียนสายสามัญเอาปริญญา่ ก็ทำให้คุณภาพบุคลากรสายสามัญแย่ลงเช่นกัน 5. ค่านิยมของคนไทยที่คิดว่า"วิศวกรต้องรู้มากกว่าช่าง" ทำให้เกิดภาพลวงตาว่าวิศวกรสมัยนี้คุณภาพแย่ วิศวกรจะทำอะไร ยืนยันอะไร ก็ต้องยึดหลักวิชาการ และการคำนวณ มิใช่จดจำเอาว่าอะไรใช้ได้ ท่องจำตารางอ้างได้ทันทีแบบช่าง อย่างน้อยๆวิศวกรก็ต้องหาที่มาของตารางช่วยคำนวณนั้นๆก่อน ถ้าถามช่างก่อสร้างว่าบ้านสองชั้นเอาเสาหนาเท่าไร ช่างที่มีประสบการณ์สามารถตอบได้ทันที จากความจำและการทำงาน แต่ถ้าถามวิศวกรโยธา คำตอบมีได้หลากหลาย "ขึ้นอยู่กับสถาปนิก" "ต้องบอกก่อนว่าConcrete Strengthเท่าไร ใส่เหล็กเท่าไร ขอคำนวณและเปิดตารางก่อน" "ไม่ทราบเพราะไม่เคยทำเสาบ้าน(ทำแต่ผนังรับน้ำหนัก)" "เสาหนา12.5มิลก็พอ(ดันใช้เสาเหล็กHEB360 มาตรฐานยุโรป)" 6. ความต้องการวิศวกรในตลาดแรงงานมีน้อยกว่าที่คิด ถ้าถามว่าบริษัทออกแบบโครงสร้างเหล็ก ควรมีวิศวกรกี่คน คำตอบคือ2คน! คนหนึ่งคำนวณ อีกคนตรวจรายการคำนวณ จะรับคนเพิ่มมากกว่านี้ก็ต่อเมื่อมีงานให้ทำเพิ่มเท่านั้น วิศวกรสามารถคำนวณจุดต่อโครงสร้างประเภทต่างๆ เหล็กProfileต่างๆทิ้งไว้เป็นเล่มๆได้ บอกหมดว่าแบบไหนรับแรงแบบไหนได้เท่าไร เซ็นกำกับครั้งเดียว รอupdateตอนมาตรฐานเปลี่ยน การทำงานคือเอาการออกแบบจากสถาปนิกมาคำนวณแรงที่จุดต่อต่างๆด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ เมื่อได้แรงแล้ว ก็ส่งให้Draftsmanเขียนแบบ และเอาจุดต่อประเภทต่างๆไปใส่ให้ถูกต้องเองได้ นี่คือที่ผมประสบมาในการทำงานต่างประเทศ...ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมประเทศไทยต้องจ้างวิศวกรเยอะๆ จากคุณ : Zeichnung (Zeichnung) เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 11:32:37

ความคิดเห็นที่ 18 T_T จากคุณ : Themawin เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 12:20:22

ความคิดเห็นที่ 19 ผมว่ามันเป็นเพียงความคิดของคน "ด้อยความสามารถ และไร้สมรรถภาพทางด้านการแข่งขัน" มากกว่าครับ ขอแข่งขันสู้คนที่เก่งกว่าไม่ได้ ก็ตีโพยตีพายว่าวิศวกรล้นตลาด โทษภาคพิเศษ เด็กต่อเนื่อง หรือไม่ก็มหาวิทยาลัยเอกชน คนที่คิดว่าวิศวกรล้นตลาด ก็ลองพยายามทำตัวให้มีความสามารถดูครับ แล้วคุณจะรู้ว่า เรายังขาดวิศวกรคุณภาพอีกมาก แก้ไขเมื่อ 03 ม.ค. 55 12:58:16 จากคุณ : dramnart เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 12:50:19

ความคิดเห็นที่ 20 เป็นหมดด้วยกันทุกสายแหละครับ คนที่เก่ง ทำงานเป็น หายาก และยิ่งแนวทางการผลิตแรงงานสู่ตลาดของไทยเละเทะมาก ๆ ที่ต้องการเยอะ ๆ คือ ระดับ ปวช. ปวส.  แต่ดันเน้นให้จบแต่ปริญญาตรี แล้วเอาปริญญาตรีมาทำงานแทน ปวช. ปวส. ก็เจริญประเทศไทย จากคุณ : MAX เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 13:28:15

ความคิดเห็นที่ 21 เยอะ หลายที่ มีเงินก็เรียนจบ  เลยออกมาเป็นฉะนี้ จากคุณ : ก้นกบ เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 15:50:49

ความคิดเห็นที่ 22 คนเรียนจบวิศวกรรมศาสตร์ ไม่ได้หมายความว่าเป็นวิศวกรนะครับ เค้าเปิดโอกาสให้เข้าเรียนได้ แต่ถ้าอยากเป็นวิศวกรก็ต้องสอบเอาใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ถึงจะเรียกตัวเองว่า วิศวกร ได้ตามกฎหมาย จากคุณ : buddybulldog เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 16:30:50

ความคิดเห็นที่ 23 ไม่ทราบจริงๆนะครับ อยากทราบว่า วิศวกรนี่เรียนจบต้องไปสอบ ใบประกอบวิชาชีพอีกไหมครับ จากคุณ : เวย์คุง เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 16:34:16

ความคิดเห็นที่ 24 ทุกวันนี้ ป.โท ก็เฟ้อจ้ะ จากคุณ : สวย ส่ายสุดๆ เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 16:44:29

ความคิดเห็นที่ 25 #22 ดูพรบ.วิศวกร พ.ศ.2542 แล้ว มาตรา45 กับ47 กฏหมายไม่ได้ห้ามใช้การใช้คำว่าวิศวกรนะครับ ใครจะใช้ก็ได้ คนจบม.6จะเรียกตัวเองว่าวิศวกรก็ได้ แต่จะใช้คำหรือข้อความอื่นใดเพื่อแสดงตนว่ามีความรู้ความสามารถในการประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมไม่ได้ #23 การประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุม ต้องมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมครับ ถ้าไม่ได้ทำงาน ก็ไม่ต้องไปสอบครับ ประเภทและขนาดของงานวิศวกรรมควบคุมสาขาต่างๆ http://www.coe.or.th/_coe/_product/20080215172108-1.PDF จากคุณ : Zeichnung เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 17:40:51

ความคิดเห็นที่ 26 #23 ถ้าไม่ได้ทำงานเกี่ยวกับ วิศวกรรมควบคุม ก็ไม่ต้องมีก็ได้ครับ เพื่อนผมที่จบไฟฟ้ากำลัง โทรคม เครื่องกล ที่ไม่ได้ืำทำงานแนวนี้ ก็เห็นไปสอบกันบ้าง พอหมดอายุก็ไม่ต่อกันเพราะไม่ได้ใช้ ที่ไม่ขอกันก็เยอะ เพราะไปอยู่โรงงานกัน ฝ่ายผลิตบ้าง ฝ่ายวิศวกรรม/ซ่อมบำรุงบ้าง ก็ไม่ได้ใช้และไม่จำเป็นต้องใช้ คำว่า วิศวกร ไม่ได้จะเรียกว่าวิศวกรถูกกฏหมายที่มีใบประกอบวิชาชีพหรอกครับ วิศวกรคอมพิวเตอร์ วิศวกรอิเล็กทรอนิกส์ก็ไม่มีใบประกอบวิชาชีพมาควบคุม ก็ยังเป็นวิศวกร จากคุณ : Arc_ เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 17:48:18

ความคิดเห็นที่ 27 ใบประกอบวิชาชีพ ระดับภาคี ณ.เวลานี้สอบง่ายมาก  แทบไม่ใช้ความรู้อะไรเลย น่าจะปรับปรุงบ้าง จากคุณ : ยาม ณ. ไฮบิวรี่ เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 19:13:24

ความคิดเห็นที่ 28 #23 แล้วแต่ความจำเป็นในสายงานนะครับ ส่วนใหญ่น่าจะใช้บ่อยในสายโยธาและไฟฟ้ากำลัง จากคุณ : jubchay เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 21:30:02

ความคิดเห็นที่ 29 คห 23 อยากทราบว่า วิศวกรนี่เรียนจบต้องไปสอบ ใบประกอบวิชาชีพอีกไหมครับ >>>>>>>>>>  ไม่เหมือนกับใบประกอบโรคฯของแพทย์ ที่ทุกคนต้องมีใบนี้ก่อน จึงจะประกอบอาชีพได้ กว. ของวิศวกร จะใช้เมื่อต้องเซนต์แบบ ผมไม่ได้เซนต์แบบก็ไม่ทำ จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 06:18:07

ความคิดเห็นที่ 30 ที่ตลก คือ คนที่เรียนต่างประเทศหนาว กว. จะให้สอบเรื่อง "แอร์"  อ้างเหตุผลว่า เรียนจากเมืองหนาวไม่ได้เรียนแอร์  ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิด หรือ ต้องมี ref คนเรียนจากที่เมืองนั้น เช่น Hannover ได้ กว. สักคน คนหลังๆอ้างคนนี้ ก็จะได้ กว. โดยไม่ต้องสอบ จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 06:22:31

ความคิดเห็นที่ 31 การศึกษา มันกลายเป็นธุรกิจไปแล้วครับ ยิ่งรวมกับในการสมัครงานนั้น วุฒิการศึกษา มันเป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ ส่วนตัวผมว่ามันเริ่มจาก แรก ๆ ม.รัฐหารายได้เสริมเปิดให้มีภาคพิเศษ (ที่ต้องเสียค่าหน่วยกิตแพงกว่า) แล้วอะครับ พอมารวมกับ นโยบายออกนอกระบบ มันเลยกลายเป็นม.รัฐก็ต้องเข้ามาแข่งขันในตลาดนี้กับม.เอกชนแบบเต็มตัวอะครับ จากคุณ : Ethan_Ko เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 09:38:50

ความคิดเห็นที่ 32 เราเอ็นท์ติดคณะทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม ของมหาลัยรัฐบาล   ตอน ม 4 เราก็สอบเข้าเตรียมทหารได้ แต่ไม่ชอบ เพราะตั้งใจจะเรียนวิศวะ เลยเลือกเข้าเรียน ม เอกชน เรียนจบ ป ตรี ก็ไปสอบเรียนต่อ ป โท สายตรง คือ วศม ในชั้นเรียน เราได้เกรดที่สามารถเรียนต่อ ป เอก ได้ เราต้องมาติวให้เพื่อนในรุ่น ซึ่งจบมหาลัยของรัฐ โดยเฉพาะวิชาด้านการออกแบบ และวิชาที่เกี่ยวข้องกับการทำงานจริง จากคุณ : วิศวกรไทย (dewie) เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 11:33:17

ความคิดเห็นที่ 33 ถ้างั้น ผมก็เป็นวิศวะกากๆอ่ะดิ 2.10, Drop เพียบ, F เพียบ, จบ 5 ปี T_T จากคุณ : J_online เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 15:07:36

ความคิดเห็นที่ 34 ไม่รู้จะพูดอย่างไร ผมว่ามันไม่จำกัดอยู่ที่ตัวคนเรียนอย่างเดียว สภาพธุรกิจแวดล้อมก็มีผล ต้องมีคุณภาพถึงขนาดไหน ถ้าจะให้ชัวร์จริง ต้องถึงขั้นสร้างงานไฮเทคเองได้หรือเปล่า ไม่ต้องง้อนักธุรกิจ นักสร้างงาน ซึ่งการสร้างวิศวกรแบบนั้นมันไม่ง่ายอยู่แล้ว เพราะตัวคนสอนเองก็ทำไม่ได้ คนรู้จักทำงานอยู่ในบริษัทสื่อสารยักษ์ใหญ่ห้าถึงหกปี เงินเดือนอัพยังไงก็ไม่ถึงสองหมื่น สุดท้ายตอนนี้ต้องไปทำงานต่างประเทศ ก็ได้เงินเดือนหลายแสนเหมือนวิศวกรฝรั่งทั่วๆไป แต่อยู่เมืองไทย ยังไงก็ไม่รอด จะเห็นว่าอยู่เมืองไทย เอาตัวไม่รอด แต่ไปอยู่ต่างประเทศเค้ากลับทำได้ดี เพราะอะไร จากคุณ : แวมไพร์ที่ราบสูง เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 20:59:25

ความคิดเห็นที่ 35 32# จบเตรียมทหาร ต่อ ทุกเหล่ายกเว้น ตร. มีคณะวิศวะ ครับ จากคุณ : du เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 55 13:39:08 A:58.11.182.163 X: TicketID:308748

ความคิดเห็นที่ 36 ผมคิดว่าการที่จะเรียกตัวเองว่า วิศวกรได้ คือต้องทำงานในด้านวิศวกรรมในตำแหน่งวิศวกร ซึงไม่จำเป็นต้องจบ วศบ. อาจจะจบ อสบ. คอบ. หรือ วทบ. ก็ได้ ถ้าทำงานในตำแหน่งนั้นๆ การจบ หรือ เรียน ในคณะวิศวกรรม นั้นคือเป็นนักศึกษาคณะวิศวกรรมเท่านั้น ถ้ายังไม่ได้ทำในตำแหน่งวิศวกร ก็ไม่ควรเรียกว่าวิศวกร ต่อให้เรียนจบ ป.เอก หรือเป็น อ.อย่างเดียว ก็เถอะ ผมคิดว่าการที่คนที่ยังเรียน ไม่เคยในงานได้ด้านวิศวกร เรียกตัวเอง ว่าวิศกรนั้น เป็นแค่ อีโก้ ของตัวเองเท่านั้น ที่คิดว่าแค่เรียนก็ได้เป็นแล้ว เป็นความภูใจลึกของตัวเองอย่างหนึ่ง ซึ่งโดยส่วนตัวใครจะเรียกผมว่ายังไงก็เรียกไปเถอะ วิศวกร นายช่าง ช่างใหญ่ ถ้าผมไม่ได้ทำงานในตำแหน่งนั้น ผมก็ไม่เรียกตัวเองว่า วิศกร หรอกครับ ถ้าใคร จากคุณ : du เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 55 13:49:49 A:58.11.182.163 X: TicketID:308748

ความคิดเห็นที่ 37 ความเห็นส่วนตัว 1.โรงเรียน วิทยาลัย มหาลัย ต้องเลิกทำธุรกิจกับการศึกษา 2.ข้อสอบทั้งหลาย เปลี่ยนเป็นแบบเขียนให้หมด แบบกา ให้ยกเลิกไป 3.คะแนนเก็บไม่ต้องมี หรือมีก็แค่ 10% ที่เหลือแบ่งเป็นสอบกลางภาค 30%  กับปลายภาค 60% ประมาณนี้ 4.ให้ปรับทัศนคติ การจะประสบความสำเร็จในชีวิต ไม่จำเป็นจะต้องมาเรียนวิศวะ เรียนอย่างอื่นก็สามารถประสบความสำเร็จในชีวิตได้ 5.ให้สถานที่ทำงานทั้งหลาย รับวิศวกร ให้น้อยลง โดยการใช้งานวิศวะที่มีอยู่ให้คุ้มค่า (โดยเพิ่มเงินให้ด้วย..อิอิ) จากคุณ : มะขามป้อม.. เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 55 20:34:36