ความคิดเห็นที่ 1 มิเตอร์คิดราคาตามระยะทางและเวลา(ที่รถติด)ครับ ไม่เกี่ยวกับรถว่าใช้เกียร์อะไร ใช้เชื้อเพลิงอะไร จากคุณ : คนไร้สมอง เขียนเมื่อ : 3 ม.ค. 55 23:57:20

ความคิดเห็นที่ 2 เกียร์ธรรมดาหรือออโต้ก็ไม่ต่างกัน จะต่างกันก็อยู่ที่ยางรถยนต์นี่แหละ  ถ้ายางเตี้ยกว่าเสป็คระยะทางจริงมันจะน้อยกว่าระยะทางมิเตอร์ จากคุณ : tingo เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 00:26:47

ความคิดเห็นที่ 3 น่าไปห้องรัชดานะ จากคุณ : เจ้าชายนิทราในความฝัน เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 01:53:36

ความคิดเห็นที่ 4 # 3 เราว่าหว้ากอนะ // ได้ความรู้เรื่อง เลือกแท็กซี่ 555 จากคุณ : Focus 4 ever เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 04:07:37

ความคิดเห็นที่ 5 คันไหนจะเสียค่าแท็กซี่น้อยกว่ากันครับ หรือว่าไม่แตกต่างกันเลย >>>>>>>>>> เสียเท่ากันครับ เพราะแท็กซี่มิเตอร์คิดจากระยะทาง ครับ แต่ถ้าเรื่องประหยัดน้ำมัน เกียร์ออโต้จะประหยัดกว่า ครับ จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 07:08:10

ความคิดเห็นที่ 6 รู้แต่ว่า ที่ประเทศสิงคโปร์ เค้าใส่ใจในรายละเอียดระดับ "ขนาดขอบล้อ และแรงดันลมยาง" ว่าเท่าไหร่ เขียนไว้ชัดเจนในรถ แต่ของประเทศ จะแต่งเป็นรถซิ่งอย่างไร ขอบล้อขนาดไหน ยางขนาดไหน ไม่มีใครจะใส่ใจปกป้องสิทธิ์ผู้บริโภคสักคน คนขับไม่ตรงกับเอกสารในรถ รถป้ายแดง รถไม่ติดทะเบียน วิ่งกันให้เกลื่อน ทั้งขนส่งทางบก มันแต่เปลี่ยนสีไปมาอยู่ได้ หรือผู้ใช้ด้วยกันเองก็ไม่สนใจ จากคุณ : master foo bar เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 08:21:52

ความคิดเห็นที่ 7 ผมว่า น่าจะถามนายชินวัฒน์ หาบุญพาด รัฐมนตรี ยังต้องปรึกษาเลย แก้ไขเมื่อ 04 ม.ค. 55 09:25:49 แก้ไขเมื่อ 04 ม.ค. 55 09:24:04 จากคุณ : . (old popeye) เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 09:21:34

ความคิดเห็นที่ 8 แล้วถ้านั่งแท็กซี่ที่แบบว่า วิ่งฉิว ไม่มีจอดติดที่ไหนเลย แต่ว่า ไอมิเตอร์ที่คิดเวลาที่รถติดมันขึ้นอ่ะ อย่างงี้มันโกงใช่ป่ะ จากคุณ : birdInwsad เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 10:53:40 A:124.120.18.135 X: TicketID:308232

ความคิดเห็นที่ 9 ^ ^ โดนโกงมิเตอร์แล้วครับ ปกติถ้าอันนึงขึ้นอีกอันจะต้องหยุดครับ ไม่ขึ้นพร้อมกัน แต่ถ้าวิ่งความเร็วต่ำๆบางทีมันก็จะไปขึ้นทีเวลาแทนนะครับ แก้ไขเมื่อ 04 ม.ค. 55 10:58:12 จากคุณ : Houdini เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 10:57:07

ความคิดเห็นที่ 10 นอกเรื่อง ผมเคยขึ้นคันนึงสมัยเรียนมหาวิทยาลัย เขาลืมกดมิเตอร์ นั่งจนถึงปลายทาง เขาก็ถามว่าปกตินั่งมาเท่าไหร่ ก็ให้เขาไปราคาที่รถไม่ติด 5555 จากคุณ : กระป๋องด๋อย เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 11:02:58

ความคิดเห็นที่ 11 แท็กซี่ จะเกียร์อะไรถ้าวิ่งเท่ากัน จ่ายเท่ากัน ถ้าไม่โดนโกง แต่ ถ้าขับเกียร์ธรรมดา โดยปกติขับธรรมดา จะประหยัดเชื้อเพลิง กว่า อันนี้พิสูจน์กันไปนานแล้ว จากคุณ : du เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 13:35:36 A:203.149.4.38 X: TicketID:308748

ความคิดเห็นที่ 12 #5 ผิดแล้วครับ เรื่องการประหยัดน้ำมันนั้น ถ้าเครื่องรุ่นเดียวกัน เกียร์ ธรรมดาจะประหยัดกว่าครับ เนื่องจากมีเฟืองและกลไกน้อยกว่า ส่งผลให้การสูญเสียน้อยกว่าด้วย และอัตราเร่งยังดีกว่าอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนั้นเพราะระบบไมซับซ้อน ค่าบำรุงรักษาจะถูกกว่ามาก ข้อเสียเพียงอย่างเดียวของเกียร์ธรรมดาคือขับยาก รถติดแล้วเมื่อย นั่นจึงเป็นสาเหตุที่รถที่ใช้ในเชิงพานิช แทบทุกคนเห็นเกียร์ธรรมดาครับ หากเกึยร์ออโต้ประหยัดน้ำมันกว่าจริงนั้น ภาคธุรกิจคงนำไปใช้แล้ว จากคุณ : hil4552 เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 14:35:57

ความคิดเห็นที่ 13 ขอบคุณทุกท่านมากครับ ได้ความรู้มากเลย สรุปคือ ดูที่ขนาดยาง จากคุณ : SteamPower เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 16:11:53

ความคิดเห็นที่ 14 นั่งแท็กซี่เกียร์ธรรมดากับเกียร์ออโต้คันไหนประหยัดกว่ากันหรอครับ vote [ถูกใจ] [แจ้งลบ] ติดต่อทีมงาน ถ้าเลือกนั่งแท็กซี่ ไปยังจุดหมาย ต่างกันแค่คันที่หนึ่งเป็นเกียร์ธรรมดา กับคันที่สองเป็นเกียร์ออโต้ คันไหนจะเสียค่าแท็กซี่น้อยกว่ากันครับ หรือว่าไม่แตกต่างกันเลย --------------------------------------------------------------------------------------------------เท่ากัน- จากคุณ : ChildMonster เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 16:33:17

ความคิดเห็นที่ 15 จึงเป็นสาเหตุที่รถที่ใช้ในเชิงพานิช แทบทุกคนเห็นเกียร์ธรรมดาครับ หากเกึยร์ออโต้ประหยัดน้ำมันกว่าจริงนั้น ภาคธุรกิจคงนำไปใช้แล้ว >>>>>>>> เดี๋ยวผมจะเอาข้อมูลการ Test มาให้ดูว่า ...เกียร์ออโต้ประหยัดกว่า ส่วนภาพนี้ เป็นรถคันใหญ่ที่สุดในประเทศไทย คันนี้ก็ใช้เกียร์ออโต้ Allison รุ่น MT เครื่องยนต์ GM 1300 HP เกียร์ออโต้ มี torque ตอนออกตัวดีกว่า เกียร์ MT เยอะมาก incline take off ได้ที่มุมชันกว่ามาก แต่คนทั่วไปไม่ทราบ เพราะคิดว่า เกียร์ออโต้ loss เยอะ (ภาพนี้ ผมทะลึ่งล้อเลียน Moon Landing ) จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 16:44:19

ความคิดเห็นที่ 16 รถเมล์ ขสมก. เกียร์ออโต้คันแรกผมเป็นคนติดตั้ง Demo ตอนแรกเขาก็หาว่า เกียร์ออโต้ เปลืองน้ำมันกว่า ต้องทดลองเปรียบเทียบวิ่งกันจริงๆ เปรียบเทียบบนรถคันเดียวกัน ประมาณว่าเงื่อนไขเท่ากันทุกอย่าง ยกเว้นเกียร์ ครับ แต่คนทั่วไปที่บอกว่า รถเก๋งเกียร์ออโต้ เปลืองกว่า ไม่เคยทดลอง บนเงื่อนไขเดียวกัน เพราะรถเก๋งในท้องตลาด หายากที่จะใช้ เครื่องยนต์ตัวเดียวกัน ทั้ง ออโต้ และ MT นี่เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้การเปรียบเทียบ ผิดพลาด ครับ ยังไม่ต้องเชื่อผมก็ได้ เดี่ยวผมจะเอาข้อมูลการทดลองมาให้ดู อยากให้เข้าใจเรื่องออโต้ที่ถูกต้องครับ จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 16:48:21

ความคิดเห็นที่ 17 จากที่ดูผลเทสมาหลายที่ ทั้งญี่ปุ่น และเยอรมัน สวีเดน โดยผู้ผลิตรถยนต์เอง เรียงตามการบริโภคน้ำมัน จะได้ตามนี้ครับ เกียร์ cvt  < เกียร์ธรรมดา < เกียร์ออโต้ จากคุณ : EITHER เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 17:44:37

ความคิดเห็นที่ 18 เหมือนผมเคยเห็นการทดลองรถรุ่นนึงบนไดโน รุ่นเดียวกัน ต่างกันที่เกียร์ สิ่งแวดล้อมเดียวกัน เครื่องรหัสเดียวกัน เกียร์แค่คนละลูก เกียร์ธรรมดาประหยัดกว่าครับ และผมคิดว่าคนส่วนใหญ่ก็คิดด้วยว่าเกียร์ธรรมดาประหยัดกว่า ในรถบ้าน รถใหญ่ผมไม่ทราบครับ จากคุณ : สสารนิยม เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 19:08:08

ความคิดเห็นที่ 19 ผมลองแล้วครับ รถคันเดิม เครื่องเดิม การใช้งานเหมือนเดิม  เปลี่ยนแค่เกียร์ เกียร์ธรรมดาประหยัดกว่า อย่าบอกนะ ว่าจะเอาไปเทียบกับรถอะไรอีก นี่พูดถึงรถบ้านๆกันนะครับ จากคุณ : lustful เขียนเมื่อ : 4 ม.ค. 55 21:30:09

ความคิดเห็นที่ 20 อยากทราบข้อมูลของคุณ TinyNuจังเลย ว่าทำไมAuto ถึง ประหยัด กว่า Manual ถ้าเป็นจริงนี่ แทบจะพลิกวงการAutomobileเลยน่ะครับ เพราะโดยหลักการทำงาน เอาแค่หยาบๆน่ะครับ เกียร์autoนั้นlossตรงhydraulicที่ไปปั่นtorqe converter ขณะที่manual loss ที่หน้าสัมผัสclutch เอาแค่คร่าวๆ แค่นี้ก็ชัดแล้ว จากคุณ : Roninkung เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 55 02:19:33

ความคิดเห็นที่ 21 ผมชอบสมาชิกห้องหว้ากอ ชอบที่ได้มีโอกาสถกกันด้วยเหตุผล ผมขอบอกก่อนว่า เดิมผม Anti เกียร์ออโตเมติกแบบสุดๆ ผมหาว่าคนขับรถไม่เป็นถึงขับออโต้ไปโน่น จนกระทั้งต้องศึกษาข้อมูลจริงจัง เพื่อทำโปรแจ็กเปลี่ยนเกียร์ Auto ให้รถ ขสมก. รถ Demo ขสมก. ส่งมาให้ใช้เครื่อง Volvo สิ่งที่ต้องเปลี่ยน คือ  เกียร์ .. เพลากลาง ..เฟืองท้ายให้เข้ากัน ส่วนของเครื่องก็ต้องถอด Flywheel เดิมออก เปลี่ยนเป็น Flexible Plate ให้ Torque converter เกาะ ชิ้นส่วนนี้ฝรั่งมันเกี่ยงกันว่า Volvo เป็นคนให้ หรือ เป็นของโรงงานเกียร์ ผมรอไม่ไหว ตัดสินใจ "จัดให้"  .... จะเห็นได้ว่า รถ Demo คันนี้เปลี่ยนเกียร์ และ ส่วนควบทุกอย่างให้เหมาะสมทุกชิ้น   หลังจากนั้น ก็วิ่งทดสอบในสภาพถนนจริง เปรียบเทียบห่ลายอย่าง (รายละเอียดอยู่ที่ ขสมก) ได้ข้อสรุป ประเด็นสำคัญ คือ เกียร์ AT ประหยัดน้ำมันกว่าเกียร์ MT **เมื่อวิ่งในเมือง** หมายเหตุ ผลพลอยได้จากการทดสอบคราวนี้ เราพบข้อผิดสังเกตในการเบิกจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงที่เติมกันทุกวัน .... เป็นผลให้มีการตรวจสอบภายใน (รายละเอียด ขอไม่เล่าในนี้ครับ) แก้ไขเมื่อ 05 ม.ค. 55 07:35:20 จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 55 07:15:17

ความคิดเห็นที่ 22 รายการทดสอบเป็นข้อมูลราชการ ผมคงไม่เอามาเปิดเผยที่นี่นะครับ ผมขอเอาการทดสอบตามมาตรฐานเยอรมันมาให้ดู ดังนี้ สังเกต 1) การทดสอบการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง **เมื่อวิ่งในเมือง (Urban) ** เกียร์ AT จะประหยัดกว่าเกียร์ MT 2) เมื่อใช้ความเร็วสูงขึ้น ถึงความเร็วสูงสุด เกียร์ MT จะประหยัดกว่าเล็กน้อย ถามว่า .. @ความเร็วสูง ทำไมเกียร์ AT ถึงกินน้ำมันมากกว่า ? คำตอบ ... เกียร์ AT จะ loss ที่ pump hydraulic ที่รอบสูงขึ้นจะ HP-require จะเพิ่มขึ้น   ลองหา Performance Pump มาดู เมื่อเพิ่มรอบปั้มสูงขึ้น  KW ก็จะเพิ่มขึ้น ใช้ Effinity Law หาแรงม้า vs rpm ก็ได้ แรงม้าที่เพิ่มขึ้นมีอัตรา"เพิ่มก้าวหน้า" เป็นยกกำลังกับ rpm ที่เพิ่มสุง  ครับ   ดังนั้น เกียร์ AT เมื่อวิ่งที่ความเร็วสุง จะมี loss จากส่วนนี้เพิ่มขึ้น วิธีดูว่า  AT มี Loss กี่ % ดูได้จาก ( Top Speed ภาพ- ต่อไป) ภาพนี้ Fuel consumption รถ MBenz รุ่น 124 หมายเหตุ fuel consumption ของเยอรมัน คิดเป็น  Liter/100 km  ครับ แก้ไขเมื่อ 05 ม.ค. 55 07:40:17 แก้ไขเมื่อ 05 ม.ค. 55 07:38:25 จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 55 07:34:50

ความคิดเห็นที่ 23  ดูรุ่น E-280 Urban (วิ่งในเมือง) MT กินน้ำมัน 14.6 ลิตร ต่อ 100 กม. MT กินน้ำมัน 13.8 ลิตร ต่อ 100 กม. จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 55 07:42:55

ความคิดเห็นที่ 24 เรามักจะได้ยินคนพูดกันว่า .... เกียร์ AT มันมี Loss แต่ เราไม่รู้ตัวเลขว่ามัน Loss กี่ %   หลายๆคนจึงจิตนาการว่า มันคงจะเยอะ (มั่ง) ไหนจะ loss ที่ Torque converter และ ชิ้นส่วนต่างๆ อีกมากมาย ที่จริงเรามีวิธีคิดง่ายๆ ไม่ต้องคำนวณทีละจุดให้มากเรื่อง เอาล่ำซำไปเลย เนื่องจาก เราทราบดีแล้วว่า  ** Max HP จะให้ Top Speed  ** เราแค่ดูตัวเลข Top Speed เปรียบเทียบ % ที่แตกต่างออกมาได้ทันที่ % ความแตกต่างของ Top Speed คือ % ที่ Loss เนื่องจาก AT จะเห็นว่าที่ความเร็วสูงๆ  AT มี loss ไม่มาก จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 55 07:50:26

ความคิดเห็นที่ 25  ปัญหาการสลิปที่ Torque converter แก้ไขด้วย Lockup Clutch ต่อตรง ครับ At higher speeds, the transmission catches up to the engine, eventually moving at almost the same speed. Ideally, though, the transmission would move at exactly the same speed as the engine, **because this difference in speed wastes power.** This is part of the reason why cars with automatic transmissions **get worse gas mileage than cars with manual transmissions.** To counter this effect, some cars have a torque converter with **a lockup clutch.** When the two halves of the torque converter get up to speed, this clutch locks them together, eliminating the slippage and improving efficiency. Credit .. http://auto.howstuffworks.com/auto-parts/towing/towing-capacity/information/torque-converter4.htm จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 55 08:00:57

ความคิดเห็นที่ 26  เรามันจะได้ยินคนพูดว่า Torque converter มันมีการ Slip และมักจะเข้าใจผิดว่าการ Slip มันเป็น Loss  ฟังดูน่ากลัว ความจริง Torque converter มันไม่ใช่ทำหน้าที่แค่ Fluid Coupling หรือ คลัช เท่านั้น Torque converter ทำงาน 2 หน้าที่ 1) Fluid Transmission เป็นเกียร์ทด ทำหน้าที่เป็น Torque Multiplier ..... (เจ้านี่น่าสนใจมาก และทำให้รถเกียร์ AT มันออกตัวได้ดี โดยเฉพาะ Inclide Take Off หรือการออกตัวบนเนิน ....ที่ AT ทำได้ดีกว่า ขึ้นเขาได้ดีกว่า ซึ่งคนส่วนใหญ่ไม่รู้ จึงมักจะพบ FAQ คำถามยอดนิยม "เกียร์ออโต้ ขับขึ้นดอยไหวหรือ ??? " 2) Fluid Coupling หรือ คลัช //.. A torque converter is a **fluid-coupling device that also acts as a torque multiplier ** http://www.jegs.com/s/tech-articles/torque-converters.html&title=Performance+Torque+Converters+-+Torque+Converter ..// ภาพนี้ ....แสดงให้เห็น Incline Take Off   การออกตัวบนเนินชัน AT ทำได้ดีกว่า MT (แก้ไข ลบภาพใหญ่เกินไปออก ) แก้ไขเมื่อ 05 ม.ค. 55 08:36:37 จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 55 08:28:56

ความคิดเห็นที่ 27 เปลี่ยนภาพเล็กลง Incline start off จอดตัวบนเนินชัน แล้วออกรถ รถ AT ขึ้นเขาได้ดีกว่า จะเห็นคนส่วนมากเข้าใจผิดเรื่องเกียร์ออโต้ เห็นได้จาก FAQ คำถามยอดนิยมที่ว่า "เกียร์ออโต้ ขึ้นเขาไหวหรือ" แก้ไขภาพ ดู คห. 28 แก้ไขเมื่อ 05 ม.ค. 55 08:37:06 แก้ไขเมื่อ 05 ม.ค. 55 08:35:51 จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 55 08:33:39

ความคิดเห็นที่ 28 เอาใหม่ ย่อภาพ Incline Start Off จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 55 08:35:38

ความคิดเห็นที่ 29 คห 19 รถคันเดิม เครื่องเดิม การใช้งานเหมือนเดิม  เปลี่ยนแค่เกียร์ เกียร์ธรรมดาประหยัดกว่า >>>>>>>>>>  รถที่ผมทดลอง เราเปลี่ยน "เกียร์+อุปกรณ์ส่วนควบทั้งหมดให้เหมาะสม" ตรงจุดที่ วงแดงๆ ไว้ รถเก๋งทั่วๆไปที่เปลี่ยนเกียร์ออโต้ คงไม่ได้เปลี่ยนเฟืองท้ายและอุปกรณ์ส่วนควบ จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 55 08:43:28

ความคิดเห็นที่ 30 ผมมีการทดลองของฝั่งอเมริกา เกียร์ Allison ขอเวลาค้น จากการทดลอง ทำให้รู้ว่าเกียร์ Auto ประหยัดกว่า ไม่งั้นรถยักษ์ขนาดใหญ่ คงไม่กล้าใช้เกียร์ Auto เป็นแน่ ผมอ้างรถใหญ่ เพื่อจะมองเห็นได้ชัดถึง ECO ที่เขาต้องเน้น เพราะรถพวกนี้มีอัตราซดน้ำมันสูง  ครับ อีกอย่างหนึ่ง Incline Take Off ของรถ Truck ก็ทำได้สูงมาก ไม่น่าเชื่อ ที่เขาต้องทำให้ออกตัวบนเนินชันได้ดี เพราะมีกฏหมายบังคับไว้ ไม่เหมือนรถสิบล้อบ้านเรา ที่ไปคลานบนเนินชัน ทำให้รถติดกันยาวๆ ครับ จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 55 08:48:28

ความคิดเห็นที่ 31 การทดลอง Urban หรือ Euro-Mix ตามมาตรฐานกำหนดไว้ชัดเจน ว่าต้องขับอย่างไร ช้าๆ หยุดๆ อย่างไร มีขั้นตอนที่ชัดเจน ครับ ไม่ใช่ ไปเอานักขับเก่งๆ อย่าง คุณ ton99 มาขับแข่งกับ Auto นะครับ จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 55 08:50:48

ความคิดเห็นที่ 32 คือผมว่าสาเหตุที่รถบัสที่คุณ Tiny ไปแต่งมันประหยัดขึ้นไม่ใช่เพราะเกียหรอกครับ แต่เป็นเพราะชุดเพืองท้ายที่คุณ อ้างว่าเปลี่ยนเพื่อให้เหมาะสมขึ้นในคห.ที่ 29 คืออันนี้ผมจะบอกว่าผลการทดลองขับประหยัดน้ำมันนั้น ไม่ต้องไปอ้างผลวิจัยอะไรนั่นหรอกครับ ไปดูในเว็บไฟหน้าก็ได้ เค้าลองแทบทุกรุ่น และผลค่อนข้างตรงกันคือเกียร์ธรรมดาประหยัดกว่า โดยเฉพาะในกรณีที่เครื่องเดียวกัน ส่วนในคห. 16 ที่คุณว่ารถตลาดไม่ค่อยใช้เครื่องเดียวกันนั้นผมเดาว่าคุณมองไปที่รถกระบะแล้วครับ ในกรณีแท็กซี่ และรถยนต์ทั่วไปส่วนใหญ่นั้น โดยมากขับล้อหน้า ไม่มีเพืองท้าย และใช้เครื่องเดียวกัน เบอร์เดียวกันแทบทั้งนั้นต่างกันที่เกียร์เท่านั้น ยิ่งเอาชัดๆเลยคืออัลติส ตัว 1.6 ของแท็กซี่ใช้เครื่อง เดียวกันครับ ทั้งออร์โต้และ เกียร์ธรรมดาแถมถ้ามองอย่างเป็นธรรม ซึ่งผลการใช้งานจริงและการจับไมล์ ของสำนักต่างๆรายงานตรงกัน คือเกียร์ธรรมดาประหยัดกว่า ซึ่งจริงๆการทดลองโดยรถเก๋งญี่ปุ่นยุติธรรมกว่า แน่นอน เพราะตัดความได้เปรียบเสียเปรียบ ในเรื่องระบบเฟืองท้ายออก มีแค่เครื่องเกียร์ เพลาขับเท่านั้น แก้ไขเมื่อ 05 ม.ค. 55 14:32:42 จากคุณ : hil4552 เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 55 12:04:08

ความคิดเห็นที่ 33 แถมในคห. 25 จะเห็นได้ว่า ปัญหาการสลิปที่ Torque converter จริงอยู่แก้ได้ด้วยการทำ a lockup clutch แต่ความจริงคือมันช่วยได้แค่ตอนความเร็วคงที่ (รถเกียร์ Auto ที่ใช้ Cruise control จึงประหยัดกว่ากันเยอะ) ในสภาพรถติดมากๆ ต้องออกตัวบ่อย ต้องเร่งขึ้นลงตลอดเวลา  lockup clutch แทบใช้ไม่ได้ จึงนำไปสู่ประโยคที่ว่า because this difference in speed wastes power This is part of the reason why cars with automatic transmissions **get worse gas mileage than cars with manual transmissions.** ถ้าอ่านดีๆจะเห็นได้ว่า Torque converter จริงๆแล้วมันช่วยลดการสูญเสียเท่านั้น ไม่ได้ทำให้ประหยัดขึ้น ดังนั้นเกียร์ธรรมดาซึ่งไม่มีการสุญเสียตรงนี้แต่ต้นย่อมประหยัดกว่า ส่วนในคห. 24 คุณก็โชวเองว่ามัน loss ไม่มาก แต่มันก็ loss จริงมั้ยครับ ประเด็นคือเกียร์ออโต้ มัน loss มากกว่า เกียร์ธรรมดาไม่เยอะมาก ก็จริง แต่มันก็เยอะกว่าครับ ข้อมูลทางวิชาการต่างๆที่คุณอ้างมาอย่างมีหลักการ ล้วนแต่สนับสนุนให้เห็นว่า เกียร์ Auto มี loss ที่เกียร์ธรรมดาไม่มี (ถึงจะมากจะน้อยแต่มันมี เช่น ในคห. 22 ข้อ 2 24 25) แต่คุณกับยังไม่ได้ให้ข้อมูล เลยว่าเกียร์ ธรรมดามี loss มากกว่าเกียร์ Auto ตรงใหน อื่นๆข้อมูลเดียว ที่คุณอ้างว่าเกียร์ธรรมดากินกว่าที่ ความเร็วต่ำกลับไม่อธิบายสาเหตุไว้ (เช่น ในคห. 22 ข้อ 1) อ้างแต่เป็นข้อมูลที่เปิดเผยไม่ได้ และตัวเลขการ บริโภคน้ำมัน ของเยอรมัน ซึ่งพูดตรงๆขัดกับทุกสำนักที่มีมา แถมยังไม่มีการให้ที่มา สรุปเหตุผลที่อ้างว่า เกียร์ธรรมดากินกว่าที่ความเร็วต่ำมีแค่ ตัวเลขธรรมดา กับคำว่าเปิดเผยไม่ได้เท่านั้น ไม่ได้มีเหตุผลเหมือนตอน อธิบายเกียร์ Auto กินกว่ายังไงเลย สรุปผมเชื่อว่ามันต้องมีคำอธิบายได้ดีกว่านี้ครับ ลองคิดดูว่าเกียร์ธรรมดา ที่มันมีแค่เครื่องหมุน คลัชเกียร์จับ แล้วไปหมุนล้อ มันจะ loss มากกว่าเกียร์ Auto ที่ผ่าน torque converter ไปได้อย่างไร ไม่เถียงครับว่าเทคโนโลยีสมัยใหม่ มันลดค่าการสูญเสียตรงนั้นได้ แต่ถึงอย่างไรจุดที่ทำให้สูญเสียก็ยังอยู่ ford รู้ถึงข้อเสีย torque converter ตรงนี้ครับ จึงพยายามใช้ระบบ power shift ซึ่งหลัก คล้ายเกียร์ออโต้ แต่ณ ปัจจุบัน การเปลี่ยนเกียร์ยังเอ๋อๆอยู่ จึงยังเปลืองกว่าอยู่ดี ทำได้ดีที่สุดก็แค่ให้เท่ากันครับ ถ้าผลว่าเกียร์ออโต้ประหยัดกว่า มันต้องกลับไปดูที่การทดรอบเฟืองด้วย เช่น รอบทดเกียร์ออโต้ของความเร็วต่ำที่ว่า มันทำให้รอบเครื่องต่ำกว่ามาก ในขณะที่เกียร์ธรรมดาที่ว่าอยู่เกียร์ต่ำ เลยต้องไปลากรอบเครื่องสูง ส่วนเกียร์ CVT นั้นประหยัดมาอีกนิดหน่อย เพราะอัตราการทดเกียร์ไม่ตายตัว ทำให้ไม่ต้องลากรอบสูงเพื่อ ทำความเร็วระดับต่ำๆ แต่ก็แลกมาด้วยอัตราเร่งที่แย่(เพราะลากเกียร์ไม่ได้)และจะประหยัดกว่าในบางรอบที่ ความเร็วคงที่เท่านั้น แต่โดยรวมการขับปรกติก็ยังสู้เกียร์ธรรมดาไม่ได้(และที่ความเร็วสูงก็ยังสู้เกียร์ธรรมดาไม่ได้) ส่วนเรื่อง torque การออกตัวนั้นบอกตรงๆผมไม่มีข้อมูลไม่ขอวิจาร ส่วนตัวเชื่อว่าเกี่ยวที่การทดรอบอยู่พอควร ส่วนเรื่องการขึ้นทางชันดีกว่านั้น ผมเห็นด้วยแค่ในส่วนที่ว่าออกตัวดีกว่า เพราะระบบรถ Auto เกียร์ D มันมีแรง ผลักไปข้างหน้าเสมอแต่เกียร์ธรรมดา เวลาหยุดต้องยกคลัช จึงไม่มีแรงช่วยตอนออกตัวเลย หากปล่อยคลัชเร็วไป รถดับ หากปล่อยช้า แรงส่งไม่พอรถใหลลง Torque ที่ได้จึงขึ้นอยู่กับฝีมือคนขับด้วย แต่การขึ้นเขาหลังจากนั้น ผมยังเชื่อว่าเกียร์ธรรมดาทำได้ดีกว่า(ตอนสอบใบขับขี่ใครๆก้รู้ขับเกียร์ Auto ผ่านเนินง่ายมาก) แต่ประเด็นที่เรา ถกมันไม่ใช่เรื่องนี้ครับความประหยัดครับที่เรามองอยู่ ถ้าคุณ Tiny ยืนยันว่าการขับขี่ทั่วไปเกียร์ธรรมดาประหยัดกว่านั้น เหตุใดรถวิ่งที่ใช้เชิงพานิชณ์ แทบทุกคัน (ผมขอยกเว้นพวกรถใช้ในงานพิเศษเช่นรถแทรกเตอร์ เพราะพวกนี้ไม่ได้ออกแบบมาไว้เพื่อวิ่งไกลให้ประหยัดครับ แต่ออกแบบมาเพื่อเข้าถึงพื้นที่เข้ายาก ตัด ขุด มากกว่า)จึงเป็นเกียร์ธรรมดาครับ ทั้งรถเมล์ รถบรรทุก มีสาเหตุง่ายๆซักข้อมั้ยครับ หรือเพราะคนส่วนใหญ่(ในที่นี้รวมถึงวิศวะกรในโรงงานต่างๆที่ดูแลรถพวกนี้อยู่)เข้าใจผิดหมด ไม่มีความรู้จึงปล่อยให้ บ.เค้าเอารถที่มีระบบเกียร์สิ้นเปลืองกว่ามาวิ่ง หรือ วิศวกร HINO ISUZU BENZ(รถเมล์) ไม่รู้ความจริงข้อนี้แบบที่คุณ Tiny รู้จึงผลิตสิ้นค้าที่ไม่ประหยัดน้ำมันออกมาให้ลูกค้า ผมว่าน่าเชิญคุณไป ทำบ.พวกนี้นะครับ และสั่งให้เค้าลงเกียร์ Auto ให้หมดราคาแพงกว่าหน่อยก็คุ้ม เพราะรถพวกนี้วิ่งกันเป็น ล้านกม. ผประหยัดโลละไม่เท่าใหรก็คุ้มความแพงแล้ว แก้ไขเมื่อ 05 ม.ค. 55 14:31:12 จากคุณ : hil4552 เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 55 14:30:40

ความคิดเห็นที่ 34 คห. 32 1) โดยมากขับล้อหน้า ไม่มีเพืองท้าย 2) ซึ่งจริงๆการทดลองโดยรถเก๋งญี่ปุ่นยุติธรรมกว่า แน่นอน เพราะตัดความได้เปรียบเสียเปรียบ ในเรื่องระบบเฟืองท้ายออก >>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>  ผมเห็น คุณ hil4552  เม้นต์อย่างตั้งอกตั้งใจ ตอนแรกผมคิดจะตอบข้อสงสัย   ครั้นอ่านไปเรื่อยๆ จึงรู้ว่า คุณไม่ได้อ่านที่ผมอุตส่าห์เขียนเล่ามา หรือ อ่านแล้วไม่เข้าใจ คห. 32 ข้อ 1 และ ข้อ 2 ..... แสดงว่า คุณไม่มีความรู้เรื่องรถเลย ดูซิครับ เฟืองท้าย คุณยังไม่รู้จัก แล้วจะให้คุยรายละเอียดลึกๆได้อย่างไร ครับ จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 55 20:57:57

ความคิดเห็นที่ 35 คห. 33  ที่คุณอ้างว่าเกียร์ธรรมดากินกว่าที่ ความเร็วต่ำกลับไม่อธิบายสาเหตุไว้ (เช่น ในคห. 22 ข้อ 1) อ้างแต่เป็นข้อมูลที่เปิดเผยไม่ได้ และตัวเลขการบริโภคน้ำมัน ของเยอรมัน >>>>>>>>>>>>  ข้อนี้มั่วแล้ว ไปจับข้อมูลราชการที่ผมขอไม่เปิดเผย เอามาปนกันแล้ว ที่จริงผมไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรเพิ่มเติม เพราะผมแค่เอาข้อมูลการทดลองของจริงมาให้ดู ...ไม่มีความจำเป็นจะต้องอธิบายเหตุผลเลย แต่ผมก็อุตส่าห์อธิบายเหตุผลไว้แล้ว  มันอาจจะยากสำหรับ คุณ hil4552   ก็ได้ คห. 22 อธิบายดังนี้ 2) เมื่อใช้ความเร็วสูงขึ้น ถึงความเร็วสูงสุด เกียร์ MT จะประหยัดกว่าเล็กน้อย ถามว่า .. @ความเร็วสูง ทำไมเกียร์ AT ถึงกินน้ำมันมากกว่า ? .. .. จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 55 21:11:41

ความคิดเห็นที่ 36 ผมคงไม่ตอบอะไรมากกว่านี้ ถ้า คุณ hil4552  อยากจะคุยในรายละเอียดทางเทคนิคลึกๆ ผมแนะนำให้คุณหาซื้อหนังสือความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับเครื่องยนต์อ่านสักนิด หากมีข้อสงสัยอะไร ตั้งคำถามให้เข้าท่า จะมีผู้รู้มาตอบครับ ผมเอาข้อมูลจากประสบการณ์จริง มาเล่าให้ฟัง มีอ้างอิง แถมอธิบายประกอบตามสมควร คุณอ่านเข้าใจอย่างไร แค่ไหน มันเรื่องของคุณ ครับ จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 5 ม.ค. 55 21:21:08

ความคิดเห็นที่ 37 ผมจำได้แต่ว่า สิบปีก่อน ผมใช้มิตซูท้ายเบนซ์เกียร์ธรรมดา ประหยัดมากกกก เกียร์ธรรมดา จะประหยัดหรือไม่ ขึ้นอยู่กับคนขับ และ วิธีที่จะขับ ถ้าประเภทชอบลากเกียร์ เล่นรอบสูงๆ อันนั้น ซดสุดๆ จากคุณ : NATSKI13 เขียนเมื่อ : 6 ม.ค. 55 14:26:21

ความคิดเห็นที่ 38 อ่านเจอแบบนี้แล้ว........ นิสัยดูถูกคนออกมาแล้ว จากคุณ : lustful เขียนเมื่อ : 7 ม.ค. 55 05:30:01

ความคิดเห็นที่ 39 เหอะๆ ไม่อยากตอบแล้วอ่ะครับ อายเค้า เล่นเปลี่ยน rear diff ทดจัดลง consumption มันก็เปลียนอยู่แล้ว คุยกันแบบนี้ ไม่มีจบ ครับ ขอจบการสนทนา จากคุณ : Roninkung เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 55 20:39:54