ความคิดเห็นที่ 1 ชื่อก็บอกอยู่แล้ว "ในหนัง..." ผู้กำกับสั่ง ก็ต้องทำได้ เป็นไปได้ (มากวนเล่น) 5551 จากคุณ : หยองแหยง เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 55 17:09:50

ความคิดเห็นที่ 2 (ข้อมูลวิกิล้าหลังไปมั้งตามคุณเจไดเลยละกันเพราะผมไม่รู้จริงๆ) แก้ไขเมื่อ 08 ม.ค. 55 17:42:58 จากคุณ : เวย์คุง เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 55 17:31:59

ความคิดเห็นที่ 3 **ตัวอย่างทหารที่เคยทำได้** - "เคร็ก แฮริสัน"  พลแม่นปืนชาวอังกฤษ  ทำสถิติไว้ที่ 2,610 หลา  (สมรภูมิอัฟกานิสถาน) - "ร็อบ เฟอลอง"  พลซุ่มยิงชาวแคนนาดา  ทำสถิติไว้ที่ 2,560 หลา (สมรภูมิอัฟกานิสถาน) - "อาร์รอน เฟอร์รี่"  พลซุ่มยิงชาวแคนนาดา  ทำสถิติไว้ที่ 2,526 หลา (สมรภูมิอัฟกานิสถาน) - "ไบรอัน เครย์เมอร์"  พลแม่นปืนชาวมะริกัน  ทำสถิติไว้ที่ 2,560 หลา (สมรภูมิอิรัก)     ความจริงระยะขนาดนี้ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ถ้าผู้ยิงได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดีในหลักสูตรพลแม่นปืนหรือพลซุ่มยิง  นอกจากนี้ยังขึ้นกับปัจจัยภายนอกประกอบด้วยเช่น กระแสลม แสงแดด ช่วงเวลา สภาพอากาศ รูปแบบการเคลื่อนที่ของเป้าหมาย และสถานการณ์เฉพาะหน้า ณ ตอนนั้นๆด้วย  ซึุ่งหลายคนที่ทำระยะได้ขนาดนี้ก็ไม่ใช่ว่ายิงนัดแรกแล้วจะโดนเลย  พลซุ่มยิงบางคนเช่น "ร็อบ เฟอลอง" หรือ "เคร็ก แฮริสัน" ก็ต้องยิงหลายนัดกว่าจะเข้าจุดตายของเป้าหมายในระยะดังกล่าว ("คาร์ลอส แฮ็นด์ค็อค" ผู้โด่ดังในช่วง "สงครามเวียดนาม" ก็เคยทำสถิติประมาณนี้มาแล้ว)     ส่วนหนังเรื่อง "Shooter" นั้นสร้างขึ้นมาโดยได้รับความร่วมมือจากกองทัพสหรัฐและหน่วยแม่นปืนนาวิกโยธินครับ  ถ้าใครได้ดูเบื้องหลังในดีวีดีจะเห็นว่า "มาร์ค วอลเบิร์ก" (พระเอกของเรื่อง) ต้องไปเรียนการใช้อาวุธแบบพลแม่นปืนนาวิกโยธินกับครูฝึกพลแม่นปืนตัวจริงอยู่นานเลยทีเดียว  และที่สำคัญไอ้ฉากที่พระเอกเอาปืนมายิงกระป๋องเพื่อทดสอบปืนที่บ้านบนภูเขาตอนต้นเรื่องนั้นก็เป็นการยิงจากระยะจริงโดยฝีมือของ "มาร์ค วอลเบิร์ก" ด้วยครับ **รูปเรียงจากบนลงล่าง** "ร็อบ เฟอลอง" (ปัจจุบันลาออกจากอาชีพทหารไปเป็นตำรวจเต็มตัวแล้ว) "อาร์รอน เฟอร์รี่" "เคร็ก แฮริสัน"   (May the Spoil be with you) ขอสปอยล์จงสถิตย์อยู่กับท่าน จากคุณ : เจไดหนุ่ม เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 55 17:35:38

ความคิดเห็นที่ 4 "1 หลาเท่ากับ 0.9144 เมตร"     ส่วนมือสังหารสไนเปอร์ที่เป็นต้นกำเนิดของตำนานการยิงคู่ต่อสู้โดยกระสุนพุ่งผ่านกล้องเล็งสโคปปืนของข้าศึกนั้นมีชื่อว่า  "Carlos Hathcock"  ครับ  โดย "คาลอส" เป็นพลซุ่มยิงแห่งกองทัพนาวิกโยธินของมะริกันซึ่งทำสถิติสังหารคู่ต่อสู้ในสมรภูมิเวียดนามได้ประมาณถึง 90 กว่าคน (จำนวนนี้คือตัวเลขที่บันทึกโดยวัดเอาจากสิ่งของติดตัวข้าศึกที่เขาไปเก็บมาจากศพทุกครั้งหลังการสังหาร  ทว่าในความเป็นจริงเขาอาจจะฆ่าได้มากกว่านั้นแต่ไม่ได้เก็บสิ่งของมายืนยันก็ได้)     โดยชื่อเสียงของ "คาลอส" นั้นมาเป็นที่รู้จักก็ตอนการรบในสมรภูมิที่เวียดนาม  ซึ่งความสามารถของเขานั้นสามารถช่วยเหลือเหล่าทหารหาญของมะริกันได้เป็นจำนวนมาก  อีกทั้งสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของเขาก็คือการติด "ขนนกสีขาว" ไว้ที่หมวกตลอดเวลา  ซึ่งเรื่องราวการยิงคู่ต่อสู้ผ่านกล้องเล็งของเขานั้นก็มาแพร่หลายเอาในกองทัพมะริกันช่วงสงคราวมเวียดนามนี่แหละครับ       แต่เนื่องจากไม่มีการถ่ายรูป เก็บหลักฐาน หรือทำบันทึกอย่างเป็นทางการไว้  จึงทำให้เรื่องนี้เป็นเพียงการเล่าบอกกันปากต่อปากของหมู่ทหารเท่านั้น  ซึ่งพอเรื่องเริ่มลือหนักเข้าในที่สุดจึงได้มีการไปสอบถามจากเจ้าตัวเองแต่คาลอสก็ไม่ตอบคำถามในเรื่องนี้ตรงๆครับเพราะเขาต้องการให้มันเป็นตำนานของหน่วยนาวิกฯดีกว่า   **รูปของ คาลอส แฮ็ทซ์ค๊อก ครับ** (May the Spoil be with you) ขอสปอยล์จงสถิตยือยู่กับท่าน จากคุณ : เจไดหนุ่ม เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 55 17:43:07

ความคิดเห็นที่ 5 ***     โดยในช่วงปลายสงครามเวียดนามนั้น "คาลอส" ได้สร้างวีรกรรมขึ้นครั้งหนึ่งซึ่งจะส่งผลกระทบต่อตัวเขาไปตลอดชีวิตครับ  กล่าวคือหลังจากปฏิบัติหน้าที่ในเวียดนามจนครบกำหนดแล้วเขาก็ได้เดินทางกลับอเมริกาครับ  แต่พอใช้ชีวิตอย่างสงบอยู่ไปประมาณ1ปีเฮียแกก็ดันอยากกลับมาช่วยพวกน้องๆนาวิกฯจึงขออาสากลับมายังเวียดนามอีกครั้ง       ทว่าในระหว่างปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนกับกองกำลังทหารราบในวันหนึ่งนั้น  รถสายพานในกองกำลังที่เขาร่วมด้วยดันไปเหยียบกับระเบิดรถถังจนกระจุย  แลส่งผลให้ทหารหลายคนติดอยู่ในซากรถซึ่งเปลวเพลิงกำลังลุกท่วม  ทว่าแทนที่จะหาที่กำบัง "คาลอส" กลับสวมวิญญาณนักรบใจเด็ด  ด้วยการวิ่งเข้าไปช่วยเหลือทหารซึ่งติดอยู่ด้านในเปลวเพลิงออกมาได้ถึง7คน  กระทั่งผิวหนังแลร่างกายของเขาถูกเปลวไฟคลอกทำร้ายจนอาการสาหัสครับ (รูปท่วงท่าการเล็งตรวจการณ์ในตำนานของ  "คาลอส"  ซึ่งภายหลังจะมีคนนำไปลอกเลียนแบบเป็นจำนวนมากทั้งในชีวิตจริงและภาพยนตร์  โดยความจริงท่ายิงแบบนี้ไม่ใช่ของใหม่อะไร  แต่บังเอิญว่าภายหลังที่ลุงแกเริ่มมีชื่อเสียงแล้วภาพชุดนี้ก็โด่งดังแลเป็นเหมือนสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของแกด้วยครับ) (May the Spoil be with you) ขอสปอยล์จงสถิตย์อยู่กับท่าน จากคุณ : เจไดหนุ่ม เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 55 17:44:22

ความคิดเห็นที่ 6 ***      แลจากความกล้าหาญเสียสละครั้งนี้ "คาลอส" จึงได้รับเหรียญซิลเวอร์สตาร์(ดาวเงิน)ครับ  แต่ผลพวงของอาการบาดเจ็บขั้นรุนแรงนี้ทำให้เขาต้องเข้าพักรักษาตัวเป็นเวลานานแลไม่สามารถออกไปปฏิบัติภารกิจภาคสนามได้อีก  ซ้ำร้ายอาการบาดเจ็บยังส่งผลเรื้อรังตลอดเวลาหลังจากนั้นจนคาลอสมาเสียชีวิตเอาในปี 1999 ด้วยอาการเส้นโลหิตตีบตัน       แต่ทว่าช่วงเวลาหลังจนสงครามจนถึงก่อนจะเสียชีวิตนั้น "คาลอส" ได้ผันตัวเองไปเป็นอาจารย์อยู่ที่โรงเรียนพลแม่นปืนของกองทหารนาวิกโยธิน  แลเป็นผู้ปรับปรุงหลักสูตรพลแม่นปืนของหน่วยนาวิกโยธินมะริกันให้มีความทันสมัยยิ่งขึ้นอย่างที่เราได้เห็นกันในปัจจุบันครับ     ซึ่งจากคุณความดีต่างๆที่ "คาลอส" อุทิศให้กับหน่วยแม่นปืน  จึงทำให้มีการตั้งชื่อปืนไรเฟิลซุ่มยิงรุ่น "M-25" ที่พัฒนาขึ้นมาในยุค80สำหรับหน่วยรบพิเศษแลนาวีซีลว่า "White Feather"  โดยชื่อนี้มีที่มาจากการที่เขาชอบเอาขนนกสีขาวมาติดที่หมวก  ทั้งนี้เพื่อเป็นการเชิดชูความกล้าหาญแลเสียสละของ "คาลอส" ที่มีต่อหน่วยพลแม่นปืนนั่นเองครับ (รูปปืนไรเฟิล "M-25 White Feather" ครับ) (May the Spoil be with you) ขอสปอยล์จงสถิตย์อยู่กับท่าน จากคุณ : เจไดหนุ่ม เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 55 17:46:10

ความคิดเห็นที่ 7 คุณเจได เคยลองยิงปะครับ ผมดูเรื่อง Shooter แล้วทึ่งเจ้านี่จริงๆ จากคุณ : กระป๋องด๋อย เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 55 17:56:28

ความคิดเห็นที่ 8 สถิติโลกปัจจุบัน อยู่ที่ 2,707 หลา หรือ 2 กิโลเมตร กับอีก 475 เมตร จากสิบตรี เคร็ก แฮริสัน สังกัด กองทหารม้ารักษาพระองค์ อังกฤษ จากสมรภูมิ ที่อัฟกานิสถาน โดยปืนกระบอกนี้  Accuracy International AWM จากคุณ : hideto b1 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 55 18:00:02

ความคิดเห็นที่ 9 เคยดูในยูทูป ยิงไกลมาก กระสุนเดินทาง 4 วิ ต้องเผื่อสูงหลายฟุต ไหนจะลมอีก โดนได้ไงไม่รู้ คนยิงยังว่าฟลุคอะ จากคุณ : โอพ่อพระ เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 55 18:03:13

ความคิดเห็นที่ 10 ระยะ2กิโลเมตร อยากทราบว่า มุมมองของภาพ เวลามองผ่าน scopeของปืน จะแคบลง เหลือแค่ไหนครับ (เพราะว่า ยิ่งดึงภาพเข้ามาใกล้ มุมมองยิ่งแคบลง) เช่น เป้าหมายเป็น ชายสูง180cm ปล.เห็นเค้าบอกว่า ถ้าปรับกำลังขยาย ให้มากกว่า7x ก็จะดูภาพยากแล้ว ยิ่งถ้าปรับให้มากกว่า 12x ก็จะยิ่ง ดูภาพไม่ค่อยรู้เรื่อง (ภาพคงจะหด เหลือจิ๋วเดียว) แก้ไขเมื่อ 08 ม.ค. 55 18:25:52 จากคุณ : NipponJ เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 55 18:25:09

ความคิดเห็นที่ 11 ไหน ๆ คุณเจได ก็พูดถึง ยอดพลซุ่มยิงคนหนึ่งของนาวิกโยธินสหรัฐไปแล้ว งั้นผมขอเล่าเหตุการณ์ที่เนิน 55 หรือ ที่เรียกกันแบบประชดพลซุ่มยิงชาวเวียดนามว่า เนิน 30000 เหรียญ [ราคาค่าหัวของ แฮนค๊อด ที่ทางเวียนามเหนือจะจ่ายให้กับคนที่สังหารเค้าได้] มันคือการดวนกันที่จะกลายมาเป็นเรื่องเล่าว่าเค้ายิงกระสุนทะลุกล้องเล็ง พลซุ่มยิงชาวเวียดนามเหนือ โดยตลอด 2 ถึง 3 วันที่ผ่านมา ทั้งสองต่างตามแกะรอยซึ่งกันและกัน โดยทางพลซุ่มยิงเวียดนามเหนือที่ถูกเรียกกันว่า I งูเห่า ได้ยิงเพื่อนนาวิกของเค้าไปก่อนหน้านั้น 1 คน เพื่อเป็นการเรียกเค้าเข้ามาสู่เกมส์แมวไล่จับหนู ต่างฝ่าย ต่างเดินแกะรอยของกันและกันอย่างเฝ้าระวัง แฮนค๊อดต้องเดินอย่างช้า ๆ กับเพื่อนร่วมทีมของเค้าคือ เมเจอร์ เอ็ดเวิร์ด พวกเค้าต้องคอนสังเกตรอยเดินต่าง ๆ รอยกิ่งไม้หัก ยอดหญ้าที่พัดไปอย่างผิดปกติ สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ พวกเค้าจะต้องหยุดและเฝ้ามองมันจนกว่าจะแน่ใจ บางครั้งอาจจะนานเป็นชั่วโมง การประทะกันครั้งแรก เกิดขึ้น เมื่อการขยับตัวของ I งูเห่า ทำให้กิ่งไม้หัก ในป่าที่เงียบ เสียงของมันดังมาก แฮนค๊อกและพลชี้เป้ารีบวิ่งหลบเข้าไปในที่กำบัง I งูเห่าจึงพลาดโอกาสในการสังหารเค้า   หลังจาดนั้น แฮนค๊อดก็เป็นฝ่ายทำพลาดบ้าง เมื่ออยู่ ๆ เค้าเกิดเดินสะดุดล้มลง I งูเห่าจับทางได้ จึงทำการยิงเค้าไปในทันที 1 นัด แฮนค๊อดและ เมเจอร์ ต่างพุ่งหลบนอนราบลงกับพื้น แต่โชคดีที่กระสุนพุ่งไปโดนเอากระติกน้ำของเมเจอร์ เอ็ดเวิร์ดแทน ก่อนที่แฮนค๊อดจะจับทางได้และยิงส่วนไป  I งูเห่าก็ได้หลบออกจากจุดซุ่มยิงไปก่อนแล้ว แฮนค๊อกและเมเจอร์ เริ่มทำการตามล่า I งูเห่าทันที จุดสุดท้าย ที่แฮนค๊อดเข้ถึงคือ จุดซุ่มยิงเดิมที่ I งูเห่าเคยวางตัวอยู่ ซึ่งอยู่ด้านหลังของภูเขา ซึ่งเป็นที่ร่ม และหันหลังให้กับดวงอาทิตย์ ส่วน I งูเห่า ก็ลงไปอยู่ใก้ลกับจุดวางตัวของแฮนค๊อดและเมเจอร์ แทน ซึ่งมันเป็นจุดที่หันหน้าเข้าหาดวงอาทิตย์ ทั้งสองฝ่ายต่างวางตัวลงที่จุดนั้น โดยห่างกันไปประมาณ 280 เมตร   "ในตอนนั้นผมมองเห็นแสงที่สะท้อนมาจากกล้องเล็ง จากปืนของเค้า ผมรู้โดยทันทีว่ามันต้องเป็นเค้า เพราะในป่ามันไม่มีอะไรที่จะสะท้อนแสงได้มากขนาดนั้น ผมเล็งไปที่แสงนั้น ผมลั่นไกปืนยิงออกไปทันที มันไม่โดนลำตัว แต่มันทะลุกล้องเล็งของเค้าเข้าไปเลย" "มันคือนัดที่ หนึ่ง ใน ล้าน" กระสุนทะลุผ่านกล้องเล็งเข้าไปที่ตาของ I งูเห่า เค้าเสียชีวิตทันที หากแฮนค๊อดยิงกระสุนนัดนั้นไปช้ากว่านี้อีกนิดเค้าอาจจะกลายเป็นศพแทนก็ได้ เพราะกระสุนที่ทะลุกล้องเล็งของ I งูเห่า มันบ่งบอกว่า I งูเห่าก็เล็งเค้าอยู่เช่นกัน เมเจอร์ และ แฮนค๊อดต่างมองหน้ากัน งานในวันนั้นของพวกเค้าจบลงแล้ว จากคุณ : hideto b1 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 55 19:21:17

ความคิดเห็นที่ 12 เจ้าหนังเรื่อง shooter นี่ทำให้ผมสนใจปืนไรเฟิล และอยากได้มาเป็นของสะสมมากถึงแม้จะเป็นแค่ .22ก็เถอะ จากคุณ : เวย์คุง เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 55 19:34:24

ความคิดเห็นที่ 13 #8 นี่มันปืน 4-6 นี่นา จากคุณ : Mr.Warut เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 55 19:38:36

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบคุณทุกคาวมคิดเห็นคับ   ปล.จากใจ จากคุณ : tantenkung (tantenkung) เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 55 20:20:24

ความคิดเห็นที่ 15 ผมเคยดูรายการ MythBusters ในรายการตอนหนึ่งเคยทดลองว่ายิงทะลุกล้องเล็งได้ไหม มันจะไม่ทะลุ เพราะมีกระจกเลนส์ที่หนาขวางอยู่กระสุนจะเปลี่ยนทิศทะลุกล้องเล็งออกมาไม่ก็คาอยู่ในนั้น ฝ่ายถูกยิงอย่างมากก็เจอกระจกบาด ถ้าผมจำไม่ผิดนะครับประมาณนี้ จากคุณ : code-oon เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 55 20:34:58

ความคิดเห็นที่ 16 คห15 เคยอ่านจากหนังสือ one shot one kill เรื่องที่ Hathcock ยิงสไนเปอร์เวียดกงทะลุผ่านเลนส์สองอันเข้ากระบอกตา (หลังจากไล่ล่ากันเป็นวัน) รับการยืนยันโดยพยานบุคคลน่ะค่ะ ความจริงคิดว่า Hathcock  ฝีมือสุดๆแล้วล่ะค่ะ เพราะสภาพแวดล้อมในเวียดนามไม่อำนวยที่สุด สถิติอื่นมักเป็นทะเลทรายหรือที่โล่ง แห้ง มีสภาพที่ลมน้อยได้ แถมโบนัสที่ความสูงมากจนความหนาแน่นของอากาศต่ำ แก้ไขเมื่อ 08 ม.ค. 55 21:11:24 จากคุณ : jackfruit_k เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 55 21:01:48

ความคิดเห็นที่ 17 จากเหตการณ์ใน คห.11 จึงเป็นแรงบรรดาลใจให้กับฉากในหนังดังเรื่อง saving private ryan ครับ อ้างจาก หน่วย"Ranger" ที่มี Capt. John Miller ระหว่างภารกิจ ทีมต้องสูญเสีย Caparso แต่ก็ได้รับการแก้คืนจากฝีมือของ Jackson (รับบทโดย Barry Pepper) ซึ่งเป็นสไนเปอร์(Sniper - พลแม่นปืน) ของทีมค้นหา  กระสุนของ แจ๊คสันทะลุผ่านกล้องเล็งของศัตรูเข้าเบ้าตาพอดี.... จากคุณ : MIGGERS เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 55 21:05:48

ความคิดเห็นที่ 18 ความเห็นที่ 15 สำหรับการทดสอบนี้ MythBuster นำกลับมาทดสอบใหม่แล้วครับในปี 2007 โดยการใช้กล้องเล็งในสมัยนั้นที่คาดว่าจะเป็นแบบที่ I งูเห่าใช้ และเปลี่ยนมาใช้กระสุน .30-06 เจาะเกราะ แบบเดียวกับที่ คาร์ลอส แฮนค๊อด ใช้ในการสังหาร I งูเห่า โดยทำการยิงจากปืน M1 Garand ที่วางอยู่บนฐานที่มั่นคง และผู้ยิงคือ เจมี่ ผลคือ กระสุนทะลุกล้องเล็ง เข้าไปฝังอยู่ในสมองของหุ่นลึก 2 นิ้ว หากเป็นคน นั้นก็แปลว่าเค้าเสียชีวิตแล้วนั้นเอง จากคุณ : hideto b1 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 55 21:31:25

ความคิดเห็นที่ 19 เรื่องของแฮนค็อคใน history channel ครับ ตั้งแต่นาที 8.25 จากคุณ : OSK29560 เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 55 21:49:04

ความคิดเห็นที่ 20 ต้องเรื่องนี้สิครับ ถึงจะโม้กว่า จากคุณ : kinkong เขียนเมื่อ : 8 ม.ค. 55 22:19:55

ความคิดเห็นที่ 21 18# ระยะมันไม่ใช้อะครับ ทำไมเค้าจำลองแล้วไม่จำลองระยะทางด้วยละ จากคุณ : MAXReal เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 55 00:02:01

ความคิดเห็นที่ 22 ว่าที่กระทู้แนะนำ ของสัปดาห์หน้าแน่ๆ จากคุณ : มวยมีค่าย เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 55 00:28:39

ความคิดเห็นที่ 23 ความคิดเห็นที่ 21 ต้องเข้าใจก่อนครับว่า การที่ คาร์ลอส แฮนค๊อด ยิงกระสุนทะลุกล้องที่ระยะ 280 เมตรโดยประมาณนั้น มักถูกเรียกว่าเป็นกระสุนที่ หนึ่ง ใน ล้าน ดังนั้นแล้วหากไปทดสอบที่ระยะนั้นจริง ๆ มันจะทำให้การทดสอบสำเร็จได้ยากครับ ดังนั้นทาง MythBuster จึงต้องการจะพิสูจน์ให้ได้ก่อนว่า กระสุนปืนยิงทะลุกล้องเล็งได้จริง ๆ เมื่อพิสูจน์ได้แล้ว ค่อยมาติต่างได้ว่า กระสุนที่หนึ่งในล้าน ของแฮนค๊อดนั้นสามารถทำได้จริง จากคุณ : hideto b1 เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 55 00:45:58

ความคิดเห็นที่ 24 หรืออีกการทดสอบของ อดีตพลซุ่มยิงนาวิกโยธินสหรัฐ สตีฟ ไรเคิร์ก โดยใช้ปืน M40A1 ปืนประจำตัวของพลซุ่มยิงนาวิกโยธินสหรัฐ เค้าอยู่ห่างจากเป้า 30 เมตร แต่ชดเชยแรงกระสุนโดยการ ใช้กระสุนที่มีความแรงมากกว่า อย่าง เรมิงตัน .308 เท่ากับความเร็วของกระสุนที่วิ่งไปที่ระยะ 300 เมตร โดยใช้กล้อง เรทดอท เป็นกล้องทดสอบของเป้าหมาย โดยเค้าบอกว่าองประกอบต่าง ๆ ของมันคล้ายกับกล้องของ I งูเห่าในตอนนั้น ผลคือ กระสุนทะลุเข้าเหนือเบ้าตาซ้ายของหุ่น หากเป็นคน เค้าตายสนิท ต้องขอโทษด้วยนะครับ หากภาพมันจะใหญ่ไป อิอิ จากคุณ : hideto b1 เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 55 01:28:37

ความคิดเห็นที่ 25 ชอบกระทู้นี้ เพื่อนผมมันซื้อสไนเปอร์ BB กันเก็บไว้ด้วย  แอบซื้อกล้อง *8 มาติดด้วยเท่มาก จากคุณ : FFK-KZ@Fiesta เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 55 02:06:49

ความคิดเห็นที่ 26 ยิงจากอากาศดิ่งลงมา ก็เกิน 2000 หลาเลยนะเออ 555 จากคุณ : Akexorcist เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 55 04:36:56

ความคิดเห็นที่ 27 ผมว่าคนไทยเก่งกว่าครับ วันปีใหม่ยิงปืนพกขึ้นฟ้า ไปลงบนหัวคนที่ห่างไปหลายกม.ได้ จากคุณ : hil4552 เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 55 10:27:21

ความคิดเห็นที่ 28 ลองดูเรื่องนี้ครับ ถึงแม้จะเก่าไปบ้าง ฉากปะทะกันเยอะ พระเอกกับศัตรูปะทะกันอย่างสมศักดิ์ศรี มีครบทุกรส รัก รบ ทรยศ เงื่อนงำ จากคุณ : Tubkwan เขียนเมื่อ : 9 ม.ค. 55 20:14:55

ความคิดเห็นที่ 29 RIP.สำหรับเหยื่อกระสุนที่ตายโดยไม่รู้ตัวครับ จากคุณ : deemakak เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 55 09:31:24

ความคิดเห็นที่ 30 ชอบมากครับ *-*   ดูหนังทุกเรื่องที่เกี่ยวกะสไนป์เลย 55 จากคุณ : priwhan เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 55 09:48:09

ความคิดเห็นที่ 31 ถ้ายิงหนังสติ๊กระยะ 2000 หลา ต้องใช้แรงขนาดไหนหว่า ^^ จากคุณ : น้องหยิก เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 55 10:08:28

ความคิดเห็นที่ 32 แบบนะจะโดนมั้ยเนี่ยในรูป น่าจะขึ้นอีกซักคลิกสองคลิก จากคุณ : BONDJUNG_TH เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 55 11:26:44

ความคิดเห็นที่ 33 ว่าแล้วอาทิตยืนี้ออกไปยืดเส้นยืดสายดีกว่าสนิมจะจับหมดแล้ว จากคุณ : speedline เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 55 11:36:09

ความคิดเห็นที่ 34 #28 sex scene ก็เด็ดครับ อิอิ จากคุณ : semplice เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 55 11:48:42

ความคิดเห็นที่ 35 # 28 Vassili Zaitsev (วาสซิลี่ ไซเซฟ) วีรบุรุษแห่ง สตาลินกราด ^___^ จากคุณ : TonTon1977 เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 55 12:18:48

ความคิดเห็นที่ 36 ถ้าฝึกมา แล้ว Condition ทุกอย่างได้ 2000 หลา ไม่ใช่เรื่องยากของ พลซุ่มยิงครับ ^^" จากคุณ : สุรพัดผ่าพล เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 55 12:35:00

ความคิดเห็นที่ 37 ^ ^ ^ จิ้มไปคห.34 ผมว่าเป็นฉากที่ลุ้นที่สุดในเรื่องละ  กลัวคนข้างๆตื่น  ลุ้นกว่าตอนยิงกันอีก อิอิ จากคุณ : Phalanx เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 55 13:29:11

ความคิดเห็นที่ 38 เรื่อง shooter นี้แหละครับที่ทำให้ผมเริ่มชอบปืนไรเฟิล สักวันถ้ามีโอกาสต้องหามาไว้เล่นให้ได้ อิอิ จากคุณ : ช้างป่าเข้ากรุง เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 55 14:41:26

ความคิดเห็นที่ 39 อืม มันก็จริงๆแหละ ที่ Mythbuster อาจจะไม่ได้คิดว่า กล้องสมัยนี้กับกล้องสมัยก่อน โครงสร้า้งและความแข็งแรงมันต่างกันหรือเปล่า มาคิดได้ทีหลังเลยมี revisited จากคุณ : AMIYAMA เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 55 15:50:43

ความคิดเห็นที่ 40 เรื่องยิง กล้องติดปืน ทะลุ ออกไปอีกด้าน เป็นไปได้ เรื่องจริง ครับ ไม่ต้อง 223 หรือ 308 ครับ แค่ 22 แมกนั่ม ระยะ 25-50 เมตร ก็ ทะลุแล้วครับ หากคนยิง ฝีมือ และ หาเหลี่ยมมุมให้พอดี ครับ จากคุณ : kpnorchid เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 55 18:51:51

ความคิดเห็นที่ 42 อัฟเองครับ เพื่อมีคนไม่เก่งeng ดูให้จุกกันไปเลย http://www.youtube.com/watch?v=KpTbv3GAZv8 จากคุณ : โป้ง!!!หัวแตก เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 55 20:08:21 A:125.26.159.44 X: TicketID:345024

ความคิดเห็นที่ 43 ขอบคุณค่ะ อ่านสนุกแถมคลิปก็ดูเพลินจริงๆเลย ถึงแม้สามีจะดูไม่สบายใจที่เราสนใจกระทู้นี้ ซักเท่าไหร่ หุหุ จากคุณ : นางสาวมินิ เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 55 21:48:25

ความคิดเห็นที่ 44 B4-6 สิ จากคุณ : GENTPK เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 55 22:49:30

ความคิดเห็นที่ 45 ในหนัง 2000นี่ไม่ได้นับไปทางตรงๆใช่มั้ยคะ รวมที่ลูกปืนดริฟ (coriolisดริฟ)ด้วยใช่มั้ยคะ เขาคำนวนอย่างอื่นด้วยแบบกระแสลมอะไรต่างๆ หรือเราเข้าใจผิดไปก็ไม่รู้ค่ะ ใบแพรวไม่รู้ของจริง จำเค้ามาค่ะ ^ ^" จากคุณ : ใบแพรว เขียนเมื่อ : 10 ม.ค. 55 23:07:03 A:69.228.43.136 X: TicketID:189734

ความคิดเห็นที่ 46 #37 ถ้าชอบแนวนี้ ค่าย AKNR FSET  Series ครับ จากคุณ : คุณหญิงในสายหมอก เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 55 01:28:45

ความคิดเห็นที่ 47 ตอนเมษาไทยก็เอามายิง จากคุณ : varitpum2 เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 55 01:50:12

ความคิดเห็นที่ 48 คห.47 ยิงโดนหัวคนที่บ้านคุณรึเปล่าครับ ถ้าไม่ใช่ก็อย่าเอาการเมืองเข้ามาในกระทู้ครับ **คุยกันดีๆ เอาเรื่องไร้สาระเข้ามาซะงั้น จากคุณ : 13ison เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 55 02:59:15

ความคิดเห็นที่ 49 ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ  เสียดาย ให้กีป คคห. 42  ไม่ได้ จากคุณ : Zenmaster_T เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 55 05:05:29

ความคิดเห็นที่ 50 ชอบ Enemy at the gate , พระเอก พระรอง พระโกง หล่อเทพ จากคุณ : Santa_Baby เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 55 09:45:08

ความคิดเห็นที่ 51 #47 จริง ก็เสธฯ แดงไง แล้วก็พวกที่เผาบ้านเผาเมือง ก็โดนยิงกันไปตอนนั้น บางคนก็ตายบางคนก็รอดไง  #48 เค้าไม่ได้ลากเข้าการเมืองหรอกครับ มันก็คือเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในบ้านเมืองเรา คนที่รับรู้ และ ยอมรับความจริง ไม่จำเป็นต้องอยู่ในพวกไหนหรอกครับ ถ้ามีสติสัมปชัญญะ ก็สามารถรับรู้ได้ เออ หรือว่าเสธฯแดงโดนจ่อยิง จากคุณ : Santa_Baby เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 55 09:50:06

ความคิดเห็นที่ 52 คห 51 พลสไนเปอร์ภาพออกข่าวต่างประเทศหราซะขนาดนั่น แถมยังมีบัญชีเบิกจ่ายกระสุนหลุดออกมาด้วย ยังไงก็ดิ้นไม่หลุดหรอกครับ ผมเชื่อว่าอนาคตการซุ่มยิ่งไกล้ขึ้นตามระดับความเก่ง และเทคโนโลยีที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ ป.ล อยากเห็นสไนเปอร์ที่ใช้เรียวกันยิงแบบ evagalion จริง จากคุณ : devil amature2 เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 55 10:07:54 A:182.255.9.34 X: TicketID:321081

ความคิดเห็นที่ 53 #52 ครับ ตามนั้นล่ะครับ 55555++ จากคุณ : Santa_Baby เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 55 10:18:53

ความคิดเห็นที่ 54 #42 นาทีที่ 9.00 เผื่อลม เผื่อไลน์ อย่างกับ นักกอล์ฟ Shot นี้ ก็เหมือนกับ Hole In One ดีๆ นี่เอง จากคุณ : ด้วยรักและผ่านมาก่อน เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 55 13:29:24 A:58.9.217.53 X: TicketID:127369

ความคิดเห็นที่ 55 แบบนี้มันปืนอะไร... จากคุณ : tonjung เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 55 13:29:45

ความคิดเห็นที่ 56 enemy at the gate เป็นเรื่องที่ทำให้ผมสนใจสไนเปอร์ขึ้นเล่น couter ทีไรกดสไนมาเปิดปรพเดิมก่อน เพื่อนสิ่งยิงกันเราไปแอบ 555 shooter ทำให้ผมรักสไนมากขึ้น แต่สไนเกม point blank ไม่ได้ มันวิ่งกันมาเร็วเหลือเกิน จากคุณ : เซียนหวย เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 55 17:29:02

ความคิดเห็นที่ 57 @ #42 ขอบคุณสำหรับ สารคดีมันๆครับ ชอบมากมาย จากคุณ : AlternateX (AlternateX) เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 55 19:35:56

ความคิดเห็นที่ 58 #20 กระสุนห่านอะไรจะขนาดนั้น - -" แก้ไขเมื่อ 11 ม.ค. 55 21:53:11 จากคุณ : มะกอกสามตะกร้าปาไม่ถูก เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 55 21:52:31

ความคิดเห็นที่ 59 คห 13. ปืน 4-6 สงสัยเราจะมาจากสมรภูมิเดียวกัน จากคุณ : พ่อมดกระป๋อง เขียนเมื่อ : 11 ม.ค. 55 23:09:21

ความคิดเห็นที่ 60 m200 cheytac  ปืนที่ใช้ในหนังเรื่องนี้ จัดว่าเป็นปืนซุ่มยิงสังหารบุคคล(m82 m99 อะไรนั้นจัดอยู่ประเภท สไนเปอร์สำหรับหยุดยั้งและทำลายยานเกราะครับ แต่ก็สามารถนำมาใช้สังหารบุคคลในระยะไกลได้เหมือนกัน เพียงแต่ไม่แม่นยำเท่ากับ m200 ) ที่ไฮเทค สุดสุด ละครับ ระยะหวังผลก็เกิน 2000 เมตรอยู่แล้ว ตัวปืนไม่ค่อยน่าสนใจเท่าไหร่ แต่ตัวออฟชั่นเสริมนี่แหละน่าสนใจ เพราะมีทั้งตัววัดระยะทาง วัดความเร็วลม วัดแรงกดอากาศ วัดความชื้น วัดอุณหภูมิ พิกัดgpsก็บอก เพราะแม้แต่ระยะความโค้งของผิวโลก แรงดึงดูดและแรงหนีศูนย์กลางก็ยังมีผลต่อวิถีกระสุน ในชุดอุปกรณ์เสริมของเขานี่ ลิงค์กับ pda หรือคอมพิวเตอร์ได้ผ่านทางบลูทูธ ซึ่งจะคำนวณการยิงให้ทั้งหมด เพียงแค่ เล็งเป้าหมาย ใส่ระยะและขนาดกระสุนลงไป เครื่องจะคำนวณให้เลยว่า ต้องปรับระยะที่กล้องเท่าไหร่ ซ้ายขวากี่คลิก บนล่างกี่คลิก  ก็ปรับตามนั้นเลย ที่เหลือแค่ค่อยๆ "เกา" ไกปืนแค่นั้นเอง เมื่อไม่นานมานี้ ทางบริษัทจำหน่ายอาวุธก็นำปืนซุ่มยิงมาสาธิตให้ ทางบ้านเราได้ทดลองยิงดูเหมือนกัน พอดีจำรุ่นไม่ได้ละ อ่านไปหลายเดือนแล้ว แต่ระบบอำนวยการยิงของเขาก็แจ่มเหมือนกัน ตัวสโคปที่ใช้เล็งจะมีออฟชั่นเสริมขี่อยู่ข้างบนอีกตัวนึงหน้าตาเหมือนโฟนลิ้งค์รุ่นที่มีจอแสดงผลอยู่ด้านบน แต่ใหญ่กว่า4-5เท่า เจ้าตัวนี้ยังใหม่อยู๋ มีกล้องเล็งไม่กี่รุ่นที่สามารถทำงานร่วมกันได้(ประมาณ 4รุ่น)   ในตัวเครื่องก็จะมีเซนเซอร์วัดต่างๆอยู่เหมือนกัน เพียงแต่ไม่มากและละเอียดเท่ากับ โมดูลของ m200   รุ่นนี้เขาเน้นให้พลทหารที่ผ่านการอบรมเบื้องต้นแล้วก็ใช้ได้ ใช้งานง่าย ยิงหวังผลในระยะไม่ไกลมาก ประมาณ 1000 เมตร  เมื่อกำหนดเป้าหมายแล้ว ก็ใส่ระยะทาง และน้ำหนักของหัวกระสุนลงไป เครื่องก็จะคำนวณให้ว่า ต้องปรับกล้องเล็งยังไง ก็ปรับตามนั้น  ที่เหลือก็แค่" เหนี่ยว" ที่ว่ามานี้ คงไม่แปลกใจเลย ถ้าคนเราที่ผ่านการฝึกฝนมาแล้วและสามารถใช้ทักษะได้อย่างดีเยี่ยม จะสามารถยิงเป้าหมายได้อย่างแม่นยำในระยะไกลๆได้ไม่ยากเย็นเหมือนในอดีต เทคโนโลยี ทำให้เรื่องที่ไม่สามารถทำได้ในอดีต ค่อยๆทำได้แล้วในปัจจุบันครับ ปล.1 ส่วนเรื่องพลซุ่มยิงที่คุณ เจไดหนุ่มและสมาชิกท่านอื่นยกมานั้น เขาเหล่านั้น ยิงด้วยฝีมือ และประสบการณ์โดยแท้ครับ  ไม่ได้พึ่งพาเทคโนโลยีชั้นสูงพวกนี้แต่อย่างใด ปล.2  ข้อมูลที่ผมนำมาโม้ให้อ่านนี้ ผมก็อ่านมาอีกทีนึง แต่ก็เป็นระยะเวลาพอสมควรแล้ว อ่านแค่ให้ทราบว่าตอนนี้เขาไปถึงไหนกันแล้วแค่นั้นเอง ไม่ได้ลงไปเจาะลึกแต่อย่างใด ข้อมูลจึงอาจจะไม่ใช่ข้อมูลที่ถูกต้อง 100% ครับ  แต่ก็มาแนวๆนั้นครับ จากคุณ : penn's เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 55 01:42:50

ความคิดเห็นที่ 61 อุปกรณ์เสริมของ m200  จะเห็นว่า ไม่ได้มีแค่ตัวสโคป(กล้องเล็ง) แค่นั้น เท่าที่เคยอ่านมา นี่เป็นชุดเล็ก ของเขามีชุดจัดเต็ม เยอะกว่านี้ครับ จากคุณ : penn's เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 55 01:51:04

ความคิดเห็นที่ 62 #42 นาที 1.04.10 แปล minute ว่า นาที ตรงนี้ น่าจะหมายถึง หน่วยวัดมุม ที่ย่อยจาก องศา คือ ลิปดา หรือ minute of arc โดย 1 องศา หรือ 1 degree of arc = 60 ลิปดา ดังนั้น ความหมายดั้งเดิม ของค่าการวัดมุม คือ ดีกรีส่วนโค้ง ในวงกลม นั่นเอง จากคุณ : ด้วยรักและผ่านมาก่อน เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 55 10:12:30 A:58.9.109.156 X: TicketID:127369

ความคิดเห็นที่ 63 หนังสนุกมากครับ ไม่รู้ว่าผมดูไปกี่รอบเพราะปืนในเรื่องนี้เยอะมาก ในเว็บปืนถึงขนาดมีคนทำรีวิวเลยว่ามีปืนอะไรบ้างที่นำมาเข้าฉากอ่านจนเพลินเลยทีเดียว.... จากคุณ : Always Red เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 55 14:53:30

ความคิดเห็นที่ 64 ลงชื่อ จากคุณ : Register_AC เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 55 14:58:46

ความคิดเห็นที่ 65 ฉบับเต็มจาก HISTORY ครับ จากคุณ : แสงเรืองรองของฟ้าหลังฝน เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 55 16:37:52

ความคิดเห็นที่ 66 ชาวบ้านธรรมดา มีให้ฝึกหรือเปล่า ตาม 0 ฝึกยิง จากคุณ : M_Meng เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 55 18:39:21

ความคิดเห็นที่ 67 สิบโทร็อบ เฟอร์ลอง (ชาวแคนนาดา) ร็อบ เฟอร์ลอง รับภาระกิจในอัฟกานิสถานโดยซุ่มยิง นัดแรก ผิดเป้า  นัดสอง จบ ภาระกิจที่ 2430 เมตร โดยที่เป้านั้นอยู่บน รถ ที่ขับอยู่ ระยะยิง           2,430 เมตร สถานที่           อัฟกานิสถาน     เมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2543 โดยใช้กระสุนฮอร์นาดี A-MAX เวรี่ โลว์ แดร็ก หนัก 70 เกรนขนาด .50 คาลิเบอร์และปืน TAC-50 แมคมิลแลนด์ "ซึ่งตรงนี้ เขาได้รับการยอมรับทั่วโลกว่า เป็นมือ ดีที่สุดแล้วตอนนี้" (เพราะเป้าเคลื่อนไหว) ................................................................................................................ ปล.ตรงนี้จะเป็นไปได้ไหมว่าเพราะเขา จบภาระกิจ ที่เป้าเคลื่อนไหวจึงเป็นที่ยอมรับ แม้ว่าระยะยิงเขาจะน้อยกว่า  'เคร็ก แฮริสัน" " ขอผู้รู้ มาช่วยขยายความอีกทีครับ" จากคุณ : sriwit เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 55 21:24:36

ความคิดเห็นที่ 68 ถ้าดูจากสารคดี นั้นมันเป็นสารคดีเก่านะครับ ทำไว้ก่อนปี 2009 ซึ่งเคร็ก แฮริสัน ยังไม่ได้ทำภารกิจ มันจึงไม่มีการบันทึกการยิงของเค้าลงไปด้วย เป้าเคลือนไหวคงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องครับ เพราะระยที่ไกลขนาดนั้น ต่อให้ยืนอยู่เฉย ๆ ก็ยากที่จะยิงให้โดนได้ง่าย ๆ และอีกอย่าง เป้าของ เคร็ก แฮริสัน ไกลกว่า เฟอลอง ไปเพียง 45 เมตรเท่านั้น จากคุณ : hideto b1 เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 55 23:08:28

ความคิดเห็นที่ 69 อันนี้แค่ชี้นิ้วเล็งเป้า กระสุนเป็นมิสไซล์เลยนา จากคุณ : น้องตีปสุดหล่อข้ามทางช้างเผือก เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 55 23:17:23

ความคิดเห็นที่ 70 Bang! จากคุณ : น้องตีปสุดหล่อข้ามทางช้างเผือก เขียนเมื่อ : 12 ม.ค. 55 23:19:06

ความคิดเห็นที่ 71 เพื่อนสมาชิก "sriwit" ในความคิดเห็นที่67เข้าใจผิดไปนึดนึงนะครับ!     เพราะมะริกันเปิดฉากบุก "อัฟกานิสถาน" ในช่วง "ปลายปี 2001" หรือพ.ศ.2544ในสมัยประธานาธิบดี "จอร์จ บุช" ผู้ลูกครับ (หลังจากตึกแฝดโดนทำลายไม่นาน)  ส่วน "มีนาคม 2543" นั้น "บิล คลินตัน" ยังเป็นประธานาธิบดีมะริกันอยู่เลยครับ  โดยสถิติที่ "ร็อบ เฟอร์ลอง" ทำนั้นเกิดขึ้นช่วงเดือน "มีนาคมปี 2002" หรือ พ.ศ. 2545 ใน "ปฏิบัติการอนาคอนดา" ที่อัฟกานิสถานครับ     โดยข้อมูลในเว็บ "วิกิพีเดีย" นั้นเชื่อถือไม่ได้อย่า่งเต็ม100เปอร์เซ็นต์นะครับ  เนื่องจากเว็บนี้เขาเปิดโอกาสให้ใครเข้ามาเขียนและแก้ไขอะไรก็ได้ตามใจ  ดังนั้นเวลานำเนื้อหาจากที่นี่มาใช้งานจึงควรตรวจสอบข้อมูลจากแหล่งอื่นเสริมด้วยเพื่อความถูกต้องอีกทีครับ (ผมเห็นมีคนเอาข้อมูลเรื่องปีไปใส่ผิดแล้วก็มีการเอาข้อมูลตรงนี้ไปโพสในเว็บอื่นๆของบ้านเราอีกมากมาย) (May the Spoil be with you) ขอสปอยล์จงสถิตย์อยู่กับท่าน จากคุณ : เจไดหนุ่ม เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 55 12:04:25

ความคิดเห็นที่ 72 วาซิลี ไซเซฟ จาก Enemy at the gate อ่ะครับ..มีตัวตนป่าวว จากคุณ : bakiman เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 55 14:07:35

ความคิดเห็นที่ 73 ไม่รู้เรื่องจริงป่าวจากเวปเด็กดีครับ "Vassili Zaitsev(วาสซิลี่ ไซเซฟ) วีรบุรุษแห่ง"สตาลินกราด" แก้ไขเมื่อ 13 ม.ค. 55 15:36:12 จากคุณ : มวยมีค่าย เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 55 15:35:49

ความคิดเห็นที่ 74 ประวัติจาก Wiki เลยครับ เวปเด็กดีสะกดชื่อผิดซะงั้น Vasily Zaytsev   จากคุณ : มวยมีค่าย เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 55 15:38:13

ความคิดเห็นที่ 75 ขอบคุณ  "เจไดหนุ่ม" ครับ จำได้ว่า  "นัดแรกพลาด  นักสองจบ ภาระกิจ" แก้ไขเมื่อ 13 ม.ค. 55 18:44:15 จากคุณ : sriwit เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 55 16:52:08

ความคิดเห็นที่ 76 คห 67 > เคร็ก แฮริสัน (ไม่นับกระสุนที่ใช้กะระยะ) ยิงจริง 2 คน 2 นัดคาที่ (สยองมากค่ะ) จากคุณ : jackfruit_k เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 55 17:57:14

ความคิดเห็นที่ 77 M98B ระยะไกล ที่ยิงได้ จนไม่เห็นใคร  3228 เมตร แก้ไขเมื่อ 13 ม.ค. 55 20:14:21 จากคุณ : อยากรู้จึงถาม เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 55 20:13:05

ความคิดเห็นที่ 78 อยากได้แบบ #77 สักกระบอก สมัยผมเป็นนาวิกโนธิน...ระยะที่ผมสามารถยิงได้โดยไม่ใช้กล้องส่อง (ใช้ศูนย์เล็งอย่างเดียว) ได้ประมาณ 1 กม. ซึ่งต้องคำนวณทั้งแรงลมและแรงโน้นถ่วง ในการสอบยิงปืนเล็กยาว M16 ปีนั้น ผมเป็นคนเดียวใน 2 กองพันนาวิกโยธิน ที่ยิงระยะ 500 เข้าเป้าทุกนัด โดยใช้ศูนย์เล็งอย่างเดียวเท่านั้น ดีนะที่ยุคนั้นโจรใต้ยังไม่อาละวาด... ไม่งั้นโดนส่งไปเก็บโจรแหงๆ จากคุณ : ทัชชี่ เขียนเมื่อ : 13 ม.ค. 55 21:54:24

ความคิดเห็นที่ 79 ความคิดเห็นที่ 78 ระยะ 1 กม ใช้ปืนอะไรยิงครับ แล้วยิงกี่นัดถึงเข้าเป้าครับ อันนี้อยากทราบนะครับ ขอบคุณครับ แก้ไขเมื่อ 15 ม.ค. 55 18:09:16 จากคุณ : hideto b1 เขียนเมื่อ : 14 ม.ค. 55 00:53:15

ความคิดเห็นที่ 80 78 ที่บอกว่า ผมเป็นคนเดียวใน 2 กองพันนาวิกโยธิน กองพันไหนครับ กองพันฝึกพลทหาร หรือกองพันทหารราบ ขอคำตอบด้วยนะ จากคุณ : รีคอนแมน02 เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 55 15:45:31

ความคิดเห็นที่ 81 เอ่อ.. 78  ครับ  ผมก็อดีตทหารเกณ์นาวิกเหมือนกัน ไอ้ 500 เมตรนอนยิงผมก็เข้าเป้าทุกนัดครับ ยิงเร็วสิบนัดก็ปั่น ยืนยิงสองร้อยเมตรก็ปั่นครับ ได้คะแนนมา 2ร้อยกว่า  ติดนักแม่นปืนชั้นเชี่ยวชาญครับ  ผมว่าใครๆก็ทำได้นะเพื่อนผมได้กันเยอะแยะ แก้ไขเมื่อ 15 ม.ค. 55 16:04:45 จากคุณ : celly เขียนเมื่อ : 15 ม.ค. 55 16:02:14

ความคิดเห็นที่ 82 ^ ^ มันคืออะไรครับอธิบายให้ที ระบบจำลองการยิงแบบที่ราบ11เหรอครับ จากคุณ : sillfai เขียนเมื่อ : 16 ม.ค. 55 03:35:08