ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาให้ความกระจ่างค่ะ พอดีถามไปถึงคนแปลซับไทยของเรื่องนี้แล้วเขาบอกว่า ข้อมูลในหนังไม่เชิงว่าบิดเบือน แต่เป็นการนำเสนอข้อมูลด้านเดียว แต่ที่เราอ่านมามันยังไม่เกทเท่าไหร่ เลยอยากถามคนที่ติดตามมาจริงๆมากกว่า
แต่ถ้ามองกันในแง่ของหนัง แบบที่เราเข้าไปดูแบบไม่รู้เรื่องอะไรเลยถือว่าหนังทำได้ดีมากๆค่ะ อินสุดๆ แต่งงตรงเรื่องพื้นหลังที่เป็นสงครามนี่แหละ ไม่ได้ความกระจ่างเลย..
อันนี้เป็นกระทู้ที่เราตั้งกึ่งรีวิวไว้ในเฉลิมไทยด้วยค่ะ เพราะอยากให้คนไปดูกันเยอะๆ จะได้มาช่วยกันถก ..เพราะดูไปก็งงไป.. ^^"
--------------------------------------------------------------------------------
**หมายเหตุ**
1. เอนทรี่นี้ไม่มีการเปิดเผยเนื้อหาสำคัญภายในเรื่อง แต่จะอธิบายข้อมูลคร่าวๆของเหตุการณ์ภายในเรื่อง อ่านข้อมูลก่อนไปดูจะอินกว่าเดิม...
2. นี่เป็นหนังที่มีข้อพิพาทย์เกี่ยวกับเนื้อหามาก เพราะเป็นหนังที่เกี่ยวกับสงครามของ รัสเซีย-จอร์เจีย ซึ่งแต่ละฝ่ายมีพันธมิตรอยู่คนละฝ่ายกัน แต่หนังถูกสร้างโดยอเมริกา (ซึ่งเป็นพันธมิตรของ จอร์เจีย)
3. หากมีข้อมูลและลำดับเกี่ยวกับเหตุการณ์ในสงครามไม่ถูกต้อง ขออภัยมา ณ ทีนี้
-------------------------------------------------------------------------------------------------
"โลกไม่สนใจว่าจะมีใครตายอยู่ข้างนอกนั่น แต่ถ้าทีวีดับละก็...ฉันไม่ยอม..."
สร้างจากส่วนหนึ่งในเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นกับนักข่าวสงครามในสมรภูมิรบต่างๆทั่วโลก แต่ทว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในหนังนำเอาเหตุการณ์สงครามที่พึ่งเกิดขึ้นและยังคงเป็นเหตุการณ์ที่ต่อเนื่องมาถึงปัจจุบันอย่าง "สงครามเซาท์ออสทีเซีย" ที่เปิดฉากขึ้นในปี 2008 ...
หนังไม่ได้ให้รายละเอียดเรื่องปมความขัดแย้งของสงครามที่เกิดขึ้นมากนัก แต่กลับมุ่งไปที่ประเด็นของนักข่าวและช่างภาพข่าวสงคราม ถึงจรรยาบรรรณทางวิชาชีพ ที่ต้องการนำภาพและเรื่องราวของผู้คนที่อยู่ในสงครามออกมาตีแผ่ให้ชาวโลกรับรู้ โดยหนังสามารถ สร้างบรรยากาศความกดดัน และ แรงบีบคั้นของเหตุการณ์ ที่ทำให้คนดูอย่างเราๆที่แม้ไม่ได้เป็นนักข่าวหรือช่างภาพ ต้องรู้สึกอึดอัด คับข้อง หวาดกลัว และรู้สึกหมดหวังตามตัวละคร ได้อย่างน่าทึ่ง เนื้อเรื่องไม่ได้มีจุดพลิกผัน หักเห ไคลแมกซ์ แบบหนังฮอลลีวู้ด แต่กระนั้นก็มีเรื่องราวความ "โรแมนซ์" มายัดใส่ไว้ให้ดูมี "อะไรๆ" ขึ้นมาบ้างเพื่อทำให้เรื่องไม่ดูจืดชืดจนเกินไป แต่หนังก็ทำได้ดีจนลืมความไม่สมเหตุสมผลบางอย่างไปได้ แบบที่ตอนหนังจบ เราเองยังใจเต้นรัว และ บางคนอาจลืมเช็ดน้ำตาก่อนเดินออกจากโรงด้วยซ้ำ
ว่ากันด้วยเรื่องสงครามที่เกิดขึ้นภายในเรื่อง เพราะหนังไม่ได้ให้รายละเอียด หรือ ปูเนื้อเรื่องเกี่ยวกับสงครามที่เกิดขึ้นให้ฟังในหนังเลยสักนิดเดียว คนดูเลยต้องดูๆไปแบบงงๆแบบนั้นแหละ ว่าฝ่ายไหนเป็นฝ่ายไหน แล้วมันเกิดสงครามนี้ได้ยังไง
แต่เพราะสงครามที่ว่านั้นก็เกิดขึ้นเมื่อไม่นานนัก และเคยเป็นข่าวดังเมื่อหลายปีก่อน หลายคนเลยอาจพอจะคุ้นๆอยู่บ้าง แต่ก็มีไม่น้อยที่ไม่เคยได้ยินชื่อของสงครามนี้มาก่อนเลย พอออกจากโรงมา เราเลยออกมาหาข้อมูล ทำให้เข้าใจหนังมากขึ้น และความงุนงง สงสัยต่างๆก็คลี่คลาย..
สงครามที่เกิดขึ้นภายในเรื่องคือ "สงครามเซาธ์ ออสซีเทีย" ที่เกิดขึ้นในปี 2008 (2008 South Ossetia war) เกิดขึ้นในประเทศ "จอร์เจีย" ประเทศที่แยกตัวออกจากรัสเซียภายหลังยุคสงครามเย็น เมื่อสหภาพโซเวียตแตกกระส่านซ่านเซน จอร์เจียก็ได้ประกาศอิสรภาพ
ขณะเดียวกันนั้น เมืองเล็กๆอย่าง "เซาธ์ ออสซีเทีย" ของจอร์เจียเอง ก็อยากแยกตัวออกไปตั้งประเทศของตนเองเช่นกัน ด้วยเหตุผลความขัดแย้งทางด้านศาสนา เซาธ์ออสซีเทียนั้นอยากเข้าไปร่วมกับ "นอร์ธออสทีเซีย" ที่อยู่ภายใต้การปกครองของรัสเซีย เป็นเหตุให้จอร์เจียไม่พอใจในการแยกตัวดังกล่าว และไม่เคยยอมรับการประกาศอิสรภาพของเซาธ์ออสซีเทีย รวมทั้งโลกเองก็ไม่รับรู้ว่าเซาธ์ออสซีเทียได้ประกาศอิสรภาพด้วยเช่นกัน
ด้วยเหตุการณ์ต่างๆที่ทำให้ จอร์เจียและเซาธ์ออสซีเทียยกเลิกข้อตกลงหยุดยิง ทำให้เกิดสงครามเต็มรูปแบบขึ้น จอร์เจียได้ส่งกองกำลังทหารเข้าไปภายในเมืองหลวงของเซาธ์ออสซีเทีย "ซคินวาลี" (Tskhinvali) (พ้องกับเหตุการณ์ในเรื่อง ที่ทหารจากกองทัพของจอร์เจีย ที่ไปเจอกลุ่มของพระเอกที่กำลังจะเข้าไปทำข่าวในเมืองหลวงพอดี) รัสเซียจึงได้เริ่มสงครามด้วยการยืนกรานปกป้องเซาธ์ออสซีเทีย จึงมีการส่งกองกำลังทั้งทางบกและอากาศเข้าไปทั้งในซคินวาลีและจอร์เจีย ณ ขณะนั้น จอร์เจียจึงเสมือนเปิดศึก 2 ด้าน (ทั้งต้องทำสงครามในซคินวาลี และต้องป้องกันเมืองหลวงในจอร์เจีย)
ด้วยแสนยานุภาพอันทรงพลังของรัสเซีย ทำให้ประธานาธิบดีของจอร์เจียในขณะนั้น อย่าง ประธานาธิบดีซาคาชวิลี (Saakashvili) ต้องพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อปกป้องประเทศ ที่ขณะนั้นทั้งยุโรปทำได้เพียงยืนมองเหตุการณ์ และพันธมิตรของจอร์เจียในขณะนั้นอย่าง สหรัฐอเมริกาสมัยประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ทำได้เพียงส่งสารเตือนรัสเซียให้เลิกโจมตีจอร์เจียเท่านั้น แต่ไม่ได้ส่งกองกำลังเข้ามาช่วยเหลือแต่อย่างใด แต่กระนั้นซาคาซวิลิก็ไม่ยอมแพ้ ยังคงยืนกราน และ ร้องขอต่อ EU (ภายในหนังเอ่ยถึง EU แต่เหตุการณ์จริงๆคือ จอร์เจียพยายามจะเข้าร่วมกับ NATO) ให้ส่งความช่วยเหลือมายังจอร์เจีย... จนกระทั่งเพื่อรักษาประเทศ จอร์เจียจึงต้องประกาศหยุดยิง เพื่อเรียกกองทหารทุกกองกลับเข้ามายังเมืองหลวงในจอร์เจีย ... เป็นการสิ้นสุดสงคราม 5 days of August ในขณะนั้น...
หนังโฟกัสเรื่องจิตวิญญาณของหนังข่าวได้ดีมากๆ จนถึงขั้น "ดีเกินไป" เพราะทำให้เราลืมเรื่องความสงสัย และ ความสับสนเกี่ยวกับเรื่อง มูลเหตุของสงครามไปหมดเลย เป็นหนังที่ฉายในตลาดหนังไปตั้งแต่ท้ายปี 2010 และทยอยฉายรอบโลกมาเรื่อยๆจนกระทั่งมาถึงบ้านเราเมื่อวันที่ 12 มกราคม 2555 นี่เอง...
เป็นหนังที่คอหนังสงครามควรไปดูอย่างยิ่ง ได้ข่าวมาว่าหนังลงทุนใช้ระเบิดจริง อาวุธจริง แถมยังไปถ่ายในเมืองที่เกิดหตุจริง เพื่อความ "สมจริง" อีกด้วย แนะนำอีกเรื่องสำหรับเดือนมกราคมค่ะ ^^
"5 days of War" ใครทราบเรื่องสงคราม จอร์เจีย-รัสเซียเข้ามาตอบทีค่ะ...
