ความคิดเห็นที่ 1 สิ่งที่ยากกว่าการสร้างให้มันตัดได้ คือสร้างให้มันยาวได้จำกัดจนกลายเป็นลักษณะดาบนี่แหละ จากคุณ : ERWA เขียนเมื่อ : 17 ม.ค. 55 21:41:58

ความคิดเห็นที่ 2 ใช้การยิงเลเซอร์ออกมาจากปลายดาบหลายๆเส้น แล้วให้ปลายเลเซอร์แต่ละเส้นไปชนกันเอง (ปลายดาบ) แต่ ปัญหาคือด้ามดาบ จะทำยังไงให้มันยิงเลเซอร์แรงสูงแบบนั้นได้ในขนาดเท่านั้น - -' ปล. จินตนาการล้วนๆ จากคุณ : UltimaWeapon เขียนเมื่อ : 17 ม.ค. 55 21:43:08

ความคิดเห็นที่ 3 ตอนนี้ยังทำไม่ได้ครับ จากคุณ : 7-Scene เขียนเมื่อ : 17 ม.ค. 55 21:44:17

ความคิดเห็นที่ 4 ตื่นเต้นอะไรกับหลอดนีออนครับ ผมงง อยากให้มันตัดได้ก็แค่เอาหินลับมีดมาทำให้หลอดนีออนคมๆ จากคุณ : mibtrex เขียนเมื่อ : 17 ม.ค. 55 21:45:08

ความคิดเห็นที่ 5 ไม่ยากหรอก ใช้โปรแกรม Adobe After effect วิธีทำ จากคุณ : คนบนหอกลั่น เขียนเมื่อ : 17 ม.ค. 55 21:49:19

ความคิดเห็นที่ 6 มันปัดปืนเลเซอร์ทันได้ยังไงน่าสนใจกว่า ฮ่าๆ จากคุณ : KeyboardWarrior เขียนเมื่อ : 17 ม.ค. 55 21:51:38

ความคิดเห็นที่ 7 นึกถึงคลิป jedi kid จากคุณ : installation เขียนเมื่อ : 17 ม.ค. 55 21:56:26

ความคิดเห็นที่ 8 เห็นมันก็ฟันกันเองไม่เข้า โอ้ว แสงชนกันกับแสงได้ด้วย จากคุณ : Moonui เขียนเมื่อ : 17 ม.ค. 55 22:11:39

ความคิดเห็นที่ 9 แสงชนแสงด้วยกันเองได้นี่ยังไม่เท่าแสงประพฤติตัวเหมือนของแข็ง...ไม่รู้ใช้ฟิสิกส์จักรวาลไหน จากคุณ : มะกอกสามตะกร้าปาไม่ถูก เขียนเมื่อ : 17 ม.ค. 55 22:14:19

ความคิดเห็นที่ 10 สงสัยอย่างเดียวครับว่า มันตัดได้ทุกอย่างให้ขาดได้ แต่ทำไมมันตัดดาบด้วยกันเองไม่ได้ จากคุณ : ความรู้น้อยแต่ขอแจม เขียนเมื่อ : 17 ม.ค. 55 22:45:34

ความคิดเห็นที่ 11 ทำดาบเลเซอร์แล้ววิ่งไปฟันกันเนี่ยนะ..แล้วทำไมไม่สร้างปืนเลเซอร์ยิงกันได้ในระยะไกลๆไม่ดีกว่าเหรอ..อิอิ จากคุณ : dtkman (PAJAKARAT) เขียนเมื่อ : 17 ม.ค. 55 22:49:21

ความคิดเห็นที่ 12 เรียกว่าดาบพลาสม่าอาจจะพอสร้างได้ ถ้าเ็ป็นเลเซอร์ไม่มีทางเลยครับ ดาบนั่นขัดสมบัติแสงตั้งไม่รู้กี่ข้อ จากคุณ : ECOS (thelegendofm) เขียนเมื่อ : 17 ม.ค. 55 22:53:29

ความคิดเห็นที่ 13 ผมสงสัยว่าควงได้ยังไง ตัวคมมันมีน้ำหนักเหรอ เหวี่ยงยังกะไม้พลอง จากคุณ : MAXReal เขียนเมื่อ : 17 ม.ค. 55 23:18:14

ความคิดเห็นที่ 14 รบด้วยปืนไม่ใช่วิถีแห่งอัศวินเจได จากคุณ : ถั่งโถมโหมแรงใจ เขียนเมื่อ : 17 ม.ค. 55 23:18:21

ความคิดเห็นที่ 15 คุ้นๆว่า มันเป็นแค่ตัวแปลงพลังเจไดออกมาเป็นรูปธรรมนะ ไม่ใช่ดาบเลเซอร์ แล้วการที่เจไดปัดปืนเลเซอรืได้ ไม่ใช่เพราะเร็วกว่าแสง แต่เป็นเพราะการ"หยั่งรู้"ล่วงหน้าไม่กี่วินาที เลยเอาดาบไปยื่นขวางๆ บริเวณที่คาดว่ากระสุน(?)เลเซอร์จะพุ่งมา เลยดูเหมือนเป็นการปัดได้ จากคุณ : ....4จุด เขียนเมื่อ : 17 ม.ค. 55 23:29:13

ความคิดเห็นที่ 16 gundam กับ starwar อะไรเกิดก่อนกัน รู้สึกเหมือนว่าตัวเอกลอกกันเลย -.- จากคุณ : MAXReal เขียนเมื่อ : 17 ม.ค. 55 23:54:21

ความคิดเห็นที่ 17 ^ ^ จากคุณ : ดอกหญ้าสีฝุ่น เขียนเมื่อ : 17 ม.ค. 55 23:57:55

ความคิดเห็นที่ 18 d จากคุณ : ดอกหญ้าสีฝุ่น เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 55 00:01:43

ความคิดเห็นที่ 19 เคยวิเคราะห์กันไปแล้ว   ในหนังมันไม่ได้บอกว่าเป็นดาบเลเซอร์ครับ   มันเป็นแค่ดาบเรืองแสง  ในหนังไม่ได้บอกว่าใช้เทคโนโลยีอะไร   แต่มันไม่ได้ใช้เทคโนโลยีแสงเลเซอร์ครับ  เอาตามหนังเลยนะ เทคโนโลยีที่เป็นไปได้น่าจะเป็นพวกโพลิเมอร์นำไฟฟ้าครับ   พอใส่พลังงานแล้วมันจะเปลี่ยนรูปจากของเหลวเป็นของแข็งได้   และทำให้มันแปลงพลังงานเป็นความร้อนมาก ๆ  ก็จะใช้ตัดได้ครับ จากคุณ : ไข่อุง เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 55 00:08:41

ความคิดเห็นที่ 20 มันชื่อ light saber แปลตรงตัว ตือ ดาบ(ที่ไม่มีคม มีแต่แหลม เหมือนกีฬาฟัน(แทง)ดาบ) แสง จากคุณ : Ao+ เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 55 00:31:30

ความคิดเห็นที่ 21 อย่าลืมทำเสียงให้มันดัง วิ้งๆ ตอนรำดาบด้วย จากคุณ : อากินจัง เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 55 01:50:58

ความคิดเห็นที่ 22 คห 20 เซเบอร์มีคมครับ ไอ้ที่มีแต่แหลมเค้าเรียก เรเปียร์ ครับ Rapier จากคุณ : ลมหายใจของดอกไม้ เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 55 02:53:31

ความคิดเห็นที่ 23 กลัวคนใช้จะตายเองเพราะแสง laser นี่แหละค่ะ อิอิ จากคุณ : *~Kinako~* เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 55 04:26:56

ความคิดเห็นที่ 24 อ่านกระทู้นี้แล้วเสียงดาบไลท์เซเบอร์ก้องอยู่ในหูเลย วึ่งๆๆ จากคุณ : bankpakim เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 55 04:43:25

ความคิดเห็นที่ 25 ผมก็ลองคิดอยู่เหมือนกัน โดยใช้วัตถุที่มีคุณสมบัติเปลี่ยนโครงสร้างของผลึกตามอุณหภูมิ โดยที่อุณหภูมิปกติ เป็นของเหลวหรือมีความอ่อน ทำให้สามารถเก็บไว้ในด้ามได้ เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น มีโครงสร้างผลึกที่มีความแข็งแรง จึงเปลี่ยนรูปเป็นใบดาบได้ จากคุณ : Mr. SJ เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 55 07:39:10

ความคิดเห็นที่ 26 คุณเจไดหนุ่มเคยบอกไว้ว่า ถ้าอยากประดิษฐ์ ต้องแก้โจทย์ สามอย่างนี้ หนึ่ง  เอาแหล่งพลังงานจากไหน  อันนี้ไม่ยากเท่าไร สอง  ทำอย่างไร เราสามารถจับด้ามมันได้ โดยไม่ได้รับบาดเจ็บจากความร้อนของเลเซอร์ สาม ทำอย่างไร จึงจำกัดความยาวของเลเซอร์นั้นได้ จากคุณ : bmjas เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 55 08:35:38

ความคิดเห็นที่ 27 ก็มันเป็นหนังนี่ครับ จะไปบอกทำไมว่าทำไม่ได้ยังงั้นยังงี้ ผิดกฎข้อนั้นข้อนี้ จากคุณ : psybuster เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 55 08:38:54

ความคิดเห็นที่ 28 ในเรื่อง ไม่เคยเรียกว่า ดาบเลเซอร์ เรียกว่า light saber คือกระบี่แสง (ลิเกหน่อยนะ) ------------------------------------------------ ป๋าลูคัสแกชอบเอเซียครับ จะเห็นว่า ชุดเจได ประยุกต์มาจากชุดของจีน+ญี่ปุ่น (มีโอบิคาดเอวครบ) ส่วนค่ายจักรวรรดิของป๋า เวเดอร์ เอามาจากเครือนาซี ทั้งอาวุธและชุดทหาร ถ้ามันมีจริง ร้านเหล็ก งานโลหะคงง่ายขึ้นอีกจม จากคุณ : หมอเถื่อน เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 55 08:39:11

ความคิดเห็นที่ 29 สงสัยว่าถ้าต้องใช้พลังเจได(หรือซิธ) แล้ว General Grievous ใช้ Light Saber ได้ไง ส่วนอาวุธบีมในเรื่องกันดั้มพิสดารกว่าของ Star war เยอะ มีทั้งดาบ ขวาน เคียว โล่ห์ จากคุณ : RX-93 เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 55 08:43:14

ความคิดเห็นที่ 30 เคยอ่านว่าในสตาร์วอหลายพันปีก่อนมีคนค้นพบวิธีแช่แข็งแสงได้เลยมีการประยุคมาทำดาบแสง ป.ล. คำว่าเป็นไไปไม่ได้นี่แหละที่เป็นไปไม่ได้ จากคุณ : R2D2 (zielfiend) เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 55 08:51:32

ความคิดเห็นที่ 31 เราจะืทำดาบทำไมในเมื่อมันต้องวิ่งเข้าชาดแล้วโดนปืนสอยก่อนอยู่ดีอะ จากคุณ : ลูกมาร เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 55 08:51:49

ความคิดเห็นที่ 32 เนื่องจากคุณเจไดหนุ่มยังไม่มา ผมขออธิบายก่อนแล้วกันนะครับ ดาบ Light saber ใน Star Wars เนี่ย ตามเนื้อเรื่องแล้ว มันเป็นพลาสม่าที่ถูกกักไว้ในรูปของดาบครับ และที่มันสะท้อนกระสุน"เลเซอร์" ได้นี่ จริงๆ แล้ว blaster ของ Star wars ก็ยิงเป็นกระสุนพลาสมานะครับ สนามกักเก็บพลาสม่าของดาบจึงสะท้่อนกระสุนได้ ส่วนที่ว่าต้องเป็นเจไดถึงจะใช้ดาบได้ ไม่จริงครับ Episode 5 ฮัน โซโล ก็ใช้ดาบของลุคฟันท้องตัวอะไรไม่รู้ขาดทีนึงนะครับ ข้อมูลเพิ่มเติม หาได้ที่นี่ http://starwars.wikia.com/wiki/Lightsaber จากคุณ : ซิธหนุ่ม (OmegaPi) เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 55 08:55:30

ความคิดเห็นที่ 33 ตอนต้นเรื่อง หลังจากที่ลุค(ซึ่งตอนนั้นทำไมกากจัง โดนหมีหิมะ จะตบลากไปกิน -*- พลังไม่ช่วยอะไรเลย) จนโซโลต้องออกมาตามช่วย แล้วผ่าท้องตัวที่ขี่มา เพื่อให้ลุคหลบหนาวจากพายุหิมะ ก็ยังงง ทำไมโซโโลใช้ดาบได้ฟะ จากคุณ : หัวใจในลังกระดาษ เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 55 09:25:07

ความคิดเห็นที่ 34 ดาบเป็นลักษณะของ Plasma Particle มากกว่าครับที่จะปล่อยออกมาจากด้ามดาบตามปริมาณที่กำหนดพลังงานไว้ได้(อาจจะมีปุ่มปรับโวลุ่มที่ด้ามดาบก็ได้) พลาสม่า พาร์ติเคิล ไม่มีมวล(หรือน้อยมากๆๆๆๆ)ดังนั้น เวลาปล่อยออกมาจากด้ามดาบในเวลากวัดแกว่ง มันจึงไม่เบี้ยวไปตามแรงเฉื่อยหรือแรงต้านอากาศ (เหมือนเราถือไฟฉายในหมอก จะเห็นเป็นลำแสง เหวี่ยงเท่าไหร่ แสงก็ไม่เบี้ยว) เมื่อ พาร์ติเคิลปล่อยมาถึงจุด Life Time ของมัน ก็จะเสื่อมสลายไปเอง (เป็นระยะปลายดาบนั่นเอง) จากคุณ : กินกิน เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 55 09:39:27 A:58.9.47.205 X: TicketID:323088

ความคิดเห็นที่ 35 มีจริงครับ ในทางการแพทย์ใช้มานานแล้ว เลเซอร์ตัดชิ้นเนื้อได้ดี  เลือดไม่ออกมาก ภรรเมียผมก็โดนผ่าท้องด้วยเลเซอร์นี่แหละ เวลากรีด เสียงดัง ปุๆๆๆๆๆ (คิดภาพ) กลิ่นเหม็นเหมือนเผาเนื้อ (คิดภาพ) แต่แผลก็สนิท แห้งเร็ว  ไม่นานก็ใช้งาน ผลิตทายาทได้อีก จากคุณ : โอ๊ะเอ๊ะ เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 55 10:13:08

ความคิดเห็นที่ 36 "คริสตัลคือหัวใจของดาบ หัวใจของคริสตัลคือเจได เจไดคือคริสตัลของพลัง พลังคือดาบของหัวใจ ทุกอย่างล้วนเกี่ยวข้องกัน คริสตัล ดาบ เจได เจ้าคือหนึ่งเดียว" - ลูมินาร่า อันดูลิ เท่าที่อ่านในวิกิ เค้าอธิบายว่า พลังงานของดาบมาจากตัวของเจได หรือ ซิส ซึ่งในด้ามดาบ จะมีคริสตัล เป็นตัวรับคลื่นพลัง แล้วแปลงออกมาในรูปของ กระบี่แสง คลื่นพลังของพวกเจไดชอบใช้ให้เห็นในหนังบ่อยๆ  ก็จะเป็นพวก เทเลคิเนซิส (เคลื่อนย้ายวัตถุด้วยพลังจิต) ส่วนซิธ จะชอบปล่อยพลังมาในรูปของสายฟ้า จากคุณ : เคลื่อนที่ไปข้างหน้าด้วยการโผ เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 55 10:27:25

ความคิดเห็นที่ 37 หนังมันก็โม้ทั้งเรื่องนั่นแหละครับ หลักการในหนังก็คือดาบแสงไม่ได้สร้างด้วยแสง แต่เป็นอะไรซักอย่างที่สามารถสั่งให้ยื่นออกมาแล้วเปล่งแสงออกมาด้วย ตัวดาบที่ยื่นออกมามีน้ำหนัก มีแรงต้านจากวัตถุหรือดาบด้วยกันหมือนเป็นวัตถุชิ้นหนึ่งเลย อาจจะเป็นสนามพลังหรืออะไรซักอย่างที่ถ้าจะมีจริงเทคโนโลยีของมนุษย์ปัจจุบันก็ยังไปไม่ถึง จากคุณ : สไปเดอร์แมน เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 55 11:08:58 A:124.122.120.141 X: TicketID:204597

ความคิดเห็นที่ 38 เร่องดาบนี้ผมเคยตอบไปแล้วครั้งหนึ่งครับ  จึงขอยกเอาเน้อหาที่ตนเองเคยตอบไว้มาลงอีกทีหนึ่งนะครับ (วันนี้คียบอรดผมเสียครับ  ดังนั้นปุ่ม เอ็น และตัวอักษรบางตัวจึงใช้ไม่ได้  จึงต้องขอโทษในเร่องของวรรณยุกตต่างๆที่อาจจะตกหล่นไปบ้างนะครับ) ***   ถ้าอิงตามเนื้อหาจากในซีรี่ยส์ "สตาร์วอส์" แล้ว  ดาบไลท์เซเบอร์เป็นอาวุธที่ใครๆก็สามารถเปิดใช้งานได้ครับ  เพียงแต่ถ้าเขาผู้นั้นไม่ได้เข้าถึงหลักของการใช้พลังแบบเดียวกับเจไดหรือซิธ  ก็มิอาจจะใช้ดาบไลท์เซเบอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ     อาทิเช่นไม่สามารถปัดป้องกระสุนลำแสงหรือใช้ดาบได้อย่างคล่องแคล่วแบบพวกเจไดครับ  แต่ในสมัยที่ "ลุค สกายวอคเกอร์" ก่อตั้งสภาเจไดขึ้นมาใหม่  ได้มีผู้คิดค้นไลท์เซเบอร์ซึ่งจะใช้ได้เ้ฉพาะผู้เข้าถึงพลังเท่าันั้นครับแต่ก็ไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร (May the Spoil be with you) ขอสปอยล์จงสถิตย์อยู่กับท่าน จากคุณ : เจไดหนุ่ม เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 55 11:27:28

ความคิดเห็นที่ 39 ***    แลความจริงแล้วถ้าพูดถึงเรื่องดาบลำแสงของเหล่า "อัศวินเจได" นั้น  ด้วยเทคโนโลยีของมนุษย์เราในปัจจุบันการจะสร้างอาวุธที่มีลำแสงเป็นเลเซอร์ก็ไม่ใช่เรื่องยากเกินความสามารถครับ  เพียงแต่มันจะมีปัญหาใหญ่อยู่ 4 ประการคือ "จุดกำเนิดแสง-จุดรับแสง"  "เทคโนโลยีการฟรีซลำแสง"  "แหล่งกำเนิดพลังงาน"  และเรื่องของ "ความร้อน" ครับ (จุดกำเนิดแสง-จุดรับแสง)   เป็นปัญหาอย่างหนึ่งที่ยังแก้ไมไ่ด้ครับและมันจะเชื่อมโยงไปถึงเรื่องของการ "ฟรีซหรือแช่แข็งลำแสง" ด้วย  กล่าวคือตามปรกติเวลาเรายิงลำแสงเลเซอร์ออกมานั้นลำแสงจะพุ่งออกไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุดใช่มั๊ยครับ  แต่ใน "ลิเกอวกาศสตาร์วอส์" นั้นจะมีการใช้ "เทคโนโลยีฟรีซลำแสง"  กล่าวคือทำให้ลำแสงเมื่อปล่อยออกมาจากต้นกำเนิดแล้วสามารถหยุดอยู่ในระยะความยาวที่ต้องการแลกลายสภาพเป็นใบดาบเลเซอร์ได้     แต่ทว่าในปัจจุบันเรายังไม่สามารถคิดค้นเทคโนโลยีดังกล่าวได้  จึงทำให้ถ้าคิดจะสร้างดาบไลท์เซเบอร์ขึ้นมาก็จำต้องออกแบบโครงสร้างของอุปกรณ์ในส่วนที่เป็นตัวรับแสงด้วย  นั่นจึงทำให้ลักษณะของตัวดาบที่ทำออกมาจะมีลักษณะคล้ายๆกับ "โดนัท" ดูอุบาทว์มากมายครับ -_-" **โครงสร้างของ "ดาบไลท์เซเบอร์" ในมหากาพย์ลิเกอวกาศครับ ^_^** (May the Spoil be with you) ขอสปอยล์จงสถิตย์อยู่กับท่าน จากคุณ : เจไดหนุ่ม เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 55 11:29:06

ความคิดเห็นที่ 40 (แหล่งกำเนิดพลังงาน)   แน่นอนว่าการจะสร้างลำแสงเลเซอร์ที่มีความเข้มข้นสูงมากขนาดนั้นได้ก็จำต้องมีอุปกรณ์ซึ่งสามารถให้กำเนิดพลังงานที่มากพอด้วย  โดยในปัจจุบันอุปกรณ์ที่สามารถสร้างลำแสงเลเซอร์ความร้อนสูงได้  ก็มักจะมีขนาดใหญ่โตมโหฬารแลไม่สามารถย่อส่วนจนนำมาใช้ทำเป็นดาบขนาดพกพาได้ครับ   แลแม้แต่ในนิยายของสตาร์วอส์ในช่วง "EP" ก็มีการกล่าวกันว่า  ในห้วงแรกที่อัศวินเจไดคิดค้นดาบไลท์เซเบอร์ขึ้นมานั้น  ก็ยังไม่สามารถสร้างอุปกรณ์ให้พลังงานที่มีขนาดเล็กพอครับ  ดังนั้นเจไดในยุคแรกๆจึงจำเป็นต้องพกพาเครื่องสร้างพลังงานที่มีขนาดคล้ายแบตเตอรี่ขนาดเล็กไว้ที่เอว  และต้องจั๊มพ์สายจากเครื่องมายังด้ามดาบทำให้มีความไม่สะดวกเวลาใช้งานเนื่องจากติดขัดเรื่องสายที่ห้อยอยู่ครับ **รูปของไลท์เซเบอร์ในยุคแรกๆจาก "มหากาพย์สตาร์วอส์" ที่ยังต้องพึ่งพาเครื่องสร้างพลังงาน(Power Cell)  โดยดาาบแบบนี้จะถูกเรียกกันว่า "โปรโตไลท์เซเบอร์" ครับ  ส่วนพวก "ซิธ" นั้นในห้วงแรกๆจะไม่นิยมใช้ดาบแบบนี้แต่จะใช้ดาบจริงๆ  ซึ่งถูกตีขึ้นมาจากแร่ธาตุที่สามารถทนทานต่อความร้อนของไลท์เซเบอร์ได้ครับ** (May the Spoil be with you) ขอสปอยล์จงสถิตย์อยู่กับท่าน จากคุณ : เจไดหนุ่ม เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 55 11:29:40

ความคิดเห็นที่ 41 (ความร้อน)     ถือเป็นปัญหาใหญ่อีกอย่างหนึ่งเลยครับเพราะต่อให้สามารถสร้างอุปกรณ์กำเนิดพลังงานขนาดเล็กขึ้นมาได้จริง  แต่ระหว่างที่กลไกทำงานก็ย่อมต้องมีความร้อนแผ่ออกมาจำนวนมาก  ทำให้การจะนำครื่องมือดังกล่าวมาใส่ในด้ามดาบนั้นเป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย  เพราะมือของคนที่จับด้าบดามอาจจะไหม้เกรียมกลายเป็นเนื้อย่างซะก่อน  ดังนั้นปัญหาก็จะมีเพิ่มเข้ามาคือจะใช้วัสดุอะไรที่มีความทนทานและไม่นำพาความร้อนพอที่จะสามารถนำมาทำเป็นด้าบของดาบ  และสมมุติว่าสามารถหาวัสดุเช่นนั้นได้แล้วจะออกแบบเรื่องของระบบการระบายความร้อนเวลาทำงานอย่างไรไม่ให้เป็นปัญหากับผู้ใช้ดาบ     แลนี่ยังรวมถึงความร้อนที่ออกมาจากใบดาบเลเซอร์อีก  เพราะสมมุติว่าเราสามารถแก้ปัญหาต่างๆข้างต้นไปได้จนหมดแล้วแต่เวลาเปิดใช้ดาบเลเซอร์  ความร้อนจากเลเซอร์ที่มีความเข้มข้นขนาดนั้นย่อมจะแผ่กระจายออกมาในบริเวณโดยรอบแลมีผลกระทบต่อวัตถุใกล้เคียง  ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ไ่ด้เลยที่เราจะสามารถถือดาบเลเซอร์ความร้อนสูงแบบนั้นกวัดแกว่งไปมาแบบดาบทั่วไปได้  เพราะเพียงแค่เปิดกลไกการทำงานปุ๊ปความร้อนของตัวดาบก็มากพอที่จำทำให้ผิวหนังบริเวณมือหรือร่างกายของผู้ที่ถือดาบไหม้เกรียมได้แล้วครับ (May the Spoil be with you) ขอสปอยล์จงสถิตย์อยู่กับท่าน จากคุณ : เจไดหนุ่ม เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 55 11:30:45

ความคิดเห็นที่ 42 ***  นั่นจึงเป็นคำตอบที่ว่าแม้เราจะสามารถสร้าง "ไลท์เซเบอร์" ขึ้นมาใช้ได้จริงๆ  แต่เวลาจะใช้งานก็จำต้องสวมเครื่องแต่งกายซึ่งสามารถป้องกันความร้อนที่แผ่ออกมาจากใบดาบเลเซอร์ได้  โดยเครื่องแต่งกายประเภทนั้นก็มักจะมีขนาดเทอะทะแลไม่สะดวกต่อการใช้ดาบแน่ๆ  ประกอบกับในยุคที่ "ปืน" ก้าวเข้ามามีมีบทบาทแทนดาบโดยสมบูรณ์แล้ว  การเอาเวลาไปพัฒนา "ปืนเลเซอร์" นั้นคงดูจะเข้าท่าและมีประโยชน์กว่าการมาคิดค้น "ไลท์เซเบอร์" แบบนี้เป็นแน่ ป.ล. ดังนั้นเราจึงอาจจะสรุปได้ว่าในที่สุดเทคโนโลยีของ "ดาบไลท์เซเบอร์" หรือ "ดาบลำแสง" ในภาพยนตร์สตาร์วอส์นั้น  สุดท้ายก็เป็นเพียงสิ่งที่ไม่มีวันจะเกิดขึ้นมาได้จริงด้วยเหตุผลตามที่ "เจไดหนุ่ม" ได้กล่าวไปข้างต้นนั่นเองครับ (May the Spoil be with you) ขอสปอยล์จงสถิตย์อยู่กับท่าน จากคุณ : เจไดหนุ่ม เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 55 11:31:17

ความคิดเห็นที่ 43 ***    ขอแถมอีกอย่างหนึ่งที่มีคนสงสัยกันบ่อยคือเรื่อง "สี" ของไลท์เซเบอร์ครับ  โดยสีสันของดาบไลทเซเบอร์นั้นแตกต่างกันไปตามสีของ "คริสตัล" ที่เจไดผู้สร้างดาบนำมาบรรจุในดาบของตนเองครับ  โดยในช่วงยุค "The Old Republic" นั้นยังมีถ้ำคริสตัลกระจายตัวอยู่มากมายทั่วจักรวาล  ดังนั้นเหล่าเจไดจึงสามารถหาคริสตัลสีแปลกๆเช่นเหลือง ม่วง ส้ม ทอง ฯลฯ มาใส่ในไลท์เซเบอร์ของตน (ในยุคนั้นจะมีการใช้สีของใบดาบเพื่อจำแนกตำแหน่งหน้าที่ของเจไดด้วยครับ)      แต่ในช่วงยุค "เอพิโซด1-6" ถ้ำคริสตัลส่วนมากถูกทำลายหรือผุพังไปบรรดาเจไดจึงได้นิยมใช้คริสตัล "สีฟ้า" และ "เขียว" ซึ่งสามารถหาได้ง่ายกว่า  และจะไม่มีการบังคับว่าเจไดระดับไหนต้องใช้ไลท์เซเบอร์สีอะไรทั้งหมดขึ้นอยู่กับความพอใจของเจไดผู้สร้างดาบ  เพียงแต่ที่เฮียมืด "เมซ วินดู" มีสีสันของดาบแปลกกว่าคนอื่น(สีม่วง)เพราะได้ไปปฏิบัติภารกิจที่ดาวดวงหนึ่งแล้วได้ "คริสตัลสีม่วง"ที่หายากมาครับ  ส่วนพวกซิธนั้นนิยมใช้ "คริสตัลสีแดง" ซึ่งเป็นคริสตัลที่สังเคราะห์ขึ้นมาครับ(ไม่ได้มีตามธรรมชาติ)  โดยสีแดงนี้กล่าวกันว่ามันจะให้พลังแสงมากกว่าสีอื่นแต่ไม่มีความเสถียรดังนั้นพวกเจไดจึงไม่นิยมใช้กัน ป.ล. แต่จริงๆแล้วเรื่องใบดาบสีม่วงของ "เมซ วินดู" คือ อีตา "ซามูแอล แจ็คสัน" แกไปขอกับ "จอร์จ ลูคัส" ตอนสร้างภาค "เอพพิโซด2" ว่าอยากจะได้ดาบไลท์เซเบอร์ที่มันแจ่มกว่าคนอื่นได้มั๊ย  ลูคัสเลยจัด "สีม่วง" ให้กับตัวละคร "เมซ วินดู" ที่แกรับบทไปเลยครับ) (May the Spoil be with you) ขอสปอยล์จงสถิตย์อยู่กับท่าน จากคุณ : เจไดหนุ่ม เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 55 11:37:13

ความคิดเห็นที่ 44 คนไทยมันเก่งแต่แขวะ ชำแหละ ให้หัวคิดสร้างสรรค์ปั๊บ จะตัน จะหมดมุกทันที ไม่นับพวกนิสิตไทยที่ไปแข่งหุ่นแล้วได้รางวัลต่างชาติ เขาคนละกลุ่ม ชนกลุ่มน้อย จากคุณ : ดูๆ เอาละกัน เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 55 11:40:06 A:124.122.173.163 X: TicketID:303162

ความคิดเห็นที่ 45 เคยดูสตาวอร์ไช่ใหม เคยเห็นสนามพลังสะท้อนที่ยานใหม นั้นและคำตอนทั้งหมด ในหนังบอกแล้วว่าเป็นอีกจรักวาลหนึ่ง การคิดว่า ฟิสิกของ 2จรักวาลต้องเหมือนกัน นี่ก้ผิดแล้ว เหมือนที่พวกแมนเดอร์ลอ ยกทัพข้ามกาแล็คซี่มาบุกไง จรักวาลสตาวอ แทบสิ้นชื่อ จากคุณ : jackmaster เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 55 12:08:37

ความคิดเห็นที่ 46 ดูนี้ดีกว่า Dr. Michio Kaku Promo นักฟิสิกฟ์ ระดับโลกและแฟน Sci fi  พูดถึงอาวุธ และ เทคโนโยลี ที่สามารถทำได้ และเป็นจริงใน วิทยาศาสตร์ จากคุณ : thanapatpp เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 55 12:35:50

ความคิดเห็นที่ 47 Sci-Fi Science: Physics of the Impossible ตอน ดาบเลเซอร์ ตอนที่ 1 จากคุณ : thanapatpp เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 55 12:37:48

ความคิดเห็นที่ 48 ตอนที่ 2 จากคุณ : thanapatpp เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 55 12:38:33

ความคิดเห็นที่ 49 ตอนที่ 3 สำหรับเรื่อง starwar มี เกือบครบ ทั้งดาวมรณะ ยานดินทางข้ามดวงดาว ไทม์แมทซีน ว่ามีโอกาสแค่ไหน จากคุณ : thanapatpp เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 55 12:41:55

ความคิดเห็นที่ 50 อ่านมา 40 ความคิดเห็น ชอบของ คุณ เจไดหนุ่ม  มากที่สุดครับ อ่านแล้วเข้าใจง่าย ไม่ต้องคิดอะไรให้ยุ่งยาก กด Like ให้ ครับ จากคุณ : เจ้าเมืองบูรพา เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 55 17:42:22

ความคิดเห็นที่ 51 ทำได้ตั้งนานแล้ว โดยสภาเจไดของไทย จากคุณ : au777 เขียนเมื่อ : 20 ม.ค. 55 09:22:25