ความคิดเห็นที่ 1 ศาสนาเค้าหาทางลงไว้ให้เรียบร้อยแล้วสำหรับพวกที่ชอบสงสัย โดยโลก มิติ จักรวาลไม่ได้มีแค่หนึ่ง แต่มีจำนวนมหาศาล บางทีคุณตายไปแล้ว อาจจะไปเกิดโลกอื่นที่ไม่ใช่โลกเดิม จากคุณ : aonesung เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 55 15:44:42

ความคิดเห็นที่ 2 คห.1 อ้าว.....แสดงว่า ยุด 65 ล้านปีก่อน มี มนุษย์ อีก มิติ มาสร้าง นรก สวรรค์ ไว้ หรอ คิดไม่ตกเว้ยเฮ้ย 5555+ แสดง ความเห็น เยอะๆครับ อยากรู้ :P จากคุณ : อยากขี่มอไซค์แต่กลัวล้ม เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 55 15:48:10

ความคิดเห็นที่ 3 อจินไตย...ว่าด้วยความเป็นไปของโลก จากคุณ : เคลื่อนที่ไปข้างหน้าด้วยการโผ เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 55 15:49:52

ความคิดเห็นที่ 4 ทุกสิ่งทุกอย่างมนุษย์ล้วนถูกคิดขึ้นมาทั้งนั้น ตายแล้วเกิดเลย ผมเชื่อเลยว่าพระพุทธเจ้าไม่ได้พูดไว้อย่างนั้น แต่พระพุทธเจ้ากล่าวว่าเรืองของการเกิดและดับ เราเลยตีความเป็นว่า ตายแล้วเกิดเลย นรกสวรรค์ ไม่มีจริง ผมศึกษาดูแล้ว เมือสมัยเจ้ายาลิไล ได้แต่งหนังสือมาเล่มหนึ่งเกี่ยวกับ นรกสวรรค์เพึ่อให้คนเก่งกลัวต่อการกระทำ และปกครองบ้านเมืองได้ง่ายขึ้น .. จากคุณ : kronthon เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 55 15:49:58

ความคิดเห็นที่ 5 อจินติตสูตร       [๗๗] ดูกรภิกษุทั้งหลาย อจินไตย ๔ ประการนี้ อันบุคคลไม่ควรคิด เมื่อบุคคลคิดพึงเป็นผู้มีส่วนแห่งความเป็นบ้า เดือดร้อน   อจินไตย ๔ ประการเป็นไฉน  ดูกรภิกษุทั้งหลาย  พุทธวิสัยของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ๑   ฌานวิสัยของผู้ได้ฌาน ๑   วิบากแห่งกรรม ๑   ความคิดเรื่องโลก ๑   ดูกรภิกษุทั้งหลายอจินไตย ๔ ประการนี้แล ไม่ควรคิด เมื่อบุคคลคิด พึงเป็นผู้มีส่วนแห่งความเป็นบ้า เดือดร้อน ฯ จากคุณ : เคลื่อนที่ไปข้างหน้าด้วยการโผ เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 55 15:51:04

ความคิดเห็นที่ 6 ทำชั่วมากๆก็ไปเกิดเป็นสัตว์บ้าง หมดกรรมก็กลับมาเกิดเป็นคน ถ้ามีผลบุญที่เคยทำ ในภพภูมิ 31 ไม่ได้แบ่งสัตว์ คน แต่แบ่งตามความดีความชั่ว แบ่งตามประเภทของจิต เศร้าหมองมากๆก็อยู่ในนรก แต่ทำความดีมากๆจิตก็ผ่องใสอยุ่สวรรค์ คำว่าตายแล้วเกิดเลย อาจจะเกิดเป็น เทวดา นางฟ้า พรหม หรือ เทพบุตร เทพธิดา เปรต สัตว์ในนรก อสูรกาย หรือคน ก็คือการเปลี่ยนภพภูมิ เขาเรียกว่าเมื่อเริ่มมีการแบ่งเซลล์ หลังจากปฏิสนธิแล้ว ก้จะมีปฏิสนธิจิตเกิดขึ้นพร้อมกัน ------------------- นรกสวรรค์ ไม่มีจริง ผมศึกษาดูแล้ว เมือสมัยเจ้ายาลิไล ได้แต่งหนังสือมาเล่มหนึ่งเกี่ยวกับ นรกสวรรค์เพึ่อให้คนเก่งกลัวต่อการกระทำ และปกครองบ้านเมืองได้ง่ายขึ้น .. ........เรื่องนรกสวรรค์มีมาตั้งแต่ก่อนสมัยพุทธกาลแล้วครับ แก้ไขเมื่อ 18 ม.ค. 55 16:00:11 แก้ไขเมื่อ 18 ม.ค. 55 15:56:49 จากคุณ : venture เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 55 15:54:44

ความคิดเห็นที่ 7 ถ้านับ สิ่งมีชีวิตเป็นเซลล์ ผมอยากเห็น นรก ของ อะมีบา     -*- ------------------------------------------------- นรกมีมาตั้งแต่ก่อน พุทธกาล  แล้ว มาจากไหนครับ ประเด็น คือ นรกที่บอกต่อกันมา  ยมทูต / สุวรรณ / สุวาล และ วิญญาณ ในนั้น มีรุปแบบเป็น มนุษย์   ........ เลยอยากทราบว่า  แล้ว สมัยที่ยังไม่มี มนุษย์     นรก กับ สวรรค์   ไปอยู่ที่ไหนครับ หรือ นรก สวรรค์  นั้น เกิด มาพร้อมกับ คำสอน และ มนุษครับ จากคุณ : อยากขี่มอไซค์แต่กลัวล้ม เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 55 16:03:29

ความคิดเห็นที่ 8 นิทานเขาให้ใช้จินตนาการ ไม่ได้ให้พิจารณาข้อเท็จจริง จากคุณ : ... เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 55 16:08:51 A:125.26.218.53 X: TicketID:208572

ความคิดเห็นที่ 9 พระพุทธเจ้าไม่ได้กล่าวเรื่องนรกสวรรค์ แต่ได้ทำการสังคายนาพระไตรปิฎกก็ได้เอาเรื่องนี้ใส่เข้าไปด้วย ผมไม่ได้ว่าไม่ให้ใครเชื่อผมนะ ผมเองก็กลัวในการทำบาปอยู่เช่นเดิม  แต่อยากจะหาความจริงแค่นั้นเอง จากคุณ : kronthon เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 55 16:10:44

ความคิดเห็นที่ 10 พระพุทธองค์สอนว่า ทำกรรมได้ ย่อมได้ผลเช่นนั้น ไม่ได้สอนว่า ทำบาปแล้วตายไปตกนรก เรื่องนรก สวรรค์ แต่งขึ้นที่หลังทั้งนั้น จากคุณ : Darkvider เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 55 16:19:35

ความคิดเห็นที่ 11 จริงหรือพระพุทธเจ้าเกิดมาไม่ได้เดิน 7 ก้าว จริงหรือรอยเท้าพระพุทธบาทเป็นของพระพุทธเจ้า จริงหรีอที่มีพระธาตุของพระพุทธเจ้าอยู่ทั่วโลก จริงหรืออีกต่างๆมากมายที่มนุษย์เราทำไม่ได้ ในพระไตรปิฎกกล่าวไว้ จงอย่าเชื่อ 10 ประการ ท่านๆลองที่จะไม่เชื่ออะไรบางอย่างดูซิแล้วลองหาคำตอบดู ท่านจะรู้ว่าศาสนาพุทธที่แท้จริงเป็นอย่างไร... จากคุณ : kronthon เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 55 16:22:11

ความคิดเห็นที่ 12 คห.11 ผมคิดเหมือนคุณ   คือ   ศาสนาน่ะดี   สอนให้คนเป็นคนดี  แค่นี้พอแล้ว ส่วนเรื่องเหนือ ธรรมชาติ ใดๆ ผมว่าเป็นเรื่อง ปรุงแต่งขึ้น ให้คน ศรัทธา ครับ แต่ด้วย ปัจจุบัน  คนเรางมงาย กับสิ่งที่มองไม่เห็น เกินไป เชื่อทุกอย่าง มันเลยออกมาเป็นแบบนี้ ผมอยากให้ทุกคน ที่ฝักใฝ่ ลองมองให้กว้าง หาเหตุ และ ผล คิดย้อน กลับไป น่าจะ รู้ได้โดยไม่ต้อง หาอะไรมาอ่าน เพิ่มเติม เลย ครับ แก้ไขเมื่อ 18 ม.ค. 55 16:28:31 จากคุณ : อยากขี่มอไซค์แต่กลัวล้ม เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 55 16:24:56

ความคิดเห็นที่ 13 *****ถ้า เอา คห. นี้ไป ตั้งที่ห้อง ศาสนา ตรู จะโดนอะไรไหม ว้า ***** แค่อยากรับความคิดเห็น จากหลายๆฝ่าย   เผื่อ อาจจุเป็นตัวผมเองก็ได้ ที่ต้องเปลี่ยน ความคิด :P จากคุณ : อยากขี่มอไซค์แต่กลัวล้ม เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 55 16:26:15

ความคิดเห็นที่ 14 หลายๆเรื่องปาฏิหารย์ผมว่าคือกุศโลบายครับ จากคุณ : GT4Max เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 55 16:33:07

ความคิดเห็นที่ 15 คห.13   ผมเคยอัดกับคนในห้องนั้นมาแล้ว ใหญ่ๆจะมีอยู่ 2 กลุ่มคือ คนเชื่อแบบงมงาย ใครพูดอะไรเชื่อไปหมด เพราะเชื่อตามเขามา  กับคนเชื่อแบบมีความคิด ยอมรับความคิดคนอื่น.... จากคุณ : kronthon เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 55 16:35:27

ความคิดเห็นที่ 16 เรารู้จึกคำว่า ศาสนาพุทธ ยังไร.... ศาสนาพุทธให้นับถือของแค่ 3 อย่างเท่านั้น คือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ นอกเหนือจากนี้ไม่ใช้ศาสนาพุทธ... พระพุทธ เป็นตัวแทนของพระพุทธเจ้า  พระธรรม เหมือนกับเป็นแผนที่ว่าจะเดินไปจุดนั้นอย่างไร  พระสงค์ เหมือนกับเป็นพี่เลี้ยงในการศึกษาในพระธรรม   เจ้าพ่อเจ้าแม่ต่างๆในศาสนาพุทธไม่มี ผีตานี ผีแม่ตะเคียนทอง ผีโน้นนั้นศาสนาพุทธก็ไม่มี ร่างทรงพระแม่ลักษมี พระแม่อุมาเทวี ต่างๆ ศาสนาพุทธก็ไม่มี   การบนบานศาลกล่าวต่อเทวดาศาสนาพุทธก็ไม่มี   การไปขูดหาหวยตามต้นไม้ หรือดินจอมปลวกศาสนาพุทธไม่มี   เรื่องนรกสรววค์จริงๆแล้วศาสนาพุทธไ่ม่ได้กล่าวไว้แต่ศาสนาพุทธสอนเรื่องการเกิดดับ ไม่ได้สอนเรื่องชาติหน้า อีกหลายๆอย่างที่คนไม่รู้ก็นึกว่าเป็นศาสนาพุทธ พระพุทธรูปคือตัวแทนของพระพุทธเจ้าซึ่งพระพุทธเจ้าก็ไม่ได้ให้สร้างแต่ก็เป็นตัวแทนของพระพุทธเจ้า อันนี้อนุโลมกันได้ไม่ว่ากัน พระเครื่องต่างๆพระพุทธเจ้าก็ไม่ได้กำหนดไว้ แสดงอภินิหารเหาะเหินเดินอากาศเชื่อเลยว่าพระพุทธเจ้าไม่ได้สอนไว้แน่นอน ศาลพระภูมิก็ไม่ใช่ศาสนาพุทธ ลองตัดส่วนที่ไม่ใช่ออกไปก็จะเห็นแก่นแท้ของศาสนาพุทธที่แท้จริง ศาสนาพราหมณ์ฮินดูพุทธคนไทยเอามารวมกันจนจะแยกไม่ออกแล้วว่าใครเป็นใคร แต่คนเราๆกับกลัวในความคิดที่คิดต่างไปจากคนอื่นหรือคิดต่างจะความคิดเดิมที่เราเคยเชื่อมาก่อน สรุปว่า คนๆอย่างเราแค่นับถือศิล 5 ให้ได้ ไม่หลงเชื่อในสิ่งที่มองไม่เห็น เมือมีความโลภหรือความเชื่อก็จะมีเจ้าพ่อเจ้าแม่ผีลางเทวดาเกิดเป็นธุระกิจขึ้นมา ทำจิตใจให้สงบ ศาสนาพุทธแปลว่าศาสนาแห่งการกระทำ (ทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว) ไม่ใช่ศาสนาแห่งการขอครับ.... จากคุณ : kronthon เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 55 16:46:37

ความคิดเห็นที่ 17 ไม่เชื่อและไม่ใส่ใจกระพี้ครับ ผมเปรียบว่า ในผลไม้หนึ่งลูกย่อมมีเปลือกที่หนาเพื่อป้องกันแมลง, เนื้อผลไม้ และ เมล็ด กระพี้ก็เหมือนเปลือก ป้องกันตัวแก่นคำสอนที่เป็นเนื่อผลไม้ถูกลบเลือนหายจากการไม่เคารพศาสนา, การท้าทายลบหลู หรือจากอิธิพลของศาสนาอื่น ส่วนเมล็ดก็คล้ายกับพิธีกรรม คำภีร์ หรือวัตถุเคารพ เพื่อทำให้มีการปฎิบัตศาสนกิจเป็นกิจวัตรประจำวัน เพื่อดำรงความเชื่อศาสนาให้อยู่รอดต่อไปไม่เลือนหายจากกาลเวลา แต่สิ่งที่เป็นสาระจริงๆคือ "แก่น" ของหลักคำสอนตะหาก ศาสนาเปรียบกับผลไม้ดิบๆ หนึ่งลูก มีทั้ง เปลือกหนา เมล็ดแข็ง และเนื้อผลไม้อันโอชะ ถ้ารับความเชื่อศาสนาเข้าไปโดยไม่พิจารณาเลือกว่าส่วนไหนมีเอาไว้ทำอะไร เชื่อโดยคำสอนบอกเล่าต่อๆกันมา สอนกันมา มีนรก สวรรค์ โดยไม่พิจารณาถึงแก่น มันก็หาประโยชน์อะไรไม่ได้ เหมือนกับว่าเรากินผลไม้เข้าไปทั้งลูกโดยไม่ปอกเปลือก ไม่แยกเมล็ด มันก็ไม่รู้รสชาดที่แท้จริงของผลไม้ แล้วสุดท้ายเราก็บอกว่ามันไม่อร่อย เดิมผมเชื่อว่ากระพี้เหล่านั้น ถูกเติมมาที่หลังโดยจุดประสงค์เพื่อใช้ปกครองคนหมู่มาก ให้อยู่ในกฎ ในศีล ในธรรม ด้วยว่าคนมีหลายประเภท ทั้งบัวเหนือน้ำ, ปริ่มน้ำ, ใต้น้ำ และใต้ตม คนประเภทเหนือน้ำหรือปริ่มน้ำ สามารถพิจารณาความจริงของแก่นคำสอนได้อย่างไม่ยากเย็นนัก กลุ่มนี้จะเข้าใจว่าทำไมถึงไม่ควรทำชั่ว ซึ่งความเข้าใจนี้จะเกิดโดยปัญญากับเค้าเอง และสามารถเข้าสู่กระบวนการยกระดับจิตใจและสติปัญญา ในขั้นที่สูงยิ่งขึ้นๆไปได้ โดยอาศัยแนวทางจากหลักศาสนา แต่กับประเภทใต้น้ำ หรือใต้ตมซึ่งไม่สามารถตีความหมายออก จะต้องใช้ความเชื่อแบบฝังรากหรือเราจะเรียกว่ากุศโลบายสอนให้เชื่อในเรื่องนรก-สวรรค์ คนทำปาบจะตกนรกเพื่อป้องปรามไม่ให้คนกลุ่มนี้ทำชั่วต่อๆไป และมีความเกรงกลัวที่จะทำชั่วด้วยว่าจะได้รับการลงโทษในนรก ดังนั้นทุกศาสนา ก็มีทั้งคนที่แค่นับถือแต่ในนาม,ผู้ที่เข้าใจอย่าผิวเผิน และผู้ที่เข้าใจแก่นอย่างถ่องแท้ ปนๆกันไปครับ จากคุณ : Depth In The Ocean เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 55 16:51:09

ความคิดเห็นที่ 18 ส่วนปรากฎการ ผี วิญญาณ โดยส่วนตัวผมนะ ผมเชื่อว่ามีจริง แต่อยู่ในรูปฟิสิกส์พลังงานจิต ผมมีความเชื่อว่า สิ่งมีชิวิตชั้นสูงที่มีสมองขนาดใหญ่ ในส่วนของสมองสามารถแสดงพลังออกมาได้ในรูปพลังงานคลื่น ที่มีเจตจำนง ตอนนี้เราค้นพบคลื่นสมองแล้ว คลื่นเบต้า อัลฟ่า ต่่งๆแสดงต่างกันตามสถาวะจิตและสมาธิ และพลังมวลนี้ สามารถมีอิธิพลต่อคลื่นพลังในสมองของมนุษย์คนอื่นๆ ที่มีความถี่ที่สามารถจูนกันติดได้ หรือ พลังงานจิตความคิด  ซึ่งมวลก้อนนี้สามารถอยู่ล่องลอยอิสระจากร่างกายที่ตายไปแล้วได้ ในสถาวะที่เราคุ้นเคยกับคำว่าวิญญาณ ผมเชื่อเหลือเกินว่าอีกไม่นาน เราจะก้่าวข้ามข้อจำกัดทางวิทยาศาสตร์ในเรื่องพลังงานจิต และสามารถพิสูจน์การมีอยู่ของพลังงานวิญญาณได้อย่างเป็นรูปธรรม รวมถึงรูปแบบของพลังงานจิตในแบบต่างๆ จากคุณ : Depth In The Ocean เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 55 17:04:03

ความคิดเห็นที่ 19 คนที่ยังไม่ศึกษาพุทธพจน์ ลองอ่านให้จบก่อน www.84000.org อย่าพยายามเลือกเชื่อแต่สิ่งที่ตนชอบใจ มีอริยสงฆ์ท่านพิสูจน์มาแล้ว ถ้าศึกษาแบบคนสมัยใหม่จะคัดแต่สิ่งที่ตนเข้าใจ อันไหนไม่เข้าใจ ก็ตีว่าเป็นเรื่องงมงาม เหนือธรรมชาติไปอีก ทั้งๆที่หลายเรื่องต้องคนที่ทำจิตให้ปราศจากอุปกิเลสให้ได้ก่อน จึงจะรู้ตามได้หมด ยังมีเรื่องอภิญญาจิตที่คนสมัยใหม่ที่ยังเป็นเพียงปุถุชน (กิเลสยังหนา) เข้าใจตามได้ยากอีกมากมาย อยากขี่มอไซค์แต่กลัวล้ม ..... เรื่องความรู้ภพภูมิมีมาแต่สมัยพราหมณ์แล้ว ไม่ได้ศึกษาหรือย่างไร พวกที่บอกว่าแต่งขึ้นในสมัยหลังๆนั้น เขาทำให้คนในรุ่นนั้นเข้าใจด้วยภาษาง่ายขึ้นต่างหาก จากคุณ : venture เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 55 17:29:20

ความคิดเห็นที่ 20 kronthon ศาสนาพุทธให้มีพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง แต่ที่คุณเขียนมา มันมีอยู่ก่อนแล้วในโลก ในทุกประเทศ พระพุทธเจ้าท่านก็พิสูจน์แล้วว่า ไม่ใช่ทางพ้นทุกข์ ไม่ใช่บอกว่าไม่มีอยู่จริง แต่มีอยู่จริงๆ ซึ่งไม่ได้ช่วยให้พ้นทุกข์อย่างสิ้นเชิง เรื่องนรกสรววค์จริงๆแล้วศาสนาพุทธไ่ม่ได้กล่าวไว้..... แหม แล้วตอนที่เสด็จไปสอนธรรมพระมารดาตลอด สามเดือน บนดาวดึงส์ หรือแม้แต่ เปิดสามโลกให้เห็นกันหมด นรก มนุษย์ สวรรค์ ยังมีอีกหลายเรื่อง ที่ปุถุชนพิสูจน์ไม่ได้ อย่าไปสรุปว่าไม่มี คนที่เขาพิสูจน์ได้มีอยู่ครับ พูดแบบนี้ต้องถามก่อนว่า คนที่เห็นกายละเอียด ด้วยทิพยจักษุญาณ มีจริงไหม จากคุณ : venture เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 55 17:34:51

ความคิดเห็นที่ 21 นรก สวรรค์ และวัฏสงสารสร้างมนุษย์ หรือ มนุษย์สร้างนรก สวรรค์ และวัฏสงสาร จากคุณ : Black-ops เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 55 17:39:08

ความคิดเห็นที่ 22 ถ้า ทำการสังคายนาพระไตรปิฎกก็ได้เอาเรื่องนรกสวรรค์ ใส่เข้าไปด้วย หมายถึง แต่งเติมเข้าไปเอง คงจะวุ่นวายน่าดูนะครับ  มีคนสมัยใหม่ที่พยายามจะฉีกพุทธพจน์ออก ด้วยเหตุผล ตนเองพิสุจน์ไม่ได้ ด้วยตรรกะแบบมนุษย์ปุถุชน แต่ลืมไปว่า ยังมีอีกหลายเรื่องที่ ปุถุชน เข้าใจตามไม่ได้เลย ถ้ายังมีอวิชชา บดบังอยู่ หลายๆเรื่องมีอยู่จริง แต่ก็มิใช่สาระที่ต้องรู้ ถ้าเอาแก่นจริงๆ พอเข้าถึงแล้วเรื่องอื่นๆ จะหมดความลังเลสงสัยไปเอง มนุษย์ที่เรียกว่า พระพุทธเจ้า ก็ไปรับรู้การมีอยู่ของสรรพสิ่ง ที่มีอยู่ก่อนแล้วในธรรมชาติ  แล้วชี้ทางแห่งการหลุดพ้นจากวัฏฏสงสาร แก้ไขเมื่อ 18 ม.ค. 55 17:45:35 จากคุณ : venture เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 55 17:44:14

ความคิดเห็นที่ 23 พระธรรมคือแก่น แต่ก็ต้องมีปาฏิหาริย์เพื่อจูงใจให้คนเชื่อถือ คนมีหลายจำพวก คนบางพวกไม่ต้องสนเรื่องนรก-สววรรค์ ก็ทำดีได้ แต่คนบางพวกยังต้องใช้นรก-สวรรค์ เพื่อสอนให้ทำดี จากคุณ : paramedian เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 55 17:49:28

ความคิดเห็นที่ 24 #23 จริงครับ จากคุณ : สิงโตยนต์ เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 55 18:46:36

ความคิดเห็นที่ 25 คุณ venture  ยังไม่เข้าใจ สิีงที่ผมต้องการจะสื่อ ผมต้องการบอกว่า สมัย 65ล้านปีก่อน เป็นยุคไดโนเสาร์ ยุคนั้น ไม่มีมนุษย์ เพราะฉะนั้นถึงไม่มีนรกสวรรค์   แต่คนเราเพิ่งจะรู้จัก นรก สวรรค์ เฉพาะตอนที่มนุษย์ เกิดมาใช่มะ  ไม่ว่าจะเป็นยุคสมัยไหนก็ตาม เพราะงั้นน่าจะสรุปได้ว่าไงล่ะ จากคุณ : อยากขี่มอไซค์แต่กลัวล้ม เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 55 19:12:53

ความคิดเห็นที่ 26 .........................  นั่นนะซิครับ น่าคิดเหมือนกันว่ามาจากไหน เมื่อมองว่า ความเชื่อ เรื่องนรก สวรรค์ เทวดา มาจากไหน แต่ว่า ทุกศาสนา ก็มีเรื่องนี้ เหมือนกันหมด แตกต่างกันที่รายละเอียด หรือว่ามันจะอยู่ใน  พันธุกรรม อะไรๆ ของมนุษย์  ถ้าดูจากศาสนาพุทธ ท่านก็ว่า มีพระพุทธเจ้า มาแล้ว มากกว่า 20 พระองค์ เฉพาะช่วงเวลา ในกัปป์ นี้ เวลานานมาก มีบางคน คำนวณได้ว่า  ประมาณ เท่ากับ อายุของจักรวาลนี้ ก็ เพิ่งมีมา 4 พระองค์ องค์ ที่ 5 ยังไม่มา... ก็ได้ว่า อาจมีจักรวาลเกิดแล้วดับ มาแล้วหลายๆ จักรวาล ก็ได้  ถ้าเรื่องนรก สวรรค์ เทวดา เป็นเรื่องที่คนยุคก่อน ในจักรวาลก่อนๆ เตือนกันไว้ว่า  มีนรก มีสวรรค์ หรือ บางสิ่งที่เป็นอย่างนั้น ตามกรรม ของบุคคล หรือ สิ่งมีชีวิต หรือดวงดาว นั้นๆ จน มันอยู่ในพันธุกรรม จีโนม หรือ อะไรๆ ที่เก็บของเหล่านี้ไว้ได้ อาจจะเนื่องจาก ความสามารถของสิ่งมีชีวิต ระดับเราๆ ไม่สามารถหรือ ยังไม่สามารถ พิสูจน์ สัมผัส มองเห็น สิ่งเหล่านั้นได้โดยปกติ เหมือนที่นักวิทยาศาสตร์ ค้นหา ปฏิสสาร หรือ เหมือนจะรู้ว่า แสงไม่ได้เร็วที่สุด เหมือนจะรู้ว่า จักรวาลมีหลายมิติ แต่ก็ไม่รู้จะพิสูตรอย่างไร  ในชิวิต ที่แสนสั้น ของคนเรา ผมว่า เชื่อว่ามีเพราะว่า จะได้ทำดี เวลา จะละโลกไปก็ไม่เป็นกังวล ก็ไม่เสียหลาย 5555555 ตอนนี้ชักจะมีความเห็นว่า คนโบราณ บอกว่า บางคนทำกรรมดีกรรมชั่วไว้ ประมาณนึงไว้ แล้วได้ไปเกิดเป็นดาวนั่นดาวนี่ ก็ไม่แน่ ถ้ากรรมดีก็ได้ไปเกิดในที่ที่ไม่ใกล้ หลุมดำ เป็นดาวฤกษ์ ส่องสว่างมีบริวาร ของตัวเอง555 ก็ว่ากันไป จักรวาลมีเวลาพอ และ มีที่ว่างพอที่จะเป็นนรก สวรรค์ นะผมว่า........    จากคุณ : รักน้องนก เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 55 19:58:28

ความคิดเห็นที่ 27 ว่าด้วยคำสั่งสอน... การทำดี หนทางแห่งการปลดทุกข์ คำสั่งสอนที่เรียบง่ายที่พระพุทธเจ้าทิ้งไว้ให้ปฏิบัติ แค่นี้ก็ขึ้นสวรรค์แล้วครับ ส่วน นรก สวรรค์ ผมไม่สนใจเลย เชื่อหรือไม่เชื่อ นั่นยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ ผมเลยตีความหมายว่า ไม่ใช่คำสั่งสอนของพระองค์ท่าน!!! แค่ไม่กี่ข้อที่พระองค์ท่านทิ้งไว้ ถ้าสามารถทำได้ แค่นี้ก็มีพระคุณต่อมวลมนุษย์แล้ว เรื่องอื่นอย่าไปสนเลยครับ มาทำดีกันดีกว่า^^ จากคุณ : Whalephant เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 55 20:02:45

ความคิดเห็นที่ 28 จขกท ไม่ต้องกังวลหรอกครับ ถ้า จขกท นับถือพระพุทธศาสนา คุณก็เป็น ชาวพุทธที่คิด อย่างถูกต้องตามหลักของพระพุทธศาสนา อย่างไม่ต้องสงสัย ถ้าคุณคิดว่าเพียง แต่ศรัทธา แต่ไม่คิดสงสัยในคำสอนเลย ก็ได้แค่ ชื่อว่าพุทธศาสนิกชน แต่ถ้าคุณ ตั้งคำถาม คุณก็ชือว่าเป็นชาวพุทธที่ประกอบด้วยปํญญาอย่างแท้จริงครับ จากคุณ : pattarat เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 55 20:36:20

ความคิดเห็นที่ 29 เอาแบบผมโยงตามความคิดของผมนะ สมมติว่า บิ๊กแบ๊งเป็นเรื่องจริง ก็แสดงว่า ต้องเคยมีมาก่อนหน้านั้นหลายครั้งแล้ว(ผมเดานะ) และก้อนหน้านั่น อาจจะเคยมีโลกมาหลายครั้งหลายหนแล้ว โลกเกิดหนึ่งครั้ง บางทีก็มีมนุษย์ บางทีก็ไม่มีมนุษย์บางทีก็มี มีพระพุทธเจ้า หรือพระปัจเจกพุทธเจ้าอุบัติมา 1 ครั้ง(บางทีมีโลกแต่ก็ไม่มีศาสนา หรือพระพุทธเจ้าเลย) เพราะพระพุทธเจ้า ในอดีตมีมากมายหลายพระองค์ ตั้งแต่ไม่รู้กี่แสนอสงขัย กี่ล้านกัปป์ โลกเกิดดับ ๆ เกิดดับ ไม่รู้กี้ล้านครั้ง มันวนเวียนเป็นลูป อยู่ ไม่รู้จบ นรก สวรรค์ ก็น่าจะมีมานาน ๆๆๆๆ จนไม่รู้จะบอกว่ายังไง มันมีเกิดดับ เกิดดับอยู่ตลอด แต่อาจจะใช้เวลานานมาก บางครั้ง อายุมนุษย์ ก็ยืนยาว มากถ้าเทียบกับอายุของคนปัจจุบัน อายุเป็นร้อยเป็นพันปี เป็นหมื่นปี ผมว่าความรู้เรายังตัน ศึกษายังไงมันก็ตันอยู่ เหมือนเราอยู่ในลูกโป่งที่ปิดมิดชิด เราจินตนาการไม่ได้หรอกว่านอกลูกโป่งมันเป็นยังไง คิดยังไงก็คิดไม่ออก เราคิด เรารู้แค่ภายในลูกโป่งนี่แหละ จนกว่าจะมีคนออกไปนอกลูกโป่งแล้วมาเล่าให้ฟังว่า นอกลูกโป่งมันเป็นอย่างนั้นอย่างนี้นะ แต่ถ้าคนไม่เชื่อ เขาก็หาว่า ไอ้คนไปมาแล้วมันบ้า พิสูจน์ไม่ได้ เอาอะไรมาพูด  ไร้สาระ แต่บางคนกลับสนใจว่า ลองทำตามไอ้คนที่มันออกไปแล้วดีกว่า ว่ามันไปกันยังไง ประมาณนี้มั้ง อย่าว่าผมนะ ผมคิดอย่างนี้จริง ๆ จากคุณ : Serial_Nuber เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 55 21:43:24

ความคิดเห็นที่ 30 #8 นิทานมีไว้เพื่อความบันเทิง บางเรื่องยังให้คติสอนใจ แต่ใช่ว่าจะให้ยึดถือเป็นเรื่องจริง เอาไปลองที่บ้าน หรือครุ่นคิดหาความเป็นไปได้ จากคุณ : Sgt.Oat เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 55 22:34:06

ความคิดเห็นที่ 31 1.คุณสงสัยอะไร ยังงงกับข้อสงสัยของคุณ 2.ผมว่า เรื่องบิ๊กแบงก็ยังเป็นเรื่องที่ถกเถียงกันอยู่เลยครับ แล้วเรื่องยุคไดโนเสาร์ เราจะรู้ได้อย่างไรว่าไม่มีมนุษย์ ไม่มีอารยธรรม มันอาจจะจมไปในมหาสมุทรก็ได้ แล้วเรื่องสัตว์เซลล์เดียวตอนกำเนิดโลกมันก็ยังเป็นทฤษฏีที่สามารถลบล้างได้ ถ้ามีหลักฐานอื่นๆมาแสดง สรุปตามความคิดของผม วิทยาศาสตร์ยังไม่สามารถตอบได้ทุกสิ่ง ศาสนาก็ไม่ใช่ทุกอย่างของชีวิต เอามาเปรยบเทียบกันก็เหมือนเอาซอฟแวร์มาเปรียบเทียบกับฮาร์ดแวร์แหละครับ มันคนละทางกัน จากคุณ : เทียนกี้แซยี่ ฮ่อปิ๊ดแซเหลียง เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 55 23:05:00

ความคิดเห็นที่ 32 ความคิดเห็นที่ 31 1.คุณสงสัยอะไร ยังงงกับข้อสงสัยของคุณ   >>>>>>> ศาสนาการเมืองครับ แก้ไขเมื่อ 18 ม.ค. 55 23:34:13 จากคุณ : pattarat เขียนเมื่อ : 18 ม.ค. 55 23:32:38

ความคิดเห็นที่ 33 เรื่องปาฏิหาริย์ทางศาสนาต่างๆเราว่าเสียเวลามากที่จะมานั่งเชื่ออ่ะ เอาเวลาไปเชื่อเรื่องมนุษย์ต่างดาวดูจะมีสาระมากกว่าเลย เพราะเราเหมือนฝุ่นท่ามกลางจักรวาลอาจจะมีสิ่งมีชีวิตแบบอื่นอยู่ก็ได้ ยิ่งสำรวจลึกลงไปในน้ำก็ยิ่งเจอปลาหน้าตาประหลาดตาบอดบ้างอะไรบ้าง แล้วทำไมนอกโลกจะไม่มีบ้าง แล้วพวกศาสนานี้ เค้าก็แต่งๆไว้ให้คนศรัทธาเชื่อถือไปอย่างนั้นแหละ เคยมีำคำกล่าวบอก พระเจ้าสร้างคน หรือคนสร้างพระเจ้า? น่าคิดไหมละ เวลาสวดมนต์ มันก็เหมือนเราพูดภาษาอื่น พูดไปเรื่อยๆ คนรอบตัวเราถ้าไม่เดือดร้อน ไม่หนีหนี้ ก็ไม่สวดมนต์ ไม่ทำความดีขึ้นมา มันไม่มีประโยชน์ บางคนคิดว่าเล่นนู่นนี่แล้วจะรวย แต่ตัวเองก็ยังเล่นการพนันอยู่เหมือนเดิม แล้วมันจะรวยไง มันเหมือนสิ่งที่คนเราเอามาบังหน้าเวลาจะทำอะไรแค่นั้นแหละ งงมั้ยละ นรก สวรรค์ ถ้าเราตายประเทศบราซิลนี้ เราจะไปลง นรกไหน นรกไทย หรือนรกบราซิล เราเห็นด้วยกับคำพูดที่ประมาณว่าไม่จำเป็นต้องมีศาสนา ก็ทำดีได้ ปากเราบอกไม่ลบหลู่ แต่พอพูดอะไรในความคิดทำนองนี้ มันก็เข้าข่ายลบหลู่ทั้งนั้นแหละ เราก็ทำตัวไม่ค่อยมีศาสนาไป ก็อยู่ได้ดีในชีวิตประจำวัน แต่ถ้าเขาทำพิธีไรกัน ก็ทำไปกับเขา เข้าเมืองตาหลิ่ว ก็หลิ่วตาตาม จากคุณ : THe Capital Monkey เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 55 00:02:40

ความคิดเห็นที่ 34 ผมต้องการบอกว่า สมัย 65ล้านปีก่อน เป็นยุคไดโนเสาร์ ยุคนั้น ไม่มีมนุษย์ เพราะฉะนั้นถึงไม่มีนรกสวรรค์   แต่คนเราเพิ่งจะรู้จัก นรก สวรรค์ เฉพาะตอนที่มนุษย์ เกิดมาใช่มะ  ไม่ว่าจะเป็นยุคสมัยไหนก็ตาม เพราะงั้นน่าจะสรุปได้ว่าไงล่ะ คำตอบของคำถามนี้คือ คุณ "อยากขี่มอไซค์แต่กลัวล้ม" เรียงลำดับผิดเลยสับสนไป และ เพราะคุณไปติดอยู่ตรงคำว่า มนุษย์ ก็เลยเจอทางตันชีวิตและ การเดินทางของพวกเรานั้นมีมาก่อน การเกิดของดาวดวงนี้ ที่เรียกว่าโลก ยาวนานกว่านั้นมากมายนัก เหมือนการลากเส้นตรงเส้นหนึ่ง โดยใช้วิธีเอาปากกามาทำ จุด ติดๆกันเอา แล้วให้ปลายหนึ่งเป็นจุดเริ่มต้น อีกปลายหนึ่งเป็น นิพพาน อายุของดาวดวงที่เราเรียกว่าโลกนั้นยืนยาวเท่ากับ จุด1จุดเท่านั้น ส่วนพวกเราก็วนเวียนอยู่ในนั้นมานานหลายรอบจน มึนงงไปหมดแล้ว และเส้นการเดินทาง ของแต่ละคนก็ยาวไม่เท่ากัน อยู่ที่ใครจะไป นิพพานก่อนกัน หวังว่า จขกท. จะเห็นมุมมองอันใหม่นี้นะครับ จากคุณ : wiswa เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 55 09:38:19

ความคิดเห็นที่ 35 1 อย่าใช้คำว่าสร้าง 2 ทุกข์ สุข ความรู้สึกทั้งหลายแหล่ ไม่ได้มี เฉพาะในสภาพมนุษย์ 3 ภาพนรกสวรรค์ที่มีคน เป็นแค่การเปรียบเทียบ คล้ายๆจิตนาการกับความฝัน ใจที่ร้อนรุ่มกระวนกระวาย ลองจินตนาการถึงอาการลงแดงดู นั่นแหละ นรก  มันอาจจะเลยเถิดไปถึงขั้นว่า เหมือนมีหอกมาทิ่มแทงทั่วตัว... 4 นรก สวรรค์ เกิดขึ้นตอนไหน ก็เกิดขึ้นครั้งแรก ตอนที่มีจิตแรกๆ มีอาการลงแดง หรืออาการจิตสวรรค์นั่นแหละ อย่าไปคิดว่ามันเป็นสถานที่ จิตในทางพุทธ เน้นที่สภาพ แต่ค่อนข้างจะพ้นจากเรื่องระยะทาง ถึงได้ไปเกิดในที่ไกลๆได้ทันที 5 นรกของอมีบ้า หลายอย่างที่วิทย์นิยามเป็นสิ่งมีชีวิต พุทธไม่ได้บอกว่าใช่ เพราะฮาร์ดแวร์นั้นๆ ลงโอเอสของจิตนี่ไม่ได้ ไดรเวอร์มันไม่เข้ากัน การทำงานพื้นฐานของจิตเกี่ยวกับ ผัสสะ รู้จำ ตอบสนอง วนซ้ำ อะไรพวกนี้ มันไม่รองรับ ฉะนั้นก้ไม่มีพวกนรก สวรรค์อะไรนั่นไปด้วย คล้ายๆที่ไวรัสวินโดวน์ ไม่มากินแม็ค มีประเดนอะไร ก็ถามมาอีกนะครับ ผมอาจจะได้ประเดนอะไรดีๆจากจขกท. จากคุณ : aLITTLEspaceAround7day เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 55 14:23:38

ความคิดเห็นที่ 36 ขอถามคุณ aLITTLEspaceAround7day ครับ จากคุณ : อยากขี่มอไซค์แต่กลัวล้ม เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 55 15:18:35

ความคิดเห็นที่ 37 สมมุติว่ามีจริงแล้ว..... แก้ไขเมื่อ 19 ม.ค. 55 16:50:40 จากคุณ : ลูกมาร เขียนเมื่อ : 19 ม.ค. 55 16:31:40