ความคิดเห็นที่ 1 ขี้เกียจ   อย่าไปหาเหตุผลอื่นเลย     จากคุณ : การกินเป็นสิ่งจำเป็น เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 55 22:16:43

ความคิดเห็นที่ 2 ซื้อเครื่องไว้ที่บ้านจะสะดวกกว่าใหมครับ บางทีเพราะเราไม่สะดวกที่จะออกไปวิ่งข้างนอกบ้านก็เป็นได้ แก้โดยการซื้อเครื่องวิ่งวิ่งในบ้านนี่และครับ จากคุณ : pvman65 เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 55 22:24:40

ความคิดเห็นที่ 3 ขี้เกียจ + ไม่มีแรงบัลดาลใจครับ ถ้าซื้อมาไว้ที่บ้าน ก็คงเอาไว้ตากผ้าครับ จากคุณ : Vkvs09 เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 55 22:27:29

ความคิดเห็นที่ 4 ขี้เกียจ คือคำตอบสุดท้าย จากคุณ : evillcore เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 55 22:39:50

ความคิดเห็นที่ 5 เมื่อปี 54 งานเยอะ เหนื่อย กลับบ้านก็เหนื่อย อยากเล่นหว้ากอ อยากดูหนัง มีอะไรที่ชอบและอยากทำอีกเยอะกว่าออกกำลังกาย แต่มาปลายปีงบประมาณถึงตอนนี้ว่างขึ้นมากเพราะโครงการเก่า ๆ จบไปหมดแล้ว เหลือแค่งานหลัก และโครงการเล็ก ๆ น้อย ๆ(ถ้างานโครงการใหญ่ ๆ เข้ามาอีกก็เหนื่อยอีก) ทำให้มีเวลาให้คิดอะไรมากขึ้น มีเวลาออกกำลังกาย รู้สึกสุขภาพดีขึ้น หุ่นเฟริ์มขึ้น หน้าตาก็สดใสไม่ตึงเครียดแบบเมื่อก่อน แบบนี้ดีมากเลย จากคุณ : ลาบเลือดน้ำตกซกเล็ก เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 55 22:40:21

ความคิดเห็นที่ 6 วิ่งที่ถนนเมืองไทยมันดีนะครับ ต้องคอยหลบมอไซด้วยฮ่าๆๆ จากคุณ : bankpakim เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 55 22:43:34

ความคิดเห็นที่ 7 พอวิ่ง สักพักก็บ่นเจ็บขาแล้วก็เลิกวิ่งไป ดูจากน้ำหนักแล้ว ผมก็เคยเป็นวิ่งได้เดือนเดียวเจ็บขาเลยเลิกไปเลย ตอนนี้มาคบกับจักรยาน แรงกระแทกตาข้อตามเข่าน้อยกว่ามาก ปั่นแล้วเหมือนได้เที่ยว ปั่นมา 2 ปีแล้ว วันละ 30 กิโลขึ้นไป ทุกวันนี้ติดมาก นอนตี1 ตื่น 6 โมง ก็ปั่นได้ทุกวัน อาศัยหลับตอนกลางวันๆละชั่วโมงแทน ไม่เป็นหวัดมาปีกว่าแล้ว ไอ้ที่ว่าไม่มีเวลามันเป็นข้ออ้างมากกว่า ถ้าตั้งใจจริงๆ ยังไงมันก็หาเวลาได้ แต่คุณต้องชอบจริงๆ ถ้าไม่ปั่นจักรยาน หรือวิ่ง ก็ไปยกดัมเบลก่อนก็ได้ วันละ 10 นาที เล่นวันเว้นวัน ถ้ายังไม่ได้ทำอีก แสดงว่าคุณขี้เกียจแล้วอย่าไปโทษโน่นอ้างนี่เลย จากคุณ : mynameism เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 55 22:49:06

ความคิดเห็นที่ 8 ความขี้เกียจ มาเป็นอันดับหนึ่ง คนอยากออกกำลังกายจริง ๆ แค่กลับมาถึงบ้านเดินไปเดินมาอย่างเร็วสัก 20 นาที ซิดอัพ วิดพื้น วิ่งอยู่กับที่ แค่นี้ก็ได้แล้ว น้ำหนัก 91 โลฯ นี่ผมว่า ลดการกินให้มันน้อยลงด้วยจะดีกว่านะครับ จากคุณ : อิติคุง เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 55 22:50:04

ความคิดเห็นที่ 9 จักรยานครับ ง่ายที่สุดแล้ว จากคุณ : ekawatchaow เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 55 23:10:08

ความคิดเห็นที่ 10 ดูจากน้ำหนักตัวแล้วจักรยานน่าจะเหมาะกว่าครับ ข้อต่างๆของร่างกายไม่รับภาระหนักมากเกินไปด้วย จากคุณ : ความรู้น้อยแต่ขอแจม เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 55 23:31:01

ความคิดเห็นที่ 11 วิธีแก้ขี้เกียจคือ คิดแล้วควรเริ่มทำทันทีครับ จากคุณ : กบยักษ์ เขียนเมื่อ : 21 ม.ค. 55 23:57:35

ความคิดเห็นที่ 12 ประเด็นคือ อะไรคือ ข้อเเตกต่างระหว่าง อยู่เฉยๆๆเเล้วตอนเย็นไปวิ่งได้ เเต่ทำงานเเล้ว มันรู้สึกเหนื่อยล้า เเละไม่อยากวิ่งนะครับ เเละไม่วิ่งซักที ไม่ใช่ความขี้เกียจครับ ความขี้เกียจมันเเค่เป็นผลฃองอะไรซักอย่างที่หาอยู่นะครับ  (ถ้าความรู้สึกเดียวกัน ถ้าตอนนี้ผมไม่ได้ทำงาน ใช้สมองมากๆ อยู่บ้านเฉยๆ ผมมั่นใจว่า ผมไปวิ่งเเน่เเละผอมไปนานเเล้ว ผมเคยทำเเบบนี้เเล้วลด 8 kg/ด มาเเล้วครับ เเต่ถ้าตอนนี้ทำงานเเบบนี้ผมมั่นใจทำไม่ได้เเน่ จะออกจากงานให้เป็นเเบบ condiiton เเบบเก่าก็ใช่เรื่องอยู่ เเต่ว่าได้ผอมเเน่ๆ) อะไรคือเหตุผลทางการเเพทย์หรือวิทยาศาสตรํที่ทำให้ ความรู้สึกอยากวิ่งทั้งสอง condition นั้นเเต่ต่างกัน เพื่อนๆช่วยที  อยากรู้จริงๆครับ จากคุณ : Egist เขียนเมื่อ : 22 ม.ค. 55 00:12:04

ความคิดเห็นที่ 13 ร่างกายมันสบายจนเคยตัว ลองฝืนตัวเองให้วิ่งซักอาทิตย์ ต่อไปจะไม่มีอาการขี้เกียจอ่ะ  จากคุณ : ถั่งโถมโหมแรงใจ เขียนเมื่อ : 22 ม.ค. 55 00:18:08

ความคิดเห็นที่ 14 วิ่งได้ครับ แต่หารองเท้าดีๆหน่อย ผมสูง 185 หนัก 95 ยังวิ่งสายพาน ความเร็ว 12 ยังไหวเลย จากคุณ : idolking เขียนเมื่อ : 22 ม.ค. 55 00:32:52

ความคิดเห็นที่ 15 ถ้าคุณซื้อเครื่องออกกำลังกายมา แล้วยังไม่มีตัวกระตุ้น เครื่องออกกำลังกายก็จะกลายเป็นที่ตากผ้า ผมว่า จขกท น่าจะลองหาแหล่งออกกำลังกายใกล้บ้านแบบเสียเงิน คือเราเสียเงินไปแล้วมันจะเสียดาย มันจะต้องดิ้นรนไปออกกำลังกายจนได้แหละ ถ้าได้ออกแล้วดีขึ้นเอ็นโดฟินหลั่งต่อเนื่อง ต่อไปจะเลิกสมาชิก แล้วออกเองที่บ้านหรือที่สวนไหนก็แล้วแต่แล้วล่ะครับ จากคุณ : PakornCS เขียนเมื่อ : 22 ม.ค. 55 00:39:52

ความคิดเห็นที่ 16 เวลาไปทำงานมาแล้ว มันเหนื่อยจริงๆครับ เหมือนขับรถ นั่งตลอดแท้ๆ แต่เหนื่อย พอเริ่มเหนื่อย ก็เริ่มมีข้ออ้างให้ตัวเองครับ ว่าวันนี้เหนื่อยแล้ว อย่าไปออกกำลังเลย วันนี้เจ็บโน้น วันนี้เจ็บนั้น อย่าไปออกกำลังกายเลย ผมก็เป็นครับ ผมจะออกกำลังโดยเฉลี่ย 2 วัน หยุด 1 วัน แต่วันไหนที่ไปทำงานมาเหนื่อยมากๆ ก็มักจะมีข้ออ้างให้ตัวเองว่า วันนี้เหนื่อยแล้วอย่าเลยเปลี่ยนเป็นวันพักละกัน วิธีแก้ก็ง่ายมากครับ ก็ไปออกกำลังกายเลย จบ ไม่ต้องมีข้ออ้างใดๆ ทั้งสิ้น ขี้เกียจวิ่งจริงๆ หรือเจ็บเข่าจริงๆ ก็ยกเวท ให้มันได้ออกให้ได้ อย่าได้มีข้ออ้าง เบื่้อสุด ๆ ผมก็ปั่นจักรยานแม่เหล็กในบ้านแทน พร้อมดูการ์ตูน หรืออ่านหนังสือไปด้วย ให้ได้ออกให้ได้มากที่สุด ให้มีข้ออ้างให้ตัวเองน้อยที่สุดจบครับ สรุป ที่ว่าเหนื่อยเพราะมันล้าจากการทำงานจริงๆ แต่มันเป็นข้ออ้างครับ จะไปหรือไม่ไป ออกกำลังกายมันอยู่ที่ตัวคุณเองครับ จากคุณ : xnone เขียนเมื่อ : 22 ม.ค. 55 00:57:57

ความคิดเห็นที่ 17 ไม่มีเวลา เป็นข้ออ้างของคนขี้เกียจครับ เมื่อไหร่ก็ตามที่ออกกำลังจนถึงขึ้นเสพติดแล้ว วันไหนยุ่งมาก ๆ แค่ 5 นาที 10 นาทีก่อนอาบน้ำยังต้องยกดัมเบลแก้ลงแดงเลย จากคุณ : Buff_Power เขียนเมื่อ : 22 ม.ค. 55 00:59:06

ความคิดเห็นที่ 18 ไม่ทราบว่าควรปั่นจักรยานวันละกี่ ชม.ดีครับถึงจะได้ผล จากคุณ : jubchay เขียนเมื่อ : 22 ม.ค. 55 01:06:02

ความคิดเห็นที่ 19 ส่วนผมก็เคยเป็นนะ เป็นบ่อยด้วย วันไหนมีเรียนหนักๆกลับมาเหนื่อยชิบก็ไม่ได้เล่นเวท วันไหนสบายๆนอนบ้างเล่นเกมบ้าง ก็ผลัดไปเรื่อยจน 3 ทุ่มถึงค่อยเริ่มคิดว่ามันดึกแล้ว ไว้วันหลัง ต้องสร้างแรงบันดาลใจเช่น จุดมุ่งหมาย ไอดอล เป้าหมาย เวลาท้อผมก็นั่งเปิดดูรูปหุ่นกล้ามเท่ๆ ในเน็ทเอาเพิ่มแรงฮึดแล้วก็ลุย จากคุณ : กบยักษ์ เขียนเมื่อ : 22 ม.ค. 55 05:25:14

ความคิดเห็นที่ 20 หาที่วิ่งที่เหมาะแก่การวิ่งครับ ตามสวนสาธารณะ ที่มีคนวิ่งประปราย หรือถ้ามีสาวสวยๆยิ่งดี จะช่วยจูงใจในการอยากออกไปวิ่งมากขึ้นครับ ปล.ผมวิ่งอยู่ในบ้าน บางวันก็มีขี้เกียจเช่นกัน เป็นปัญหาปกติของคนที่ไม่มีแรงจูงใจครับ.. จากคุณ : น้ำนอง เขียนเมื่อ : 22 ม.ค. 55 06:42:51

ความคิดเห็นที่ 21 ผมเล่าจากประสบการณ์เคยวิ่งวันละ 10 กม. แล้วหยุดวิ่ง (ไปปั่นจักรยานแทน) ลองกลับมาวิ่งอีกครั้ง ...ได้พบว่า สิ่งที่ยากคือการเริ่มต้น แรกวิ่งไม่ได้ไกล พักเดียวจอด ต่อมารู้วิธี -เริ่มต้นอุ่นเครื่อง วิ่งย่องๆ เริ่มเดินเร็วๆ ก้าวเท้าเร็ว ความเร็วนี้ประมาณ 5-6 กม/ชม. ง่ายๆ คือ 1 นาที จะได้ 100 เมตร ถ้าคุณไปวิ่งสวนลุมฯ จะมีเส้นบอกทุกๆ 100 เมตร ลองทำการ warm up สัก 5 นาที (ระยะ 500 เมตร) คุณจะเริ่มได้เหงื่อ พออุ่นเครื่องแล้ว ตามธรรมชาติจะหลั่ง endorphine ซึ่งเป็นโฮโมนแห่งความสุข คนจะรู้สึกซาบซ่า เป็นยาเสพติด (จริงๆ อยู่ในฝิ่น) อาการ ความรู้สึกนี่แหละ ที่คนออกกำลังกายแล้วจะติด พออุ่นเครื่องถึงจุดนี้ คุณจะรู้สึกตัวเบา การก้าวเท้าก็เบา รู้สึกสบายกว่าตอนแรกที่รู้สึก ขัดๆ ... พาลไม่อยากวิ่ง ต่อไปคุณก็จะวิ่งไปได้เรื่อยๆ ควบคุมการหายใจได้ดี ไม่รู้สึกเหนื่อย (วันแรกอาจจะไม่ใช่ 1 รอบนะครับ) ถ้าคุณทำอย่างนี้ สวนลุมฯ 1 รอบใหญ่ จะใช้เวลา 20-22 นาที ค่อยๆทำเถอะครับ  5 กิโลเมตร หรือ 2 รอบสวนลุมฯ ไม่ไกลเกินเอื้อม ถ้ามี Magnet ก็ยิ่งมีแรงดึงดูด ในภาพคนนี้วิ่งเร็ว น็อครอบผม วิ่งด้วยความเร็ว  2 รอบ ต่อ 20 นาที ได้ยินเสียงจังหวะวิ่งมาข้างหลัง ไม่ต้องหันไปดูก็จำได้ ครับ จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 22 ม.ค. 55 06:45:15

ความคิดเห็นที่ 22 ท่านผู้นี้ อายุ 86 ปี จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 22 ม.ค. 55 06:45:55

ความคิดเห็นที่ 23 อีกท่าน อายุ 90 ปี วิ่งด้วยความเร็วกว่า 7 กม/ชม. จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 22 ม.ค. 55 06:47:09

ความคิดเห็นที่ 24 ยิ่งทำงานไม่ออกกำลังกายยิ่งเหนื่อยค่ะ เราก็เป็นทำแลปตั้งแต่เช้าถึงสองทุ่มยิ่งเหนื่อย แล้วงานทำทุกวัน ต้องแบ่งเวลา คือทำถึงหกโมงแล้วไปวิ่งค่ะ วันต่อไปตื่นมาสักหกเจ็ดโมงเช้าไปแลปต่อ ยิ่งออกกำลังกายยิ่งไม่เหนื่อยไม่เครียดค่ะ..ยิ่งทำงานแล้วนอนยิ่งเหนื่อยมากกว่าค่ะ วิ่งไปสักสามสิบนาทีรับรองไม่เหนื่อยแน่นอนค่ะ จากคุณ : nuanapa เขียนเมื่อ : 22 ม.ค. 55 09:04:21

ความคิดเห็นที่ 25 ..... จากคุณ : การกินเป็นสิ่งจำเป็น เขียนเมื่อ : 22 ม.ค. 55 10:04:57

ความคิดเห็นที่ 26 ก่อนหน้านี้ผมก็ออกกำลังกระพร่องกระแพร่ง แถมกินแยะจนน้ำหนักปาเข้าไป 65-66 วันนึงลุกจากที่นอนแล้วมึนหัว โงนเงน ท้ายสุดถึงรู้ว่าความดันสูงเข้าไป 149 ไปหาหมอ ได้ยามากิน พร้อมกับคำสั่งไปลดน้ำหนัก ก่อนหน้านี้ก้พยายามลดแต่ก็ไม่สำเร็จ แต่คราวนี้มีชีวิตเป็นเดิมพัน มันต้องทำให้ได้ เลือกเอาจะออกกำลัง+ควบคุมอาหาร หรือตาย คราวนี้ทำได้ครับ ลดกลับลงมาที่ 60 สุขภาพดีขึ้น คุมความดันอยู่โดยไม่ต้องกินยา ไม่เป็นหวัด ไซนัสที่เคยเป็นบ่อยๆก็หายไป ผมเริ่มด้วยการเดินเพื่อ warm up แล้ววิ่ง จำได้ว่าช่วงเริ่ม 5 นาทีแรกนี่มันเจียนอยู่เจียนไป แต่อดทนให้พ้นช่วงนี้ไปได้ มันก็ไปได้เรื่อยๆ หมั่นทำไปจนรู้สึกว่าไอ้ 5 นาทีเจียนอยู่เจียนไปนี่มันค่อยๆลดลงจนเกือบไม่มี พอทำน้ำหนักได้ ผมก้หันมาปั่นจักรยานแทน สนุกกว่าวิ่งครับ จากคุณ : amscmu เขียนเมื่อ : 22 ม.ค. 55 11:39:43

ความคิดเห็นที่ 27 เพราะคุณ.... ...โง่ครับ  555 จากคุณ : bank2511 เขียนเมื่อ : 22 ม.ค. 55 12:10:57

ความคิดเห็นที่ 28 เวลาเครียดจากการทำงาน สมองจะล้า อยากจะพัก แล้วเวลาเครียดร่างกายจะหลั่งสารEpinephrine ส่งผลต่ออวัยวะต่างๆ  พวกงานนั่งโต๊ะ อยู่หน้าจอคอมพ์ จะเป็นมาก ทั้งปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ สะบักติด ไหล่ติด พุงพลุ้ยจากร่างกายสะสมไขมัน ลองพิมพ์ stress บนgoogles ดู การออกกำลังกายเป็นวิธีที่ใช้ในการแก้ปัญหาเหล่านี้ คุณเริ่มไม่ได้เสียทีเพราะยังไม่ได้เริ่ม ลองทำดู สักพักคุณจะติด "สุข" จากการออกกำลังกายเอง  โชคดีค่ะ จากคุณ : mangpongja เขียนเมื่อ : 22 ม.ค. 55 13:02:50

ความคิดเห็นที่ 29 ผมทำได้เป็นพักๆ อ่ะครับ ทำยังไงถึงจะมีแรงบันดาลใจ ทำได้ตลอดอ่ะครับ ถ้าทำได้ตลอด ป่านนี้คงหุ่นดีแล้ว คิดแล้วก็เสียดายเวลา แต่ฮึดได้พักนึงก็ฝ่อลงไปอีก - - จากคุณ : หนุ่มน้ำชี เขียนเมื่อ : 22 ม.ค. 55 13:18:14

ความคิดเห็นที่ 30 ภาพสำหรับคุณลองอ่านดูน่ะครับ...... มันจะอยู่ที่ Fitness First ทุกๆสาขา และบัตรสมาชิก จากคุณ : panzerseed เขียนเมื่อ : 22 ม.ค. 55 17:10:46

ความคิดเห็นที่ 31 ถ้าวิ่งไม่ออก ก็ดื่ม จอนนี่ย่างก้าว แล้วก้ออกเดิน... จากคุณ : FreeWing เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 00:39:38

ความคิดเห็นที่ 32 ขี้เกียจครับ ไม่มีเหตุผลอื่น การวิ่งออกแรงทำให้เราเหนื่อย + เมื่อยล้า ร่างกายต้องดึงพลังงานออกมาใช้มากกว่าปกติ อะไรที่มันมากกว่าปกตินี่แหละร่างกายของเราไม่ชอบ สมองจะคิดอัตโนมัติว่า "เหนื่อยน่า อย่าเลย" แล้วก็คุณก็จะเริ่มหาเหตุผลต่าง ๆ นานา มารองรับ เช่น "อืม พรุ้งนี้ก็ได้น่าาาา เริ่มพรุ้งนี้ละกัน" ละก็ผลัดวันไปเรื่อย ๆ ทางแก้คือต้องเพิ่มกำลังใจในการออกแรง คุณลองนึกดูสิว่า ถ้ามีสาวขาวหมวยสวยน่ารัก มาบอกกับคุณว่า "ตะเอง มาวิ่งกะเค้ามั้ย เค้าอยากออกกำลัง วิ่งทุกวันเลยน้าาา" ทุกเย็นคุณจะเตรียมใ่ส่รองเท้าวิ่งก่อนจะถึงสนามซะอีก อยู่ที่กำลังใจอ่ะครับ ลองหาอะไรที่ได้ฟิลคล้าย ๆ อย่างนี้ดู เช่น "กรูเป็นไอ้ขี้แพ้ ถ้ากรูไม่วิ่งซะที" อะไรก็ได้ที่มันเสริมกำลังใจ ถ้าอยากชนะร่างกาย ต้องมีแรงใจ ลองนึกถึงครั้งที่คุณเริ่มวิ่งสมัยก่อนว่า เริ่มวิ่งเพราะอะไร เทคนิคผมคือบอกว่า "จะเริ่มวันนี้ หรือจะปล่อยไปอีกสองปี แล้วนึกเสียดายเวลา เสียดายสิ่งที่อยากจะทำ" หรือเวลาที่ตัวขี้เกียจเริ่มออกอาการ ก็ใส่รองเท้าแล้วออกวิ่งเลย อย่าให้สมองได้คิด ทำไป ทำมา มันจะเหมือนแปรงฟันอ่ะครับ ชินไปเอง จากคุณ : hellmoon เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 13:03:16