ความคิดเห็นที่ 1 ผมเห็นไม้หมอนรถไฟ เป็นไม้เนื้อดี สอบถามได้ความว่าเป็น ไม้ประดู่ สมัยผมเรียนมัธยม เพื่อนเล่าให้ฟังว่า มีคนขโมยไม้หมอนรถไฟ ตอนนี้การรถไฟเปลี่ยนใช้ คอนกรีต แทนไม้แล้ว รางทางใต้บางส่วน มีช่วงต่อยาว ไม่ค่อยมีเสียงฉึกฉักเหมือนสมัยก่อน รางรถไฟในยุโรปเป็นรางแบบไม่มีรอยต่อ เขาวางรางแล้วเชื่อมต่อกัน รถไฟวิ่งเร็ว วิ่งเรียบ รถไฟใต้ดินในเมืองไทยก็ใช้รางแบบไม่มีรอยต่อ  ความเร็วรถใต้ดิน และ Air Port Link ผมเดาว่า วิ่งด้วยความเร็วกว่า 120 กม/ชม. อันนี้ผมประมาณด้วยสายตา ยังไม่รับการยืนยัน ครับ จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 08:08:06

ความคิดเห็นที่ 2 ผมเคยเรียนตอนเด็กๆว่า รางรถไฟโดนแดดร้อน ต้องทำรอยต่อไว้ให้เหล็กยืดขนายตัว ปัญหาการยืดหดของราง ถ้าไม่มีรอยต่อ รางรถไฟจะยืดตัวอย่างไร ? ผมเคยโพสถามใน News Group มีวิศวกรเยอรมัน ที่กำลังทำงานสร้างรางรถไฟในอเมริกา อธิบายว่า การยืดขยายตัวของเหล็ก ถ้าความยาวเป็น infinity โลหะจะขยายตัวตามปริมาตร ไม่ได้ขยายตัวเชิงเส้น ผมขอแรงเพื่อนๆห้องนี้ช่วย คอมเม้นต์ หน่อย ครับ จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 08:14:21

ความคิดเห็นที่ 3 มันก็ประมาณว่า เห,กมันจะขยายตัว แต่เจอแรงอัดจากรางที่ยาวมากๆ เลยกลายเป็นบวมออกข้างแทน จากคุณ : chuk007 เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 08:25:15

ความคิดเห็นที่ 4 ผมถ่ายรูป Air Port Link ไม่ทัน ภาพรางรถไฟ Air Port Link   เพื่อนคนหนึ่งทำงานก่อสร้างรางรถไฟฟ้า Siemens เล่าว่า รางแบบเชื่อมต่อตลอด เขาจะ pre-load โดยดึงให้ยืดก่อนจะยึดกับไม้หมอนคอนกรีต แต่ผมเคยเห็นที่เยอรมัน เขาไม่ได้ preload วางรางเสร็จ จะมีรถวิ่งมาเชื่อมต่อทันที ที่ตัวรถจะมีหินเจียร ขัดรอยเชื่อมให้เรียบร้อย ทำงานรวดเร็วมาก จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 08:28:45

ความคิดเห็นที่ 5 ตอบ คห. 3 ใช่ครับ วิศวกรเขาอธิบายประมาณนั้น จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 08:29:45

ความคิดเห็นที่ 6 ผมถ่ายรูปรถ AirPort Link ไม่ทัน จับความรู้สึกความเร็วที่รถวิ่งผ่าน ประมาณความเร็วรถ D-Zug หรือ InterCity ของเยอรมัน คันนี้ ครับ หมายเหตุ ผมว่ารูปทรงของ AirPortLink คล้ายรถไฟเยอรมัน จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 08:31:28

ความคิดเห็นที่ 7 ภาษาเยอรมันคำว่า D-Zug  หมายถึง "รถด่วน" ตอนแรกผมเข้าใจผิด คิดว่าตัว D ย่อมาจาก Deutsch ที่แปลว่า "เยอรมัน" ซักถามจึงได้ความว่า D ย่อมาจากคำว่า Durch แปลว่า  เดิน "ผ่านตลอด" ขบวน คือตัวโบกี้จะมีทางเดินทะลุ ผ่านได้ตลอดขบวน ครับ รถ D-Zug ความเร็วเดินทาง 120 -140  km/h รถจักรใช้ไฟฟ้า สมัยนั้นมีรถ TEE  Trans Europa Express  หัวรถจักรใช้เครื่องดีเซล ความเร็วเดินทาง  160 km/h ผมเคยหลงขึ้นผิดขบวน โดนปรับเพิ่มค่าธรรมเนียมเล็กน้อย จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 08:37:05

ความคิดเห็นที่ 8 จากการทดลองนั่ง Airport Link เที่ยว   ผมคิดว่า สถานีเชื่อมต่อของเรา วางแผนไม่ดี กล่าวคือ ผมลงรถที่มักกะสัน แล้วจะไปต่อรถใต้ดิน คนที่จะต่ออย่างผมมีเยอะ มีนักท่องเที่ยวหลายคน ต้องเดินออกจากสถานี +ข้ามถนน ไกลมากพอดู กว่าจะไปลงรถใต้ดินได้ แต่ที่ทำไม่ดี คือ ป้ายบอกทาง เขาทำไม่ชัดเจน ทำให้นักท่องเที่ยว+คนบ้านนอกคือผม ต้องคอยถามคนแถวนั้น หากเป็นเวลากลางค่ำกลางคืน พวกฝรั่งคงจะลำบาก หรือจะเป็นแผนหลอกให้ใช้บริการมอไซด์ของคุณหม่องก็ไม่แน่นะ เห็นจอดอยู่แถวนั้นหลายคัน ขอบคุณ คุณหม่องวิน มอไซ ที่ยอมให้แซว จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 08:43:21

ความคิดเห็นที่ 9 ไหนๆ ทดลองนั่งแล้ว ผมมีคอมเม้นต์ อีกข้อ เราน่าจะทำให้ ตั๋วรถ Air Port Link และ MRT ใช้ต่อกันได้ ผู้โดยสารจะได้ไม่เสียเวลาซื้อตั๋ว สองครั้ง ครับ อีกเรื่องคือ เรื่องห้องน้ำ AirPort Link เขามีห้องน้ำให้ผู้โดยสารที่สถานี แต่ MRT ...ไม่มีห้องน้ำ ผมเป็นคนอยากรู้อยากเห็น ผมก็มุ่งตรงไป Info สอบถามเจ้าหน้าที่ MRT ว่า ผมท้องเสีย จะทำอย่างไรดี ???? เจ้าหน้าที่ใจดี จัดการเปิดประตูให้เดินเข้าไป แล้วพาไปเข้าห้องน้ำ สรุปว่า MRT ก็มีบริการห้องน้ำ --(ฉุกเฉิน)  เหมือนกันนะครับ จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 08:47:17

ความคิดเห็นที่ 10 AirPortLink -ของเรา หน้าตาอย่างนี้ เทียบกับ DB ของเยอรมัน คห. 6 จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 08:52:16

ความคิดเห็นที่ 11 ^ ^ เห็นด้วยเลยครับ ตอนเปิดวิ่งช่วงแรกๆ กระเหรี่ยงจากดอยแบบผมโผล่จากใต้ดินขึ้นมาบนดิน มองหาสถานีแอร์พอร์ทลิ้งเห็นแต่รางไกลๆ ถามพี่วินตรงสถานีว่า แอร์พอร์ทลิงค์มักกะสันอยู่ใหน พี่แกชี้มือไปปู๊น รีบจ้ำอ้าวจนพี่เค้าต้องตะโกนบอกว่า น้องจะเดินไปเหรอ...ไกลนะ  555 ....มันไกลจริงๆครับทั่น  ใครเป็นคนกำหนดจุดตั้งสถานี (วะ) ครับ จากคุณ : HaroldSizzler เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 08:57:00

ความคิดเห็นที่ 12 สิ่งหนึ่งที่คาใจผมมานาน คือ รถไฟเยอรมันเวลาวิ่ง ผ่านถนน เขามีไม้กั้น เหมือนของเรา แต่รถไฟเยอรมันวิ่งผ่านด้วยความเร็วสูง ผมมองว่า แทบจะไม่ได้ชลอความเร็วเลย คงจะเป็นเพราะเหตุนี้ "ทางเอก" ไม่ต้องระวังทางโท ทำให้คนขับรถต้องเคร่งครัดกฏจราจร และ มีวินัย กระมังครับ อีกข้อหนึ่งที่ผมสงสัย ยังหาคำตอบไม่ได้ คือ รถไฟที่วิ่งด้วยความเร็วสูงๆ  ตลอดเส้นทางผ่านทุ่งนา   สงสัยว่า เขาควบคุมฝูงปศุสัตว์ได้อย่างไร ไม่ให้วิ่งตัดหน้ารถไฟ ?? หลับตานึกภาพ วัว วิ่งตัดหน้ารถไฟ คงเดาได้ ขนาด AutoBahn ช่วงไหนที่มี กวางป่า เขาจะมีป้ายเตือนคนขับให้ระวัง แต่ถึงกระนั้น ผมเคยเห็นรถสปอร์ตคันหนึ่งชนเก้ง หรือ กวางตัวเล็ก แรงปะทะทำให้ เก้งทะลุเข้าไปในฝากระโปรง เห็นแต่ขาโผล่ออกมา อยากทราบว่า รถไฟเขามีมาตรการป้องกัน วัววิ่งตัดหน้าอย่างไรบ้าง ? จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 08:59:44

ความคิดเห็นที่ 13 ครับ คุณ HaroldSizzler ผมยังนึกต่อไปอีกว่า ป้ายรถเมล์ละครับ สถานีรถ MRT ควรจะโผล่ขึ้นมาตรงป้ายรถเมล์ ถ้าทำได้อย่างนี้ จะช่วยลดปัญหารถติดได้มากขึ้น คนขับรถก็จอด Park and Ride ไม่ต้องเอารถยนต์มาติดในเมือง จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 09:02:40

ความคิดเห็นที่ 14 ผมเคยสงสัยว่า ขนาดความกว้างรางรถไฟความเร็วสูง ที่ประเทศต่างๆในเอเซียกำลังสร้าง ทำไมถึงไม่ใช้ความกว้าง 1.435 ม. เหมือนของยุโรป ได้รับคำตอบว่า ความกว้างรางรถไฟในอาเซียนไม่เท่ากับยุโรป แถวบ้านเรา "แคบกว่า"  เพื่อให้รถไฟวิ่งข้ามประเทศอาเซียนได้ จึงต้องใช้ขนาดความกว้างที่ใช้ในอาเซียน ครับ จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 09:37:01

ความคิดเห็นที่ 15 เรื่องตำแหน่งสถานี ต้องไปโทษการรถไฟเลยครับ เพราะการรถไฟฟให้สร้างสถานี APL ในส่วนพื้นที่ของสถานีรถไฟด้านล่างเท่านั้นครับ # คห.10 รถ APL ของเรามันเหมือนกับรถไฟของอังกฤษมากกว่าครับ เรียกได้ว่า การรถไฟเลือกเอาดีไซน์ของรถไฟอังกฤษมาใช้เลยครับ รูปที่เอามาลงมันไม่มีความใกล้เคียงเลยครับ จากคุณ : spindoctor เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 09:41:08

ความคิดเห็นที่ 16 ไม่เกี่ยวกับเนื้อหาของกระทู้นะครับ รูป #6 มัน ICE 3 นี่หน่าวิ่งความเร็วตั้ง 300 km/hr จะมีก็บางพื้นที่ๆวิ่งช้าลงมาบ้าง รถ APL ของเราวิ่งตามมันไม่ทันแน่ๆ ปล.อยากได้ ICE มาใช้เป็นรถไฟความเร็วสุงของไทยจัง จากคุณ : [macaque] เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 10:04:39

ความคิดเห็นที่ 17 ผมก็ว่าเหมือนของอังกฤษนะครับ แม้ว่าเราจะใช้บริษัทของเยอรมันมาผลิตตัวรถให้ ผมว่า ตอนนี้ ยูโรอ่อนค่า ทางรัฐบาลไทยน่าจะเตรียมลงทุนซื้อรถไฟฟ้ามาเสริมบริการรถ airport link หรือว่า สายสีแดงที่กำลีงจะเปิดนะครับ ขอให้ใช้โอกาสนี้แหละรีบซื้อเพราะว่า จะได้ไม่ต้องซื้อตอนยูโรแข็งค่าอีก ส่วนเรื่องสถานี ได้ยินมาว่า รัฐมนตรีคมนาคมท่านเดิม ท่านให้ก่อสร้างเป็นทางใต้ดินเชื่อมไป แต่ไม่รู้ว่าปัจจุบันเป็นอย่างไรครับ หวังว่า จะมีทางใต้ดินเชื่อม แล้วถ้ามีร้านค้าแบบเมืองนอกได้บ้างก็น่าจะทำให้การเดินไป MRT เป็นเรื่องน่าอภิรมย์มากขึ้นนะ จากคุณ : bangkokguy เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 11:07:35

ความคิดเห็นที่ 18 เมื่อวันก่อน ไปลองเล่น Airport link แบบด่วนมา ขึ้นจากสถานี MRT เพชรบุรี ทางออกที่ 3 ไปสถานี APL มักกะสัน เดินไม่ไกลมากครับ บางสถานีของญี่ปุ่น เช่นที่ JR UENO ยังเดินไกลกว่านี้ แต่ที่น่าตำหนิคือ การไม่มีทางเดินเชื่อมต่อแบบเป็นกิจจะลักษณะ เดินริมถนนไม่ว่ากัน แต่ทางข้ามทางรถไฟ สัญญลักษณ์ทางม้าลายต่างๆนี่ ไม่มีเลย บางจุดต้องลุยทางฝุ่นด้วย(รึว่าผมเดินลัดสนามหว่า)... ส่วนด้านในสถานีก็สะอาดเรียบร้อยพอสมควร กระจกรถสกปรก จะถ่ายรูปออกนอกตัวรถก็ติดฝุ่นเป็นเม็ดใหญ่ๆ โดยรวม ถือว่า ใช้ได้ครับ... ขออภัยที่นอกประเด็นเรื่องรางครับ จากคุณ : Ontjung เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 13:36:46

ความคิดเห็นที่ 19 การสร้างสถานีของรถไฟฟ้า บางทีต้องคำนึงถึงสภาพพื้นที่ด้วย โดยเฉพาะรถไฟฟ้าบนดิน ซึ่งมีข้อจำกัดเนื่องจากสิ่งก่อสร้างที่มีอยู่เดิม อย่างที่เห็นชัด ๆ คือสถานีรถไฟฟ้า BTS วงเวียนใหญ่ หลายคน (รวมถึงตัวเอง) ก็เซ็งเหมือนกันที่ไปตั้งห่างจากสี่แยกเสียไกล เวลาลงรถเมล์ที่วงเวียนใหญ่แล้วเดินกันอานเลยกว่าจะถึง แต่ก็ต้องทำใจ เพราะสภาพพื้นที่ตรงสี่แยกมีสะพานลอยรถข้ามอยู่ ถ้าจะสร้างสถานีตรงนั้น จะทำทางเดินขึ้นลงไม่ได้เลย เลยต้องสร้างห่างออกมาจากสี่แยกพ้นระยะทางขึ้นลงของสะพานลอยรถข้าม สถานี ARL มักกะสันก็เช่นกัน ถ้าทำสถานีตรงใกล้ถนนใหญ่ จะต้องทำสูงขึ้นไปมากกว่านี้ เพื่อให้ระดับความสูงของชั้นชานชาลาสูงพอที่จะให้รถใหญ่ ๆ อย่างรถเมล์หรือรถบัสสองชั้นวิ่งผ่านได้ ส่วนเรื่องทำทางเดินใต้ดิน อันนี้ไม่แน่ใจว่า พื้นที่ระหว่างผนังอุโมงค์รถใต้ดินถึงเสาเข็มอาคารบริเวณนั้นเหลือมากน้อยแค่ไหน เพราะถ้าสร้างทางเดินไปชิดเสาเข็มมาก อาจจะมีปัญหากับอาคารบริเวณนั้นได้เหมือนกัน แก้ไขเมื่อ 23 ม.ค. 55 14:40:43 จากคุณ : เกียรตินำ เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 14:27:05

ความคิดเห็นที่ 20 ผมว่าถ้าทำ HSR วิ่งแยกไปจากระบบรางเดิมก็จะดีนะครับ ที่ญี่ปุ่นใช้ทั้งราง cap gauge และ standard gauge วิ่งกันทั่วประเทศเหมือนๆกัน ถ้ารถหวานเย็นเขาก็วิ่งราง cap gauge ขนทั้งคนทั้งสินค้า ถ้ารถHSRก็วิ่งราง std. gauge ขนแต่คนโดยสารอย่างเดียว ทีนี้ถ้าเราทำ HSR บนราง std. gauge ดียังไง? ก็เมื่อระบบเครือข่ายเชื่อมต่อข้ามแดนกันหมดแล้ว ขบวนรถที่สามารถใช้ความเร็วสูงกว่าย่อมได้เปรียบกว่า คงไม่มีผู้โดยสารอยากจะนั่งเท่าไหรถ้ามั่งวิ่งเฉลี่ยแค่ 100km/h กว่าจะเดินทางจากชายแดนมาเลเซียถึงชายแดนลาวใช้เวลาเกิน 6 ชั่วโมงก็โบกมือลาไปนั่งเครื่องบินดีกว่า นี่ก็เรื่องนึง... อีกเรื่องนึงคือรางกว้างๆ ตัวรถไฟมันจะกว้างได้ รถวิ่งไกลๆยาวๆ โบกี้ที่เป็นวิมาน นั่งสบายไม่เบียดกับคนข้างๆ หรือพวกรถสเบียงดีๆกว้างๆ มีโถงให้นั่งเล่นเน็ทในขบวนรถสบายๆ ย่อมดีกว่าไปอุดอู้บนเครื่องบินไหนๆ นี่ก็อีกเรื่องนึง... เรื่องปศุสัตว์ขวางทางรถไฟ ICE ของเยอรมันก็เคยเสยคว่ำไปแล้วครั้งนึงเมื่อนานมาแล้ว... เขาควบคุมยังไงก็คงกันพื้นที่นะครับว่าระยะห่างจากรางเท่านี้ๆห้ามเลี้ยงสัตว์ (อันนี้เดานะครับ ไม่เคยไปเดินเล่นแถวรางของ ICE) จากคุณ : TENS เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 16:10:03

ความคิดเห็นที่ 21 ส่วนรางที่เชื่อมเป็นเส้นเดียวกันตลอดแนวนั่น ในระยะๆนึงเขาจะมีการเว้นช่วงเหมือนกันครับ เดี๋ยวคืนนี้กลับบ้านจะแวะถ่ายรูปมาให้ดู จากคุณ : TENS เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 16:37:56

ความคิดเห็นที่ 22 ด้วยความไม่รู้จริงๆตามคห.10 ไอ้ที่ยื่นออกมาข้างหน้านั่นคืออะไรเอาไว้ทำอะไรหรือ หรือว่ารถมีกา จู๋ ด้วย จากคุณ : ฉันคนเกาหลีชื่อจนจังกู เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 16:40:49

ความคิดเห็นที่ 23 ตอบ คห. 15 คุณ spindoctor รูป คห. 10 ผมเอาจากในเน็ตฯ ของจริงที่วิ่งผ่านมี "แดง-ครีม" ผมก็เลยเข้าใจว่าเหมือนรถไฟ DBของเยอรมัน คห.6 ขอบคุณที่ทักท้วง คห.16 ครับ ICE รถความเร็วสูง ผมเอาภาพจาก Wiki ไม่ทราบรถไฟความเร็วสูงของไทย เขาเลือกยี่ห้ออะไร ? คห. 17 คุณ bangkokguy ผมนึกเหมือนกับคุณ ถ้าเราทำทางเชื่อมใต้ดินคงจะดีไม่น้อย แต่น่าเป็นห่วงตอนดึกๆ มิจฉาชีพ นี่ซิ คห. 18 คุณ Ontjung จริงครับ เดินข้ามทางรถไฟแถวนั้นน่าเป็นห่วงเหมือนกัน จุดลุยฝุ่นก็แถวทางข้ามรถไฟนั่นแหละ ผมเพิ่งลุยมาจำได้ คห.19 คุณ เกียรตินำ ผมเพิ่งคุยกับพนักงาน เขาเล่าว่า ตรงสีลม จุดเชื่อมต่อรถใต้ดินกับป้ายรถเมล์ห่างกันมาก ครับ คห. 20 คุณ TENS ขอบคุณเรื่องปศุสัตว์ ผมคิดว่า เขาคงห้ามเลี้ยงสัตว์ใกล้ๆ รางรถไฟ อีกอย่างหนึ่งปศุสัตว์เมืองหนาวเขาไม่ค่อยปล่อยออกมาข้างนอก เคยเห็นที่สวีเด็น เดนมาร์ก เขาเลี้ยงหมูขังแคบๆ ช่วงที่ขุนก่อนขาย คอกแคบพอๆตัวหมู ขยับตัวแทบไม่ได้ เขาว่าไม่เปลืองอาหาร คห. 22 คุณ ฉันคนเกาหลีชื่อจนจังกู ผมก็เพิ่งสังเกต วันหลังผมไปอีกที ผมจะถามดูครับ จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 17:00:17

ความคิดเห็นที่ 24 ตอบ คห. 21 คุณ TENS หลังจากผมโพส กท. นี้ผมโทรคุยกับเพื่อน ได้ความรู้เพิ่มเติม โรงงานเพื่อนคนนี้ เขาทำอุปกรณ์เชื่อมต่อรางรถไฟ ดังนี้ 1) ใช้แก็สเป่าให้รางรถไฟร้อน หัวเป่าเหมือนเตาฟู่นีเอง 2) พอร้อนได้ที่ ก็เลื่อนรางเข้ามาเชื่อมต่อกัน 3) เสร็จแล้วใช้ Form-Cutter เข้ามากัดรอยเชื่อมให้ชิ้นงานเรียบร้อย หมายเหตุ Form-Cutter คือ ตัวกัดเขาทำให้เป็น Form ตามรูปของราง พอมันกัดรางก็เรียบเหมือนชิ้นเดียวกัน เขาเล่าว่า ปัจจุบันรางรถไฟในเมืองไทย ไม่มีรอยต่อแบบรุ่นเก่า เขาเชื่อมรางต่อเป็นชิ้นเดียวกัน เหมือนรางรถไฟในยุโรป (ตั้งนานแล้ว แต่ผมเพิ่งรู้วันนี้เอง อิอิ) รางเชื่อมต่อกันแบบนี้ ต้องใช้กับไม้หมอน-คอนกรีต ไม่ใช้ไม้ครับ ตามที่คุณ TENS เห็น มีความเป็นไปได้บางจุด อาจมีรอยต่อ (เว้นห่าง)บ้าง แต่ระยะไกลๆ จะมีรอยต่อสักจุด ไม่ถี่เหมือนสมัยก่อน  นี่ผมเดาเอง แก้ไขเมื่อ 23 ม.ค. 55 20:52:02 จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 17:07:57

ความคิดเห็นที่ 25 เพิ่งเห็นว่ามีคนถาม #10 คืออะไรที่ยื่นออกมาข้างหน้า มันคือ couple สำหรับเชื่อมต่อขบวนรถนะครับ เวลาจะเชื่อมก็ให้วิ่งเข้าไปชน ปุ้ง.... มันก็จะล๊อคกันสนิดแนบแน่น เวลาวิ่งเกิดเสียงดังน้อยกว่าแบบโบราณที่การรถไฟใช้อยู่กับขบวนรถไฟธรรมดา เวลามันล๊อคกันแล้ว มันจะแน่นจริงๆ ไม่แกว่ง ไม่หักงอเวลาเลี้ยวหรือขึ้นลงเนิน ทำให้เวลารถไฟเวลามันชนกัน หรือประทะเข้ากับอะไรแล้ว ตัวรถจะไม่กระเด้งกระดอน แล้วเกยเสียบเข้าไปในตูดของโบกี้อื่นๆในแนวเดียวกัน บางรุ่นจะรวมพวกท่อไฮโดริคต่างๆไว้ด้วย สะดวกจริง จากคุณ : TENS เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 17:33:11

ความคิดเห็นที่ 26 หาคลิปมาให้ชมครับ จากคุณ : TENS เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 17:38:09

ความคิดเห็นที่ 27 ลองไปค้นดูโบกี้รถไฟที่วิ่งบนราง 1.435 ดูเล่นๆก็ได้ครับ ว่างาน interior เป็นยังไง ของ TGV http://www.google.com/search?tbm=isch&hl=en&source=hp&biw=983&bih=707&q=tgv+train+interior&gbv=2&oq=TGV+train+int&aq=0&aqi=g1&aql=&gs_sm=e&gs_upl=1986l5552l0l7464l13l13l0l0l0l0l208l1699l5.5.3l13l0 ของ ICE http://www.google.com/search?tbm=isch&hl=en&source=hp&biw=983&bih=707&q=ice+train+interior&gbv=2&oq=ICE+train+in&aq=6&aqi=g2&aql=&gs_sm=e&gs_upl=12l27574l1l29228l13l13l0l3l3l0l167l1192l1.9l10l0 สองค่ายดังๆในยุโรป จากคุณ : TENS เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 18:04:51

ความคิดเห็นที่ 28 รถไฟปู๊นๆ บ้านเรา เป็นรางเชื่อม ไม่มีเสียงฉึกฉักๆทั้งประเทศมากกว่า 50% แล้วครับ คนกรุงเทพ ส่วนใหญ่จะได้ยินเสียงฉึกฉักๆอยู่ เพราะในเขตกรุงเทพไม่ต้องใช้ความเร็วสูง แต่ถ้าลองออกต่างจังหวัด ไปอุบล พิษณุโลก สุราษฎร์ลองดู ไม่มีเสียงแล้วครับ จากคุณ : พี่เพนกวินกับน้องหัวหอม เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 20:54:16

ความคิดเห็นที่ 29 กลับมาถึงบ้านแล้วครับ ถ่ายตัวต่อรางมาฝาก อิ อิ ขอแก้ไขเสียงในคลิปหน่อยครับ Breather ครับไม่ใช่ Breathing (ฮา) จากคุณ : TENS เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 21:03:58

ความคิดเห็นที่ 30 ขอบคุณ คุณ TENS  ที่นำภาพภายในรถไฟมาให้ดู ผมเคยนั่งรถสปรินเตอร์จากยะลามากรุงเทพ ที่นั่งเอนนอนได้ ตอนแรกคิดว่าคงจะหลับสบาย เหมือนในเครื่องบิน แต่นอนหลับไม่สบาย ผมเข้าใจว่าคงจะเป็นเพราะรถไฟวิ่งด้วยความเร็วไม่คงที่ มีเบาช้าบ้าง เร็วบ้าง เกิด relative velocity คนนอนไม่สบาย ผมลองนึกถึงเครื่องบิน ซึ่งใช้ที่นั่งเอนได้คล้ายกัน แต่เครื่องบินใช้ความเร็วคงที่ คนนอนหลับสบายกว่า ครับ แต่ถ้าเป็นตู้นอน ผมนอนหลับสบาย ช่วงนั้นผมต้องไปทำงานที่แม่เมาะบ่อยๆ ผมชอบไปรถนอนดีกว่าไปเครื่องบิน เครื่องบินไปลงเชียงใหม่ แล้วนั่งรถยนต์ต่อไปลำปางอีกทีเสียเวลามากกว่า ที่สำคัญ รถสายเหนือเขามีเมนูเด็ด กระต่ายผัดเผ็ด ผมไปขึ้นรถไฟประมาณบ่าย 2 ผมจะไปจองที่นั่งในรถสะเบียง นั่งดื่มเบียร์แกล้มผัดเผ็ด พอได้ที่ก็ถึงเวลานอนพอดี ผมบอกการ์ดรถให้ช่วยปลุกเมื่อถึงลำปางประมาณตีห้า เข้าที่พักอาบน้ำก็ไปทำงานได้ทันที จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 21:06:15

ความคิดเห็นที่ 31 ว่าไปผมชอบนั่งรถไฟฟ้ามากกว่าเครื่องบินนะครับ จะขึ้นเครื่องแต่ละทีมันยุ่งยากปวดหัว แถมหอบเงินไปซื้อหน้าเคาน์เตอร์ก็ตั๋วแพงอีก ถ้าเวลาต่างกันแค่สองสามชั่วโมงกับเครื่องบินแล้วมีตู้สเบียง มีน้ำ มีอาหาร ต่อเน็ท เล่นคอม ได้ตลอดเวลาจนถึงที่หมาย ยังไงผมก็เลือกรถไฟนะ แต่คราวไปเซนไดเมื่อปลายปีแล้ว ขับรถไปเองจากโตเกียวดันแพ้คนนั่งชินคันเซนไปครึ่งชั่วโมง... เจ็บใจจริง จากคุณ : TENS เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 21:17:01

ความคิดเห็นที่ 32 ทางรถไฟของไทยเราในปัจจุบัน ส่วนใหญ่เป็นรางคู่ และหมอนคอนกรีตแล้วครับ จะมีที่ยังไม่เชื่อมในส่วนทางที่เป็นเส้นทางภูเขา และโค้งที่แคบมากซึ่งการเชื่อมรอง อาจจะทำให้รางที่เชื่อม จะต่อกันไม่ดีเท่าที่ควร แล้วก็ทางสายอีสานเหนือ ที่กำลังมีโครงการพัฒนาอยู่ ส่วนสายเหนือ สายใต้ รวมถึง 3 จังหวัดชายแดนใต้ ก็มีการเปลี่ยนเป็นหมอนคอนกรีตเกือบจะทั้งเส้นทางแล้วครับ และในทางเขาบางช่วง โดยเฉพาะเส้นทางสายเหนือตั้งแต่สถานีห้างฉัตรไปจนถึงสถานีทาชมภู ก็ได้มีการปรับโค้งของเส้นทาง ให้ตรงขึ้น ทำให้ขบวนรถสามารถทำความเร็วได้เพิ่มขึ้น หากมีการปรับปรุงเส้นทางตลอด และ มีการทำทางคู่ที่เหมาะสม ในช่วงทางที่มีขบวนรถสวน(หลีก)กันมากๆ ก็ปรับเวลาการเดินทางโดยรถไฟ ให้ลดลงไปได้ มากกว่า 1 ชั่วโมงเลยครับ ก็จะลดทั้งค่าน้ำมัน ลดชั่วโมงการทำงานของรถจักร รวมถึงผู้โดยสารและผู้ประกอบการรัยส่งสินค้าก็ได้ประโยชน์ ซึ่งตอนนี้ การรถไฟ ก็กำลังศึกษาทางคู่ และโครงการที่น่าจะเป็นไปได้ อยู่ 3 เส้นทาง คือ 1. สายเหนือ ลพบุรี-พิษณุโลก 2. สายอีสาน มาบกระเบา-ชุมทางถนนจิระ (เส้นนี่โหดสุด) 3. สายใต้ หัวหิน-สุราษฏร์ธานี 4. สายตะวันออก ฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย (ต่อจากฉะเชิงเทราแหลมฉบัง ที่เพิ่งเปิดเมื่อวันที่ 12 มค 2555) ยังไง การสร้างรถไฟความเร็วสูงก็ยังต้องพิจารณาอีกมาก ถึงผลตอบแทนที่คุ้มค่าต่อการก่อสร้างหรือไม่ เพราะศักยภาพของรถไฟตอนนี้ ยังใช้ไม่ได้เต็มที่จริงๆ ครับ รถจักร ก็ไม่สมบูรณ์ แถมรถโดยสาร ก็ไม่เพียงพอต่อจำนวนผู้ใช้ อย่างที่เห็น ขบวนไหน เต็ม แทนที่จะเพิ่มตู้ เพื่อเอาตัง กลับไปลดของเค้า ก็ยิ่งแน่นไปใหญ่ คนก็หนีไปรถทัวร์หมดครับ... จากคุณ : Untrav (Untrav) เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 21:20:32

ความคิดเห็นที่ 33 แก้ไข คห.ที่ 32 ของตัวเองนิดนึง ทางรถไฟส่วนใหญ่ไม่ใช่ทางคู่ครับ แต่หมอนคอนกรีตอะ ใช่ละ อิอิ จากคุณ : Untrav เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 21:21:59

ความคิดเห็นที่ 34 ผมคิดว่า รถไฟถ้าดี ๆ น่านั่งกว่าเครื่องเพราะไม่ต้องผจญกับความกดอากาศที่แตกต่าง ผมนอนบนเครื่องถ้าไม่นั่งพวก business นี่หลับไม่ลงเลยขนาดกินยานอนหลับ แต่รถไฟถ้าคุณภาพดี ๆ วิ่งนิ่ม ๆ นั่งสบายมาก หลับสบาย หวังว่าชาตินี้คงได้นั่งในไทยนะครับ แต่กลัวจะเจ๊งซะก่อนนะ จริงๆ สำหรับผม แพงไม่ว่า ขอให้นอนหลับได้ เสียดาย ไปต่างประเทศก็ยังต้องใช้เครื่องบินอยู่ ถ้าเป็นอย่างยุโรปได้ผมก็เลือกรถไฟอยู่ดี แพงไม่่ว่า เพราะผมต้องการนอนหลับ จากคุณ : bangkokguy เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 21:26:15

ความคิดเห็นที่ 35 ขอบคุณ คุณ TENS  อีกครั้งที่นำคลิ๊ปรางรถไฟมาให้ดู เน็ตฯของผมช้า ยังเปิดดูไม่ได้ จะต้องเปิดดูให้ได้ครับ ตอบ คห. 28 คุณ พี่เพนกวินกับน้องหัวหอม   ใช่ครับ ผมเคยนั่งไปยะลา ผมตั้งข้อสังเกต ใน คห. 1 ... "รางทางใต้บางส่วน มีช่วงต่อยาว ไม่ค่อยมีเสียงฉึกฉักเหมือนสมัยก่อน" แต่ผมไม่เคยรู้มาก่อนว่า เขาเชื่อมต่อกันแล้ว เพิ่งจะทราบจากเพื่อนสดๆร้อนๆวันนี้เอง จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 21:31:20

ความคิดเห็นที่ 36 ไม่ทราบว่าเพื่อนของคุณTinyNuทำงานอยู่ที่ITD(บ.อิตาเลียน-ไทย เดเวลอปเมนต์)รึเปล่าครับ? เพราะบริษัทนี้มีงานรับเหมาซ่อม+สร้างทางรถไฟในบ้านเราก็บ่อยสุดๆ มีรถจักร เครื่องมือต่างๆและเครื่องจักรที่ใช้ในงานเกี่ยวกับรถไฟพร้อมสรรพ และมีโรงงานทำหมอนคอนกรีตและประแจสับราง(รู้สึกว่าส่วนที่ทำประแจสับรางจะร่วมทุนกันกับเยอรมัน)ด้วยนะครับ ถ้าโครงการเกี่ยวกับรถไฟโครงการไหนได้บริษัทนี้ไปทำ ผมก็วางใจในเรื่องคุณภาพงานได้สนิทใจเลยครับ จากคุณ : kikoo เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 22:07:11 A:223.207.30.171 X: TicketID:332166

ความคิดเห็นที่ 37 #23 คห.16 ครับ ICE รถความเร็วสูง ผมเอาภาพจาก Wiki ไม่ทราบรถไฟความเร็วสูงของไทย เขาเลือกยี่ห้ออะไร ? -ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันครับ คงไม่จีน ก็ญี่ปุ่นมั้งครับ แต่ลางสังหรมันบอกว่าจะหวยออกที่จีน...... จากคุณ : [macaque] เขียนเมื่อ : 23 ม.ค. 55 23:34:20

ความคิดเห็นที่ 38 ตอบ คุณ Untrav (Untrav) ที่นำข้อมูลรางรถไฟมาฝาก ผมเห็นไม้ที่ทำหมอนรถไฟ ผมเกิดความคิดว่า ไม้หมอนเก่า รถไฟขายเอาเงิน หรือ ทิ้งเปล่าๆ โบกี้รถสายเหนือ สายใต้ ตอนนี้ทรุดโทรมมาก สมัยที่ผมนั่งเขาเพิ่งทำสีใหม่ ดูดีมากครับ คห. 34 คุณ bangkokguy ในยุโรปโบกี้ธรรมดา ก็แบ่งเป็นห้องๆ มีความเป็นส่วนตัว เหมือนนั่งชั้น 1 มีประตูกระจกปิด ในยุโรปคนนิยมรถไฟมากกว่าเครื่องบิน ต่างกับอเมริกา เอะ อะ ก็ขึ้นเครื่องบิน คงเป็นเพราะประเทศเขากว้างกว่า คห. 36 เพื่อนผมโรงงาน  Besco หนองแค สระบุรี เป็นโรงงานทำเครื่องมือกล เป็นงานละเอียด พวกศูนย์ปืนเขาก็ทำ  ..ผมเข้าใจว่าโรงงานเพื่อนรับจ้างทำเครื่องมือให้ ITD ตอนฝึกงาน เพื่อนคนนี้สนใจ Tool maker มาก เขาตั้งใจฝึกงานกัด "ฟอร์ม-หินเจียร" จากนั้นนำไปเจียรชิ้นงาน -เครื่องมือที่เป็นโลหะแข็งอีกต่อหนึ่ง วิธีทำ ใช้แผ่นเหล็กหนาขนาด 2 มม.เขียนแบบฟอร์มที่ต้องการตัด ค่อยๆแต่งด้วยตะไบ เอาไปขึ้น projector ฉายภาพออกมาทาบกับ drawing เป็นภาพขยาย ทำให้เห็นจุดแต่งได้อย่างละเอียด จากนั้น นำแผ่น Template นี้ไปใช้นำร่องให้ หัวเพชร กัดหินเจียรให้เป็นรูปฟอร์มตามต้องการ Cutter ที่แต่งรางรถไฟ ก็กัดแต่งฟอร์มโดยวิธีนี้ ครับ คห. 37 คุณ macaque ผมก็เดาว่าคงจะเป็น รถจากจีน ครับ จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 07:50:06

ความคิดเห็นที่ 39 คห.29 ตื่นเช้าผมรีบมาคลิ๊ก คลิป นี้ดูด้วยความสนใจ ขอบคุณ คุณ TENS ที่นำ Breather รางรถไฟมาให้ความรู้เรื่องการขยายตัวของรางรถ ผมนั่งรถไฟไปยะลา ผมสังเกตรถวิ่ง สะดุดเบาๆ เป็นช่วงๆ คงจะเป็นช่วง breather นี่เอง ปล. คุณ TENS ใช้กล้องอะไรถ่ายครับ ผมสนใจกล้องแบบคอมเพ็คที่มันซูมได้อย่างนี้ จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 07:57:52

ความคิดเห็นที่ 40 ใช้กล้อง FullHD Camcorder ของ Canon ครับ http://www.amazon.com/Canon-Ivis-M41-Camcorder-Red/dp/B004K1EA06 ปกติถ้าของในกระเป๋าหลังไม่หนักก็จะพกติดตัวทุกวันครับ เผื่อเจออะไรน่าสนๆจะได้ถ่ายเก็บไว้ จากคุณ : TENS เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 09:27:35

ความคิดเห็นที่ 41 สนใจแต่รถไฟความเร็วสูงจากจีนครับ โดยเฉพาะสายกรุงเทพ-นครราชสีมา ประโคมข่าวตั้งแต่รัฐบาลที่แล้ว จนป่านนี้เงียบหาย ไม่ทราบรัฐบาลนี้จะสานต่อหรือไม่ครับ จากคุณ : Ni.Somsak (Ni.Somsak) เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 13:12:07

ความคิดเห็นที่ 42 ขอบคุณ คุณ TENS  .. คห. 40 ครับ ตัวเล็กกระทัดรัดดีครับ ผมนึกถึงสมัยที่ VDO-8 ของ Sony ออกใหม่ๆ เดินชอบปิ้งที่ S'pore ฝรั่งเดินเข้าร้านแทบทุกคนจะถาม Have you got VDO-8  คนขายหยิบมาให้ดู ผมดูราคา หมื่นบาทนิดหน่อย กลับมาดูทีเมืองไทยขาย 4หมื่นกว่า ผมน่าจะหิ้วติดมือสักตัว (ตอนนั้น) ตอนนี้เรามี Memory card อะไรๆก็สะดวกไปหมด จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 16:37:49

ความคิดเห็นที่ 43 สวัสดี คุณสมศักดิ์ เดินทางจากโคราชบ่อยไหมครับ สำหรับคนเดินทางประจำน่าจะมีตั๋วเดือนครับ รถใต้ดินมีตั๋วเหมาจ่าย สะดวกดีเหมือนกัน จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 24 ม.ค. 55 16:41:49