ความคิดเห็นที่ 1 เป็นคำถามที่ดีมากครับ แล้วก็ยากด้วย ผมไม่ได้เรียนลงลึกด้านนี้ แต่จะลองอธิบายตามที่เข้าใจคร่าวๆ ดู 1) ในแต่ละยีนของคนเรา อาจจะมีหลายเวอร์ชั่น เช่น ยีนควบคุม blood type ABO ของคนเรา มี 3 เวอร์ชั่น IA, IB และ i เราแต่ละคนจะต้องมี 2 เวอร์ชั่น อันหนึ่งจากพ่อ อีกอันจากแม่ โดย i เป็นเวอร์ชั่นด้อย คนที่ได้ i มาจากทั้งพ่อและแม่จะมีเลือดหมู่ O ส่วน IA และ IB เป็นเวอรชั่นเด่นเท่ากัน IA ทำให้มีหมู่ A IB ทำให้มีหมู่ B ถ้าได้ทั้ง IA และ IB ก็จะมีหมู่ AB เรามีศัพท์ทางพันธุศาสตร์ที่เรียกแต่ละเวอร์ชั่นของยีนอันใดอันหนึ่งว่า อัลลิล Allele ในที่นี้ยีนควบคุมหมู่เลือด ABO มี 3 alleles 2) เนื่องจากเราแต่ละคนมี Allele ได้มากสุด 2 Alleles ต่อหนึ่งยีน อันหนึ่งจากพ่อ อันหนึ่งจากแม่ ไม่มีทางมีมากไปกว่านั้น แปลว่าคุณคนเดียวไม่สามารถเก็บข้อมูลพันธุกรรมของหมู่ ABO ได้ทั้งหมด คุณจะต้องสูญเสีย Allele อย่างน้อยหนึ่งในสาม Allele นี้ ถ้าจะรักษาได้ครบอย่างน้อยต้องมีสองคนขึ้นไป สำหรับยีนที่มีหลาย Allele มากๆ เช่น HLA ที่เป็นโปรตีนที่แพทย์ใช้ดูความเข้ากันได้เวลาเปลี่ยนถ่ายอวัยวะ เราต้องมีขนาดประชากรใหญ่ขึ้นไปอีก ถึงจะรักษา Allele ทั้งหมดได้ ขนาดประชากรที่สามารถรักษา Allele ทั้งหมดของทุกยีนที่มี อย่างมีประสิทธิภาพ เราเรียกว่า Effective population size http://en.wikipedia.org/wiki/Effective_population_size 3) แต่ Allele ก็เกิดจากการผ่าเหล่า ในอดีตกาลถ้าเราย้อนกลับไปนานพอ เราจะพบว่า Allele ทั้งหมดเหลืออันเดียว ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของ Allele ทั้งหมด สำหรับยีนแต่ละอัน ก็มีจุดที่ Allele ลดเหลืออันเดียวย้อนกลับไม่เท่ากัน บางอันอาจจะเพิ่งเกิด บางอันย้อนกลับไปสมัยบรรพบุรุษร่วมของเรากับชิมแปนซีก็มี 4) บางครั้งก็มีเหตุที่เราเรียกภาวะคอขวด คือจำนวนประชากรลดลงมากๆ จนบาง Allele สูญหายไป เช่น สมมติฐาน Toba catrastophe ที่เกิดภูเขาไฟครั้งใหญ่ระเบิดในอินโดนีเซียเมื่อ 6-7 หมื่นปีที่แล้ว ซึ่งใกล้เคียงช่วงเวลาที่เราย้อนข้อมูลทางพันธุกรรมของโครโมโซมเพศชายไปถึงชานคนหนึ่ง ที่เป็นบรรพบุรุษที่ให้กำเนิดโครโมโซมเพศชายทั้งหมด (Chromosome-Y Adam) พอดี แต่ไม่ได้หมายความว่าจะเหลือผู้ชายคนเดียวนะครับ เพราะยีนตัวอื่นยังมีหลาย Allele อยู่​ ณ ตอนนั้น เท่ากับว่า Effective population size ต้องมากกว่านั้น http://en.wikipedia.org/wiki/Toba_catastrophe_theory 5) เมื่อเรารู้ข้อมูลทั้งหมดข้างบนนี้ เราสามารถสืบกลับไปในช่วงเวลาต่างๆ เพื่อหา Effective population size ณ เวลานั้นๆ เพื่อบอกขนาดประชากรของมนุษยชาติได้ บอกช่วงที่เกิดภาวะคอขวดได้ ซึ่งตัวเลขที่น้อยที่สุดสำหรับ Effective population size ตั้งแต่เกิดประชากรมนุษย์กลุ่มแรก ก็อยู่ราวๆ หมื่นคน อาจจะมีบางวิธีที่บอกว่าอยู่หลักพัน ขึ้นกับวิธีคำนวณครับ แต่ไม่มีทางย้อนไปจนมีแค่อดัมกับอีฟแน่นอนครับ (นอกจากพระเจ้าจะเล่นกล บิดเบือนกฏทางพันธุศาสตร์เท่านั้น) ส่วนใครอยากรู้ให้ลึกๆ แนะนำเปเปอร์นี้ ครับผม เป็นการศึกษาภาวะคอขวดของบรรพบุรุษชาวเอเชีย และบรรพบุรุษชาวยุโรป เทียบกับชาวอัฟริกัน เพื่อศึกษาขนาดประชากรของมนุษย์ที่เริ่มอพยพออกจากอัฟริกา และกระจายไปทั่วโลกครับ http://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC3154645 แก้ไขเมื่อ 06 ก.พ. 55 13:58:13 จากคุณ : Geneticist เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 55 13:47:16

ความคิดเห็นที่ 2 ^ สุดยอดเลยค่ะ   รายละเอียดข้อมูลเยอะมาก  จะพยายามศึกษาทำความเข้าใจนะคะ แต่ที่งงอย่างนึงก็คือ แล้วประชากรแรกเริ่มของมนุษย์ เริ่มจาก 0 คน กระโดดเป็น 10,000 กว่าคนเลยเหรอคะ ?   คือเข้าใจนะคะว่าวิวัฒนาการเป็นเรื่องของประชากร แต่การนับจำนวนนับอย่างนั้นถูกต้องใช่ไหมคะ  ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ แก้ไขเมื่อ 06 ก.พ. 55 22:14:33 จากคุณ : เกร็ดทราย เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 55 22:07:31

ความคิดเห็นที่ 3 ึคืองี้ครับนิยามของ Species มันเป็นแค่ความพยายามของมนุษย์ที่จะตั้งกฎเกณฑ์เพื่อจำแนก "ชนิด" ของสิ่งมีชีวิตตามความสามารถในการสืบพันธุ์ในกลุ่มประชากร ซึ่งตามธรรมชาติจริงๆ แล้วมันไม่ได้แบ่งแยกชัดเจนขนาดนั้น วิวัฒนาการของ Homo sapiens ก็เกิดจากประชากรของบรรพบุรุษ (น่าจะเป็น Homo rhodesiensis)เกิดวิวัฒนาการลักษณะใหม่ๆ ทางพันธุกรรมที่เราพบใน Homo sapiens แลัวลักษณะนั้นกระจายไปในประชากร จนสมาชิกส่วนใหญ่มีลักษณะดังกล่าว เราก็เลยเปลี่ยนมาเรียกว่า Homo sapiens ตามเกณฑ์ที่สมมติกันขึ้น สรุปคือ มันไม่ได้มีเวลาชัดเจนว่าวันนี้มี Homo rhodesiensis พรุ่งนี้มี Homo sapiens แยกกัน แต่มีช่วงหนึ่งที่ลักษณะคาบเกี่ยวของ species เก่า และใหม่ปะปนกันในประชากร ก่อนลักษณะเก่าจะหายไปเกือบหมด เหลือแต่ลักษณะของ Species ใหม่ในประชากร ลองอธิบายอีกแบบแล้วกัน เมื่อ 3 แสนปีก่อน Fossil ที่เราเจอมีแต่ลักษณะของ Homo rhodesiensis แต่เมื่อ 1 แสนปีก่อน เราพบ Fossil ที่มีแต่ลักษณะของ Homo sapiens แต่ช่วง 2 แสนปีก่อน เราพบทั้งสองลักษณะ แล้วเราก็ไม่รู้ด้วยว่า Homo rhodesiensis กับ Homo sapiens สมัยนั้นยังผสมพันธุ์กันได้ไหม ถ้าได้ก็ยังเป็น Species เดียวกันอยู่ จากคุณ : Geneticist เขียนเมื่อ : 6 ก.พ. 55 23:12:21

ความคิดเห็นที่ 4 ^ Clear เลย  ขอบคุณมากค่ะ   ^^ จากคุณ : เกร็ดทราย เขียนเมื่อ : 7 ก.พ. 55 20:39:04