ความคิดเห็นที่ 1 .. จากคุณ : erkDaZe เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 23:14:53

ความคิดเห็นที่ 2 แล้วยุคไดโนเสาร์ละ พระเจ้าไปอยู่ใหนมา พระเจ้าเกิดมาพร้อมกับมนุษย์พร้อมกับความเชื่อและศาสนาไม่มีไครเคยเห็นพระเจ้า ผมว่าพระเจ้าคือสิ่งที่ศาสนาสร้างขึ้น ศาสนาก็มีไว้เพื่อควบคุมมนุษย์ ถ้าไม่มีศาสนาไว้ควบคุมคุณก็ลองนึกถึงโลกที่ไม่มีกฎเกณฑ์สิ จากคุณ : monsira เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 23:20:53

ความคิดเห็นที่ 3 ศาสนาใช้เพื่อทำคนให้เป็นคนในอดีต ทำให้ไม่เกิดความแตกแยก ควบคุมคนจำนวนมากได้ ส่วนปัจจุบันคือกฎหมายและการบังคับใช้ ผมคิดของผมแบบนี้นะ จากคุณ : กบยักษ์ เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 23:24:29

ความคิดเห็นที่ 4 ไดโนเสาร์.. ก็คือสิ่งมีชีวิต เมื่อ 60 ล้านปีก่อน ถ้า.. ถ้ามันต้องสร้างขึ้นมาก่อนเพื่อสร้างสมดุลของธรรมชาติ สมดุลของโลก แล้วก็ ตูมม.... ไดโนเสาร์หายไป หมด ถ้าพระเจ้าไม่ใช่สิ่งลี้ลับ ก็อย่างที่บอก คือคนที่ฉลาดที่สุด มากๆ เข้าใจกฏฟิสิกทุกอย่าง ไนโนเสาร์ผมว่าไม่ใช่เรื่องแปลกเลยนะถ้ามันจะมีขึ้นมาก่อนเพื่อปรับสมดุล ให้กับของเล่นของพระเจ้า จากคุณ : Ballmakoto2 เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 23:28:14

ความคิดเห็นที่ 5 พระเจ้า กับ ศาสนา ผมว่ามันต่างกันนะ จากคุณ : Ballmakoto2 เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 23:28:57

ความคิดเห็นที่ 6 เชื่อเรื่องบาปบุญ ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ชาติหน้า ชาติก่อนมีจริง ทำดีไว้เถอะครับ อ่นใจ สะสมบุญไปในตัว ก่อนตายจะได้สบายใจ จากคุณ : Grasshopper เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 23:29:27

ความคิดเห็นที่ 7 อย่าเพิ่ง เรื่องบาปบุญ ศาสนาอะไรตอนนี้ขอ วิทย์ๆ ก่อน คือผมต้องการรู้ ผมอยากได้คำตอบบางอย่าง ที่่จะทำให้คิด ต่อยอดได้ออกไป จากคุณ : Ballmakoto2 เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 23:35:59

ความคิดเห็นที่ 8 ผมว่าพระเจ้าในบริบททางพฤตินัย มีอยู่จริง แต่ไม่ได้อยู่ในบริบทที่เราๆเข้าใจกัน เกือบทุกสิ่งทุกอย่างเราสามารถคาดเดาได้ ถ้ามีข้อมูลและความรู้มากเพียงพอ จากคุณ : เรือแจวสีฟ้า เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 23:43:19

ความคิดเห็นที่ 9 ช่ายๆ แฟนซิตี้เข้าใจ ถ้าเรามีสติปัญญามากพอที่จะรับรู้ได้มากกว่านี้ พรุ่งนี้อัดแอสตันวิลล่า จ่าฝูงต่อ จากคุณ : Ballmakoto2 เขียนเมื่อ : 10 ก.พ. 55 23:47:06

ความคิดเห็นที่ 10 "สามารถรู้ไปได้ถึงระดับ อนุภาคที่เล็กที่สุด และจะเข้าใจได้ว่า ต้องทำยังไงกับมัน ถึงจะเกิดผลลัพธออกมาแบบไหน" ตามทฤษฏีควอนตัมในปัจจุบัน ในระดับอนุภาคเราไม่สามารถรู้อะไรเป๊ะๆ ได้ รู้ได้แค่ว่ามันน่าจะอยู่ตรงนี้มากกว่าตรงนั้น จากคุณ : Naibruda เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 00:02:11

ความคิดเห็นที่ 11 พระเจ้าไม่เคยสร้างมนุษย์ มนุษย์ต่างหากที่สร้างพระเจ้าขึ้นมา จากคุณ : ด.ช.แม่น เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 00:04:01

ความคิดเห็นที่ 12 พระเจ้ามีจริงครับ ถ้าเกิดว่าอยากพิสูจน์เรื่องราวของพระเจ้าลองหาไบเบิลมาศึกษาน่ะครับ เรื่องราวต่างๆในพระคัมภีร์เกิดขึ้นจริง สถานที่จริง จากคุณ : Glorfindel (MrSirzar) เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 00:04:49

ความคิดเห็นที่ 13 รู้มาก ฉลาดมาก เก็บข้อมูลมาก ในเวลาพริบตาด้วย แต่ทั้งนี้พระเจ้าในแนวคิดของคุณจำและรู้สิ่งต่างๆจากการ "สังเกต" การสังเกตระบบ ยิ่งมากเท่าไหร่ยิ่งทำให้ระบบถูกรบกวนมากขึ้น(จากกลศาสตร์ควอนตัม) และการสังเกตมากมายมหาศาลพอจะให้เรารู้ทุกอย่างจะทำให้ระบบนั้นกลายเป็นยุ่งเหยิง(Chaos)โดยสมบูรณ์เพราะปัจจัยต่างๆมันพันกัน ถ้าอยากจะแกะ Chaos นั้นให้หลุดต้องสังเกตมากขึ้นไปอีก และนั่นทำให้มันยุ่งขึ้นอีก สุดท้ายก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี กระทั่งอยู่ในมิติอื่น แรงโน้มถ่วงก็ส่งผลข้ามไปมาได้ นั่นก็กระทบระบบอยู่ดี สรุปแล้วคือผมยังคงไม่เชื่อในทฤษฏีพระเจ้าอยู่วันยังค่ำ กฎของตัวธรรมชาิติเองเท่านั้นครับที่ทำงานของมันไป พวกมันมีสภาพเป็นไปตามสิ่งที่มันควรเป็นเองโดยไม่ต้องมีใครมาทำอะไรแต่แรกแล้ว จากคุณ : ECOS (thelegendofm) เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 00:05:36

ความคิดเห็นที่ 14 ทฤษฏี ก็แสดงว่า สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอด กระทั่งกลายเป็นกฏ จากคุณ : chakrint เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 00:27:39

ความคิดเห็นที่ 15 สมองของพระเจ้า ไม่ใช่ระบบแบบที่เราคิด การที่ระบบจะถูกรบกวนและยุ่งเหยิง ได้ง่ายนั้น สติปัญญาของระบบผมว่าแค่ ซุปเปอร์คอมพิวเตอร์เอง ผมคิดว่าระบบสมองของพระเจ้า มันมากกว่า สิ่งที่ฉลาดที่สุดที่เราเคยพบมามากกว่านั้น หลายล้านๆเท่า และมีอายุยืนยาวมากกว่า เอกภพปัจจุบัน อาจจะหลายล้านเท่า ซึ่งอธิบายได้ง่ายๆว่า มันต้องเกิดก่อนเอกภพ นี้มากมายหลายล้านๆปีก็เป็นได้ กฏของธรรมชาติ เกิดขึ้นโดยเรื่องบังเอิญหรือป่าว กฏทุกอย่างของธรรมชาติ ค่อนข้างจะลงตัวและเป๊ะเลย แม้แต่คนธรรมดาอย่างเรายังสามารถเข้าใจได้ง่ายๆ ตามความรู้และสติปัญาระดับเราเอง แต่ตอนนี้เราก็กำลังตามหา สิ่งที่เป็นปัจจุบันก่อให้เกิดการควบคุม กฏและธรรมชาติเหล่านั้นอยู่ ทฤษฏีของพระเจ้า ผมให้ความเป็นไปได้ของมันอยู่ที่ 10เปอร์เซ็น แต่โดยส่วนตัวผมต้องยอมรับอย่างว่า มันเข้าใกล้คำตอบ หลายๆสิ่งมากที่สุดแล้ว แม้มันจะมีความเป็นไปได้น้อยมากก็ตาม คือทุกสิ่งทุกอย่างมันมีชีวิตนะผมว่าแม้แต่โลกของเราก็ตาม ต้นไม้ใบหญ้ามีหมด ถ้าใส่ปากใส่ภาษาให้มันมันอาจจะพูดได้ หรือ มันอาจจะพูดแล้วเราไม่เข้าใจ แก้ไขเมื่อ 11 ก.พ. 55 00:38:15 จากคุณ : Ballmakoto2 เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 00:31:43

ความคิดเห็นที่ 16 เชื่อทีวีด้วย? ก่อนมาเถียงเรื่องพระเจ้าข้ามอะไรสำคัญไปกันเปล่า ผมให้น้ำหนักรายการพวกนี้ 20% ว่าผู้จัดรายการไม่หลอกผู้ชม ให้อีก 20%ที่เหลือคือ คนที่มาออกรายการหลอกผู้จัดรายการ แก้ไขเมื่อ 11 ก.พ. 55 00:38:43 จากคุณ : 3N เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 00:36:20

ความคิดเห็นที่ 17 พระเจ้าไม่ทอดลูกเต๋า เพราะพระเจ้าเป็นเจ้าของบ่อน รับรู้รายได้อีกมิติหนึ่ง จากคุณ : สหายสายธาร เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 00:38:58

ความคิดเห็นที่ 18 ทุกวันนี้แม้เราจะ คำนวนได้ทางคณิศาตร์ออกมามากกว่า 11 มิติ กฏต่างๆ ฟิสิกต่างๆ ของเรายังจะใช้ได้อยู่กับมิติอื่นๆหรือป่าว เพราะเรามีปัญญาเพียงแค่นี้เรารู้มากไปกว่า 4 มิตินี้ไม่ได้ ทฤษฏีต่างๆ กฏต่างๆตั้งแต่มนุษย์หรือโลกถือกำเนินมา คือกฏที่อยุ่ภายใน 4 มิติ ปล.ยิ่งคิดยิ่งยุ่งเหยิง นอนดีกว่าฝันดีคับ มึน จากคุณ : Ballmakoto2 เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 00:41:14

ความคิดเห็นที่ 19 คุณ จขกท. มองเห็นความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติแล้ว แต่ติดตรงที่การเอาความเป็นมนุษย์ไปทาบใส่กับอย่างอื่นที่ไม่ใช่มนุษย์ ไปมองว่าธรรมชาติสร้างมาพอดีกันเกินไป?? เหมือนมีใครมาสร้าง?? คือคุณไปปรุงแต่งเองว่าธรรมชาติจะ "คิด" จะมี "เจตจำนงค์" ทั้งๆที่การมี"เจตจำนงค์" หรือจุดประสงค์เนี่ย มันเป็นแค่วิธีคิดของมนุษย์ มันแค่ผลผลิตอย่างหนึ่งของสมองมนุษย์เองนะ ถ้าคุณมองว่าธรรมชาติมัน exist ของมันแบบนี้ มีกฏฟิสิกส์ของมัน ทำงานรวมกันจนเกิดผลให้เราได้สังเกตเห็นแบบนี้แบบนั้น คุณจะเรียกธรรมชาติว่าเป็นพระเจ้าก็ได้ ไม่ผิด ทุกอย่างอยู่ในนี้ได้หมด พระเจ้าสร้างตัวเอง พระเจ้าใหญ่สุด พระเจ้าสร้างอย่างอื่นทุกอย่างด้วย แต่จะไม่ตรงกับทางศาสนา เพราะเขาบอกว่าพระเจ้ามีเจตจำนงค์ เหมือนคนเลย จากคุณ : ... เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 01:19:29 A:125.26.220.112 X: TicketID:208572

ความคิดเห็นที่ 20 ^ ^ ^ เห็นด้วยครับ จากคุณ : นาย X-MAN เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 02:03:58

ความคิดเห็นที่ 21 พระเจ้ากับผี ใครมีอิทธิฤทธิ์มากกว่ากันครับ จากคุณ : toronado เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 02:16:18

ความคิดเห็นที่ 22 ผู้นำศาสนาทุกศาสนา สร้างสิ่งยึดเหนี่ยวให้คนหมู่มากเชื่อถือเสียก่อน เหมือนเรามีกฏหมายใช้ควบคุมสังคม ผิดหรือถูก ก็อ้างมาตราบทของกฏหมาย หลักความเชื่อทางศาสนาก็เช่นกัน พระพุทธเจ้าประสูติ ก็มีดอกบัวมารองรับ ฯลฯ พอไม่เชื่ออะไร ก็อ้างพระสูตร บอกให้ใช้กาลามสูตร ก่อนเชื่ออะไร ? ได้แต่ท่องเป็นนกแก้วอยู่อย่างนั้น จนตอบไม่ได้ว่า จะใช้กาลามสูตรอย่างไร ? สรุปว่า เมื่อไม่อยากเชื่ออะไร ก็อ้างพระสูตรบทนี้ให้ดูขลัง นั่นแหละครับ จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 05:49:04

ความคิดเห็นที่ 23 พระเจ้า จากคุณ : เขียนบน iPad (เชื่อเสียงหัวใจ) เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 06:00:31

ความคิดเห็นที่ 24 มันผิดตั้งแต่ย่อหน้าที่ สอง ของ จขกท แล้วครับ คนเรา"ไม่"สามารถทำนายอนาคตได้ เหรียญหล่นถึงพื้น เพราะคุณ"กระทำ"กับเหรียญ ต่างหากครับ ลองให้คนอื่นถือเหรียญไว้ในมือ คุณจะรู้ได้ไหม ว่าเขาจะปล่อยเหรียญ หรือทำอะไรกับมัน จากคุณ : phoenix เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 06:44:53 A:110.171.170.101 X: TicketID:342684

ความคิดเห็นที่ 25 มีจริงแน่นอน แถมยังเป็นคนไทยด้วย จากคุณ : Tama2kun เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 06:46:46

ความคิดเห็นที่ 26 สรุปว่า จขกท ไม่ฟังใครหรอก จากคุณ : Bestz_pH8+ เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 07:40:49

ความคิดเห็นที่ 27 คำตอบอาจอยู่ที่ประโยคแรกของ จขกท เอง "ถ้าไม่ได้เตี๋ยมกัน" ผมหมดศรัทธากับรายการนี้มานานแล้วครับ โดยเฉพาะหลังจากที่มาถ่ายทำผมแฉมุขน้ำกรดหลอกลวงคนของพระวัดหนึ่ง เสร็จแล้วก็ไม่ยอมออกอากาศ :-P จากคุณ : JD300 เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 08:01:26

ความคิดเห็นที่ 28 ก็แค่สิ่งสมมุติแต่งเรื่องขึ้นมาหลอกคนให้หลงเชื่อตาม ถ้าเชื่อเรื่องพระเจ้ามีจริง ก็น่าจะเชื่อว่าอุลตร้าแมนมีจริง จากคุณ : กบกินกะลา เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 08:19:46

ความคิดเห็นที่ 29 พระเจ้าในศาสนาพุธไม่มี มีในฮินดู คริส อิสลาม แล้วแบบนี้ยังไงดีล่ะคับ ต้องเปลี่ยนศาสนาไหมคับถึงจะเจอพระเจ้า ปล. ความรู้สมัยเรียน ถ้าจำผิดโปรดอภัย จากคุณ : winpa เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 09:02:53

ความคิดเห็นที่ 30 เคยได้ยินมาว่าทางศาสนจักรขอร้องให้สตีเฟ่น ฮอกิ้น หยุดการเผยแพร่งานเขียนเรื่องเอกภพ ด้วยอ้างเหตุว่ายิ่งเผยแพร่ออกมามากเท่าไหร่ ที่อยู่ของพระเจ้าก็จะลดน้อยลงไปเรื่อยๆ จากคุณ : ธุลีดาว เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 09:08:04

ความคิดเห็นที่ 31 ไม่ขออิงศาสนานะครับ  พระเจ้าในความคิดผมคือมนุษย์ต่างดาว ที่ฉลาดกว่ามนุษย์ต่างดาวทั้งปวง จากคุณ : giser เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 09:19:39

ความคิดเห็นที่ 32 เอ่อเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับไม่ฟังอะไรใครเลยครับ ลองอ่านกระทู้ผมก่อน มันเป็นทฤษฏี ที่พิสูจน์โคตรยากส์ทำได้เพียงแค่สันนิฐาน ออกมาไม่สามารถหาอะไรมายืนยันและหักล้างได้ตอนนี้ ซึ่งอย่าง คห19 ผมก็ได้เพิ่มวิธีคิดแบบใหม่ ถ้ามีพระเจ้า แน่นอนสินะ เค้าคงไม่ได้มีวิธีคิด แบบมนุษย์อย่างเรา วิธีคิดของพระเจ้า อาจจะเป็นวิธีคิดที่คิดเหมารวมทุกสิ่งใน เอกภพ ได้หมด ส่วนคุณเจด ผมไม่ได้ติดใจอะไรเรื่องคลิบหรอกครับ แต่คุณเจดลองเปิดใจหน่อย คิดในอีกด้านหนึ่งดู "ถ้า" มันไม่ได้เตี้ยม มันจะอธิบายยังไง ในเมื่อคน บุคคล นี้มีตัวตนอยู่จริง และปัจจุบันนี้ก็ยังอยู่ที่เดิม ซึ่งผมยอมรับวิธีคิดแบบคุณไม่ได้ เพราะคุณจะตัดเรื่องนี้คุณพิสูจน์ไม่ได้กลายเป็น การเตี้ยมหรือการงมงายหมด แต่ปิดกั้นที่จะอธิบายในอีกเหตุผลหนึ่งไปสิ้นเชิง ส่วน คห 24 ครับจริงเพราะเราไม่รู้ว่า คนอื่นจะโยนเหรียญ แต่ถ้าเค้าโยน ใน 0.5 หรือ 1 วิ คุณก็รู้แล้วว่ามันจะตกถึงพื้น ทั้งที่มันยังไม่ตกใช่ไหม แต่ คุณทำนายไม่ได้ว่า เค้าจะโยนหรือป่าว เพราะความรู้ของ เรามันจำกัดได้แค่นั้นเองไงครับ ผมก็อธิบายไปแล้ว แต่ถ้าคุณ มีความรู้ได้มากกว่านี้หลายล้านๆๆเท่าละ คุณอาจจะคำนวนวิธีคิดของเค้าจากการทำงานของระบบร่างกายต่างๆ เข้าใจถึงการ ความสัมพันธ์ของระดับ อนภาค ทุกอย่างที่หล่อลวมกันเป็นเซลต่างๆในร่างกาย อาจจะทำนายได้ไปถึงว่าเหรียญตกถึงพื้นแล้วจะเป็นไงต่อไป เรื่อยๆเลยก็ได้ เพราะคุณเป็นมนุษยที่มีข้อจำกัดอยู่เพียงแค่นี้กันไงครับ เราถึงรู้กันได้แค่นี้ แก้ไขเมื่อ 11 ก.พ. 55 09:38:14 จากคุณ : Ballmakoto2 เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 09:36:29

ความคิดเห็นที่ 33 มีจริงไม่จริงก็ยังไม่รู้ เห็นก็ไม่เคยเห็นพบก็ไม่เคยพบ แต่หลายคนรู้ไปหมดว่าพระเจ้าอยู่ยังไง คิดยังไง เป็นวิทยาศาสตร์สาขาไหนครับ แบบนี้ จากคุณ : Mr MOT เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 09:48:51

ความคิดเห็นที่ 34 การที่เราไม่เริ่มต้งทฤษฏี ไม่เริ่มกระบวนการคิด คือวิทยาศาสตร์สาขาไหนละคับ   เค้าตามหาฮิกโบซอน กันทำไม ในเมื่อยังไม่รู้ว่ามันมีหรือไม่มีจริง จากคุณ : Ballmakoto2 เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 10:42:56

ความคิดเห็นที่ 35 "จินตนาการ สำคัญกว่าความรู้ " คนกล่าวคำนี้ก็คือ บิดาแห่งวงการวิทยาศาสตร์  เราต้องคิดได้เกินกว่าสิ่งที่เรารู้เราเห็น จากคุณ : Ballmakoto2 เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 10:47:11

ความคิดเห็นที่ 36 ถ้ามีพระเจ้าจริงๆ ทำไมต้องทำไห้มีความสงสัยในพระเจ้าด้วย และความสงสัยก็มักจะก่อผลเสียต่อพระเจ้า จากคุณ : ต.ตั้ม กินแต่หญ้า เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 11:03:00

ความคิดเห็นที่ 37 รายการมันสร้างดราม่ามาปั่นเรทติ้งไปงั้นแหล่ะ เหมือนนักนิยมพระเจ้าก็ชอบสร้างดราม่าปั่นเรทติ้งให้พระเจ้า จากคุณ : ขอเอาชื่ออากงเป็นเดิมพัน เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 11:03:10

ความคิดเห็นที่ 38 คห. 35 ทำไมชอบตัดทอนไห้มันเข้าข้างตัวเองซะขนาดนั้นละครับ ไม่ใช่ว่า  "จินตนาการ สำคัญกว่าความรู้ เมื่อมันตั้งอยู่บนพื้นฐานของความจริง" หรอกหรอ จากคุณ : ต.ตั้ม กินแต่หญ้า เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 11:05:58

ความคิดเห็นที่ 39 ให้แยกพระเจ้าในทางศาสนา กับพระเจ้าในทางวิทยาศาสตร์ก่อนคับ พระ ไม่มีในทางผลเสีย อะไร เจ้าในทางวิทย์ จากคุณ : Ballmakoto2 เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 11:08:31

ความคิดเห็นที่ 40 ในความคิดของผม พระเจ้า เกิดจาก ความสงสัย ความไม่รู้ และความกลัว ของมนุษย์ มนุษย์ ชอบสงสัย สงสัยแล้วก็หาคำตอบ จนรู้ว่าโลกกลม รู้ว่าโลกหมุนรอบตัวเอง หมนุรอบดวงอาทิตย์ รู้ว่ามีระบบสุริยะ รู้ว่ามีจักรวาลและเอกภพ รู้(โดยสมมติ)ว่าเอกภพเกิดอย่างไร รู้ว่ามนุษย์เกิดจากเซลล์ มาจากการวิวัฒนาการ รู้ไปจนถึงต้นกำเนิดของสิ่งมีชีวิต ต้นกำเนิดของโลก ต้นกำเนิดของจักรวาล รู้ไปจนถึงระดับโมเลกุล อะตอม ส่วนประกอบของอะตอม แต่ก็ยังสงสัยต่อไปว่า นอกจักรวาลมีอะไรต่อ เล็กกว่าควากซ์มีอะไรอีก ก่อนจะเกิดจักรวาลคืออะไร และต่อให้รู้ ก็ยังจะหาต่อไปว่า นอกจากนั้น ก่อนหน้านั้น เล็กกว่านั้น เป็นอะไร ซึ่งที่มาของความสงสัยเหล่านั้น คือ ต้องการขจัดความกลัวที่อยู่ลึกๆ ในสมอง ว่าตัวเองตายแล้วไปไหน ถึงได้เริ่มหาที่มา หาความเป็นไปของทุกสรรพสิ่ง เมื่อยิ่งรู้ก็ยิ่งสงสัย เมื่อสงสัยแล้วหาคำตอบไม่ได้ ก็จะเริ่มกลับมากลัว กลัวว่าตัวเองจะไม่มีที่ไป ไม่รู้ว่าตายแล้วไปไหน จนสุดท้ายความกลัว ก็สร้างตัวตนของพระเจ้าขึ้นมา ว่าพระเจ้านั่นแหละ สร้างทุกอย่างขึ้นมา บ้างก็สร้างเทพขึ้นมา เช่น พระตรีมูรติ แต่จริงๆ แล้ว เราไม่จำเป็นต้องไปหาอะไรให้มากเลย แค่ยอมรับความกลัวของตัวเอง ยอมรับความเป็นไปของชีวิต และเตรียมพร้อมกับสถานะที่ทุกคนต้องเจอ ถ้าทำได้ ต่อให้มี หรือไม่มีพระเจ้า ก็ไม่สำคัญ เพราะทำอะไรไม่ได้อยู่ดี ทุกอย่างอยู่ที่ความคิดเรานั่นแหละ เหมือนที่พระพุทธเจ้าเคยตรัสว่า ความรู้มีมากมายเหมือบใบไม้ในป่า แต่ความรู้รู้ที่จะทำให้นิพพาน มีอยู่แค่เท่าใบไม้ในกำมือ จากคุณ : Redrum เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 11:11:45

ความคิดเห็นที่ 41 ส่วนตัวผมไม่ได้กลัวนะ คนอื่นอาจจะกลัวจนปฏิเสธการมีตัวตนของเรื่องพวกนี้ แต่ของผมนั้นเกิดจากความอยากรู้อยากเห็น เรื่องพวกนี้ เป็นเรื่องที่ น่าตื่นเต้นมากๆ กับการที่เราจะรู้ว่าจักวาลนี้มีอะไรอยู่บ้าง จากคุณ : Ballmakoto2 เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 11:22:08

ความคิดเห็นที่ 42 จากอธิบายก็กลายเป็น ดิสเคดิต นั่นหมายความว่า ไม่มีอะไรจะอธิบายแล้วใช่ไหม จากคุณ : ต.ตั้ม กินแต่หญ้า เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 11:30:51

ความคิดเห็นที่ 43 ถ้าพระเจ้าจะมีจริง พระองค์ก็เป็นผู้ที่สร้างกฎเกณฑ์ต่างๆ เอาไว้ แล้วที่เหลือก็ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามกฎต่างๆ ตั้งแต่แรงดึงดูด ยันพันธะเคมี จากคุณ : คนเดินดินกินข้าวแกง เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 11:37:40

ความคิดเห็นที่ 44 พระเจ้าสร้างเรา ใครสร้างพระเจ้า ใครสร้างผู้ที่สร้างพระเจ้า .................................... ผมเชื่อว่าทุกอย่างมันเกิดเองครับ ธรรมชาตินั้นเอง จากคุณ : NeoTokyo เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 11:47:57

ความคิดเห็นที่ 45 คห42 อะไรคือการดิสเครดิตหรอคับ ? เรื่องแบบนี้มีการดิสเครดิตกันด้วยหรอ  บางจินตนาการก็ไม่ได้เริ่มจากพื้นฐานความเป็นจริงครับ ก่อน มีทฤษฏีสัมพันธภาค มีคนในโลกนี้ รู้ว่ามันอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริงด้วยหรอ มีแต่เพียงว่า อาจจะเป็นจริง จากคุณ : Ballmakoto2 เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 11:58:31

ความคิดเห็นที่ 46 คุยเรื่องพวกนี้คุณอย่าไปซีเรียสสิคับ มันยังอยู่นอกเหนือจากความรู้เราอีกมาก ฟันธงอะไรไปไม่ได้หรอก จากคุณ : Ballmakoto2 เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 12:00:01

ความคิดเห็นที่ 47 "คนอื่นอาจจะกลัวจนปฏิเสธการมีตัวตนของเรื่องพวกนี้" ก็แค่พูดไปตามที่เห็น จากคุณ : ต.ตั้ม กินแต่หญ้า เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 12:31:57

ความคิดเห็นที่ 48 คิดมากคับ ผมหมายถึงคนที่กลัวเรื่องพวกนี้จน ปฏิเสธการมีอยู่และรับรู้มันต่างหาก ทั้งที่ตัวเองก็เชื่อเรื่องพวกนี้ จากคุณ : Ballmakoto2 เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 12:59:43

ความคิดเห็นที่ 49 โดยส่วนตัว คิดว่าภายใต้กฎทางฟิสิกส์ที่อยากจะบอกว่า มันไม่มีกฏครอบคลุมในทุกมิติ ก็คือไม่มีกฎนั่นแหละ อะไรก็เป็นไปได้  ถ้าหากพระเจ้าเป็นส่วนหนี่งของฟิสิกส์ ผมก็ว่ามีชัวร์  มิติที่ซ้อนทับกันนับไม่ถ้วนในเวลาเดียวกัน และมิติเดียวกันแต่เวลาเหลื่อมซ้อนกันเป็นลำดับ ย่อมสร้าง ความแตกต่างให้กับสรรพสิ่งเป็นอนันต์ ไม่ว่าเราจะจำลองเหตุการณ์ต่างๆด้วยเลขฐานอะไรก็ตาม ลองหาจำนวนอะไรก็ได้ที่เราเขียนเป็นตัวเลขไม่ได้บ้าง มีไหมครับ   ในเมื่อไม่มีจำนวนที่แทนค่าด้วยตัวเลขไม่ได้ ก็ย่อมไม่มี เหตุการณ์ที่เป็นไปไม่ได้เช่นกัน สมองของคนเราก็คือควันตัม ที่จินตนาการไป ควันตัม ย่อมเข้าใจควันตัมและไม่มีอะไรนอกเหนือไปจากสิ่งที่เราเป็น สิ่งที่เราเป็นก็คือสิ่งที่ไม่มีกฎเกณฑ์ใดๆ  แม้แต่การเรียกพระเจ้า เราก็อาจจะเรียกต่างกันไป ทำให้เกิดข้อถกเถียงว่ามีหรือไม่มีกันแน่ จากคุณ : ประภาคารเก่า เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 13:48:04

ความคิดเห็นที่ 50 จขกท แค่จะสื่อว่า ถ้าเรารับรู้ถึงการปฏิสัมพันธ์,การกระทำในระดับอณูของทุกสรรพสิ่งทั้งมวลทั้งมีชีวิตและไม่มีชีวิต เราจะสามารถรับรู้ reaction ได้จากการ action ของสิ่งเล็กๆสิ่งหนึ่ง ที่ในระยะยาวมันจะสามารถสร้างผลกระทบให้หลายๆสิ่งได้ เหมือนทฤษฏี butterfly effect  หรือในสำนวนที่ว่า "เด็ดดอกไม้สะะเทือนถึงดวงดาว" รึป่าว? จากคุณ : ยะฮงยะโฮอะไรกันเล่า เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 17:08:01

ความคิดเห็นที่ 51 ถ้าคิดเรื่องพระเจ้าแบบตะวันตกผมไม่รู้ไม่เคยศึกษา แต่ถ้าแบบพุทธความสามารถเกิดจาก ญาณและสมาธิ ซึ่งมีหลายขั้น อย่างพระพุทธเจ้าท่านมี ทศพลญาณ 10 อย่างที่เป็นกำลังในการเผยแพร่ศาสนา และญาณสำคัญที่ชาวพุทธควรรู้ คือ อาสวักขยญาณคือความรู้ที่ใช้ในการขจัดกิเลส แก้ไขเมื่อ 11 ก.พ. 55 18:27:24 จากคุณ : lostman เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 17:37:14

ความคิดเห็นที่ 52 ใช่แล้วคับ คห 50 ไม่ใช่เพียงจะรับรู้ได้อย่างเดียว แต่ต้องมีสติปัญญามากพอที่จะคำนวนถึงผลกระทบ จากการเกิดปฏิสัมพันธแบบต่างๆ ของ อนุภาค  สถาณของพระเจ้าอาจเป็นอนุภาคด้วยก็ได้ ถึงจะควบคุมอนุภาคต่างๆได้ จากคุณ : Ballmakoto2 เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 18:37:54

ความคิดเห็นที่ 53 ไม่ขอเถียงกันคนที่ไม่เคยสัมผัสพระเจ้า ... จากคุณ : เศียรนาคา ... เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 19:10:58 A:125.27.44.19 X: TicketID:255126

ความคิดเห็นที่ 54 เคยสัมผัสละเรอะ สวยอึ๋มป่ะ จากคุณ : Ballmakoto2 เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 19:37:45

ความคิดเห็นที่ 55 ไม่ว่าจะมีหรือไม่มีก็ตามแต่ แต่ผมว่าพระเจ้ายังไม่ใช่ที่สุดของการก่อกำเนิดทุกสิ่งทุกอย่าง จากคุณ : ประภาคารเก่า เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 20:11:45

ความคิดเห็นที่ 56 ต้องนิยามคำว่า "พระเจ้า" ให้ดีก่อน แล้วค่อยเถียงกันว่ามีหรือไม่มี ไม่งั้นไอ้พวกที่เชื่อก็เปลี่ยนนิยามของพระเจ้าให้เข้ากับสถานการณ์ไปเรื่อยๆ แหล่ะ จากคุณ : outsider_from_within เขียนเมื่อ : 11 ก.พ. 55 23:50:34

ความคิดเห็นที่ 57 พระเจ้า คือกลุ่มก้อนความศรัทธาของมนุษย์ครับ ยิ่งมีศรัทธามากเท่าไรผู้ที่ศรัทธาก็จะสัมผัสถึงพระเจ้าของเขามากขึ้นเท่านั้น เอาง่ายๆคือ เขารู้สึกว่ามีจริง แต่คนอื่นอาจจะไม่รู้สึกว่ามี จนกว่าคนๆนั้นจะได้ศรัทธาด้วยถึงจะรู้สึกถึงพระเจ้าที่ว่า จากคุณ : 4-lunatic เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 55 00:51:42

ความคิดเห็นที่ 58 ถ้าพระเจ้าแบบความศรัทธามันจะอธิบายตัวตนได้ลำบากมากเลยนะครับ แต่ถ้าพระเจ้าในทางวิทยาศาตร์หรือกฏฟิสิก ของเอกภพหรือจักวาล มันคืออีกแบบหนึ่ง คือสิ่งมีชีวิตที่ ยิ่งใหญ่ที่สุด พอๆ กับสิ่งมีชีวิตที่เล็กที่สุดที่เรามองไม่เห็นเช่นกัน จากคุณ : Ballmakoto2 เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 55 01:49:21

ความคิดเห็นที่ 59 ที่เราทำนายได้เพราะเราสังเกตแล้วทำนายครับ แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงนั้น มันทำนายตัวมันเองได้ ไม่ใช่เกิดอย่างสุ่มมั่วซั่ว ธรรมชาติไม่มีเจตจำนงค์ครับ ลองเทียบจักรวาลและตรรกะเป็นเด็กคนนึงที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย อยากกินก็กิน อยากนอนก็นอน อยากทำอะไรก็ทำ ไม่ได้มีความหมายอะไรเลยซักนิด แต่คนเราพอสังเกตนานๆ ก็คาดเดาได้ว่าถ้าเด็กคนนี้ทำแบบนี้อนาคตจะเกิดแบบนั้นขึ้น นี่แหละครับที่ผมบอกว่าธรรมชาิติไม่มีเจตจำนงค์ มันจะเกิดอะไรก็เกิดไปเรื่อยเปื่อยของมัน ส่วนมนุษย์เราตะหากที่พยายามพฤติกรรมของเด็กคนนี้ และที่เลยไปกว่านั้นคือพยายามสร้างความหมายให้กับมันด้วย (เช่น เด็กคนนี้อยากให้คนเป็นคนดี) ทั้งๆ ที่ถ้าธรรมชาติพูดได้มันอาจจะบอกว่า "ไม่ได้คิดอะไรเลย อยากให้เป็นอะไรก็เป็น" ก็ได้นะครับ ถ้าจะศึกษากลไกธรรมชาติ ต้องละทิ้งว่าธรรมชาติมีเจตจำนงค์และมีความหมายในการดำรงอยู่ก่อนครับ ส่วนที่คุณบอกว่าความพอดี ต้องลองคิดแบบนี้ว่าหลังจากเกิด Big Bang แล้วมีเศษฝุ่นกระจายออกมาแทบจะเป็นอนันต์ชิ้น มันต้องมีซักชิ้นแหละที่ "พอดี" ได้มากขนาดนี้ จึงเกิดเอกภพในลักษณะนี้ได้ ลักษณะของจักรวาลก็อาจจะเป็นเช่นนี้ก็ได้นะครับ ไม่ได้สร้างมาให้พอดีอะไรเลย แต่สร้างมาเยอะมากจนต้องมีซักชิ้นที่มันพอดี เรื่อง Mass Production ของเอกภพ ผมคิดเล่นๆ ก็จริง เพราะความจริงเป็นแบบไหนก็ไม่รู้ แต่ก็สามารถหักล้างความคิดที่ว่า "ทุกอย่างมันพอดีเกินไป ต้องมีพระเจ้าแน่นอน" เพราะการเกิดสิ่งที่ "พอดีขนาดนี้" มันอาจจะไม่จำเป็นต้องใช้พระเจ้าก็ได้ครับ ใช้แค่การสุ่มไปเรื่อยจนกว่าจะเกิดขึ้นมาได้ แก้ไขเมื่อ 12 ก.พ. 55 02:04:33 จากคุณ : Mariel เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 55 02:01:30

ความคิดเห็นที่ 60 คุณเชื่อเราไหม?? พระเจ้า.. ไม่มีจริง!! เราก็ไม่รู้ว่า พระเจ้าคืออะไร ถ้าหมายถึงคนสร้างโลกล่ะก็.. เราจะบอกว่า พวกเรานี่แหละ คือผู้สร้าง.. รอบๆตัวเรา มันเป็นโรงละคร ที่จิตใต้สำนึกของพวกเราสร้างขึ้นมาเอง!! จากคุณ : mooesha เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 55 05:43:55

ความคิดเห็นที่ 61 ทฤษฏี คห 59 มันเป็นได้ครับ แต่ใช้อธิบายถึงเหตุผล ในมิติอื่นๆไม่ได้มันไม่สัมพันธ์กันนะครับ ตัวแปรของ ทฤษฏีพระเจ้า เกิดจากการที่มันมีพลังงาน บางอย่างที่เรายังอธิบายกันไม่ได้ ไม่ใช่พระเจ้าแบบความเชื่อทางศาสนา แต่เป็นพระเจ้ามีเป็นสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่อีกรูปแบบหนึ่ง  เหมือนร่างกายคนเราเนี้ยเราไม่รู้หรอกว่า มันทำงานกันได้ยังไง ตัวเราเองยังไม่รับรู้วิธีการต่างๆในร่างกายได้เลย แต่มันก็ ทำงานของมันไปเสมือนสิ่งมีชีวิต ที่เป็นส่วนประกอบของร่างกาย แก้ไขเมื่อ 12 ก.พ. 55 16:10:53 จากคุณ : Ballmakoto2 เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 55 13:15:15

ความคิดเห็นที่ 62 ตอนยืนรอรถเมล์นานเกิน 2 ชม.แล้วมีแต่รถเสริมไปไม่ถึงบ้านผมจะเริ่มมีศรัทธาครับ ว่าพระเจ้า กำลังเล่นอะไรกับผมอยู่................... จากคุณ : polyodon เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 55 21:20:34