ความคิดเห็นที่ 1 ไม่ต้องมองอื่นไกล   กรณีพิพาทในทะเลจีนใต้  เพราะคู่กรณีมีหลายประเทศ   แถวยังจะมี อิแอบอยู่ด้านหลังให้ท้ายอีก   หากไม่เตรียมตัวให้พร้อม  จะเอาอะไรเป็นหลักประกันว่าจะเอาอยู่   และอีกประการหนึ่งคือ ประเทศจีนตอนนี้  แกก็หวังจะเป็นประเทศมหาอำนาจใหม่  ให้ทัดเทียมกันประเทศต่างๆ  ดังนั้นจึงมีการปรับปรุงพัฒนา ฟึกซ้อมกันเป็นที่ครึกโครม จากคุณ : fg เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 07:56:52

ความคิดเห็นที่ 2 โจทย์แกก็อเมริกานั่นแหละครับเตะถ่วงจีนอยู่เพราะจีนก้าวหน้าไวเกินไป และถ้าจีนต้องการพัฒนาประเทศให้เทียมอเมริกาได้ต้องชิงทรัพยากรกับอเมริกาครับ เช่นหมู่เกาะสเปชรี่ดังนั้นจึงต้องพัฒนากองทัพสู้ครับ จากคุณ : เวย์คุง เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 08:09:57

ความคิดเห็นที่ 3 ดูแล้ว ขนลุก เลยเราควรจะอยู่ข้างจีนนะครับ จากคุณ : 123 เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 08:32:23 A:180.180.40.195 X: TicketID:346552

ความคิดเห็นที่ 4 คลิป ของ จขกท. เค้า จากคุณ : เวย์คุง เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 08:51:48

ความคิดเห็นที่ 5 การพัฒนากองทัพให้ยิ่งใหญ่หากกระทำโดย ไม่พัฒนาทางการเมืองและสังคมไปพร้อมๆกัน คงเป็นเรื่องน่ากลัวไม่น้อย ที่อำนาจการสั่งการตกอยู่กับคณะบุคคลกลุ่มเล็กๆ ซึ่งจะเป็นจุดอ่อนในเวทีการเมืองระหว่างประเทศ คือขาดการสนับสนุนและวางใจตลอดจนความร่วมมือจากนานาประเทศ ตัวอย่างก็มีให้เห็นมากมายในอดีต ที่เข้มแข็งเฉพาะการทหาร สุดท้ายไปไม่รอดซักประเทศ อย่างนาซีเยอรมัน หรือไม่ก็สหภาพโซเวียต ประเทศเหล่านี้การทหารไม่ใช่แค่ทัดเทียมฝ่ายตรงข้าม แต่เหนือกว่ามหาศาลในกรณีของนาซีเยอรมัน จากคุณ : Mikoyan เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 09:17:58

ความคิดเห็นที่ 6 ดูๆไปแล้ว ไม่น่าจะมีใครกล้าไปยุ่งกะจีนเลยนะเนี่ย จากคุณ : Disorder เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 10:32:38

ความคิดเห็นที่ 7 มันหนักตรงไหนนิ ... ฝีกปรกติ ชาติไหนก้อฝึกกันแบบนี้ทั้งนั้นนินา ... จากคุณ : Meow-Meow (piggy_and_kitty) เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 11:07:28

ความคิดเห็นที่ 8 อเมริกาเรียก deploy แล้วค่ะ  ทหารอากาศขาดรักหนะ  เริ่มแล้ว   เซ็ง.... เพิ่มเติม  ไม่ได้ตอบเรื่องจีน  เพราะไม่รู้ค่ะ ^^ แก้ไขเมื่อ 27 ก.พ. 55 13:06:12 แก้ไขเมื่อ 26 ก.พ. 55 11:39:16 จากคุณ : gift is a present เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 11:32:41

ความคิดเห็นที่ 9 ออกแนวโฆษณาชวนเชิ่อซะมากกว่านะครับ ท่าสวยแอคชั่นเยี่ยม ไม่แน่ใจว่าเคยมีประวัติรบจริงบ้างหรือยัง นอกจากศึกกำราบเวียดนาม เมื่อก่อนก็จอมเมืองยุทธเต็มบ้านเต็มเมือง พอโดนญี่ปุ่นบุกกลับแพ้กระเจิง เอาคนไปหัวเล่นกันซะเหนื่อยที่หนางกิง ว่าแต่ ปืนประจำกายทหารจีน นึกว่าจะเป็น ตระกูล AK ซะอีก จากคุณ : ธงยอดเสา เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 11:42:54

ความคิดเห็นที่ 10 /\ /\ ไม่แน่ใจว่าทราบเรื่องของ "กลุ่มขุนศึก" ที่มาสวามิภักดิ์กับรัฐบาลก๊กมินตั๋งไหมล่ะครับ ? ลองคิดเล่น ๆ ว่า เป็นรัฐบาล แต่ว่าไม่สามารถจะบังคับบัญชาทหารได้ทุกมณฑล ไหนยังจะมีกลุ่มการเมืองฝ่ายตรงข้ามที่มีกองกำลังในมือตัวเองอีกต่างหาก พูดง่าย ๆ คือ ไม่มีเอกภาพทางทหาร แล้วแบบนี้จะรบกับญี่ปุ่นได้ไหมล่ะครับ ?? ส่วนเรื่องจอมยุทธ แนะนำลองไปหาชื่ออย่าง อ.โฮ่ว เตียน เกอ ( Huo Dian Ge 霍殿阁) จากมวยปาจี๋ (BajiQuan 八極拳 : มวยแปดสุดยอด, แปดปรมัตถ์ ฮักเคียกเค็น ในการ์ตูนเค็นจิ) ที่ไปจัดการนักสู้จากญี่ปุ่น อ.เฉิง โหย่ว กง (Cheng You Gong : แห่งมวยปากว่า : มวยแปดทิศ ในการ์ตูนเค็นจิ) ทายาทรุ่นที่ ๒ ของปรมาจารย์ เฉิง ถิง ฮัว ผู้ก่อตั้งมวยแปดทิศสายเฉิง  อ. เฉิงโหย่วกง ก็ได้ไปต่อสู้และเอาชนะนักสู้จากญี่ปุ่นที่มาท้าประลองได้เช่นกัน นี่ไม่รวม อ. ฮว่า หยวน เจี๋ย ที่เรารู้จักกันดีนะครับ รูป อ. โฮ่ว เตียน เกอ จากคุณ : ผ้าพับไว้ เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 12:19:24

ความคิดเห็นที่ 11 เอาจริงแล้ว เรื่องการฆ่าล้างเมืองที่นานกิงนั้นเพราะ กว่าญี่ปุ่นจะยึดได้เสียทหารไปนับล้านนายหน่ะครับ เลยเก็ยกดความแค้นไว้มาก ตอนนั้นทหารของจีน (ก๊กหมิ่นตั๋ง) ที่ฝึกมาแบบมีระบบ มีแค่ห้าแสนนายเท่านั้น ยังทำได้ขนาดนี้ จุดอ่อนจีนตอนนั้นคือเรื่องประเทศ ที่ไม่เป็นเอกภาพ แบ่งเป็นหลายส่วน เลยไม่มีผู้นำที่จะรวมทุกฝ่าย ดังนั้นยุคนี้จีนเลยเน้นเรื่องนี้มากก่อน จะเห็นจากนโยบายเด็ดขาดในเรื่องแบ่งแยกดินแดน เรื่องการฝึกทหาร ชาติไทยเราก็หนักไม่แพ้กันนะ จากคุณ : ขอเอาชื่ออากงเป็นเดิมพัน เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 12:31:58

ความคิดเห็นที่ 12 คุณ ขอเอาชื่ออากงเป็นเดิมพัน นอกเมืองนานกิง ทหารจีนเป็นหมื่น ๆ นายยอมวางอาวุธแบบไม่คิดที่จะสู้เพียงเพราะทหารยี่ปุ่นประกาศว่าจะไว้ชีวิตพวกเค้า และชาวเมืองทั้งหมด สุดท้ายก็ถูกต้อนไปยิงทิ้ง จากคุณ : hideto b1 เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 12:51:53

ความคิดเห็นที่ 13 ถามกลับถ้าประเทศไทยถูกปิดล้อมรอบด้าน แถมมีกรณีพิพาทเรื่องดินแดนกับเพื่อนบ้านหลายประเทศ ซ้ำหลายประเทศยังพยายามหาจังหวะขัดแข้งขัดขากับไทยตลอดเวลา แล้วเราจะเตรียมพร้อมไหมล่ะ จากคุณ : unicorn-k เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 13:02:18

ความคิดเห็นที่ 14 คลิป จากคุณ : unicorn-k เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 13:03:40

ความคิดเห็นที่ 15 The best of the latest Chinese military video จากคุณ : unicorn-k เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 13:04:58

ความคิดเห็นที่ 16 พื้นที่ตอนเหนือของประเทศจีน (รวมถึงทิเบตไปด้วยนะ) พื้นที่ทะเลทรายและภูเขา เป็นขุมสมบัติมหาศาล พวกแร่ rare-earth โลหะหนัก รวมถึง น้ำมันและก๊าซธรรมชาติที่ยังไม่ได้สำรวจ ฝึกทหารไว้ก่อนไม่เสียหลายครับ หลังจากยึดตะวันออกกลางได้แล้ว ก็มีจีนนี่แหละที่โดนแน่ๆ จากคุณ : ดุก เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 13:11:07

ความคิดเห็นที่ 17 ผมแอบขำคลิปของคุณขกท.อยู่นิดหนึ่ง!       กล่าวคือในคลิปเป็นการแสดงถึงแสนยานุภาพของกองทัพปลดแอกประชาชนจีน(PLA)  แต่เพลงที่เอามาใช้ประกอบมันของเฮีย "เจ โชว์" ที่เป็นนักร้องจาก "เกาะไต้หวัน" มิใช่หรือ ^_^ (May the Spoil be with you) ขอสปอยล์จงสถิตย์อยู่กับท่าน จากคุณ : เจไดหนุ่ม เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 13:52:50

ความคิดเห็นที่ 18 อันนี้เป็น Fiction จากเกมส์ครับ จากคุณ : Soul To Squeeze เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 14:00:46

ความคิดเห็นที่ 19 #17 จริงด้วยแฮะ เอาน่า เพลงมันก็เข้ากับคลิปอยู่นะคะ จากคุณ : เมษาพาเพลิน เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 14:05:57

ความคิดเห็นที่ 20 หมู่เกาะสแปรตลีย์ นี่จีนด้านมากๆไม่ได้อยู่ในอาณาเขตประเทศตัวเลย ตู่เอาชัดๆ จากคุณ : Elliptic เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 14:27:09

ความคิดเห็นที่ 21 แก้ปัญหาตกงานของพลเมืองก็เป็นประเด็นหนึ่ง จากคุณ : akebi1 เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 14:45:16

ความคิดเห็นที่ 22 มาดูพี่หมีบ้าง จากคุณ : Meow-Meow (piggy_and_kitty) เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 14:59:47

ความคิดเห็นที่ 23 ที่นานกิงนั้น ทหารจำนวนไม่น้อยต้องยอมจำนน เพราะหน่วยบังคับบัญชาสั่งให้ล่าถอย แต่ทหารในแนวหน้าไม่สามารถล่าถอยตามไปได้ทันครับ ถังเสินจี้คุมกำลังพลราวๆ 7 หมื่นคนรักษานานกิง รวมกับทหารที่แตกพ่ายมาจากทางตะวันออกอีก 1-2 หมื่นคน และตำรวจกับหน่วยอาสารักษาเมืองอีกราวๆ 1 หมื่นคน แต่กองทัพญี่ปุ่นมีเกือบ 2.5 แสนคนครับ เรียกว่าญี่ปุ่นมีกำลังพลมากกว่าทหารในนานกิงเกือบ 3 เท่าตัว (และต้องไม่ลืมว่า เจียงไคเช็คทิ้งนานกิงไปแล้ว แต่เพราะเกรงว่าจะจัดตั้งแนวรับใหม่ที่หวู่ฮั่นไม่ทัน เลยทิ้งถังเสินจี้และกำลังทหารที่บาดเจ็บอีก 7 หมื่นคนเพิ่อหวังว่าจะให้พวกเขาถ่วงเวลากองทัพญี่ปุ่นให้นานที่สุด) แต่พอกองทัพญี่ปุ่นเข้าปะทะจริงๆ กลับมาคำสั่งจากเบื้องบนผ่านถังเสินจี้ ให้รวบรวมกำลังทหารที่มีทั้งหมดล่าถอยออกจากนานกิงอย่างฉุกละหุก โดยไม่มีแผนรองรับว่าจะถอยกองทหาร 7 หมื่นคนออกไปจากเมืองอย่างไร (ในขณะที่ตอนนั้นกองทัพญี่ปุ่นล้อมเมืองถึง 3 ด้าน เหลือเพียงแต่ทิศตะวันตกที่เป็นแม่น้ำฉางเจียงกั้นเท่านั้น) เมื่อถังเสินจี้ลงเรือและทิ้งกองบัญชาการที่นานกิงไปหวู่ฮั่น กองทหารที่ปะทะกับข้าศึกทางตะวันออกของเมืองเลยอลหม่านครับ รวมไปถึงกองทหารที่ประจำการตามจุดต่างๆ ที่มีคำสั่งให้ล่าถอยไปยังแนวรับที่หวู่ฮั่นให้ได้ ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ตาม สุดท้ายทหารกว่าค่อน ที่ไม่มีพาหนะและขาดการติดต่อกับกองบัญชาการที่ถอยไปแล้ว จึงต้องตกเป็นเชลยของกองทัพญี่ปุ่นนั่นแลครับ เพราะไม่รู้จะถอยตามถังเสินจี้ไปอย่างไร และไม่มีกำลังสนับสนุนอีกแล้ว จากคุณ : อุ้ย (digimontamer) เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 15:15:22

ความคิดเห็นที่ 24 #14 เห็นบ้องข้าวหลามยักษ์แล้ว ใจสั่นเว้ยยย มันดูน่ากลัวตรงนี้นี่เอง แค่เห็นก็ กลัวแล้ว จากคุณ : Namtaothong เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 16:27:11

ความคิดเห็นที่ 25 น่าลองจับอาตี๋มาฝึกซีลดูนะ จากคุณ : จอมยุทธตะเกียบคู่ เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 16:31:16

ความคิดเห็นที่ 26 คห 20 ลองเข้าไปอ่านข้อมูลประวัติศาสตร์สแปรตลี ในห้องสมุดได้น่ะครับ ที่นู่นมีคนโพสข้อมูลน่าสนใจมากมาย รวมถึงข้อมูลที่คุณอุ้ยเคยเขียนไว้ แล้วจะรู้ว่าจีนไม่ได้จู่ๆ ขี้ตู่อ้างว่าเป็นของตัวเองครับ จากคุณ : unicorn-k เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 16:41:21

ความคิดเห็นที่ 27 ้เจย์โชว เค้าเคยบอกว่าตัวเองเป็นคนจีน (中国人）ครับ (ซิ้อใจคนแผ่นดินใหญ่) เลยทำเงินได้อื้อ จากคุณ : ขอเอาชื่ออากงเป็นเดิมพัน เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 17:59:18

ความคิดเห็นที่ 28 ถ้าพี่กันคิดจะคว่ำจีนคงต้องเกหมดหน้าตัก จากคุณ : รักแผ่นดินไทย เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 18:50:55

ความคิดเห็นที่ 29 #9 คุณมันรู้เรื่องเค้าน้อย เลยไม่ค่อยเป็น ก่อนสงครามสั่งสอนเวียดนามแค่ปีสองปี กองทัพภาคเหนือของจีนมีทำศึกชายแดน ตลอดแนวแม่น้ำอามู่เหอ กับกองทัพรัสเซียครับ จัดเป็นศึกระดับกลาง กำลังพลเข้าร่วมแค่หลักหมื่น แต่ก็กินกันไม่ลง ผลของสงคราม รัสเซียเสียเปรียบนิดหน่อย ที่คุณไม่รู้เรื่อง เพราะสื่อตะวันตกไม่ตีข่าว มันเป็นการปะทะกันของ2ชาติคอมมิวนิสต์ จากคุณ : อิๆ เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 20:16:58 A:58.9.92.165 X: TicketID:052378

ความคิดเห็นที่ 30 หมู่เกาะที่เป็นกรณีพิพาทในทะเลจีนใต้นั้น แบ่งออกเป็น 2 แห่งคือ หมู่เกาะซีซา หรือหมู่เกาะพาราเซล ผู้อ้างกรรมสิทธิ์คือจีนและเวียดนามครับ จีนนั้นมีหลักฐานประกอบไปด้วย แผนที่สมัยโบราณที่อ้างการครอบครองเหนือเกาะนี้ อีกทั้งสนธิสัญญาปักปันดินแดนกับฝรั่งเศสที่กระทำในสมัยจักรพรรดิกวางสูก็ได้เขียนไว้ว่า ดินแดนอินโดจีนที่ฝรั่งเศสครอบครองนั้นสิ้นสุดเพียงเส้นแวงที่ 111 เท่านั้น ทางหมู่เกาะทางตะวันออกของเส้นแวงที่ 111 ยกให้เป็นดินแดนของราชสำนักชิงไป และจีนก็เข้ายึดครองเกาะนี้ไว้ในช่วงสงครามเวียดนามระหว่างที่เวียดนามเหนือรบกับเวียดนามใต้ ส่วนเวียดนามก็อ้างสิทธิว่า จักรพรรดิเวียดนามได้เคยอ้างกรรมสิทธิเหนือหมู่เกาะนี้ และมีการเข้าไปสร้างอาคารเอาไว้ในช่วงศตวรรษที่ 19 ด้วย แต่บางฝ่ายก็กล่าวว่า เวียดนามในศตวรรษที่ 19 เป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส การที่ดินแดนที่ไม่มีอธิปไตยจะอ้างอำนาจอธิปไตยเหนือดินแดนอื่นๆนั้น กระทำได้หรือไม่ ? และแคว้นตังเกี๋ยในช่วงก่อนการเข้ามาของฝรั่งเศส เวียดนามก็ให้การยอมรับว่าแคว้นตังเกี๋ยเป็นเขตอิทธิพลของต้าชิง ในฐานะเจ้าประเทศราชเหนือเวียดนาม ปัญหาเรื่องหมู่เกาะซีซานั้นก็คาราคาซัง เวียดนามไม่ยอมรับว่าหมู่เกาะนี้เป็นของจีน และจีนก็อ้างว่ามันเป็นของจีน จากคุณ : อุ้ย (digimontamer) เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 20:28:50

ความคิดเห็นที่ 31 ทางด้านหมู่เกาะหนานซา หรือสแปรสลีย์นั้น สับสนอลหม่านกว่าหมู่เกาะซีซาหรือพาราเซล เนื่องจากมีประเทศที่เข้าอ้างกรรมสิทธิมากมายเหลือเกิน ทั้งที่อ้างว่าทุกเกาะหรือทุกโขดหินเป็นของตนเช่น จีน ไต้หวัน เวียดนาม และฟิลิปปินส์ และที่อ้างแค่บางเกาะเช่น มาเลเซีย และบรูไน ถ้าพูดกันด้วยเนื้อหาด้านประวัติศาสตร์นั้น จีนและไต้หวันได้เปรียบกว่าใครเพื่อน เพราะมีเอกสารมากมายในสมัยซ่งใต้ หมิง และชิงที่วาดแผนที่รวมหมู่เกาะเหล่านี้เข้าไปด้วย อีกทั้งบันทึกในสมัยจักรพรรดิถงจื้อและกวางสู ก็เคยทำเรื่องประท้วงไปยังทูตเยอรมันเนื่องจากเยอรมันทำการสำรวจเกาะนี้โดยพละการในศตวรรษที่ 19 ตอนปลายๆ กองทัพจีนก๊กมินตั๋งเข้ายึดครองเกาะหลักๆของหมู่เกาะหนานซา ได้แก่ เกาะไท่ผิงเอาไว้ตั้งแต่สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยเข้าปลดอาวุธทหารญี่ปุ่นที่หลงเหลืออยู่บนเกาะนี้ และเริ่มอ้างกรรมสิทธิเหนือเกาะดังกล่าวอย่างเด่นชัด (ซึ่งในขณะนั้นนอกจากฟิลิปปินส์แล้ว ไม่มีชาติเอกราชชาติในที่อ้างอธิปไตยเหนือหมู่เกาะนี้เพราะทั้งมาเลเซีย บรูไน และเวียดนามยังมิได้รับเอกราชจากประเทศแม่ และขณะนั้นฟิลิปปินส์ก็มิได้อ้างสิทธิเหนือหมู่เกาะดังกล่าวเช่นกัน) รวมไปถึงประเทศแม่อย่างอังกฤษหรือฝรั่งเศส ก็มิได้ประท้วงหรือยับยั้งการเข้ายึดครองหมู่เกาะนี้ของสาธารณรัฐจีนในปี 1945 ถ้าพูดกันด้วยน่านน้ำ หมู่เกาะส่วนใหญ่น่าจะเป็นของฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย แต่ถ้ากล่าวกันด้วยการอ้างสิทธิของความมาก่อน สาธารณรัฐจีนและสาธารณรัฐประชาชนจีน มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์แน่นหนากว่า แสดงการครอบครองทั้งทางนิตินัยและพฤตินัยมานานกว่า ประเทศแม่ที่เคยเป็นเจ้าของอาณานิคมของเวียดนาม บรูไน และมาเลเซีย ก็ให้การยอมรับว่าดินแดนตรงนี้เป็นเขตอธิปไตยของต้าชิง-จีน มาก่อน แต่สุดท้ายในยุค 70-80 เมื่อตกลงอะไรกันไม่ได้ ทุกประเทศก็เลยเข้ายึดครองหม่เกาะนี้ แบบว่าใครมือยาวสาวได้สาวเอา จีน เวียดนาม ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ บรูไน มาเลเซีย ก็ได้เข้าไปยึดเกาะแก่งต่างๆกันไปคนละนิดคนละหน่อย แต่ที่ได้มีเนื้อมีหนังที่สุดคงจะเป็นไต้หวันที่ยึดเอาเกาะไท่ผิงซึ่งใหญ่โตที่สุดเอาไว้หน่ะครับ (ไต้หวันได้เกาะนี้เนื่องจากเป็นมรดกที่กองทัพก๊กมินตั๋งยึดเกาะนี้ไว้เมื่อสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2) แก้ไขเมื่อ 26 ก.พ. 55 20:32:54 แก้ไขเมื่อ 26 ก.พ. 55 20:32:16 จากคุณ : digimontamer เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 20:30:32

ความคิดเห็นที่ 32 **มาอ่านความรู้ digimontamer ได้เยอะเลย ขอบคุณ **จากสงครามจีน-โซเวียต ทำให้จีน ภูมิใจกับรถถังของตนเอง รถถัง ยานเกราะหลายแบบ และระบบต่อต้านรถถัง ก็ถูกพัฒนาขึ้นจากบทเรียนจาก สงคราม จีน-เวียดนาม และ จีน-โซเวียต จากคุณ : red_c เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 21:30:19 A:183.89.249.188 X: TicketID:255467

ความคิดเห็นที่ 33 เรื่องเกาะนี้ ถ้าไต้หวันได้ครอบครองอธิปไตยไป จีนแผ่นดินใหญ่จะว่าไงล่ะครับ เพราะยังไงก็ต่างถือนโยบายจีนเดียว ผมถือว่านี่คือจุดแข๊งของไต้หวันเลยนะ จากคุณ : ขอเอาชื่ออากงเป็นเดิมพัน เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 21:31:43

ความคิดเห็นที่ 34 อันนี้คลิปตัดต่อซ้อมรบ ประเทศไหนก็ซ้อมรบครับ บ้านเราก็เพิ่งจะผ่านไปหยกๆ กับคอบบร้าโกล เอามาตัดต่อให้น่าดู ใส่เพลงมันก็ดูสนุก ดูยิ่งใหญ่แบบนี้แหละ ไม่ได้ฝึกหนักไปกว่าประเทศอื่นหรอก แต่ฝึกหนักมั้ยก็ฝึกหนักเหมือนกันหมดครับ จีนต้องรีบพัฒนากองทัพให้ใกล้เคียงกับเมกาเข้าไว้ครับ ไม่งั้นไม่มีพลังรักษาผลประโยชน์ตัวเอง ที่มีมากขึ้นๆ ทุกที แม้ตอนนี้ยังเป็นรองเมกาอยู่พอสมควร แต่หลายๆ ครั้งก็ทำให้เมกาต้องออกมาขัดแข้งขัดขาบ่อยๆ จากคุณ : ^oio^ เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 21:38:10

ความคิดเห็นที่ 35 ขอเอาชื่ออากงเป็นเดิมพัน แต่ที่ผมอ่านมา ทหารญี่ปุ่นบุกนานกิงใช้กำลัง 3 หมื่น นาย ส่วนทหารจีนที่อยู่ในเมืองนายกิง มีเกือบ 9 หมื่น นายเลยนะครับ ซึ่งเกือบ 9 หมื่นนายนั้น ยอมจำนน ทำให้ทหารญี่ปุ่นเซงเลยที่เดียว เพราะ ้องบุก ต่อ เสบียงไม่พอ คนก็ไม่พอที่จะคุม ถ้าเกิดทหารจีนลุกหือขึ้นมาจะคุมไม่ไหวเพราะมันมากกว่าทหารญี่ปุ่นตั้ง 3 เท่า ฉนั้น ญี่ปุ่นเลยตัดไฟแต่ต้นลม ดีกว่า จะต้องเสียการใหญ่ไปเพราะไม่สามารถควบคุมเชลยได้และไม่มีอาหาร เวบียงมาดูแล เชลยได้อย่างเพียงพอครับ จากคุณ : takpiboon เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 22:42:28

ความคิดเห็นที่ 36 ผมไม่ได้ศึกษาลงลึกเกี่ยวกับทหารจีน จำแต่ผลงานที่เป็นรูปธรรม ทหารแดนมังกร เห็นในภาพข่าวปัจจุบันหนักไปทางขนกระสอบกั้นน้ำท่วม หน่วยกู้ภัยซะมากกว่า ถ้าจะเอาประวัติด้านการรบผมว่าญี่ปุ่นกินขาด ในเอเชียไม่มีใครหาญสู้ ต้องขอบคุณ อังศุมาริน กับ โกโบริ ที่ทำให้ญี่ปุ่นไม่โหดร้ายกับไทยเหมือนที่ นานกิง จากคุณ : ธงยอดเสา เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 03:19:43

ความคิดเห็นที่ 37 จากสงครามก่อนหน้านานกิง ในเซี่ยงไฮ้ The Chinese suffered 250,000 casualties, 60% of Chiang's most elite soldiers, http://en.wikipedia.org/wiki/Battle_of_Nanking กองทัพของเจียง จะหนีทิ้งนานกิงและได้อพยพแล้วครับ แต่ก็ไม่หมด ทีนี้ส่วนที่เหลือขาดผู้นำก็เลยยอมแพ้ จากคุณ : ขอเอาชื่ออากงเป็นเดิมพัน เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 03:39:36

ความคิดเห็นที่ 38 http://topicstock.pantip.com/library/topicstock/2011/09/K11100284/K11100284.html http://www.historyplace.com/worldhistory/genocide/nanking.html ข้อมูลแต่ละที่ก็ต่างกันไปบ้างแฮะ จากคุณ : ขอเอาชื่ออากงเป็นเดิมพัน เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 03:48:22

ความคิดเห็นที่ 39 http://baike.baidu.com/view/560443.htm ในศึกที่ญี่ปุ่นบุกนานกิง บันทึกไว้ว่า กองทัพญี่ปุ่นใช้ทหาร 8 กองพล รวมไพร่พล 2.4 แสนคนครับ ส่วนกองทัพก๊กมินตั๋งของถังเสินจี้มีทหารราว 8 หมื่นคน เป็นทหารที่บาดเจ็บหรือไม่ก็ขาดแคลนอาวุธเป็นส่วนใหญ่ แก้ไขเมื่อ 27 ก.พ. 55 06:09:04 จากคุณ : อุ้ย (digimontamer) เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 06:08:42

ความคิดเห็นที่ 40 ด้วยการที่มีไพร่พลน้อยกว่า ขาดแคลนอาวุธหนักและการสนับสนุนทางอากาศ ทำให้ถังเสินจี้หวังว่าจะใช้สิ่งกีดขวางรอบๆนานกิงเพื่อตั้งยันกองทัพญี่ปุ่นครับ แต่มันเป็นหายนะเพราะทำให้กองทัพญี่ปุ่นที่มีกำลังมากกว่า 3 เท่าตัวโอบล้อมเมืองได้เกือบทุกด้าน และพอถังเสินจี้สั่งถอย ก็ทำให้ทหารส่วนใหญ่ไม่สามารถฝ่าแนวบุกของกองทัพญี่ปุ่นออกไปทางตะวันตกได้ จากคุณ : digimontamer เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 06:13:17

ความคิดเห็นที่ 41 ความคิดเห็นที่ 36 เพราะคุณไม่ศึกษาครับ แนะนำควรศึกษา -สิ่งหนึง่ที่เป็นความจริงคือประสิทธิภาพทหารของ จีนคณะชาติ ที่ย่อนยาน และมีแต่การทุจริต และไม่ร่วมใจกัน ทั้งที่ได้การสนับสนุนจาก us ซึ่งหลายกองพล เจียงก็รวบรวมมาจากขุนศึกเก่า เจียงไม่สามารถบังคับบังชาได้โดยตรง หรือได้ไม่เต็มที่ ทำให้การรบกับญี่ปุ่น ไม่มีประสิทธิภาพเท่าไร และที่ชาวจีนสุดทน ยุทธศาสตร์ของเจียง ทำร้ายจิตใจคนจีนมาก แทนที่จะรบกับญี่ปุ่นก่อน แต่กับรบกับกองทัพแดงก่อน กว่าจะมาตั้งตัว ญี่ปุ่นก็ยึดที่มั่นได้แล้ว -แต่ทหารแดง ซึ่งมีกำลังน้อย และอาวุธไม่ดีนัก ดูจะรบกับญี่ปุ่นได้สมน้ำสมเนื้อกว่า **ผมขอถาม คุณ digimontamer จริงหรือเปล่าที่ ญี่ปุ่นต้องใช้ทหารกว่า 2 ล้านนาย(ถ้าจำตัวเลขไม่ผิด) ใว้ในจีน ซึ่งญี่ปุ่น คิดว่าจะยึดจีนได้รวดเร็ว แต่กลับ จีนเป็นบ่อทรายดูด ดูดกองทัพญี่ปุ่นให้จมอยู่กับที่ ซึ่งทหารส่วนนั้น ถ้าไม่อยู่ในจีน ก็คงรุก เข้าไซบีเรีย ตามแผนที่ตกลงกับ เยอรมัน และโซเวียตคงเหนื่อย หรือไม่ทหารส่วนนั้น ควรไปประจำการที่แปซิฟิค เพื่อต่อต้าน us จากคุณ : red_c เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 14:12:16 A:183.89.249.188 X: TicketID:255467

ความคิดเห็นที่ 42 จริงครับ ช่วงระหว่างปี 1937-1941 นั้น ญี่ปุ่นทุ่มกำลังทหารอาชีพเข้าไปในจีนกว่า 2 ล้านคนครับ ความเสียหายของญี่ปุ่นตลอดสงครามยาวนาน 8 ปี มีกว่า 1 ล้านคน  เรียกว่าทหาร 1 ใน 3 ที่ญี่ปุ่นสูญเสียไปในสงครามโลกครั้งที่ 2 นั้น เกิดขึ้นในจีนครับ ผมมองว่าญี่ปุ่นไม่ใคร่สนใจจะบุกเข้าไปในโซเวียตเท่าใดครับ จากการที่ทั้งสองฝ่ายตกลงในการลงนามไม่รุกรานซึ่งกันและกันในช่วงต้นปี 1941 (ซึ่งตอนนั้นญี่ปุ่นไปติดหล่มในจีนมาเกือบ 4 ปีแล้ว) ขอแค่โซเวียตไม่มุ่งความสนใจมายังตะวันออกไกล ญี่ปุ่นเองก็ไม่สนใจจะไปโจมตีโซเวียตครับ จากคุณ : อุ้ย (digimontamer) เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 19:06:57

ความคิดเห็นที่ 43 จริงๆ ผมคิดว่าเจียงไคเช็ตเองก็มิได้ประเมินภัยจากญี่ปุ่นต่ำเลยครับ เจียงมองเห็นแน่นอนว่าญี่ปุ่นเป็นภัยคุกคามของจีน แต่เจียงยังไม่พร้อมที่จะหันไปทำศึกกับญี่ปุ่น ตามกระแสที่ชาวจีนรักชาติจำนวนมากพยายามโน้มน้าวในช่วงปี 1932-37 เท่านั้นครับ ระหว่างปี 1931-37 ก๊กมินตั๋งพยายามขยายกองทัพอย่างเร่งรีบมากครับ โดยหันไปขอความร่วมมือกับเยอรมันเพื่อสร้างกองทัพใหม่ที่มีอาวุธและเทคนิคการรบแบบเดียวกับทหารเยอรมัน ซึ่งเจียงไคเช็คสามารถขยายกำลังรบก๊กมินตั๋งขึ้นอีกถึง 10 กองพลในช่วงเวลาแค่ไม่กี่ปี ตรงนี้แลที่ทางญี่ปุ่นเองก็ชักจะไม่ไว้วางใจทางก๊กมินตั๋งเหมือนกันครับ ญี่ปุ่นทราบดีว่า จีนมีศักยภาพจะขยายกองทัพได้อย่างรวดเร็ว และหากปล่อยไว้เนิ่นนาน เจียงไคเช็ตกับกองทัพใหม่ของเขาจะสามารถปราบปรามขุนศึกภูธรทั้งหลายได้หมด และเจียงจะสามารถยึดอำนาจปกครองประเทศอย่างแท้จริงมาได้ ถึงตอนนั้นญี่ปุ่นจะบุกจีนก็ไม่ใช่เรื่องง่ายอีกต่อไปครับ นั่นทำให้ญี่ปุ่นตัดสินใจหาเหตุให้เกิดสงครามในปี 1937 เข้าทำนองว่าชิงลงมือก่อนย่อมได้เปรียบ แก้ไขเมื่อ 27 ก.พ. 55 19:13:45 แก้ไขเมื่อ 27 ก.พ. 55 19:11:32 จากคุณ : อุ้ย (digimontamer) เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 19:10:49

ความคิดเห็นที่ 44 1. การที่เจียงทำท่านิ่งเฉยไม่ส่งกองทัพไปเปิดศึกกับญี่ปุ่นในปี 1931-32 ตามที่จางเซี่ยเหลียงขอความช่วยเหลือ และชาวจีนจำนวนมากเรียกร้องนั้น เพราะเจียงเองก็คงทราบดีครับว่า มีความเป็นไปได้น้อยมากที่กองทัพก๊กมินตั๋งในตอนนั้นจะเอาชนะกองทัพกวานตงได้ ในตอนนั้นสันนิบาตชาติเกิดขึ้นมาแล้ว และการใช้กำลังเข้ายึดดินแดนแบบสมัยศตวรรษที่ 19 ก็ไม่ได้รับการยอมรับในเวทีนานาชาติอีกต่อไปครับ ดังนั้นการเข้ายึดครองแมนจูเรียของญี่ปุ่นจึงเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายระหว่างประเทศ และเจียงสามารถใช้การต่อสู้ทางการทูตเพื่อเอาแมนจูเรียคืนได้ (เจียงก็กระทำจริงๆ ด้วยการร้องเรียนไปยังสันนิบาติชาติให้กดดันญี่ปุ่น) ซึ่งตรงนี้เท่ากับว่า ในทางนิตินัยแมนจูเรียและเรอะเหอยังคงเป็นดินแดนของจีนที่ญี่ปุ่นยึดเอาไปโดยมิชอบครับ แต่หากเจียงยกทัพไปรบกับญี่ปุ่น และแพ้ก็จะค้องโดนบีบให้ลงนามในสนธิสัญญาที่ต้องยกแมนจูเรีย-เรอะเหอให้ญี่ปุ่นอย่างแน่นอน และนี่แลที่จะทำให้จีนต้องเสียแมนจูเรียไปทั้งทางนิตินัยและพฤตินัย 2. จางเซี่ยเหลียงเองก็เป็นขุนศึกจี่ลิเก่า (ที่สืบทอดอำนาจจากบิดา) เขามีกองทหารส่วนตัวไพร่พลเกือบ 20 หมื่นในแมนจูเรีย เรียกว่ากำลังทหารของเขาสามารถต่อกรกับก๊กมินตั๋งได้สบายๆครับ ตัวเจียงไคเช็คเองก็ไม่ค่อยมั่นใจในความภักดีของจางเซี่ยเหลียงนัก การที่ญี่ปุ่นบุกแมนจูเรียและขับไล่กองทัพของจางเซี่ยเหลียงออกไป จึงเป็นการช่วยเจียงไคเช็คถอนหนามทิ่มใจไปอีกเปราะ เพราะจางเซี่ยเหลียงที่ต้องเตลิดออกจากรังที่แมนจูเรีย ก็ต้องมาขอพึ่งพิงอาศัยเจียงไคเช็คอย่างเต็มตัว เขาไม่เป็นภัยต่ออำนาจของเจียงอีกต่อไป (แม้ว่าในปี 1936 จางจะจับตัวเจียงไคเช็คเอาไว้ในวิกฤตการณ์ซีอานก็ตาม) 3. ตอนปี 1931-32 นั้น จริงๆก๊กมินตั๋งมีฐานอำนาจจริงๆแค่ในเจียงสูและเจ๋อเจียงบางส่วนเองครับ เจียงไคเช็คมีกำลังพลจริงๆแค่ 5-6 แสนคน ที่เป็นคนของโรงเรียนทหารหวงผู่ ที่เหลือเป็นเขตยึดครองของพวกขุนศึกสารพัดแก๊งค์ทั้งสิ้น เพียงแต่ว่าขุนศึกท้งหลายยอมให้เจียงไคเช็คเป็นพี่ใหญ่ ถ้าหากเจียงเกิดเปิดศึกกับญี่ปุ่นและแพ้ (ซึ่งมีความเป็นไปได้สูง) พวกขุนศึกมีหรือจะไม่ฉกฉวยโอกาสตั้งตนเป็นใหญ่หรือยึดอำนาจของเจียงเสีย (เพราะเจียงจะกลายเป็นผู้แพ้และต้องลงนามในสนธิสัญญาขายชาติที่ญี่ปุ่นเรียกร้องมา ชื่อเสียงของเจียงจะป่นปี้ไม่มีชิ้นดี และหมดความชอบธรรมในฐานะประมุขของรัฐบาลไปอีกด้วย) ดังนั้นผมเลยสรุปว่า ไม่ใช่เจียงไม่อยากรบกับญี่ปุ่น แต่เจียงดีดลูกคิดแล้ว รบชนะก็เสีย รบแพ้ก็เสีย อยู่เฉยๆมันดีกว่า ฝากให้ญี่ปุ่นดูแลแมนจูเรียไปก่อน รอไว้เจียงมี่กองทัพสมบูรณ์ค่อยไปตีคืนอีกสิบปีก็ไม่สาย จากคุณ : อุ้ย (digimontamer) เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 19:23:39

ความคิดเห็นที่ 45 ผมเห็นด้วยครับ นั้นคือเจียง ผมถึงไม่แปลกใจ ทำไมเจียงถึงไปอยู่ไตหวัน เจียงไม่สามารถครองใจคนได้ เจียงคิดแต่เขาได้ และเสียอะไร ขอบคุณสำหรับข้อมูล ดีๆ เคยดูสารคดี us ทำ พูดถึงการรบในแปซิฟิค us ต้องยึดที่ล่ะเกาะ นายพลus วิเคราะว่า ถ้าญี่ปุ่นชนะสงครามในจีน กำลังทหารกว่า2ล้านคน ก็คงจะแบ่งไปปกป้องตามเกาะต่างๆ ซึ่งถือเป็นฝันร้ายของ us เลย ผมเคยดูสารคดีของจีนทำ พูดถึงยุทธศาสตรของญี่ปุ่น โดยเริ่มตั้งแต่ ญี่ปุ่นเข้ายึด ซานตง山东 และญี่ปุ่นยึด ทางใต้แมนจูเรีย และตะวันออกของมองโกลใน ในปี 1917 นายพลญี่ปุ่นเริ่มวางยุทธศาสตร สำหรับจีน โดยนายพลญี่ปุ่น แบ่งเป็น2ฝ่าย โดยฝ่ายหนึ่งต้องการยึดจีนทั้งประเทศ อีกฝ่ายเห็นเพียงคงนโยบายเดิม ยึดเฉพาะเมืองท่าเท่านั้น ซึ่งอย่างที่ทราบ ฝ่ายแรก ได้รับการสนับสนุน ซึ่งนำไปสู่ สงครามจีน-ญี่ปุ่นครั้งที่ 2 ปี 1937 แล้วก็อย่างที่บอก ญี่ปุ่นก็ถล้ำลึกไปเรื่อยๆ ซึ่งถ้าญี่ปุ่นชนะศึกในจีน สงครามโลกครั้งที่ 2 ก็อาจเปลี่ยนแปลงไป จากคุณ : red_c เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 19:55:29 A:183.89.249.188 X: TicketID:255467

ความคิดเห็นที่ 46 โดยส่วนตัวแล้วผมเห็นว่า ชัยชนะของจีนในสงครามกับญี่ปุ่นนี้ เจียงไคเช็คมีส่วนอย่างมากต่อชัยชนะครับ เพราะเจียงไคเช็คได้พยายามทำสงครามอย่างต่อเนื่องตลอด 8 ปี แม้ในช่วงแรกที่พยายามจะเอากำลังเข้าปะทะตรงๆแต่ก็พ่ายแพ้ ทว่าตอนหลังก๊กมินตั๋งก็เปลี่ยนยุทธศาสตร์หันไปเน้นทำสงครามยื้ดเวลาให้ญี่ปุ่นหมดแรงไปเอง และติดหล่มในพื้นที่อันกว้างใหญ่ของจีน ความอดทนของกองทัพก๊กมินตั๋งนับล้านคนที่ต่อสู้ยันญี่ปุ่นเอาไว้ และความเข้มแข็งของเจียงไคเช็คที่ไม่ใจอ่อนยอมเจรจาหรือตกลงอะไรกับญี่ปุ่นทั้งสิ้น เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยดึงกองทัพญี่ปุ่นเอาไว้ในจีนจนหมดแรงไปในที่สุดครับ ผมยกย่องว่าตรงนี้เป็นผลงานและความชอบของเจียงไคเช็คตรงๆเลย ส่วนทางด้านกองทัพลู่ที่ 4 และ 8 ที่กระจายกันต่อสู้อย่างกล้าหาญในจีนเหนือนั้น เอาจริงๆแม้พวกเขาจะต่อต้านญี่ปุ่นได้ดีมาก แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อการประสบชัยชนะครับ เพราะก่อนศึกใหญ่ร้อยกรมในปี 1942 นั้น กองทัพญี่ปุ่นในจีนเหนือยังมองไม่เห็นว่ากองทหารบ้านของพรรคคอมมิวนิสต์จีนเป็นภัยคุกคามมากเท่าใดนัก พวกเขายังเห็นว่ากองทหารบ้านเป็นแค่กองโจรขนาดย่อมๆที่คอยปล้นชิงรบกวนกองทัพญี่ปุ่นและทหารหุ่นของญี่ปุ่นเท่านั้น ต้องหลังศึกใหญ่ร้อยกรมครับ ทางผู้บัญชาการของญี่ปุ่นในจีนเหนือถึงตาสว่างว่า กองทัพแดงมีไพร่พลกระจายรวมกันนับแสนคนแล้ว และออกแผน 3 เรียบมาเพื่อกวาดล้างกองทหารบ้านของพรรคคอมมิวนิสต์จีนโดยเฉพาะเลย อย่างไรก็ตาม ผมก็ยังมองว่า กองทัพแดงในตอนนั้นยังไม่สามารถชี้ชะตาแพ้ชนะของสงคราม จีน-ญี่ปุ่น ได้มากเท่ากองทัพก๊กมินตั๋งครับ แต่ทว่าการปฏิบัติงานของพรรคคอมมิวนิสต์จีนในภาคเหนือของจีนและแนวหลังของญี่ปุ่นนั้น ได้ใจประชาชนมากกว่าการตั้งแนวรับอยู่ทางตะวันตกของก๊กมินตั๋งมากครับ ในสายตาของชาวบ้านร้อยกว่าล้านคนในเขตยึดครองของญี่ปุ่นนั้น พวกเขามองว่า ในขณะที่พวกเขาต้องทุกข์ยากจากการกดขี่ของกองทัพญี่ปุ่นกับทหารหุ่น ผู้นำอย่างเจียงไคเช็คกลับหนีไปทางตะวันตกและตั้งแนวรับขนาดมหึมาเพื่อป้องกันตัวเองที่ฉงชิ่ง มีแต่ทหารบ้านของกองทัพลู่ที่ 4 และ 8 นี่แล ที่กระจัดกระจายต่อสู้ช่วยเหลือพวกเขาอยู่ในเขตยึดครอง จึงไม่น่าแปลกใจว่าพอสงครามจบลงในปี 1945 พรรคคอมมิวนิสต์จีนก็ได้หยั่งรากความนิยมของประชาชนอย่างแน่นหนาใน 5 มณฑลภาคเหนือเรียบร้อยแล้ว จากคุณ : อุ้ย (digimontamer) เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 21:22:44

ความคิดเห็นที่ 47 อือ ฝึกอย่างนี้ผมว่าปรกตินะ ยิ่งมีงบเยอะก็ทำอะไรได้หลายอย่าง จากคุณ : 400mhz เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 13:08:30 A:171.7.160.98 X: TicketID:335254

ความคิดเห็นที่ 48 ขอบคุณครับ ได้ความรู้มากเลย จากคุณ : red_c เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 13:34:08 A:183.89.249.188 X: TicketID:255467