ความคิดเห็นที่ 1 ลักษณะส่วนหัวเหมือนขั้วผลไม้ แต่ก็มองได้อีกอย่างสามารถเอาสว่านเจาะแล้วเอาไม้ยัดทำตามรูปได้เหมือนกัน จับดูค่อนข้างแน่ทีเดียวสำหรับขั้ว(ไม่กล้าดึงแรง) จากคุณ : ~รักความรุนแรง~ เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 16:19:03

ความคิดเห็นที่ 2 นารีผล (เห็นว่าเอาไว้เรียกผลที่มีลักษณะเป็นผู้หญิง)  มีส่วนเว้าโค้งชัดเจน จากคุณ : ~รักความรุนแรง~ เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 16:20:12

ความคิดเห็นที่ 3 มักกะลีผล นี่ก็ชัดเจนอีกเหมือนกัน  โดยทั้งคู่ลักษณะเหมือนเถาวัลย์แห้งๆผิวจะเหนียวแข็งเป็นชิ้นเดียวกัน ไม่เหมือนวัสดุสังเคราะห์แอบเอาเล็บหยิกๆดูก็แข็งๆนิดๆกดไม่ค่อยเข้า จากคุณ : ~รักความรุนแรง~ เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 16:22:57

ความคิดเห็นที่ 4 ส่วนด้านหลังจะคล้ายๆกันมีโค้งๆเว้าตรงก้น จากคุณ : ~รักความรุนแรง~ เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 16:23:45

ความคิดเห็นที่ 5 ส่วนตรงปลายเท้านี่น่าสนใจเพราะจะตรงเรียบเหมือนเท้าคน  แต่ถ้าดูดีๆเหมือนโดนอะไรตัดให้เรียบมากกว่าพวกพืชไม่น่าจะตรงแบบนี้ จากคุณ : ~รักความรุนแรง~ เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 16:25:26

ความคิดเห็นที่ 6 ตรงขั้วอีกครั้ง -------------------- หมดแล้วสำหรับภาพของจริง  เห็นคนงานบอกถ้ากลับบ้านที่ลาวคราวนี้จะลองหามาให้แสดงว่าคงหาไม่ยากและคงเป็นผลของต้นอะไรสักอย่าง จะว่าทำมาหลอกขายพอลองถามๆดูก็ไม่มีราคาค่าวงดสักเท่าไหร่ จากคุณ : ~รักความรุนแรง~ เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 16:28:56

ความคิดเห็นที่ 7 ทีนี้ลองมาค้นข้อมูลในเนทดู ก็มีลักษณะคล้ายๆกันแต่ก็ยังไม่รู้ว่ามาจากไหนต้นอะไร http://www.oknation.net/blog/print.php?id=435954 จากคุณ : ~รักความรุนแรง~ เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 16:30:47

ความคิดเห็นที่ 8 ตามเว็บวัตถุโบราณของขลังก็มีขายบ้างประปราย หรือเว็บอื่นๆก็จะเป็นลักษณะเดียวกันคือไม่รู้ที่มาหรือบางทีก็เอามาปลุกเสกขาย อย่าถามนะครับซื้อที่ไหน ไม่รู้หรอก แก้ไขเมื่อ 26 ก.พ. 55 16:33:47 จากคุณ : ~รักความรุนแรง~ เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 16:32:38

ความคิดเห็นที่ 9 ภาพนี้อยู่ในวัด http://www.oknation.net/blog/winsstars/2010/02/26/entry-1 จากคุณ : ~รักความรุนแรง~ เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 16:35:18

ความคิดเห็นที่ 11 ข้อมูลกลิ้งกลางดงอีกที เห็นว่าเอามาทำเครื่องรางด้วย "หัวกลิ้งกลางดง สบู่เลือดเถา หรือ บอระเพ็ดพุงช้าง Stephania venosa อยู่ในวงศ์ บอระเพ็ด Menispermaceae ซึ่งก็มีคนเรียกว่า กลิ้งกลางดง เช่นกัน แต่ ไม่ใชหัวเล็ก ๆ อย่างที่เอามาเนเครื่องรางกัน " http://topicstock.pantip.com/jatujak/topicstock/2011/03/J10349918/J10349918.html จากคุณ : ~รักความรุนแรง~ เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 16:39:30

ความคิดเห็นที่ 12 เป็นของที่ปั้นจากเปลือกมังคุดหรือเปล่า เอามาตำๆ แล้วก็ปั้น พอมันแข็งก็เป็นเหมือนแบบนั้นแหละ จากคุณ : ..... เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 16:42:14 A:125.24.39.33 X: TicketID:327013

ความคิดเห็นที่ 13 จบแล้วครับ... จากที่ลองจับๆดูก็เดาได้2อย่างคือสลักขึ้นมาเหมือนในเว็บว่าไว้หรือใช้การเพาะในที่จำกัดเหมือนบอนไซ ถ้าสงกรานต์นี้คนงานกลับบ้านได้มาจะลองมาผ่าให้ดูอีกที  หรือท่านใดมีข้อมูลอื่นเสริม เชิญครับ จากคุณ : ~รักความรุนแรง~ เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 16:42:43

ความคิดเห็นที่ 14 มักกะลีผลนี่ก็แปลก ไม่เคยพบในสภาพก่อนปลิดออกจากขั้ว ไม่เคยมีใครพบต้นเป็นๆ มีแต่ปลิดออกมาแล้ว ไม่ก็ทำแห้งแล้ว หรือจะเป็นต้นไม้เทพ พบในป่าต้องห้าม นำออกมาไม่ได้ เพราะเดี๋ยวโดนคำสาป แต่อย่างว่า เรื่องแบบนี้มันเป็นความเชื่อส่วนบุคคล คงจะไปห้ามปรามอะไรกันไม่ได้ เหมือนเศษดินอัดเป็นรูปพระขนาดเล็ก ขายกันราคาเป็นล้าน ก็เป็นความเชื่อส่วนบุคคล จากคุณ : มะกอกสามตะกร้าปาไม่ถูก เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 16:44:51

ความคิดเห็นที่ 15 มักกะลีผล พันธ์แหกตาครับ จากคุณ : สันปันน้ำ เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 16:48:54

ความคิดเห็นที่ 16 ทำแม่พิมพ์ประกบตอนยังอ่อนๆอยู่ แบบเดียวกับที่ญี่ปุ่น ทำแตงโมสี่เหลี่ยม ความโลภและงมงายทำให้คนไทยโง่ไปให้คนลาวเขาหลอก ถ้ามีสติซักหน่อย ก็คงนึกได้บ้าง ไหว้วัว 5 ขา แล้วรวย..... ไหว้ตอไม้แล้วรวย  ...... กินน้ำส้วมแล้วโชคดี  ฯลฯ ด่าไปเถอะ ไม่มีหมดหรอก  พาลชาวบ้านจะเบื่อหน้าอีก   พิมพ์ web ให้อ่าน โดนเขาด่าว่าขัดลาภอีก  ..... ปล่อยไปเถอะ แค่เรารู้ไว้  ...... เข้า หว้ากอบ่อยๆ จากคุณ : PeterMc เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 16:55:49

ความคิดเห็นที่ 17 ^ ^ ทำแบบนี้หรอ จากคุณ : group A Rh negative เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 16:57:23

ความคิดเห็นที่ 18 เราก็เคยเห็นที่บ้านญาติของเพื่อนที่จอมบึง ทรงเดียวกันกับ จขกท เลย หน้าตั้ง ตัวตรง แขนชิด ยังกับกำลังถ่ายรูปบัตรประชาชนงั้นล่ะ จากคุณ : คิน * คาเนะ เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 17:01:53

ความคิดเห็นที่ 19 มีมากอยู่ช่วงหนึ่ง ที่ท่าพระจันทร์ หลายรูปแบบให้เลือกสรร จากคุณ : AbsolutelyTop เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 17:04:38

ความคิดเห็นที่ 20 น่าลองทำสักต้นนะ หาต้นไม้ที่คนไม่ค่อยรู้จัก ทำการ ใส่พิมพ์ให้ลูกของมันโตมาเป็นรูปร่างของมัคลีผล แล้วแกะออก พานักข่าวไปดู ทีนี้ได้เห็นคาต้นเลย น่าจะรวยนะ พอรวยคงต้องรีบหนีออกนอกประเทศ กันคนกระทืบ จากคุณ : Darkvider เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 17:18:53

ความคิดเห็นที่ 21 ตอนผมกลับไปต่างจังหวัดก็ขอถ่ายจากของพ่อมาตั้งกระทู้เช่นกัน ลองแกะที่ไต้เท้าดูก็เป็นเนื้อเหมือนผิวผลไม้แห้งเห็นว่าอาจารย์ เจษว่าเป็นแฮนเมดและหลายๆท่านก็บอกว่ามันคือผลไม้เข้าแบบ แล้วตากแห้ง จากคุณ : เวย์คุง เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 17:21:17

ความคิดเห็นที่ 22 มีผล มันก็ต้องมีต้นนะครับ ถ้าหาต้นไม่เจอ ผลก็ไม่มีครับ แต่ถ้าหาต้นเจอ แล้วค่อยพิสูจน์ ก็ได้ครับ (ตอนกิ่ง หรือเพาะ เอามาขายตลาดต้นไม้ จตุจักร รวยเละ) จากคุณ : E22QV เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 17:36:15

ความคิดเห็นที่ 23 #17 ดูยังไงก็เป็น dickfruit พลาสติกชัดๆ เลยครับ ปล. จขกท. รักความรุนแรงจริงเหรอครับ จากคุณ : T7Promoter เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 17:46:36

ความคิดเห็นที่ 24 น้องที่เรียนไปซื้อแถววัดมหาธาตุตัวละ 10บาททำงานถ่ายรูปส่งอ.  มีอยู่ลังนึง /พิมพ์เดียวกันหมด^^ /บ้านเรายังมีคนเลวๆหากินกับความงมงายของชาวบ้านโง่ๆอยู่เยอะครับ จากคุณ : himajin006 เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 17:56:50

ความคิดเห็นที่ 25 400 ก็ไม่แพงมากนะ ลงขันซื้อมาแล้วแงะเอาเมล็ดข้างในไปปลูกดูดิ หรือ ถ้าไม่มีเมล็ดก็เอาไปส่องแล็ปดูว่ามันคืออะไร แต่ผมเดาๆ ว่าคงปลูกเอาในบล็อกประมาณนั้น จากคุณ : Mr.Kito เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 17:58:04

ความคิดเห็นที่ 26 วิธีทำมักกะโรนีผล (ถ้ามีเงินทำรายการทีวีของตัวเอง จะทำโชว์เลยเนี่ย) - เอาไม้มาแกะสลักเป็นแบบ แล้วนำไปแช่น้ำมันที่มีกลิ่นหอม ก่อนนำไปอบอีกครั้งหนึ่ง - หรืออีกวิธีหนึ่งคือ นำเถาวัลย์สดที่เรียกว่าอวบน้ำ มาอัดลงในแบบที่ทำขึ้นมาเป็นรูปผู้หญิง นำไปอบทำให้ร้อน ซึ่งจะทำให้เถาวัลย์แห้งและเหี่ยวย่น - หรือทำแบบที่แกะจากไม้เป็นรูป ไปสวมครอบกับผลน้ำเต้า ผลฟัก หรือบวม ที่ออกลูกยังเล็ก ๆ อยู่ จากนั้นรอให้ผลเหล่านั้นโตขึ้น จึงแกะแบบไม้ออก ผลก็จะโตตามแบบ แม้ว่าจะไม่เหมือน ทว่าดูเป็นธรรมชาติกว่า ก่อนเอาไปหลอกขายให้คนที่ชอบพวกสิ่งแปลกประหลาด (จากคำสัมภาษณ์ของ พระอาจารย์เกษมสุข เขมสุโข วัดประดู่ธรรมาธิปไตย์) จากคุณ : JD300 เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 18:01:49

ความคิดเห็นที่ 27 @26 อ.เจษ เล่นซะจบข่าว เลย ฮาๆ จากคุณ : Mr.Kito เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 18:16:14

ความคิดเห็นที่ 28 แถวๆริมโขง(ตลาดอินโดจีน)มุกดาหารมีขายเพียบ ผมถามราคามาประมาณตัวละ 300 บาท แต่ลองสังเกตุดูแล้วเหมือนกับมีสองเพศ ตัวริมขวาสุดมีส่วนโค้งเว้าเหมือนกันกับสรีระของผู้หญิง แต่ตัวถัดไปเหมือนกับเป็นเพศชายสังเกตุดูหน้าอกจะแบนราบ แต่ตรงเป้านั้นตุงและนูนเด่นเห็นได้แบบชัดๆ จากคุณ : กระท่อมภูธร เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 18:17:38

ความคิดเห็นที่ 29 ส่วน 3 ภาพข้างล่างนี้ผมถ่ายมาจากแผงเดียวกันที่ริมฝั่งโขง(มุกดาหาร) ปล.ใช้ปัญญาพิจารณากันเอาเองนะครับ จากคุณ : กระท่อมภูธร เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 18:22:38

ความคิดเห็นที่ 30 แต่ละชิ้นแต่ละอันเด็ดกันทั้งนั้น .. อันนี้เป็นจิ้งจก 9 หางครับ ราคาเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน แหม! ช่างทำไปได้เสียจริงๆ แก้ไขเมื่อ 26 ก.พ. 55 18:29:28 จากคุณ : กระท่อมภูธร เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 18:24:54

ความคิดเห็นที่ 31 วางขายแบบนี้ สิ่งที่น่าสนใจคือมีแต่ผลมันไม่เคยเห็นใครเอาต้นมาให้ดูซักที จากคุณ : เดอะฟักทองอินเตอร์ เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 18:27:31

ความคิดเห็นที่ 32 มีหลากหลายเสียจริงๆ ทั้งเขี้ยวหมูตัน-งาช้างสะเด็น ...ฯลฯ จากคุณ : กระท่อมภูธร เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 18:27:47

ความคิดเห็นที่ 33 ตามตลาดชายแดนมีเพียบครับ บางคนซื้อกลับมาเพราะเป็นของแปลก(รู้ว่าไม่ใช่มักกะรีผล) จากคุณ : gagigunggai เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 18:43:24

ความคิดเห็นที่ 34 เมื่อประมาณหลายหมื่นปีก่อน ครั้งที่พระเวสสันดร พระนางมัทรี พร้อมด้วยบุตร ๒ คนคือ ชาลีกุมาร และ กัณหาชิณากุมารี ถูกเนรเทศจากนคร ได้เดินทางสู่ป่าหิมพานต์ และบำเพ็ญเพียร ปฏิบัติธรรมอยู่ที่นั้น    ที่ป่าหิมพานต์ มีสัตว์ป่ามากมายอันตรายรอบด้าน ทว่า สัตว์ป่า ทั้งหลาย เมื่อได้รับเมตตาจิตจากพระเวสสันดร ก็คลายความดุร้ายลง กลาย เป็นมิตร ... นอกจากสัตว์ป่าทั้งหลายแล้ว ก็ยังมีดาบส ฤๅษี นักสิทธิ์ วิทยาธร คนธรรพ์ ทั้งหลายอาศัยอยู่ หรือไปมาอยู่เรื่อยๆ  พระนางมัทรี ผู้มีรูปร่างโสภา บางครั้งออกหาอาหาร หาผลไม้ตามลำพังคนเดียว หากนักสิทธิ์ วิทยาธร ตลอดถึงฤๅษี มาพบเข้า อาจตบะแตก แล้วล่วงศีลได้...         ท้าวสักกะเทวราช ซึ่งเป็นพระอินทร์ เล็งเห็นเหตุร้ายนี้แล้ว เพื่อเป็น การป้องกัน พระองค์จึงเนรมิต ต้นไม้วิเศษ ไว้รอบทิศ ณ ที่ไกล ก่อนถึงถิ่นแดน อันเป็นที่พำนักของพระเวสสันดรและนางมัทรี รวม ๑๖ ต้น         ต้นไม้วิเศษนี้ ออกผลซึ่งมีรูปร่างเหมือนสตรี ผลโตเต็มที่ จะมี ทรวดทรงปานสาวงามแรกรุ่น แต่ผิวพรรณ ทรวดทรงองค์เอว รูปร่างหน้าตา งดงามปานเทพธิดา...         ว่ากันว่า จริงๆ แล้ว ผลหนึ่งผล ก็คือรุกขเทพธิดาหนึ่งนาง หรือ เมื่อต้นนารีผลออกดอก เสมือนเกิดวิมานแห่งรุกขเทพธิดาขึ้นที่นั่น เมื่อติดลูก ก็คือเทพธิดาจุติลงมาเกิดที่นั่น ความสวยงามสมบูรณ์แห่งผลนารีผล แต่ละผล จึงสวยงามต่างกัน ขึ้นอยู่กับบุญของเทพธิดาแต่ละนางด้วย...         เมื่อเหล่านักสิทธิ์ วิทยาธร เดินทางมาพบเข้า หากจิตใจไม่เข้มแข็ง พอตบะแตก ก็จักได้เสพบำเรอกับนารีผล... เมื่อตบะแตก ฤทธิ์เสื่อม เหาะไป ต่อไม่ได้ ... เมื่อไปต่อไม่ได้ ก็ไม่มีทางจะได้พบกับพระนางมัทรี.... การจะเดิน ทางต่อหรือออกไป จำต้องบำเพ็ญเพียรใหม่ ยกระดับจิตขึ้นแล้ว จึงกลับออก มาได้....         นี่คือด่านป้องกัน ไม่ให้ใครไปล่วงศีลกับพระนางมัทรี และเทพธิดา ที่จุติไปเกิดที่นารีผล แต่ละนางก็ไปด้วยกรรมของตน มิได้บังคับไปแต่อย่างใด         แม้ว่า พระเวสสันดร พระนางมัทรี จะเสด็จออกจากป่าเข้าเมืองไป แล้ว ต้นนารีผล ก็ยังคงมีอยู่ในที่นั้น ตราบเท่าทุกวันนี้ ยังมีดอกหอมกรุ่น มี นารีผลห้อยระย้าอยู่ดังเดิม แม้ลูกที่หมดอายุขัยจะร่วงหล่นเหี่ยวเฉาไป ลูกใหม่ ก็ขึ้นมาแทนที่ไม่ได้ขาด         ว่ากันว่า บางครั้ง ฤๅษีที่บำเพ็ญเพียรจนตบะกล้า กิเลสสงบรำงับ เพื่อจะทดสอบจิตตน ก็จะเหาะไปที่ต้นนารีผล มองดูนารีผล ว่าตนจะตบะแตก หรือไม่... หรือบางครั้งฤๅษีผู้เป็นอาจารย์ อาจจะพาลูกศิษย์ไปทดสอบระดับ จิต ไปฝึกควบคุมจิต ที่นั่น ก็มี         และว่ากันว่า พวกนักสิทธิ์วิทยาธร มักจะเหาะไปเก็บนารีผล อุ้มมา เชยชมแล้ว ฝึกจิตใหม่ ค่อยเหาะกลับออกมา         นารีผล เป็นที่ต้องการของสัตว์วิเศษ (คนธรรพ์เป็นต้น) รวมถึง วิทยาธรทั้งหลายผู้ยังไม่หมดกามราคะ ดังนั้น การที่นารีผลจะเหี่ยวแห้งคาต้น แล้วร่วงหล่นนั้น เป็นไปได้ยาก ก่อนจะโรยรา จะมีเทวดา สัตว์วิเศษ และ วิทยาธร เป็นต้นมาเก็บเอาไป http://www.oknation.net/blog/surasakc/2010/04/15/entry-1 แก้ไขเมื่อ 26 ก.พ. 55 18:52:51 จากคุณ : เก็บขวดขายเลี้ยงชีพ เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 18:52:18

ความคิดเห็นที่ 35 ที่ประเทศลาวมีครับ เป็นต้นไม้แล้วมีผลออกมาเป็นรูปคน ไม่ต้องไปทำแม่พิม อะไรทั้งนั้น จากคุณ : ไม่ใช่ของแปลก เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 18:53:47 A:61.90.39.222 X: TicketID:350386

ความคิดเห็นที่ 36 สาธุชนคนดี: ขอนำเรื่องมักกะลีผล มาเสริมต่อเพื่อความสมบูรณ์ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับพระเดชพระคุณ พระธรรมสิงหบูราจารย์ (หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน) เมื่อประมาณปี ๒๕๒๓ ผมได้มีโอกาสไปกราบหลวงพ่อจรัญเป็นครั้งแรกที่วัดอัมพวัน ในสมัยนั้นไม่มีคนมาวัดมากมายเหมือนปัจจุบัน ที่กุฏิของท่านจะมีตู้กระจกอยู่ตู้หนึ่ง ภายในตู้จะมี มักกะลีผลอยู่ ๒ ผล ความสูงประมาณ ๑ คืบมีลักษณะหน้าตารูปร่าง เหมือนคน แต่บริเวณศรีษะมีลักษณะคล้ายจุกของผลไม้ หลวงพ่อได้เล่าให้ฟังว่าท่านเคยไปพบมักกะลีผลในขณะที่ยังเป็นผลสดๆ ที่ถ้ำบนเขาสิคิริยาในประเทศศรีลังกา ท่านไปประชุมพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลก ท่านไปพบพระชาวสิงหลในถ้ำ โดยมีแม่เนื่อง อิ่มสมบัติ เป็นล่ามแปล ท่านถามพระสิงหลว่านี่คืออะไร ท่านตอบว่ามักกะลีผล ท่านนำมาจากป่าหิมพานต์ นำมาเพื่อพิจารณากรรมฐาน หลวงพ่อจรัญบอกว่ามักกะลีผลมีรูปร่างสวยงามมาก ผมสีทอง ตาขาวสีฟ้า ตาดำสีทอง ผิวสวย มีกลิ่นหอม และท่านก็อธิษฐานว่าขอให้เจอมักกะลีผลในประเทศไทย และท่านก็เจอจริงๆ หลวงพ่อท่านเล่าให้ฟังถึงความเป็นมาของมักกะลีผลคู่นี้ว่า ท่านได้มักกะลีผลมาจากนายสำเริง นำมาฝากไว้ นายสำเริงเป็นลูกชายของสมภารตุ๊ อยู่ที่จังหวัดลพบุรี วันหนึ่งซึ่งเป็นวันพระ ๑๕ ค่ำ ขณะกำลังทำบุญกันอยู่ ก็มีชายคนหนึ่ง แต่งตัวสกปรกผมเผ้ารุงรังคล้ายฤาษีชีไพร เข้ามาในวัดและมาขอพักอาศัย สมภารตุ๊ ท่านก็อนุญาตด้วยความเมตตา ตอนจะกลับชายคนนี้ได้มอบห่อผ้าพร้อมกล่องใบหนึ่ง ให้สมภารตุ๊และสั่งว่าให้เขาไปก่อนค่อยเปิดดูและอย่าให้คนอื่นเห็น สมภารตุ๊ก็เข้าไปในกุฏิ และเปิดห่อผ้าดูก็เห็นเป็นรูปผู้หญิง ๒ คน ตอนนั้นท่านก็ไม่รู้ว่าเป็นอะไร จนนำไปให้ หลวงพ่อบุญมีดู ท่านก็บอกว่านี่เป็นมักกะลีผล เป็นผลไม้ในป่าหิมพานต์ ต่อมาสมภารตุ๊ ก็มอบมักกะลีผลให้นายสำเริงบุตรชาย นายสำเริงได้นำไปฝากไว้กับหลวงพ่อจรัญ ต่อมาเขาก็ขอคืนและนำไปมอบไว้ที่วัดพระปรางค์มุณี จ.สิงห์บุรี อยู่มาจนถึงปัจจุบัน ท่านใดสนใจก็ไปชมได้ วัดพระปรางค์มุณีอยู่เลยวัดอัมพวันไปทางสิงห์บุรีประมาณ ๓ ก.ม.อยู่ด้านขวามือครับ บทความคุณ ชนะ สิริไพโรจน์ http://forum.108prageji.com/index.php?topic=7291.10;wap2 จากคุณ : เก็บขวดขายเลี้ยงชีพ เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 18:54:14

ความคิดเห็นที่ 37 แล้วก็บ่นกันว่าประเทศไทยวิทยาศาสตร์ล้าหลังชาวบ้านเขา จากคุณ : Mr MOT เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 19:18:20

ความคิดเห็นที่ 38 ป่าหิมพานต์ไม่เคยเห็น เคยเห็นแต่สวนมะม่วงหิมพานต์ จากคุณ : kronthon เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 19:29:54

ความคิดเห็นที่ 39 ๕๕๕ มุกดาหารวางขายเพียบ ร้อยเก้าๆ จากคุณ : สิงโตยนต์ เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 20:30:21

ความคิดเห็นที่ 40 #23 ความจริงรักเด็กครับ >.< ปล.ถ้าตามอาจารย์เจษว่ามาก็ไม่ต้องหามาผ่าแล้วละ ยังไงมันก็เป็นพืชแน่ จากคุณ : ~รักความรุนแรง~ เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 20:55:48

ความคิดเห็นที่ 41 แก้ไขเมื่อ 26 ก.พ. 55 21:28:32 จากคุณ : JD300 เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 21:26:53

ความคิดเห็นที่ 42 มักกะรีผลจะมีแต่เพศหญิงมิใช่เหรอ รูปปั้นคู่ชาย-หญิงอย่างนี้ เรียก " อิ้น หรือ อีเป๋อ "มากกว่า น่าจะเป็นเครื่องลางที่ถูกทำขึ้น หวังผลทางคุณไสย จากคุณ : โอ เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 22:43:55 A:110.168.184.241 X: TicketID:341965

ความคิดเห็นที่ 43 "อิ้น" ถูกสร้างตามคตินิยมของคณาจารย์ทางฝ่ายเหนือ "อีเป๋อ" ถูกสร้างตามคตินิยมของคณาจารย์ทางภาคอีสาน จุดประสงค์และที่มาอย่างเดียวกัน ฉะนั้น อิ้นหรืออีเป๋อ จึงเป็นเครื่องรางของขลังอีกชนิดหนึ่ง ซึ่งมีดีทางเสน่ห์เมตตามหานิยมแก่ผู้พกพานำติดตัวไป" www.google.com จากคุณ : โอ เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 22:48:28 A:58.9.109.115 X: TicketID:341965

ความคิดเห็นที่ 44 เป็นพืชก้อต้องขยายพันธ์ได้ใช่รึเปล่า จากคุณ : pooktoon เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 22:52:49

ความคิดเห็นที่ 45 ผมถึงได้ว่า  ใครเข้าถึงอินเตอร์เน็ตแล้วยังโง่อยู่  ก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว จากคุณ : นายสีเสียด เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 55 22:53:19

ความคิดเห็นที่ 46 #30 จิ้งจกเก้าหาง คิดได้ไงครับเนี้ย เอาสัตว์มาทรมานแล้วฆ่าทิ้ง เอามาทำเป็นวัตถุมงคล... จากคุณ : drama creator เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 02:41:34

ความคิดเห็นที่ 47 วิธีทำ จิ้งจกเก้าหาง (เจอในเน็ต) จับมาทำให้หางขาด แล้วก็เย็บแนวตรงกลางแผลที่ขาดให้เปิดช่องไว้ซ้าย-ขวา เมื่อหางจิ้งจกงอกมาใหม่ก็จะงอกออกเป็น 2 หางในช่องที่เปิดแผลไว้ แล้วก็ทำต่อไปอีกเรื่อยๆก็จะได้จิ้งจกมีหางเพิ่มขึ้น จากคุณ : JD300 เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 05:42:04

ความคิดเห็นที่ 48 ^ ^ อ. ครับ แล้วเย็บจิ้งจกนี่ยากมั้ยครับ ต้องวางยาสลบก่อนมั้ยครับ เพราะมันดิ้นนิดเดียวหางก็หลุดแล้ ว จากคุณ : iLoveMonkey เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 09:14:16 A:182.53.109.91 X: TicketID:246752

ความคิดเห็นที่ 49 ไม่เคยลองทำเองนะ คนที่โพสต์เรื่องนี้ไว้เค้ายืนยันว่าทำแล้วได้ผล คิดว่าคนที่ทำขายอยู่ คงไม่วางยาสลบมันก่อนหรอก หางหลุดไปก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวก็งอกใหม่อีก แค่พยายามแยกให้มีช่องที่หางจะงอกออกมาหลายๆ ช่องมั้ง ทรมานสัตว์น่าดูนะ จากคุณ : JD300 เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 10:50:53

ความคิดเห็นที่ 50 ความเชื่อในประเทศไทยมันเยอะจริง บางคนก็ลับตาเชื่อแต่ในสิ่งที่คนเขาเล่าต่อๆกันมา ไม่เคยคิดวิเคราะห์ว่ามันเกิดขึ้นมาได้อย่างไร ใช้หลักการอะไร มีแต่เชื่อๆๆๆๆๆๆ เกิดมาเพื่อเชื่อเท่านั้น หลักฐานไม่ต้องมี พิสูจน์ก็ไม่ต้อง - -" จากคุณ : nopex เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 12:26:14

ความคิดเห็นที่ 51 สงสารจิ้งจก จากคุณ : อยากรู้ก็แค่ถาม เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 15:38:56

ความคิดเห็นที่ 52 ผมเคยเดินเจอแถวตลาดช่องเม็ก จ.อุบลฯ คู่ละประมาณ ๓๐๐ บาทเองครับ จากคุณ : ช้างป่าเข้ากรุง เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 55 23:19:55

ความคิดเห็นที่ 53 แนวว่า  กินไม่ได้แต่เท่  สโลแกนตามนี้เลย ผมก็ไม่ชอบเรื่องตามแนวความเชื่อสักเท่าไร มันสร้างประโยชน์อะไรไม่ค่อยได้ แล้วมาบอกว่าเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ ผมชอบเรื่องตามหลักวิทยาศาสตร์มากกว่าเพราะมันมีประโยชน์พัฒนาสร้างสิ่งต่างๆ ต่อไปได้ ไฟฟ้า รถยนต์ เครื่องบิน โทรศัพท์ โทรทัศน์ คอมพิวเตอร์ ฯลฯ สิ่งต่างๆ ที่มีประโยชน์มากมายนั้น เกิดมาจากทางหลักวิทยาศาสตร์ทั้งนั้น  ส่วนความเชื่อ ไสยศาสตร์ นั้น ไม่เคยมีของอะไรที่สร้างประโยชน์ได้อย่างใหญ่หลวงเลย คาดว่า อีกสัก 2,000 ปี ต่อไป  หลักความเชื่อทางไสยศาสตร์คงลดน้อยถอยลงไปมากครับ เพราะคนสมัยใหม่จะมาแทนที่ได้จนหมดครับผม ... .. . จากคุณ : แง่มๆ น้องหมา 2 ปี เขียนเมื่อ : 28 ก.พ. 55 14:28:20

ความคิดเห็นที่ 54 ผมว่าความเชื่อแบบนี้ ก็จะไม่ใช่ว่าจะไม่ดี มันดูลึกลับเป็นที่น่าสนใจ  เพียงแต่ต้องใช้สติ ในการรับรู้ จากคุณ : รู้ก็ดี (MR.KRIANG) เขียนเมื่อ : 29 ก.พ. 55 13:58:29

ความคิดเห็นที่ 56 ผมว่าความเชื่อแบบนี้ ก็จะไม่ใช่ว่าจะไม่ดี มันดูลึกลับเป็นที่น่าสนใจ  เพียงแต่ต้องใช้สติ ในการรับรู้ จากคุณ : รู้ก็ดี (MR.KRIANG) เขียนเมื่อ : 29 ก.พ. 55 13:59:02