|
มีประโยชน์บ้างมั้ย?
ยาอี (MDMA)นั้นสามารถใช้ในการรักษาจิตบำบัดได้ MDMA ยังสามารถใช้สนับสนุนในการรักษาอาการหวาดกลัวและใช้รักษาผู้ป่วยระยะสุดท้ายด้วย ในความเป็นจริงแล้ว นักจิตบำบัดหลายคนเช่น Leo Zeff, Claudio Naranjo, George Greer, Joseph Downing, and Philip Wolfson ได้ใช้ MDMA ในขั้นตอนการบำบัดรักษา จนกระทั่งต้องหยุดใช้ไปเมื่อมันกลายเป็นสิ่งผิดกฎหมาย
George Greer สังเคราะห์ MDMA ขึ้นในแล็บ และได้ใช้มันในการรักษาคนไข้ของเขาในช่วงปี 1985 (พ.ศ.2528) ในชื่อการศึกษาว่า MDMA's Schedule I และมีรายงานผลของการรักษาคนไข้ใน MDMA's Schedule I พบว่าสามารถช่วยให้อาการป่วยทางจิตดีขึ้นได้ ทำให้ผู้ป่วยสามารถติดต่อสื่อสารกับคนรอบข้างได้ดีขึ้น และยังสามารถช่วยลดอาการปวดของผู้ป่วยมะเร็งระยะสุดท้าย และทำให้เขามีคุณภาพชีวิตดีขึ้นในช่วงสุดท้ายของชีวิตตน
ต่อมาในการศึกษา Schedule II (phase-II) พบว่าผู้ป่วยที่มีอาการเครียด ซึ่งเกิดขึ้นหลังเจอเหตุการณ์สะเทือนขวัญหรือวิกฤติการณ์ต่างๆในชีวิต ทำให้มีอาการหวาดกลัว/หวาดผวา เมื่อได้รับการรักษาด้วย MDMA พบว่ามีอาการดีขึ้นและไม่มีอาการอาละวาดหรือทำร้ายร่างกายเกิดขึ้นขณะรักษา รวมทั้งยังใช้ได้ผลกับการรักษาผู้ป่วยทางจิตในกรณีที่การรักษาด้วยวิธีอื่นไม่ได้ผล นอกจากนั้น MDMA ในขนาดต่ำๆ ยังช่วยใช้เพิ่มประสิทธิภาพการทำสมาธิของพระในศาสนาพุทธบางรูปด้วย
NOTE*** : การใช้ยาอีหรือ MDMA ในการรักษาทางการแพทย์นั้นจะใช้สารสังเคราะห์ที่มีปริมาณสารออกฤทธิ์ที่คงที่และเหมาะสมตามการควบคุมของแพทย์ แต่การใช้ในทางที่ผิดหรือซื้อยาในตลาดมืดนั้นยาแต่ละเม็ดจะมีปริมาณสารออกฤทธิ์ไม่เท่ากันและออกฤทธิ์ไม่คงที่
จากคุณ |
:
pinspin
|
เขียนเมื่อ |
:
27 ก.พ. 55 05:43:36
|
|
|
|
|