ทฤษฎีว่าด้วยการอวสานของสัตว์ล้านปี : ทฤษฎีที่ 2 ท้องฟ้าและอากาศ
|
 |
เมื่อ 65 ล้านปีก่อน โลกของเราถูกพุ่งชนด้วยอุกกาบาต บริเวณแหลมยูคาทาน ประเทศเม็กซิโก ซึ่งได้ปลดปล่อยพลังงานออกมาถึง 100 ล้านเมกกะตัน จนโลกทั้งโลกต้องสะเทือนด้วยแผ่นดินไหวขนาด 13 ริกเตอร์ ก่อเกิดมหาคลื่นยักษ์สึนามิพังทลายชายฝั่งทุกแห่งจนราบเป็นหน้ากลอง ในเวลาเพียง 24 ชั่วโมงแรกเท่านั้น มันอาจจะไม่ได้ฆ่าทุกอย่างภายในวันเดียว แต่มันคือต้นเหตุที่จะสร้างสิ่งที่จะฆ่าทุกอย่างในวันต่อมา โลกกำลังบ่มเพาะอะไรบางอย่างทุกวัน ต่อจากนี้ ทีละน้อยๆ
วันที่ 2 หลังโลกถูกพุ่งชน
หากมองจากอวกาศ โลกของเราดูคล้ายดาวร้าง มองเห็นรอยเนินรูปวงแหวนที่แตกยับ ที่ยังคงอยู่มานานอีกหลายล้านปี ไม่ใช่เพียงมุมเดียวของโลกที่โดนทำลาย อุกกาบาตได้แตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย พวยพุ่งสู่ชั้นบรรยากาศ และพุ่งกลับลงมาด้วยความร้อน เผาผลาญทุกอย่างจนหมดสิ้น พื้นโลกจึงเต็มไปด้วยเปลวไฟที่โหมกระหน่ำลุกลามไปทั่ว ฝูงไดโนเสาร์ที่รอดชีวิตตอนนี้ต่างแตกฮือสับสน บ้างก็ค่อยๆตายเพราะความร้อนหรือสำลักควัน หรือแม้กระทั่งถูกเผาทั้งเป็น
โลกสมัยก่อนประวัติศาสตร์ที่ในบรรยากาศเต็มไปด้วยอ็อกซิเจน ทำให้ไฟยิ่งลุกลามรุนแรงกว่าในปัจจุบันมาก อุณหภูมิบนพื้นผิวโลกพุ่งสูงขึ้น บางที่อาจร้อนถึง 1,200 องศาเซลเซียส
ไฟก่อปัญหาได้อีกอย่างหนึ่ง นั่นคือ "ลม" เพราะเมื่อมีบริเวณที่ร้อนและเย็น อากาศจะเคลื่อนตัวเข้าหาเปลวไฟนั้น และไม่นานนัก พื้นทวีปทุกหนระแหงจะลุกโชนเป็นไฟ
แต่พื้นที่มรณะเช่นนี้ ยังมีผู้รอดบางกลุ่ม ในแถบอลาสก้าที่กำลังลุกเป็นไฟ มันคือบรรพบุรุษของเรา "เพอร์กาโทเรียส"
จากคุณ |
:
pinspin
|
เขียนเมื่อ |
:
14 มี.ค. 55 13:42:16
|
|
|
|