ความคิดเห็นที่ 1 ถ้าชาติหน้ามีจริง การทำดีย่อมส่งผลถึงชาติหน้า แต่ถ้าชาติหน้าไม่มีจริง ถ้าทำดี ชาตินี้ก็ได้ชื่อว่าไม่มีมลทิน จำมา จากคุณ : Serial_Nuber เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 55 16:01:14

ความคิดเห็นที่ 2 อือ จากคุณ : ผมไม่ใช่คนดี แต่เป็นคนธรรมดา เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 55 16:04:04

ความคิดเห็นที่ 3 วิทยาศาสตร์ ? จากคุณ : Pomzazed เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 55 16:08:20

ความคิดเห็นที่ 4 ถึงไม่ใช่กระทู้วิทยาศาสตร์ แต่ความเกี่ยวเนื่องมันมีนะ โดยเฉพาะชาวหว้ากอ ที่มักจะไม่เชื่อว่านรกมีจริง สวรรค์มีจริง... จากคุณ : ป้าชื่อเห็ดโคน เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 55 16:12:26

ความคิดเห็นที่ 5 ผมอยากรู้ว่าคนอย่าง คุณป้าชื่อเห็ดโคน คุณจะไม่มีมีอะไรกำกับจิตใจไม่ให้ทำชั่วเลยเหรอไง หากไม่มีความเชื่อเรื่องสวรรค์นรกเนี่ย ส่วนตัวผมไม่สนใจอยู่แล้วว่าจะมีหรือไม่ เพราะโดยธรรมชาติของมนุษย์หากทำความเลวก็ต้องมีความรู้สึกผิดในใจ ดังนั้นเมื่อมีความรู้สึกผิดในใจกำกับอยู่แล้วจะไปสนใจทำไมว่ามีสวรรค์หรือนรก ผมจะทำสิ่งใดก็เพื่อความสบายใจในปัจจุบัน และชาตินี้ ไม่ได้ไปหวังลมๆแล้งๆว่าชาติหน้าจะดีขึ้น หรืออนาคตจะดีขึ้นรวยขึ้น โดยไม่ได้ใส่ความพยายามลงมือทำอะไรลงไป นอกจากทำบุญแค่ร้อยสองร้อยแล้วก็พนมมือขอให้รวย มันจะมักง่ายเกินไปมั้ย จากคุณ : ผมไม่ใช่คนดี แต่เป็นคนธรรมดา เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 55 16:20:19

ความคิดเห็นที่ 6 แล้ว? ถ้าจะบอกว่าที่ว่ามาขัดกับพระพุทธเจ้าล่ะ? เกสปุตตสูตรเอาไปไว้ไหน? ถ้าคนไม่เชื่อแล้วเป็นคนดี มันเป็นบาปมากไหม? ตกลงคนบาปเพราะไม่เชื่อเหรอ? จากคุณ : Nexus เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 55 16:24:08

ความคิดเห็นที่ 7 คนที่ไม่ทำชั่วเพราะกลัว มันดีกว่าคนที่ไม่ทำชั่วเพราะคิดว่ามันเป็นเรื่องชั่วๆ? จากคุณ : Nexus เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 55 16:24:45

ความคิดเห็นที่ 8 เอ่อ สำหรับความคิดของคุณหญิงนะคะ คุณหญิงมีหิริโอตัปปะค่ะ(ความละอายต่อบาป) เรื่องสวรรค์นรก มันพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ยากค่ะ แต่เรื่องที่ยังพิสูจน์ไม่ได้ ไม่ได้หมายความว่า มันจะไม่มีอยู่จริงนะคะ.. จากคุณ : คุณหญิงเองค่ะ เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 55 16:30:47 A:27.130.213.228 X: TicketID:351649

ความคิดเห็นที่ 9 สรุป คำพระคือให้ ทำดี ไม่ใช้ทำชั่ว นั่นล่ะดี แต่เรื่อง นรก สวรรค์ " ไร้สาระ " สมมติ นะ ว่าตายไป เกิดตกนรก โดนทรมาณ ก็รู้สึกแต่ตอนตาย เกิดมาใหม่ จำความเดิมไม่ได้ แล้วไงต่อ ทำให้ขึ้นสวรรค์ มีความสุข เกิดใหม่ จำความเดิมไม่ได้ แล้วไงต่อ .. ไร้สาระครับ เรื่องพวกนี้ จากคุณ : iLoveMonkey เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 55 16:32:54 A:182.53.99.214 X: TicketID:246752

ความคิดเห็นที่ 10 การทำบุญ = เป็นการลงทุน ? จากคุณ : EN4EVER เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 55 16:35:33

ความคิดเห็นที่ 11 Nexus พูดไร คุณหญิง งง ไปหมดเลยค่ะ อย่าพูดแนวปรัชญาค่ะ เอาแบบง่ายๆค่ะ... กฎหมายสร้างขึ้นมาเพื่อคุมคนที่ไม่มีจิตสำนึกว่าอะไรดีอะไรชั่วนะคะ เราต้อง เข้าใจให้ตรงกันก่อนค่ะ ว่าอะไรเรียกว่า ความดี อะไรเรียกว่า ความชั่ว ค่ะ มนุษย์เกิดมาพร้อมกับความเห็นแก่ตัว ถ้าเราไม่มีศาสนา หรือหลักในการควบคุมจิตใจ เช่นความเมตตา ไรงี้ มนุษย์จะไม่ต่างจากสัตว์ค่ะ เราอยากแตกต่างจากสัตว์นี่คะ จริงมั้ยคะ จากคุณ : คุณหญิงเองค่ะ เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 55 16:38:09 A:27.130.213.228 X: TicketID:351649

ความคิดเห็นที่ 12 นรกสวรรค์ อยู่ตรงไหนในจักรวาลครับ? ทำดีแล้วใจเป็นสุข ทำชั่วแล้วจิตใจมันระแวง หลายๆคนทำดีทำชั่วก็ไม่สนใจเรื่องสวรรค์นรก สำหรับผม ถ้าสิ่งใดก็ตามที่ผมกระทำลงไปไม่ไปเบียดเบียนผู้อื่น ผมไม่ถือว่าผมชั่วครับ จากคุณ : the-unforgiven เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 55 16:46:59 A:58.137.65.123 X: TicketID:344970

ความคิดเห็นที่ 13 การทำบุญ = การมีเมตตาจิตเผื่อแผ่ครับ ไม่ใช่การลงทุน การลงทุนคือ การเสียทรัพย์ เพื่อให้ได้ทรัพย์ที่มากกว่าเป็นการตอบแทน และข้อแตกต่างคือ การลงทุน เราอาจจะเสียประโยชน์ หรือได้ประโยชน์ ก็ได้ คือเราอาจจะขาดทุน แต่ การทำบุญคือการให้ เท่าที่เราไม่ได้ เดือดร้อน และเราก็ไม่ได้ทรัพย์ตอบแทน เหมือนการลงทุน และเราก็ไม่ขาดทุนด้วย เพราะให้เท่าที่เราไม่เดือดร้อน แต่เรื่องนรก สวรรค์ อันนี้ไม่แน่ใจ เพราะที่คนเราเกิดมา ไม่เท่าเทียมกัน นี่ก็อาจจะเป็นเรื่องของกรรม จากคุณ : okaunkung เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 55 16:48:33

ความคิดเห็นที่ 14 การรกินเที่ยวสนุกให้เต็มที่ นั้นเป้นความชั่วหรือ การเห็นอะไรตามจริงที่ตนเห็น นั้นเป็นสิ่งชั่วหรือ มนุษย์ไม่มีคนใดดอกที่รู้เห็นสิ้นทะลุสุดทางได้ไปทุกดย่าง ต่างคนต่างคิดได้มากน้อย สั้นยาวต่างกัน ด้วยเหตุนี้เราจะเหมาว่าคนที่คิดสั้นกว่าเราเป็นคนชั่วได้หรือ ... และตัวเราเองนั้นคิดได้ไกลที่สุดแล้วหรืออาจาร์ยท่านก็...สุดทางแล้วหรือ ฉะนั้น ท่านจึงบอกให้อยู่กับปัจจุบัน และ หมั่นเจริญ ปัญญา สิ่งใดประกอบด้วยปัญญา ณ ปัจจุบันแล้ว เห็นว่าดีก็จงทำไปเถิด เพราะมันไม่มีการกระทำสิ่งใดที่จะเป็นมหากุศล เกิดประโยชน์ดีแก่ทุกฝ่ายได้ในทุกสรรพสิ่งหรอก มีสิ่งหนึ่งเกิดย่อมมีสิ่งหนึ่งดับ แต่หากคิดแล้วตรองแล้ว ชั่งน้ำหนักประโยชน์แล้ว สิ่งที่เราเล็งเห็นได้จากผลนั้น ย่อมเป็นกุศลมากกว่าอกุศลแน่นอน สุดท้าย ......ฝากไว้แก่ทุกท่านว่า แต่ถึงอย่างไรการยึดถือแต่เพียงกระพี้ ไม่ได้รู้ถึงแก่นนั้น มันก็ไม่ได้หมายความว่าเลวดอกนะ... จากคุณ : น้ำนอง เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 55 16:51:28

ความคิดเห็นที่ 15 อะไรคือความดี? ไหนลองตอบมาหน่อยซิครับ อยากรู้เหมือนกัน แล้วศาสนาเกี่ยวอะำไรกับความดี? ศาสนาทำให้คนดีจริงหรือ? (อันนี้อยากรู้คำตอบเหมือนกัน หุหุ) เอาแค่นี้ก่อน จากคุณ : Nexus เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 55 16:54:33

ความคิดเห็นที่ 16 ป้ากำลังจะบอกอะไรครับ จะบอกว่าที่ หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ พูดทำให้เชื่อได้ว่า นรก สวรรค์ บาป บุญ มีจริงหรอ แล้วถ้าผมไปบวชเป็นพระแล้วบอก ผมคือผู้สร้างโลก เป็นศาสดาองค์ใหม่ของศาสนาพุทธคุณจะเชื่อไหม พรรษาผมน้อยกว่าหลวงพ่อปัญญาแต่ผมเป็น "พระ" นะ จากคุณ : Mr.Kito เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 55 16:56:15

ความคิดเห็นที่ 17 ว่ากันว่าคนต่างจากสัตว์ เรื่องนี้ยาว จริงๆแล้วคนเราก็ไม่ต่างกับสัตว์ (เพราะคนเราเป็นสัตว์ชนิดหนึ่ง) พฤติกรรมหลายๆอย่างที่เราเหมาว่าเป็นของสัตว์ประเสริฐนั้น แท้จริงแล้วก็เป็นสิ่งที่มีอยู่ในสิ่งมีชีวิตพวก Primate หลายๆชนิด(ที่เป็นญาติกับเรา) และ.... เราไม่เคยพูดถึุงข้อด้อยของเราที่ต่ำต้อยกว่าเพื่อนร่วมโลกของเราหลายๆชนิดเสียด้วยซ้ำ จากคุณ : Nexus เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 55 16:57:42

ความคิดเห็นที่ 18 ตีความผิดกันแล้วครับ จุดประสงค์ของท่านคือ  อย่าประมาทในการใช้ชีวิตครับ หลักๆคือให้ระวังผลจากการกระทำ   ดังเช่นที่ท่านพุทธทาสพูดเป็นประจำว่า "จงเตรียมตัวตายอย่างมีสติ" ป้าก็เล่นมาตีความหมายเอาอีตรงคำว่านรก คำว่าสวรรค์   คนละประเด็นครับ แก้ไขเมื่อ 14 มี.ค. 55 17:02:53 จากคุณ : ปืนเถื่อน เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 55 17:00:03

ความคิดเห็นที่ 19 เจ้าของกระทู้ ยกคำพูดของ หลวงพ่อปัญญานันทภิกขุ ขึ้นมาลอยๆ โดยไม่มีบทนำ อะไรเป็นเหตุให้ท่านพูดอย่างนั้น อยู่ดีๆ จะมาถามว่า ผมจะเปลี่ยนใจไหม ? ผมก็ต้องโยกตัวหลบ ถามกลับไปว่า ผมทำผิดอะไร ถึงต้องเปลี่ยนใจ ครับ จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 55 17:04:41

ความคิดเห็นที่ 20  เกิดชาติหน้าก็จำชาติที่แล้วไม่ได้ มันก็เหมือนคนละคนกันนี่แหละ จะทำดีไปทำไม ทำให้ไอ้คนชาติหน้ามันเอาบุญเราไปเสพสุขเหรอ ใช่เรื่อง ยกตัวอย่างง่ายๆ ถ้าชาติที่แล้วมีจริง คุณจำได้เหรอว่าทำอะไรไปบ้าง  จากคุณ : เกิดในที่สว่าง เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 55 17:19:46

ความคิดเห็นที่ 21 ก่อนอื่น ต้องบอกก่อนว่า จขกท ก็ไม่เชื่อเรื่อง นรก สวรรค์ เพราะฉะนั้นตัดประเด็นว่า จขกท จะมาคัดง้างอะไรกับความคิดของพวกคุณ เพียงแต่เอามาให้ดูกันว่า  อะไรคือผิด อะไรคือถูก ไม่สามารถชี้ชัดลงไปได้จริงๆ เถียงกันไปก็เท่านั้น จากคุณ : ป้าชื่อเห็ดโคน เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 55 22:14:35

ความคิดเห็นที่ 22 ตามหัวกระทู้ต้องยกประโยคนี้มา ท คือ คนที่เชื่อว่า ทำบาปไม่ได้บาป เป็นความเชื่อที่ผิด และย่อมทำความชั่วได้ทุกๆอย่าง บาป คือการทำให้เกิด ทุกข์ ทุกข์คือการแตกสลาย การที่คุณจะไปทำให้ สิ่งมีชีวิต(สังขารที่มีจิตในทางพุทธ) เกิดการแตกสบาย นั่น เรียกว่า บาป ส่งจะส่งผล ให้คุณ ต้องแตกสลายด้วยเช่นกัน ศาสนาพุทธ ยึดหลักข้อเดียว คือไม่ไปทำให้ เกิดการแตกสลาย มนุษย์เป็นสัตว์ ที่มีสมองมากกว่าสัตว์อื่น บ้างไม่รู้จักคิด ถ้าคุณบอกว่า งูเห่าหงุดหงิดสะสม อยู่นาน จนวางแผนกลับมาฆ่าล้างแค้นได้ ผมก็จะบอกว่า อ้อ คนเราไม่ได้ต่างจากงูเห่าเลย ซึ่งจริงๆบางคนก้ไม่ได้ต่างจริงๆ พุทธเรียกความต่างตรงนี้ว่า ปัญญา การคิด ทำ ค้านกฎแแหงกรรม ถือว่าเป็น กิเลส หรือบาปอย่างนึง คือ ความหลง คือ ความไม่รู้ ไม่มีปัญญา ซึ่งปัญญานี้นิยามเอาในทางพุทธ สูงในทางพุทธ ซึ่งถ้าใครไม่สนใจความสูง ต่ำตรงนี้ ไม่สนใจพุทธ ก็แล้วแต่เค้าเอง ไม่ใช่ว่าจะเอามาใช้เป็นสเตตัส ยศถา อะไร นรกอยู่ตรงไหน ตรงไหนทุกข์ก็ตรงนั้นแหละนรก ตรงนั้นทุกข์มาก ไม่เรียกว่านรก จะเรียกว่าสวรรค์หรือ พุทธ เน้นให้ทำเพราะเห็น เพราะปัญญาอยู่แล้ว ไม่ใช่ทำเพราะกลัว เพราะหิว เพราะกระหาย ส่วนหลักพุทธ เป็นปรัชญาชีวิต เพื่อการพ้นทุกข์ โดยข้อปฏิบัติบางอย่างอาจจะบิดจาก หลักการหลักไป แต่ก็เพราะ เป็นวิธีเข้าถึงการดับทุกข์ ซึ่งแตกต่างกันไปบ้าง ตามตัวบุคคล และพุทธเน้นปฏิบัติ มากกว่าทฤษฎี เพราะต้องปฏิบัติ จนมีสติ สมาธิ มีปัญญา มาพิจารณา เท่านั้น จึงจะเรียกว่า เห็น คือ เห็นทุกข์ แล้วจึงหาทา ออกจากวนเวียน ผัสสะกรรมนั้นๆ ในภาคตัวหนังสือ มันเป็นการยาก ที่จะอธิบาย ให้คนที่ไม่เคยมีความรัก หรือความแค้นเข้าใจ ซึ่งถ้าได้เคยมีซักครั้ง นั่น จึงจะเห็นได้เองจริงๆ การลืมตาตื่นขึ้นมา ลืมทุกอย่างโดยไม่สนใจว่า เมื่อวานเราเป็นใคร ถ้าจะมีคนสีนึง ตามเอาทุกข์จากเมื่อวานกลับมาให้คุณ อีกสีแบ่งปันความสุขให้เสมอๆ สิ่งนี้คงจะไม่เรียกว่าอะไรที่ไร้สาระ จนเกินไป สรุปหลักพุทธของผมง่ายๆว่า อะไรที่ทำแล้วสบายใจ ก้ทำแล้วสบายใจ แค่นี้ก็เรียกว่าเป็นความดีง่ายๆละ แต่ไม่ใช่แค่รู้สึกนะ แต่สบายใจ หมายถึงว่าจะไม่นำพาความเดือดร้อนใดๆกลับมาให้จริงๆ กรรม สะสมลงที่ ความเคยชิน ที่ตัวผู้กระทำ รอขั้วกรรม มาสนอง ให้เกิดการกระทำซ้ำ อีกส่วนเป็นเรื่อง ภาพสะท้อนความรู้สึก ของผู้ถูกกระทำ ความหวาดกลัวในแววตาเหยื่อ ส่วนสะท้อนกลับ ที่สมองมนุษย์เรามีเป็นปกติ สุดท้าย ภาษาผมอาจจะมีกวนๆ หรือแรงๆบ้าง ก็ขออภัยไว้ด้วยนะครับ มาอธิบายยาวๆ ก็ตั้งใจให้เป็นบุญหละครับ แต่ก็มีกรรมติดบาปมาบ้างเป็นปกติ ก็เห็นก็พยายามจะลดแล้วหละ เสริม/แย้งมาได้ ตามอัธยาศัยนะครับ จะพยายามหาเวลามาอภิปรายต่อ แก้ไขเมื่อ 15 มี.ค. 55 16:01:05 จากคุณ : aLITTLEspaceAround7day เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 55 15:57:16

ความคิดเห็นที่ 23 อ้อ โดยส่วนตัว ผมเองก็ยังไม่ได้เชื่อว่า ชาติหน้าจะมีจริงแน่ๆ แต่ทำบาปได้บาป นี่มีสิ่งที่เห็นชัดอยู่ ความรู้ที่ได้มา ก็ได้มาจากการหนีการตกชั้น และเชื่อเพราะทำ แล้วเห็นว่าจะไม่ตกชั้นจริงๆ ไม่ใช่ได้มา เพราะฟังเขาบอก คิดเอาเอง เชื่อไปเอง หรือคิดว่า สวรรค์อยู่ที่ปลายทางการเป็นแชมป์ ต้องถามกลับว่า ท่านรู้ ท่านเห็น แค่ไหน มากพอที่จะมั่นใจบอกว่า สิ่งนั้นใช่ ไม่ใช่ เปรียบเทียบง่ายๆ ก็พวกคดโกงเค้ามากๆ กับพระที่อยู่สงบๆง่ายๆไม่มีอะไร ดู อันไหนเรียกทุกข์ อันไหนเรียกสุข ท่านใด จะเห็นว่า ทำบาปได้บุญ ทำบุญได้บาป ก็แล้วแต่ท่านเอง โดยส่วนตัวผมชอบวิธียุมากกว่าห้าม แต่ก็ขอให้มีสติดู ฉุดรั้งไว้ด้วยว่า ตกลงแล้ว ทำแบบไหน ได้แบบไหน จากคุณ : aLITTLEspaceAround7day เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 55 16:14:00

ความคิดเห็นที่ 24 จริงๆหัวกระทู้อาจจะมีส่วนใช้ผิดนิดนึง เพราะผมคิดว่า ชาวหว้ากอส่วนเยอะๆ ก็ไม่ชอบทำบาปอยู่แล้ว เพียงแต่ระดับความละเอียด หยาบ ของบาป อาจจะมองต่างกันไปบ้าง กรรมข้อนึงของนักวิทย์อาจจะเป็นแบบ เราพิสูจน์ที่มาของน้ำแหล่งนี้ไม่ได้ เราจะไม่กินเด็ดขาด ซึ่งจริงๆถ้าท่านมีแหล่งน้ำอื่น ก็คงไม่เป็นไร ไม่ได้มีอะไรเสียหาย แหล่งน้ำนี้ก็มีทั้งส่วนหวานส่วนขม(เพราะมีสิ่งเจือปน ไม่ใช่ต้นตำหรับ) แต่คนที่กินแล้วสดชื่นเบิกบานสบาย ก็มีเยอะแยะ ของกินง่ายราคาถูก ซึ่งเค้าว่ากันว่าประโยชน์มหาศาล จะไม่ลองชิม ก็คงไม่เป็นไร ผมก็จะได้ไปขายคนอื่นต่อ (เอ้ย ไม่ใช่ละ คิดซะว่ามีเพื่อนแปลกหน้าคนนึงเอามาฝากก็ได้ครับ (ดูไม่นากินเลยแฮะ)) แก้ไขเมื่อ 15 มี.ค. 55 17:21:57 จากคุณ : aLITTLEspaceAround7day เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 55 16:23:56