Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
อ้างเสาส่งสัญญาณมือถือทำให้ความจำเสื่อม เรียกค่าเสียหาย200ล้าน ติดต่อทีมงาน

อดีตอาจารย์"มข." ร้องศาลอ้างเสาส่งสัญญาณมือถือทำให้ความจำเสื่อม เรียกค่าเสียหาย200ล้าน

นายสุพล สุขศรีมั่งมี อดีตอาจารย์คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยขอนแก่น ให้สัมภาษณ์”มติชนทีวี”ว่า ยื่นฟ้องบริษัทแอดวานซ์ อินโฟเซอร์วิส จำกัด(มหาชน) หรือเอไอเอส ต่อศาลแพ่ง แผนกคดีสิ่งแวดล้อม  เรียกร้องให้รื้อถอนเสาอุปกรณ์และเครื่องส่งสัญญาณคลื่นความถี่โทรศัพท์แรงสูงออกจากดาดฟ้าร้านสะดวกซื้อ ตั้งอยู่ห่างจากที่พักนายสุพลราว400เมตร เป็นอาคารอุรุพงษ์คอนโด ซอยพญานาค ถ.พระราม6 แขวงถนนเพชรบุรี เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร พร้อมทั้งเรียกค่าเสียหายจากเอไอเอส เป็นเงิน 200ล้านบาท โดยอ้างเสารับส่งสัญญาณคลื่นความถี่ดังกล่าวมีผลเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ศาลนัดชี้สองสถานในเวลา 13.30น.วันที่ 20มีนาคม

นายสุพลกล่าวว่า การฟ้องร้องดังกล่าวมีขึ้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยเป็นการฟ้องเพิ่มเติมต่อศาลแพ่งในคดีเมื่อวันที่ 30มิถุนายน 2554 ฟ้องบริษัทเอไอเอส บริษัทฮัทชิสัน ซีเอที ไวร์เลส มัลติมีเดีย และพวกรวม 7คน  ฐานละเมิด พร้อมขอให้รื้อถอนเสาอุปกรณ์และเครื่องส่งสัญญาณคลื่นความถี่โทรศัพท์แรงสูงออกจากอาคารอุรุพงษ์คอนโด

นายสุพลกล่าวว่า บริษัทฮัทชิสัน ฯติดตั้งเสาอุปกรณ์และเครื่องส่งสัญญาคลื่นความถี่โทรศัพท์แรงสูง จำนวน 10เสา บนหลังคาอุรุพงษ์คอนโดเป็นเวลา 8ปี ส่วนบริษัทเอไอเอส ติดตั้งตู้อุปกรณ์เครื่องรับสัญญาณ 3ตู้ โดยมี2ตู้อุปกรณ์มีกำลังส่งสัญญาณแรงสูง 60,000วัตต์ และอีกหนึ่งตู้มีกำลังส่งสัญญาณแรงสูง 3หมื่นวัตต์ เป็นเวลา3ปี ทำให้เกิดอาการเจ็บป่วยวิงเวียนศรีษะ ความจำไม่ดี หลงลืมง่าย สายตาพร่ามัว ต่อมาทั้งสองบริษัทรื้อถอนเสาสัญญาณออกจากอุรุพงษ์คอนโด แต่บริษัทเอไอเอส นำเสาสัญญาณดังกล่าวไปติดตั้งอาคารร้านสะดวกซื้อฝั่งตรงข้ามประมาณ 130เมตรเท่านั้น จึงฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายกับบริษัทเอไอเอสเพิ่มเติม

นายสุพลกล่าวว่า ก่อนหน้านี้เคยมีความจำดีมากระหว่างเรียนปริญญาโทที่สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์(นิด้า) สามารถท่องจำทฤษฎีทางรัฐประศาสนศาสตร์ได้เกือบทั้งหมด นอกจากนี้ยังเขียนหนังสือตำราเรียนได้รวดเร็ว แต่เมื่อมีการติดตั้งอุปกรณ์ส่งสัญญาณโทรศัพท์ปรากฎว่า ความจำเปลี่ยนไป มีอาการหลงๆ ลืมๆ ปวดศรีษะ รู้สึกวิตกกังวล ต้องให้แพทย์ตรวจรักษาเป็นประจำ

"ผมเชื่อว่า อาการหลงลืม มีสาเหตุเนื่องมากจากได้รับผลกระทบจากคลื่นความถี่สัญญาณโทรศัพท์แรงสูงทุกวัน  เมื่อเปรียบเทียบกับระหว่างผมเดินทางไปต่างจังหวัด พักค้างคืนที่นั่น เช้าวันรุ่งขึ้นไม่มีอาการมึนงงศรีษะเลย"นายสุพลกล่าว

นายสุพลกล่าวว่า ในผลการศึกษาของสถาบันทางวิชาการหลายๆแห่งทั้งในไทยและต่างประเทศ พบข้อมูลภัยอันตรายจากการที่ได้รับคลื่นความถี่สัญญาณโทรศัพท์แรงสูงเป็นระยะเวลานานๆ ส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกาย สมองและจิตใจ

นายสุพลกล่าวว่า นักวิจัยประเทศฟินแลนด์ทดลองนำเซลล์สมองมนุษย์ไปทดลองเลี้ยงในหลอดวิทยาศาสตร์และให้สัมผัสกับคลื่นโทรศัพท์มือถือ เพื่อดูความผิดปกติของเซลล์สมอง พบคลื่นโทรศัพท์มือถือทำปฎิกริยาต่อการหดตัวและทำลายเนื้อเยื่อของช่องว่างคลื่นสมองทำให้เซลล์สมองบางส่วนถูกทำลาย

นายสุพลยังยกตัวอย่างผลวิจัยของประเทศสวีเดน เมื่อปี 2546ว่า มีการนำหนูมาทดลอง ออกแบบกรงพิเศษให้หนูอยู่แล้วใช้คลื่นโทรศัพท์มือถือยี่ห้อจีเอสเอ็มกำหนดค่าความเข้มของคลื่นโทรศัพท์ที่ใช้ทดลองกับหนูให้มีค่าต่ำกว่าการใช้กับคนเท่ากับ 100เท่า ให้หนูสัมผัสกับคลื่นวันละ 2ชั่วโมงเป็นเวลา 50วัน ปรากฎว่า เซลล์สมองถูกทำลายเป็นหย่อมๆ มีผลต่อการจำหรือที่เรียกว่าโรคอัลไซเมอร์ ผลวิจัยชี้ว่าการใช้มือถือนานๆ จะเป็นหมันและโรคมะเร็ง

นายสุพลกล่าวว่า สถาบันคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม (สบท.) แจ้งตัวอย่างข้อค้นพบจากงานวิจัยในต่างประเทศที่ย้ำเน้นอัตรายจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ระบุผู้ที่อยู่ใกล้เสาสัญญาณโทรศัพท์ในรัศมี 400เมตร เสี่ยงต่ออาการผิดปกติต่างๆ เช่นปวดหัว นอนไม่หลับ ความจำเสื่อมสายตาพร่ามัว ผู้อยู่อาศัยในอาคารชุดภายใต้หรือตรงกันข้ามกับบริเวณเสาสัญญาณที่ตั้งบนหลังคาอาคารชุด มีความเสี่ยงในลักษณะเดียวกัน หลักฐานการศึกษาวิจัยทั้งหมดนี้ได้แนบในคำฟ้องแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุพล อายุ 59ปี จบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยศรีนครรินทรวิโรฒ เข้าเรียนนิด้า เมื่อปี 2526และเรียนปริญญาโท ด้านสาขาวิชากฎหมายระหว่างประเทศ คณะนิติศาสตร์ จุฬาฯ เมื่อปี 2536 เคยรับราชการที่สำนักงานสถิติแห่งชาติ ย้ายไปเป็นหัวหน้าหน่วยบ้านพุย อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ ในโครงการหลวงพัฒนาชาวเขา  เป็นผู้แปลหนังสือการประกันสังคมในประเทศซาอุดิอาระเบีย เป็นอาจารย์สอนในสถาบันต่างๆหลายแห่ง อาทิ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช มหาวิทยาลัยบูรพา และมหาวิทยาลัยขอนแก่น

แหล่งข่าวจากเอไอเอสเปิดเผยว่า เรื่องการฟ้องร้องดังกล่าวทางผู้บริหารทราบเรื่องแล้ว และให้ฝ่ายกฎหมายของบริษัทเข้าไปดำเนินการแล้วเช่นกัน ส่วนกรณีที่ผู้ฟ้องร้องระบุว่าทางบริษัทฯทราบเรื่องและมีการถอนเสาส่งสัญญาณโทรศัพท์มือถือออกไปก่อนหน้านี้ เพื่อเลี่ยงคดีฟ้องร้องไม่เป็นความจริง แต่เนื่องจากตึกหรืออาคารนั้นไม่ต่อสัญญาในการเช่าติดตั้งเสาโทรศัพท์มือถือต่อ ทางบริษัทฯจึงถอนออกไปติดตั้งอาคารอื่นที่อยู่ใกล้เคียงกันแทน

จาก http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1332140368&grpid=01&catid=&subcatid=

 
 

จากคุณ : หนุ่มเมืองใต้
เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 55 19:10:31




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com