ความคิดเห็นที่ 1 ไข่ตุง จากคุณ : Mr.Kito เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 55 01:16:59

ความคิดเห็นที่ 2 ไข่ตุงเมื่อไหร่ผมจะนั่งสมาธิเพื่อตัดความอยาก   ไม่มาเขียนกระทู้ครับ ตอนนี้ไข่อุงมีเฟสบุคแล้วนะ   ถ้ามีการเรียกร้องมาก ๆ จนไข่อุงสงสาร ก็จะโพสลิงค์ให้เพื่อน ๆ ดู แก้ไขเมื่อ 01 เม.ย. 55 01:53:25 จากคุณ : ไข่อุง เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 55 01:30:41

ความคิดเห็นที่ 3 ผมขอพูดชัดๆเน้นๆและเป็นความจริงเลยนะครับ คนที่เชื่่ออะไรโดยไม่ได้ติดตามหลักการของเหตุผลบนพื้นฐานของความเป็นจริงแล้ว คนๆนั้นคือ คนโง่ ย้ำว่าโง่จริงๆ เพราะคิดไม่เป็น คิดอะไรไม่ออก  มันก็เลยเชื่อ ถ้าคิดเป็นแล้วก็คงไม่เชื่ออะไรแบบดื้อๆแบบนี้ ลองสังเกตดูดีๆครับ คนที่เป็นคนเชื่ออะไรแบบนี้เรื่องใดเรื่องหนึ่งแล้ว เขาจะเชื่อในเหตุผลวิบัติหรือไม่มีเหตุผลแบบนี้ในเรื่องอื่นๆด้วย สรุปตามที่ จขกท บอก ได้ความว่า คนไทยส่วนใหญ่(ไมได้ดังหมด) เป็นคนโง่ แรงไปขออภัย แก้ไขเมื่อ 01 เม.ย. 55 01:53:56 จากคุณ : promlikit เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 55 01:50:53

ความคิดเห็นที่ 4 มีเรื่อง คนอื่นเล่าให้ฟังว่า คนทำแท้ง ไปเดินตลาด แม่ค้าถาม  "อ้าววันนี้ ไม่เอา ลูก ขี่คอมาด้วย  หรา?"  วันก่อน มัดจุก  ทาปากแดง น่ารักเชียว   เขาว่าเด็กจะนั่ง ขี่คออยู่ ....บรึ๋ยยย จากคุณ : Advil เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 55 01:59:57

ความคิดเห็นที่ 5 #4  คำร่ำคำลือแบบนี้ไง  คือ สื่อหลักของคนไทย     ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ คนไทยฟังหูซ้ายทะลุหูขวา อย่างไอ้เรื่องคลื่นน้ำไง   มีการอธิบายเป็นเรื่องเป็นราว  แต่ตอนนี้คนไทยก็ลืมแล้ว  ไปเชื่อพญานาคตามเดิม จากคุณ : ไข่อุง เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 55 02:05:37

ความคิดเห็นที่ 6 ก็ไข่อุงเชื่ออยู่แล้วว่ามันไม่มีนี่ ก็ต้องตีความทุกอย่างไปทางที่เชื่อ จากคุณ : imanust_261204 เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 55 02:21:43

ความคิดเห็นที่ 7 เด็กในครรภ์ ไปทาปาก มัดจุกตอนไหน จากคุณ : keshi เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 55 03:01:02

ความคิดเห็นที่ 8 ทำแท้งแล้ววิญญาณเด็กเดินตาม ผมนึกถึงชุดการ์ตูนไข่กวน ของนักเขียนเรื่องชินจังนะ จากคุณ : T7Promoter เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 55 05:55:40

ความคิดเห็นที่ 9 เพราะแบบนี้ไงครับ ประเทศเราจึงไม่ไปถึงไหน 50 ปีที่แล้วเป็นประเทศกำลังพัฒนา มาจนถึงวันนี้เราก็ยังเป็นประเทศกำลังพัฒนา เพราะว่าเราถูกปลูกฝังให้เชื่อในสิ่ง ที่พิสูจนืไม่ได้ เพื่อนบ้านเราอย่างจีนกำลังจะไปเหยีบดวงจันทร์ แต่เรายังมานั่ง ไหว้ตุ๊กแกตะกวด กันอยู่เลย เจริญล่ะ จากคุณ : King Kalle เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 55 08:42:24

ความคิดเห็นที่ 10 ไข่อุงก็ไม่ขอตัดสินว่า  ทำแท้งดีไม่ดี ไม่ใช่หน้าที่ของไข่อุง   ไข่อุงไม่แคร์ว่าจะมีคนทำแท้งหรือไม่มีคนทำแท้ง  ไข่อุงเหนื่อยล้ากับชีวิตของไข่อุงเกินกว่าจะไปสนใจปัญหาชีวิตของคนอื่น >>>>>>>>> นั่งอ่านมาถึงท่อนนี้ ผมให้คะแนนไข่อุงทันที แต่เรื่องทำแท้ง เราชอบคุยกันด้านเดียว .. อ้างศิลธรรม จริยะธรรม ฯลฯ บลาๆ ได้แต่พูดกันไปตามเรื่อง เท่าที่สังเกต คนชอบตามแห่ แต่ไม่ค่อยมีคนคิดอะไรด้วยตัวเอง เขาชี้นำอะไร ถึงได้เป็นอย่างนี้ นี่แหละ ไทยแท้ อิอิ   การทำแท้ง มันต้องมองให้หมดทั้ง 3 ช่อง 1) อดีต ความเป็นมาอย่างไร ถึงปล่อยให้ป่อง อยู่ดีๆ คนไม่ใช่ปลากัดนี่ครับ.... ดังนั้น แก้ไขซิครับ 2) ปัจจุบัน มากุมขมับ จะทำแท้งดีไหม ?   3) อนาคต ถ้าข้อ 2 ไปหลวมตัวซ้ำ2 เชื่อคนง่าย ไม่ทำแท้ง เด็กเกิดมา มีปัญญาเลี้ยงหรือ ถ้าไม่มีปัญญาเลี้ยงให้เด็กดี ปัญหาสังคมมันยาว นานชั่วชีวิตเด็กคนหนึ่งเชียวนะ ปัจจุบันที่ผมเห็น พูดกันบลาๆ ได้แต่พูดเอาดีเข้าตัว อ้างศิลธรรม ศาสนา แต่ไอ้คนพูด ไม่เคยพูดถึงปัญหาข้อ 3 ว่าจะวางแนว แก้ไขกันอย่างไร จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 55 09:29:33

ความคิดเห็นที่ 11 ถ้าจะไม่ทำแท้ง แม่อายุมากก็ไม่ต้องตรวจโครโมโซมลูกจากน้ำคร่ำ เพราะวัตถุประสงค์คือเพื่อทำแท้งเท่านั้น จากคุณ : RX-93 เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 55 09:34:38

ความคิดเห็นที่ 12 ตอบ คห#7 เข้ามา confirm เรื่องเด็กขี่คอ ครับผม , ส่วนเวลา นี่ ไม่  ทราบแน่นอนครับผม , แต่คาดว่า จะเริ่มตอน ประมาณ หลังเที่ยงคืน เมื่อคืน จนถึงเที่ยง  คืนนี้ ครับผม . ... คริ ... คริ จากคุณ : Advil เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 55 09:48:33

ความคิดเห็นที่ 13 คนพูดก็ได้แต่พูดไป  สมัยนี้ ผู้หญิงดี ๆ รักนวลสงวนตัว  ไม่มีคนชื่นชม     ผู้หญิงปล่อยตัวตั้งแต่วัยรุ่น  กลับมีคำอธิบาย "โอ๊ย สมัยนี้ใคร ๆ ก็เป็นแบบนี้ทั้งนั้น" พอท้องไม่มีพ่อ "ทำยังไงก็ได้  แต่ขอร้อง  อย่าเอาเด็กออกเลย"   ถ้าไอ้คนพูด  ช่วยจ่ายค่าเลี้ยงดูให้  จะไม่ว่าเลย...... "ทำยังไงก็ได้  แต่ขอร้อง  อย่าเอาเด็กออกเลย"    ผมว่าสมัยนี้เป็นประโบยคกลวง ๆ เหมือนคำพูดที่ได้ยินได้ฟังซ้ำ  จนซึมซับกลายเป็นความคิดของตัวเอง ****************** ****************** จริง ๆ แล้ว  เมื่อ 6-7 ปีก่อน  ก็มีการถกเถียงในเชิงวิชาการ  และเป็นเรื่องที่ชาวบ้านทั่ว ๆ ไป จะคุยกันได้ตามปกติ คือ  ประเด็น "ควรให้มีการทำแท้งถูกกฏหมายดีมั้ย"  ก็พอจะคิดกันได้  ยกถึงข้อดีข้อเสีย  ถกเหตุผลกัน แต่สมัยนี้  ประเด็นนี้ ถูกเชื่อมโยงกับมิติทางจิตวิญญาณมากกว่า  มิติที่เป็นรูปธรรม เช่น เรื่องสังคม  เรื่องเศรษฐกิจ ใครเปิดประเด็น  น่าจะให้ทำแท้งเสรี  คำแรกที่คิดคือ  "ไอ้คนบาปหนา ใจยักษ์มาร"  มากกว่า ที่จะคิดไปถึงเรื่องสังคม และเศรษฐกิจ ไข่อุงลองนั่งนึก ๆ ดูว่า   ได้ยินการสัมนา หรือ การยื่น  นำเสนอมติเรื่อง  "ควรให้มีการทำแท้งโดยถูกกฏหมาย"  ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ ไข่อุงนึกไม่ออกเสียแล้ว   แค่พอจำได้ว่า  สมัยก่อน  ก็มีคนพูดกันเรื่อย ๆ ************** ************** เรืองการต่อต้านการทำแท้งนั้น  ในสมัยก่อน  ฝ่ายที่ต่อต้าน  จะยกเรื่องศีลธรรม  วิทยาศาสตร์   สังคมมาแย้ง เช่น  ทางศีลธรรม การทำแท้งคือการฆ่าคน   ทางวิทยาศาสตร์คือ  ถึงเด็กในท้องจะยังมีร่างกายไม่สมบูรณ์แต่ก็เจ็บปวดและดิ้นรนเหมือนคนที่โตแล้ว ทางสังคมคือ   ถ้าผู้หญิงทำแท้งได้ง่าย ๆ  ผู้หญิงอาจจะสำส่อนปล่อยตัวกันมากขึ้น แต่พอมีนักสแกนกรรม   เรื่องทำแท้งถูกยกขึ้นเป็นมิติทางจิตวิญญาณ  ไปไกลกว่าเรื่อง จริธรรม  ศีลธรรม   สังคมไปแล้ว   การทำแท้งกลายเป็นเรื่องภูติ  ผี วิญญาณ  เจ้ากรรมนายเวร แม้แต่ในโลกของฝ่ายที่ต่อต้านการทำแท้ง   ฝ่ายต่อต้านการทำแท้ง  ยกเอาเรื่อง  ศีลธรรม และสังคม  มาแย้งก็ผ่านไปราว ๆ  2 - 3 ปีแล้ว    ในระยะหลัง  ฝ่ายที่แย้ง  จะยกเรื่อง  บาป  และวิญญาณ ทั้งสิ้น จากคุณ : ไข่อุง เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 55 09:52:24

ความคิดเห็นที่ 14 เรื่องความเชื่อ มันก็มีทั้งไทยและเทศละครับผมว่า แต่จะงมงายกันขนาดไหนก็แล้วแต่ บางความเชื่อหลายคนก็รู้ว่า พิสูจน์ ยาก แต่เชื่อแล้วก็ส่งผลดี เช่น เมื่อก่อนบอกว่า ในป่า มีผีป่า น่ากลัวไม่โค่นป่า ในผืนดินมีแม่ธรณี ปลูกข้าวกินข้าว ต้องไหว้แม่โพสก และต้องไม่กินทิ้งขว้างเดี๋ยวแม่โพสก จะโกรธ เพราะท่านมี ฤทธิ์ มาก การทำแท้งดี หรือไม่ดี ก็แล้วแต่บุคคลเป็นหลักมากว่า แต่ถ้าสรุปว่าดีกันไปเลย ทางผู้ปกครองบ้านเมืองก็กลัวเยาวชน มั่วสุมกัน พอพลาดพลั้งก็ทำแท้งกันได้อย่างเสรี ถ้าไม่ห้ามปรามบ้าง ก็เลยเถิด เจ้าสาวเราอาจทำแท้งมาแล้วหลายครั้งกว่าจะลงตัว มีอะไรกับหัวหน้างานเพื่อตำแหน่งก็ค่อยให้แฟน พาไปทำแท้งเสียก็ได้มั้ง ถ้าบอกว่าไม่ดี เวลาคู่สามี ภรรยาแต่งงานกันแล้วมีครรถ์ แต่รู้ว่าลูกไม่สมบูลย์ ออกมาลุกก็ใช้ชีวิตลำบาก พ่อแม่เองก็เลี้ยงลูกลำบาก ก็อยากทำแท้งตัดปัญหาเสียแต่ต้นลม ก็ดีไปอย่าง โดนข่มขืนจนท้องจนใส้ ไม่อยากเลี้ยงลูกใครก็ไม่รู้ ที่ฝากมาในท้องอย่างไม่รับผิดชอบ ก็อยากทำแท้งเสีย ไม่อยากได้ลูกของคนที่ย่ำยีไว้ดูต่างหน้า ก็เป็นเหตุผลที่ดี ส่วนตัวเขาเช่นกัน แต่ทำแล้ววิญญาณ เด็กจะเดินตามหลังหรือไม่ ไว้ค่อยดูในตลาด อย่างบางความเห็นว่าไว้ข้างบนละกันครับ แก้ไขเมื่อ 01 เม.ย. 55 09:55:54 จากคุณ : รักน้องนก เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 55 09:54:45

ความคิดเห็นที่ 15 มนุษย์โดยพื้นฐานผมว่าชั่วนะครับ เวลาทำอะไรก็ทำเพื่อตัวเองอยู่แล้ว สำหรับสิ่งที่สอนให้เป็นคนดีได้ มีอยู่สองอย่าง 1. สอนให้รู้จักผิดชอบชั่วดี สิ่งใดควรทำ สิ่งใดไม่ควรทำ 2. สอนให้เชื่อเรื่องบาปบุญคุณโทษ เวลาจะทำสิ่งใดที่ไม่ดี จะได้รู้สึกเกรงกลัวต่อบาป แล้วไม่ทำสิ่งไม่ดีนั้นๆ วิธีแรก เป็นวิธีที่ใช้หลักเหตุและผลเข้ามาในการอธิบาย เพื่อให้เข้าใจและรู้ว่าสิ่งใดควรทำ หรือไม่ควรทำ วิธีนี้จะต้องมีสภาพแวดล้อมและสังคมส่งเสริมด้วย เพื่อให้เข้ากับหลักเหตุและผล และสิ่งที่ทำให้การสอนด้วยวิธีนี้ไม่ค่อยได้รับความนิยมเชื่อถือเพราะว่า 'คนที่ทำสิ่งดี ใช่ว่าจะได้รับสิ่งดีเสมอไป' เมื่อไม่เห็นผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม คนจึงไม่รู้สึกว่าการปฏิบัติตามหลักเหตุและผลเป็นสิ่งที่ดี ส่วนวิธีที่สอง ผมมองว่าเป็นวิธีที่ฉาบฉวยและได้ผลเร็ว จึงมีหลายคนนำมาใช้สอนและเผยแพร่ โดยพื้นฐานของคนสนใจตัวเองก่อนเป็นอันดับแรกอยู่แล้ว เมื่อนำหลักการสอนที่มีการเชื่อมโยงไปถึงตัวเอง เช่น 'นรก-สวรรค์' จะทำให้เกิดเป็นรูปธรรมและเกรงกลัวต่อสิ่งที่เรียกว่า 'บาป' คนที่ถูกสอนด้วยวิธีที่สองจะสนใจแค่ว่า สิ่งไหนที่ทำให้ตัวเองไม่ต้องเป็นบาป ไม่ได้เข้าใจถึงหลักความเป็นจริง จึงชอบมีคำถามประมาณว่า "ถ้าเรากินสัตว์ แต่เราไม่ได้เป็นคนฆ่าจะบาปมั้ย?" "แล้วตบยุงบาปรึเปล่า? เราไม่ได้มีเจตนานะ เราแค่ปกป้องตัวเอง" ทั้งๆที่ตามความเป็นจริง แค่เข้าใจหลักธรรมชาติที่ว่า 'ผู้อ่อนแอกว่าย่อมตกเป็นเหยื่อของผู้ที่แข็งแกร่งกว่า' ก็เพียงพอที่จะอธิบายเรื่องพวกนี้ได้แล้ว ผมเคยคิดไปไกลกว่านี้ว่า ถ้าวันนึงมีคนนำหลักพวกนี้มาเป็นเครื่องมือในการทำประโยชน์ด้านอื่นๆ แทนที่จะสนใจแค่เรื่องที่'ทำให้คนไม่กล้าทำเรื่องไม่ดี' วันนั้นจะเกิดหลายสิ่งหลายอย่างครับ เพราะคนจะสนใจแค่ว่า 'สิ่งนั้นทำให้ฉันไม่บาป ฉันต้องทำมันให้ได้' สำหรับตัวอย่างที่มีการนำหลักพวกนี้มาเป็นเครื่องมือมีอยู่มากมายในสังคม คงไม่ต้องพูดถึงมาก แก้ไขเมื่อ 01 เม.ย. 55 10:20:17 จากคุณ : นิว ชะลาล่า เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 55 10:19:57

ความคิดเห็นที่ 16 เป็นข้อเท็จของพวกหมอดูหลอกแดก ถ้ามันทักเราแบบนั้นก็ด่ามันกลับเลย วันก่อนไปแวะทานข้าวในห้างสีเขียว ที่หน้าศูนย์อาหารมีพวกดูลายมือฟรี เที่ยวไล่ต้อนลูกค้าชักชวนดูลายมือฟรี ผมดูๆแล้วมันทุเรศมาก สังคมทุนนิยมมุ่งความร่ำรวยหลอกล่อกันเข้าไป จากคุณ : rdo เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 55 10:45:37

ความคิดเห็นที่ 17 #15 ผมคิดว่ามนุษย์ทุกคนอยากเป็นคนดี อยากให้คนอื่นๆรัก เพียงแต่ทำชั่วมันทำง่ายกว่า เพียงแต่ทำชั่วแล้วไม่มีใครรู้ ก็ไม่มีใครเกลียด จากคุณ : annalog เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 55 11:38:45

ความคิดเห็นที่ 18 ผมเคยเป็นเหมือ หลายๆ ท่านที่บอกว่า ถ้าปล่อยเด็กที่พ่อแม่ไม่พร้อมให้เกิดมาดูโลกจะเป็นภาระสังคม การให้การศึกษาไม่เพียงพอ ทำให้โตมาเป็นคนไม่มีคุณภาพ เวลาผ่านไป ความคิดผมก็เปลี่ยนว่า ทำไมไม่ให้โอกาสเด็กคนนั้นได้เกิดมา ทำไมไม่ให้โอกาส เด็กคนนั้นได้ เลือกดำเนินชีวิตตัวเอง สุดท้าย ทุกคนที่ได้เกิดมามีกรรมเป็นของตน  อยู่แล้ว ควรล่ะที่จะสร้างกรรมใหม่เพิ่ม จากคุณ : kie001 (kook_ng) เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 55 13:02:51

ความคิดเห็นที่ 19 แก้ไขนิดนึงครับ ควร ละพฤติกรรมที่จะสร้าง กรรมชั่วเพิ่มครับ จากคุณ : kie001 (kook_ng) เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 55 13:03:55

ความคิดเห็นที่ 20 .. จากคุณ : Elliptic เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 55 18:45:28

ความคิดเห็นที่ 21 เราไม่เคยท้อง ไม่เคยทำแท้ง (ไม่ท้องแล้วจะเคยทำแท้งได้ยังไง จริงไหม?) แต่ก็ยังไม่วายโดนทักว่าไปทำแท้งแล้วมีวิญญาณเด็กคอยตาม สรุปว่าพวกคนทักเนี่ยมั่วทั้งนั้น !!! จากคุณ : Living Extreme เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 55 21:12:13

ความคิดเห็นที่ 22 คิดว่า ทำแท้งก็คือทำแท้ง ไม่มีอะไรมาเดินตาม ถ้ามีก็เห็น จากคุณ : หนุ่ม (Noum NaMon) เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 55 21:13:01

ความคิดเห็นที่ 23 ผมว่า คนที่จะทำอาชีพหมอดูได้ ต้องหน้าด้านมากๆ ถึงมากที่สุด จากคุณ : RouteRaideR เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 55 22:13:05

ความคิดเห็นที่ 24 ผมว่าถ้าเด็กผิดปกติทำแท้งไปตั้งแต่ยังไม่ค่อยรู้เรื่องอาจดีกว่าโตมาทรมานนะ (ค.ห.20น่ากลัวมาก) จากคุณ : transcendence เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 55 23:01:04 A:101.51.131.93 X: TicketID:353167

ความคิดเห็นที่ 25 เพื่อนผมทำแท้ง ลูกมาหาทุกวันพระเลยล่ะครับ กลางคืนบางวันก็มีเด็กมานอนด้วยประจำ ไม่เคยเจออย่าคิดว่าไม่มีนะครับ จากคุณ : kk (Magic Jewel) เขียนเมื่อ : 1 เม.ย. 55 23:23:43

ความคิดเห็นที่ 26 #25  อย่าไปเชื่อเพื่อนคุณครับ  ไม่ว่าเพื่อนคุณจะพบจริงหรือไม่พบจริง  แต่ในเมื่อคุณพิสูจน์ไม่ได้  ก็ถือว่าเพื่อนคุณเพ้อไว้ก่อน สมัยไข่อุงเช่าหอกะเพื่อน ไข่อุงก็เห็นผู้หญิงเดินตามเพื่อนไข่อุงเข้ามาในห้องคับ  หันไปอีกที  หายไปแล้ว    เรื่องผีนี่ไข่อุงเชื่อ   แต่ไข่อุงไม่เชื่อว่าทำแท้งแล้วจะมีอะไรตาม ผีเป็นอะไรที่มาแว๊บ ๆ แล้วก็ไปครับ  ไม่ต้องกลัวหรอก   ไข่อุงเจอผีจะ ๆ มา 2 ครั้งแล้ว   ผีจริง ๆ ไม่มีไรน่ากัวหรอก จิง ๆ จากคุณ : ไข่อุง เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 55 00:19:07

ความคิดเห็นที่ 27 เพื่อนเราดูหมอดู หมอดูบอกว่า เคยเกี่ยวกับการทำแท้งป่าว เคยให้เงินเพื่อนทำป่าว เพื่อนเราก็ว่าไม่หนิไม่เคย ป้าหมอก็แถว่า เทอต้องเคยแต่เทอไม่รู้ตัวเทอบาปแล้วนะ ส่วนเรื่องเด็กเดินตาม กับชีวิตไม่เจริญ เราไม่รู้อะ เพื่อนเล่าว่า ก็เพื่อนของเค้าอีกทีเคยไปทำแท้ง เพราะแฟนให้เอาออก แต่ตอนนี้เราก็เห็นเค้าหน้าที่การงานโอเคอะ ถือว่าดีทีเดียว คิดว่า น่าจะเป็นค่านิยมมากกว่า ที่ไม่อยากให้คนไทยทำแท้ง ส่วนเรื่องวิญญานเด็ก อันนี้ไม่รู้เพราะไม่เคยเจอ แต่สองคนนั้นก็ไม่เจอไร อาจจะมีหรือไม่มีก็ได้  มั้ง จากคุณ : tobe_angel เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 55 00:43:23

ความคิดเห็นที่ 28 -อันนี้ไม่ค่อยเกี่ยวกับกระทู้โดยตรง แต่สงสัยว่า ผีก็คือวิญญาณของคนที่ตายไปแล้ว แล้วทำไมตอนที่ยังไม่ตายถึงไม่มีฤทธิ์เดชอะไรเลยเป็นแค่คนธรรมดา ลอยไม่ได้ หายตัวไม่ได้ แต่พอตายไปแล้วทำได้สารพัดเหนือธรรมชาติ ความสงสัยอันนี้อันนี้เกิดจากการดูหนังและคำบอกเล่าที่ได้รับรู้ปลูกฝังกันมาตั้งแต่วันเด็ก ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน -ทำไมมีแต่ผีคน พวกหมุ หมา กา ไก่ ไม่มีวิญญาณบ้างหรือไงกัน ไม่ค่อยจะได้รับรู้เกี่ยวกับเรื่องของผีสัตว์เลย จากคุณ : Roasting chicken เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 55 15:31:05

ความคิดเห็นที่ 29 คห.4 ฟังดูก็รู้ว่าไม่สมเหตุสมผล เพราะ ต่อให้มีวิญญาณขี่คอจริง แต่ตัวแม่ไม่ได้ทำท่าประคองไว้ ใครๆเห็นก็ต้องดูว่าผิดสังเหตุ(นึกภาพดู) ไม่ใช่เล่นกายกรรม ฉนั้นเค้าต้องทักแต่แรกไปแล้วเพราะกลัวเด็กตก ไร้สาระมาก จากคุณ : risingforce เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 55 02:29:54 A:58.9.39.172 X: TicketID:316963

ความคิดเห็นที่ 30 สิ่งที่ไม่เห็นไม่ใช่ว่าจะไม่มี แต่สังคมไทยนับถือพระพุทธศาสนาก็ใช้หลักเหตุผล ถ้ามั่นใจว่าไม่เคยทำกรรมอะไรไว้ก็ไม่ต้องกังวล จากคุณ : brightheart เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 55 15:02:31

ความคิดเห็นที่ 31 ***ถ้าซัก 5000 ปีก่อน คนคงจะไม่เชื่อเลยว่าสมการของไอน์สไตน์ที่เปลี่ยนมวลเป็นพลังงานจะมีได้จริง ค้านหัวชนฝาสุดๆ....   ***แต่ความจริงนั้นก็ยังคงมีอยู่ตามธรรมชาติอยู่ดี ไม่แคร์ว่าจะเชื่อหรือไม่เชื่อ...   ***บางทีอีก 5000 ปีต่อไปสิ่งที่เราค้านสุดๆจากสิ่งแวดล้อมที่เราเรียนรู้ในปัจจุบันอาจมีจริงหรืออาจมีมาตั้งนานอยู่ก่อนแล้วก็ได้แต่เรายังไม่ค้นพบเองเพราะเครื่องมือที่จะพิสูจน์ไปค้นพบยังไม่ดีพอ!! จากคุณ : sukhumvit93 เขียนเมื่อ : 4 เม.ย. 55 11:20:11

ความคิดเห็นที่ 32 ถ้าคิดว่ามนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตเหมือนๆกับสัตว์ ถ้ารู้ว่าเกิดมาจะมีสิ่งผิดปกติหรือมีองคประกอบที่ทำให้ไม่สารถมีชีวิตได้ ก็น่าจะให้ไปอย่างสงบ มากกว่า แต่มันติดที่มนุษย์มี"สิทธิในการมีชีวิตอยู่"มากกว่าสัตว์ ครับ นั้นคือ คนที่เป็นสัตวแพทย์สามารถPut to sleep เพื่อลดความทรมานของสัตว์ได้ ซึ่งต่างจากแพทย์ที่ผิดจรรยาบรรณ ครับ จากคุณ : Mr.Phenomenon. เขียนเมื่อ : 4 เม.ย. 55 13:34:21