ความคิดเห็นที่ 1 เส้นทางพัฒนาคู่ขนานนี้เริ่มก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างในช่วงปลายปี 2010 โดยสองเหตุการณ์สำคัญ เหตุการณ์แรก กองทัพอากาศแห่งกองทัพปลดแอกประชาชนจีน (PLAAF) ได้สาธิตศักยภาพด้านเทคโนโลยีล้ำสมัยให้ต่างชาติประจักษ์เป็นครั้งแรกในระหว่างการร่วมซ้อมรบที่คาซัคสถาน ครั้งนั้นจีนแสดงการปฏิบัติการทางอากาศร่วมกันของเครื่องบินทิ้งระเบิดแบบ ฮง-6 (H-6) ซึ่งพัฒนาโดยบริษัทซีอาน แอร์คราฟต์ โค. (ซีเฟย) กับเครื่องบินขับไล่เอนกประสงค์รุ่น เจียน-10 (J-10) ของบริษัทเฉิงตู แอร์คราฟต์ คอร์ปอเรชัน (CAC / เฉิงเฟย) รวมถึงเครื่องบินควบคุมและแจ้งเตือนภัยทางอากาศ (AWAC) รุ่น คงจิ่ง-2000 (KJ-2000) และเครื่องบินเติมน้ำมันกลางอากาศรุ่น H-6U ภาพ: เครื่องบินขับไล่เอนกประสงค์รุ่น J-10A และ J-10S (แบบสองที่นั่ง) ปัจจุบันจีนมี J-10 รุ่นต่างๆอยู่ทั้งหมด 200 ลำ (ข้อมูลจนถึงกุมภาพันธ์ ปี 2012 : วิกิพีเดีย) จากคุณ : unicorn-k เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 07:53:07

ความคิดเห็นที่ 2 ส่วนเหตุการณ์ที่สองเกิดขึ้นในอีก 4 เดือนให้หลัง เมื่อจีนเปิดตัวเครื่องต้นแบบ (โปรโตไทป์) ของเครื่องบินขับไล่ยุค 5 ซึ่งมีสมรรถนะสามารถหลบหลีกการตรวจจับของเรดาร์ได้ (สเตลธ์) เครื่องต้นแบบลำดังกล่าวรู้จักกันในชื่อโครงการ “เจียน-20” (J-20) โดยถูกนำออกบินทดสอบอย่างเป็นทางการครั้งแรกในต้นปี 2011 ที่ผ่านมา ภาพ: เครื่องต้นแบบของ “เจียน-20” (J-20) เครื่องบินขับไล่ยุค 5 ของจีน ขณะบินทดสอบเหนือน่านฟ้านครเฉิงตู มณฑลเสฉวน ทั้งนี้ในรอบหนึ่งปีที่ผ่านมา J-20 ขึ้นบินทดสอบแบบชนิดถี่ยิบทะลุ 100 เที่ยวแล้ว มากกว่าเครื่องต้นแบบของซุคฮอย T-50 PAK FA เครื่องบินรบยุค 5 ของรัสเซีย ในช่วงเวลาเดียวกันเสียอีก จากคุณ : unicorn-k เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 07:53:38

ความคิดเห็นที่ 3 ความทะเยอทะยานในการพัฒนาความทันสมัยของกองทัพอากาศ พึ่งพาอาศัยโปรแกรมเทคโนโลยีด้านอวกาศอันครอบคลุมซึ่งเริ่มวางรากฐานตั้งแต่ในช่วงต้นทศวรรษที่ 1990 หลักการความจำเป็นแรกเริ่มชี้นำโดยยุทธศาสตร์ “การปฏิเสธเข้าถึงพื้นที่หวงห้าม” ในช่วงปลายทศวรรษ 1990 และมุ่งโฟกัสไปที่ประเด็นพิพาทกับไต้หวัน  ตามติดมาด้วยยุทธศาสตร์ “ภารกิจแห่งประวัติศาสตร์ใหม่” ของกองทัพนาวีมังกรหลังปี 2005 ซึ่งต้องการสร้างแสนยานุภาพเพื่อทวงความเป็นมหาอำนาจทางทะเลกลับคืน ยุทธศาสตร์ดังกล่าวกำลังผลักดันให้กองทัพปลดแอกฯ หรือ “เจี่ยฟ่างจวิน” แผ่อิทธิพลครอบงำพื้นที่ห่างไกล ตลอดจนสร้างยุทโธปกรณ์ที่จะเพิ่มศักยภาพในการสู้รบนอกประเทศ เพื่อเร่งพัฒนายุทโธปกรณ์ใหม่ๆ กองทัพพีแอลเอได้สนับสนุนให้เกิดการแข่งขันในภาคส่วนของอุตสาหกรรมผลิตอาวุธป้องกันประเทศนับตั้งแต่ที่มีการปฏิรูประบบพลาธิการทางทหาร (logistics) ขนานใหญ่ในปี 1998 รัฐบาลเพิ่มงบประมาณรายจ่ายอุดหนุนมากขึ้น โดยเฉพาะรายจ่ายก้อนมหึมาในโครงการพัฒนาและผลิตเครื่องบินรบ, อากาศยานไร้นักบินบังคับ, อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และระบบอาวุธต่างๆ จากคุณ : unicorn-k เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 07:54:33

ความคิดเห็นที่ 4 เฉิงตู แอร์คราฟต์ คอร์ปอเรชัน (CAC / เฉิงเฟย) และเสิ่นหยาง แอร์คราฟต์ อินดัสตรี (SAI / เสิ่นเฟย) สองอุตสาหกรรมผู้ผลิตเครื่องบินขับไล่รายใหญ่สุดของจีน ต่างก็รับผิดชอบโปรแกรมพัฒนาเครื่องบินขับไล่แบบสเตลธ์และแบบปกติ ก่อนหน้านี้จีนได้จัดซื้อเครื่องบินขับไล่ขนาดใหญ่แบบสองเครื่องยนต์ ได้แก่ รุ่น Su-27SK/UBK และ Su-30MKK/MK2 จากซุคฮอย ยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตเครื่องบินรบสัญชาติรัสเซียรวม 176 ลำ นอกจากนี้จีนยังได้จับมือกับแดนหมีขาวในการผลิต J-11 ซึ่งเป็น Su-27 เวอร์ชั่นจีนที่ผลิตภายใต้สิทธิบัตรของรัสเซียอีกรวมกว่า 100 ลำ ในปี 2008 เสิ่นเฟยเริ่มส่งมอบเครื่องบินขับไล่รุ่น J-11B ให้แก่กองทัพ ซึ่งเป็นรุ่นที่จีนพัฒนาต่อยอดมาจากรุ่น J-11/Su-27 แต่ใช้เครื่องยนต์ เรดาร์ และอาวุธที่พัฒนาขึ้นเอง อย่างไรก็ตาม รัสเซียอ้างว่าจีนได้ละเมิดสิทธิบัตรและลอกเลียนเทคโนโลยีจากรุ่น Su-30 โดยปัจจุบันจีนมี J-11B และ J-11BS ซึ่งเป็นรุ่นที่มีสองที่นั่ง อยู่ในกองทัพรวมกว่า 120 ลำแล้ว และคาดหมายกันด้วยว่า พวกมันจะถูกอัพเกรดด้วยเครื่องยนต์และระบบเรดาร์แบบ AESA ซึ่งทรงประสิทธิภาพมากกว่า ภาพ: ฝูงบิน J-11 ของกองทัพอากาศจีน (PLAAF) ปัจจุบันจีนมี J-11, J-11B และ J-11BS อยู่ในประจำการทั้งสิ้น 140 ลำ และได้สั่งซื้อเพิ่มอีก 70 ลำ (ข้อมูลจนถึงกุมภาพันธ์ ปี 2012 : วิกิพีเดีย) จากคุณ : unicorn-k เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 07:55:22

ความคิดเห็นที่ 5 นอกจากนี้ J-11B รุ่นที่จะถูกพัฒนาต่อไปเป็นอากาศยานโจมตีเฉพาะทางในชื่อรุ่น “เจียน-16” (J-16) ก็จัดอยู่ในกลุ่มที่จะถูกอัพเกรดเทคโนโลยีเหล่านี้ด้วยเช่นกัน และถึงแม้บริษัท SAI จะสูญเสียโครงการผลิตเครื่องบินขับไล่สเตลธ์ขนาดใหญ่สำหรับภารกิจครองอากาศให้แก่บริษัทคู่แข่งอย่าง CAC ทว่า ก็มีข่าวลือแพร่สะพัดว่า SAI เอง ก็กำลังซุ่มพัฒนาโครงการเครื่องบินรบสเตลธ์ขนาดกลางแทนภายใต้ชื่อโครงการ “F-60” (บางแหล่งข่าวระบุว่าชื่อ J-21 / ผู้แปล) ภาพ: โมเดลซึ่งถูกระบุว่าคือโครงการผลิตเครื่องบินขับไล่สเตลธ์ขนาดกลาง “F-60” หรือ J-21 ของค่ายเสิ่นหยาง แอร์คราฟต์ อินดัสตรี (เสิ่นเฟย) จากคุณ : unicorn-k เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 07:55:53

ความคิดเห็นที่ 6 ส่วนเครื่องบินขับไล่กึ่งโจมตีรุ่น เจียน-15 (J-15) ของเสิ่นเฟย ซึ่งมีหน้าตาละม้ายคล้ายกับซุคฮอย Su-33 ของรัสเซีย ก็กำลังจะดำรงบทบาทเป็นผู้นำแห่งกองกำลังอากาศนาวียุคใหม่ของกองทัพเรือจีน (PLAN) โดย J-15 นี้กำลังอยู่ในระหว่างทดสอบ “ระบบการเทคออฟระยะสั้นแต่ขณะลงใช้อุปกรณ์ช่วยฉุดรั้ง” หรือที่เรียกว่า ระบบ STOBAR ทั้งนี้ระบบดังกล่าวจะใช้กับ “วาร์ยัก” เรือบรรทุกเครื่องบินลำแรกของจีน ซึ่งเป็นเรือชั้นเดียวกับแอดมิรัล คูซเน็ตซอฟ ของรัสเซียและต่อขึ้นตั้งแต่สมัยสหภาพโซเวียต คาดหมายกันว่า J-15 จะเริ่มทดสอบบินขึ้นลงบนดาดฟ้าเรือบรรทุกเครื่องบินวาร์ยักภายในปีนี้ หลายฝ่ายยังจับตามองด้วยว่า เมื่อ J-15ได้รับการพัฒนาเต็มที่ อาจมีศักยภาพเทียบเท่า F/A-18E/F “ซูเปอร์ฮอร์เน็ต” แห่งค่ายโบอิ้งของสหรัฐฯเลยก็ว่าได้ นอกเหนือจาก J-15 แล้ว อากาศยานที่เตรียมจะเข้าประจำการบนวาร์ยัก ยังประกอบด้วยเฮลิคอปเตอร์รุ่น จื๋อ-8 (Z-8) ที่พัฒนาโดยฉางเหอของจีนเอง และคามอฟ Ka-32 กับเฮลิคอปเตอร์เตือนภัยทางอากาศ (AEW) รุ่น Ka-31 ที่ซื้อจากรัสเซีย ภาพ: เครื่องบินขับไล่กึ่งโจมตีรุ่น J-15 ขณะจอดบนเพดานเรือบรรทุกเครื่องบิน “วาร์ยัก” ของจีน จากคุณ : unicorn-k เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 07:56:27

ความคิดเห็นที่ 7 พญามังกรยังกำลังพัฒนาเครื่องบินเตือนภัยล่วงหน้าและต่อต้านเรือดำน้ำ (AEW/ASW) ซึ่งใช้เครื่องยนต์เทอร์โบพร็อป 4 เครื่องยนต์ คล้ายคลึงกับรุ่น E-2 “ฮอว์คอาย” ของสหรัฐฯ โดยที่มันอาจมีคุณสมบัติบินขึ้น-ลงแบบปกติ (conventional-takeoff-and-landing / CTOL) เพื่อปักหลักประจำการบนเรือบรรทุกเครื่องบินขับเคลื่อนด้วยพลังงานนิวเคลียร์ 2 ลำ ที่เตรียมจะต่อขึ้นหลังจากเสร็จโครงการต่อเรือบรรทุกเครื่องบินแบบที่ไม่ได้ขับเคลื่อนด้วยนิวเคลียร์ ไม่เพียงเท่านี้ในเดือนพฤศจิกายน ปี 2011 ได้ปรากฏภาพถ่ายเครื่องบินตรวจการณ์ต่อต้านเรือดำน้ำ (ASW) รุ่น อวิ้นซู-8 (Y-8) ของซีเฟยในมณฑลส่านซี ซึ่งเครื่องบินรุ่นนี้จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถให้แก่กองทัพเรือมังกรในการทำสงครามต่อต้านเรือดำน้ำและภารกิจลาดตระเวนภาคพื้นสมุทร นับตั้งแต่ ปี 2003 เป็นต้นมา เครื่องบินขับไล่เอนกประสงค์แบบหนึ่งเครื่องยนต์และมีโครงสร้างปีกคานาร์ด รุ่น J-10A และแบบสองที่นั่ง รุ่น J-10S รวมกว่า 200 ลำ ถูกนำเข้ารับใช้ชาติในกองทัพจีน โดยปฏิบัติภารกิจต่างๆร่วมกับรุ่น J-11B ที่มีขนาดใหญ่กว่า แต่กระนั้นในเร็ววันนี้ สายการผลิตอาจสับเปลี่ยนไปสู่ไลน์ประกอบ J-10 รุ่นที่อัพเกรดทันสมัยขึ้นอย่าง J-10B ซึ่งจะติดตั้งระบบเรดาร์ AESA, ระบบค้นหาเป้าหมายด้วยอินฟราเรดและเซ็นเซอร์, การออกแบบที่ลดการสะท้อนของเรดาร์ (radar cross-section) ตลอดจนระบบทำสงครามอิเล็กทรอนิกที่ได้รับการปรับปรุงประสิทธิภาพดีขึ้น ทั้งนี้เครื่องต้นแบบของ J-10B ลำหนึ่งถูกนำขึ้นทดสอบบินด้วยเครื่องยนต์เทอร์โบแฟน รุ่น WS-10A ซึ่งพัฒนาขึ้นเองโดยเสิ่นหยาง ไลมิง แอโร-เอ็นจิน กรุ๊ป คอร์ป เครื่องต้นแบบดังกล่าวจะเป็นพื้นฐานสำหรับการผลิต FC-20 หรือ J-10 เวอร์ชั่นสำหรับส่งออกขายยังต่างประเทศ โดยคาดกันว่าลูกค้าต่างชาติรายแรกที่จะสั่งซื้อก็คือปากีสถาน พันธมิตรใกล้ชิดของปักกิ่งนั่นเอง ภาพ: เครื่องต้นแบบของ J-10B ซึ่งมีการอัพเกรดเทคโนโลยีให้ทันสมัยขึ้นและปรับเปลี่ยนรูปทรงบางส่วนจาก J-10A จีนมีแผนจะขายเครื่อง J-10B ให้แก่ต่างชาติด้วย จากคุณ : unicorn-k เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 07:57:11

ความคิดเห็นที่ 8 ก่อนหน้าพิธีสวนสนามเฉลิมฉลองครบรอบ 60 ปีแห่งการสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีนในเดือนตุลาคม ปี 2009 พลอากาศเอกนายหนึ่งของจีนออกมากล่าวว่า เครื่องบินขับไล่ยุค 5 ของพวกเขาจะสามารถพร้อมเข้าประจำการเต็มรูปแบบภายในช่วงระหว่างปี 2017 ถึง 2019 ถึงแม้ว่ารายงานข่าวในปลายปี 2010 ที่ระบุว่ากองทัพจีนให้ความสนใจสั่งซื้อเครื่องยนต์เทอร์โบแฟนรุ่น AL-41 จากรัสเซีย เพื่อนำไปใส่ในเครื่องบินรบของตนนั้น จะสามารถเป็นตัวเร่งให้จีนมีเครื่องบินรบล่องหนไว้ในครอบครองก่อนหน้าช่วงเวลาดังกล่าวก็ตามที นับตั้งแต่ที่ปรากฏโฉมครั้งแรกบนโลกอินเตอร์เน็ตในปลายปี 2010 เครื่องต้นแบบของ “เจียน-20” (J-20) เครื่องบินขับไล่ยุค 5 แบบสองเครื่องยนต์พร้อมปีกคานาร์ด ก็ถูกบันทึกภาพและวิดีโออย่างชนิดถี่ยิบในระหว่างที่มันถูกทดสอบระบบต่างๆที่นครเฉิงตู บ้านเกิดของมัน ผู้สันทัดกรณีวิเคราะห์ว่า J-20 อาจจะติดตั้งเครื่องยนต์เทอร์โบแฟนที่ผลิตขึ้นเอง น้ำหนัก 15 ตัน และมีระบบปรับทิศทางท่อไอพ่น (thrust-vectored) พร้อมกับติดตั้งระบบเรดาร์ AESA รวมถึงระบบเซ็นเซอร์เตือนภัยอินฟราเรด นอกจากนี้ยังคาดว่า J-20 อาจมีสมรรถนะในการบินเชิงยุทธวิธ๊โดยที่ไม่สูญเสียการควบคุมแม้หลังบินด้วยความเร็วต่ำสุด (extreme post-stall maneuvering) ภาพ: J-20 ขณะบินผาดแผลงในระหว่างบินทดสอบบนน่านฟ้านครเฉิงตู ทางภาคตะวันตกของจีน ทั้งนี้ J-20 ถูกมองว่าเป็นคู่ต่อกรของ F-22 “แร็ปเตอร์” ของสหรัฐฯ นักวิชาการด้านกลาโหมและผู้สันทัดกรณีหลายคนจากฟากฝั่งตะวันตกและเอเชียต่างวิเคราะห์รูปลักษณ์ภายนอกและสเปคของมัน พร้อมกับลงความเห็นว่า J-20 อาจมีสมรรถนะเหนือกว่าหรือเทียบเท่า ซุคฮอย T-50 PAK FA ของรัสเซียเลยทีเดียว จากคุณ : unicorn-k เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 07:57:50

ความคิดเห็นที่ 9 ปี 2005 เจ้าหน้าที่จีนผู้หนึ่งเปิดเผยว่า เฉิงเฟยอยู่ในระหว่างพิจารณาโปรแกรมพัฒนาเครื่องบินขับไล่ชั้นเดียวกับ F-35 “ไลท์นิง II” ของสหรัฐฯ แต่ไหนแต่ไรจีนแสดงความสนใจเครื่องบินรบที่มีคุณสมบัติขึ้นบินระยะสั้นและลงจอดทางดิ่ง (Short Take-off and Vertical Landing / STOVL) มาโดยตลอด และรายงานข่าวจากทั้งรัสเซียและจีนต่างก็พุ่งไปที่โปรแกรมพัฒนาอากาศยานบนพื้นฐานเทคโนโลยีจากยาคอฟเลฟ ยัค-141 เครื่องต้นแบบของเครื่องบิน STOVL ซึ่งทดสอบบินครั้งแรกในช่วงปลายทศวรรษ 1980 ความเป็นไปได้ที่จะพัฒนาเครื่องบินรบสเตลธ์ขนาดกลางจนสำเร็จภายในปี 2020 ทำให้จีนตั้งความหวังว่า ทศวรรษนี้อาจสามารถเสนอขายอาวุธส่งออกใหม่ๆได้เพิ่มมากขึ้น ขณะที่ความพยายามในการส่งออกเครื่องบินรบก่อนหน้านี้ถูกขับดันโดยโปรแกรม FC-1 “ธันเดอร์” หรือ JF-17 “เซียวหลง” (ในชื่อของจีน) ซึ่งเป็นโครงการร่วมกันพัฒนากับปากีสถาน และอิสลามาบัดเองก็มีแผนจะจัดซื้อมากถึง 300 ลำ แม้ว่ากองทัพอากาศมังกรจะยังไม่ได้สั่งซื้อมาประจำการในกองทัพของตนเลยก็ตาม กระนั้น ในเวลานี้จีนได้วางรากฐานสำหรับการขายเครื่องบินรบขนาดเล็กแบบ FC-1 หรือบางทีอาจรวมถึง J-10B และ J-11B เรียบร้อยแล้ว หลังจากจีนทำการตลาดเชิงรุกสำหรับเครื่องบินฝึกต้นทุนต่ำของตนอย่างรุ่น หงตู K-8 (JL-8) และ L-15 ที่บินด้วยความเร็วเหนือเสียง โดยวางกลยุทธ์การขายล่อใจผ่านการปล่อยสินเชื่อ และเงื่อนไขการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตให้ ยุทธศาสตร์ “ห่วงโซ่อาหาร” เช่นนี้ ได้ผลลัพธ์ดีมากในปากีสถาน และอาจได้ผลอีกครั้งที่อียิปต์ รวมถึงภูมิภาคไกลโพ้นในละตินอเมริกาอีกด้วย โดยเวเนซุเอลาและโบลิเวียต่างก็เป็นลูกค้าสั่งซื้อเครื่องบินฝึกขนาดเบาแบบ K-8 ของจีนแล้ว ขณะที่มีรายงานด้วยว่าคณะเจ้าหน้าที่ของเวเนซุเอลาได้ไปเยี่ยมเยียนโรงงานประกอบเครื่องบินในเฉิงตู เมืองหลวงของมณฑลเสฉวน เมื่อปลายปีที่แล้ว ภาพ: FC-1 “ธันเดอร์” หรือ JF-17 “เซียวหลง” โครงการร่วมพัฒนาระหว่างจีนกับปากีสถาน ทั้งนี้ในเดือนเมษายน ปี 2011 รายงานจากหนังสือพิมพ์ปากีสถานระบุว่า ทั้งสองชาติได้บรรลุข้อตกลงจับมือพัฒนา JF-17 เวอร์ชั่นสเตลธ์ ซึ่งอาจใช้ชื่อโครงการว่า FC-2 จากคุณ : unicorn-k เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 07:58:26

ความคิดเห็นที่ 10 จวบจนปัจจุบัน กองทัพอากาศและกองทัพเรือจีนได้รับมอบเครื่องบินขับไล่กึ่งทิ้งระเบิดแบบสองเครื่องยนต์รุ่น เจียนฮง-7 (JH-7) และเจียนฮง-7A (JH-7A) หรือ “เฟยเป้า (Flying Leopard)” จากซีอาน แอร์คราฟต์ อินดัสตรี คอร์ป (XAC / ซีเฟย) รวมประมาณ 170 ลำแล้ว พร้อมกันนี้ก็มีสิ่งบ่งชี้ด้วยว่า XAC อาจอยู่ในระหว่างพัฒนารุ่นที่มีคุณสมบัติล่องหน (สเตลธ์) ดีขึ้นด้วย ภาพ: เครื่องบินขับไล่กึ่งทิ้งระเบิดรุ่น “เจียนฮง7” (JH-7) หรือ “เฟยเป้า (Flying Leopard)” จากคุณ : unicorn-k เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 07:58:58

ความคิดเห็นที่ 11 เพื่อขยับเทียบชั้นเครื่องบินทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์รุ่นเก๋าที่สั่งสมประสบการณ์รบมาโชกโชน อย่าง B-52 แห่งค่ายโบอิ้งของสหรัฐฯ เครื่องบินทิ้งระเบิดเวอร์ชั่นล่าสุดของซีเฟย รุ่น ฮง-6K (H-6K) ได้เข้าสู่สายการผลิตระดับต่ำในปี 2010 โดยติดตั้งเครื่องยนต์เทอร์โบแฟนรุ่นโปรเกรส D-30KP ที่ทรงอานุภาพและมีประสิทธิภาพสูงขึ้น พร้อมกับออกแบบจมูกเครื่องบินใหม่สำหรับติดตั้งระบบเรดาร์ทันสมัย ฮง-6K สามารถติดอาวุธประเภทจรวดร่อนนำวิถีโจมตีภาคพื้นมากกว่า 6 ลูก อย่างไรก็ตาม ข่าวคราวเกี่ยวกับโปรแกรมพัฒนาเครื่องบินทิ้งระเบิดรุ่นถัดไปของ XAC มีออกมาน้อยมาก ยกเว้นเพียงข่าวลือที่ว่ามันอาจปรากฏตัวภายในทศวรรษนี้ ทั้งนี้ช่วงปลายปี 2009 มีการเปิดเผยโมเดลทางการของเครื่องบินทิ้งระเบิดขนาดใหญ่ที่มีโครงสร้างปีกสามเหลี่ยม และมีรูปทรงแบบสเตลธ์ แม้จะไม่ได้ระบุแหล่งที่มาของมันก็ตาม ช่วงต้นปี 2010 คณะนักวิชาการจีนจากสถาบันกลศาสตร์แห่งชาติ ซึ่งเป็นศูนย์วิจัยอากาศยานความเร็วเหนือเสียงชั้นนำของประเทศ ได้จัดทำรายงานเกี่ยวกับเครื่องบินขนาดใหญ่ที่สามารถบินด้วยความเร็วระดับ 3 มัค พร้อมกับรูปประกอบและโมเดลอุโมงค์ลม ซึ่งบ่งชี้ว่ามันอาจเป็นทางเลือกหนึ่งในอนาคตก็เป็นได้ ภาพ: เครื่องบินทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์รุ่น ฮง-6MK (H-6MK) ปัจจุบันจีนมี H-6 ประจำการในกองทัพรวม 120 ลำ (ข้อมูลจากวิกิพีเดีย) จากคุณ : unicorn-k เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 07:59:37

ความคิดเห็นที่ 12 คาดหมายกันว่า ในปีนี้หรือปีหน้า ซีเฟย หรือ XAC อาจเปิดตัวเครื่องบินขนส่งทางยุทธศาสตร์รุ่นใหม่ชื่อว่า “อวิ้นซู-20” (Y-20) ที่ประกอบด้วย 4 เครื่องยนต์ และสามารถบรรทุกน้ำหนักได้ 50-60 ตัน ขณะที่ “โคแม็ก C919” เครื่องบินโดยสารสายพันธุ์มังกรซึ่งเตรียมจะให้บริการเชิงพาณิชย์กับสายการบินภายในประเทศ ก็เป็นโปรแกรมซึ่งเป็นที่ยอมรับและรู้จักกันในวงกว้าง กระนั้นก็ดี เจ้าหน้าที่จีนยังคงปิดปากเงียบเกี่ยวกับโปรแกรมผลิตเครื่องบินโดยสารโครงสร้างลำตัวกว้างแบบโบอิ้ง B-767 ที่มี 4 เครื่องยนต์ แต่ถึงแม้วัตถุประสงค์สำหรับโครงการดังกล่าวยังคงคลุมเครือ หลายฝ่ายก็ยังมองว่ามีความเป็นไปได้สูงที่เครื่องบินรุ่นนี้อาจถูกนำใช้ในภารกิจต่างๆทางทหารด้วย ภาพ: ภาพกราฟิกของเครื่องบินขนส่งทางยุทธศาสตร์ “อวิ้น-20” (Y-20) จากคุณ : unicorn-k เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 08:00:08

ความคิดเห็นที่ 13 เพื่อเสริมสร้างสมรรถนะการครองอากาศให้ยาวนานขึ้น จีนซื้อเครื่องยนต์เทอร์โบแฟนรุ่นแซตเทิร์น AL-31 จากรัสเซียราว 1,000 เครื่องสำหรับฝูงบิน Su-27, J-11 และ J-10A ของตน โดยทั้งหมดจะได้รับการยึดอายุการใช้งานให้ยาวนานขึ้น และหลังจากผ่านพ้น 25 ปีแห่งการลงทุนอย่างโหมกระหน่ำ ในที่สุดเครื่องบินขับไล่และเครื่องยนต์เทอร์โบแฟนชนิดไฮ-ไบพาส (high-bypass) แรงขับสูงที่เป็นผลผลิต “เมดอินไชน่า” ก็กำลังปรากฏตัวขึ้น โดยในปี 2008 เครื่องยนต์ไอพ่นรุ่น WS-10A ของเสิ่นหยาง ไลมิงฯ มีประสิทธิภาพดีเพียงพอที่จะนำไปติดตั้งกับ J-11B รวมถึง J-11BS รวมทั้งเครื่องต้นแบบของรุ่น J-15 และ J-10B เสิ่นหยาง ไลมิงฯ อาจกำลังประดิษฐ์เครื่องยนต์ไอพ่นแรงขับเคลื่อนสูง น้ำหนัก 15 ตันอีกด้วย ขณะที่สถาบันวิจัยกังหันแก๊สของจีนได้นำเครื่องยนต์เทอร์โบแฟนรุ่นใหม่หนัก 8-9.5 ตันไปติดตั้งกับเครื่องบินรบรุ่น FC-1 ลำหนึ่ง พร้อมกันนี้ยังประสบความก้าวหน้าสำคัญในการพัฒนาเครื่องยนต์หนัก 15 ตันสำหรับ J-20 ด้วย ทั้งนี้เสิ่นหยาง ไลมิงฯ, ซีเฟย และเอวิก คอมเมอร์เชียล แอร์คราฟต์ เอนจิน โค. ต่างก็มีโครงการพัฒนาเครื่องยนต์เทอร์โบแฟนหนัก 13 ตันขึ้นไป เพื่อป้อนอุตสาหกรรมผลิตเครื่องบินขนส่งที่ใช้สำหรับภารกิจทางทหารและเชิงพาณิชย์ รวมถึงเครื่องบินทิ้งระเบิดรุ่นใหม่อีกด้วย เครื่องต้นแบบของ J-10B ใช้เรดาร์ AESA เครื่องแรกที่จีนผลิตสำหรับติดตั้งในเครื่องบินขับไล่โดยเฉพาะ เรดาร์ดังกล่าวพัฒนาโดยสถาบันวิจัยทางเทคโนโลยีวิศวกรรมแห่งนานกิง (NRIET) ขณะที่เครื่องบินรบทั้งรุ่น J-11 และ J-15 ต่างก็ได้รับคาดหมายว่าจะติดตั้งระบบเรดาร์ดังกล่าวเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ระบบเรดาร์ AESA ของสถาบัน NRIET บน J-10A และ FC-1 “เซียวหลง” นั้น สามารถจัดการขีปนาวุธอากาศสู่อากาศ (air-to-air missile / AAM) ที่เข้ามาในระยะรัศมีไกลเกิน 100 กิโลเมตรได้ 2 ลูกพร้อมกัน ส่วนขีปนาวุธ AAM ตระกูล “พี่ลี่” (อสุนีบาต) รุ่น PL-12 ซึ่งพัฒนาโดยลั่วหยาง อิเล็กโทร-ออปติคอล เทคโนโลยี เดเวลล็อปเมนต์ เซ็นเตอร์นั้น อาจมีพิสัยทำการไกลถึง 100 กิโลเมตร ขณะที่ขีปนาวุธอากาศสู่อากาศพิสัยใกล้ PL-8 และ PL-9 ก็อาจถูกแทนที่ด้วยรุ่น PL-10 ทั้งนี้มีอยู่สองบริษัทที่อยู่ในระหว่างผลิตอาวุธนำวิถีด้วยระบบดาวเทียมและแสงเลเซอร์ ไปจนถึงยุทธภัณฑ์หนัก 50 กิโลกรัมสำหรับอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ของตน จีนพัฒนาเครื่องบินแจ้งเตือนภัยทางอากาศไว้อย่างเหลือเฟือ โดยปัจจุบันกองทัพอากาศจีนใช้งานเครื่องบิน AWAC ประสิทธิภาพสูง (high end) รุ่น KJ-2000 ซึ่งพัฒนาขึ้นโดยอาศัยพื้นฐานจากรุ่นแบริเอฟ A-50 นอกจากนี้ยังมี KJ-200 รุ่นขนาดเล็กกว่าที่ดัดแปลงมาจากเครื่องบินขนส่งรุ่น Y-8 ของซีเฟย แต่ติดตั้งเสาอากาศเรดาร์ AESA ลักษณะ “คานทรงตัว” คล้ายรุ่น “อีริอาย (Erieye)” AWAC สัญชาติสวีเดนของบริษัทซาบ จีนยังส่งออกเครื่องบินเตือนภัยรุ่น ZDK-03 ที่ดัดแปลงจาก Y-8 โดยติดตั้งจานเรดาร์อยู่ด้านบน ให้แก่ปากีสถานด้วย ทั้งหมดนี้จะรอการมาสมทบของ UAV สอดแนมทางยุทธศาสตร์รุ่น “เสียงหลง” (Soar Dragon / มังกรทะยาน) ในอนาคตอันใกล้นี้ หลังจากเครื่องต้นแบบของอากาศยานไร้คนขับดังกล่าวปรากฏสู่สายตาผู้คนครั้งแรกในโลกไซเบอร์เมื่อปลายปี 2011 ภาพ: เครื่องบินเตือนภัยและควบคุมทางอากาศ (AWAC) รุ่น คงจิ่ง-2000 (KJ-2000) จากคุณ : unicorn-k เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 08:01:03

ความคิดเห็นที่ 14 กองทัพอากาศจีนกำลังหาทางช่วงชิงความเป็นผู้นำในด้านการสู้รบบนห้วงอวกาศ โดยคณะผู้นำจีนเคยประกาศเจตนารมณ์ไว้ชัดแจ้งในช่วงปลายปี 2009 เกี่ยวกับยุทธศาสตร์ใหม่ที่ต้องการเพิ่มศักยภาพในการทำสงครามบนห้วงอวกาศ ปัจจุบันโครงการอวกาศทั้งในรูปแบบที่ส่งมนุษย์ขึ้นสู่วงโคจรไปจนกระทั่งการยิงดาวเทียมที่ไร้มนุษย์ควบคุม ล้วนถูกควบคุมโดยกองบัญชาการใหญ่สรรพาวุธแห่งคณะกรรมการกลางการทหารของพรรคคอมมิวนิสต์จีน (General Armaments Department of the Central Military Commission / GAD) ภาพ: เครื่องต้นแบบของอากาศยานไร้คนขับรุ่น “เสียงหลง” (Soar Dragon) ในเฉิงตู จากคุณ : unicorn-k เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 08:01:36

ความคิดเห็นที่ 15 อย่างไรก็ตาม กรณีของกองทัพอากาศสามารถพัฒนาล้ำหน้าโดยมีเครื่องบินอวกาศขนาดเล็ก “เสินหลง” ซึ่งอาจผ่านการบินทดสอบใต้วงโคจรโลกครั้งแรกในช่วงปลายปี 2010 เป็นตัวชูโรง เสินหลงอาจถูกพัฒนาต่อยอดไปเป็นยานอวกาศลักษณะเดียวกับ X-37B ของสหรัฐฯ นอกจากนี้ปี 2006 นักวิศวกรจากสถาบันเทคโนโลยีปล่อยจรวดสู่อวกาศของจีนได้ร่างพิมพ์เขียวที่จะสร้างยานอวกาศลักษณะกระสวยอากาศหนัก 100 ตัน หรืออากาศยานความเร็วเหนือเสียงที่บินใต้ระดับวงโคจรโลกและสามารถปล่อยยานที่มันแบกขึ้นมาด้วยได้ ทั้งนี้แพลตฟอร์ม หรือ ฐานปฏิบัติการ “บินได้” อาจตกอยู่ภายใต้การควบคุมของกองทัพอากาศ ทว่าดาวเทียมของกองทัพพีแอลเอซึ่งปัจจุบันควบสองภารกิจ รวมถึงฐานปฏิบัติการบนอวกาศที่มีมนุษย์ประจำการนั้นจะยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของคณะกรรมการกลางการทหารแห่งพรรคคอมมิวนิสต์ การประจันหน้ากันระหว่างพรรคคอมมิวนิสต์กับกองทัพลักษณะเช่นนี้อาจเกิดขึ้นอีกบนประเด็นเกี่ยวกับภารกิจป้องกันภัยคุกคามจากขีปนาวุธ โดยที่แหล่งข่าวกลาโหมเอเชียชี้ว่า ปัญหานี้อาจเป็นที่ตระหนักรับรู้ในช่วงกลางทศวรรษ 2020 ทั้งนี้ความสำเร็จในการทดสอบยิงสกัดกั้นหัวรบในเดือนมกราคม ปี 2010 น่าจะเป็นโปรแกรมในความดูแลของคณะกรรมการ GAD อย่างไรก็ดีความคาดหวังของกองทัพอากาศที่จะสามารถพัฒนาขีปนาวุธต่อสู้อากาศยานที่มีพิสัยทำการไกลมากๆ พร้อมกับระบบต่อต้านขีปนาวุธนำวิถีจนสำเร็จนั้น อาจเป็นตัวแปรตัดสินในบั้นปลายว่าทัพฟ้าพญามังกรจะสามารถเป็นผู้นำภารกิจดังกล่าวได้หรือไม่ ภาพ: จรวดขนส่ง “ฉางเจิง-2F” ถูกปล่อยขึ้นจากฐานยิงจรวดในมณฑลกานซู่ เพื่อส่งยานโมดุล “เทียนกง-1” ขึ้นสู่วงโคจรโลก กรุยทางสู่การสร้างสถานีอวกาศแห่งแรกของจีน จากคุณ : unicorn-k เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 08:02:08

ความคิดเห็นที่ 16 หมายเหตุ: จีนจะใช้อักษรย่อ “J” นำหน้าชื่อรุ่นของเครื่องบินขับไล่ของตน โดยมาจากคำว่า “เจียนจีจี” （歼击机/ 殲擊機）ที่แปลว่า เครื่องบินขับไล่ในภาษาจีนนั่นเอง ส่วน H จะใช้นำหน้าชื่อรุ่นของเครื่องบินทิ้งระเบิด ซึ่งมาจากคำว่า “ฮงจ้าจี”（轰炸机/ 轟炸機） Y นำหน้าชื่อรุ่นเครื่องบินขนส่ง : “อวิ้นซู”（运输机/運輸機） Q นำหน้าชื่อรุ่นเครื่องบินโจมตีทางลึก : “เฉียงจีจี”（强击机/ 強擊機） KJ นำหน้าชื่อรุ่นเครื่องบินเตือนภัยทางอากาศ (AWAC) : “คงจิ่ง”（空警） Z นำหน้าชื่อรุ่นเฮลิคอปเตอร์ : “จื๋อเซิงจี”（直升机/ 直升機）แต่ถ้าเป็นเฮลิคอปเตอร์โจมตี จะนำหน้าด้วย WZ มาจากคำว่า อู่จื๋อ（武直） จากคุณ : unicorn-k เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 08:02:26

ความคิดเห็นที่ 17 ภาพ: J-15 ขณะกำลังบินทดสอบ จากคุณ : unicorn-k เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 08:02:49

ความคิดเห็นที่ 18 ภาพ: J-10 และเครื่องบินเติมน้ำมันกลางอากาศรุ่น H-6U จากคุณ : unicorn-k เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 08:03:13

ความคิดเห็นที่ 19 ภาพ: ซุคฮอย Su-30MKK ของกองทัพอากาศจีน ปัจจุบันจีนมี Su-30MKK และ Su-30MK2 ประจำการอยู่ในกองทัพอากาศและกองทัพเรือรวม 100 ลำ (ข้อมูลจนถึงกุมภาพันธ์ ปี 2012 : วิกิพีเดีย) จากคุณ : unicorn-k เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 08:03:38

ความคิดเห็นที่ 20 ภาพ: ซุคฮอย Su-27 ของกองทัพอากาศจีน ปัจจุบันจีนมี Su-27SK/UBK ประจำการอยู่ในกองทัพทั้งสิ้น 76 ลำ (ข้อมูลจนถึงกุมภาพันธ์ ปี 2012 : วิกิพีเดีย) จากคุณ : unicorn-k เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 08:04:00

ความคิดเห็นที่ 21 ภาพ: กราฟิกอากาศยานไร้คนขับรุ่น “เสียงหลง” (Soar Dragon) จากคุณ : unicorn-k เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 08:04:22

ความคิดเห็นที่ 22 ภาพ: เครื่องบินโจมตีรุ่น เฉียง-5 (Q-5) สำหรับปฏิบัติภารกิจสนับสนุนทางอากาศโดยใกล้ชิด (Close Air Support) เว็บไซต์กลาโหมต่างประเทศระบุว่า จีนอาจมีเครื่องบินโจมตีรุ่นนี้ในจำนวนระหว่าง 130-240 ลำ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันโรงงานประกอบในหนานชางได้ปิดสายการผลิตรุ่นนี้ไปแล้ว จากคุณ : unicorn-k เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 08:04:43

ความคิดเห็นที่ 23 ภาพ: ฝูงบิน J-10 ในงานแอร์โชว์ จากคุณ : unicorn-k เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 08:05:04

ความคิดเห็นที่ 24 จบ ขอบคุณที่ติดตามอ่านครับ จากคุณ : unicorn-k เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 08:05:34

ความคิดเห็นที่ 25 น่าแปลกนะครับ ยุคสมัยสงครามแบ่งแยกเกาหลี ประเทศจีนด้อยเรื่องอากาศยานก็ว่าได้ ต้องคอยความช่วยเหลือจากมิตรจำเป็นแบบรัสเซียเป็นส่วนใหญ่ แต่มาวันนี้ ประเทศจีนพัฒนาไปไกลมาก เป็นที่น่าจับตามองทั้งเศษฐกิจ การเมืองและการทหาร ลองนโยบายแบบนี้ประเทศคู่กรณีต่างๆ มีหวาดหวั่นกันมั้ง ส่วนตัวอยากเห็นเครื่องบินรบของจีน(รุ่นที่ตนพัฒนา)"ออกศึกดูสักคราให้เป็นบุญตา เพื่อเป็นการเรียกลูกค้า ที่พร้อมจะค้า ในราคาฉันมิตร" จากคุณ : satanzeed เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 08:45:25

ความคิดเห็นที่ 26 กระทู้นี้ค่อยสมกับเป็น กระทู้เทคโนโลยีการทหาร หน่อยครับ ไม่เหมือนกระทู้ "ขยะ" ทั้งหลาย 666 จากคุณ : monsungja เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 09:00:34

ความคิดเห็นที่ 27 ได้ความรู้มากๆ ขอบคุณมากๆครับ ต้องยกนิ้วให้จีนจริงๆ ไม่อยากนึกภาพในอีกสิบปี ครับ อย่างน้อยจะได้มีคนคานอำนาจพี่กันอย่างสมน้ำสมเนื้อ ในเวลานั้น จากคุณ : รักแผ่นดินไทย เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 09:09:07

ความคิดเห็นที่ 28 ummm จากคุณ : AKB-SKE เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 09:36:46

ความคิดเห็นที่ 29 .. จากคุณ : AKB-SKE เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 09:39:42

ความคิดเห็นที่ 30 อยากให้จีนพัฒนาคนด้วย มีอาวุธดีมาก แต่คนได้รับการพัฒนาน้อย ก้น่ากลัว จากคุณ : Ontjung เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 09:39:44

ความคิดเห็นที่ 31 ถึงจะลอกก็ยังดีกว่าไม่ได้เริ่ม เป็นก้าวที่สำคัญในการพัฒนา น่าอิจฉาจริงๆ จากคุณ : Kloster60D เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 09:42:56

ความคิดเห็นที่ 32 10ปีก่อน ผมยังรู้สึกว่าจีนเป็นประเทศที่มีแต่ Mig-21 อยู่เลย อีกสัก5ปีน่่าจะแซงเมกาแล้วแบบนี้ จากคุณ : ~รักความรุนแรง~ เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 09:43:56

ความคิดเห็นที่ 33 ถ้าจีนมัวแต่ห่วงเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์คงไม่มีวันนี้ จากคุณ : 180cc (ปะเกิ๊บปะเกิ๊บ) เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 10:07:22

ความคิดเห็นที่ 34 คห28 ไม่รู้จริงๆ ฤ ว่าแกล้งโง่ ละครับว่า J10 แปลงร่างมาจากรุ่นไหนนะ ??? จากคุณ : monsungja เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 10:57:19

ความคิดเห็นที่ 35 จขกท.....เยี่ยม++++++ J10B J11B และJ15 ใช้เครื่องยนต์ WS10a J20 ใช้เครื่องยนต์ WS15 J10B ติดตั้ง AESA ส่วนJ11B กำลังตามมา ที่น่าแปลก และน่าสนใจ รัสเซียเองยังไม่มีเครื่องบินรุ่นไหน ติดตั้ง AESA (เฉพาะประจำการ) จากคุณ : red_c เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 11:01:35 A:171.7.162.103 X: TicketID:255467

ความคิดเห็นที่ 36 ซื้อมา-ก๊อป-พัฒนา-ผลิตเอง ยังดีกว่า ซื้อ ซื้อ แล้วก็ ซื้อ จากคุณ : ด.ช.แม่น เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 11:19:31

ความคิดเห็นที่ 37 -การก้าวขึ้นเป็นชาติมหาอำนาจใช่ว่าใช้เวลา10หรือ20ปี ก็เป็นได้หรอกครับจริงไหม บางเมืองรายได้ของคนจีนแตกต่างกันมากกับคนเมืองใหญ่หรือหัวเมืองต่างๆ มุ่งเน้นแต่ด้านใดด้านหนึ่งย่อมส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่กันไป เห็นว่านอกจากด้านการทหารที่แข็งแกร่งแล้ว เศษฐกิจ สังคม การศึกษา รวมทั้งความเป็นอยู่ รายได้ของประชากรนั้นย่อมสำคัญไม่แพ้กัน ข้อนี้จีนอาจแตกต่างจากชาติที่พัฒนาแล้วหลายๆชาติ ที่รายได้ความเป็นอยู่ของประชากรไม่แตกต่างกันมากเหมือนจีน -เทคโนโลยีของจีน โดยมากก็เป็นแบบที่เราๆท่านๆเข้าใจ ของคนโน้นคนนี่มั้ง แต่อีกด้านแต่ใช่ว่าชาติมหาอำนาจอื่นจะหยุดพัฒนา วันนี้จีนอาจประกาศความพร้อมที่จะก้าวขึ้นเป็นมหาอำนาจใหม่ นั้นก็หมายถึงต้องเตรียมพร้อมสำหรับความขัดแย้งใหม่ๆ การวางบทบาทที่มากขึ้น จากคุณ : satanzeed เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 11:28:22

ความคิดเห็นที่ 38 มาตรฐานการต่อยอดระดับโลกเลยนะเนีย เขามีกระทรวงก๊อปปี้ไหมครับ  จากคุณ : เจ้าชายรองเท้าแตะ 655 เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 11:48:20

ความคิดเห็นที่ 39 #5 เห็นมีขากล้องสำรวจด้วย จากคุณ : จอห์น บาธ เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 12:36:20

ความคิดเห็นที่ 40 จีนยิ่งมีกองทัพน่ากลัวเท่าไหร่ ผมกลับรู้สึกยิ่งปลอดภัย จากคุณ : Sleeping เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 12:38:29

ความคิดเห็นที่ 41 การพยายาม วิจัยศึกษา และมีเทคโนโลยีระดับสูง ไว้ในครอบครอง ไม่ได้หมายความว่า ประเทศนั้นๆ จะต้องเปิดสายการผลิต ควบคู่ไปด้วย เสมอไป เช่น ญี่ปุ่น อยากให้อุตสาหกรรม การทหารของเรา วิจัยศึกษา เทคโนโลยีระดับสูงไว้เยอะๆครับ จากคุณ : NipponJ เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 12:42:10

ความคิดเห็นที่ 42 จาก The Economist ฉบับล่าสุด จีนใช้งบประมาณทางทหาร ประมาณ 2 เปอร์เซ็นต์ของจีดีพี เทียบเท่าอังกฤษ ฝรั่งเศส ในขณะที่สหรัฐใช้งบทางทหาร 4 เปอร์เซ็นต์( ทั้งที่ยังไม่รวม งบพิเศษที่ใช้ในสงคราม อิรัก และ อัฟกัน--อันนี้ไม่ได้กล่าถึงใน นิตยสาร) แต่ดิอิโคโนมิสย์ ก็ยังยอมรับว่า  การพัฒนาทางทหารของจีน ไม่ได้มีจุดมุ่งหมาย ในแง่การรุกราน  แต่เพื่อเป้าหมายที่จะไม่ให้ อเมริกาเข้ามาวุ่นวายกับเรื่อง ความแยกตนเป็นอิสระของมณทล ไต้หวัน  และปัญหาพิพาท เกียวกับหมู่เกาะร้าง สองสามแห่งในทะเลจีน ตะวันออก และทะเลจีนใต้ เท่านั้น จากคุณ : wizzz เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 13:08:59

ความคิดเห็นที่ 43 กองทัพจีน the Republic of China จากคุณ : สาหร่ายเกลียวทอง เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 13:11:50

ความคิดเห็นที่ 44 ผมว่าดีออกที่จีนมาคานอำนาจไอ้กัน เพราะไม่งั้นไอ้กันมันคงกร่างมากกว่านี้ ตั้งตัวเองเป็นตำรวจโลกแบบทุกวันนี้ จากคุณ : กิ่งก้ามปู เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 13:13:20

ความคิดเห็นที่ 45 กองทัพสาธารณรัฐจีน จากคุณ : สาหร่ายเกลียวทอง เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 13:18:53

ความคิดเห็นที่ 46 คนไต้หวันก้คือคนจีน ในโลกนี้ไม่มีประเทศไต้หวัน มีแต่ประเทศสาธารณรัฐจีน the Republic of China จากคุณ : สาหร่ายเกลียวทอง เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 13:23:33

ความคิดเห็นที่ 47 ข้อมูลเปรียบเทียบ กองทัพปลดปล่อยประชาชน 中国人民解放军 กับ กองทัพสาธารณรัฐจีน中華民國國軍 จากคุณ : สาหร่ายเกลียวทอง เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 13:33:23

ความคิดเห็นที่ 48 ถามเพิ่มเติมครับ เครื่องบินรบค่ายของจีนใช้อาวุธ Air to Air ค่ายไหนครับค่ายคอม หรือ ค่ายเสรี หรือ พัฒนาเอง ยุคนี้เครื่องบินรบเวลาสู้กันตัวๆ วัดกันที่ BVR เป็นหลักความแม่นยำของ อาวุธ Air to Air จะวัดเลยว่าใครจะอยู่ใครจะไป ถ้าจีนพัฒนาเองแล้วไม่แม่นยำก็จบเลย ขนาด Aim-120 ของอเมริกาค่ายหลัก ยังเอาแน่เอานอนไม่ได้ ของจีนถ้าพัฒนาเองก็น่าหวั่นๆครับ จากคุณ : E29AJP (tery_haha) เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 13:39:34

ความคิดเห็นที่ 49 เห็นได้ง่ายๆ ในความทะเยอทะยานของ อเมริกัน ในการที่จะอยู่เหนือคนอื่น และคิดจะทำลายคนอื่น โดยดูได้จากการพัฒนา X37B unmanned spacecraft ซึ่งใช้บรรทุก ยานนำกลับ (re-entry vehicles) (หัวรบนิวเคลียร) ซึ่งมันจะอยู่ในอวกาศนอกโลก และพร้อมโจมตี ประเทศไหนก็ได้ ได้ทุกที ทุกเวลาที่ต้องการ โดยระบบ ABM ของประเทศนั้นๆ มีเวลาไม่กี่วินาที ที่จะตรวจจับ และป้องกัน พูดง่ายๆ ระบบไหนก็เอาไม่อยู่ Ground-Based Midcourse Missile Interception ก็ไร้ความหมาย ---ความคิดสุดยอดมาก จีนตอบโต้ ด้วยโครงการตาม คห. 35 ซึ่งคล้ายๆ กับ X37B เป็นunmanned spacecraft เหมือนกัน บรรทุก ยานนำกลับ (re-entry vehicles) เหมือนกัน ถ้า us ใช้ X37B ทำลายจีน จีนก็ใช้ Shenlong(unmanned spacecraft )ทำลาย us ได้เช่นกัน เพื่อป้องปราม http://www.defence.pk/forums/chinese-defence/154356-china-tested-x-37b-space-vehicle-late-2011-a.html จากคุณ : red_c เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 13:42:14 A:171.7.162.103 X: TicketID:255467

ความคิดเห็นที่ 50 สนุกดีมีสาระ จากคุณ : ps000000 เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 13:48:06

ความคิดเห็นที่ 51 เครื่อง Stealth มันพัฒนาง่ายขนาดนี้เชียวหรือ เห็นจีน จำพัฒนาเครื่อง รุ่นอื่นๆให้เป็นเครื่องแบบ Stealth เพิ่ม อ่านจากด้านบน ทั้งการจะพัฒนา FC-1(JF-17) ไปเป็นรุ่น FC-2 แบบ Stealth เครื่องบิน ขับไล่/โจมตี JH-7 ก็จะพัฒนารุ่น Stealth อีก (JH ถ้าเป็นอังกฤษ น่าจะเหมือน F/A Fighter/Attack เหมือน F/A-18 หรือเปล่า) ทำไมจีน ทำดูเหมือนมันทำได้ง่ายๆจังครับ ในเวลา ไล่เลี่ยกัน ชาติตะวันตก ยังทำเครื่องที่เป็น Stealth (VLO) ออกมาไม่ได้สักรุ่น (ยกเว้น อเมริกา) ชาติยุโรป ยังไม่เผยโฉม เครื่องที่เป็น Manned Stealth Fighter ออกมาเลย เครื่อง Stealth ของ ชาติยุโรป ที่ออกมาจะเห็นแต่ที่เป็นเครื่องแบบ unmanned combat air vehicle (UCAV) ครับ สรุปคือ จีน ใช้เวลาอันสั้นในการพัฒนาเครื่องบินรบ แบบ Stealth หลายรุ่น ยังกับเป็นเรื่องง่ายเลย จากคุณ : Ticket Card of God เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 14:24:22 A:110.171.29.19 X: TicketID:293847

ความคิดเห็นที่ 52 น่าจะเป็นเพราะจีนมีทรัพยากรมากกว่าประเทศอื่นครับ ทั้งเงิน วิศวกร จีนมีมากกว่าประเทศอื่นครับ แถมต้นทุนก็ต่ำกว่า ส่วนสหรัฐ และยุโรป ช่วงนี้มีแต่นโยบายรัดเข็มขัดครับ และคาดว่าไม่น่าเกินปี 2025 จีนจะสามารถแซง สหรัฐทั้ง ความใหญ่ของเศรษฐกิจ และการทหารครับ จากคุณ : k_jojo เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 14:34:43

ความคิดเห็นที่ 53 A2A Missile ของจีน ถ้าเมื่อก่อน ก็ใช้ของรัสเซีย แต่จีนดูจะไม่พอใจ ประสิทธิภาพA2A รัสเซีย ซักเท่าไร จึงพัฒนาเอง ปัจจุบันจีนเน้นใช้ของตนเองเป็นหลัก ออกแบบระบบการบิน radar เพื่อให้รองรับ A2Aของตนเอง PL 12 อ้างอิงเอกสารบางส่วนจากPLA Newspaper of 2nd December 2008 มีคุณสมบัติพื้นฐานเดียวกันกับ AIM-120, the Russian R-77 โดย PL12 มีระยะยิงเกิน 100 km มีคุณสมบัติ -active radar seeker -datalink aided -inertial midcourse guidance ข้อมูลตะวันตก มักบอกว่า ใช้ Agat 9B-1348E seeker package ของรัสเซีย แต่ข้อมูลที่มี ไม่ใช่ CATIC ได้ร่วมมือกับ AGAT Research Institute (ผู้พัฒนา R77) ร่วมพัฒนา seeker package แบบใหม่ โดยรุ่นแรกเปิดตัว ปี2002 โดยล่าสุด ได้ปรับปรุง seeker package ส่วนdigital processor and SINS ใหม่ โดยเคลมว่า เทียบเท่ากับ AIM-120C4 มีคุณสมบัติ ที่ดีมากด้าน ECCM เมื่อทำงานรวมกับ Aesa (เป็นสาเหต J10B/J11B ต้องติด aesa) ปัจจุบันมีรุ่น PL12B ปรับปรุง guidance system และรุ่น PL12c ลดขนาดครีบ เพื่อติดตั้งแบบภายใน กับ J20 ++สรุป ว่าดีไหม ถ้าดูผลตอบรับจาก ปากี ที่ซื้อ SD10 (pl12 รุ่นลดสเปค) เขาพอใจ ส่วนจะดีจริงไหม ต้องรอสงคราม... ++เอาแค่นี้ก่อน++ จากคุณ : red_c เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 14:43:01 A:171.7.162.103 X: TicketID:255467

ความคิดเห็นที่ 54 โครงการ Jxx หรือ LO/VLO ของจีนเริ่มเมื่อกว่า 20 ปีที่แล้ว ในชื่อ J14 โดยมีการสร้างต้นแบบ 5 ตัว เพื่อทดสอบ static test และ flight test พูดง่ายๆ กว่าจะมี J20 วันนี้ จีนใช้เวลากว่า 20 ปี สร้างต้นแบบ ที่ล้มเหลว (เน้นว่าล้มเหลว) กว่าจะมาสำเร็จ จนบินได้เป็น VLO/ supermaneuverability ในทุกวันนี้ ++ในการพัฒนา VLO สิ่งสำคัญ 2 สิ่งคือ นอกเหนือจากความรู้ด้านอากาศยาน 1.know-how ด้าน Cae ที่ก้าวหน้า ที่สามารถ solution ปัญหาต่างๆได้ 2.super com เพื่อ solution ข้างบน จากคุณ : red_c เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 14:57:10 A:171.7.162.103 X: TicketID:255467

ความคิดเห็นที่ 55 J-20 ยังต้องพัฒนาอีกมากครับ กว่าจะพร้อมปฎิบัติการได้เต็มรูปแบบไม่น่าจะต่ำกว่า 10ปี จากคุณ : MIGGERS เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 16:12:17

ความคิดเห็นที่ 56 สุดยอดครับกระทู้ทหารแห่งปีนี้เลยก็ว่าได้ ชอบมาก จากคุณ : Serial_Nuber เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 17:15:43

ความคิดเห็นที่ 57 ชอบรุ่น "เสียงหลง" จากคุณ : interaction เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 18:55:11

ความคิดเห็นที่ 58 ถ้าจีนจะรวมไต้หวันเข้าไปจริงๆ ไต้หวันจะสามารถต้านไว้ได้มั้ยครับ หรือว่าจะยันไว้ได้ซักเท่าไหร่ ปล. ผมกะลังจะไปเรียนที่ไต้หวันปีนี้ T_T จากคุณ : Flyer เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 19:11:57 A:180.214.210.67 X: TicketID:114266

ความคิดเห็นที่ 59 #58 เค้าไม่ตีกันง่ายขนาดนั้นหรอกครับ มันก็แค่ฮึ่มๆกันแค่นั้นแหละ อีกอย่างถ้าจะห่วง ไต้หวันกับจีน ผมว่าเอาเวลาไปห่วงอิหร่านกับอิสราเอลดีกว่า จากคุณ : Pantip's Enemy (พันทิพย์ เอนามี่) เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 19:23:37

ความคิดเห็นที่ 60 จีน ไต้หวัน ไม่ได้ใช้กำลังกันหรอกครับ จะเป็นสถานภาพแบบนี้ไปอีกนานมากหน่ะ จนกว่าคนจีนจะรวยพอๆกับไต้หวัน และนิสัยจะดีพอกัน(นึกไม่ออกว่าจะอีกนานแค่ไหน) จากคุณ : ขอเอาชื่ออากงเป็นเดิมพัน เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 19:28:58

ความคิดเห็นที่ 61 @ เพื่อนๆ ครับ จีนเขา ส่งเครื่องบินออกขาย ไหมครับ จากคุณ : sriwit เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 19:43:10

ความคิดเห็นที่ 62 #46 ฮา เพลงปลุกใจรักชาติ ของไต้หวันเก่า เนื้อหา่เพลงบอก ให้พวกเราต้องโจมตีเอาแผ่นดินใหญ่คืนมา แผ่นดินใหญ่คือ ดินแดน และมาตุภูมิของเรา มีความเห็นของคนจีนแผ่นดินใหญ่ ที่โดนโหวต มาบอก อย่ามาตีแผ่นดินใหญ่นะ แยกกันอยู่เถอะ.... กลายเป็นงีไปแล้วเรอะ ไต้หวัน กับจีนแดง จากคุณ : ขอเอาชื่ออากงเป็นเดิมพัน เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 19:54:02

ความคิดเห็นที่ 63 ความคิดเห็นที่ 55 ถ้าดูพัฒนาการตอนนี้ ทั้งเรื่อง Aesa ,Ws15 ,distributed aperture system (DAS) probe ,PL12c /PL21 และอื่นๆ พวกนี้ พัฒนาขั้นท้ายๆ ไม่เกิน5ปี เหลือแค่ axi-symmetric nozzles/Axisymmetric Vectoring เท่านั้น ซึ่งอาจต้องใช้เวลา 6-7 ปี โดยรวมๆก็เข้าประจำการ ประมาณ 7 ปีข้างหน้า อย่างช้า ++ล่าสุด J20 ขึ้นบินทดสอบแล้ว กว่า 62 (น่าจะเกิน 70แล้ว) ++ทำไมคิดแบบนั้น ผมนั่งมองย้อนกลับไปเมื่อ 5 ปีที่แล้ว จีนยังไม่มีพวกนี้เลย ประเมินได้ตามนั้น ถูกผิด ไม่นานก็รู้ ---ฝากข่าว Western extreme shock: Chinese F-11B in a simulated air combat, he even beat the Russian Su-35 จากรายงานของ center Anderson air combat ของสวีเดน ได้ simulation ระหว่าง Su35/BM กับ J11B ผลจากการ simulation การรบทางอากาศ ผลว่า J11 เหนือกว่า Su35/BM มีเหตผลประกอบ ซึ่งผมเคยพิมใว้หลายครั้ง ลองอ่านดู http://www.9abc.net/index.php/archives/12512 http://www.9abc.net/index.php/archives/4195 จากคุณ : red_c เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 20:35:32 A:171.7.162.103 X: TicketID:255467

ความคิดเห็นที่ 64 ค่าใช้จ่ายต่อวันกี่สิบล้านละนี่ จีนจะรับไหวได้อีกกี่ปี ทำไปทำมา อีกไม่นานก็จะเป็น เกาหลีเหนืออีกละ มีแต่อาวุธ แต่ชาวบ้านอดอยาก........หาเรื่องใส่ตัวแท้ ๆ จากคุณ : ติ่งต๊อง เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 21:14:41 A:182.53.222.176 X: TicketID:286511

ความคิดเห็นที่ 65 ---ฝากข่าว Western extreme shock: Chinese F-11B in a simulated air combat, he even beat the Russian Su-35 จากรายงานของ center Anderson air combat ของสวีเดน ได้ simulation ระหว่าง Su35/BM กับ J11B ผลจากการ simulation การรบทางอากาศ ผลว่า J11 เหนือกว่า Su35/BM มีเหตผลประกอบ ซึ่งผมเคยพิมใว้หลายครั้ง ลองอ่านดู ............................. ขอบคุณครับ คุณเร้ดซี ข่าวนี้น่าติดตามมากๆ จากคุณ : unicorn-k เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 21:25:36

ความคิดเห็นที่ 66 คห 51 สำหรับข่าวเรื่องที่จีนจะสร้าง JH-7 และจับมือกับปากีสถานพัฒนา JF-17 แบบเวอร์ชั่นสเตลธ์ ยังเป็นข่าวที่ยังไม่ได้รับการยืนยันจากกองทัพจีนครับ อาจเป็นแค่ข่าวลือ หรือจีนซุ่มพัฒนาจิง แล้วจู่ๆก็โผล่มาให้เห็นแบบ J20 ก็เป็นได้ ส่วนกรณี J21 ของค่ายเสิ่นหยาง มีความเป็นไปได้สูงครับ แต่ทางนั้นก็ยังปิดเงียบอยู่ คห 61 จากบทความข้างต้น จีนมีแผนจะขาย J-10B, J-11B ให้กับต่างชาติครับ รวมถึง FC-1/JF-17 ที่ขายให้ต่างชาติไปแล้ว นอกนั้นก็มีพวกเครื่องบินฝึกครับ มีลูกค้าหลายรายแล้วครับ จากคุณ : unicorn-k เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 21:36:38

ความคิดเห็นที่ 67 #64 คงต้องบอกว่าถูกแล้วล่ะครับ ศก จีนโตเร็วมาก ตอนนี้รายได้ต่อหัว จากที่เคยต่ำติดดิน มาเป็นเกือบเท่าไทยแล้ว หลายเมืองแซง กรุงเทพไปแล้วด้วย แต่กระนั้นก็ไม่ได้มีมหามิตรมากอะไรแบบไทย ก็ต้องการการป้องกันผลประโยชน์ของชาติที่มากขึ้นแหล่ัะครับ จากคุณ : ขอเอาชื่ออากงเป็นเดิมพัน เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 21:46:59

ความคิดเห็นที่ 68 ขอบคุณสำหรับบทความ จากคุณ : น้ำเค็ม เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 21:53:19

ความคิดเห็นที่ 69 ขอบคุณ จขกท มากๆ ครับ คราวหน้าอยากได้เรื่องราวกองทัพอากาศอิหร่านมั่ง เห็นว่า HESA Saeqeh นี่มาแรงเชียว จากคุณ : nisas เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 22:04:34

ความคิดเห็นที่ 70 ถ้าจีนจะรวมไต้หวันเข้าไปจริงๆ ไต้หวันจะสามารถต้านไว้ได้มั้ยครับ หรือว่าจะยันไว้ได้ซักเท่าไหร่ ปล. ผมกะลังจะไปเรียนที่ไต้หวันปีนี้ T_T จากคุณ : Flyer ***** เดี๋ยวนี้ไม่รบกันตรงๆ แล้ว เล่นด้านเศรษฐกิจดีกว่า อะไรที่เป็นรายได้หลักของไต้หวัน ก็เล่นตัดราคาตรงนั้นนะแหละ 666 จากคุณ : monsungja เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 22:36:11

ความคิดเห็นที่ 71 ขอบคุณ มั๊ก ๆ ได้ความรู้เยอะเลย... จากคุณ : weyoy000 (weyoy000) เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 23:21:26

ความคิดเห็นที่ 72 ไทยจะเป็นแบบจีนได้ไหมเนี่ย เรื่องการพัฒนาอาวุธ(ไว้ใช้ป้องกันตัวเองก็พอ ไม่ต้องถึงกับเพื่อไว้ถล่มใคร) จะได้ไม่ต้องไปซื้อให้เปลืองเงินแถมกว่าจะได้ของอีก จากคุณ : Dekgun เขียนเมื่อ : 10 เม.ย. 55 00:19:35

ความคิดเห็นที่ 73 นี่แหละถึงจะเรียกได้ว่าเทคโนโลยีการทหาร สาระดี สังคมดี ไอ้พวกที่โพสไร้สาระถ้ายังไม่หยุดโพส เรื่องนี้ถึงครูอังคณาแน่ 5555+++ จากคุณ : โปรแกรมเมอร์ฝึกหัด เขียนเมื่อ : 10 เม.ย. 55 08:43:37

ความคิดเห็นที่ 74 จีนกับไต้หวันไม่รบกันง่ายๆหรอกครับ ถ้าหากไต้หวันไม่ประกาศเอกราช (จีนกล่าวไว้ว่า ถ้าหากไต้หวันประกาศเอกราช จีนจะประกาศสงคราม จีนพร้อมจะทิ้งทุกสิ่ง ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ พร้อมทำทุกอย่างแม้แต่การใช้กำลังเพื่อหยุดยั้งไต้หวัน ซึ่งจีนประกาศไว้ว่า จะไม่ยอมเสียไต้หวันอย่างเด็ดขาด ซึ่งส่วนตัวคิดว่าจีนพูดจริง ทำจริง) ซึ่งหากเกิดเหตุการณ์รุนแรงขึ้นในช่องแคบไต้หวัน สหรัฐและญี่ปุ่นจะเข้าช่วยเหลือตามพันธสัญญา (ก้ยังงงๆอยู่ว่า ญี่ปุ่นเกี่ยวกับไต้หวันตรงไหนหว่า) จากคุณ : MIGGERS เขียนเมื่อ : 10 เม.ย. 55 09:05:10

ความคิดเห็นที่ 75 ^^^ ญี่ปุ่นคงโดนอเมริกาสั่งครับ จากคุณ : 400mhz เขียนเมื่อ : 10 เม.ย. 55 14:26:10 A:171.7.239.217 X: TicketID:335254

ความคิดเห็นที่ 76 ต้นปีผมไปจีนมา ดู TV เจอช่องนึีงเกี่ยวกับทหารด้วยครับ เค้าก็ทำโฆษณากองทัพอากาศจีนเนี่ยแหละ แต่ตอนตัดภาพเร็วๆเครื่องไอพ่นโฉบๆไปๆมาๆ มีภาพของ F15 มาตัดสลับด้วยครับ ผมนี่ฮาก๊ากเลย จากคุณ : +One Side Love+ เขียนเมื่อ : 10 เม.ย. 55 15:41:22

ความคิดเห็นที่ 77 ถึงเครื่องบินรบ จะก๊อปแหลก แต่ทหารอากาศหญิงจีน ก็ original นะครับ :-) จากคุณ : JD300 เขียนเมื่อ : 10 เม.ย. 55 18:00:50

ความคิดเห็นที่ 78 original แบบorganicแท้ด้วย ขนเต่าอะไร ยังเหลือ ธรรมชาติแท้ อิอิ จากคุณ : ขอเอาชื่ออากงเป็นเดิมพัน เขียนเมื่อ : 10 เม.ย. 55 18:27:16

ความคิดเห็นที่ 79 งบประมาณทางทหารของจีนยังถือว่าอยู่ในระดับปกติครับ คือราวๆ 2% ของ GDP เท่านั้นเอง จริงๆช่วง 10-15 ปีมานี้จีนเพิ่มงบการทหารขึ้นมาก แต่ก็ยังรักษาจำนวนเงินเอาไว้ที่ราวๆ 1.5-2% ของ GDP ซึ่งเป็นงบระดับที่สมเหตุสมผล และอยู่ในเกณฑ์ที่นานาประเทศยังทำกันอยู่ครับผม เทียบกับเมื่อราวๆยุค 1980-1990 ตอนต้นๆ กองทัพจีนถูกนักการทหารตะวันตกปรามาศว่าเป็นพิพิธภัณฑ์อาวุธมีชีวิตที่ใหญ่ที่สุดในโลก ก็เพราะในสมัยนั้นจีนทุ่มงบลงไปด้านอื่นๆ แต่ตัดงบทหารเสียเหลือแค่ 1% ของ GDP หน่ะครับผม ทำให้มาช่วงหลังนี้จีนต้องเร่งพัฒนาอาวุธและซื้อเทคโนโลยีเข้ามาเพื่อปรับปรุงกองทัพอย่างเร่งด่วน เทียบกับเกาหลีเหนือนี่ เกาหลีเหนือมีงบการทหารแบบเปิดเผยมากถึง 20-25% ของ GDP เลยครับ ส่วนสหภาพโซเวียตในยุค 1970 ก็เคยใช้งบทางทหารมากถึง 17-18% ของ GDP อย่าลืมว่าในสมัยปลายราชวงศ์ชิง ช่วงที่กลุ่มไท่ผิงก่อการอยู่นั้น ราชสำนักต้าชิงเคยมีงบการทหารเกือบ 35% ของ GDP และ 80% ของเงินได้ของราชสำนัก จากคุณ : อุ้ย (digimontamer) เขียนเมื่อ : 10 เม.ย. 55 20:08:04

ความคิดเห็นที่ 80 ฟังดูเหมือนไม่เยอะนะ แต่ต้องยอมรับเลยว่า 2% ของ GDP จีนตอนนี้โตมากๆ ถ้าดูจากเปอร์เซ็นต์แล้ว "ปริมาณ" ดูจะไม่ใช่สาระสำคัญของสิ่งที่ีจีนกำลังทำ แต่เป็น "ทิศทาง" มากกว่านะ ที่สำคัญ ถ้าจำไม่ผิด จีนมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2-3 ของโลก ใกล้เีคียงกับ ญี่ปุ่น เรื่องขนาดโดยรวมของ GDP ยังบอกอะไรไม่ได้มาก เพราะถ้าวัดแบบนั้น เราเองก็ยังมี GDP ใหญ่กว่าหลายๆ ประเทศแม้แต่ สิงค์โปร์ และ มาเลเซีย แต่ 2 ชาิตินี้ก็ยังอยู่ในฐานะที่ดีกว่าเราพอสมควรเลย ว่าแล้วจำได้ว่า เคยมีวลีที่ว่า เนย หรือ ปืน คือการเลือกว่าจะให้ความสำคัญที่อะไร ระหว่างเศรษฐกิจ ปากท้องของประชาชน กับความมั่นคงทางทหาร พูดแบบกว้างๆ มันก็คงจะต้องสมดุลกัน พอดีๆ ในขณะที่บางประเทศ ณ จุดหนึ่งๆ อาจจะเทความสำคัญไปให้ด้านใดด้านหนึ่งเป็นพิเศษ อย่าง โซเวียต ที่เคยถูกล้อว่ากินปืนแทนเนย แต่บ้างก็ว่า มีปืนไว้เดี๋ยวก็หาเนยกินได้เอง ตัวเลขล่าสุดอยู่ที่ราว 2.2 เปอร์เซ็นต์จากจีดีพี ฟังดูเหมือนน้อย แต่เป็นยอดเงินแล้วล่อไป 1 แสนกว่าล้านเหรียญฯ เป็นรองแค่ สหรัฐฯ ประเทศเดียว ที่ใช้ไป 6 แสนล้านเหรียญและคิดเป็น 4.7 เปอร์เซ็นต์จากจีดีพี ของไทย ก็ใช้ไป 2.0 เปอร์เซ็นต์ ยอดจุ๋มจิ๋มตามสถานะเราที่ 4,300 ล้านเหรียญ แต่ว่าไปแล้วพวกประเทศแถบยุโรปมักจะใช้งบทางทหารกันน้อย แทบไม่มีใครถึง 2 เปอร์เซ็นต์กันเลย อยู่ราวๆ 1 เปอร์เซ็นต์เหมือน ญี่ปุ่น จะมีแค่ ฝรั่งเศส กับ อิตาีลี นี่่ล่ะมั้งที่แหวกๆ หน่อยที่ 2-3 เปอร์เซ็นต์ ส่วนหนึ่ง ผมว่าต่อให้เราอยากทำแบบจีน แต่รากฐานของเรามันคงไม่พร้อมด้วย ถ้าเราทำธุรกิจแบบพ่วงเงื่อนไขให้ถ่ายทอดเทคฯให้ ทอ. ด้วย แต่บ้านเราไม่มีอะไรเลย ก็คงไม่รุ้จะรับเทคฯมาอย่างไร เศรษฐกิจเอย เทคโนโลียีเอย ฯลฯ ถ้าจะถึงขั้นผลิตเครื่องบินไอพ่นจริงๆ คงต้องใช้เวลาอีกนาน เอาแค่ซ่อมบำรุง ปรับปรุง แค่นี้ผมก็โอเคพอสมควรแล้วนะ ส่วนเครื่องบินใบพัด รู้สึกว่าเราจะทำได้เองนานแล้วนะ จากคุณ : art_sarawut เขียนเมื่อ : 10 เม.ย. 55 21:35:38

ความคิดเห็นที่ 81 ทำออกมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ตัวเองก็ต้องทำนะ แต่ stealth จีนนี่ทำเร็วมาก โผล่มาจากไหนไม่รู้ อยู่ๆ บินทดสอบเกือบทุกวัน กลัวจะเหมือนรัสเซียนี่แหละ ธิเบต ไต้หวัน ชินเกียง ก็เป็นหอกข้างแคร่ ประชาชน 1300 ล้านคน อยู่ในชนบทนับได้เป็นร้อยๆ ล้านคน ที่ยังมีรายได้ต่ำ ปัญหาพวกนี้มันท้าทายนะ ที่จะทำยังไงให้มันสมดุล มีอาวุธเยอะ แต่ปัญหาภายในรุมเร้าเนี่ย มันจะเกิดทั้งศึกในศึกนอกนะ บั่นทอนกำลังตัวเองไปด้วย คอยระวังฟองสบู่เศรษฐกิจแตกอีก ยิ่งร้อนแรงแบบนี้ ดำเนินนโยบายทางเศรษฐกิจต้องระมัดระวังมาก ตัดสินใจพลาดละก็ ไม่อยากจะคิด จากคุณ : ^oio^ เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 55 13:54:05

ความคิดเห็นที่ 82 //แต่ stealth จีนนี่ทำเร็วมาก โผล่มาจากไหนไม่รู้ อยู่ๆ บินทดสอบเกือบทุกวัน// ข้างบน ทำไมไม่ เลื่อนไปอ่านก่อนครับ จะรู้คำตอบที่คุณถาม จากคุณ : red_c เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 55 17:05:44 A:14.207.192.248 X: TicketID:255467

ความคิดเห็นที่ 83 เหรียญมีสองด้าน เค้าสร้างก็เพื่อปกป้องผลประโยชน์ตัวเอง ลองดูรอบด้านดิ มีแต่ศัตรู ก็เล่นไปบังคับใช้กำลังเค้าไปทั่ว อย่างสร้างเขื่อนกั้นแม่น้ำโขง ไทยยังทำอะไรไม่ได้เล้ย หมู่เกาะสแปรดลี่ ห่างจีนเป็นพัน ๆ โล พวกยังบอกของตัวเอง ลองถ้าไม่มีอาวุธมาปกป้องผลประโยนช์ซิ คงอยู่ไม่ได้ล่ะท่านเอ้ย นี่ยังไม่นับ ความแตกต่าง ทางสังคมในเมืองจีน ทีมีคนเป็นพันล้าน แต่คนจนมีมากเกินครึ่ง คนรวย ๆ ก็รวยเอาเพราะ เป็นคนที่เข้าหาคนในรัฐบาล ทำมาค้าขายกับคนในพรรคคอมมิวนิสต์ คนจนเป็นได้แค่แรงงานราคาถูก ใช้งาน ทั้งวันทั้งคืน แต่เงินส่วนใหญ่เข้ารัฐเพราะพวกนายทุนต้องจ่ายค่าต่าง ๆ ให้รัฐ แล้วมากดค่าแรงกับคนงาน จากคุณ : ซิมเปิ้ลแมน เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 55 21:25:56

ความคิดเห็นที่ 84 สุดท้าย จีนคงได้หมู่เกาะสแปรตลี่ยไปครองแน่ โอ้ น้ำมันเอย ก๊าซเอย อาเซียนคงได้แต่มองตาปริบๆ จากคุณ : เบิ้ม ดินแดง เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 14:04:35 A:115.87.98.226 X: TicketID:355439

ความคิดเห็นที่ 85 ^ ^ ^ ไม่ง่ายอย่างนั้นหรอกครับ อาเซียนก็อาศัยเมกาหนุนหลังให้อยู่ ไม่งั้นจีนได้กินไปนานแล้ว จากคุณ : kaiwe เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 16:27:31

ความคิดเห็นที่ 86 ทำไม ไม่มองอินเดีย ที่มาเอาเกาะนิโครบา กับหมู่เกาะอันดามัน ใกล้พม่า ติดแดนถึงขนาดนั้น ย้อนหลังคือถ้าจีนไม่โดนฝรั่ง+ญุี่ปุ่นรุมอัด ตามด้วยอเมริกาหลังสงครามโลก ที่เล่นปิดล้อมจีน ดันให้ศัตรูคู่สงครามที่แพ้(ญี่ปุ่น) กินบรรดาเกาะเล็กเกาะน้อยไปจนแทบจะเกยหาดประเทศจีนก็ว่าได้ ถามว่ามองตามแผนที่หมู่เกาะพาราเซลนั่นอยู่ใต้ ถัดจากเกาะไต้หวันหน่อย ส่วนเกาะสแปรตลี่ก็ไกลจากเวียตนามมาก ทำไมเวียตนามยังอ้างการครอบครองได้ แล้วจีนที่คืนสถานะแห่งอำนาจ ที่ประเทศใหญ่พึงมี จะขอเอี่ยวตามหลักธรรมชาติของชาติใหญ่ มันน่าเกลียดตรงไหน ซึ่งการขัดแย้งก็ตามมาซึ่งการต่อรองผลประโยชน์ เป็นเรื่องธรรมดา ซึ่งดีกว่าการวิงวอนร้องขอ ซึ่งความขัดแย้งทั้งสิ้นทั้งมวล มันอยู่ในขั้นตอน "นั่นของตู-ไม่งั้นขอแบ่งให้ตูมั่ง" เป็นธรรมชาติเป็นธรรมดาของประเทศต่างๆ แต่อาจมีบางประเทศที่ประชากร ออกจะติดนิสัย กินแทะบ้านเมืองตนเอง ซึ่งก็กำลังมองแผนที่อยู่ว่าประเทศนี้อยู่แถวไหน  และยอมสารภาพว่าจริงแอบเชียร์ๆเวียตนาม เพราะเขาเก่ง สู้ยิบตา ฉกเก่งถ้าไอ้คนอื่นเผลอ ตอนนี้ต้องเพิ่มฟิลิปปินส์อีก ที่จะเป็นหมากตัวสำคัญ ที่มะกันจะใช้แหย่จีน แต่เขาทุกชาติก็ต้องสู้เพื่อผลประโยชน์ตนเอง เพราะมันถูกต้อง ก็จีนมัวหลับ เป็นยักษ์หลับทำไมล่ะ ตื่นมาทีหลังก็แบ่งกันกิน แบ่งกันใช้ดีกว่า ไม่งั้นเดี๋ยวจะรุมให้สลบต่อ และต้องดูอาร์เจนติน่ากับเกาะฟอล์คแลนด์ด้วย ทำไมเขาต้องอ้างสิทธิ์และต่อสู้เอาจากอังกฤษ ก็เพราะเขาคิดว่าเขาควรมีสิทธิ์ มันน่าเกลียดไหม ที่จะบอกญี่ปุ่น ให้เรียกร้อง อ้างสิทธิ์เอา เกาะกวม ฮายวาย จากสหรัฐ เพราะมันใกล้ญี่ปุ่นมากกว่า จากคุณ : คนดั่ง...มดงาน เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 22:30:33

ความคิดเห็นที่ 87 สุดยอด  ครับ  เครื่องบินจากจีน    แต่รูปน่างความสวยงามยังสู้เมกาไม่ใด้ เป็นรองนิดๆ บางลำก้อรองหน่อยๆ   ตอนนี้ก็คงต้องดูว่า สินค้าเครื่องบินจากจีนจะเหมือนๆกับ   สินค้าที่เอามาขายในเมืองไทยรือเปล่าน๊ะ  555 อย่างที่รู้ๆกัน  พอบอกว่ามาจากจีนแดง แค่เนี่ยย    รู้กันไม่ต้องคุยไรมากเรื่องคุณภาพ  เพราะราคามันชิวๆๆบอกตัวมันเองอยู่แล้วว  5555 จากคุณ : RANGER-SUPER64 เขียนเมื่อ : วันมหาสงกรานต์ 55 00:31:51

ความคิดเห็นที่ 88 น้องไทยน่าจะเอาอย่างพี่จีนบ้าง จากคุณ : ตำไทยเปรี้ยวหวาน เขียนเมื่อ : วันมหาสงกรานต์ 55 08:34:35

ความคิดเห็นที่ 89 ^ ไม่ได้ครับ ไทยเราเป็นชนชาติชั้นสูงศิวิไลซ์ พวกเรามีศักดิ์ศรีและประนามการละเมิดลิขสิทธิ์ครับ ส่วนการซื้อนั้นก็คุ้มกว่าการผลิตเองครับ (อันนี้นายทหารระดับสูงเขาบอกมา) จากคุณ : จอมยุทธตะเกียบคู่ เขียนเมื่อ : วันมหาสงกรานต์ 55 09:42:37

ความคิดเห็นที่ 90 ก็ถูกนี่ครับ คุ้มกว่าผลิตเอง งบซื้อ ไม่กี่พันล้านนะครับ งบผลิตวิจัยอาจจะเป็นแสนล้านก็ได้ เราไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้เงินมากมายขนาดนั้นเพื่อผลิตอาวุธ รื่องลิขสิทธิ์ ถ้าคุณเป็นศิลปิน คนเขียนโปรแกรมออกขายคุณจะรู้ครับ ตอนนี้บริษัที่ผมทำอยู่ก็ผลิตโปรแกรมครับ แต่ไม่ขายคนไทย เพราะกลัวโดนก้อปนี่หละ จากคุณ : นฤมลประการ เขียนเมื่อ : วันมหาสงกรานต์ 55 15:05:55

ความคิดเห็นที่ 91 อันนี้... จากเอกสาร... ของจีน... เมื่อ..... 40  ปี  ที่แล้ว... ที่อยู่ในบ้าน ของผม... แก้ไขเมื่อ 13 เม.ย. 55 20:52:47 จากคุณ : นาย หุ้น n-park (prince-npark) เขียนเมื่อ : วันมหาสงกรานต์ 55 20:51:43

ความคิดเห็นที่ 92 รบกับไอ้กัน สองชั่วโมง ทหารไอ้กันก้อกิน Breakfast ที่ปักกิ่งแล้ว จากคุณ : Grasshopper เขียนเมื่อ : วันเถลิงศก 55 10:45:34

ความคิดเห็นที่ 93 ผมเคยแสดงไอเดียไว้ว่า พวกแอนตี้จีน มักจะไร้สมอง ไม่มีเหตุผล คุณตั๊กแตนช่วยมายืนยัน ท ผมอีกแล้ว ขอบคุณครับ จากคุณ : ขอเอาชื่ออากงเป็นเดิมพัน เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 15:26:16

ความคิดเห็นที่ 94 //lavi และ J10 อาจไม่มีไรเกี่ยวข้องกัน หรือมี ก็มีน้อยมาก เตรียมทำลายความเชื่อเดิมๆ กับ J10B Thread เรื่องราว ข้อมูลเชิงลึก ที่คุณไม่เคยรู้มาก่อน// (โฆษนาชวนเชื่อ ใว้ก่อน) เร็วๆ นี้พบกัน (ไม่รู้เมื่อไร) จากคุณ : red_c เขียนเมื่อ : 17 เม.ย. 55 13:50:51 A:171.7.143.45 X: TicketID:255467