ความคิดเห็นที่ 1 สาเหตุ เกิดจากการกลายพันธุ์ของโปรตีนที่ชื่อว่า PrPC กลายเป็นโปรตีนที่มีชื่อว่า"พรีออน" (Prion-PrPSC) ซึ่งถูกค้นพบโดย Stanley Prusiner ในปี ค.ศ.1982 โดยชื่อ พรีออน (Prion) มาจากคำว่า proteinaceous infection agent รวมกับคำว่า on เป็นคำลงท้ายหมายถึง อนุภาค (particle)   การค้นพบพรีออนทำให้เขาได้รับรางวัลโนเบลใน ค.ศ. 1987 โปรตีนพรีออนจะเพิ่มปริมาณขึ้นและทำลายสมองส่วนไฮโพทาลามัสซึ่งควบคุมเรื่องการนอนหลับ รูปโครงสร้างของพรีออน (PrPSC) ****************************************************** แก้ไขเมื่อ 09 เม.ย. 55 16:19:41 แก้ไขเมื่อ 09 เม.ย. 55 16:01:47 แก้ไขเมื่อ 09 เม.ย. 55 13:56:50 จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 13:54:55

ความคิดเห็นที่ 2 พรีออน อนุภาคก่อโรคติดเชื้อประหลาด แต่เดิมนั้น เรารู้จักจุลชีพ (micro-organism) ที่ก่อโรคติดต่อ คือ แบคทีเรีย ไวรัส รา พยาธิ  ต่อมาก็มีคำเพิ่มขึ้นมาอีกคือคำว่า ไวรอยด์ (viroid) หมายความว่า คล้ายกับไวรัส ซึ่งในช่วงระยะเวลาประมาณ10 ปีที่ผ่านมานี้ มีคำที่บัญญัติขึ้นมาคำใหม่คำหนึ่ง คือ "พรีออน" (prion) อนุภาคที่มีขนาดเล็กมาก ๆ ที่เรียกว่า "ไวรัส" นั้นจะประกอบไปด้วย กรดนิวคลิอิก ซึ่งอาจเป็นชนิด ดีเอ็นเอ (DNA) หรือชนิด อาร์เอ็นเอ (RNA) เป็นแกนกลาง มีโปรตีนหุ้มอยู่โดยรอบ และอาจมีไกลโคโปรตีน (glycoprotein) เป็นเปลือกหุ้มภายนอกอีกชั้นหนึ่ง หรือไม่มีก็ได้ อนุภาคนี้จะเพิ่มจำนวนได้ภายในเซลล์ บางชนิดก็อาจก่อโรคได้ บางชนิดไม่อาจก่อโรคได้ บางชนิดก็ก่อโรคเฉพาะในสัตว์ แมลง พืช เป็นต้น ส่วนอนุภาคที่เรียกว่า ไวรอยด์ ซึ่งแปลว่า คล้ายไวรัส หมายถึง อนุภาคที่ทำให้ติดเชื้อได้ชนิดหนึ่ง มีเฉพาะกรดนิวคลิอิก แต่ไม่มีโปรตีนหุ้มภายนอกอีกชั้นหนึ่ง ส่วนมากจะทำให้เกิดการติดเชื้อและก่อโรคในพืช ส่วนคำที่เรียกว่า "พรีออน" นั้น เป็นอนุภาคที่มีขนาดเล็กมาก ซึ่งไม่ใช่จุลชีพ เพราะพบแต่เพียงส่วนประกอบที่เป็นโปรตีนเท่านั้น หรือถ้าจะเป็นกรดนิวคลิอิกก็มีแต่เพียงน้อยนิด ซึ่งจะถูกห่อหุ้มไว้อย่างแน่นหนา ทำให้ตรวจไม่พบกรดนิวคลิอิกดังกล่าว ไม่พบทั้ง ๆ ที่มีอยู่บ้าง ใน คศ. 1920 มีนักวิทยาศาสตร์ 2 ท่านซึ่งอยู่คนละประเทศคือ Hans Gerhad Creutzfeld และ Alfons Maria Jakob สังเกตุและรายงานการพบโรคพร้อมๆกัน โรคนี้มีการทำลายสมองของผู้ป่วยอย่างช้าๆ กินเวลานานหลายเดือนหรือหลายปี อาการที่พบคือ สติปัญญาเสื่อมลง ควบคุมการเคลื่อนไหวลำบากและเสียชีวิตในที่สุด พบลักษณะพยาธิสภาพคือเนื้อสมองจะมีรูพรุนคล้ายฟองน้ำ (spongiform encephalopathy) ปัจจุบันโรคนี้มีชื่อว่า Creutzfeld-Jakob Disease (CJD)  ซึ่งพบปรากฎทั่วโลกในอัตราประมาณ 1 ในล้านของประชากร นอกจากโรค CJD ยังเคยมีรายงานโรคที่มีลักษณะคล้ายกันมากในปี ค.ศ. 1957 ชื่อว่าโรคKuru พบในชาวพื้นเมือง Papua New Guinea ซึ่งมีอาการของการเสื่อมสภาพของระบบประสาทส่วนกลาง สูญเสียการควบคุมการเคลื่อนไหว มีอาการสั่น เดินโซเซไม่สามารถพยุงตัวได้ พูดไม่ได้ และเสียชีวิตในเวลาประมาณ 1 ปีหลังเริ่มแสดงอาการ โรค Kuru ติดต่อกันในมนุษย์กินคนซึ่งติดเชื้อจากการกินเนื้อสมองของผู้ที่เป็นโรคเข้าไป   ในมนุษย์ยังมีโรค fatal family insomnia ซึ่งมีอาการนอนไม่หลับและวิกลจริต และอีกโรคหนึ่งชื่อโรค  Gerstmann-Strussler-Sheinker disease (GSSD) ซึ่งผู่ป่วยมีอาการ ataxia และเนื้อสมองถูกทำลายเป็นรูพรุนคล้ายฟองน้ำเช่นเดียวกับโรค CJD สำหรับในสัตว์พบโรค Scrapie ในแพะและแกะ, โรควัวบ้า (Mad cow Disease) ซึ่งเรียกอีกชื่อว่าโรค Bovine spongifarm encepha lopathy (BSE) ในวัว ซึ่งเกิดการระบาดในประเทศอังกฤษและติดต่อมายังผู้ที่รับประทานเนื้อวัวที่เป็นโรคเข้าไป   โรค feline spongiform encephalopathy  ในแมว, โรค chronic wasting disease ในกวาง, โรค transmissible mink encephalopathy ในตัวมิงค์ (mink) รูปโปรตีนพรีออน แก้ไขเมื่อ 09 เม.ย. 55 13:56:21 จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 13:55:56

ความคิดเห็นที่ 3 พรีออน (Prion) - โปรตีนมรณะ พรีออนมีคุณสมบัติดังนี้ 1. มีส่วนประกอบเป็นโปรตีนอย่างเดียว ไม่มีกรดนิวคลิอิก 2. มีความทนทานต่ออุณหภูมิสูง 90 องศาเซลเซียส ซึ่งทำลายไวรัสได้ 3. มีความทนทานต่อรังสีซึ่งทำลายยีโนมของไวรัสได้ 4. ไม่ถูกย่อยทำลายโดยเอ็นซัยม์ที่ย่อย DNA และ RNA ได้ 5. ถูกทำลายได้โดยสารเคมีและเอ็นซัยม์ที่ทำลายโปรตีนเช่นฟีนอล, ยูเรีย, SDS, trypsin, proteinase K Prusiner และนักวิจัยอื่นๆพบว่าพรีออนเป็นโปรตีนปกติที่พบว่าสร้างจากยีนของมนุษย์และสัตว์ ถ้าอยู่ในรูปปกติ (alpha helix) จะไม่ก่อโรคใดๆ โปรตีนนี้พบในเซลล์สมองและเซลล์หลายชนิด โปรตีนพรีออนปกติเรียก cellular prion protein (PrPC )  เมื่อเกิดจากการผ่าเหล่าของยีนที่ควบคุมการสร้างโปรตีน PrPC ทำให้การจัดเรียงของกรดอะมิโนม้วนตัวผิดพลาด (fold incorrectly) เปลี่ยนเป็นรูป beta sheet plate โปรตีนของพรีออนที่ก่อโรคที่แยกได้จากสมองแกะเป็นโรค เรียกว่า scrapie prion protein (PrPSC) ซึ่งถือว่าเป็นต้นแบบในการศึกษาเรื่องพรีออนมีการเรียงม้วนตัวผิดเป็นรูป beta sheet plate เช่นเดียวกัน PrPSC ซึ่งมีการ สะสมอยู่ภายในเซลล์จะรวมตัวกันเป็นไฟเบอร์ (Fibers) เล็กๆ หรือไฟบริน (Fibrils) เนื่องจากไฟบรินทำให้การจัดตัวของเซลล์เมมเบรนและผนัง lysosome ผิดพลาด ทำให้เกิดการแตกสลายของเซลล์หรือผนัง lysosome และปลดปล่อยเอ็นซัยม์ออกมาย่อยทำให้เซลล์ตาย และเนื้อสมองเป็นรูพรุนคล้ายฟองน้ำ   การติดโรคเกิดจากการได้รับพรีออน PrPSC เข้ามาจะกระตุ้นเป็นปฏิกิริยาลูกโซ่และทำให้โปรตีนปกติ PrPCเกิดการม้วนตัวผิดพลาดเปลี่ยนจากรูป alpha helix เป็นรูป beta sheet plate ซึ่งผิดปกติและก่อให้เกิดอาการโรคเกิดขึ้น  ในการแพร่ระบาดของโรควัวบ้าใน ค.ศ. 1990 เกิดจากการให้อาหารวัวที่ผสมเนื้อแกะและกระดูกบดจากสัตว์ที่เป็นโรค scrapie และมีเชื้อพรีออนอยู่   เมื่อทางการอังกฤษสั่งห้ามการใช้เนื้อสัตว์และกระดูกสัตว์อื่นผสมกับอาหารวัว การเกิดโรควัวบ้าก็ลดลง   ในการทดลองฉีดโปรตีนพรีออน (PrPSC )เข้าในสัตว์ทดลองเช่นหนูและลิง พบว่าทำให้สัตว์ทดลองป่วยเป็นโรคได้เช่นกัน ภาพเนื้อเยื่อสมองของสัตว์ที่เป็นรูพรุนจากพรีออน จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 13:58:31

ความคิดเห็นที่ 4 การเพิ่มจำนวนของพรีออน (Prion-PrPSC) ในเซลล์และการก่อโรค ในตอนแรกนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าสาเหตุของโรควัวบ้านั้นมาจากเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรีย แต่ต่อมาเมื่อมีการค้นพบโปรตีนมรณะที่ชื่อว่าพรีออน ทำให้พวกเขาเข้าใจถึงสาเหตุการเกิดโรคที่แท้จริง แต่นักวิทยาศาสตร์ก็ยังไม่อาจหาสาเหตุได้ว่าเหตุใดพรีออนสามารถเพิ่มจำนวนได้ด้วยตัวเอง ทั้งๆที่มันไม่สามารถแบ่งตัวได้แบบไวรัสหรือแบคทีเรีย ปกติ PrPC จะถูกสร้างออกมาจากเซลล์ตลอดเวลาอยู่แล้ว โดย PrPC จะเป็น integral membrane protein ที่เกาะกับ เซลล์ ด้วย GPI anchor ซึ่งจะทำหน้าที่ส่งสัญญาณเข้าเซลล์ปกติและไม่ก่อโรค แต่เมื่อร่างกายได้รับ PrPSC ที่จะกระตุ้น PrPC ให้กลายเป็น PrPSC อันเป็นฟอร์มที่ก่อให้เกิดโรค โดยโครงสร้างโปรตีนทุติยภูมิจากอัลฟ่าเฮลิกซ์ เปลี่ยนไปเป็น เบต้าชีท ทำให้โปรตีนไม่ละลายน้ำ และไม่สามารถถูกย่อยสลายได้โดยเอนไซม์ protease ดังนั้นจึงเกิดการสะสมของโปรตีนที่ภายนอกเซลล์เป็นขั้นแรก และ เนื่องจากPrPC นี้ ปกติ ทำหน้าที่ส่งสัญญาณเข้าไปในเซลล์ เมื่อโปรตีนนี้เปลี่ยนรูปไป ทำให้สัญญาณที่ส่งเข้าไปในเซลล์ผิดแปลกไปด้วย สัญญาณที่ผิดนี้มีผลอย่างหนึ่งในเซลล์คือทำให้เกิดการสะสมของโปรตีนนี้ในเซลล์ด้วยเช่นกัน โดยเริ่มที่ ไลโซไซม์ (Lysosyme) แล้วจับกับ โปรตีโอไกลแคน ชื่อ เฮพารินซัลเฟต กลายเป็น ร่างแหโปรตีน และ กลายเป็น plaque และเมื่อรวมกับ สัญญาณอื่นๆ ที่ผิดปกติไป ก็จะทำให้เซลล์ดำเนินการฆ่าตัวตาย (Apoptosis) อันทำให้เซลล์ประสาทนี้สลายไป ซึ่งถ้ามีจำนวนมาก จะทำให้หน้าที่ของสมองผิดปกติไป และ สามารถเห็นได้จากเนื้อเยื่อสมองว่า เนื้อสมองเป็นรูอย่างฟองน้ำ เป็นที่น่าสังเกตว่า เพียง PrPSC ไม่สามารถก่อโรค (ทำลายเซลล์) ได้ มันต้องการ PrPC ของสิ่งมีชีวิตเสมอ ซึ่งเป็นการให้สัญญาณต่อเซลล์ที่ผิดไป (Chesebro et. al., 2005) ดังนั้นการศึกษาเพื่อรู้หน้าที่ของ PrPC ในเซลล์จึงเป็นสิ่งที่น่าสนใจ ซึ่งหน้าที่ของมันที่พอจะคาดเดาได้ในขณะนี้ (พ.ศ. 2550) คือ เป็นสารช่วยการเติบโต (growth factor)ของ เซลล์ประสาท และ เซลล์เม็ดเลือด (haemopoietic stem cells) (Couzin J.,2006) ส่วนกลไกการเปลี่ยน จาก PrPC เป็น PrPSC มีหลายโมเดล แต่ที่เชื่อกันคือการก่อแบบกระตุ้นทีละเยอะๆ (Seeding model) คือการสะสมทีละนิดๆของ PrPSC ในเซลล์ (seed) แล้วกลุ่ม PrPSC เมื่อมีจำนวนพอก็ไปเหนี่ยวนำให้PrPC ที่ปกติเปลี่ยนเป็นPrPSC ที่ไม่ปกติ ได้เป็นจำนวนทีละมากๆในเวลาอันรวดเร็ว อย่างไรก็ตามยังต้องทำการวิจัยต่อไปว่าพรีออนเพิ่มจำนวนในเซลล์ด้วยวิธีการใด แก้ไขเมื่อ 09 เม.ย. 55 16:05:26 จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 13:59:15

ความคิดเห็นที่ 5 อาการ อาการหลักของโรคนี้คือ"อาการนอนไม่หลับ"  ซึ่งจะทำให้มีอาการชีพจรเต้นเร็ว, ความดันโลหิตเพิ่มสูงขึ้น, เหงื่ออกมากผิดปกติ, ภาวะสูญเสียการประสานงานของกล้ามเนื้อและควบคุมการเคลื่อนไหว โดยอาการของโรคจะแบ่งออกเป็น 4 ระยะดังต่อไปนี้ ระยะที่ 1 อาการนอนไม่หลับจะปรากฎขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ ทำให้ผู้ป่วยเกิดอาการตกใจกลัวและเสียขวัญ รวมทั้งมีอาการหวาดกลัวและอาการหวาดวิตกต่างๆ ระยะนี้กินเวลาประมาณ 4 เดือน ระยะที่ 2 อาการหวาดวิตกและอาการหวาดกลัวเริ่มรุนแรงขึ้น ผู้ป่วยเริ่มเห็นภาพหลอน อันเป็นผลมาจากการนอนไม่หลับอย่างต่อเนื่อง ระยะนี้กินเวลาประมาณ 5 เดือน ระยะที่ 3 น้ำหนักตัวผู้ป่วยเริ่มลดลง ผู้ป่วยเริ่มสูญเสียการควบคุมตัวเอง เช่น เสียการทรงตัวทำให้เดินไม่ได้, สูญเสียความสามารถในการประสานการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อ อันเป็นผลมาจากอาการนอนไม่หลับอย่างสมบูรณ์ ระยะนี้กินเวลาประมาณ 3 เดือน ระยะที่ 4 ผู้ป่วยต้องทุกข์ทรมานจากกลุ่มอาการสมองเสื่อม (Dementia) ซึ่งเป็นกลุ่มอาการต่างๆ ซึ่งเกิดขึ้นจากการทำงานของสมองที่เสื่อมลง อาการที่พบได้บ่อยคือ ผู้ป่วยจะสูญเสียความสามารถในด้านที่เกี่ยวกับความจำ  การใช้ความคิด และการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ นอกจากนี้ยังพบว่า มีการเปลี่ยนแปลงของบุคลิกภาพร่วมด้วยได้ เช่น หงุดหงิดง่าย  เฉื่อยชา หรือเมินเฉย เป็นต้น การเสื่อมของสมองนี้ จะเป็นไปอย่างต่อเนื่องเรื่อยๆ ซึ่งในที่สุดก็จะส่งผลกระทบต่อ การดำรงชีวิตประจำวัน ทั้งในด้านอาชีพการงาน และชีวิตส่วนตัว ภาวะสมองเสื่อมจะทำให้ผู้ป่วยเกิดอาการหลงๆลืมๆ อาการหลงลืมจะเป็นไปอย่างต่อเนื่องและมากขึ้นเรื่อยๆ และจะจำเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นไม่ได้เลย ไม่เพียงแต่จำรายละเอียดของเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นไม่ได้เท่านั้น ผู้ป่วยจะจำเรื่องราวที่เพิ่งเกิดขึ้นไม่ได้เลย รวมทั้งสิ่งที่ตัวเองกระทำเองลงไปด้วย และถ้าเป็นมากขึ้นเรื่อยๆ คนผู้นั้นอาจจำไม่ได้ว่าใส่เสื้ออย่างไร อาบน้ำอย่างไร หรือแม้กระทั่งไม่สามารถพูดได้เป็นประโยค ต่อมาผู้ป่วยจะไม่ตอบสนองต่อสิ่งกระตุ้นใดๆ ระยะนี้กินเวลาประมาณ 6 เดือน หลังจากนั้นผู้ป่วยจะเข้าสู่ภาวะโคม่าและเสียชีวิตในที่สุด โดยเนื้อสมองของผู้ป่วยจะถูกทำลาย รูปร่างสมองจะผิดรูปทั้งสมอง (atrophic) ขณะที่โรคอื่นจะไม่เป็นทั้งสมองแบบนี้ เพราะพรีออนไปเพิ่มจำนวนมากแพร่กระจายทั่วทั้งสมองทำให้เซลล์สมองโป่งเต็มไปด้วยของเหลว เมื่อดูลักษณะเซลล์แล้วเป็นรูพรุนคล้ายฟองน้ำ (spongioform encephalitis) เมื่อทิ้งไว้ก็จะพบว่าโปรตีนเหล่านั้นจับกันเป็นร่างแหอะไมลอยด์ เป็นก้อนในสมอง ซึ่งจะทำให้เนื้อสมองโดนทำลาย ผู้ป่วยก็จะมีอาการหลังเซลล์สมองโดยทำลายต่างๆกันไป เช่น ปวดหัว ไม่สามารถควบคุมร่างกายได้ หรือ กระทั่งความจำเสื่อม และถึงแก่ชีวิตในที่สุด โดยอาการแม้จะคล้ายกับโรคทางสมองอื่นๆและเกิดค่อนข้างช้าเพราะใช้เวลาฟักตัวนาน แต่เมื่อมีอาการแล้วอาการจะพัฒนาอย่างรวดเร็ว ภาพกราฟแสดงกลไกการนอนหลับ ซึ่ง Stage 4 คือช่วงที่สำคัญที่สุดของการนอน แต่ผู้ป่วยโรค FFI จะสามารถนอนหลับได้ไม่เกิน Stage 1 เท่านั้น จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 14:01:27

ความคิดเห็นที่ 6 การรักษา ไม่มียาหรือวิธีการรักษาในผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้ อัตราการเสียชีวิต 100% ยานอนหลับชนิดเม็ดหรือยานอนหลับชนิด Barbiturates (บาร์บิทูเรตส์) ไม่สามารถช่วยอะไรได้ ซ้ำยังทำให้อาการของโรคดำเนินอย่างรวดเร็วและรุนแรงขึ้นกว่าเดิม ผู้ป่วยที่เริ่มมีอาการของโรคมักจะมีอายุเฉลี่ยที่ 40 - 50 ปีขึ้นไป และผู้ป่วยส่วนมากมักจะยินยอมให้แพทย์ใช้ตัวเองเป็นตัวอย่างในงานวิจัยเพื่อค้นหาวิธีการรักษาในอนาคตก่อนที่ตัวเองจะเสียชีวิต แก้ไขเมื่อ 09 เม.ย. 55 14:43:04 จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 14:02:10

ความคิดเห็นที่ 7 คลิปวิดีโอสารคดีเกี่ยวกับโรคนอนไม่หลับถึงตาย นาทีที่ 3.56 - 6.08 จะมี case study จริงของผู้ป่วยโรคนี้ให้ดูครับ จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 14:03:46

ความคิดเห็นที่ 8 ภาพเนื้อเยื่อสมองของผู้ป่วยโรค FFI ส่วนที่เป็นสีดำ คือ กลุ่มของโปรตีนพรีออน จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 14:04:32

ความคิดเห็นที่ 9 ภาพเนื้อเยื่อสมองของผู้ป่วยโรค FFI จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 14:05:35

ความคิดเห็นที่ 10 ภาพเนื้อเยื่อสมองที่เป็นรูพรุนของผู้ป่วยโรค FFI จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 14:06:02

ความคิดเห็นที่ 11 Reference Links : [1] http://www.world-of-lucid-dreaming.com/fatal-familial-insomnia.html [2] http://www.world-of-lucid-dreaming.com/the-man-who-never-slept.html [3] http://tumentalclinic.ไม่อนุญาตให้โฆษณา/reviews/item/23 [4] http://www.expert2you.com/view_article.php?art_id=3886 [5] http://microbio.fateback.com/prions.htm [6] http://www.royin.go.th/th/knowledge/detail.php?ID=860 [7] http://knowledge.eduzones.com/knowledge-2-5-48986.html [8] http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%99 [9] http://en.wikipedia.org/wiki/Fatal_familial_insomnia จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 14:06:29

ความคิดเห็นที่ 12 ปาดดดดด  ไม่ทัน จากคุณ : TheFlow เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 15:04:36

ความคิดเห็นที่ 13 พรีออน นี่มีแบบเดียวหรือหลายๆ แบบครับ ใช่แบบเดียวกับที่ทำให้เกิดโรควัวบ้าหรือปล่าว? จากคุณ : aonesung เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 16:11:53

ความคิดเห็นที่ 14 แง่ม จากคุณ : นิว ชะลาล่า เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 16:16:47

ความคิดเห็นที่ 15 #13 เป็นแบบเดียวกันครับ พรีออนในโรควัวบ้าสามารถติดต่อสู่มนุษย์ได้ด้วยการบริโภคส่วนหนึ่งส่วนใดของวัว ไม่ว่าจะปรุงสุกหรือไม่สุก (ความร้อนจากการทำอาหารทำลายพรีออนไม่ได้ เพราะพรีออนทนอุณหภูมิได้ > 90 C.) พรีออนพบได้ทั้งในกระดูก-เนื้อ-ไขมันและนมของวัวที่เป็นโรควัวบ้า ส่วนในคนที่เป็นโรค FFI นั้นก็สามารถติดต่อสู่คนอื่นได้ทางกรรมพันธุ์หรือถ้าเราไปรับประทานเนื้อหรือเเลือดของคนที่เป็นก็สามารถติดโรคได้ครับ หรือไม่ก็สามารถติดต่อได้จากทางเลือดหรือสารคัดหลั่งคล้ายๆกับ HIV ครับ แก้ไขเมื่อ 09 เม.ย. 55 18:10:16 จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 9 เม.ย. 55 16:26:24

ความคิดเห็นที่ 16 น่ากลัวแฮะโรคนี้ จากคุณ : ElinTyne เขียนเมื่อ : 10 เม.ย. 55 00:42:04

ความคิดเห็นที่ 17 อัตราการเสียชีวิต100%เลย น่าสงสารจังค่ะ T_T จากคุณ : ice_ngungi เขียนเมื่อ : 10 เม.ย. 55 01:41:29

ความคิดเห็นที่ 18 คือถ้าเป็นแล้วก็ไม่รอดสินะคะ น่ากลัว.. ไม่อยากกินเนื้อวัวแล้ว.. แต่ประเทศที่อยู่ตอนนี้ดันกินเนื้อวัวกันเป็นล่ำเป็นสันซะด้วยสิ (เคยมีโรควัวบ้าระบาดด้วย) (TT___TT) จากคุณ : สร้างความชื่นชู ณ รูสะมิแลฯ เขียนเมื่อ : 10 เม.ย. 55 01:52:31

ความคิดเห็นที่ 19 ห๊ะๆ  ชอบกินเนื้ออยู่พอดี   แถมปรกติก็ไม่ค่อยนอนอยู่แล้ว 2 วัน  ถึงจะหลับทีนึง รึว่าผมจะเป็นหว่า จากคุณ : นั่งกินลมชมวิว เขียนเมื่อ : 10 เม.ย. 55 06:26:52

ความคิดเห็นที่ 20 น่ากลัวแฮะ จากคุณ : sillfai เขียนเมื่อ : 10 เม.ย. 55 08:33:50

ความคิดเห็นที่ 21 ผมอ่านพลาดอะไรไปป่าวอ่ะครับตกลงมันชื่อโรค FFI หรือ CJD หรือมันเป็นคนละโรคกันหรือยังไงนะครับ หรือว่าถ้าเป็นทางพันธุกรรมเรียก FFI แต่ถ้าตัวโรคที่มีอาการนี้เรียก CJD ??? จากคุณ : zeralf (zeralf) เขียนเมื่อ : 10 เม.ย. 55 11:30:57

ความคิดเห็นที่ 22 #21 FFI กับ CJD มีสาเหตุมาจากโปรตีนพรีออนเหมือนกันครับ แต่ต่างกันตรงที่โรค CJD [โรคครอยซ์เฟลด์-เจคอบ (Creutzfeld-Jakob disease)] นั้นคือโรควัวบ้าที่ติดต่อมาสู่คน ไม่ใช่ว่าอยู่ดีๆจะเป็นขึ้นมาเองแบบ FFI อีกโรคหนึ่งที่อาการเหมือนกับโรค CJD คือโรค Kuru นั้นก็เกิดเพราะโปรตีนพรีออนเหมือนกันแต่ต่างกันตรงที่โรคนี้ติดต่อจากคนสู่คนในชนเผ่ากินคนที่ปาปัวนิวกินี ส่วนโรค FFI นั้นอาการเหมือนกับโรค CJD และ Kuru ครับ แต่เกิดขึ้นเพราะพันธุกรรม ทำให้ยังไม่มีหนทางรักษา และโรคสามารถดำเนินขึ้นเองได้ในครอบครัวหรือเครือญาติที่มีคนป่วยด้วยโรคนี้โดยไม่ต้องรับการติดต่อมาจากใคร แก้ไขเมื่อ 10 เม.ย. 55 11:57:34 จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 10 เม.ย. 55 11:56:53

ความคิดเห็นที่ 23 เนี่ยผมกลัวว่าผมจะเป็นโรคเนี้ย นอนแต่ละทีไม่เคยตรง ไม่เคยพอ จากคุณ : อีกออินึนเด เขียนเมื่อ : 10 เม.ย. 55 12:46:01

ความคิดเห็นที่ 24 น่ากลัวอ่ะ ผมนอนไม่ค่อยเป็นเวลาด้วย จากคุณ : corerid เขียนเมื่อ : 10 เม.ย. 55 16:46:27

ความคิดเห็นที่ 25 ติดตามความรู้ดีๆจากคุณpinspin ตลอด  ขอบคุณหลาย จากคุณ : mangpongja เขียนเมื่อ : 10 เม.ย. 55 18:56:26

ความคิดเห็นที่ 26 ผมว่ามีผมอาการคล้ายๆอยู่นะ แต่คงไม่ใช่หรอกมั้ง เดี๋ยวนี้ก็เป็นกันเยอะแยะ จำพวกนอนกันไม่หลับ ยังไงก็ขอบคุณ สำหรับบทความดีๆนะครับ  :) จากคุณ : Prophat เขียนเมื่อ : 10 เม.ย. 55 19:34:10

ความคิดเห็นที่ 27 เป็นโรคนอนไม่ตื่นค่ะ ไปเรียนไม่ทันเรื่อย ปล.ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆค่ะ จากคุณ : ชนวนกลาง เขียนเมื่อ : 10 เม.ย. 55 19:53:29

ความคิดเห็นที่ 28 เคยเป็นอยู่ช่วงหนึ่งคะ นอนไม่หลับอยู่หลายเดือน จนร่างเพลีย ผอม อารมณ์เหวี่ยงมาก เลยไปหาหมอ เอายานอนหลับมา ก็ดีขึ้น สดชื่น จากคุณ : ซีน่อน เขียนเมื่อ : 10 เม.ย. 55 22:13:53 A:122.155.42.25 X: TicketID:349939

ความคิดเห็นที่ 29 มิน่า !!!...ตูเป็นโรคนี้นี่เอง.... จากคุณ : ton_na_999 เขียนเมื่อ : 10 เม.ย. 55 23:11:29

ความคิดเห็นที่ 30 นึกถึงเรื่อง fight club เหมือนกันค่ะ เค้าเป็นโรคนี้หรือเปล่าไม่รู้ จากคุณ : BrowNie เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 55 01:07:17

ความคิดเห็นที่ 31 เขาไม่ได้ตาย เขาแค่ตื่นจากความฝันเท่านั้นเอง จากคุณ : กระป๋องด๋อย เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 55 11:53:59

ความคิดเห็นที่ 32 เฮ้อ!..โล่งอกว่าเราไม่ได้เป็น เพราะนั่งดูกระทู้อยู่ บางทีก็หลับจนหน้ากระแทกแป้นพิมพ์บ่อยๆ กระแทกที ตื่นที แล้วก็หลับต่อ จากคุณ : ตาบอดสี เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 55 13:26:08

ความคิดเห็นที่ 33 นอนไม่หลับ เพราะพอจะนอนแล้วโดนอะไรไม่รู้ทิ่มเอาจนต้องตื่นทุกที หึหึหึ จากคุณ : Artibest เขียนเมื่อ : 11 เม.ย. 55 19:15:36

ความคิดเห็นที่ 34 นึกถึงกระทู้ที่แล้วของน้อง pinspin ค่ะ ต่อยอดให้พี่ได้อีกหน่อยเลย แต่พี่ยังกังวลเรื่องน้องคนที่พี่เล่าว่าเคยใช้ยาเสพติดแล้วมีอาการเหล่านี้ค่ะ ไม่น่าจะเกิดจาก kuru CJD หรือ FFI แต่เป็นผลจากการที่สมองไม่ได้พักผ่อนเลยไม่ได้เยียวยาสุขภาพและทำลายนาฬิกาชีวิต น้อง pinspin พอจะมีข้อมูลของคนเหล่านี้บ้างไหมคะ น้องเขามีอาการในขั้นที่ 4 ครบถ้วน แต่ว่าไม่เกิดขึ้นตลอดเวลา เป็นห่วงทั้งน้องเขาและเพื่อนรอบข้าง แถมน้องเขาก็ดื้อไม่ยอมรับตัวเอง พบไปรักษาอย่างต่อเนื่องด้วย จากคุณ : นั่นน่ะซิ เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 12:43:17

ความคิดเห็นที่ 35 #34 จำได้ครับ ยังไงผมขอเวลาค้นคว้าหาข้อมูลสักหน่อยนะครับ ยังไงเดี๋ยวผมจะติดต่อไปทางหลังไมค์ หรือถ้ามีข้อมูลมากจนสามารถตั้งเป็นกระทู้ได้ ก็จะได้แบ่งปันความรู้ให้ท่านอื่นๆไปพร้อมกันด้วยเลย จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 17:46:42

ความคิดเห็นที่ 36 สงสัยจะเป็นต้นกำเนิดซอมบี้ จากคุณ : loveouh เขียนเมื่อ : 12 เม.ย. 55 18:32:12

ความคิดเห็นที่ 37 เมื่อคืนก็นอนไม่หลับเลยครับ จากคุณ : หึ เขียนเมื่อ : วันมหาสงกรานต์ 55 11:34:17 A:118.174.1.138 X: TicketID:355514

ความคิดเห็นที่ 38 มานึกๆ อีกที ฟรีอ้อนนี่น่าจะเป็นเหตุหรือเป็นผลจากการนอนไม่หลับนะครับ ผมเองหลายๆครั้งที่งานเครียดๆ ก็นอนไม่หลับเหมือนกัน ฝันอีกต่างหาก แต่ส่วนตัวนะ เวลานั่งสมาธิให้สงบๆ หลับดีเกือบจะทุกทีนะครับ จากคุณ : นะนะ เขียนเมื่อ : วันเนา 55 06:56:19

ความคิดเห็นที่ 39 แล้วเวลาคนไข้ไปตรวจกับหมอ เค้าจะตรวจหาพรีออนเหรอเปล่าครับ? หรือยัดยานอนหลับมาให้เลย แบบนั้นก็ยิ่งตายไวนะซี จากคุณ : นิว ชะลาล่า เขียนเมื่อ : วันเนา 55 13:34:21

ความคิดเห็นที่ 40 ผมกลัวจัง นอนหลับยากเหลือเิกิน ยังคิด ทำไม ผมนอนหลับยากกว่าคนทั่วไป ไหม จากคุณ : lyonheartz เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 55 01:45:48