ความคิดเห็นที่ 1 ผมขอตอบแบบไม่รู้จริงหน่อยนึงนะครับ พอดีผมเพิ่งดูช่อง History เรื่อง TITANIC มา เห็นในสารคดีบอกประมาณว่า มันจะมีช่องกั้นน้ำเค้าเรียกอะไรผมลืมละ ขอโทษด้วยนะครับที่จำมาได้ไม่หมด เค้าบอกว่ามันจะมีช่องกั้นน้ำ 4 ช่อง ถ้าชนจากข้างหน้าอ่ะครับ มันก็จะเข้าช่องแรกใช่ป่ะ แล้วกว่าจะถึงช่องที่ 4 เนี่ย เรือมันก็ยังแล่นต่อไปได้ แล้วเห็นเค้าว่าเป็นการตัดสินใจที่ล่าช้าและผิดของกัปตันด้วย ไม่ยอมสั่งปิดประตูอะไรสักอย่างนี่ละครับ เพราะว่ามีคนอยู่ข้างล่างเยอะเค้าไม่อยากทำแบบนั้น ส่วนอีกข้อนึงก็คือ เค้าไปค้นว่าเรือไททานิคเนี่ยตอนสร้างวัสดุอะไรมันเป็นยังไงบ้าง ปรากฏว่าผมจำไม่ได้อีกแล้ว เค้าเรียกว่าอะไร แบบว่าตัวยึดอะไรสักอย่างนี่ละครับ คือเค้าถามคนที่อยู่ในห้องเครื่อง คนที่รอดชีวิตเค้าบอกว่ากำลังใส่เชื้อเพลิงอะไรนี่ละ ได้ยินเสียงตึงเหมือนขูดๆ แล้วน็อตก็กระเด็นออกมา เค้าเลยไปดูวัสดุตรงนั้น ปรากฏว่าตัวยึดมันใช้เหล็กผสมอะไรนี่ละแค่ 3 แต่มาตราฐานต้อง 4 ก็เลยทำให้ไม่สามารถทนต่อการชนภูเขาน้ำแข็งได้ ทำให้น้ำทะลักเข้ามาจากช่องกั้นน้ำที่ 2 หรือ 3 นี่แหละ จาก 4 ช่อง เลยเสียช่องที่ 1 ไปฟรีๆ ไม่งั้นก็จะแล่นได้นานกว่านี้ แล้วเค้าก็เอาตัวอย่างเรืออื่นมาดู ว่าเรือที่เคยชนจากข้างหน้าแล้วก็ยังแล่นกลับมาเข้าฝั่งได้ เรือแบบนั้นยังทำได้ แต่ไททานิค ที่เป็นเรือที่ไม่มีทางจมได้ กลับจมถ้าเอาหัวเข้าน่าจะไม่จม ปล.ผมดูสารคดีมา จำผิดจำถูก ขออภัยด้วยนะครับ แก้ไขเมื่อ 17 เม.ย. 55 03:17:53 แก้ไขเมื่อ 17 เม.ย. 55 03:14:50 จากคุณ : FrankensteinZ เขียนเมื่อ : 17 เม.ย. 55 02:06:04

ความคิดเห็นที่ 2 กระแทกตรงๆ เสียหายน้อยกว่า แต่ สัญชาติญาณ ส่วนใหญ๋จะบังคับหลบ ถ้าพ้นก็ไม่เสียหาย แต่ถ้าไม่พ้น เจ็บหนักกว่าตรงๆ แก้ไขเมื่อ 17 เม.ย. 55 11:23:23 จากคุณ : WindMaster เขียนเมื่อ : 17 เม.ย. 55 02:46:21

ความคิดเห็นที่ 3 อย่าลืมว่า เรือลำใหญ่ และมี นน. มากๆๆ แม้จะลดความเร็วแล้ว แรงกระแทก จากการชน ก็ยังแรงอยู่ตาม F = ma ประกอบกับมีสมมติฐานที่เพิ่งโผล่มาว่า วัสดุที่ใช้ทำน๊อตยึดเชื่อมท้องเรือเป็นวัสดุที่เกรดไม่ดี ทำให้ทนแรงกระแทกได้ต่ำกว่าเรืออื่นๆ **(โปรดใช้วิจรณาญานในการอ่าน) แก้ไขเมื่อ 17 เม.ย. 55 02:47:37 จากคุณ : DashSanFranCisco เขียนเมื่อ : 17 เม.ย. 55 02:46:59

ความคิดเห็นที่ 4 ผมคิดว่า โดยปกติแล้วไม่มีนายเรือคนไหนคิดที่จะเอาเรือพุ่งชนอะไรหรอกครับ ต้องตัดสินใจหลบทั้งนั้น นั้นคือวิธีที่ดีที่สุดแล้วครับ อีกวิธีคือ สั่งจักรถอยหลังพร้อมเกาสมอไปด้วยเลยครับ แต่ด้วยความเร็วขนาดนั้นประกอบกับไม่ทราบระดับพื้นท้องทะเล เกรงว่าจะช่วยอะไรไม่ได้เลยครับ และผมคคิดว่าหากเอาเรือพุ่งชนก็แทบจะไม่ตากกับเอาข้างสีแบบนั้นสักเท่าไหร่ครับ เผลอๆอาจจะจมทันทีเลยก็ได้ครับ ลองไปหาคลิบเรือโดนกันมาดูครับอันนั้นความเร็วน้อยกว่า แต่รองดูความเสียหายนะครับ เรือโมเมนท์ตัมมันเยอะครับ ไททานิคมันรั่วหนักเพราะน้ำแข็งใต้น้ำครับ ส่วนเรื่องปิดประตูกั้นน้ำในสมัยนั้นพูดยากครับ ขึ้นอยู่กับ จริตของผู้ที่ทำหน้าที่บังคับการเรือขณะนั้นด้วย แต่เพราะบทเรียนจากไททานิค จึงทำให้มีกฎข้อบังคับต่างๆเพิ่มขึ้นมากมาย เช่นSOLASเป็นต้น จากคุณ : by iPhone (HerulayAMG) เขียนเมื่อ : 17 เม.ย. 55 02:50:29

ความคิดเห็นที่ 5 หลายคนบอกว่างั้น ไททานิคถูกออกแบบมาให้ไม่จม ถ้าน้ำท่วมอยู่แค่ 4 จาก 16 ห้องกั้นน้ำหลักชั้นล่างสุดของเรือ แ่ต่ตอนชนภูเขาน้ำแ็ข็งโดนลากยาวไป 5 ถ้ากระแทกใส่เต็มๆอาจจะเสียหาย 1-2 ห้องแรงเท่านั้น และเรือจะไม่จม รึเปล่า? คงไม่มีใครแน่ใจว่าโมเมนตัมมหาศาลของเรือจะทำให้กระดูกงูและโครงสร้างทั้งลำเสียหายมั้ย ถ้ามันเสียหายจะยิ่งจมเร็วขึ้นกว่าเดิมอีก และที่แน่ที่สุดคือคงไม่มีใครเอาเรือพุ่งชนแน่ๆ ต่อให้รู้ว่าชนแล้วอาจจะดีกว่าก็เถอะ... จากคุณ : ECOS (thelegendofm) เขียนเมื่อ : 17 เม.ย. 55 04:00:33

ความคิดเห็นที่ 6 ทำไมมันไม่มีไฟส่งสว่างล่ะครับ ให้เห็นข้างหน้าไกลๆ แม้ว่ามันจะมีแต่น้ำก็ตาม แต่เส้น ทางนั้นมีภูเขาน้ำแข็งเยอะด้วย เขาแล่นเรือทั้งมืดๆอย่างนั้นเหรอ น่าจะคนออกแบบไม่ทันคิด จากคุณ : จ้า เขียนเมื่อ : 17 เม.ย. 55 05:58:11 A:118.172.232.236 X: TicketID:235708

ความคิดเห็นที่ 7 เทคโนโลยียังบ๊วยอยู่ เป็นสมัยนี้คงมีเรดาห์ จากคุณ : Bongza เขียนเมื่อ : 17 เม.ย. 55 07:12:43

ความคิดเห็นที่ 8 สิ่งที่ทำให้จมไม่ใช่ภูเขาน้ำแข็งที่เห็นอยู่พ้นน้ำฮะ ...แต่เป็นส่วนที่อยู่ใต้น้ำ ... กัปตันเบี่ยงหัวเรือเพราะเห็นว่าพ้นได้ ...เค้าก็ไม่อยากให้มันเกิดความเสียหายแม้แต่นิดเดียวหรอกฮะ ...แต่เพราะคิดว่าหักหลบพ้น อาจจะประเมินแค่ว่ากาบเรือเบียดกับภูเขาน้ำแข็ง โดยที่ไม่มีใครสามารถประเมินสิ่งที่อยู่ใต้น้ำได้ ร้อยทั้งร้อยขับรถไปเจอสิ่งกีดขวางตรงหน้าจะมีใครเลือกที่จะใช้วิธีชนเข้าตรงๆ บ้าง ...มีแต่หักหลบกันทั้งนั้น ...แม้แต่วิศวกรรมในยุคปัจจุบัน ยังเลือกที่จะสร้างระบบกันการล็อคตายของเบรค เพื่อให้ผู้ขับมีโอกาส "หักหลบ" แทนที่จะเสริมตัวถังเกราะหน้าให้ชนไม่เลือกได้ ....สมัยไททานิคก็คงไม่มีใครคาดคิดว่าจะออกแบบเรือเพื่อให้กัปตันขับเอาไปพุ่งชนอะไรตรงๆ หรอกฮะ ...และแม้เค้าสามารถบังคับเรือให้กาบเรือส่วนพ้นน้ำไม่มีรอยขีดข่วนได้ ...เค้าก็ยังไม่สามารถประเมินสิ่งที่อยู่ใต้น้ำได้อยู่ดีหละฮะ ... แต่ก็อย่างว่า ...เวลาจะเกิดโศกนาฏกรรมอะไรก็แล้วแต่ ...มักจะต้องใช้เหตุบังเอิญจำนวนมากจริงๆ ถึงจะเกิดเรื่องแบบนี้ได้ ...เค้าเรียกว่า "ถึงคราวซวย" จริงๆ จากคุณ : _K_F_C_ เขียนเมื่อ : 17 เม.ย. 55 08:01:40

ความคิดเห็นที่ 9 ไททานิคท้องเรือแบ่งเป็นห้องๆแยกจากกัน หากเรือรั่วบางห้อง ก็จะมีห้องที่เหลือพยุงไว้ไม่ให้จม จึงกล่าวกันว่าเป็นเรือที่ไม่มีวันจม ที่ว่ากันว่าถ้าชนไททานิคอาจจะไม่จมเพราะห้องท้องเรือที่ชนจะเสียหายไป ๒ ห้อง ห้องที่เหลือยังพยุงตัวไว้ได้ แต่การหักหลบทำให้น้ำแข็งชนรูดกับเรือเป็นทางยาว ทำให้ห้องท้องเรือส่วนหัวเสียหายไปหลายห้องมาก(เทคโนโลยีโลหะสมัยนั้นตามไม่ทัน ที่อุณหภูมิน้ำทะเลต่ำขนาดนั้น เหล็กจะเปราะมาก) สุดท้ายหัวเรือน้ำเข้าจนส่วนส่วนท้ายเรือยกตัว น้ำจากห้องหัวเรือล้นข้ามห้องที่เหลือไปเรื่อยๆ เรือที่ไม่มีวันจมจึงจบตัวเองลงอย่างคาดไม่ถึง ดูจากสารคดีนะครับ จากคุณ : คนรักดาบไทย เขียนเมื่อ : 17 เม.ย. 55 08:14:32

ความคิดเห็นที่ 10 ตัวอย่างข้อโต้แย้งเรื่องวัสดุไม่ได้มาตราฐาน เป็นสาเหตุจริงหรือไม่? The recent survey, analysis and subsequent TV documentary  concerning the riveting of TITANIC seems to be awry. The analysis showed round - or snap - headed rivets used as a single riveted butt joints but countersunk rivets were used in double or treble riveted butts with straps. I believe that theories on the "sub-standard" rivets are based  on inexpert analysis of the riveting joints used. David Hutchings --------------------------------------------------------- A lot has recently been made of the rivets and their quality etc. Not having seen the detail of the riveting joints in question, I cannot make judgement -but if a single riveted example was depicted then this is very suspicious. My own conclusion is that with Titanic making a glancing contact with the ice at something in the order of 20 knots, substantial damage would have occurred whatever the quality of her rivets. The fact that her younger sister Olympic survived into 1935 leads me to believe that there was nothing particularly wrong with the quality of her construction and I wouldn't expect that Titanic, following Olympic just a few months later, would have been materially different. Stephen Payne ------------------------------------------------------- คลิปสัมนา "TITANIC Revisited 1912-2011" Presented by: Dr Stephen M. Payne OBE RDI FRINA FREng The Royal Institution of Naval Architects When RMS Titanic departed from Southampton on 10 April 1912, no one could imagine the drama that would unfold over the next four days. The sinking of the ship was a severe blow to Edwardian prestige and pride and brought into question the rules that regulated passenger ship design, construction and operation. One hundred years on, Dr. Stephen Payne OBE RDI FRINA, past President the Royal Institution of Naval Architects, describes the ship and her loss and compares her to the modern day transatlantic liner Queen Mary 2. http://mfile.akamai.com/23543/wmv/citrixvar.download.akamai.com/23543/www/868/011/4585768137527868011/3-4585768137527868011-132b54199ea.asx แก้ไขเมื่อ 17 เม.ย. 55 09:06:57 จากคุณ : Sgt.Oat เขียนเมื่อ : 17 เม.ย. 55 09:02:16

ความคิดเห็นที่ 11 ดูสารคดีจากทรูเหมือนกัีนได้ข้อสรุปว่า เรือสร้างได้มาตรฐานครับ ออกแบบว่าชลอการจมได้ 2.5 ชม. แต่จมจริงใช้เวลา 3 ชม.  เรือชูชีพและเสื้อชูชีพใช้ได้ครบทุกอันเพราะเรือไม่คะแคงข้างจม   สุดท้ายเขาว่า ไททานิกรักษาชีวิตคนไว้ได้ 700 คน จากที่น่าจะตายมากกว่านี้  และถ้ามีการช่วยชีวิตจากเรือที่มาช่วยเร็วกว่านี้  จะมีคนรอดตายมากขึ้นสาเหตุจากการจมมาจาก  ต้นหนเรือมองไม่เห็นภูเขาน้ำแข็งเนื่องจากทัศนวิสัยแย่  คือมืดมาก   กัปตันเลยเร่งความเร็วเรือเพราะต้นหนไม่ได้แจ้งว่ามีภูเขาขวาง  พอมองเห็นก็เบี่ยงไม่ทันแล้ว   เขาว่าชนแบบนี้สมัยนั้นเป็นเรือลำไหนก็ไม่รอดครับ จากคุณ : E@K เขียนเมื่อ : 17 เม.ย. 55 09:14:13

ความคิดเห็นที่ 12 ถ้าวิเคราะห์ตามที่เจ้าของกระทู้ต้องการ ผมขอวิเคราะห์จากข้อมูลที่มีบางส่วนดังนี้ครับ ตอนไททานิคชนกับภูเขาน้ำแข็งนั้นส่วนหน้าได้ชนเข้ากับภูเขาน้ำแข้ง แต่ส่วนด้านข้างที่เหลือไม่ได้ถูกชน แต่เป็นการครุดกันกับภูเขาน้ำแข็ง ซึ่งตรงนี้เองมันสร้างแรงกดระหว่างตัวเรือกับภูเขาน้ำแข็งอยู่ที่ประมาณ 14000 ปอนด์ ต่อหมุด 1 ตัว ซึ่งหากเป็นการชนกันโดยตรง แรงกดมันจะมากกว่านี้เป็น 2 หรือ 3 เท่าเลยทีเดียว คราวนี้เรามาดูกันที่เรื่องหมุดของเรือไททานิคกันครับ ในสมัยนั้นหมุดตอกเรือจะมีอยู่หลัก ๆ 2 แบบ คือ มุดจากเหล็กกล้าซึ่งมักจะถูกตอกด้วยเครื่องจักร กับมุดเหล็กขึ้นรูป หมุดทั้ง 2 แบบแตกต่างกันที่ความแข็งแรงครับ และส่วนมากหมุดแบบเหล็กกล้านั้นจะตอกโดยคนงานได้ยากจึงนิยมใช้การตอกจากเครื่องจักร และด้วยความที่เครื่องจักรตอกหมุดที่ว่านี้มันไม่สามารถทำงานได้ทุกจุดของตัวเรือ คนงานจึงใช้หมุดเหล็กขึ้นรูปแทนในจุดเหล่านั้น ความแตกต่างของหมุดทั้งสองมีมากเพราะหมุดเหล็กขึ้นรูปจะมีการเติมส่วนผสมของกากแร่เข้าไปในการหล่อหมุดด้วย ซึ่งในสมัยนั้นไม่ได้มีการวัดปริมาณของกากแร่ที่ใช้เติมเข้าไปให้มีอัตราส่วนที่เหมาะสม ทำให้มันมีปริมาณที่มากจนเกินไปและไปสร้างความเปราะบางให้กับตัวหมุดแทน คราวนี้เราลองมาดูถึงผลจากการทดสอบแรงประทะที่หมุดต้องรับดูครับ จากการทดสอบของนักวิทยาศาสตร์ แรงที่เกิดจากการครุดกันของเรือและภูเขาน้ำแข็งถูกวิเคราะห์ว่าน่าจะอยู่ที่ราว ๆ 14000 ปอนด์ ต่อหมุด 1 ตัวตามที่ได้กล่าวไป แต่จากผลการทดสอบ มันทนแรงประทะได้อยู่เพียงแค่ 8000 ปอนด์เท่านั้น ซึ่งยังไม่ถึงแรงที่ถูกกำหนดเอาไว้เลยด้วยซ้ำ ซึ่งมาถึงตรงนี้ หากเป็นจากการชนและครุดจากด้านข้าง มาเป็นการชนจากด้านหน้าโดยตรง แรงที่เกิดขึ้นอาจจะมากถึง 30,000 ปอนด์ หรือ 45,000 ปอนด์ ต่อหมุด 1 ตัวเลยทีเดียวครับ หรือคิดเป็นกิโล ได้ถึง 18,143 กิโลกรัม ซึ่งความเร็วของเรือในขณะนั้นคือ 21 น็อต หรือประมาณ 40 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หากเกิดการชนจากด้านหน้า หมุดที่อยู่ด้านหน้าจะปริแตกทั้งหมด และอาจจะส่งผลไปถึงหมุดด้านข้างจากทั้ง 2 ด้าน ที่ต้องรับแรงเครียดตอนปะทะที่ถูกถ่ายเทแรงชนมายังหมุดเหล่านั้น และประตูกั้นน้ำบางส่วนอาจจะเสียหายก่อนที่น้ำจะเข้าเรือเสียอีกด้วยซ้ำ และนั้นอาจจะทำให้เรือจมลงเร็วกว่าเดิม จากการศึกษาของสถาบันเทคโนโลยี และ มาตรฐานแห่งชาติ ที่วอชิงตัน ดีซี (ANSI) ได้มีการยืนยันว่าแผ่นเหล็กผิวเรือของเรือไททานิคในสมัยนั้นมีความแข็งแรงตามยุคสมัยของมัน มันมีคุณภาพที่ดีและไม่เปราะเลยแม้จะอยู่ในน้ำที่จุดเยือกแข็ง แต่ที่เป็นสาเหตุคือหมุดของมันนั้นเองครับ จากคุณ : hideto b1 เขียนเมื่อ : 17 เม.ย. 55 09:41:21

ความคิดเห็นที่ 13 คห 11 เรืองเจ้าหน้าที่ 2 คนบนหอตรวจการ เลจีนอล ลี กับ เฟร็จ ฟรีต จะว่ากันตามจริง เขาไม่มีความผิดครับ จากการทดสอบของ USCG โดยการเดินเรือที่ความมืดในคืนที่พอ ๆ กับเรือไททานิคจากคำบอกเล่าของผู้รอดชีวิต รวมไปถึงอุณหภูมิและคลื่นที่เหมือนกับไททานิควิ่ง จากการทดสอบ ที่ความเร็ว 21 น็อต เจ้าหน้าที่ USCG (ยามฝั่งสหรัฐ) บอกว่าที่ความเร็วนี้ และอุณหภูมิลบ 7 องศา สายตาคุณจะลดความสามารถในการมองลง เพราะมันจะมีน้ำตาออกมาจากตาคุณเกือบตลอด และตาคุณจะแสบมาก ๆ ด้วยเหมือนกัน และในคืนที่ฟ้ามืดสนิทสายตาของคนจะมองเห็นแค่สี ดำ และ ขาวเท่านั้นที่จะชัดเจนที่สุด แต่ในเวลากลางคืน ภูเขาน้ำแข็งจะมีสีออกมาเป็นสีฟ้า ซึ่งมันไม่ใช่สีที่คุณจะมองเห็นได้ง่าย ๆ จากระยะไกล ๆ ในเวลาแบบนั้น เคยมีคนคิดว่ากล้องส่องทางไกลที่มีอยู่บนเรือไททานิค ทำไมเจ้าหน้าที่ทั้งสองถึงไม่ใช้มันทั้ง ๆ ที่เรือมีอยู่ เจ้าหน้าที่ USCG ได้บอกเรื่องนี้ว่า "มันอาจจะเป็นความผิดของเค้าที่ไม่มีมัน แต่ถึงจะมี กล้องส่องทางไกลก็ช่วยอะไรคุณไม่ได้ในสภาวะนั้น เพราะกล้องส่องทางไกล เราจะส่องมันเมื่อเรารู้จุดที่เราจะมอง แต่ในเวลานั้นหากคุณนำมันไปส่องตรวจการณ์ คุณจะเห็นแค่วงกลมสีดำสองวงเท่านั้น ซึ่งมันจะไม่ช่วยอะไรคุณเลย และจะไปลดพื้นที่การมองของคุณลงไปเปล่า ๆ ครับ" จากคุณ : hideto b1 เขียนเมื่อ : 17 เม.ย. 55 09:55:50

ความคิดเห็นที่ 14 ต้องทิ้งสมอเรือด้านซ้าย แล้วเรือจะดริฟต์ได้ (อ้าวไม่ใช่ห้องเฉลิมไทยเหรอ ) จากคุณ : ดอกต้อยติ่ง เขียนเมื่อ : 17 เม.ย. 55 10:03:32

ความคิดเห็นที่ 15 ผมกลับมาอ่านความคิดเห็นทั้งหมด ผมไม่เข้าใจครับ ทำให้ผมกลับไปนึกถึงคนที่เคยตั้งกระทู้ถามเรื่องการสมมติเอาเรือดำน้ำนิวเคลียร์ไปผลิตกระแสไฟฟ้าให้บ้านจะได้กี่หลัง แล้วมีคนเข้ามาตอบว่า ประชาชนซื้อเรือดำน้ำนิวเคลียร์ไม่ได้ ,จะเอาเรือดำน้ำนิวเคลียร์ที่ไหนมาทดลอง ****************** อย่างกระทู้นี้ก็เช่นกัน มันเป็นการสมมติ ทำไมต้องตอบไปว่าไม่มีใครทำแบบนั้น  มันเป็นการถามสมมติเหตุการณ์ หรือความเป็นไปได้ของผลที่เกิดเหตุการณ์สมมติ อย่างเช่นมีการถามว่า รถที่วิ่งมาสองคันชนกันจัง ๆ พอดี ความเสียหายจะมากหรือน้อยกว่าการชนจากด้านหน้าซ้าย-ขวา แต่มีคนตอบว่า ไม่มีใครชนกันแบบนั้นได้ เพราะจะมีรถอีกคันหักหลบเสมอ =="   ผมว่าถ้ามีแต่คนคิดแบบนี้รายการพวกบิตบัสเตอร์คงไม่มี ขอโทษด้วยนะครับถ้าทำให้ท่านใดไม่พอใจ จากคุณ : hideto b1 เขียนเมื่อ : 17 เม.ย. 55 10:23:33

ความคิดเห็นที่ 16 เอ้ย คห.14 นั่นมันหนังอีกเรื่องละ จากคุณ : พ่อแมวอ้วน เขียนเมื่อ : 17 เม.ย. 55 10:54:12

ความคิดเห็นที่ 17 ชนตรงๆ กระดูกงูเรือ โครงเรือ แผ่นเหล็กเรือ ป่นปี้หมดครับ นึกสภาพเหล็กที่ยึดกันเป็นแผ่นๆ โดนแรงกระแทกเข้าไปแล้วแยกจากกันร้าวทั้งลำเรือนั่นล่ะครับ เผลอๆ 700 คนจะไม่เหลือรอดเอา จากคุณ : [STYX] บัตรผ่านยังโดนแบน เขียนเมื่อ : 17 เม.ย. 55 11:28:22 A:27.130.60.248 X: TicketID:267882

ความคิดเห็นที่ 18 ถ้าชนตรงๆ ก็คงจะจมรวดเดียวในเวลาไม่กี่นาทีแน่นอนครับ เพราะเรือน่าจะแตก หัก งอ และเสียหายไปทั้งลำ และน้ำจะเข้าไปจมเรือภายในเวลาไม่กี่นาที โมเมนตัมของเรือแม้จะเคลื่อนที่ไม่เร็วแต่ก็เยอะมหาศาลครับ จากคุณ : unimox เขียนเมื่อ : 17 เม.ย. 55 11:44:58

ความคิดเห็นที่ 19 ในอีกมุมมองนึงจาก คห.12 เรื่องหมุดย้ำ A lot has recently been made of the rivets and their quality etc. Not having seen the detail of the riveting joints in question, I cannot make judgement -but if a single riveted example was depicted then this is very suspicious. My own conclusion is that with Titanic making a glancing contact with the ice at something in the order of 20 knots, substantial damage would have occurred whatever the quality of her rivets. The fact that her younger sister Olympic survived into 1935 leads me to believe that there was nothing particularly wrong with the quality of her construction and I wouldn't expect that Titanic, following Olympic just a few months later, would have been materially different. Stephen Payne จากคุณ : Sgt.Oat เขียนเมื่อ : 17 เม.ย. 55 15:56:33

ความคิดเห็นที่ 20 เมื่อวานผมไปดูหนังมาเกี่ยวกับเรือนี่แหล่ะ เข้าใจว่าเป็นไททานิค พอเรือกำลังจะชนอะไรสักอย่าง (แต่เป็นตอนเช้านะ) กัปตันก็สั่งให้ทิ้งสมอเลย ปรากฎว่ารอดได้อย่างงดงาม ตามคห.14มา จากคุณ : JackRabbit เขียนเมื่อ : 17 เม.ย. 55 16:38:49

ความคิดเห็นที่ 21 มันเป็นเรือที่ดีมาก  มีการปล่อยเรือชูชีพครบทุกลำ ลอยลำได้กว่า 2 ชั่วโมงกว่าจะจม จากคุณ : than.tham เขียนเมื่อ : 17 เม.ย. 55 16:39:21

ความคิดเห็นที่ 22 ถ้าชนตรงๆแล้วเพิ่มความเร็วเรือไปที่ 22 นอต บวกกับใช้นอสที่ปล่องไฟทั้งสี่ให้เรือพฺ่งกดลง ด้วยและ xyz จะทําให้เรือพฺ่งเกยภูเขานํ้าแข็งและคาอยฺ่แบบนั้นโดยไม่จมครับ.   หมายเหตฺ อ่านก็รู้ว่ามั่ว จากคุณ : ChUMaI เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 55 00:27:54