ความคิดเห็นที่ 1 แต่การที่จะเลือกผู้ชายมาเป็นผัว ผู้หญิงก็เลือกนิครับ ไม่ว่าจะเป็นสมอง ทรัพย์และนิสัย เครื่องประดับมันแตกต่างกันมากกว่า แต่สุดท้ายก็คือกัน ไม่เช่นนั้นก็ต้องถามว่าทำไมพยาธิเพศผู้ตัวเล็กกว่าตัวเมียเป็นสิบเท่าเลย ทั้งๆที่สัตว์ทั่วไปตัวผู้ต้องปกป้องตัวเมีย จากคุณ : CuSO45H2O เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 55 10:21:46

ความคิดเห็นที่ 2 ผมไม่มีความรู้ด้านนี้ ^ ^ แต่สังเกตุว่าสัตว์จำนวนน้อย  (รวมถึงมนุษย์) ที่ตัวผู้จะเป็นผู้เลือกคู่ครอง(ตัวเมียจะตอบรับรึเปล่านั้นอีกเรื่องนึง) ....... แต่คิดว่าสัตว์ส่วนใหญ่ ตัวผู้นั้นต้องพยายามแทบทุกอย่างให้ตัวเมียหันมามอง มีความสนใจ และเลือกเป็นคู่ครอง ...เป็นสัณชาิตญาณการเลือกสรรค์พันธุกรรมที่ดีที่สุดของสัตว์เค้า..ตัวผู้จึงต้องมีรูปร่างสีสันสวยงามที่สุด แข็งแรงที่สุด โดดเด่นที่สุด เพื่อดึงดูดตัวเมียรึเปล่าครับ แก้ไขเมื่อ 18 เม.ย. 55 10:33:10 จากคุณ : marionet666 (marionet666) เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 55 10:27:02

ความคิดเห็นที่ 3 ถึงผู้หญิงจะบอกไม่ชอบตัวใหญ่กล้ามใหญ่ หนวดเคลาพริ้มก็เถอ แต่ในสัญชาตญาณมนุตย์แล้ว ผมว่าผู้หญิงก็ยังชอบพวกนี้อยู่ดี แค่เอาค่านิยมบังไว้ ผู้ชายงามก็มีนะ จากคุณ : KeyboardWarrior เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 55 10:29:52

ความคิดเห็นที่ 4 เรามีปัญหาตรงคำว่าความงามหล่ะครับ 1. เราเลี้ยงแมวที่เป็นพันธุ์แท้ 8 ตัว เราแยกมันออกหรือเปล่าว่าตัวไหนชื่ออะไร ในขณะที่มันคล้ายๆ กันแต่มันก็จำแนกความงามของมันเองในความรู้สึกมันเอง แต่เราไปตัดสินว่า ไอ้ตัวขนดก (เปอร์เซีย) สวย 2. ไอ้ที่ว่า นกยูง มีขนยาวๆ ก็แค่บอกว่ามันเป็นตัวผู้ แต่ไม่ได้บอกว่า ตัวเมียจะมองว่าสวย คนเห็นแล้วบอกว่านกยูงสวยเองนะ ไม่ใช่นกยูงตัวเมียบอก เวลาทำพันธุ์ ตัวผู้มันก็ขย่มตัวเมียนะ ไม่ใช่ตัวเมียขย่มตัวผู้ หรือว่า นกยูงตัวเมีย เห็นแผงหางนกยูงตัวผู้แล้ว อู๊ยยย เกิดอารมณ์ ??? 3. สิงโตก็กรณีเดียวกันจริงๆ แผงคออาจจะทำให้ดูตัวใหญ่ไว้ข่มขู่สัตว์อื่นเหมือนที่คนเรียกสิงโตจ้าวป่าก็ได้ แต่เราไปมองว่ามันสวย แล้วในสายตาสิงโตตัวเมีย อาจจะมองว่า โอ้ นางสิงโตตัวเมียตัวนี้ ผิวเนียนขนน้อยไม่มีแผงคอรกรุงรัง(หนวด) ------------------------------------------------------------ ที่ตั้งคำถามมานั้นมนุษย์เอาตัวเองไปตัดสินทั้งนั้น ทำไม คนไทยชอบขาว ทำไมฝรั่งหัวทองชอบดำๆ คนไทยก็ไปตัดสินเขาว่า พิลึกเว้ย ขาวๆ ไม่ชอบ ชอบดำๆ จากคุณ : WindMaster เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 55 10:32:56

ความคิดเห็นที่ 5 มันสร้างมา ทำไงก็ได้ให้ได้ อิ๊บ ในคน ผู้ชายกุมอำนาจ ผู้หญิงต้องดึงดูด ไม่งั้นชายไม่เอา ผู้หญิงต้องหวงตัว เพราะเป็นฝ่ายอุ้มท้อง ในสัตว์ทั่วไป ยังไงฝ่ายหญิงเป็นฝ่่ายอุ้มทอ้งดูแลลูก ตัวผู้ไม่ได้ช่วยดูแล ดังนั้นตัวผู้ต้องหาทางอิ๊บให้ได้ต้องหาสิ่งดึงดูด โดยทั่วไปทั้งคนสตว์ ตัวเมียต้องคัดกรองคัวผู้ เพราะตัวเองต้องอุ้มท้อง ถ้าเอาหมดจะเลี้ยงลูกไม่ใหว แก้ไขเมื่อ 18 เม.ย. 55 10:36:38 จากคุณ : Ao+ เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 55 10:33:40

ความคิดเห็นที่ 6 ผู้ชายก็งามได้ ผู้หญิงก็งามได้คับ ขึ้นอยู่กับคนที่มอง เพราะสัตว์เหล่านั้นมันไม่มีอะไรเด่นชัดว่าผู้หรือเมีย...นอกจากสิ่งที่มันสร้างขึ้นมาให้เด่น แต่คน....มันชัดอ่ะ ผู้ชาย แบน ผู้หญิงตู้ม ผู้ชายล่ำ ผู้หญิงสเลนเดอร์ ไรงี้ มันก็น่ามองทั้งหญิงและชายนะ ถ้าเลือกได้.........ผู้ชายน่ามองกว่า กรี๊วววววว จากคุณ : แฮมมึน เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 55 10:34:25

ความคิดเห็นที่ 7 คิดว่าสัตว์ไม่มีความสามารถแยกแยะความสวยงามได้.......แต่คัดเลือกหรือแยกแยะตัวผู้ที่โดดเด่นที่สุดได้ครับ  ^ ^ จากคุณ : marionet666 เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 55 10:37:27

ความคิดเห็นที่ 8 ผู้ชายก็งามนะครับ ไม่เชื่อถามเกย์ดูดิ จากคุณ : chadowing เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 55 10:50:36

ความคิดเห็นที่ 9 "งาม" ในเพศหญิงก็คือ "สวย" "งาม" ในเพศชายก็คือ "หล่อ" จากคุณ : T7Promoter เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 55 10:54:56

ความคิดเห็นที่ 10 สิ่งพวกนั้นที่มันแสดงออก แปลว่า แข็งแรง สายพันดี ปลอดโรค มากกว่า จากคุณ : นายโอ้นโต้น เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 55 11:07:19

ความคิดเห็นที่ 11 ต้องถามการนิยามความงามก่อนเลยแหละค่ะ ความงามของแต่ละบุคคลก็แตกต่างกันออกไป ยิ่งยุคสมัยต่าง ความงามก็ยิ่งแตกต่าง ไอ้ความงามของผู้หญิงที่คุณกล่าวมา มันก็เป็นแค่ความงามของยุคนี้ ยุคนี้(+ประเทศนี้) ชอบขาว ผอม อึ๋ม เกาหลี อะไรก็ว่าไป แต่เมื่อก่อนคนไทยนิยมหญิิงผิวสองสี ฟันดำปี๋นะคะ ฝรั่งเดี๋ยวนี้ชอบแบบโค้งเว้าชัดเจน สูงยาว เข่าดี แต่เมื่อก่อนฝรั่งกลับเห็นว่าสาวที่มีส่วนโค้งเยอะๆ เว้าน้อยๆ งดงามกว่าพวกสเลนเดอร์สมัยนี้ หรืออย่างที่คุณ จขกท ว่า ถ้าย้อนกลับไปถึงยุคกรีก ยุคนั้นเค้าเห็นว่า "ชายงามกว่าหญิง" ค่ะ และเหยียดหญิงเล็กๆว่าเป็นความงาม ความรัก ที่ไม่บริสุทธิ์เท่าผู้ชายด้วย "ความงาม" ในความรู้สึกของเรา มันจึงเป็นเรื่องของสังคมมากกว่าธรรมชาติค่ะ ... เอิ่ม ... ไม่ออกแนววิทยาศาสตร์เลยเรา =_= ปล. ถ้าหญิงเ็ป็นใหญ่แล้วจะเป็นไง ลองไปอ่านพวก feminist สุดโต่งมั้ยคะ มันส์เลยแหละ ;P จากคุณ : wassery_harp เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 55 12:19:43

ความคิดเห็นที่ 12 นี่ไงครับเพศชายงามกว่าเพศหญิง แก้ไขเมื่อ 18 เม.ย. 55 13:13:16 จากคุณ : MIVA เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 55 12:22:18

ความคิดเห็นที่ 13 โดยธรรมชาติแล้ว ไข่เป็นสิ่งหายากและสเปิร์มเป็นสิ่งหาง่ายครับ ถึงแม้ว่าตัวเมียจะเยอะกว่าตัวผู้แต่ไม่ได้ตกไข่ได้ถี่เหมือนที่ตัวผู้ ผลิตสเปิร์ม อย่างแพนด้าตัวผู้มีบรรจุพร้อมยิงทุกเมื่อแต่ตัวเมีย จะพร้อมพลีกายแค่ปีละครั้ง ตัวผู้จึงต้องหาวิธีเพื่อดึงดูดความสนใจ มนุษย์เราก็เป็นเช่นนั้น แต่ต่างกันที่มนุษย์เรามีสิ่งปรุงแต่งเยอะมาก จนทำให้มีสิทธิ์เลือกทั้ง 2 ฝ่าย หญิงจึงต้องามเพื่อดึงดูด แต่ชาย จะงามไปอีกแง่ คือทรัพย์ หน้าที่การงาน ความสามารถ แต่นั่นก็เป็น แค่ช่วงนึงของชีวิต พออายุเริ่มเยอะขึ้น ผ่านชีวิตมาเยอะขึ้น คราวนี้ละ ใครก็ได้ เอ้ยไม่ใช่ ๆ ทั้งสองฝ่ายจะเริ่มมองอีกฝ่ายเปลี่ยนไป หน้าตา รูปร่างเริ่มลดคุณค่าลง  ความสามารถ ความมั่นคง รวมถึง ทรัพย์สิน เริ่มเพิ่มคุณค่าขึ้น แต่จริง ๆ แล้วทั้งคนและสัตว์ ถ้านับเฉพาะการยอมให้ยิงเพื่อสืบเผ่าพันธ์ นะ (ไม่นับที่ซื้อขาย หรือ เก็บแต้มน่ะครับ) เพศผู้จะได้ยิงกระสุนสู่ เป้าหมายได้ ก็เมื่อเพศเมียเป็นผู้เลือกเท่านั้น จากคุณ : fairry15 เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 55 12:56:16

ความคิดเห็นที่ 14 #11 สังคมหญิงใหญ่โบราณ หญิงจะเป็นผู้นำเผ่า เป็นหมอผีหรือชาแมน สื่อสารกับเทพเจ้า กำหนดพิธีกรรม และการจับคู่ ผ่านการทำนาย บางเผ่าชายเป็น ของกลาง ที่หญิงในเผ่า แบ่งกันเสพได้ ลูกมีแต่แม่ ไม่มีพ่อ เพราะไม่มีความสำคัญ ยังปรากฏ แถบหนุนหนาน ต่อเมื่อชายเป็นผู้นำ หญิง ถือเป็นสมบัติของชาย และแบ่งหลายระดับ ของจีนโบราณ  เช่น นางบำเรอ ไว้เป็นตั้งแต่คู่ซ้อม ช่วงแรก ถึงแก้เบื่อตลอดชีพ เป็นเพียงสิ่งของ ซื้อขาย จ่ายแจงได้ ภายหลังมีกฎหมายห้ามค้าทาส จึงเปลี่ยนเป็นภาวะเลี้ยงดู แลกเปลี่ยนแทน ในกองสินค้า กองเรือข้ามทวีป ช่วยลดความรุนแรง บำบัดความบ้าบิ่นของทหารไปได้ดี หลายคนไปตั้งรกรากยังต่างแดนเริ่มชีวิตใหม่ ได้เลื่อนฐานะเป็นเมียน้อย เมียหลวง หรือตายระหว่างทางก็มาก เมียน้อย เป็นเมียรอง แต่เลี้ยงดูดีกว่า นางบำเรอ มีสมบัติ ที่พักส่วนตัว แต่เลื่อนชั้นไม่ได้ ลูกได้สมบัติน้อยกว่าเมียหลวง จึงมีเรื่องการแก่งแย่ง ชิงดีชิงเด่น จนเป็นนิยายขายดีหลายเรื่อง เช่น ดอกไม้ในกุณฑีทอง เมียหลวง หรือเมียแต่ง ตามเกณฑ์ผู้ใหญ่ หรือหมดดู แม่สื่อจัดคิว แต่ได้รับการยอมรับของครอบครัวฝ่ายชาย มักมีคนเดียว แต่บางท้องที่มีมากกว่าหนึ่งคน อาจไม่ใช้คนที่ผัวรักที่สุด แต่มีสถานะสูงสุดในบรรดาเมียทั้งเหล่า ยังมีวัฒนธรรมหญิงใหญ่นี้เหลือเค้าอยู่ เช่น มิโกะ ที่ญี่ปุ่น บูชาเจ้าแม่ต่างๆ นิยามความงาม ที่หลายวัฒนธรรม ชื่นชมว่าหญิงงาม กว่าชาย คือ เนื้อตัว เนียนนุ่ม บางเผ่า ชอบมีกล้ามก็มาก มีความดึงดูดทางเพศ(อาหรับ ต้องปิดหมด ยกเว้นอยู่ในบ้าน เดี๋ยวโดนบุกมาฉุด จากต่างเผ่า) ปรนนิบัติ ทำงานช่วยผัวดี บางเผ่าหญิงทำงานเลี้ยง ลูกผัว(เกาะเมียกิน) เลี้ยงลูกเป็น หน้าตาให้ได้ส่วน เป็นเรื่องส่วนบุคคลมากกว่า เพราะคลีโอพัตตราก็ไม่งามสุดๆ ตาใครตามัน ไม่เช่นนั้น สีดาที่งามสุดในวรรณคดี ยังพรรณาเชิงอุปมาเลย เพราะคนเราชอบไม่เหมือนกัน เพราะการสร้างกรอบนี้ ทำให้เกิดการคัดคนจากภูธร เข้าสู่เมืองใหญ่ ส่วนเรื่องทางกายภาพ เน้นที่ความแข็งแรง ออกลูกง่าย ให้ลูกมาก ทำงานหนักได้ดี ร่างกายครบ32 ยุคโบราณ สังคมในกำแพง นิยมสาวอ้อนแอ้น หลายยุค เช่น ฮั่น ซ่ง หมิง นครวัด โจละ ของไทยก็นิยม แต่ไม่ผอมแบบไม้เสียบผี ดูได้ตามกิจกรรมฝาผนัง หรือสมุดไทยโบราณ แก้ไขเมื่อ 18 เม.ย. 55 14:17:27 จากคุณ : ต็กโกวคิ้วป้าย เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 55 13:44:09

ความคิดเห็นที่ 15 แมงดาครับ อีก 1 ตัวอย่างที่ ตัวเมียตัวใหญ่กว่า ตัวผู้ :D จากคุณ : เอ้อระเหยลอยลม เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 55 14:29:05

ความคิดเห็นที่ 16 เอามาฝาก เรื่องความงามของสาวจีนแต่ละยุค แค่จีนที่เดียว แต่ละยุคยังต่างกันได้ขนาดนี้เลย http://www.pantip.com/cafe/library/topic/K11919423/K11919423.html จากคุณ : ขอเอาชื่ออากงเป็นเดิมพัน เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 55 14:36:59

ความคิดเห็นที่ 17 ลองให้ผู้หญิงไม่แต่งหน้า ไม่ใส่ฟองน้ำสิครับ แล้วคุณจะรู้ว่าเพศไหนงามกว่า จากคุณ : เชื่อผมเหอะ แล้วดีเอง เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 55 16:17:43

ความคิดเห็นที่ 18 ดูน้องปอยแล้ว หญิงแท้ยังต้องหลบเลย จากคุณ : แ ต ง ก ว า * เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 55 18:52:56

ความคิดเห็นที่ 19 เหตุใดสัตว์โลกตัวผู้งามกว่าตัวเมีย ต่างจากมนุษย์ที่ผู้หญิงจะงามกว่า... เชื่อว่าแรงวิวัฒนาการปรับเปลี่ยนรูปร่าง/พฤติกรรมของสัตว์โลก คัดเลือกโดยธรรมชาติ(natural selection)แแบบเพศ(sexual selection) เช่นนกตัวเมียเป็นผู้เลือก เลือกนกตัวผู้ที่ขนสวย/หางยาว ตัวไม่ใช่จึงสูญพันธ์ ส่วนนกตัวผู้ไม่ค่อยเลือก เห็นตัวเมียก็เอาหมด ตัวเมียจึงมีขนไม่สวย กรณีคน ดูคล้ายผู้ชายเป็นผู้เลือก ผู้หญิงจึงแข่งกันแต่งสวย ส่วนผู้หญิงไม่ค่อยเลือก ขอผู้ชายแท้/รวยก็ OK นะคะ Robert Heinsohn, professor of evolutionary biology at the Australian National University, explains. http://www.scientificamerican.com/article.cfm?id=why-are-male-birds-more-c จากคุณ : ชื่อนี้ได้มั้ยฮะ เขียนเมื่อ : 18 เม.ย. 55 19:59:14

ความคิดเห็นที่ 20 เห็นคล้ายกับ #17 มาก จากคุณ : นะ เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 55 02:38:54 A:62.57.220.164 X: TicketID:303725

ความคิดเห็นที่ 21 สุดท้ายถึงจะสวยหรืองาน ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจ ของแต่ละฝ่าย .... จากคุณ : .......... (@Ble) เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 55 04:03:34

ความคิดเห็นที่ 22 ขอแย้งคุณ คห 19 แค่นี้แหละค่ะ "กรณีคน ดูคล้ายผู้ชายเป็นผู้เลือก ผู้หญิงจึงแข่งกันแต่งสวย ส่วนผู้หญิงไม่ค่อยเลือก ขอผู้ชายแท้/รวยก็ OK นะคะ" นึกถึงกระทู้คราวห้องสีลมที่กระทาชายนายหนึ่งบอกว่าเลือกคนเข้าทำงานเอาสวยๆไว้ก่อน ขอบอกเลยว่า "คุณกำลังดูถูกผู้หญิง" ค่ะ! จากคุณ : wassery_harp เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 55 14:21:15

ความคิดเห็นที่ 23 ผมเชื่อว่าถ้ามองในมุมเฟมินิสต์ทุกสรรพสิ่งผู้ชายคือฝ่ายผิดหมด หรือ ควรมองให้ผู้ชายเป็นฝ่ายผิดเข้าไว้ ตาม คหสต. ผู้ชายเลือกผู้หญิงที่รูปลักษณ์ภายนอกที่ดึงดูดไว้ก่อนน่ะครับ ผู้หญิงเลือก นิสัยใจคอ ฐานะ ความมั่นคง ผู้หญิงและผู้ชายต่างเป็นฝ่ายเลือกกันและกันครับ ถ้าไม่ได้ถูกฉุดหรือคลุมถุงชนนะ ถ้าพึงพอใจกันและกันก็ตกลงเป็นแฟนกัน ผู้หญิงแข่งกันสวยเพื่อดึงดูดหนุ่มๆหรือแสดงความพึึงพอใจในรูปลักษณ์ตน ผู้ชายก็พยายามสร้างฐานะเวลาจะสร้างครอบครัว ไม่มีเงินผู้หญิงก็ไม่เลือก สิ่งที่ผมพูดมันคือสัจธรรม.... จากคุณ : ด้านมืดในใจคุณ เขียนเมื่อ : 19 เม.ย. 55 16:26:57

ความคิดเห็นที่ 24 การมองในมุมมองเฟมินิสต์ต่อสังคมปัจจุบันซึ่งเพศชายเป็นใหญ่ เพศชายย่อมต้องถูกโจมตีค่ะ แต่ถ้าดูจากประวัติศาสตร์เหมือนอย่างที่ด้านบนๆกล่าวมา ในสังคมที่หญิงเป็นใหญ่ ผู้หญิงไม่จำเป็นต้องหาผู้ชายที่ "รวย" ค่ะ ฉะนั้น "สัจธรรม" ที่กล่าวมา มันจึงเป็นแค่ "สัจธรรม" ของสังคมที่ผู้ชายเป็นใหญ่ในการทำงาน "ไม่ได้เป็นความจริงที่ absolute" เนื่องจากสังคมแบบนี้ผู้หญิงมักมีความมั่นคงด้านการเงินต่ำกว่า จึงต้องเลือกผู้ชายโดยมีปัจจัยด้าน "ฐานะ" มาเกี่ยวข้องค่ะ แต่ในยุคสมัยนี้ที่ความเท่าเทียมในหลายๆด้านเพิ่มสูงขึ้น เราน่าจะสังเกตได้ว่าผู้หญิงที่มีฐานะในระดับหนึ่ง เริ่มเลือกผู้ชายจากอย่างอื่นมากขึ้นด้วยค่ะ และผู้ชายก็เริ่มเลือกผู้หญิงจากฐานะเช่นกัน ในส่วนนี้ต้องยอมรับว่า กระแสทุนนิยม มีส่วนเข้ามามีอิทธิพลกับการเลือกคู่ครองค่ะ ฉะนั้น! ไม่อยากให้พูดว่า "ผู้หญิงเลือกคู่เพราะความร่ำรวยเพียงอย่างเดียว" ดั่งวิธีการเขียนด้านบนค่ะ และอยากให้ยอมรับอีกหน่อยว่า เดี๋ยวนี้ไม่ว่าผู้ชายหรือผู้หญิง ก็อยากเลือกคู่รวยๆทั้งนั้นแหละค่ะ (ถ้าเลือกได้) จากคุณ : wassery_harp เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 09:01:48

ความคิดเห็นที่ 25 "เนื่องจากสังคมแบบนี้ผู้หญิงมักมีความมั่นคงด้านการเงินต่ำกว่า" ถ้ามองในกรอบนี้ก็ยังมองในกรอบที่เฟมินิสต์มองอยู่ดี ผู้หญิงมีความมั่นคงทางด้านการเงินต่ำกว่าผู้ชายยังไงครับ? ถ้ายังมองในกรอบเฟมินิสต์ผู้ชายก็ยังถูกมองว่าเอาเปรียบอยู่ดี ก็ยังไม่พ้นทษฎีที่ผมเขียนไปเม้นท์ก่อนหน้า เรื่องการเงินมันเป็นเรื่องการแข่งขันซึ่งผู้หญิงไม่จำเป็นต้องเข้ามาแข่งขันบนเวทีที่ผู้ชายถนัด งานที่เรียกเงินมีเยอะแยะไปหมด งานบางอย่างไม่ไ้ด้อาศัยเพศ งานบางอย่างผู้หญิงก็ถนัดกว่าและทำได้ดีกว่า งานบางอย่างทุกเพศทำได้เหมือนกันหมดไม่แตกต่าง เช่นสมมุติว่า ผมเปิดร้านขายกล้วยแขกข้างทาง ผมขายดีกว่าร้านที่ผู้หญิงเป็นเจ้าของก็นั่นหมายความว่าผมมีความสามารถมากกว่า(มองในมุมผมและไม่มองด้วยอคติแบบเฟมินิสต์) แต่ถ้ามองในมุมเฟมิสต์ก็จะบอกว่า เพราะสังคมไทยผู้ชายเป็นใหญ่ทำให้ผมขายกล้วยแขกได้ดีกว่าร้านที่ผู้หญิงเป็นเจ้าของ ก็เลยไม่รู้กันว่า ถ้าสังคมไทยผู้ชายเป็นใหญ่มันมีส่วนทำให้ผู้หญิงขายกล้วยแขกสู้ร้านผมไม่ได้ตรงไหน? คำว่าสังคมไทยผู้ชายเป็นใหญ่ เป็นคำไว้กดหัวผู้ชายและยกตนให้ดูดีขึ้น เป็นคำให้ร้ายของเฟมินิสต์ เป็นวลีศักดิ์สิทธิ์คล้ายๆคำว่า " ไม่เชื่ออย่าหลบลู่ " วกกลับมาเรื่องการหาเงิน ผมมองแบบนี้ ผู้หญิงไม่ได้รับภาระหนักเท่าผู้ชายไง คือถ้าผู้หญิงไม่ได้ทำงานก็อยู่บ้านเป็นแม่บ้านได้สังคมเฉยๆยอมรับได้ แ่ต่ถ้าผู้ชายบอกกับภรรยาที่บ้านว่า "ฉันขอเป็นพ่อบ้าน" แน่นอนว่าผู้หญิงคงไม่ยอมแน่ขืนเป็นแบบนั้นสังคมคงประนามว่าเป็น "แมงดา หรือเกาะผู้หญิงกิน" ฉะนั้นเมื่อสังคมเราต้องหาเงิน และผู้ชายต้องพึ่งพาตัวเองการหาเงินในหมู่ของผู้ชายเลยย่อมเข้มข้นกว่า เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ผู้ชายประสบผลสำเร็จมากกว่า กอปรทั้งเวลาเลือกคู่ครองจะสังเกตุำได้ว่าถ้าผู้ชายคนหนึ่งจีบผู้หญิงมักจีบผู้หญิงที่ฐานะไล่เลี่ยกันหรือต่ำกว่า ยกตัวอย่างเช่น ในชีวิตผม ผมเห็นหมอชายแต่งงานกับนางพยาบาลไม่ต่ำกว่า 20 คู่ ในชีวิตผม ผมไม่เคยเห็นหมอหญิงแต่งงานกับบุรุษพยาบาลเลยสักคู่ คือได้เมียรวยกว่าก็เฮงไง แต่โดยมากก็หวังพึ่งพาตัวเองซะมากกว่า ทีนี้สังคมที่เฟมินิสต์เป็นใหญ่ มักไม่ให้เครดิสผู้ชายไงยามเมื่อผู้ชายทำอะไรได้ดีกว่า ถ้าโยนความคิดว่าผู้ชายเลวออกไปนอกหน้าต่าง ก็อยากให้มองว่าถ้าผู้ชายมันไม่เอาไหน มันไม่เก่ง มันคงไม่มีวันนี้หร้้้อออกกก ถ้าอ่อนแอกว่าผู้หญิงก็คงกดขี่ผู้หญิงไม่ได้  งานสมัยนี้มันแตกต่างกับสมัยก่อนอย่างสิ้นเชิง ถ้างานสมัยก่อนมันโลว์เทคโนโลยีไงครับ มันต้องใช้แรงงานเยอะ ผู้ชายเลยได้เปรียบ แต่งานสมัยนี้มันเท่าเทียมกันแล้ว เทคโนโลยีก็ไม่ได้แบ่งเพศชายหญิง เช่นผู้ชายใช้คอมพิวเตอร์ทำให้เก่งกว่าผู้หญิง30% หรือรถยนต์ถ้าผู้หญิงนั่งแล้วรถประหยัดน้ำมันอัตโนมัติ30% คนนะไม่ใช่เกม  ความจริงผมเฉยๆักับคำพูดเหล่านี้ก็ได้เหมือนผู้ชายปรกติทั่วๆไปเขาทำ แต่บังเอิญวันนี้ผมว่างไง จากคุณ : ด้านมืดในใจคุณ เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 12:30:28

ความคิดเห็นที่ 26 ขอความกรุณาแยกแยะ "ความเกลียดชังในเพศชาย" ออกจาก "เฟมินิสต์" นะคะ สิ่งที่เฟมินิสต์เป็นจริงๆคือการเรียกร้องความเท่าเทียมทางเพศค่ะ ไม่ใช่ด่าผู้ชายเพื่อปลอบใจผู้หญิง สำหรับเรา ถ้าคุณเป็นพ่อบ้านทำงานบ้าน แล้วไม่ได้เดือนร้อนเรื่องเิงินจนต้องมาสร้างความเดือดร้อน มันก็เรื่องของคุณค่ะ และนี่เป็นการยืนยันความเท่าเทียมกันของชายหญิงที่เฟมินิสต์เรียกร้องค่ะ กลับกัน สังคมที่ด่าผู้ชายไม่ทำงานว่าเป็นแมงดา นั่นคือสังคมที่ชายเป็นใหญ่ค่ะ เพราะเป็นสังคมที่กำหนดกรอบของความเป็นชายไว้ว่า "ต้องเป็นผู้นำ ทำงานหาเลี้ยงครอบครัว" ค่ะ ถ้าหากมีความเท่าเทียมกันจริง ไม่ว่าชายหรือหญิงก็ต่างออกไปทำงานนอกบ้าน หรืออยู่กับบ้านดูแลบ้านได้เท่าเทียมกันค่ะ ความมั่นคงทางการเงินและอาชีพผู้หญิงต่ำกว่าอย่างไร ลองดูในอดีต แต่ไม่ต้องย้อนไปถึงขนาดที่ขั้วอำนาจกลับไปอยู่กับผู้หญิงนะคะ ผู้หญิงอยู่บ้านเย็บผ้า ผู้ชายออกไปเรียนหนังสือ ใครมีโอกาสทางการเงินและอาชีพมากกว่ากันคะ? ผู้หญิงแค่รอแต่งงานก็พอ? ใครมีโอกาสในการเลือกเส้นทางชีวิตมากกว่ากันคะ ลองมองความเป็นจริงในสังคมนะคะ อย่ามองแต่สังคมชนชั้นกลางส่วนหนึ่งของไทยที่ผู้หญิงเลี้ยงตัวเองได้อย่างสมบูรณ์ ยังมีผู้หญิงจำนวนมากในเมืองไทยที่ไม่มีโอกาสเรียน ไม่มีโอกาสเลี้ยงตัวเอง พอถูกผู้ชายกระทำ เช่น กรณีของการถูกสามีทำร้าย พวกเธอไม่กล้าแม้กระทั่งหย่า เพราะนั่นหมายถึงว่าพวกเธอไม่สามารถเลี้ยงตัวเองได้อีกเลย ทั้งจากการไม่มีความรู้ และจากการถูกสังคมกล่อมเกลาว่าพวกเธอควรจะอยู่บ้านดูแลบ้านมากกว่าการออกไปทำงานนอกบ้านค่ะ แล้วก็ความสามารถทางเทคโนโลยีจริงๆก็มีการแบ่งแยกเพศนะคะ การศึกษาชี้บอกว่ามาเพศชายหญิงมีความสามารถในการด้านต่างๆ รวมถึงเทคโนโลยีต่างกันอย่างไร ถ้าเป็น fact จากการทดลอง เรารับมาเป็นข้อมูลได้ค่ะ แต่ถ้าเป็นข้อคิดเห็น หรือความคิดจากสังคม เราปรับแก้ได้เราก็จะปรับค่ะ ขอบคุณค่ะที่ว่าง ถ้าว่างลองไปศึกษาเรื่องเฟมินิสต์และความเท่าเทียมทางเพศก่อนนะคะ อย่าเหมาว่า "เฟมินิสต์ = ผู้ชายเลว" ค่ะ จากคุณ : wassery_harp เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 16:08:06

ความคิดเห็นที่ 27 หาสถิิติมาได้เก่าไปหน่อย ต้องขอโทษนะคะ สำรวจโดยกรุงเทพ ตั้งปี 43 แต่คงพอสนับสนุนกับคำว่า "อดีต" ของเราได้ http://203.155.220.118/info/budget/38_44/population/work4.htm รายได้ต่ำๆ จำนวนเพศหญิงสูงกว่า พอรายได้เริ่มสูงขึ้น จำนวนเพศหญิงกลับน้อยลง จนลดต่ำกว่าผู้ชายค่ะ จากคุณ : wassery_harp เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 16:21:54

ความคิดเห็นที่ 28 เจอที่ใหม่กว่าค่ะ (44-50) ต้องบอกว่าดีที่สถานการณ์ในประเทศเราดีขึ้น (ไม่นับเรื่องการตั้งครรภ์กับการทำร้าย) http://www.gender.go.th/publication/book/ThailandGenderStatistic_THAI_edit.pdf สรุปคร่าวๆ คือ การจ้างงานดีขึ้น แต่รายได้เพศหญิงยังต่ำกว่า ที่พอประคับประคองได้ก็คือรายจ่ายต่ำกว่าด้วย ทำให้ยังอยู่ได้ค่ะ การเรียนและการฝึกอาชีพไม่ได้ดีเด่นต่างกันเท่าไหร่ แต่การทำงานบ้านบางครั้งทำให้ผู้หญิงเสียโอกาสในการพัฒนาตนเอง รวมถึงจำนวนของผู้นำเพศหญิงก็ยังน้อยกว่าอย่างค่อนข้างเห็นได้ชัดค่ะ ขอบอกว่า ไม่ได้จะมาเพื่อด่าผู้ชาย แต่เชื่อว่าประเทศชาติ และมนุษยชาติจะพัฒนาไปได้ดีที่สุดเมื่อเราร่วมมือกันโดยไม่เกี่ยงเพศ เชื้อชาติ ศาสนา อายุ วัฒนธรรม และ ภาระที่ผู้ชายรับอยู่ในปัจจุบันนี้ เราเชื่อว่าจะผ่อนคลายลงได้ด้วยความเท่าเทียมทางเพศค่ะ เมื่อไม่มีกรอบมากั้นว่าใครควรจะทำตัวให้สมกับเพศไหนๆถึงจะถูก คุณผู้ชายก็ไม่ต้องเดือดร้อนกับความพยายาม "แมน เป็นผู้นำ ต้องเข้มแข็ง ห้ามอ่อนแอ ห้ามร้องไห้ ห้ามรักสวยรักงาม และอื่นๆ" ค่ะ จากคุณ : wassery_harp เขียนเมื่อ : 20 เม.ย. 55 16:40:58