ความคิดเห็นที่ 1 อันนี้ส่วนตัวเครื่องครับ ไม่ทราบรุ่นจริงๆ จากคุณ : กีดกัน เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 16:32:43

ความคิดเห็นที่ 2 อันนี้สำคัญเครื่องยนต์   อยากให้ไทยผลิตเครื่องบินได้อีกครั้งจังเลยนะครับ จากคุณ : กีดกัน เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 16:33:31

ความคิดเห็นที่ 3 อันนี้น่าจะเป็นเครื่องบิน ริบเปอร์รุ่นแรกๆๆ จากคุณ : กีดกัน เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 16:39:20

ความคิดเห็นที่ 4 น่าจะเป็นเครื่อง Curtis HAWK 3 เป็นเครื่องบินปีกสองชั้น ไทยไปซื้อสิทธิบัตรมา ผลิตช่วงก่อนสงครามโลก จากคุณ : บัตรผ่านแล้วมีไรป่าว เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 17:51:11 A:124.121.112.58 X: TicketID:324593

ความคิดเห็นที่ 5 ปัจจุบัน ทอ. กำลังผลิตเครื่องบินลำนี้ เข้าไปดูได้ที่ http://www.facebook.com/rtaf6 จากคุณ : Love Take That (อาอ้อ) เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 18:03:24

ความคิดเห็นที่ 6 #5 งดงามมากครับ ถ้าต่อยอดมาใช้ในภารกิจ CAS ได้น่าจะเวิร์ค จากคุณ : jubchay เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 18:13:03

ความคิดเห็นที่ 7 ภาพโรงงานผลิตเครื่องบิน คือโรงงานของประเทศสยามครับ ช่วงนั้นการบินเจริญมาก หลังจากมีสายการบินหนึ่งเกิดขึ้นมา ทุกอย่างก็กลับด้านไปหมด เพราะคนเห็นแก่ตัวมันเยอะ จากคุณ : psybuster เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 18:51:56

ความคิดเห็นที่ 8 งง กับ ประเทศเรามากมาย ก่อนหน้าที่เราเกิดมา รุ่น ปู่ รุ่นทวดเราเหมือนเค้า สร้างอะไรให้เรามามากมายแต่ทำไม ณ ปัจจุบัน ซื้อเอาอย่างเดียว หว่า พวก รถ ปืน เรือ อาวุธสงคราม 9ล9 ทั้งที่อดีต มี การ ผลิตทำโรงงานมา จากคุณ : ล้ออย ตัมหรวดเอค ปอม ตัว มา (SHEEP_DOG) เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 23:48:31

ความคิดเห็นที่ 9 ผมเคยดูสารคดีทางช่อง TPBS เค้าบอกว่าไทยเราเคยเป็นประเทศแรก ๆ ในภูมิภาคนี้ที่สามารถผลิตเครื่องบินใช้เองได้  และในสมัยนั้นไทยเรามีเครื่องบินมากที่สุดในภูมิภาค จากคุณ : โปรแกรมเมอร์ฝึกหัด เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 00:16:43

ความคิดเห็นที่ 10 ใช่เครื่อง"บริพัตร"รึเปล่าครับ รู้สึกคุ้นๆกับชื่อนี้มาก - - จากคุณ : ์NONAME เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 00:59:07 A:158.108.231.14 X: TicketID:251756

ความคิดเห็นที่ 11 thx ค้าบ จากคุณ : กบ เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 02:03:59 A:118.172.173.131 X: TicketID:350891

ความคิดเห็นที่ 12 กรมช่างอากาศ เริ่มสร้างเครื่องบินมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2465 จนถึงสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ในปี พ.ศ.2488 (รวม 23 ปี) ซึ่งตลอดช่วงเวลานี้ ได้มีการสร้างอากาศยานแบบต่าง ๆ ทั้งโดยวิธีลอกแบบ ดัดแปลง หรือซื้อลิขสิทธิ์ จากอากาศยานที่จัดซื้อจากต่างประเทศ รวมถึงการออกแบบสร้าง และผลิตขึ้นเอง โดยมีจำนวนทั้งสิ้น 9 แบบ ดังนี้ ปี พ.ศ.2465 สร้างเครื่องบินขับไล่ แบบ ข.2 (นิเออปอรต์ 15 ตารางเมตร) ปี พ.ศ.2466 สร้างเครื่องบินขับไล่ แบบ ข.3 (สปัดแบบ 7) ปี พ.ศ.2467 สร้างเครื่องบินขับไล่ แบบ ข.4 (นิเออปอรต์ เดอลาจ) ปี พ.ศ.2470 นาวาอากาศโท หลวงเวชยันต์รังสฤษฎ์ ผู้อำนวยการ กองโรงงานอากาศยาน (ภายหลังเป็น นาวาอากาศเอก พระเวชยันต์รังสฤษฎ์ ดำรงตำแหน่ง ผู้บัญชาการทหารอากาศคนแรก ในปี พ.ศ.2480) ได้ออกแบบ และควบคุมการสร้างเครื่องบินทิ้งระเบิด แบบ ท.2 โดยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานนามว่า “บริพัตร” ซึ่งนับเป็นเครื่องบินแบบแรกที่ออกแบบและสร้างเองโดยคนไทย เครื่องบินแบบนี้ได้สร้างขึ้นใช้เป็นจำนวนมาก และได้ใช้บินทางไกลไปเจริญสัมพันธไมตรี ณ ประเทศอินเดีย และอินโดจีนฝรั่งเศส ปี พ.ศ.2472 ออกแบบ และสร้างเครื่องบิน ขับไล่ แบบ ข.5 โดยพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทานนามว่า “ประชาธิปก” ซึ่งนับเป็นเครื่องบินแบบที่สองที่ออกแบบและสร้างเองโดยคนไทย ปี พ.ศ.2473 สร้างเครื่องบินฝึก แบบ ฝ.4 (แอฟโร 504 เอ็น) โดยซื้อกรรมสิทธิ์การสร้างจากบริษัทแอฟโร ประเทศอังกฤษ ปี พ.ศ.2477 เริ่มงานสร้างเครื่องบินโจมตี - ตรวจการณ์ แบบ จ.1 (คอร์แซ วี-83) โดยสามารถสร้างแล้วเสร็จในปี พ.ศ.2479 จำนวน 25 เครื่อง เป็นรุ่นแรก จากนั้นในปี พ.ศ.2480 ได้สร้างขึ้นอีก จำนวน 25 เครื่อง เป็นรุ่นที่ 2 และได้สร้างเครื่องบินรุ่นที่ 3 อีกจำนวน 50 เครื่อง ในปี พ.ศ.2483 ปี พ.ศ.2479 เริ่มงานสร้างเครื่องบินขับไล่ แบบ ข.10 (ฮอว์ค 3) โดยสามารถสร้างแล้วเสร็จในปี พ.ศ.2480 จำนวน 25 เครื่อง และในปี พ.ศ.2482 ได้สร้างขึ้นอีก จำนวน 25 เครื่อง เป็นรุ่นที่ 2 ปี พ.ศ.2482 สร้างเครื่องบินฝึกขั้นสูง แบบ ฝ.5 (คอร์แซ หัวยาว) โดยดัดแปลงแก้ไขจากเครื่องบินโจมตี-ตรวจการณ์ แบบ จ.1 และเปลี่ยนไปใช้เครื่องยนต์ที่มีกำลังต่ำลง โดยสร้างขึ้นทั้งสิ้นจำนวน 10 เครื่อง [ ที่มา : วารสารกรมช่างอากาศ ครบรอบ ๘๖ ปี ] http://www.dae.mi.th/articles/aeronautical.htm ที่ ค.ห. 4 บอกว่าเป็นเครื่องบินรุ่น Curtiss Hawk III หรือฮอว์คพับฐาน  ผมว่าไม่ใช่แล้วครับ  รุ่นนี้ใช้ใบพัด 3 กลีบ และก็ใช้เครื่องยนต์สูบดาว  แต่ในรูป เป็นใบพัด 2 กลีบ และก็เครื่องยนต์สูบเรียงหรือไม่ก็สูบวี รูป เครื่องบินขับไล่ แบบ ข.10 (ฮอว์ค 3) จากคุณ : นายเดชา เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 03:16:06

ความคิดเห็นที่ 13 ตามภาพใน ค.ห. 1 ที่แขวนอยู่ข้างฝา น่าจะเป็นฝาครอบเครื่องยนต์ ของเครื่องบิน 2 รุ่น ดูแล้วเหมือนของเครื่องบิน นิเออปอร์ต ซึ่งเป็นเครื่องบินที่ประกอบตั้งแต่สร้างโรงงานใหม่ๆ เลย ปี พ.ศ. 2465 ฝาครอบเครื่องยนต์รูปกลมๆ  ควรจะเป็นของ Nieuport 13 บ.ข.๑ (เครื่องบินขับไล่ ๑) ในวิกิ บอกว่า ประเทศสยามซื้อ Nieuport 13 ไปแค่เครื่องเดียว  แต่ในรูป ทำไมถึงมีฝาครอบเครื่องยนต์ของเครื่องบินรุ่นนี้หลายอัน จากคุณ : นายเดชา เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 03:37:44

ความคิดเห็นที่ 14 ตามภาพใน ค.ห. 1 ฝาครอบเครื่องยนต์ 2 อัน รูปเสี้ยววงกลม ที่แขวนข้างฝาด้านขวา กับที่คนงานกำลังขัด   ควรจะเป็นของเครื่องบินรุ่น Nieuport 15 บ.ข.๒ (เครื่องบินขับไล่ ๒)  ที่เราซื้อลิขสิทธิ์มาผลิตเอง  จำนวน 12 เครื่อง  ในปี พ.ศ. 2465 แก้ไขเมื่อ 22 เม.ย. 55 03:47:43 จากคุณ : นายเดชา เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 03:43:30

ความคิดเห็นที่ 15 ปี พ.ศ. 2466 ผลิตเครื่องบินขับไล่แบบ ๓ (บ.ข.๓) สปัด  SPAD จำนวน 30 เครื่อง จากคุณ : นายเดชา เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 03:49:17

ความคิดเห็นที่ 16 ปี พ.ศ.2467 สร้างเครื่องบินขับไล่ แบบ ๔ (บ.ข.๔) (นิเออปอรต์ เดอลาจ) Nieuport-Delage NiD 29 อีกจำนวนมาก จากคุณ : นายเดชา เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 03:52:27

ความคิดเห็นที่ 17 ตามรูปใน ค.ห. 2  รูปเครื่องยนต์ น่าจะเป็นเครื่องยนต์ชนิดสูบเรียงหรือสูบวี พอดูข้อมูล ช่วงปี พ.ศ. 2465-67 กองโรงงานอากาศยาน สร้างเครื่องบินอยู่ 3 รุ่น คือ Nieuport 15, Spad VII และ Nieuport-Delage NiD 29   ทั้ง 3 รุ่น  ใช้เครื่องยนต์ตัวเดียวกัน คือ Hispano-Suiza 8 ซึ่งเป็นเครื่องยนต์แบบ V-8 จากคุณ : นายเดชา เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 04:00:52

ความคิดเห็นที่ 18 เครื่องบินทิ้งระเบิดแบบ ๒ บริพัตร (บ.ท.๒)  Boripatra เครื่องบินแบบแรกที่ออกแบบและสร้างเองโดยคนไทย จำนวนที่สร้าง คาดว่าไม่เกิน 12 เครื่อง แก้ไขเมื่อ 22 เม.ย. 55 04:11:04 จากคุณ : นายเดชา เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 04:10:29

ความคิดเห็นที่ 19 เครื่องบินขับไล่แบบที่ ๕ บ.ข. ๕ ประชาธิปก (Prachadhipok) เครื่องบินแบบที่สองที่ออกแบบและสร้างเองโดยคนไทย ข้อมูลจาก แปดสิบปี กองทัพอากาศ, ทอ. ๒๕๓๘ จากคุณ : นายเดชา เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 04:17:15

ความคิดเห็นที่ 20 ขอบคุณมากๆเลยครบผมเพิ่งทราบจากกระทู้นี้เลยว่า ประเทศไทยเคยผลิตเครื่องบินเองด้วย และที่น่าตกใจไทยมีเครื่องบินทิ้งระเบิดด้วย\^0^/ จากคุณ : เวย์คุง เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 04:48:58

ความคิดเห็นที่ 21 ในระยะหลัง เมื่อปี พ.ศ.2525 ท.อ. ร่วมกับบริษัท ไรน์ ฟลุกซอย บาว (RFB) ประเทศเยอรมันก็กลับมาสร้างเครื่องบินฝึก แบบ ฝ.18 (แฟนเทรนเนอร์ FT-400) จำนวน 14 เครื่อง และแบบ ฝ.18ก (แฟนเทรนเนอร์ FT-600) จำนวน 18 เครื่อง แล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ.2535 [ ที่มา : วารสารกรมช่างอากาศ ครบรอบ ๘๖ ปี ] http://www.dae.mi.th/articles/aeronautical.htm [ในวิกิพิเดียบอกว่า ท.อ. ซื้อ FT-400 31 เครื่อง, FT-600 16 เครื่อง] http://en.wikipedia.org/wiki/RFB_Fantrainer แต่ที่น่าสลดใจคือ เครื่องบินฝึกแฟนเทรนเนอร์ มีอายุประจำการสั้นมาก เพียงแค่ 6 ปีเท่านั้นเอง (2531-2537) จากคุณ : นายเดชา เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 05:26:59

ความคิดเห็นที่ 22 ถ้าคุณเวย์คุง อยากทราบประวัติการบินในประเทศไทย ก็จัดให้ http://www.rtaf-retired.com/knowledge.html http://www.rtaf-retired.com/RTAF%202453-2470Th.pdf http://www.rtaf-retired.com/RTAF%202471-2480Th.pdf http://www.rtaf-retired.com/RTAF%202481-2490Th.pdf http://www.rtaf-retired.com/RTAF%202491-2500%20Th.pdf http://www.rtaf-retired.com/RTAF%202501-2510Th.pdf http://www.rtaf-retired.com/RTAF%202511-2520Th.pdf http://www.rtaf-retired.com/RTAF%202521-2530Th.pdf http://www.rtaf-retired.com/RTAF%202531-2540Th.pdf http://www.rtaf-retired.com/RTAF%202541-Present%20Th.pdf ความจริงแล้ว เครื่องบินสมัยก่อน ไม่ได้ทำหน้าที่ได้เอนกประสงค์เหมือนอย่างสมัยนี้ เครื่องบินทิ้งระเบิดที่ไทยเคยมี ก็เป็นเครื่องบินทิ้งระเบิดธรรมดาทั่วไป  ไม่ใช่เครื่องบินทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์ ที่บินไกลข้ามทวีปแบบชาติมหาอำนาจเขา เอารูปไปดูเรียกน้ำย่อยก่อน  ในลิงค์ข้างบน มีรูปสวยๆ อีกเยอะ ป.ล. โรงงานสร้างเครื่องบินในสมัยก่อน ผู้เฒ่าผู้แก่เล่าให้ฟังว่าอยู่ที่บางซื่อ  ไม่แน่ใจว่า ช่วงสงครามโลกจะโดนทิ้งระเบิดไปบ้างหรือเปล่า จากคุณ : นายเดชา เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 05:40:12

ความคิดเห็นที่ 23 ขอบคุณครับคุณ นายเดชา พอดีผมเคยตั้งกระทู้ทำไมนักบินต้องใส่ผ้าพันคอแล้วมีสมาชิกท่านหนึ่งแนะนำให้ดูเรื่อง Fly boy นะครับ พอดูช่วงไปขัดขวางเรือเหาะเยอรมันที่จะมาทิ้งระเบิดและตอนคุ้มกันเครื่องบินทิ้งระเบิดไป ทำลายจุดยุทธศาสตร์มันดูอลังการมากครับและชี้ขาดผลแพ้ชนะได้เลยช่วยเหลือทหารราบได้มาก ถ้าคนสมัยนั้นผลิตเครื่องบินใช้เองแสดงว่ากองทัพประเทศไทยก็ไม่ธรรมดา จากคุณ : เวย์คุง เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 10:20:57

ความคิดเห็นที่ 24 งง  ด้วยคนครับ  #8 "ล้ออย ตัมหรวดเอค ปอม ตัว มา (SHEEP_DOG)" ลูกหลานเหลนโหลน  แย่ลงทุกวันนะ อวดเก่ง แต่กับพวกเดียวกัน จากคุณ : สิงโตยนต์ เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 12:23:12

ความคิดเห็นที่ 25 เดี๋ยววันจันทร์จะลงเพิ่มให้นะครับ จากคุณ : กีดกัน เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 12:34:16

ความคิดเห็นที่ 26 อยากร้องไห้เมื่อเห็นเมืองไทยในทุกวันนี้ จากคุณ : BangRon TUN เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 15:46:41

ความคิดเห็นที่ 27 สมัยก่อนเมืองไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก...แต่ตอนนี้พูดไม่ออกจริงๆค่ะ หรือยิ่งพัฒนา จะทำให้เราหันหลังลงคลองขึ้นเรื่อยๆ จากคุณ : ฟากฟ้าฝั่งฝัน เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 15:55:35

ความคิดเห็นที่ 28 มันเหมือนกับยุคหลังสงครามโลกเราเสีย อธิปไตยไปให้กับอเมริกา แต่เราก็ไม่สามารถ โงหัวขึ้นได้เหมือนกับอดีตพันธมิตร ญี่ปุ่นทำได้ละครับ มันเหมือนกับ เราโดนถอดเขี้ยวเล็บ และฝังเนื้อร้าย ไม่ให้เราสามารถ พัฒนาอาวุทของเราเอง หรือซื้ออาวุทบางชนิดเช่นเรือดำน้ำได้ โดยปราศจากการยินยอมของ อเมริกา เมื่อไรที่เราคิดจะทำก็จะมีขบวนการทั้งภายในและภายนอกทำให้เกิดอุปสรรค์ แม้ขบวนการภายในเราจะเป็นปัญหา แต่ก็ไม่สามารถเข้าใจได้จริงๆ ว่า ถ้าสมมุติ ท่านนายพลจะเอาเช่นนั้นเช่นนี้แล้วทำไมจะทำไม่ได้ ติดขัดอะไร หรือบรรดาผู้ที่ เรามองว่า มีอำนาจอยู่เบื้องหลัง ทำไมถึงไม่ให้ความสำคัญในเรื่องนี้ ทำไมต้องซื้ออย่างเดียว จากคุณ : ฟหกด เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 16:37:03 A:124.120.47.253 X: TicketID:250855

ความคิดเห็นที่ 29 ผมคิดว่าสาเหตุของการถอยหลังเข้าคลองของบ้านเรามาจากหลายๆเหตุการณ์แต่ผมเชื่อว่าต้นตอที่แท้จริงคืออุปนิสัยของพวกเราชาวไทยนั่นเองครับ ที่ร้ายกาจที่สุดและทำให้บ้านเมืองพัฒนาได้ยากคือ "ความขี้อิจฉา" สังเกตดูรอบๆตัวเราสิครับ เรามักเห็นการขัดแข้งขัดขา การแก่งแย่งผลประโยชน์ ทำนองว่า เอ็งได้ข้าก็ต้องได้ด้วย ถ้าข้าไม่ได้เอ็งก็ต้องไม่ได้ ในอดีตสังเกตว่าช่วงที่บ้านเมืองเราเจริญแบบก้าวกระโดดมักเป็นช่วงที่อำนาจอยู่ในมือคนๆเดียวและเป็นคนที่มีวิสัยทัศน์ที่ดี ทำให้พวกที่คอยขัดแข้งขากันทำได้ยาก(เพราะมีปากมีเสียงน้อยกว่า) ผมไม่ได้เอียงที่สีไหน แต่สังเกตไหมว่าหลังจากเราได้รัฐธรรมนูญฉบับชาวบ้านงงๆมาเมื่อ 2475 ช่วงเวลาส่วนใหญ่บ้านเมืองเราเติบโตเหมือนไม่มีทิศทาง พอเราคิดว่าเราเป็นประชาธิปไตยหลายคนก็อยากตะโกนออกมาว่าข้ามีสิทธินั้นสิทธินี้. จริงๆแล้วคนเหล่านั้นรู้จักสิทธิของตัวเองและคนอื่นหรือเปล่า การปิดถนนเรียกร้องนู่นนี่อยู่ในสิทธิของพวกเราหรือเปล่า? คุยแล้วยาวครับเรื่องนี้ ถ้าบ้านเมืองเราจะกลับมาในทางที่ควรละก็ เราจำเป็นต้องให้อำนาจอยู่ในมือของคนที่ดีและเก่ง ให้เขาใช้ความเก่งนำพวกเราภายในกรอบของจริิยธรรมและศีลธรรม ปัญหาคือคนๆนั้นคือใคร และถึงจะมี เขาจะได้อำนาจมาอย่างไร 2 คำถามนี้ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะมีคำตอบครับ ปล. ความเห็นส่วนตัวนะครับและไม่ได้ถกการเมืองด้วย เราแตกประเด็นจากเรื่องเครื่องบินเพราะผู้ที่ดูรูปชุดนี้ก็คงสลดใจในการถอยหลังเข้าคลองของบ้านเมืองเรา จากคุณ : เพื่อนอาร์ต เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 17:17:00

ความคิดเห็นที่ 30 ผมก็คิดเหมือน คห 28 ว่าเราโดนถอดเขี้ยวเล็บและฝังเนื้อร้ายแบบเงียบๆโดยที่ไม่รู้ตัว เมื่อนานมาแล้ว แต่ไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำ อาจจะเป็นเพราะศักยภาพของผู้นำและคนไทยในอดีตที่พาประเทศผ่านวิกฤติหนักๆมาได้ตลอดเลยทำให้บางชาติเกิดความกังวล พอได้จังหวะเลยถือโอกาสแอบถอดเขี้ยวเล็บและฝังเนื้อร้าย ปล ทั้งหมดคือความเห็นส่วนตัว ไม่มีหลักฐานอ้างอิง จากคุณ : wind devil (Wind Devil) เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 17:17:17

ความคิดเห็นที่ 31 ความคิดเห็นส่วนตัว จริงๆแล้วเราเป็นฝ่ายแพ้สงคราม แต่คงไปตกตงอะไรกับพี่ใหญ่อเมริกาให้ช่วย แล้วเราก็ประกาสตัวว่าเราอยู่ฝ่ายชนะนะเออ เพื่อแลกกับอธิปไตยต่างๆ เสียสิทธิ์การพัฒนาอาวุท  เศรษฐกิจต่างๆก็อย่าให้พัฒนาเร็วเกินไป จากคุณ : Mr.Ti เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 17:33:44

ความคิดเห็นที่ 32 ผมเห็นด้วยกับประเด็นของท่าน คห.28 และ 30 แต่ผมไม่แปลกใจอะไรถ้าบางประเทศจะคอยขัดขวางไม่ให้เราพัฒนา เพราะทุกประเทศย่อมทำเพื่อผลประโยชน์ของตนอยู่แล้ว มันเป็นเรื่องปกติของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ แม้แต่การให้ความช่วยเหลือด้านต่างๆก็ส่งผลดีต่อประเทศผู้ให้อยู่แล้วครับ เช่นเดียวกับการทำ CSR ของบริษัทต่างๆ ประเด็นสำคัญในมุมมองผมคือผู้บริหารบ้านเมืองเราควรจะนำพาประเทศให้พัฒนาได้ ไม่ว่าจะทีคนมาขัดแข้งขัดขาหรือเปล่า ดูอย่างจีนหรือเกาหลีใต้สิครับ เขาจะไม่ทีคนคอยกีดกันเขาหรือ มีแน่นอนครับ แต่ถ้าเขาแน่พอก็เอาตัวรอดมาได้ ผมเชื่อว่าผู้ใหญ่ในวงราชการเราทราบเรื่องนี้ดีครับ แต่เวลาจะ action อะไรทีมันทำได้ยาก หรือไม่ก็เจอพิษการเมืองกันภายในจนไม่ได้ระวังภัยมืดจากภายนอกก็เป็นได้ จากคุณ : เพื่อนอาร์ต เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 17:40:46

ความคิดเห็นที่ 33 สมัยก่อนเรามีรถไฟใช้ก่อนประเทศใดๆ แล้วนี่ก็มีเครื่องบินรบของตัวเอง แต่สมัยนี้นี่สิ จากคุณ : blindseer เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 21:09:46

ความคิดเห็นที่ 34 ผมคิดว่าเราทุกคนต้องช่วยกันคนละไม้คนละมือเพื่อฟื้นฟูและผลักดันให้เมืองไทยไปในทิศทางที่ดีที่ควรจะเป็นและอยู่ในทิศทางที่ผู้นำและคนรุ่นก่อนพยายามวางรากฐานไว้ จากคุณ : wind devil (Wind Devil) เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 23:45:27

ความคิดเห็นที่ 35 เรื่องซื้อหรือทำเอง จะไม่ใช่ประเด็นเลยแม้แต่น้อย แค่แก้ปัญหาคอรัปชั่น ให้หมด การจัดซื้อโปร่งใส ที่มาที่ไปชี้แจงได้ อย่างมีเหตุมีผล ไม่ใช่ตั้งธงเอาไว้ แล้วก็ไปหาอะไรที่มันมั่วๆ ดูดีน่าเชื่อถือเหมือนตอนจัดหาgt200 ที่เอาภาพแพลตฟอรมการ์จอชื่อเดียวกันมาแสดง ดูยังไงก็งี่เง่ามากๆ ทำอย่างกับคนไทยโง่ดูไม่รู้เรื่อง แต่สุดท้าย ก็ทำไม่ได้ เพราะคอรัปชันฝังรากลึกมาก มีทุกวงการทุกชนชั้น ทำเรื่องนึงก็จะต้องเจออีกเรื่อง จนกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ปล่อยให้กินๆกันไป กรูกินมรึงกิน สมานฉันท์ปรองดองร่วมกันกิน เหอๆ จากคุณ : deletenumlock เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 01:41:20

ความคิดเห็นที่ 36 เมื่อก่อน มีเรือดำน้ำ     มีรถราง  ใช้ด้วย.. เป็นชาติ ที่ สอง    รองจากญี่ปุ่้น..ถึงแม้จะซื้อก็ เถอะ จากคุณ : นาย หุ้น n-park (prince-npark) เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 01:42:48

ความคิดเห็นที่ 37 อย่าว่าแต่คนใหญ่คนโต ลองดูคนใกล้ตัวสิ จัดซื้อนั่นนี่ ได้มากได้น้อยเท่าไหร่ มีเลี้ยงอะไร แทบจะกลายเป็นวัฒนธรรมการจ่ายไปแล้ว โดยไม่รุ้ตัว ส่วนตัวไม่เกี่ยวข้องเรื่องเงินๆทองๆ อยุ่แล้ว จากคุณ : longtime เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 12:03:12

ความคิดเห็นที่ 38 ความคิดเห็นส่วนตัว หลังจากที่เราแพ้สงคราม ก็คงไปขอความช่วยเหลือพี่ใหญ่อเมริกาให้ช่วยน้องหน่อยนะ และคงมีข้อตกลงประมาณจำกัดการพัฒนาด้านต่างๆ อาจจะประมาณ 10ปี 20ปี อะไรประมาณนี้ พวกสัมปทานต่างๆ ก็ต้องให้พี่หรือฝรั่งอื่นๆมีสิทธิ์เข้ามากอบโกย แต่คนไทยเราติดนิสัย คงทำต่อมาเรื่อยๆ ถึงแม้จะหมดระยะเวลาที่พี่เขาบังคับแล้วก็ยังยึดติดทำกันจนเป็นนิสัยหลังๆ ไม่ใช่แค่พี่ที่จะมากอบโกย คนบ้านเราเองก็กอบโกยเอา จนกลายเป็นวัฒนธรรม จากคุณ : Mr.Ti เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 12:20:09

ความคิดเห็นที่ 39 (เข้ามาเซฟกระทู้) จากคุณ : เวย์คุง เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 19:28:20

ความคิดเห็นที่ 40 เซ็งเป็ดประเทศตัวเองมากๆเลยครับ เมื่อก่อนเป็นผู้นำ ตอนนี้ล้าหลัง จากคุณ : kkak เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 55 00:32:05 A:115.87.120.123 X: TicketID:233465

ความคิดเห็นที่ 41 ถ้าทำมาเรื่อยๆป่านนี้ชาติเราคงเจริญก้าวหน้าเรื่องการบินไปมากกว่าชาติใดๆในโลกแล้ว // ขออนุญาตถาม แล้วทำไมถึงได้หยุดผลิตไปหล่ะครับ??? จากคุณ : เล็ก (srp_lk) เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 18:52:37