ความคิดเห็นที่ 1 คิดว่ามีมาตั้งแต่จำความได้ และพัฒนามาเรื่อยๆ จากคุณ : ตรียัมปัญนาคเชนทราอินต์ศรฒาฑัม เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 21:54:07

ความคิดเห็นที่ 2 ^ ตามนั้น เิพิ่มหน่อย ตั้งแต่ได้ยีนจากพ่อแม่แล้ว ศึกษาพัฒนามาเรื่อย จากคุณ : Ao+ เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 21:58:01

ความคิดเห็นที่ 3 เริ่มต้นฉลาด ตอนที่อ้าปากซักถามข้อสงสัย นั่นแหละได้งับความรู้เข้ามาเรื่อยๆ ฝรั่งเขาถึงลือกันว่า doubt is the beginning of wisdom ไงครับ จากคุณ : TinyNu เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 22:15:30

ความคิดเห็นที่ 4 ทำไมยกย่องไอน์สไตน์กันจัง จากคุณ : Wairoon เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 22:43:57

ความคิดเห็นที่ 5 แต่เมื่อไทยสิครับ ถามมากจะกลายเป็นเจ้าหนูจัมไม เพื่อนร่วมชั้นเกลียด หาว่าออกนอกเรื่อง ทำเสียเวลา อาจารย์ปล่อยช้า ผมโดนมาตั่้งแต่เด็ก ประเทศไทยถูกธรรมเนียมห้ามถามห้ามสงสัย คนอายุมากกว่าถูกเสมอ การแสดงคำถามหรือข้อสงสัยขัดแย้งจัดเป็นข้อห้ามทางประเพณีที่ร้ายกาจ จากคุณ : cotarozz เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 23:24:05

ความคิดเห็นที่ 6 ไอสไตน์ตอนเด็กเรียนไม่เก่ง จนออก รร. พ่อแม่ต้องสอนไห้เอง พวกอัฉริยะส่วนใหญ่ต้องไม่เดินกรอบเหมือนคนอื่นนะแหละ เฉียดใกล้พวกเด็กพิเศษ แต่ยังรู้ความเป็นจริงอยู่ สังเกตุง่ายๆว่าพวกที่คิดค้นๆอะไรใหม่ๆสมัยก่อน ไม่ใช่พวกจบ ดร. อะไรเลย ก็ชาวบ้านดีๆนี่เอง เพียงแต่ระบบเขาเอื้อไห้คนคิดอะไรใหม่ๆร่ำรวยได้ ข้อมูลวิชาการก็เข้าถึงได้ง่าย คนก็เลยหวังขุดทองตรงนี้กัน จากคุณ : sex เขียนเมื่อ : 21 เม.ย. 55 23:46:47 A:49.48.148.243 X: TicketID:165031

ความคิดเห็นที่ 7 ตั้งแต่โดนธนูปักที่หัวเข่านั่นละ จากคุณ : Kuroro Lucifer เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 00:08:50

ความคิดเห็นที่ 8 ตั้งแต่ได้เข็มทิศมั้ง จากคุณ : ไม่มีตรรกะ มีแต่กระ เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 00:33:35

ความคิดเห็นที่ 9 ผมว่าเค้าเป็นนักคิดมากกว่า คิดและคำนวนต่อยอดไปเรื่อยๆ จิตนาการในสิ่งที่ไม่มีอยู่ก่อนแล้วจึงหาค่าตาม เพราะเคยอ่านเรื่องของเค้า ในบุคลิกของเค้าจะไปแนวศิลปินมากกว่า เรื่องที่เขาไม่สนใจเค้าก็จะไม่สนและไม่อยากจะเรียนรู้เลย เวลาเค้าคิดเค้าก็จะคิดไปเรื่อยเปื่อย จนกระทั่งเดินห่างไกลไปจากบ้านมากๆ เค้าฉลาดเพราะเค้าไม่เคยหยุดคิด จากคุณ : Ballmakoto2 เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 01:26:21

ความคิดเห็นที่ 10 จริงๆผมมองว่าไอสไตน์เก่งมาแต่ต้นแล้วหล่ะแต่ที่เด็กสอบตกน่าจะผลจากอย่างอื่นมากกว่า เช่นไม่ตั้งใจเรียน หรือเพราะความคิดที่ขวางโลก คนอื่นเข้าไม่ถึง ไม่คิดว่าเด็กอายุขนาดนั้นจะคิดได้ ทำให้ทุกคนมองว่าเค้าโง่ เพราะไม่เชื่อในสิ่งที่คนรอบข้างเชื่อ เหมือนที่กาลิเลโอโดนเยอะเย้ยตอนที่บอกว่าโลกกลมนั่นแหละ ตอนม.ต้นผมเคยส่งโครงงานวิทยาศาสตร์ ผมกับเพื่อนนั่งออกแบบวงจรไฟฟ้า ทำสวิตรหัสที่เข้าสัญญาณด้วย การ์ดเจาะรู ส่วนการตรวจจับแสง การออกแบบรีเลย์ การต่อวงจรต่างๆ พวกผมออกแบบเองหมด ซึงเริ่มจาก วงจรเล็กๆ เอามาประกอบกันกับระบบอื่นๆ จากความรู้เรื่องอุปกรณ์ที่มีซึ่งจริงๆ ความรู้ที่ใช้มันไม่ได้ยากมากมาย หรอก และถ้าสมัยนั้นใช้ PIC เป็นคงไม่ซับซ้อนอะไรเลย แต่ด้วยความที่ทำไปเรื่อยไม่มี IC วงจรมันเลยมันใหญ่มาก หลายหน้าเลย พัฒนากันเป็นปีๆ อาจารย์ไม่ช่วยด้วยซ้ำ ทำเอกสารประกอบเป็นร้อยหน้า พอถึงเวลาแข่งจริง กรรมการไม่เชื่อครับว่าพวกผมทำเอง หาว่าไปลอกวงจรจากหนังสืออธิบายอย่างไรก็ไม่เชื่อ สุดท้ายไม่ได้แม้แต่ รางวัลชมเชย (รางวัลที่ 1 ได้เสื้อชูชีพที่ทำจากขวดเปล่า) ผมมองย้อนกลับมาผมว่ามันเกิดจากการที่กรรมการไม่ เชื่อว่าเด็กขนาดนั้นจะทำหรือคิดได้ ผลมันเลยติดลบ (ไม่ได้มีเจตนาจะเอาตัวเองไปเทียบไอสไตน์หรอกนะครับ แต่ยกตัวอย่างเฉยๆ) แก้ไขเมื่อ 22 เม.ย. 55 01:32:03 จากคุณ : hil4552 เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 01:31:07

ความคิดเห็นที่ 11 ไอน์สไตน์  เริ่มพัฒนาแควคิด วิธีคิด  จนกลายเป็นอัจฉริยะ  ตอนที่ไปทำงานเป็นเสมียนในสำนักงานรับจดทะเบียนสิทธิบัตรของประเทศสวิสฯ   เพราะในช่วงนี้ของชีวิต  ไอน์สไตน์ต้องอ่านรายละเอียดต่างๆของแนวคิดใหม่ๆ ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆทั้งหลาย ที่มาขอจะสิทธิบัตรนั้น  อ่านไปมากๆ  ก็เกิดแนวคิดของตนเองแตกฉานออกมา จึงได้เสนอแนวคิด 4 อย่างที่สำคัญของตนออกมาในปี ค.ศ.  1905 นั่นแหละ .... คือ แนวคิดเรื่องอะตอม  เรื่องแสงเป็นก้อนๆ และเรื่องทฤษฏีสัมพัทธภาพทั้ง 2 นั้น จากคุณ : โขตาน เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 02:03:31

ความคิดเห็นที่ 12 ไอน์สไตน์ เป็นอัจฉริยะตั้งแต่เกิดแล้วครับ เพียงแต่เขาเบื่อที่ต้องเรียนซ้ำๆกับสิ่งที่เขารู้แล้วเช่นเขาเข้าใจคณิตศาสตร์ ป.6 แต่ยังเรียนคณิตศาสตร์ ป.1 เลยเกิดความเบื่อหน่ายและตกพวกวิชาเกี่ยวกับศาสนาเพราะเขาคิดว่าหลายๆเรื่องเป็นไปไม่ได้ มันจะน่าเบื่อขนาดไหนกันละที่ต้องท่องจำเรื่องที่ตัวเองคิดว่าเป็นไปไม่ได้ (การเรียนในสมัยก่อนยังเป็นการท่องจำและโรงเรียนที่ไอน์สไตน์เรียนจะเคร่งเกี่ยวกับศาสนา) ครูที่สอนลงความเห็นว่า ไอน์สไตน์ เป้นเด็กปัญญาอ่อนชอบก่อปัญหา แต่แม่ของไอน์สไตน์เป็นครูมาก่อนไม่เชื่อจึงลองสอนด้วยตัวเองแล้วพบว่าลูกของตัวเองเป็นอัจฉริยะ ไม่ใช่เด็กปัญญาอ่อน แม่ของ ไอน์สไตน์ เคยจะให้ลูกเรียนดนตรีแทนนะครับแต่ไอน์สไตน์ชอบคณิตศาสตร์มากกว่า และแม่เองคงจะสอนวิธีการอยู่ร่วมกันในชั้นเรียนให้เลยไม่มีปัญหาอีก(ผมเดานะเพราะหลังจากแม่ค้นพบความอัจฉริยะของลูกแล้วก็ไม่เกิดปัญหาอีก)ไอน์สไตน์ไม่ได้มีปัญหากับเพื่อนนะครับแต่มีปัญหากับการจัดการเรียนการสอนแบบท่องจำนี่เป็นสาเหตุให้นักจัดการศึกษารุ่นใหม่ๆของไทยอยากจัดการศึกษาแบบคิดวิเคราะห์แยกแยะมากกว่าแต่ถึงกระนั้นข้อสอบที่ออกมาก็ยังเป็นแบบท่องจำอยู่ดีทำให้เด็กไทยสับสนว่าจัดการศึกษาแบบนึงแต่การวัดผลทางการศึกษาออกข้อสอบแบบนึงปัญหานี้ทางออกจึงถูกแก้ด้วยการที่ผู้ปกครองต้องส่งบุตรหลานไปเรียนพิเศษแทน ในประเทศไทยเองยังต้องแยกพวกคนเหล่านี้เป็นเรียนต่างหากนะครับเพราะถ้าเรียนรวมกับ เด็กปกติแล้วมักจะก่อปัญหาในห้องเรียน เมื่อเรารู้ว่าลูกเราเป็นอัจฉริยะแล้วต้องหาที่เรียนที่เหมาะสมให้เลย อันนี้เป็นกระทู้เก่าของผมเกี่ยวกับเด็กพิเศษเผื่อไครที่สนใจอ่านเพื่อศึกษาดู http://topicstock.pantip.com/wahkor/topicstock/2011/04/X10501801/X10501801.html จากคุณ : เวย์คุง เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 03:44:29

ความคิดเห็นที่ 13 #12 จริงที่สุด มีคนรู้น้อยนะ ว่ามันเทพแต่เกิดแล้วล่ะ ลบล้างที่เราเคยรู้ๆกันว่า "โง่" จากคุณ : เจ้าชายนิทราในความฝัน เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 03:47:29

ความคิดเห็นที่ 14 คนไอคิวสูง จะมีสมาธิดีมาก (โฟกัส) โดยเฉพาะเวลาที่ ต้องคิดคำนวณ ผลข้างเคียง ของคนที่เป็นอัจฉริยะ ก็คือมีโลกส่วนตัวสูง ปล.เค้าอาจจะไม่เห็นความสำคัญ หรือไม่รู้ตัว ก็เลยไม่ได้แก้ เรื่องบุคลิกการเข้าสังคม แต่ในสังคม ย่อมมีตำรา แนวปรัชญาเยอะ จึงทำให้คนอัจฉริยะ หลายคน แก้ปัญหา ในการทำงานกับคน ได้ดี เพราะได้อ่านตำราจิตวิทยา (Psychology) ปล.กลายเป็น ฉลาดรอบด้าน ของจริง ดังนั้นจะเห็นความแตกต่าง ในตัวคนเดียวกัน ระหว่างอัจฉริยะ สมัยเด็ก ที่ไม่ปรับตัวเข้าหาสังคม กับอัจฉริยะ วัยผู้ใหญ่ ที่เปิดใจรับ การปรับตัว ในการใช้ชีวิต และประโยชน์ของ วิชาจิตวิทยา (ในหลายๆหัวข้อ) จากคุณ : NipponJ เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 07:41:02

ความคิดเห็นที่ 15 ผมว่าไอสไตน์ฉลาดมาตั้งแต่เด็กแล้ว แต่ตอนเด็กเรียนไม่เก่ง จนออก รร. น่าจะเกิดจาก ครูมีความคิดไม่ทันมากกว่า ถามคำถามแบบอึ้งไปเลย ตอบไม่ได้ ไม่อยู่ในแนวที่รู้มา ก็เลยสรุปว่า...โง่ ให้ออกไปซะ จะได้ไม่มีปัญหาในการสอนในชั้นเรียน จากคุณ : อมมือ เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 09:15:32

ความคิดเห็นที่ 16 "ทำไมยกย่องไอนสไตน์กันจัง"  ก็คนเค้าเก่ง  นิ  งงว่ะ ให้ไปยกย่องคนที่คุณชอบแทนหรอ ตลกว่ะ จากคุณ : mootomoosun เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 11:00:27

ความคิดเห็นที่ 17 ไอน์สไตน์ มีความสามารถทางคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ไม่ต่างจากนักวิทยาศาสตร์ที่เก่ง ๆ คนอื่นๆ แต่สิ่งที่ทำให้ไอน์สไตน์ต่างออกไป คือ บุคลิค ลักษณะนิสัย วิธีคิด ไอน์สไตน์ เป็นคนที่แยกตัวจากสังคม มีโลกส่วนตัวสูง ตอนเด็ก ๆ เขามักจะพูด 2 ครั้ง ครั้งแรกพูดเบาๆ เหมือนพูดกับตนเอง ครั้งต่อมาจึงพูดกับคนอื่น ในโลกส่วนตัวนี้เองที่ทำให้ไอน์สไตน์ ไม่ได้รับอิทธิพลความคิดจากคนอื่นๆ เขาจึงคิดตรงไปตรงมา ในแนวของตนเอง ทำให้คนพบสิ่งใหม่ ๆ ได้ พูดง่าย ๆ คือ เขามีญาณหยั่งรู้มากกว่าคนอื่นๆ เช่น เรื่องของแสง นักวิทยาศาสตร์คนอื่น ๆ พากันคิดว่าแสงเหมือนคลื่นอื่น ๆ ที่เปลี่ยนความเร็วตามทิศทาง แต่ไอน์สไตน์คิดว่ามันน่าจะเร็วเท่ากันทุกทิศทาง จนในที่สุดเขาค้นพบทฤษฎีสัมพัทธภาพ จากคุณ : ผู้เฒ่าสายลม เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 11:40:19

ความคิดเห็นที่ 18 ช่ายๆ คนเก่ง คนฉลาด ยกย่องไปทำไม ต้องยกย่องคนรวย คนหล่อ คนสวยสิ โง่ไม่เป็นไร ประเทศชาติจะได้เจริญๆ จากคุณ : นี่ประชดนะเนี่ย เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 15:32:26 A:124.120.52.188 X: TicketID:339468

ความคิดเห็นที่ 19 คำที่ว่า  จินตนาการสำคัญกว่าความรู้   ใช่มาจาก เค้ารึเป่า   นึกถึงคนสมัยโน้นนนน บอกว่า โลกกลม เราจะมีเครื่องบิน มีTV  มี computer มี iPhone ไรงี้  ลากแม่น้ำ 8 สายมาพูดก็ไม่เชื่อ จากคุณ : โฮเฮะ เขียนเมื่อ : 22 เม.ย. 55 16:52:47

ความคิดเห็นที่ 20 อ่าน คห.๑๐ แล้วเซ็งเหมือนกันค่ะ ผู้ใหญ่คนไทยชอบคิดว่าเด็กกว่าเราไม่มีปัญญาทำได้ดีกว่าเราหรอก เด็กกว่าต้องอย่ามีปากเสียง โต้แย้งทางความคิดไม่ได้ เพราะเราเคยเจอ อ.สอนศิลปะถามเราว่า "งานนี้ไม่ได้วาดเองใช่มั้ย" เรามองหน้าแบบอึ้งๆ แล้วตอบไปย่างมีอารมณ์ว่า "วาดเองดิคะ ภาพแค่นี้ต้องให้ใครวาดให้ด้วยเหรอ?" มีอ.สอนสังคมของโรงเรียนรัฐหมายเลขหนึ่งในจังหวัด เคยว่าเรากลางชั้นเรียนว่า "ถ้าไม่อยากเรียนที่นี่แล้วจะให้พ่อแม่ฝากเข้ามาทำไม" เราตอบไปอย่างมีอารมณ์เช่นเคย.. "เผอิญว่ามันสอบติดอันดับแรกเองค่ะ ก็เลยต้องมาเรียน" ไม่ชอบเลยพวกคนที่ดูถูกคนอื่น แก้ไขเมื่อ 23 เม.ย. 55 00:12:09 จากคุณ : Animator's ART เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 00:11:46

ความคิดเห็นที่ 21 ให้ #5 ไป +3 ;) จากคุณ : Westinghouse เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 03:30:54