ความคิดเห็นที่ 1 ผลิตภัณฑ์ยอดฮิตของคนทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะวัยกำลังโตจะฮิตมาก นั่นคือ "บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป" (รสต้มยำกุ้ง) 1 ซอง พลังงาน 250 กิโลแคลอรี (พลังงานจากไขมัน 100 กิโลแคลอรี่) ไขมันทั้งหมด 11 กรัม - 17% (สูง) ไขมันอิ่มตัว 6 กรัม - 30% (สูงมาก) ไม่มีโคเลสเตอรอล โปรตีน 6 กรัม (ค่อนข้างสูง) คาร์โบไฮเดรต 33 กรัม - 11% (ค่อนข้างน้อย) ใยอาหาร 2 กรัม - 8% (น้อย) น้ำตาล 3 กรัม (น้อย) โซเดียม 1,480 มิลลิกรัม - 62% (สูงมากจนอันตราย) มีวิตามินเอและธาตุเหล็ก 33% จากการเสริมเข้าไปของผู้ผลิต Review : โดยรวมถือว่าเป็นอาหารที่ให้พลังงานค่อนข้างสูง แต่เป็นพลังงานจากไขมันซะส่วนใหญ่ซึ่งร่างกายนำไปใช้ได้ช้า เพราะร่างกายมักจะเอาไขมันไปเก็บสะสมไว้ก่อน(ใช้ทีหลังสุด) ที่สำคัญโซเดียมสูงมากถึง 62% การได้รับโซเดียมมากเกินไปจะเป็นอันตรายต่อไตและทำให้เสี่ยงต่อโรคความดันโลหิตสูง คุณค่าทางโภชนาการค่อนข้างต่ำ ดีหน่อยที่มีโปรตีนถึง 6 กรัม เทียบเท่านม 1 กล่องเลยนะครับ (แต่โซเดียมกับไขมันที่ได้รับมาด้วยก็ถือว่าไม่คุ้มค่า) แก้ไขเมื่อ 23 เม.ย. 55 13:22:42 จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 12:03:07

ความคิดเห็นที่ 2 เครื่องดื่มยอดฮิตจากแดนมะกัน - น้ำอัดลมสีดำ 1 ขวด (590 มิลลิลิตร) พลังงานทั้งหมด 240 กิโลแคลอรี่ ไม่มีไขมัน ไม่มีโปรตีน ไม่มีโคเลสเตอรอล คาร์โบไฮเดรต 63 กรัม - 21% (ค่อนข้างสูง) น้ำตาล 57 กรัม (สูงมากๆ เกินปริมาณที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน) โซเดียม 10 มิลลิกรัม - 0% ไม่มีวิตามินและแร่ธาตุใดๆ Review : เป็นน้ำ-กรดที่ให้พลังงานค่อนข้างสูง ค่าพีเอชประมาณ 2.0 - 3.0 (ประมาณน้ำมะนาว) แต่ไม่มีคุณค่าทางโภชนาการใดๆ นอกจากปริมาณน้ำตาลที่สูงเป็น 2 เท่าของปริมาณที่ควรได้รับต่อวัน อาจจะเหมาะสำหรับนักกีฬาหรือคนที่ต้องทำงานที่ใช้พลังงานสูง แต่ก็ต้องแบกความเสี่ยงต่อ"กรด"ในน้ำอัดลมคือกรดคา่ร์บอนิกและกรดฟอสฟอริกที่ทำลายเคลือบฟันและกัดกระเพาะอาหาร นอกจากนั้นมีการศึกษาว่ากรดฟอสฟอริกในน้ำอัดลมยังไปขัดขวางการดูดซึมแคลเซียมของร่างกายและเร่งให้กระดูกและฟันสูญเสียแคลเซียม อันเป็นสาเหตุของโรคกระดูกพรุนได้หากดื่มเป็นประจำ ************************************************************* แก้ไขเมื่อ 24 เม.ย. 55 11:51:05 แก้ไขเมื่อ 24 เม.ย. 55 11:47:14 แก้ไขเมื่อ 24 เม.ย. 55 11:45:13 แก้ไขเมื่อ 23 เม.ย. 55 12:15:24 จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 12:03:56

ความคิดเห็นที่ 3 น้ำอัดลมสีเขียว 1 กระป๋อง (325 มิลลิลิตร) พลังงานทั้งหมด 200 กิโลแคลอรี ไม่มีไขมัน ไม่มีโปรตีน ไม่มีโคเลสเตอรอล คาร์โบไฮเดรต 49 กรัม - 16% (ปานกลาง) น้ำตาล 39 กรัม (สูงมากๆ เกินปริมาณที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน) โซเดียม 5 มิลลิกรัม - 0% ไม่มีวิตามินและแร่ธาตุใดๆ Review : ถือว่าเป็นเครื่องดื่มที่ให้พลังงานค่อนข้างสูง เหมือนจะปลอดภัยที่ไร้ไขมัน แต่ด้วยปริมาณน้ำตาลและคาร์โบไฮเดรตทำให้มันกลายเป็นเครื่องดื่มที่อันตรายต่อสุขภาพหากดื่มเป็นประจำ รวมทั้ง"กรด"ของน้ำอัดลมยังทำลายเคลือบฟันและกัดกระเพาะอาหารส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 12:04:35

ความคิดเห็นที่ 4 ขนมขบเคี้ยวยอดฮิต - มันฝรั่งทอดแผ่นหยักรสเอ็กซ์ตร้าบาร์บิคิว 1 ถุงใหญ่ (57 กรัม) พลังงานทั้งหมด 320 กิโลแคลอรี (พลังงานจากไขมัน 160 กิโลแคลอรี) ไขมันทั้งหมด 18 กรัม - 28% (สูงมาก) ไขมันอิ่มตัว 4 กรัม - 20% (สูง) ไม่มีโคเลสเตอรอล โปรตีน 4 กรัม (ปานกลาง) คาร์โบไฮเดรต 34 กรัม - 12% (ปานกลาง) ใยอาหาร 2 กรัม - 8% (น้อย) น้ำตาล ประมาณ 1 กรัม (น้อยมาก) โซเดียม 280 มิลลิกรัม - 12% (ค่อนข้างน้อย) มีวิตามินบี 1 และธาตุเหล็ก 8% Review : ให้พลังงานสูง คุณค่าทางโภชนาการต่ำ หากจะกินเพื่อรสอร่อยควรแบ่งกินครั้งละครึ่งถุงเพื่อให้ร่างกายมีเวลาเผาผลาญจะได้ไม่ไปสะสมเป็นพุงพลุ้ยๆ จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 12:05:07

ความคิดเห็นที่ 5 ปลาเส้นยอดฮิตสีเหลือง 1 ซองใหญ่ (32 กรัม) พลังงานทั้งหมด 100 กิโลแคลอรี ไม่มีไขมัน โคเลสเตอรอล น้อยกว่า 5 มิลลิกรัม - 1% โปรตีน 8 กรัม (สูงมาก) คาร์โบไฮเดรต 16 กรัม - 5% (น้อย) ไม่มีใยอาหาร น้ำตาล 10 กรัม (ปานกลาง) โซเดียม 900 มิลลิกรัม - 38% (สูง) มีธาตุเหล็ก 8% Review : เป็นอาหารว่างที่มีประโยชน์ โปรตีนสูง ไร้ไขมัน ให้พลังงานต่ำ แต่ก็ยังเสี่ยงต่อปริมาณโซเดียมที่มากพอดู ถ้าทานเป็นครั้งคราวแก้หิวก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าทานบ่อยๆระวังโรคไตจะถามหา จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 12:05:48

ความคิดเห็นที่ 6 นมพร่องมันเนยยูเอชที 1 กล่อง (225 มิลลิลิตร) พลังงานทั้งหมด 110 กิโลแคลอรี (พลังงานจากไขมัน 35 กิโลแคลอรี) ไขมันทั้งหมด 3 กรัม - 5% (น้อย) ไขมันอิ่มตัว 0.5 กรัม - 2% (น้อย) โคเลสเตอรอล 20 มิลลิกรัม - 7% (น้อย) โปรตีน 8 กรัม (สูงมาก) คาร์โบไฮเดรต 12 กรัม - 4% (น้อย) ไม่มีใยอาหาร น้ำตาล 9 กรัม (ปานกลาง) โซเดียม 120 มิลลิกรัม - 5% (น้อย) มีแคลเซียม 40%,วิตามินบี 12 - 35%,ฟอสฟอรัส 30%,วิตามินบี 2 - 25% Review : อุดมไปด้วยคุณประโยชน์ทั้งโปรตีนและสารอาหารสำคัญอย่างแคลเซียมและฟอสฟอรัสที่หาไม่ได้ง่ายๆจากอาหารมื้อหลัก ไขมันต่ำ โซเดียมต่ำ ปริมาณน้ำตาลอยู่ในเกณฑ์ที่ปลอดภัย เพราะฉะนั้นดื่มเถอะครับ เพื่อสุขภาพ ************************************************************************************* แก้ไขเมื่อ 24 เม.ย. 55 15:28:00 แก้ไขเมื่อ 24 เม.ย. 55 15:27:04 จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 12:06:27

ความคิดเห็นที่ 7 น้ำนมถั่วเหลืองยูเอชที รสหวานคลาสสิค 1 กล่อง (300 มิลลิลิตร) พลังงานทั้งหมด 260 กิโลแคลอรี (พลังงานจากไขมัน 100 กิโลแคลอรี) ไขมันทั้งหมด 11 กรัม - 17% (สูง) ไขมันอิ่มตัว 5 กรัม - 25% (สูงมาก) ไม่มีโคเลสเตอรอล โปรตีน 9 กรัม (สูงมาก) คาร์โบไฮเดรต 32 กรัม - 11% (ปานกลาง) ใยอาหาร 1 กรัม - 4% (น้อย) น้ำตาล 28 กรัม (สูงมาก) โซเดียม 160 มิลลิกรัม - 7% (น้อย) มีแคลเซียม 10%,ธาตุเหล็ก 8%,วิตามินบี 2 - 6%,วิตามินเอ 4%,วิตามินบี 1 - 2% Review : โปรตีนสูงมาก แต่ก็ได้กรดอะมิโนไม่ครบอยู่ดีเพราะเป็นโปรตีนจากถั่วเหลือง ในขณะเดียวกันก็ต้องเสี่ยงกับไขมันและน้ำตาลที่สูงพอๆกันซึ่งจะทำให้อ้วนและเป็นเบาหวานเอาได้ โดยรวมแล้วนมพร่องมันเนยน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า แต่สำหรับคนที่แพ้นมวัวแล้ว นมถั่วเหลืองก็เป็นทางเลือกที่ดีแต่ควรจะเลือกสูตรที่มีน้ำตาลน้อยกว่านี้ จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 12:07:06

ความคิดเห็นที่ 8 กาแฟกระป๋อง เอสเปรสโซ่ โรสต์ 1 กระป๋อง (180 มิลลิลิตร) พลังงานทั้งหมด 90 กิโลแคลอรี (พลังงานจากไขมัน 15 กิโลแคลอรี) ไขมันทั้งหมด 1.5 กรัม - 2% (น้อย) ไขมันอิ่มตัว 0.5 กรัม - 2% (น้อย) โคเลสเตอรอล น้อยกว่า 5 มิลลิกรัม - 1% (น้อยมาก) โปรตีน 2 กรัม (น้อย) คาร์โบไฮเดรต 18 กรัม - 6% (น้อย) ใยอาหาร น้อยกว่า 1 กรัม - 4% (น้อย) น้ำตาล 16 กรัม (สูง) โซเดียม 110 มิลลิกรัม - 5% (น้อย) มีแคลเซียม 6% และคาเฟอีน 80 มิลลิกรัมต่อ 100 มิลลิลิตร = 144 มิลลิกรัมต่อกระป๋อง Review : ทุกอย่างโอเค ถ้าลดปริมาณน้ำตาลลงอีกหน่อยจะดีมาก (แต่รสชาติคงจะขมเกินไป) ทางเลือกที่ดีกว่าคือชงกาแฟดื่มเอง แล้วเติมน้ำตาลแค่ช้อนชาเดียว (4 กรัม) แล้วใส่พวกสารให้ความหวานแทนน้ำตาลที่ปลอดภัยเพิ่มลงไป เช่น ซูคราโลส ฯลฯ ก็จะอร่อยกลมกล่อมกำลังดี จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 12:07:45

ความคิดเห็นที่ 9 น้ำสะอาด 1 ขวด (600 มิลลิลิตร) พลังงานทั้งหมด 0 กิโลแคลอรี่ ไม่มีไขมัน ไม่มีโคเลสเตอรอล ไม่มีโปรตีน ไม่มีคาร์โบไฮเดรต ไม่มีน้ำตาล ไม่มีโซเดียม (ถ้ามีก็ต่ำมากจนแทบไม่พบ) ถ้าเป็นน้ำแร่ธรรมชาติก็จะมีแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์เพิ่มไปด้วย Review : เครื่องดื่มที่ดีที่สุดในโลก ดื่มเถอะวันละ 6-8 แก้ว (จะให้ดีควรจะ 8-10 แก้ว) หรือ 2 ขวดใหญ่ ตั้งไว้ที่โต๊ะทำงานเลยแล้วค่อยๆดื่มทีละนิดละหน่อยทั้งวัน รับรองสุขภาพดีขึ้นและแก่ช้าลงด้วย จบกระทู้แล้วครับ จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 12:08:41

ความคิดเห็นที่ 10 อันนี้แถมให้ น้ำปลา ของคู่บ้านคู่ครัวไทย 1 ช้อนโต๊ะ (15 มิลลิลิตร) พลังงานทั้งหมด 10 กิโลแึคลอรี ไม่มีไขมัน ไม่มีโคเลสเตอรอล ไม่มีคาร์โบไฮเดรต โปรตีน 2 กรัม (ถือว่าสูงเมื่อเทียบกับปริมาณ) น้ำตาล 1 กรัม (น้อยมาก) โซเดียม 1,620 มิลลิกรัม - 68% (สูงมากๆ แค่ช้อนโต๊ะเดียวนะครับ) จริงๆแล้วอาหารไทยขาดน้ำปลาไม่ได้หรอก แต่ลดลงบ้างได้เพื่อสุขภาพของเรา เพราะน้ำปลาแค่ 1 ช้อนโต๊ะมีเกลือมากเกือบ 1 ช้อนชาเลย จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 12:14:03

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบคุณครับ กระทู้มีประโยชน์ มากมาย อยากให้ Review บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ของ อินโดนีเซีย (Mie Sedaap รส หมี่โกเร็ง) และก็ของ มาเลเซีย ยี่ห้อ Ibumi Harmee รสหมี่โกเร็ง ดูครับ เห็นพลังงานหลังซอง ตั้ง 400 กิโลแครอลี่ โหดกว่า มาม่า ไทยอีกครับ จากคุณ : Ticket Card of God เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 12:26:22 A:110.171.29.19 X: TicketID:293847

ความคิดเห็นที่ 12 โอ้ ขอบคุณ  อยากให้รีวิว ไอ้ น้ำชาเขียวยี่ห้อนึง/ขนมของเจ้าเดียวกับมันฝรั่งแผ่น ที่ว่าทำมาจากมัลติเกรน และไอ้วุ้นบุกคาราจีแนน ที่ว่า อยู่ท้อง นั่นให้หน่อยจ้ะ   ................. จากคุณ : Lunar_Eclipse (Moonlight-Eclipse) เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 12:31:39

ความคิดเห็นที่ 13 ถ้ารูปเล็ก ๆ ใกล้ต้องใช้ macro จากคุณ : Ao+ เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 12:37:19

ความคิดเห็นที่ 14 #12 ได้ครัุบ จัดให้ เครื่องดื่มชาเขียวรสน้ำผึ้งมะนาว 1 ขวด (420 มิลลิลิตร) พลังงานทั้งหมด 220 กิโลแคลอรี ไม่มีไขมัน ไม่มีโคเลสเตอรอล โปรตีน 1 กรัม (น้อย) คาร์โปรไฮเดรต 53 กรัม - 18% (ค่อนข้างสูง) น้ำตาล 49 กรัม (สูงมากๆ พอๆกับน้ำอัดลม) โซเดียม 45 มิลลิกรัม - 2% (น้อยมาก) มีวิตามินซี 60% (ผู้ผลิตเสริมเข้าไป) Review : ชงชาเขียวแบบซองดื่มเองดีกว่ามั้ย? หรือถ้าชอบแบบเย็นก็ชงใส่กาแล้วเทใส่ขวดเอาแช่ตู้เย็น ถ้าชอบรสหวานก็เติมน้ำผึ้งเพิ่มนิดหน่อยผสมกับวัตถุให้ความหวานแทนน้ำตาลที่ปลอดภัย ปริมาณน้ำตาลขนาดนี้ไม่เรียกว่าเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพแล้วล่ะครับ แก้ไขเมื่อ 23 เม.ย. 55 12:44:31 จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 12:43:55

ความคิดเห็นที่ 15 มัลติเกรนผสมเนื้อสาหร่ายรสสาหร่าย 1 ซองเล็ก (16 กรัม) พลังงานทั้งหมด 80 กิโลแคลอรี่ (พลังงานจากไขมัน 35 กิโลแคลอรี่) ไขมันทั้งหมด 4 กรัม - 6% (น้อย) ไขมันอิ่มตัว 1.5 กรัม - 8% (น้อย) ไม่มีโคเลสเตอรอล โปรตีน 1 กรัม (น้อย) คาร์โบไฮเดรต 10 กรัม - 3% (น้อย) ใยอาหาร น้อยกว่า 1 กรัม - 3% (น้อยมาก) น้ำตาล 1 กรัม (น้อยมาก) โซเดียม 85 มิลลิกรัม - 4% (น้อย) มีธาตุเหล็ก 2% Review : เป็นขนมที่ให้พลังงานไม่มา่ก (แต่สำหรับผมถือว่าไม่น้อย) ปลอดภัยในระดับหนึ่ง แต่ขนมที่เป็นทางเลือกที่ดีกว่าน่าจะเป็นปลาเส้นครับ เพราะได้โปรตีน แม้โซเดียมจะสูงไปหน่อยก็เถอะ จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 12:49:27

ความคิดเห็นที่ 16 ขอรีวิวน้ำต้มไก่ กับน้ำผงรังนกด้วยได้ไหมครับ จากคุณ : KeyboardWarrior เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 13:28:47

ความคิดเห็นที่ 17 ขอบคุณคุณ pinspin มากเลยครับ ผู้สนใจ ผมว่า ลองไปหาของที่เราชอบกินมาดูก็ดีนะครับ โดยเทียบกับข้อมูลที่คุณ pinspin ให้ไว้ในหัวกระทู้ มันจะได้ทำให้เราเปรียบเทียวเองได้ด้วยน่ะครับ (แต่เข้าใจว่าหลายคนที่อยากให้คุณ pinspin เขียนรีวิว เพราะมีคำแนะนำน่าอ่านติดมาด้วยนะ) จากคุณ : paefah เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 14:08:35

ความคิดเห็นที่ 18 เยี่ยม ขอบคุณสำหรับรีวิวค่ะ จากคุณ : ชื่อเหมือนคนข้างล่าง เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 14:25:20

ความคิดเห็นที่ 19 อ้อ...ลืมบอกไปด้วยครับว่า เวลาอ่านฉลากโภชนาการเค้าจะระบุหน่วยบริโภคต่อซองไว้ ให้สังเกตดีๆ ระวังพลาดจุดนี้ไป เพราะข้อมูลจะคลาดเคลื่อนไปมากมาย เช่นขนม 1 ซองใหญ่หรือเครื่องดื่ม 1 ขวดใหญ่ อาจจะแบ่งบริโภคได้ถึง 3 หน่วย เช่น ในคคห.2 และ 4 ครับ สมมติว่า 1 หน่วยบริโภคให้พลังงาน 90 กิโลแคลอรี <<-- ดูเหมือนน้อย แต่ในฉลากระบุว่าขนมถุงนั้นมีหน่วยบริโภคถึง 3 เท่ากับ 90 คูณ 3 คือ 270 กิโลแคลอรี ถ้าทานทีเดียวหมด!!! ถือว่ามากเลยนะครับ เพราะฉะนั้นการแบ่งบริโภคทีละส่วนๆ ก็ช่วยให้เราห่างไกลโรคอ้วนและหุ่นย้วยย้อยได้ครับ จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 14:34:44

ความคิดเห็นที่ 20 . แก้ไขเมื่อ 23 เม.ย. 55 15:15:37 แก้ไขเมื่อ 23 เม.ย. 55 15:15:26 จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 15:14:44

ความคิดเห็นที่ 21 อันนี้เป็นเครื่องดื่มทางเลือกสำหรับผู้ที่ชื่นชอบรสชาติของน้ำอัดลมสีดำ แต่รับไม่ได้กับปริมาณน้ำตาลที่มากล้นเหลือของสูตรปกติ โค้ก ไลท์ 1 กระป๋อง (325 มิลลิลิตร) พลังงานทั้งหมด 0 กิโลแคลอรี ไม่มีไขมัน ไม่มีโคเลสเตอรอล ไม่มีโปรตีน ไม่มีคาร์โบไฮเดรต ไม่มีน้ำตาล โซเดียม 45 มิลลิกรัม - 2% (น้อยมาก) มีธาตุเหล็ก 4% และแคลเซียม 2% Review : ใช้เอซีซัลเฟมเค,แอสปาแตมและซูคราโลสเป็นวัตถุให้ความหวานแทนน้ำตาล เพราะฉะนั้นหมดปัญหาเรื่องเบาหวานและโรคอ้วนซึ่งมีน้ำตาลเป็นเหตุ แต่ก็ยังต้องเสี่ยงกับ"กรด"ในน้ำอัดลมอยู่ดีไม่ต่างจากสูตรปกติ ดังนั้นเคลือบฟันและกระเพาะอาหารจึงอาจเสียหายหากดื่มเป็นประจำ ดื่มบ้างเป็นครั้งคราวได้ แต่ควรดื่มน้ำสะอาดจะดีกว่ามาก จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 15:16:38

ความคิดเห็นที่ 22 กำลังดื่มชาเขียวอยู่พอดีเลย.... เฮือกกกก จากคุณ : กยิราเจ กยิราเถนัง เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 17:19:33

ความคิดเห็นที่ 23 น้ำต้มไก่ขวดละ 40  - 50 บาท น่ะครับ อยากทราบว่ามีสารอะไรบ้าง ปรกติเวลาซื้อผมชอบอ่านอยู่แล้ว ถ้ามีก็ไม่พลาดที่จะดูเลย จากคุณ : กบกินกะลา เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 17:47:51

ความคิดเห็นที่ 24 รบกวนรีวิวโยเกิร์ตกับสาหร่ายยี้ห้อดังด้วยนะครับ จากคุณ : -นอนกอดตัวเองทุกคืน- เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 17:54:35

ความคิดเห็นที่ 25 จขกท.กำลังวิ่งไปเซเว่น จากคุณ : Charlesano เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 17:59:50

ความคิดเห็นที่ 26 เบนโตะซองสีแดงๆอ่ะคะ  เราว่าพอทานได้  พอๆกับทาโร่  ในกรณีควบคุมน้ำหนัก  (ใช่หรือป่าว) จากคุณ : Falling Slowly เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 18:21:33

ความคิดเห็นที่ 27 #25 เรื่องนี้ถึงหูครูอังคณาแน่! จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 18:25:20

ความคิดเห็นที่ 28 กระทู้ดีแต่มาแป๊กตอนจบ (คห.9) เรื่องดื่มน้ำวันละ 8 แก้วเป็นเรื่องเข้าใจผิดทางวิทยาศาสตร์ครับ รายละเอียดไปเข้า google ค้นคำว่า: ดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว จากคุณ : Zeve เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 18:35:39

ความคิดเห็นที่ 29 Mi Sedaap รส หมี่โกเร็ง แบบแห้ง( ของ อินโดนีเซีย ) http://image.free.in.th/z/iw/misedaapgoreng.jpg http://image.free.in.th/z/is/misedaap2.jpg Ibumie รส หมี่โกเร็ง แบบแห้ง (ของ มาเลเซีย) http://image.free.in.th/z/iz/migoreng.jpg http://image.free.in.th/z/it/migoreng2.jpg Ibumie Penang Harmee Prawn Flavour (น่าจะรสกุ้ง แบบน้ำ) http://image.free.in.th/z/iq/harmee.jpg http://image.free.in.th/z/iz/harmee2.jpg อธิบายเพิ่มรูปมันเล็กครับ แถบสีทองของ บะหมี่กุ้ง คือ พลังงาน ข้างล่างคือ คาร์โบไฮเดรต โปรตีน และช่องสุดท้าย คือ ไขมัน ครับ พลังงาน ต่อ 100 กรัม 497 Kcal คาร์โบไฮเดรต 61.9 โปรตีน 9.1 ไขมัน 23.7 พลังงาน ต่อ 85 กรัม 423 Kcal คาร์โบไฮเดรต 52.6 โปรตีน 7.7 ไขมัน 20.1 ปล. ห่อนี้ น้ำหนักสุทธิ 85 กรัม รบกวน ท่านเจ้าของกระทู้ลองช่วยวิเคราะห์หน่อยครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : Ticket Card of God เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 18:38:48 A:110.171.29.19 X: TicketID:293847

ความคิดเห็นที่ 30 สงสัยในเรื่องโปรตีนดังนี้ครับ ในความเห็น  1   มะหมา ต้มยำกั้ง      โปรตีน 6 กรัม (ค่อนข้างสูง) ในความเห็น  5   ปลาสายสวรรค์       โปรตีน 8 กรัม (สูงมาก) สองอันนี้ทำไม จขกท.บอกโปรตีนค่อนข้างสูง และสูงมากครับ เพราะ Thai RDI ของโปรตีน มีค่าเท่ากับ 50 กรัม (http://www.foodnetworksolution.com/vocab/wordcap/Thai%20RDI) ถ้าคิดเป็น % ก็จะได้ 12 และ 16 ตามลำดับ มากกว่ากี่ % ถึงถือว่าโปรตีนสูงครับ จากคุณ : go2thanawat เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 18:40:33

ความคิดเห็นที่ 31 บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป อินโดนีเซีย กับ มาเลเซีย นี่ให้พลังงานเยอะจัง โปรตีน ก็เยอะ หมี่ Sedaap ของ อินโด โปรตีน 10 กรัม หมี่โกเร็ง มาเล โปรตีน 7.2 กรัม ( 1 หน่วยบริโภค 80 กรัม) บะหมี่กุ้ง มาเล ห่อสีแดง โปรตีน 7.7 กรัม (1 หน่วยบริโภค 85 กรัม) จากคุณ : Ticket Card of God เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 18:44:49 A:110.171.29.19 X: TicketID:293847

ความคิดเห็นที่ 32 ร่วมด้วยช่วยกัน ปลากระป๋อง H แบบแบน น้ำหนัก 190 ก. นน.เนื้อ 114 ก. สารอาหารต่อ 1 กระป๋อง(2หน่วยบริโภค X เข้าไปแล้ว) พลังงาน 220 K.Cal ( พลังงานจากไขมัน  100K.cal) ไขมันทั้งหมด 12 ก - 18 % ไขมันอิ่มตัว 5 ก  - 22 % คอลเลสเตรอส 90 มก. - 32 % โปรตีน 26 ก คาร์โบไฮเดรต 4 ก - 2% ใยอาหาร 2 ก - 8% น้ำตาล   0 โซเดียม 860 มิลลิกรัม - 36% B1 - 4% Iron  8% B2  12 % Calciam 60 % Iodeen 20 % (กินปลากระป๋อง ทั้งกระป๋องมีปลาอยู่ 4 ตัวเนื้อปลา 114 ก. ยังได้โปรตีนแค่ 26 ก. เอง ประมาณกินทาโร่ซองใหญ่ 3 ซอง) จากคุณ : กบน้อยจากกะลา เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 19:01:21

ความคิดเห็นที่ 33 ร่วมด้วยช่วยกัน นมเปรี้ยวพร้อมดื่มรสสตรอเบอร์รี่ โยเกิร์ต 1 หน่วยบริโภค 200 มล.                ยี่ห้อ                         D                      M                   R สารอาหาร               พลังงาน                               170 K.Cal              110 K.Cal        190 K.Cal พลังงานจากไขมัน                  25  K.Cal               0                     20 K.Cal ไขมันทั้งหมด                        2.5 ก. 4%              0                     2.5 ก. 4% ไขมันอิ่มตัว                          1.5 ก.  8%             0                     1.5 ก.  8% โคเลสเตอรอล                       10 มก. 3%           5 มก. 1%         10 มก. 3%   โปรตีน                                 3 ก.                     4 ก.                 3 ก. คาร์โบไฮเดรต                       33 ก.  11%           25 ก.  8%        39 ก.  13% ใยอาหาร                              1 ก.  2%               0                    0 น้ำตาล                                 28 ก.                    23 ก.              34 ก. โซเดียม                               55 มก. 2%            115 มก. 5%     45 มก. 2% A                                        2 %                     0 %                 6 % B1                                      0 %                     6 %                 20 % B2                                      20 %                   20 %                30 % Calciam                              10 %                   40 %                15 % Iron                                    0 %                     2 %                  2% (ทานนมเปรี้ยว 2 - 3 แก้ว ถึงจะได้โปรตีน เท่าทาโร่ซองใหญ่ 1 ซอง) แก้ไขเมื่อ 23 เม.ย. 55 19:26:36 จากคุณ : กบน้อยจากกะลา เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 19:24:22

ความคิดเห็นที่ 34 #28 ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ แต่คิดว่าไม่แป๊กนะครับ เพราะส่วนตัวของจขกท.คิดว่า 8 แก้วนั้นเหมาะสมด้วยประการทั้งปวงแล้วครับ จริงอยู่ที่ควรดื่มน้ำเมื่อเรารู้สึกกระหาย แต่อย่าลืมว่าวิถีชีวิตประจำวันในการดำรงชีวิตนั้นทำให้มนุษย์ละเลยความรู้สึกนี้ไป ไม่ว่าจะเป็นการทำงานหรืออะไรก็แล้วแต่ รวมทั้งภูมิอากาศในแต่ละที่ที่แตกต่างกัน ทำให้การสูญเสียน้ำของร่างกายก็ไม่เหมือนกันไปในแต่ละที่ ร่างกายอาจจะรับรู้ได้แตกต่างกัน เช่นในห้องแอร์ที่อากาศเย็นแต่แห้ง เรากลับรู้สึกหิวน้ำน้อยกว่าห้องธรรมดาที่อากาศร้อนกว่าแต่ชุ่มชื้นกว่า สำหรับผมแล้วเวลานั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์ ผมจะมีเหยือกใส่น้ำปักหลอดวางไว้ตรงหน้า 1 เหยือก แล้วคอยดูดน้ำเสมอเป็นระยะๆ ถึงไม่รู้สึกหิวน้ำผมก็ดื่ม แต่ถ้าเริ่มรู้สึกว่าปวดปัสสาวะถี่จนเกินไปผมจึงจะหยุดดื่มครับ ผมจะไม่รอให้รู้สึกหิวแล้วค่อยดื่ม แต่ผมจะดูจากสีและปริมาณของปัสสาวะเป็นเกณฑ์พิจารณาว่าร่างกายขาดน้ำหรือได้รับน้ำพอแล้วแทนครับ จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 19:26:45

ความคิดเห็นที่ 35 #30 เทียบจากน้ำหนักและความสะดวกในการรับประทานครับ อาหารที่โปรตีนสูงเมื่อเทียบกับน้ำหนักและง่ายต่อการรับประทานเช่น นมพร่้องมันเนย กล่องเล็ก เท่ากับแค่ 1 แก้วแต่ให้โปรตีน 8 กรัม เนื้อปลาสวรรค์ น้ำหนักแค่ 32 กรัม แต่ให้โปรตีน 8 กรัม ไข่ไก่ 1 ฟองเล็ก ให้โปรตีน 6 กรัม ซึ่งถ้าเทียบกับเนื้อหมู 100 กรัม ซึ่งให้โปรตีนประมาณ 20 กรัมแล้ว นมกับไข่ทานได้สะดวก ไม่ต้องยุ่งยากในการปรุงกว่ามากครับ ยิ่งถ้าเทียบกับพืชด้วยแล้วโปรตีนในนมถือว่ามากกว่าและมีคุณภาพดีกว่ามากครับ ซึ่งความต้องการโปรตีนของมนุษย์ตามปกติอยู่ที่ 1 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม เช่นน้ำหนัก 55 กิโลกรัม ก็ควรจะได้โปรตีนวันละ 55 กรัม แต่สำหรับคนที่ออกกำลังกายเป็นประจำ ควรจะรับเพิ่มเป็น 1.5 - 2 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมครับ ถ้าคุณอยากหาแหล่งโปรตีนเสริมที่คุ้มค่ากับปริมาณคงต้องทานเวย์โปรตีนครับ เพราะ 1 scoop (ประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ) นี่ได้โปรตีนถึง 25 - 30 กรัมเลย แต่มันแพง ****************************************************** แก้ไขเมื่อ 23 เม.ย. 55 19:43:54 แก้ไขเมื่อ 23 เม.ย. 55 19:42:45 จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 19:41:43

ความคิดเห็นที่ 36 เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ที่ผมว่าคุ้มค่า คุณประโยชน์เยอะที่สุด คุ้มเงินที่สุด ในท้องตลาดประเทศไทย คือ วีฟิต น้ำนมข้าวกล้อง โดยวีฟิต สีเขียว มีไฟเบอร์มากสุด 10กรัม (39%) กินแทนมื้อเย็นไม่กี่สัปดาห์ก็นน.ลดลงได้ง่ายๆ ปล. ผมเคยทดลองกินน้ำตาลปริมาณเยอะๆๆๆ เพื่อดูว่าผลจะเป็นยังไง กินไมโลแบบซอง3อิน1 แบบข้นคลั่กราวๆ 10 ซอง รวดเดียวหมด(แสบคอมาก เพราะกินแบบเทน้ำไปนิดเดียว เหมือนกินซอกโกแลตแท่งมากกว่า) ผลคือ 1.แสบปาก แสบคอ ไอ มีเสมหะ กระหายน้ำเปล่ามาก 2.เหงื่อออกมากขึ้น 3.เหงื่อที่ออกมา ไม่ใช่เหงื่อปกติ แต่เป็นเหงื่อที่เหมือนเป็นกรด เหนียวเหนอะ เหมือนผิวเป็นกรด 4.อารมณ์ฉุนเฉียว รำคาญง่าย อาการทั้งหมดเริ่มครบราวๆครึ่งชม. และมีผลตกค้างไปอีกหลายชม.(เกิน6ชม.) *-* จากคุณ : tanakeme เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 20:18:37

ความคิดเห็นที่ 37 ผมอ่านประจำครับ แต่ไม่รู้ว่ามันมากไฟหรือน้อยไปขนาดไหน ขอบคุณจขกท. มากครับ ขอให้มีความสุขและมีสุขภาพดีครับ จากคุณ : oro เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 21:04:13

ความคิดเห็นที่ 38 อยากถามว่า น้ำปลาลด โซเดียม (โซเดียมเหลือ 770 มิลลิกรัม) ที่ใช้โพแทสเซียมในการให้ความเค็มแทนนี่จะมีผลอะไรไหมครับ? ถ้าไม่มีผลอะไร ก็อยากแนะนำให้เพื่อน ๆ ห้องหว้ากอ ที่อาจจะติดกินเค็มลองเปลี่ยนไปใช้ดูครับ จากคุณ : Sain_Km8501 เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 21:37:50

ความคิดเห็นที่ 39 ลองดูคลิปเด็กๆ จากคุณ : lukva เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 22:08:28

ความคิดเห็นที่ 40 เราอ่านประจำเลยค่ะ ทั้งๆที่ไม่ได้ลดความอ้วนหรือสนใจสุขภาพเท่าไหร่ ดูๆไปงั้นแหละ อะไรที่อยากกินรู้ว่าไม่ดีก็กิน แต่ดีที่เราไม่กินน้ำอัดลมน้ำหวานเลยขนมก็กินนิดหน่อย ตอนนี้พยายามลดไขมันกับแป้ง ทั้งๆที่ใส่ใจกับทุกอย่างแต่มีอย่างนึงที่เลิกไม่ได้ค่ะ มาม่า ก็มันทำกินง่ายที่สุดแล้วอ่ะ แต่เห็นปริมาณไขมันกับโซเดียมแล้วจะเป็นลมเหมือนกันค่ะ แต่ก็ต้องกินประทังชีวิต =_= เมื่อก่อนยิ่งหนักกินทีสองห่อ ห่อเดียวมันกินไม่อิ่มจริงๆนะ แต่พลังงานนี่มันเกินพอ จากคุณ : boiledmilk เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 02:14:20

ความคิดเห็นที่ 41 ตอนนี้กินชีส เนื้อ กับไส้กรอกเยอะ เพราะผมเน้นโปรตีน เพราะเล่นเวจหน่ะ นน ไม่ลด ไม่เพิ่ม แต่กล้ามเนื้อขึ้นเร็วขึ้นเยอะกว่ากินธรรมดาทีเดียว จากคุณ : ขอเอาชื่ออากงเป็นเดิมพัน เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 02:33:20

ความคิดเห็นที่ 42 ใครอยากรู้ข้อมูลตัวไหน ถ่ายรูปฉลากมาให้ จขกท ดูเลยครับ งะ มัดมือชก ฮิฮิ :D จากคุณ : Mr.50satang เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 08:33:46

ความคิดเห็นที่ 43 กินไมโลหรือโอวัลตินถ้าใส่น้ำน้อย ทำให้ท้องผูกด้วยนะคะ เคยโดนกับตัวเองมา กินแบบนั้นอร่อยกว่า แต่เวลาถ่ายแทบนั่งร้องไห้ ทรมารมากกกกกกกก จากคุณ : ผีหลายบทบาท เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 09:17:16

ความคิดเห็นที่ 44 ดูประจำเหมือนกันครับ แต่ส่วนใหญ่จะไม่ได้คำนวณด้วยเท่าไหร่ ชอบเปรียบเทียบอาหาร ยี่ห้อ มากกว่า ส่วนใหญ่อาหารหลายๆ อย่าง น้ำตาลเยอะๆ ทั้งนั้น.... ปล.ชอบ Review แต่ละอย่างของ จขกท. มากครับ อ่าน เข้าใจง่าย แต่หวังว่าจะไม่ถือว่าเป็นการโฆษณานะครับ.... จากคุณ : ITEMP เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 09:33:23

ความคิดเห็นที่ 45 ได้ประโยชน์มาก ๆ ขอบคุณครับ จากคุณ : คนมีตังค์ เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 09:56:48

ความคิดเห็นที่ 46 มีตำถามครับ ปริมาณโซเดียมในบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปนั้น เขาแยกระหว่างผงเครื่องปรุง กับ เส้นหรือเปล่า? เพราะบางทีผมกินดิบๆไม่ใส่น้ำ แทบจะไม่ใส่เครื่องปรุง (หรือใส่น้อยมาก) เลยคิดว่าน่าจะช่วยลดปริมาณโซเดียม ที่รับเข้าไปได้บ้าง? จากคุณ : xx SlipNOTE Kevin Theater xx เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 10:47:32

ความคิดเห็นที่ 47 #38 คุณ Sain_Km8501 น้ำปลาลดโซเดียมเป็นทางเลือกที่ดีมากครับ นอกจากนั้นยังมีเกลือลดโซเดียมยี่ห้อ les so ที่ลดโซเดียมลงไปถึง 60% ต่อหนึ่งหน่วยบริโภค ขายในซุปเปอร์มาร์เก็ตตัว T ลองไปหาซื้อดูได้นะครับสำหรับคนรักสุขภาพและผู้ที่เป็นความดันโลหิตสูง แต่ขอเตือนไว้นิดนึงว่าผลิตภัณฑ์อย่างน้ำปลาและเกลือที่ลดโซเดียม ผู้ผลิตจะใช้"โพแทสเซียมคลอไรด์"ให้ความเค็มแทนโซเดียมคลอไรด์ ซึ่งจะมีผลต่อคนที่เป็นโรคหัวใจนะครับ ต้องระวังเอาไว้ จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 11:00:31

ความคิดเห็นที่ 48 #41 คุณ ขอเอาชื่ออากงเป็นเดิมพัน แนะนำให้ทานเนื้อสัตว์ไม่แปรรูปดีกว่าครับ เพราะเนื้อสัตว์แปรรูปต่างๆ เช่น แฮม ไส้กรอก ฯลฯ ผู้ผลิตจะใส่เกลือไนไตรท์หรือไนเตรทผสมไปด้วย แม้จะใส่ในปริมาณที่อย.ประเทศต่างๆอณุญาตแต่พิษจากการสะสมของไนไตรท์นั้นน่ากลัวนะครับ ไนไตรทและไนไตรท์ ทำให้เกิดอันตราย ต่อผู้บริโภค โดยเฉพาะผู้ที่มีปฏิกิริยาตอบสนองไวต่อสารนี้เป็นพิเศษ จะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้องท้องร่วง อุจจาระเป็นเลือด และปวดศีรษะ ไนไตรท์สามารถทำปฎิกริยากับเอมีน (amine) ในอาหารกลายเป็นสารก่อมะเร็งที่ร้ายแรง คือไนโตรซามีน(nitrosamine) ซึ่งทำให้เกิดมะเร็งตับ กระเพาะอาหาร และหลอดอาหาร  เด็กทารกที่มี เม็ทฮีโมโกลบินมากจะขาดออกซิเจนเพราะขนส่งออกซิเจนไม่ได้ และถ้ามีมากกว่า 60 % ของปริมาณฮีโมโกลบินทั้งหมดในเลือดจะเสียชีวิต นอกจากนี้ไนไตรท์ยังก่อให้เกิดปัญหาต่อการทำงานของต่อมไทรอยด์อีกด้วย อีกทั้งโปรตีนในเนื้อสัตว์แปรรูปก็มีคุณภาพด้อยกว่าเนื้อสัตว์ธรรมดาด้วยครับ กล่าวคือผู้ผลิตเค้าจะใส่เนื้อส่วนใดลงไปบ้างเราก็ไม่รู้ ผมเคยได้ยินว่าไส้กรอกที่เรากินกันมี"ปอดหมู"เป็นส่วนผสมมากที่สุดนะครับ จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 11:07:04

ความคิดเห็นที่ 49 ทำไมก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กแห้งหมูถึงให้พลังงานเยอะกว่าราดหน้า ทั้งๆที่ก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่คลุกน้ำมันเยิ้มมาจากกระบวนการผลิต แถมมาผัดน้ำมันก่อนราดน้ำ-น้ำมันเบิ้ลเข้าไปอีก ? ในขนาดที่เส้นเล็กแห้งหมูมีแต่น้ำมันกระเทียมเจียว 1 ช้อนชา น้ำอัดลมไปบล็อคการดูดซึมแคลเซียม???!! เหมือนในหว้าก้อถกกันไปแล้วกระทู้เมื่อไม่นานมานี้ มีอ้างอิงวิชาการไหมคะ ? จากคุณ : Pride เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 11:13:03

ความคิดเห็นที่ 50 #49 คุณ Pride ก๋วยเตี๋ยวแห้งให้พลังงานมากกว่าก๋วยเตี๋ยวน้ำทุกชนิดอยู่แล้วครับ นี่ยังไม่รวมปริมาณน้ำตาล-โซเดียมและไขมันที่เข้มข้นกว่า เพราะไม่มีน้ำมาเจือจางเวลาทาน ส่วนเรื่องเส้นใหญ่หรือเส้นคลุกน้ำมันอะไรนั่นคงต้องขึ้นอยู่กับแต่ละร้านที่เขาทำล่ะครับ เพราะข้อมูลแคลอรีในอาหารแต่ละที่ไม่ได้เท่ากันเป๊ะๆ จะให้เท่ากันหมดคงเป็นไปไม่ได้ น้ำอัดลมมีกรดตัวร้ายอยู่ 2 ชนิด 1. กรดคาร์บอนิก ที่เกิดจากปฏิกิริยาของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์กับน้ำและเป็นตัวที่ทำให้น้ำอัดลมมีรสซ่าและมีฟอง คาร์บอนิกเป็นกรดแก่ ที่ทำให้น้ำอัดลมมีค่าพีเอชประมาณ 2 (พอๆกับน้ำมะนาว) ดังนั้นการดื่มบ่อยๆจะสามารถทำให้เคลือบฟันเสียหายและระคายเคืองกระเพาะอาหารได้ 2. กรดฟอสฟอริก เป็นกรดแก่อีกชนิด มีการศึกษาในต่างประเทศพบว่ากรดชนิดนี้นอกจากทำลายเคลือบฟันและระคายเคืองกระเพาะอาหารแล้ว ยังไปขัดขวางการดูดซึมแคลเซียมของร่างกายและยังเป็นตัวเร่งให้กระดูกและฟันสูญเสียแคลเซียมมากขึ้นด้วยครับ จริงอยู่ที่ว่าน้ำอัดลมกัดกร่อนฟันหมดไม่ได้ในไม่กี่วัน แต่ฟันและกระเพาะพังแน่ๆ ถ้าดื่มเป็นประจำครับ จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 11:36:53

ความคิดเห็นที่ 51 ชอบกระทู้นี้มากค่ะ  ( ตามมายกยอปอปั้นกันอีกครั้ง จากโต๊ะสวนลุม 555+) บางสินค้า ไม่มีฉลากอ่ะ สงสัยกฎหมายยังครอบคลุมไม่ครบทุกประเภทนะคะ ( เข้าใจว่า ณ จุดนี้ บังคับแค่กลุ่มขนมกรุบกรอบ ) จากคุณ : จำฉันได้ไหม เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 11:57:42

ความคิดเห็นที่ 52 ฉลากพวกนี้สำคัญมากๆไม่เข้าใจเหมือนกันเวลาที่ไปซื้อของตามห้างสินค้าบางประเภทที่นำเข้า ชอบติดสติ๊กเกอร์ผู้นำเข้าหรืออะไรที่มันไม่สำคัญเลย ปิดทับข้อมูลพวกนี้เสมอๆ ทั้งที่มีเนื้อให้ติดตั้งเยอะแยะไม่เข้าใจเลยจริงๆ จากคุณ : Bride เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 12:01:37

ความคิดเห็นที่ 53 ดูประจำครับ เพราะต้องเอามาคำณวนการกินในแต่ละวัน ส่วนใหญ่จะดู แคลอรี่ เป็นหลัก (พยายามควบคุมไม่ให้เกิน2000) จากคุณ : Perfect Duck เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 12:09:53

ความคิดเห็นที่ 54 มีประโยชน์มากๆขอบคุณครับ จากคุณ : Iheringi เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 12:29:51

ความคิดเห็นที่ 55 กระทู้ดี มีสาระ ^^ จากคุณ : GreenEyes เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 14:23:57

ความคิดเห็นที่ 56 ขอบคุณ จขกท สำหรับข้อมูลดีๆครับ จากคุณ : Little_Slam เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 16:50:17

ความคิดเห็นที่ 57 ถั่วเหลืองถ้าไม่ใช่สูตรเจ ผมว่ากรดอะมิโนครบนะครับ เพราะใส่นมผงไปด้วย (เขียนในฉลาก) จากคุณ : Wise_candle เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 19:34:19

ความคิดเห็นที่ 58 #50 ผิดพลาดนะครับ #49 กล่าวเปรียบเทียบระหว่าง ราดหน้าและก๋วยเตี๋ยวหมูน้ำครับ ไม่มีก๋วยเตี๋ยวแห้งร่วมด้วยแต่อย่างใด ปกติแล้วก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่จะมีการใช้น้ำมันเพื่อช่วยไม่ให้มีการติดกันระหว่างชั้นของเส้นก่อนจะทำการตัดเป็นเส้นๆนะครับ (เค้าจะทำเป็นแผ่นใหญ่ๆหลายๆชั้นก่อนแล้วตัดทีเดียว) ไม่ใช่ในกระบวนการประกอบอาหารเป็นราดหน้า แต่เป็นกระบวนการผลิตเส้นครับ ดังนั้นผมจึงคิดว่าน่าจะเป็นการตีความหมายผิดพลาดมากกว่าครับ ที่สำคัญก๋วยเตี๋ยวราดหน้านั้นมักจะมีการใส่น้ำแป้งมันเสริมเพิ่มเข้าไปเพื่องสร้างความเหนียวหนืดให้กับน้ำราดด้วย ซึ่งผมคิดว่าน่าจะเพิ่มแคลอรี่ขึ้นมากเลยทีดียว โดยส่วนตัวผมแล้วผมคิดว่า ราดหน้านั้นน่าจะมีแคลอรี่มากกว่าก๋วยเตี๋ยวหมูน้ำครับ แต่ก็อย่างว่า แต่ละร้านก็มีสูตรอาหารและปริมาณที่แตกต่างกันไป การยึดเอาข้อมูลจากแหล่งเดียวมาเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจก็ออกจากหละหลวมไปหน่อย ปล. ผมเป็นคนหนึ่งที่ซดน้ำซุปจนหมดถ้วยครับ ดังนั้นผมจึงไม่เห็นว่าก๋วยเตี๋ยวน้ำจะให้พลังงานน้อยกว่าก๋วยเตี๋ยวแห้งแต่อย่างใด แก้ไขเมื่อ 24 เม.ย. 55 21:14:49 จากคุณ : Blue_Wind เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 21:12:19

ความคิดเห็นที่ 59 ถ้ามีรีวิวเบียร์กระป๋องด้วยจะขอบพระคุณมากเลยครับ ดื่มประจำ จากคุณ : เด็กน้อยกลิ่นวนิลา เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 55 22:31:48

ความคิดเห็นที่ 60 แล้วน้ำเต้าหู้แบบที่ขายกันเป็นถุงล่ะครับ พอจะรีวิวแบบคร่าวๆได้มั้ยครับ จขกท จากคุณ : Automotive เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 55 00:30:28

ความคิดเห็นที่ 61 ขอบคุณเจ้าของกระทู้มากครับ แล้วถ้าสมมุติยกตัวอย่าง คนเราควรทานข้าวมื้อละกี่จานดีครับ สำหรับผมถ้าไม่หักห้าม ผมมักจะเบิ้ลครับ ถ้าหักห้าม ก็จานเดียว หรือลดข้าวในจาน ไปเพิ่มเนื้อ กับผัก (ออกกำลังกาย เล่นเวจ เลยต้องการโปรตีนเพิ่ม) ขอบคุณครับ จากคุณ : POP_na เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 55 00:56:33

ความคิดเห็นที่ 62 ถ้าจะดื่มน้ำอัดลมแต่เขย่าให้เป็นฟองก่อนดื่มจะช่วยให้ํลดการกัดกร่อนของฟันกับกระเพาะได้ใช่มั้ยครับ? หรือการเขย่าลดแค่ความซ่าแต่กรดเท่าเดิม จากคุณ : BiOTTiRO เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 55 02:04:46

ความคิดเห็นที่ 63 ขอบคุณครับ จากคุณ : หมูทำไรก็อร่อยยกเว้นข้าวมันไก่ เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 55 10:51:10

ความคิดเห็นที่ 64 ขอบคุณครับ อ่านเช่นกัน พออ่านแล้วก็รู้สึกว่า คนไทยต้องกินหวาน น้ำตาลเยอะเกือบทุกอย่างเลย เวลาดื่มก็มักดื่มน้ำเปล่า ไม่ก็สูตรน้ำตาล 9-11 กรัม (เท่าที่เืลือกได้ - -" ) จากคุณ : haneul เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 55 12:50:11

ความคิดเห็นที่ 65 #58 ผมบอกไปแล้วครับว่าการวัดปริมาณแคลอรีในอาหารนั้นมีหลายปัจจัยเข้ามาเกี่ยวข้อง ดังนั้นการยึดข้อมูลเพียงแหล่งเดียวคงไม่สามรารถฟันธงได้ เพราะร้านแต่ละร้านมีปริมาณอาหารและส่วนผสมที่แตกต่างกัน ถ้าคุณอยากอ่านหลายๆที่ก็ลอง search ใน google พิมพ์คำว่า "แคลอรีในอาหาร" ดูครับ ส่วนประเด็นเรื่องก๋วยเตี๋ยวน้ำกับก๋วยเตี๋ยวแห้ง ผมขอยกตัวอย่างอีกอันหนึ่งละกันครับ เส้นใหญ่ผัดซีอิ๊วหมูใส่ไข่  679 กิโลแคลอรี ก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ราดหน้าหมู,ไก่ 397  กิโลแคลอรี http://www.jabchai.com/main/view_joke.php?id=4199 ส่วนที่ว่าคุณจะรู้สึกว่าได้พลังงานไม่น้อยไปกว่ากันหรือยังไงก็เรื่องของคุณล่ะครับ เพราะมันขึ้นอยู่กับว่า Lifestyle ของแต่ละคนเป็นอย่างไร สำหรับผมผมออกกำลังกายเป็นประจำ จะทานอะไรก็ไม่ต้องกังวลมากเพราะมีเวลาไปเผาผลาญมัน จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 55 13:00:30

ความคิดเห็นที่ 66 เห็นด้วยกับคุณ Bride มากๆ ปกติเราจะอ่านฉลากประจำเพื่อคำนวนดูพลังงาน และดูสารอาหาร แต่เวลาเดินซุปเปอร์ ที่กล่องจะชอบปิดสติกเกอร์นำเข้าทับบนตารางนี้ เป็นสติกเกอร์ ภาษาไทย เขียนว่ามีส่วนประกอบอะไรกี่เปอรเซ็น ซึ่งไม่ได้บอกข้อมูลที่เราต้องการ (บางอันไม่มีอะไรบอกเลยด้วยซ้ำ) หลายๆครั้งรู้สึกโมโหและรำคาญมาก เราคิดว่าข้อมูลตรงนี้สำคัญมาก แต่เค้าไม่ให้ผู้บริโภครับรู้ จากคุณ : kypsan เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 55 17:43:11

ความคิดเห็นที่ 67 ถ้าคุณไม่กินน้ำตาลทราย 16 ซอง แล้วเหตุใดคุณจึงดื่มน้ำตาลทราย 6 ซอง <<< พวกน้ำหวานน่ะค่ะ http://www.youtube.com/watch?v=62JMfv0tf3Q จากคุณ : Suomi เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 55 21:41:53

ความคิดเห็นที่ 68 ขอบคุณมากๆครับ ได้ความรู้อีกเยอะเลย จากคุณ : close2heaven เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 55 00:41:20

ความคิดเห็นที่ 69 กระทู้ดี ขอบคุณครับ จากคุณ : คลอโรพลาสต์ เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 55 02:49:15

ความคิดเห็นที่ 70 เรียนถามจขกทครับ ผมดื่มน้ำหวานและน้ำอัดลมเยอะมากในแต่ละวัน รวมๆกันน่าจะลิตรหน่อยๆ แต่ผมค่อนข้างผอม เพราะทานข้าวมื้อหนักแค่1-2มื้อต่อวัน ก็เลยสงสัยว่า เฉพาะน้ำหวาน น้ำตาลน่าจะประมาณ3-4เท่าของที่ควรได้รับในแต่ละวัน ทำไมผมถึงยังผอมครับ (ไม่ได้กินเพราะอยากอ้วนนะครับแค่ติดน้ำหวาน) ผมไม่ค่อยออกกำลังมากเท่าไหร่ มีวิ่งขึ้นลงตึกที่ทำงานในช่วงงานยุ่งๆบ้าง เคยได้ยินบางคนมีการเผาผลาญพลังงานมากกว่าปกติ แต่ก็เคยได้ยินว่าไม่มีจริง สงสัยครับ จากคุณ : nohaha เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 55 04:21:51

ความคิดเห็นที่ 71 #65 ในความคิดผม ผมว่าก๋วยเตี๋ยวน้ำกับแห้งถ้าใส่เหมือนกัน พลังงานที่ได้ก็น่าจะเท่ากันนะครับ ก๋วยเตี๋ยวน้ำจะให้พลังงานท่ีมากกว่าด้วยซ้ำเพราะน้ำซุป ส่วนผัดซีอิ๋วมีพลังงานมากกว่าราดหน้าเพราะใช้น้ำมันในการผัดและใส่ไข่ด้วย หรือผมเข้าใจอะไรผิดไป " จากคุณ : terquila เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 55 07:51:03 A:84.82.106.173 X: TicketID:357052

ความคิดเห็นที่ 72 เจ้าของกระทู้ขออนุญาตโพสต์ภาพเครื่องวัดค่าพีเอชในน้ำโค้กสูตรปกติครับ ตัวเลขที่ขึ้นในจอคือ 2.47 ส่วนพีเอชของน้ำมะนาวคือ 2.30 อ้างอิง : http://www.vcharkarn.com/vcafe/37593 จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 55 11:11:36

ความคิดเห็นที่ 73 ส่วนรูปด้านล่างนี้เป็นแถบเปรียบเทียบค่าพีเอชของสารต่างๆครับ ด้านซ้ายที่ศรชี้คือน้ำมะนาว ส่วนด้านขวาที่ศรชี้คือ เครื่องดื่มอัดก๊าซครับ เช่น โค้ก,เป็ปซี่,แฟนต้า,บิ๊กโคล่า ตรงกลางคือค่าพีเอชครับ เลขน้อยคือเป็นกรดมาก 7.0 คือเป็นกลาง (น้ำเปล่านั่นเอง) สังเกตในกรอบจะมี "เบียร์" อยู่ด้วย ซึ่งเบียร์มีค่าพีเอชประมาณ 4.4 - 4.5 ก็ถือว่าเป็นกรดแต่อ่อนกว่าโค้กเยอะครับ จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 55 11:22:47

ความคิดเห็นที่ 74 #70 คุณบอกว่าคุณเป็นคนรูปร่างผอม แต่รบกวนช่วยบอกส่วนสูงและน้ำหนักด้วยจะดีมากครับ เพราะจะได้สามารถคำนวณดัชนีมวลกายได้ (BMI) เพราะน้ำหนักที่ไม่สัมพันธ์กับส่วนสูงจะเป็นตัวบ่งชี้ได้ว่าคุณอ้วนหรือผอมไปจริงหรือไม่ โดยทั่วไปคนที่ผอม ถ้ามีกล้ามเนื้อมาก จะมีการเผาผลาญพลังงานมากกว่าคนอ้วนที่มีไขมันมาก ซึ่งเรียกว่าอัตราการเผาผลาญพื้นฐานคือปริมาณของพลังงานที่คุณใช้ในแต่ละวัน   คิดเป็น 50-80% ของอัตราการเผาผลาญของร่างกายทั้งหมด   การเผาผลาญในส่วนนี้ขึ้นกับปริมาณกล้ามเนื้อของร่างกายครับ   เพราะฉะนั้นคนที่มีกล้ามเนื้อมาก-ไขมันน้อย จึงมีการเผาผลาญสูงกว่าคนที่มีไขมันมาก-กล้ามเนื้อน้อย ที่เหลือเป็นเรื่องของการออกกำลังกายและอาหารการกิน ถ้าจะให้แนะนำผมคิดว่าหากคุณอยากเพิ่มน้ำหนักคุณควรลดน้ำตาลลงเพราะร่างกายจะเอาน้ำตาลไปใช้เป็นพลังงานได้เร็วกว่าไขมันและโปรตีน แล้วหันมาเพิ่มอาหารประเภทโปรตีนมากขึ้นเพื่อเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ จะสามารถเพิ่มน้ำหนักได้โดยที่ไม่ต้องรับไขมันมากเกินไป หรืออาจจะเป็นวิธีนี้ก็ได้ครับที่พวกนักเพาะกายชอบทำกันคือการทานเยอะๆมากๆพร้อมๆกับการออกกำลังกายอย่างหนัก เพื่อให้น้ำหนักขึ้นไปก่อน (อ้วนก่อน แต่สร้างกล้ามเนื้อไปพร้อมกันเพื่อการเผาผลาญที่ดีโดยรวม) จากนั้นค่อยมาควบคุมอาหาร โดยเฉพาะพวกไขมันและน้ำตาลต้องทานให้น้อยที่สุด ทานโปรตีนมากๆๆ ส่วนคาร์โบไฮเดรตทานพอประมาณ และออกกำลังกายอย่างหนักไปพร้อมๆกัน ผลที่ได้คือไขมันจะค่อยๆหายไป เพราะร่างกายมีมวลกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนท้ายที่สุดก็จะได้รูปร่างที่ฟิตสมใจครับ แต่ต้องใช้ระยะเวลาและความมีวินัยในตัวเองที่สูงมากนะครับจึงจะสำเร็จได้ อ้างอิง : http://www.thaifittips.com/article134.html จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 55 12:02:40

ความคิดเห็นที่ 75 #74 จัดเต็มมากๆ ขอบคุณครับ ผมสูง173 หนัก53-54 ก่อนนี้หนัก50-51เองครับ มีช่วงนึงกินบุฟเฟ่ติดๆกันหลายวันขึ้นเป็น56ตอนนี้ก็ลงมา53-54 อีกอย่างคือผมนอนน้อยด้วยครับ เฉลี่ยวันละ5ชม. นิสัยไฮเปอร์นิดๆชอบเดินเพ่นพ่าน แต่ไม่ได้ทำอะไรที่เป็นการออกกำลังหนักๆ เวลาส่วนใหญ่ก็นั่งหน้าคอมกับนั่งทำงานเบาๆครับ *ขอถามเพิ่มครับ เราจะเชื่อได้ยังไงว่าที่บอกในฉลากเป็นความจริงครับ เช่นน้ำผลไม้ปลอมๆบางยี่ห้อเขียนซะเยอะเว่อร์ จากคุณ : nohaha เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 55 14:40:06

ความคิดเห็นที่ 76 ตั้งแต่เกิดมา จนอายุ 30 ปี ฟันไม่เคยผุ ไม่เคยเป็นอะไรเลยสักนิด แต่พอติดดื่มโค้ก ได้ 2 ปี ฟันด้านในผุกร่อนหลุดออกมาครึ่งซี่เลย มันเกี่ยวกันมั้ย แต่เชื่อว่าเกี่ยว  T^T จากคุณ : แพรเพลง เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 55 16:44:37

ความคิดเห็นที่ 77 กระทู้น่ารักมาก หิวได้อีก... พ่อเราชอบกินแลกตาซอยมาก สงสัยต้องให้ลดซะแล้ว เดี๋ยวเบาหวานกำเริบ จากคุณ : น้องสาวพ่อมด เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 55 20:33:43

ความคิดเห็นที่ 78 ทุกอย่างที่ จขกท. มารีวิว ผมชอบกินหมดทุกอย่างเลย จากคุณ : boystate เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 55 20:56:35

ความคิดเห็นที่ 79 มีเรื่องสงสัยพอดีเลยค่ะ คืออยากถามว่าการที่เหงื่อออกเยอะๆเวลาออกกำลังกายเนี่ยคอลเรสเตอรอลจะโดนเผาผลาญเยอะตามเหงื่อด้วยไหมคะ อย่างถ้าคนสองคนวิ่งในระยะทางที่เท่ากัน ความเร็วเท่ากัน ทั้งสองคนจะเผาผลาญพลังงานไปเท่ากันหรือเปล่าคะ หรือแต่ละคนความสามารถในการเผาผลาญพลังงานหรือพวกคอลเรสเตอรอลไขมันต่างกันไป จากคุณ : poodinn เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 55 22:01:03

ความคิดเห็นที่ 80 ผมกินมื้อดึกสามสี่ทุ่มประจำมีผลมั้ยครับ แต่ส่วนใหญ่กินแต่ เล็กลูกชิ้น หมี่ขาวลูกชิ้น ทุกวันนะครับ กินดึกเพราะออกกำลังกายกว่าจะเลิกก็ดึกแล้ว หนักจะ 100 อยู่แล้วสูง 190 จากคุณ : s[l]aY เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 55 00:02:36

ความคิดเห็นที่ 81 แล้วน้ำอัดลมดำมีผลอะไรเกี่ยวกับความเซื่องซึมมั้ยครับ? จากคุณ : Silent-Viper เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 55 10:04:56

ความคิดเห็นที่ 82 #79 คุณ poodinn ก่อนอื่นต้องมารู้จักกับโคเลสเตอรอลกันสักหน่อยครับ โคเลสเตอรอล (CHOLESTEROL) เป็นไขมันชนิดหนึ่งที่พบในเลือด แม้ไม่สามารถให้พลังงานแก่ร่างกายได้ แต่ก็มีประโยชน์ในการสร้างกรดน้ำดีซึ่งช่วยในการย่อยอาหาร สร้างฮอร์โมนบางชนิด และวิตามินดี รวมทั้งเป็นองค์ประกอบของผนังเซลล์ ตับสร้างไขมันโคเลสเตอรอลได้ แต่เมื่อใดที่โคเลสเตอรอลในเลือดมีมากเกินความต้องการของร่างกาย คือ มากกว่า 200 mg/dl โคเลสเตอรอลเหล่านี้มีโอกาสไปสะสมใต้ผนังหลอดเลือดด้านในมากขึ้นทำให้หลอดเลือดตีบและอุดตันในที่สุด 1. แอล ดี แอล โคเลสเตอรอล (LDL Cholesterol) ไขมันตัวนี้เปรียบเสมือน “ตัวผู้ร้าย” ถ้ามีปริมาณมากจะสะสมอยู่ในหลอดเลือดแดงเป็นต้นเหตุของหลอดเลือดแดงแข็ง ยิ่งระดับ แอล ดี แอล โคเลสเตอรอลสูงมากเท่าไหร่ อัตราเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจยิ่งมากขึ้นเท่านั้น 2. เอช ดี แอล โคเลสเตอรอล (HDL Cholesterol) เปรียบเสมือน “ตำรวจ” คอยจับผู้ร้าย เพราะเป็นตัวกำจัด แอล ดี แอล โคเลสเตอรอล ออกจากหลอดเลือดแดง การมีระดับเอช ดี แอล โคเลสเตอรอลสูง จึงช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ การออกกำลังกายเป็นวิธีการหนึ่งที่มีส่วนช่วยทำให้ระดับโคเลสเตอรอลลดลง เพิ่ม HDL โคเลสเตอรอล และสร้างความแข็งแรงให้ร่างกายอีกด้วย โดยวิธีการออกกำลังกายที่เหมาะสมในการช่วยให้หัวใจและปอดแข็งแรง คือการออกกำลังกายแบบแอโรบิค เช่น เดินเร็ว วิ่ง ว่าย น้ำ ขี่จักรยาน อย่างต่อเนื่องนาน 20-50 นาที สัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง กีฬาบางประเภท เช่น กอล์ฟ เทนนิส แม้จะช่วยเผาผลาญพลังงาน แต่ไม่จัดเป็นการออกกำลังกายแบบแอโรบิค อ้างอิง : http://www.calintertrade.co.th/blog/?p=121 ******************************************************************************************** ---> จากข้อมูลด้านบนจึงตอบคำถามแรกได้ว่าการออกกำลังกายสามารถช่วยลดระดับโคเลสเตอรอลได้ แต่ต้องออกกำลังกายประเภทแอโรบิค(ใช้ออกซิเจน)นาน 20 นาทีขึ้นไป 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์ นอกจากนั้นอีกวิธีนึงในการลดระดับโคเลสเตอรอลคือการควบคุมอาหาร โดยหลีกเลี่ยงอาหารที่มีโคเลสเตอรอลสูง เช่น ไข่แดง เครื่องในสัตว์ กุ้ง ปลาหมึก หอย และรับประทานอาหารที่มีเส้นใยสูง ส่วนเรื่องของการเผาผลาญพลังงานที่คุณถามมานั้น ตอบได้เลยครับว่าไม่เท่ากัีน เพราะอัตราการเผาผลาญหลักของร่างกายกว่า 50-80% นั้นขึ้นอยู่กับ"มวลกล้ามเนื้อ" ถ้าน้ำหนักตัวเท่ากันแต่เรามีมวลกล้ามเนื้อมากอัตราการเผาผลาญจะสูงมากตามไปด้วย ตรงกันข้ามหากเรามีมวลกล้ามเนื้อน้อยกว่า(ไขมันซะส่วนใหญ่) อัตราการเผาผลาญก็จะน้อยกว่าคนที่มีแต่กล้ามเนื้อครับ อีกทั้งการออกกำลังกายติดต่อกันยังทำให้ร่างกายเกิดความเคยชินกับพฤติกรรมนั้นจึงมีส่วนให้การเผาผลาญไม่เท่าเดิมหากวิ่งในอัตราความเร็วและระยะทางเดิมๆครับ เช่นวิ่งวันละ 20 นาที ด้วยความเร็วเดิมๆ ทุกวันตลอด 1 สัปดาห์ การเผาผลาญไม่ดีเท่าวิ่งเร็วสลับช้า 20 นาที 1-2 วันสลับกับวิ่งปกตินาน 20 นาทีตลอด 1 สัปดาห์ครับ เพราะมันจะ"กระตุ้น"ให้ร่างกายเผาผลาญพลัวงงานได้ดีกว่า จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 55 11:42:01

ความคิดเห็นที่ 83 โซดาอันตรายหรือเปล่าครับ ถ้าอยากกินอะไรซ่า ๆ แต่ไม่อยากกินน้ำอัดลม แล้ว น้ำแดงโซดา เทียบกับ น้ำดำ นี่เป็นอย่างไรครับ จากคุณ : โดดเดี่ยวในบ้านหลังใหญ่ เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 55 14:44:40

ความคิดเห็นที่ 84 สมมุติมาม่า 1 ซอง เขียนว่าให้พลังงาน 100 kcal หมายความว่า เรากินมาม่าซองนี้แล้วได้พลังงาน 100 kcal(อาจย่อยได้ 80%) หรือว่า กินแล้วต้องสามารถย่อยได้ 100 % จึงจะได้พลังงาน 100 kcal คือสงสัยว่า ร่างกายเราย่อยและนำสารอาหารในอาหารมาใช้ได้ทั้งหมดรึเปล่า จากคุณ : Yoshitomi เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 55 15:23:52

ความคิดเห็นที่ 85 #83 โซดา ก็เป็นพวก Carbonated Beverages เช่นเดียวกับน้ำอัดลมสารพัดสียี่ห้อต่างๆครับ กระบวนการเติมก๊าซ CO2 ลงไปในน้ำเพื่อให้เกิดรสซ่าทำให้โซดามีสภาพเป็นกรด มีค่าพีเอชประมาณ 2.0 - 3.0 พอๆกับน้ำโค้ก-แฟนต้า-เป็ปซี่-มิรินด้า-น้ำมะนาว ครับ น้ำแดงโซดา ปลอดภัยกว่าน้ำแดงแฟนต้าหรือน้ำโค้กธรรมดาๆ ตรงที่ปริมาณน้ำตาลถูกเจือจางลง แต่ก็เสี่ยงกับกรดและสารเคมีในโซดาอยู่ดีครับ จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 55 15:35:10

ความคิดเห็นที่ 86 #84 จขกท.คิดว่าปริมาณแคลอรีรวมที่ระบุไว้บนฉลากเป็นแคลอรีโดยประมาณน่ะครับ คือถ้ากินเข้าไปหมดซอง ก็อาจจะได้แคลอรีตามที่ผู้ผลิตระบุไว้ หรืออาจจะ +/- กว่านั้นเล็กน้อย ตัวเลขคงไม่ได้ตรงกับแคลอรีจริงเป๊ะๆเลยน่ะครับ จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 55 15:38:31

ความคิดเห็นที่ 87 อยากให้ Review พวกเครื่องดืมชูกำลังให้ดูหน่อยครับ จากคุณ : Gatuso เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 55 16:50:16

ความคิดเห็นที่ 88 วันก่อนผมไปทาน MK แบบบุฟเฟ่ต์มาครับ สั่งเช็คบิลเสร็จปุ้ป มีไอ้เจ้านี้วางมา แล้วแล้วแทบช๊อค O.o เอาออกแทบตาย เอาเข้าวันเดียวจบ T_T จากคุณ : เด็กกรุง เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 55 21:36:08

ความคิดเห็นที่ 89 โซเดียม 5.3 ไม่น่าเป็นไปได้เลยนะเนี่ย โปรตีนนี่ 227 กรัมนี่ก็เว่อร์เกิน คิดยังไงเนี่ย เนื่อสัตว์ 100 กรัมไม่ใช่หมายความว่าจะได้โปรตีน 100 กรัมนะ เอ้อ จากคุณ : BeastGuy เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 55 23:53:59

ความคิดเห็นที่ 90 ไข่ 1 ใบนี่มีโปรตีนเฉลี่ยเท่าไหร่กันแน่ครับแล้วก็มีไขมันกับพลังงานเท่าไหร่กันแน่ แยกเป็น ไข่แดง ไข่ขาว อ่านมาหลายๆ ที่แล้วก็งงๆ แล้วคนเล่นเวท แบบทั่วๆไป ไม่ควรทานโปรตีนวันนึง เท่าน้ำหนักตัวต่อกรัมจริงไหมครับ บางคนบอก เท่าตัวบางคนบอกสองเท่า (หนัก 70 โล ต้องกิน โปรตีน 70 กรัม) แก้ไขเมื่อ 28 เม.ย. 55 02:45:45 จากคุณ : xnone เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 55 02:44:26

ความคิดเห็นที่ 91 พลังงานจากขนมจีนน้ำยามากไปหรือเปล่าคะ หมายถึง ขนมจีน+น้ำยา เคยอ่านเจอน้อยกว่านี้มาก ขอไปหาข้อมูลหน่อยนะคะ 13 ขนมจีนน้ำยา 332 14 ขนมจีนน้ำพริก 228 15 ขนมจีนน้ำยาปักษ์ใต้ 146 16 ขนมจีนน้ำเงี้ยว 243 credit : http://www.jabchai.com/main/view_joke.php?id=4199 จากคุณ : เจ็บแค่ไหนไม่รู้เลย เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 55 08:59:24

ความคิดเห็นที่ 92 ขนมจีนน้ำยามันมีกะทิ ส่วนอันอื่นไม่ใส่กะทิ ส่วนน้ำพริก ไม่แน่ใจไม่เคยกิน จากคุณ : เหมา ม่วน เม่า เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 55 09:56:22

ความคิดเห็นที่ 93 #88 คุณ เด็กกรุง ผมเคยอ่านเหมือนกันครับเวลาไปทาน MK เสร็จ ส่วนตัวผมว่าข้อมูลของผมเวลาทานเสร็จมันยังเว่อร์เลยครับ เคยมีครั้งนึงไปทาน MK กับคุณแม่ 2 คนแล้ว MK บอกว่าได้ไฟเบอร์ 25 กรัมต่อคน - -' เพราะฉะนั้นเท่ากับ 50 กรัมโดยรวม ---> เยอะเว่อร์ ข้อมูลจาก : http://www.tungsong.com/OnlyDay/onlynews_5.html กะหล่ำปลี 1 ขีด ให้ไฟเบอร์ 1.6 กรัม ปวยเล้ง 1 ขีด ให้ไฟเบอร์ 2.4 กรัม ผักกาดขาว 1 ขีด ให้ไฟเบอร์ 1.6 กรัม ผักกวางตุ้ง 1 ขีด ให้ไฟเบอร์ 2.3 กรัม ผักบุ้งจีน 1 ขีด ให้ไฟเบอร์ 2.4 กรัม เห็ดนางฟ้า 1 ขีด ให้ไฟเบอร์ 2.1 กรัม ซึ่งปกติถ้าไปทาน MK ผมก็จะสั่งผักประมาณนี้ (แต่อย่างละอาจจะไม่ถึง 1 ขีด) เอาตัวเลขไฟเบอร์เป็นตัวอย่างปริมาณไฟเบอร์นะครับ อาจไม่ตรงตามความจริงเป๊ะๆ ก็จะได้ไฟเบอร์รวมจากผัก = 12.4 กรัม หารสอง = คนละ 6.2 กรัม   ถ้ารวมกับไฟเบอร์จากแหล่งอื่นๆในอาหารอย่างอื่นที่สั่งก็น่่าจะ = 15 - 16 กรัม หารสอง = คนละ 7.5 - 8 กรัม แล้ว MK ไปเอาไฟเบอร์ที่ไหนมาให้ผมกับแม่อีกตั้ง 30 กว่ากรัม??? รวมทั้งปริมาณโปรตีนที่คุณโพสต์รูปนั้น MK เว่อร์มากครับท่าน โปรตีน 227.3 กรัม !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! ต่อคน ย้ำว่าต่อคน! แสดงว่าพวกคุณทานโปรตีนรวมกัน 454.6 กรัม!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!! โดยเฉลี่ยเนื้อหมู-ไก่ 1 ขีด จะมีโปรตีนประมาณ 20% ของน้ำหนัก = 20 กรัมโดยประมาณ นั่นเท่ากับว่ามื้อนั้น MK จัดเนื้อสัตว์ให้พวกคุณไปกว่า 2,273 กรัม ( 2 กิโลกับอีก 2 ขีด) จัดหนักไปมั้ย MK ??? เว่อซะ แต่ฉลากโภชนาการตามสินค้าบริโภคต่างๆนั้นตัวเลขแคลอรีและสารอาหารจะใกล้เคียงกับความจริงมากกว่านี้เยอะครับ แม้จะไม่ได้ตรงตามแคลอรีจริงเป๊ๆ แต่ก็ไม่ได้เว่อร์แบบที่ MK จัดให้! จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 55 13:01:37

ความคิดเห็นที่ 94 love จขกท มากเลยค่ะ จุ๊บๆ และขอถามนิ๊สนะคะ ว่าน้ำผลไม้ 100% เนี้ย (100% จริงป่าวอะค่ะ) ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ จากคุณ : เเม่ครัวมั่วระเบิด เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 55 15:53:45

ความคิดเห็นที่ 95 #94 ขอบคุณครับ น้ำผลไม้ 100% ต้องอ่านฉลากให้ดีๆว่า แบบแรกเป็นน้ำผลไม้ 100% ทั้งหมดเลย ก็คือคั้นมาจากผลไม้จริงๆทั้งหมดโดยไม่เติมสารให้ความหวานหรือน้ำตาล นอกจากเจือสีหรือแต่งกลิ่น(ธรรมชาติ/สังเคราะห์) อีกแบบเป็นน้ำผลไม้ 100% ที่ผสมกับน้ำผลไม้ที่เจือจางมาจากน้ำผลไม้เข้มข้นอีกทีหนึ่ง (Mixed กัน) ครับ ส่วนมากน้ำผลไม้พวกนี้จะมีปริมาณน้ำตาลสูงมาก บางขวดอาจพอๆกับน้ำอัดลมเลย ดังนั้นต้องดูให้ดีก่อน ไม่งั้นอาจจะอ้วนไม่ีรู้ตัวได้ครับ จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 28 เม.ย. 55 19:28:09

ความคิดเห็นที่ 96 ขอบคุณเจ้าของกระทู้มากๆ ข้อมูลดีมีสาระเพียบ ^_^ แปะกิ๊ฟไว้ เดือนหน้าจะมากดให้ค่ะ จากคุณ : lin&bukky เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 22:16:01

ความคิดเห็นที่ 97 หื้มมม วันนั้นที่ไปทาน เป็น MK Gold บุฟเฟ่ต์หน่ะครับ เนื้อสไลด์สั่งไป 6 เนื้อธรรมดา 2 หมูนุ่ม 6 หมู่สไลด์ 4 ติ่มซำอีก 10 เข่ง หอยแมลงภูนิวซีแลนด์ 6 เนื้อปลาสด 4 กุ้งอีก 2 แล้วก็จิปาถะเต็มไปหมดครับ เยอะมาก แต่ผักสั่งน้อย ผมชอบทานเห็ดมากกว่า แต่ผมเองก็ว่าไม่ถึงหรอก เพราะตัวเลขมันเยอะเกินไป ส่วนน้ำผลไม้ มีอยู่ 1 - 2 ยี่ห้อ ในท้องตลาดในซุปเปอร์นะครับ ที่ 100% จากของสดจริงๆ สองยี่ห้อ นำเข้ามา อีกยี่ห้อนึง ของไทย ส่วนที่เหลือล้วนมาจากน้ำผลไม้เข้มข้นทั้งนั้นครับ อ่านดูดีๆ จะมีเขียนไว้ชัดเจน จากคุณ : เด็กกรุง เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 01:07:24

ความคิดเห็นที่ 98 จขกท. รบกวนช่วนวิเคราะห์ตัว whey นี้ให้ผมหน่อยได้ใหมครับ ว่าเป็นอย่างไร จากคุณ : pvman65 เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 05:34:02

ความคิดเห็นที่ 99 เเล้วพวกเครื่องดื่มเกลือเเร่อะครับที่ดื่มหลังจากออกกำลังกาย จากคุณ : ทำหน้าไม่เล่น เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 55 12:24:55

ความคิดเห็นที่ 100 วันนี้ไปซื้อนมเปรี้ยวยี่ห้อหนึ่งมาดื่ม เห็นระบุว่ามีแคลเซี่ยม 15% อยากถามผู้รู้ว่าถูกต้องไหม เราคิดว่านมเปรี้ยว ต้องเป็นกรด แคลเซี่ยม นั้นเป็นด่าง แต่น้ำนมเปรี้ยวที่ดื่มมีรสเปรี้ยว แสดงว่าเป็นกรด แสดงว่า ด่าง(แคลเซี่ยม)ในนมเปรี้ยวน่าจะถูกกรดเปลี่ยนสภาพไปหมดแล้ว ถ้านมก่อนทำนมเปรี้ยวมีแคลเซี่ยม อันนี้น่าเชื่อได้ แต่เมื่อเป็นนมเปรี้ยวแล้ว ไม่น่าจะมีแคลเซี่ยมเหลืออีกนะ ช่วยตอบหน่อยครับ ถ้าไม่มี ฉลากอย่างนี้ถือว่า อ.ย.ผิดไหม หลอกลวงผู้บริโภคไหม จากคุณ : Reader เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 55 22:57:42 A:14.207.122.172 X: TicketID:332512