ความคิดเห็นที่ 1 และตั้งแต่นั้นมาฟ้าร้องปุ๊บ ผมก็ต้องรีบปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าทุกอย่างเลย ไม่ทราบว่าเพื่อนมีวิธีป้องกันไหมครับ? ให้ฟ้าร้อง/ฟ้าผ่า ก็ใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าได้ตามปกติ. จากคุณ : ยังค้นหาตัวเองไม่เจอ เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 55 23:53:33

ความคิดเห็นที่ 2 ถ้าตอนฟ้าผ่า สวมหูฟังอยู่แล้วเกิดเหตุไฟกระชากคอมเจ๊ง ตัวคนที่สวมหูฟังที่ต่อพ่วงคอม จะตายไม๊ครับ จากคุณ : Kuroro Lucifer เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 55 00:02:07

ความคิดเห็นที่ 3 ฟ้าผ่าลงเสาไฟ ที่ห่างจากผมซัก 2 ช่วงเสา ขณะที่กำลังนั่งคุยโทรศัพท์อยู่บนเก้าอี้ ก็ งงๆ ว่า ตูกะลังโทรศัพท์อยู่บนเก้าอี้ ไหงลงมานอนที่พื้น ผ่านไปซักนาทีพอเริ่มตั้งสติได้ ก็เริ่มรู้สึกชาครึ่งหน้าด้านที่หูฟังโทรศัพท์ เป็นวันกว่าจะหาย ปอลิง ราวๆ ปี 2535 ตอนนั้นโทรศัพท์แบบเตารีด (รู้จักไหม) ยังไม่มีเลย จากคุณ : Waterman (LN106) เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 55 00:11:04

ความคิดเห็นที่ 4 เคยตูมนึง หลอดไปขาด ไปจุดนึงเลย งงมาก แต่แค่เสียงนะ อุปกรณ์อื่นๆ ปกติ จากคุณ : I'm westie เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 55 00:23:34

ความคิดเห็นที่ 5 โมเด็ม 56k ไหม้เลย มาตามสายไฟ แต่เมนบอร์ดไม่เป็นไร จากคุณ : คืนวันอันแสนดี เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 55 01:49:59

ความคิดเห็นที่ 6 เมื่อก่อนตอนฝนกำลังตกหนักเล่นเคาเตอร์สไตรค์อย่างเมามันในร้านเกมหลังมหาลัย ไฟร์อินเดอะโฮล ๆ  สักพักตู๊มมมม เปรี้ยงงง ไฟดับทั้งแถบ *0* ร้านที่ผมเล่นต้องปิดซ่อมวันนึงเต็มๆ จากคุณ : หิมะละลาย เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 55 02:18:52

ความคิดเห็นที่ 7 ป้องกันคร่าวๆใช้ปลั๊กราวแบบกันไฟกระชากยี้ห้อดีๆ ก็ป้องกันได้ในระดับหนึ่งครับ (ดูค่า Surge protection สูงสุดว่าทนได้กี่จูนส์) แต่ถ้าผ่าลงบริเวณบ้านใกล้ๆระยะ1-2เสาไฟฟ้าเลยอะไรก็เอาไม่อยู่ครับ ทำใจ -  -' สิ่งที่ปลอดภัยที่สุดเวลาฟ้าเริ่มคะนองก็ถอดปลั๊กออกให้หมด ตอนเด็กๆไม่ค่อยรู้เรื่องดูทีวีช่วงที่ฟ้าคะนอง ฟ้าผ่าลงมาไม่ไกลมา ตู้มมม ทีวีเจ๊งเลย !! โดนยายด่าอีก ฟ้าคะนองทำไมยังดูทีวีอยู่ (เด็กๆ 5-6ขวบมันจะไปรู้เรื่องอะไรล่าคร้าบบ) จากนั้นถ้าฟ้าผ่าเมื่อไรต้องวิ่งขึ้นมาถอดปลั๊กอุปกรณ์ไฟฟ้าในห้องหมดเลย ยิ่งพวกอุปกรณ์ไฮเทคนี้ตัวดี จะเจ๊งก่อนชาวบ้านเค้าเพื่อน เดี๋ยวนี้สบายหน่อยมีปลั๊กรางแบบ MOV กันไฟกระชากกับ UPS ช่วยกั้นไว้2ชั้น เผื่อวันไหนไม่อยู่บ้าน หรือลืมก็ยังพอช่วยไว้ได้อีกขึ้นนึง แก้ไขเมื่อ 08 พ.ค. 55 02:23:01 จากคุณ : Depth In The Ocean เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 55 02:20:41

ความคิดเห็นที่ 8 ที่บ้านเคยผ่าใส่จานดาวเทียมตอนไม่มีคนอยู่บ้าน ฝาครอบเบรกเกอร์แอร์กระเด็น กล่องรับสัญญานจานดาวเทียมเสีย ข้างบ้านทีวี 42(มั้ง) นิ้วเสีย อีกบ้านเครื่องเสียงเสีย จากคุณ : 5530XM เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 55 02:45:04

ความคิดเห็นที่ 9 สรุปว่าต่อให้อุปกรณ์ เทพขนาดไหนในสามโลก ถ้าเจอฟ้าผ่าระยะใกล้นี่ก็หมดสิทธิป้องกันเลยใช่ไหมครับ จะได้ทำเหมือนเดิมคือถอดปลั๊กให้เกลี้ยง อ้อ! แล้วฟ้าผ่ามีโอกาสวิ่งมาตามสายสัญญาณทีวี/เคเบิ้ล/เนต/โทรศัพท์ไหมครับ? จากคุณ : ยังค้นหาตัวเองไม่เจอ เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 55 06:05:53

ความคิดเห็นที่ 10 มี จากคุณ : แ ต ง ก ว า * เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 55 07:24:17

ความคิดเห็นที่ 11 เคยโดนอยู่  2 กรณีครับ 1. มาตามสายไฟ ที่ข้างบนบอกกันไปแล้ว 2. เมื่อก่อนใช้สายอากาศโทรทัศน์แบบเสาสูง ก็มาตามนั้น โทรทัศน์พังไปหลายเครื่อง เมื่อก่อนฝนตกฟ้าร้องต้องถอดสายอากาศออกด้วย จากคุณ : tranic เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 55 08:51:57

ความคิดเห็นที่ 12 ไฟฟ้าสถิตย์ที่วิ่งไปมาในก้อนเมฆ หาทางลงดิน (จากฟ้ามาสู่ดิน) เพื่อปรับสมดุลย์ อะไรที่ใกล้ตัว สามารถดึงกระแสได้ ก็จะไปทางนั้น เปรี้ยงลงที่เสาไฟใกล้หม้อแปลงไฟ ประมาณแสนโวลต์ หม้อรับไม่ได้จึงระเบิดตูม ปล่อยกระแสไฟไปตามสายเกินสองร้อยยี่สิบโวลต์ เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่มีระบบป้องกันไฟเกิน ไฟกระชาก ตามบ้านต่างๆ เจ๊งระเนระนาด เฉพาะที่ผมเคยเจอ ทีวี เร้าเตอร์ พอร์ตแยกพริ้นเตอร์ คอมพิวเตอร์สองเครื่อง เสียหาย ฝนตกฟ้าร้องทีไรจึงแหยงๆ ทุกที จากคุณ : chem chem เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 55 09:33:39

ความคิดเห็นที่ 13 ไฟ้าจากฟ้าผ่ามัมาตามสายทุกอย่างครับ 1. สายไฟ นี้ตัวดีเลย ถ้าผ่าลงสายเสาไฟฟ้าแถวบ้านนี้เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ต่ออยู่และไม่มีตัวระบบป้องกันจะกลับบ้าน จีน ญี่ปุ่น เกาหลี กันก่อนเลย ยิ่งอุปกรณ์ไฮเทคพวก LED TV คอมพิวเตอร์ หรืออะไรที่มีวงจรอิเล็คโทรนิคเยอะมักจะไปสบายก่อนเพื่อน 2. มาตามสายอากาศ แบบนี้ที่เค้าเรียกฟ้าผ่าลงสายอากาศ จะเน้นๆไปที่อุปกรณ์ที่ต่อผ่านสายที่ว่าเช่น TV กล่อง Dream Box กล่อง UBC แต่ที่เจ้งกันเยอะๆคือ TV ดังนั้นปลั๊กรางรุ้รดีๆแพงๆเค้าจะมีช่องเสียบ Input/Outout ไว้กรองไฟกระชากที่ผ่านมาทางสายอากาศด้วย 3. มาตามสายโทรศัพท์ โบราณเค้าห้ามโทรศัพท์ตอนฟ้าคะนอง เด็กๆก็ไม่รู้หรอกทำไมเค้าว่าฟ้าผ่าลงมาจำทำให้หูแตก แต่ที่เจอกับตัวตอนเด็กๆคือฟ้าผ่ามาลงมาลงใกล้ๆแล้วโทรศัพท์เจ้ง (โทรศัพท์แบบหมุนสมัยก่อน) และยิ่งยุคนี้เครื่องคอมมันเยอะต่อ ADSL เข้า Internet ฟ้าผ่ามามามันยังวิ่งมาตามสายโทรศัพท์เข้า Modem Router พังกันก็เพราะมาจากสายโทรศัพท์นี้แหละครับ ปลั๊กรางตัวท๊อปๆสมัยนี้เค้าก็จะมีช่องกันไฟกระชากสำหรับ port สายโทรศัพท์ขาเข้าให้ด้วย นัยว่าเอาไว้กันไฟกระชากที่มาจากทางสายโทรศัพท์ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับระยะและแรงดันไฟที่ฟ้าผ่าลงมาด้วยครับ ถ้าผ่าลงมาตรงๆบนหลังคาบ้านเลย ให้อุปกรณ์เทพยังไงก็เอาไม่อยู่ครับ ต่อให้ดึงปลั๊กออก พวกอุปกรณ์ที่ sensitive บางอย่างก็อาจเสียหายได้อยู่ดีครับ (เกิดการเหนี่ยวนำ) แต่โอกาสโดนผ่าลงหลังคาบ้านตรงๆมันน้อยมากครับ เว้นซะเป็นบ้านแต่อยู่หลังเดียวโดด บนทุ่งนากว้างๆไม่มีต้นไม้สูงเลย จากคุณ : Depth In The Ocean เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 55 10:16:24

ความคิดเห็นที่ 14 ส่วนมากจะมากันสามทางนะ 1. มาตามสายไฟฟ้าโดยตรง 2. ผ่าลงบ้านคุณโดยตรง 3. ผ่าใกล้ๆบ้าน ทำให้เกิดกระแสเหนี่ยวนำ วิธีป้องกันก็มีอยู่ แต่ส่วนมากจะใช้กับโรงงานที่มีอุปกรณ์แพงๆครับ จัดระบบมาป้องกันทีวีกับปลั๊กไฟ มันไม่ค่อยคุ้มเท่าไร จากคุณ : เป็นบัตรผ่านตั้งนาน เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 55 10:20:05

ความคิดเห็นที่ 15 ขแงผม ลงมาตามสายนำสัญานของวิทยุสื่อสาร(ไม่ได้ต่ออยู่ แล้ว ขั้วต่อห้อยอยู่ข้างเสาบ้าน   ฟ้าลงแล้วสปาร์คเข้าสายปลั๊กไฟ แล้วไปลงตรงแผงไฟข้างห้องน้ำ กระปุกฟิวส์ แบบที่ใช้ลวดตะกั่วเป็นเส้นที่หมู่บ้านติดตั้งให้ตอนสร้าง ฝาครอบละลาย กระเด็นอยู่ที่พื้น จากคุณ : การกินเป็นสิ่งจำเป็น เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 55 10:21:31

ความคิดเห็นที่ 16 มันมีอุปกรณ์ ป้องกันฟ้าผ่าครับ ใส่ไว้ 2 ชั้นเลย เวลาผ่ามา ตัวอุปกรณ์นี้จะพังก่อน ใส่ไว้กับสายที่ต้องเดินภายนอกตัวอาคาร อีกอันที่ซวยคือสาย gound ด้นไปตอกใกล้ๆ สายล่อฟ้า พังแน่นอน จากคุณ : Pu121 เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 55 10:38:55

ความคิดเห็นที่ 17 - ป้องกันที่มาตามสายไฟ ต้องติดตั้งตัวป้องกันแรงดันกระโชกที่เมนเบรคเกอร์แล้วต่อสายดินลงแท่งกราวด์รอด  แท่งกราวด์ที่ได้มาตรฐานต้องยาวกว่า 2.4 เมตร  ตอกปักลงให้ลึกมากว่า 60 ซม. - ป้องกันที่มาตามสายสัญญาณ ก็ต้องติดตั้งตัวป้องกันแรงดันกระโชกที่ต้นทางก่อนเข้าเครื่องใช้ไฟฟ้า  เช่น จากจานรับสัญญาณก่อนเข้ากล่องตัวรับสัญญาณ  ต้องติดตั้งตัวนี้ก่อน แล้วต่อสายดินลงแท่งกราวด์รอด. เดี๋ยวนี้ตามบ้านมีอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์เยอะมาก  ควรจะต้องป้องกันตามที่บอกได้แล้ว  คิดว่าน่าจะคุ้มค่าใช้จ่ายที่เสียไป  วันดีคืนดีเราไม่อยู่บ้าน หรือกำลังนอนหลับสบายๆ คอยดู คอยถอดปลั๊กได้ตลอด  มีฟ้าผ่ามาไม่ทันรู้ตัวเครื่องเจ๊งเสียแล้ว จากคุณ : Junkceylon เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 55 12:06:18

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณท่านที่มาแนะนำวิธีป้องกันมากเลยครับ ต้องไปหามาติดตั้งบ้างแล้ว จากคุณ : ยังค้นหาตัวเองไม่เจอ เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 55 12:20:53

ความคิดเห็นที่ 19 ที่บ้านมีสายอะไรเข้ามาตั้งป้องกันให้หมดนะครับ จากคุณ : BONDJUNG_TH เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 55 12:31:40

ความคิดเห็นที่ 20 ส่วนใหญ่จะผ่าหม้อแปลงครับ มันก็วิ่งมาทางสายไฟนั่นแหละ แต่จริงๆ เสาไฟฟ้าเขาก็มีตัวป้องกันอยู่นะ คือมันจะตัดทันทีเมื่อเกิดฟ้าผ่า ไม่ให้มีปัญหาในวงกว้าง แถมไอ้ตัวตัดนี่เก่งด้วยนะ ตัดเฉพาะช่วงที่มีปัญหา ช่วงอื่นจะจ่ายไฟได้ต่อ เคยไปฝึกงานโรงงานทำหม้อแปลงหนะ เขาโม้ให้ฟัง อิอิ อุปกรณ์นี้ติดอยู่ตามเสาไฟฟ้า(ไม่ทุกต้น จะมีในเขตสำคัญๆ) จากคุณ : Teerarod เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 55 12:50:14

ความคิดเห็นที่ 21 ที่บ้านโมเด็มและ mainboard พัง บ้านตรงข้ามโมเด็มพัง ไม่รู้ว่าผ่าลงตรงจุดไหน.. จากคุณ : jeakja เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 55 13:33:11

ความคิดเห็นที่ 22 ผม เคย โมเดม พัง ตอนหลัง เอา UPS มา พังเต็มที่ UPS แค่ นั้น ทีวี 47" ยังใช้ ups เลย จากคุณ : thanapatpp เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 55 18:01:31

ความคิดเห็นที่ 23 วันนี้มีเครื่องลูกค้าเอามาเปลี่ยนpsu 2 เครื่อง สาเหตุเพราะฟ้าลงเมื่อวาน จากคุณ : Serial_Nuber เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 55 20:37:50

ความคิดเห็นที่ 24 ผมเคยกำลังนั่งบัดกรีวงจรไฟฟ้าอยู่ แล้วฟ้าผ่า กระเด็นหงายหลังเลย มันดังเปรียะ แล้วมีเสียงฟ้าผ่าครืนตามมาทีหลัง  แต่เบรคเกอร์กันไฟดูดตัดตัวเอง เลยโชคดีไป   คาดว่า คงไม่ได้โดนจังๆ ไม่งั้นคงไม่รอด จากคุณ : Mr. Tracker เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 55 21:13:36

ความคิดเห็นที่ 25 ผ่าลงเสาไฟฟ้าหน้าบ้าน ห่างจากจุดนั่งตอบกระทู้ราวสิบเมตร กันฟ้าผ่าของ 3bb ไหม้เราท์เตอร์ของ 3bb เจ๊งแต่เขาก็มาเปลีย่นให้ใหม่และฟรี ส่วนอื่นยังรอด ที่โชคดีคือ มิเตอร์ไฟฟ้าที่โดนฟ้าจนไหม้เกรียม เป็นมิเตอร์ตัวบนสุด เป็นของบ้านข้างๆที่ไม่มีคนอยู่ กว่าจะการไฟฟ้ามาซ่อมใหม่ราวๆ สี่เดือน ติดน้ำท่วมพอดี แก้ไขเมื่อ 08 พ.ค. 55 21:32:38 จากคุณ : ฉันมันตัวเปล่า เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 55 21:31:51

ความคิดเห็นที่ 26 เมื่อประมาณปี 49 บ้านผมโดนฟ้าผ่าลงหลังคาบ้าน หลังคาบ้านชนสองแตกบริเวณหลบครับ บ้านชั้นบนไฟไหม้ไปนิดหน่อย ไหม้ตามทางสายไฟฟ้าครับ หลอดไฟชั้นบนระเบิดครับ ส่วนฝ้ากับฝาบ้านแตกครับ ฝ้ากะฝาบ้านผมทำจากแผ่นเรียบนะครับ ไฟเลยไม่ไหม้มาก ส่วนแผงไฟชั้นล่าง เซฟทีคัทระเบิดครับ ระเบิดแบบกระจายเหมือนมีคนเอาฆ้อนทุบ ส่วนเซอร์กิดเบรคเกอร์ชั้นบนระเบิดด้วยครับ ส่วนของชั้นล่างฟิวขาด พลาสติกละลายครับ มีของที่เสียหายคือ โทรศัพท์ไร้สายที่เสียบปลั้กทิ้งไว้ครับ ส่วนอย่างอื่นไม่พังเพราะถอดปลั้กครับ ที่แปลกใจคือ ตู้เย็นไม่พังครับทั้งๆที่เสียบปลั้คไว้ครับ ปล. บ้านผมเป็นบ้านสองชั้น ไม่ได้สูงกว่าชาวบ้าน แถมหลังบ้านผมยังเป็นโรงงาน ที่หลังคาโรงงานมีสายล่อฟ้าด้วย แต่ไหงมันมาผ่าลงหลังคาบ้านผมก้ไม่รุ้ ใครู้ว่าทำไมผ่าลงบ้านผมบอกได้ครับ จากคุณ : fmby93 เขียนเมื่อ : 9 พ.ค. 55 00:01:22

ความคิดเห็นที่ 27 ^ ^ ^ คคห. 26 เหตุฟ้าผ่าไม่ลงโรงงานเพราะมีระบบป้องกันฟ้าผ่าไงครับ  ถ้าฟ้าจะผ่าก็ผ่าลงตรงเสาล่อฟ้าแล้วแรงดันฟ้าผ่าจะไหลลงตามสายทองแดงไปที่แท่งกราวด์ที่ฝังอยู่ใต้ดินครับ  หากทำระบบกราวด์ดีและมีค่าความต้านทานดินไม่เกิน 5 โอห์มแรงดันก็ไหลลงดินสะดวกไม่เป็นอันตรายกับตัวอาคารโรงงานเลย บ้านของคุณ fmby93 ไม่มีระบบล่อฟ้าโอกาสโดนฟ้าผ่าลงบ้านได้เหมือนกัน  เพราะล่อฟ้าของโรงงานออกแบบป้องกันมีขอบเขตเฉพาะตัวอาคารโรงงานเท่านั้น  ไม่ได้ออกแบบป้องกันเผื่อหรือสงเคราะห์อาคารบ้านเรือนอื่น  เหมือนกับว่าฟ้าผ่าลงบ้านใครหรือตรงไหนก็ได้ครับ ส่วนแรงดันไฟกระโชกเป็นผลต่อเนื่องจากฟ้าผ่าแล้วแรงดันฟ้าผ่าไปเหนี่ยวนำกับสายไฟทำให้เกิดแรงดันไฟกระโชกขึ้น  ซึ่งมีค่าสูงพอประมาณไม่เกิน 6,000 โวลต์ไหลไปตามสายไฟเข้าอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ต่อกับสายไฟอยู่แล้ว  ผลคือหากเป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ เบรคเกอร์ เซฟตี้คัททนแรงดันสูงไม่ได้ก็พังตามระเบียบ  ส่วนตู้เย็นเป็นประเภทมอเตอร์หรือขดลวดอาจพอทนได้บ้าง  ถ้าโดนบ่อยก็เดี้ยงเหมือนกันครับ  ตู้เย็นมีการต่อลงดินมั๊ย  ถ้าต่อก็ช่วยให้แรงดันไฟกระโชกไหลลงดินก่อน ทางที่ดีควรติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันแรงดันไฟกระโชกทั้งทางไฟฟ้า สายสัญญาณโทรศัพท์ สายสัญญาณดาวเทียมหรือโทรทัศน์  ง่ายๆติดทุกเส้นทุกสายที่เดินเข้าบ้านเราครับ  และต้องต่อลงดินด้วยนะ  เพื่อให้แรงดันไฟกระโชกที่มีค่าเกินกว่าอุปกรณ์ไฟฟ้าจะรับได้ไหลลงดินแทนครับ ตามปลั๊กไฟที่มีตัวป้องกันแรงดันไฟกระโชกนั้นได้ต่อลงดินด้วยหรือเปล่า  ถ้าไม่ได้ต่อลงดินก็เหมือนไม่ได้ป้องกันเลยเพราะแรงดันไฟกระโชกมันไหลลงดินไม่ได้ ข้างต้นเป็นหลักคร่าวๆ  จริงๆมีรายละเอียดทางเทคนิคมากกว่านี้นะ แก้ไขเมื่อ 09 พ.ค. 55 01:01:44 จากคุณ : Junkceylon เขียนเมื่อ : 9 พ.ค. 55 00:56:37

ความคิดเห็นที่ 28 ความคิดเห็นที่ 27 MsgStatus(Msv[27], 27); ^ ^ ^ คคห. 26 เหตุฟ้าผ่าไม่ลงโรงงานเพราะมีระบบป้องกันฟ้าผ่าไงครับ  ถ้าฟ้าจะผ่าก็ผ่าลงตรงเสาล่อฟ้าแล้วแรงดันฟ้าผ่าจะไหลลงตามสายทองแดงไปที่แท่งกราวด์ที่ฝังอยู่ใต้ดินครับ  หากทำระบบกราวด์ดีและมีค่าความต้านทานดินไม่เกิน 5 โอห์มแรงดันก็ไหลลงดินสะดวกไม่เป็นอันตรายกับตัวอาคารโรงงานเลย ****มันก็ไม่แน่เสมอไป****   มีอยู่ครั้งนึง เสาวิทยุที่ว่าการ(สูง60เมตร) กับสถานีวิทยุของโรงพัก(สูง30เมตร) ห่างกันอยู่ แค่ 4-50 เมตร ฟ้าลงต้นเตี้ยของโรงพัก ทั้งสองต้น มีสายกราวน์อย่างดีทั้งคู่ แก้ไขเมื่อ 09 พ.ค. 55 20:49:55 จากคุณ : การกินเป็นสิ่งจำเป็น เขียนเมื่อ : 9 พ.ค. 55 20:49:30

ความคิดเห็นที่ 29 คคห. 28 ถูกต้องครับ ไม่แน่นอนเสมอไป  ฟ้าผ่าลงตรงไหนก็ได้ จะต้นเตี้ยหรือต้นสูงก็ได้ ส่วนเสาวิทยุทั้งสองต้นอยู่ห่างกัน 40-50เมตรถือว่าอยู่ห่างกันมากนะครับ  ระบบล่อฟ้ามันป้องกันไม่ครอบคลุมกับอีกเสาอีกต้นหนึ่งครับ ระบบล่อฟ้าจะป้องกันได้เฉพาะตัวอาคาร อย่างอื่นๆที่ภายนอกเท่านั้น  ไม่ใช่ป้องกันแรงดันไฟกระโชกเข้าอุปกรณ์ไฟฟ้า เครื่องมือสื่อสาร อื่นๆ ที่อยู่ภายในอาคารนะ  แล้วเป็นตัวล่อให้ฟ้าผ่าลงตรงเสาล่อฟ้าเพื่อให้แรงดันไฟฟ้าผ่าลงดินสะดวก อาคารจะไม่เกิดความเสียหายครับ สรุป คือ ต้องมี 2 ระบบครับ   1. ระบบล่อฟ้าไว้ป้องกันอาคาร 2. ระบบป้องกันแรงดันกระโชก ( Surge Protection, Surge Arrester )เอาไว้ป้องกันอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ ที่ต่อกับสายไฟ สายสัญญาณ จากคุณ : Junkceylon เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 55 12:57:06