ความคิดเห็นที่ 1 กดโหวตก่อนค่อยอ่านต่อนะครับ จากคุณ : นักเล่นหมากฮอส เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 55 13:52:28

ความคิดเห็นที่ 2 . . . v v v . . . . คนส่วนมากอาจเลือกที่จะเปลี่ยนทางรถไฟ        และยอมสละชีวิตของเด็กคนนั้น        ผมคิดว่า คุณก็อาจจะคิดเช่นเดียวกัน        แน่นอน ตอนแรกผมก็คิดเช่นนี้เพราะการช่วยชีวิตเด็กส่วนมาก        ด้วยการเสียสละชีวิตเด็กหนึ่งคนนั้นดูสมเหตุผล        ทั้งทางศีลธรรมและความรู้สึก        แต่คุณเคยคิดบ้างไหมว่าเด็กที่เลือกเล่นบนรางที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว        ที่จริงเขาได้ตัดสินใจถูกต้องที่จะเล่นในสถานที่ๆปลอดภัยแล้วต่างหาก        แต่ทว่า เขากลับต้องเสียสละชีวิตให้กับเพื่อนที่ไม่ใส่ใจ        และเลือกที่จะเล่นในที่อันตราย        สถานการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นรอบตัวเราทุกวัน        ในสถานที่ทำงานย่านชุมชนการเมือง        โดยเฉพาะในสังคมประชาธิปไตย        คนกลุ่มน้อยมักจะถูกเสียสละให้กับผลประโยชน์ของคนหมู่มาก        แม้ว่าคนกลุ่มน้อยจะฉลาดมองการณ์ไกลและคนหมู่มากจะโง่เง่าไม่ใส่ใจก็ตาม        เด็กคนที่เลือกที่จะไม่เล่นบนรางที่อยู่ในการใช้งานตามเพื่อนๆของเขา        และคงไม่มีใครเสียน้ำตาให้หากเขาต้องสละชีวิตก็ตาม        เพื่อนที่ส่งต่อเรื่องนี้มาบอกว่าเขาจะไม่พยายามเปลี่ยนเส้นทางรถไฟ        เพราะเขาเชื่อว่าเด็กที่เล่นอยู่บนรางที่อยู่ในการใช้งานย่อมรู้ดีว่า        รางนั้นยังอยู่ในระหว่างการใช้งาน        และพวกเขาควรจะหลบออกมาเมื่อพวกเขาได้ยินเสียงหวูดรถไฟ        ถ้าทางรถไฟถูกเปลี่ยนเด็กหนึ่งคนนั้นต้องตายอย่างแน่นอน        เพราะเขาไม่เคยคิดว่ารถไฟจะเปลี่ยนมาใช้เส้นทางนั้น        นอกจากนั้น รางที่ไม่ได้ถูกใช้งานอาจเป็นเพราะรางนั้นไม่ปลอดภัย        ถ้ารถไฟถูกเปลี่ยนเส้นทางมาที่รางนี้        เราทำให้ชีวิตของผู้โดยสารทั้งหมดตกอยู่ในอันตราย        ในขณะที่คุณพยายามช่วยชีวิตเด็กจำนวนหนึ่งโดยการสละชีวิตเด็กหนึ่งคน        อาจกลายเป็นการสังเวยชีวิตผู้คนนับร้อยก็เป็นได้        เรารู้ว่าชีวิตเต็มไปด้วยการตัดสินใจอันยากลำบากบางครั้งเราอาจลืมไปว่า        การตัดสินใจอันรวดเร็วใช่จะเป็นสิ่งที่ถูกต้องเสมอไป        จำไว้ว่า สิ่งที่ถูกต้องไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งที่นิยมปฏิบัติ        และสิ่งที่เป็นที่นิยมไม่จำเป็นต้องถูกต้องเสมอไป        ทุกๆคนสามารถทำสิ่งผิดพลาดได้        และนั่นคือเหตุผลที่เขาใส่ยางลบไว้ที่ปลายของดินสอ!!! จากคุณ : นักเล่นหมากฮอส เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 55 13:52:49

ความคิดเห็นที่ 3 ขอขอบคุณข้อคิดดีๆจากเว็ปสาธิต.คอมครับ จากคุณ : นักเล่นหมากฮอส เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 55 13:53:41

ความคิดเห็นที่ 4 ในโจทย์ ไม่ได้บอกว่า เด็กทั้งหมด รู้หรือไม่ ว่ารางไหนใช้งานหรือไม่ใช้งาน ถ้าเด็กทั้งหมดไม่รู้ว่ารางไหนใช้งานหรือไม่ใช้งาน เท่ากับฆ่าหลายชีวิตเพื่อรักษาชีวิตเดียว เพราะทุกคนไม่รู้ว่ารางไหนปลอดภัย และในความเป็นจริง ถ้าเด็กรู้เรื่องรางไหนไม่ปลอดภัย เด็กก็ไม่ควรไปเล่นบนรางรถไฟ เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง หรือเห็นรถไฟมาแล้ว ก็น่าจะรีบออกจากรางรถไฟ สรุป เหมือนโจทย์ จะบังคับเฉลย ในแบบที่คนคิด จะยัดมุมมองเข้าใส่แต่เพียงอย่างเดียว จากคุณ : j เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 55 14:03:36 A:171.7.174.94 X: TicketID:268645

ความคิดเห็นที่ 5 เดินไปตบเด็กแล้วบอกว่า ที่นี่อันตราย เดี่ยวรถไฟ ชนตายหรอก ที่ไหนไม่เล่นมาเล่น บนรางรถไฟ จากคุณ : joyrisus เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 55 14:27:20

ความคิดเห็นที่ 6 การเสียสละควรมากับความพร้อม บ่อยครั้งนโยบายรัฐมักลักไก่ ใช้คนหมู่มากบังคับคนหมู่น้อย ถ้าคุณสามารถอยู่ในกลุ่มคนหมู่มากได้ตลอดก็ถือว่าโชคดีไปครับ อย่าเผลอหลุดเป็นคนหมู่น้อยที่ต้องยอมเสียสละบ้างก็แล้วกัน. จากคุณ : ด้านมืดในใจคุณ เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 55 14:35:03

ความคิดเห็นที่ 7 ตกลงนี่เกมส์การเมืองหรอ จากคุณ : ถามจัง เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 55 14:39:22

ความคิดเห็นที่ 8 เห็นด้วยกับ "สิ่งที่ถูกต้องไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งที่นิยมปฏิบัติ  และสิ่งที่เป็นที่นิยมไม่จำเป็นต้องถูกต้องเสมอไป" เป็นความจริงที่เห็นชัดในเมืองไทย แต่เอาไปเปรียบกันไอ้รถไฟอะไรเนี่ยไม่ค่อยถูก รางรถไฟไม่ใช่ที่เล่น ไม่ว่าจะใช้หรือไม่ใช้ จากคุณ : Fayewinds เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 55 14:43:13

ความคิดเห็นที่ 9 เล่นบนรางรถไฟ ในย่านที่ยังมีรถไฟวิ่งอยู่ ผมไม่ถือว่าเด็กที่เลือกเล่นบนรางที่ไม่ใช้งานแล้ว ตัดสินใจได้ถูกต้องหรอก รางที่ไม่ได้ใช้งาน ไม่ได้แปลว่าใช้งานไม่ได้ ตราบใดที่ยังสามารถสับรางให้รถไฟเข้ามาได้ อันตรายย่อมมีเสมอ เพราะฉะนั้น ถ้าเป็นผม ผมเลือกสับรางครับ แต่ถ้าคิดอย่างจริงจัง ความเร็วที่รถไฟจะสามารถเปลี่ยนรางได้ น่าจะอยู่ในขอบเขตที่หยุดรถได้ ถ้ารถไฟมาเร็วถึงขนาดเบรคไม่ทัน สับรางไปรถไฟก็ตกรางอยู่ดี จากคุณ : :: AdvanceTactics :: เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 55 14:45:37

ความคิดเห็นที่ 10  แล้วบนรถไฟมีคนโดยสารกี่คนครับ ถ้าเป็นผม ผมไม่สับรางหรอก สับรางกะทันหัน รถไฟตกราง เด็กตายทั้งสองราง ผู้โดยสารบนรถไฟอีกหลายชีวิต ต้องเสี่ยงอันตราย  ว่าแต่แล้วจะมัวสับรางทำไม เอาเวลาไปไล่เด็กที่นั่งเล่นบนรางรถไฟดีกว่า ถ้าไม่หลบก็ช่างเด็กมันเถอะ เราพยายามแล้ว  จากคุณ : เกิดในที่สว่าง เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 55 15:01:50

ความคิดเห็นที่ 11 ผมว่าคนเราควรทำในสิ่งที่ถูกต้องมากกว่าครับ ไม่ต้องไปฝืนบาลี ผิดก็ว่าไปตามผิด ถูกก็ควรว่าถูก ไม่ใช่ไปอวยให้คนผิดเป็นถูกเพราะมีกลุ่มคนส่วนใหญ่สนับสนุน บางทีที่สนับสนุนเพราะผลประโยชน์ตรงกัน เช่น ลูกน้องโจรปล้นธนาคารย่อมยุให้ลูกพี่ปล้นเพื่อนำเงินมาแจกจ่ายพวกตนซึ่งก็เป็นโจร ไม่ก็ชอบรับของฟรีจากโจร จึงสรรเสริญโจรนั้นว่า ดีแล้ว ชอบแล้ว ดั่งรางรถไฟที่คุณยกมา ถ้าคุณสับราง คุณจะกลายเป็นฆาตกรทันที แต่ถ้าปล่อยให้พวกฝ่าฝืนกฏโดนรถไฟทับตายไป คุณก็ไม่โดนจับติดคุกและคุณก็ไม่ถูกใครตราหน้าว่าเป็นฆาตกร เพราะคุณเลือกยืนอยู่ในฝ่ายที่ถูกต้องนั่นเอง คนผิดควรเป็นพวกฝ่าฝืนกฏที่เขาห้ามแล้วก็ยังทำควรรับผลของการฝ่าฝืนกฏไปเอง ก็ตัวเองเลือกแล้วที่จะฝ่าฝืนกฏก็ควรก้มหน้ารับผลที่ตามมาจากการฝืนกฏนั้นๆ จากคุณ : DevilOper เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 55 15:28:07

ความคิดเห็นที่ 12 ไม่ต้องสับรางหรอกวิ่งไปเรื่อยๆ เดี๋ยว เด็ก ก็หลบเอง รถไฟไทย จะวิ่งได้เร็วซักแค่ไหนเชียว เมื่อก่อน เดินบนทางรถไฟตอนกลับบ้านหลังเลิกเรียน  พอรถไปมาใกล้ๆก็ โดดหลบกัน สนุกสนาน จากคุณ : ก้นกบ เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 55 15:30:51

ความคิดเห็นที่ 13 โจรสมัยนี้จึุงเลือกที่จะสร้างกฏของตนแทนกฏเก่าๆเพื่อที่จะให้ตนพ้นผิด(กลับผิดเป็นถูก) จากคุณ : DevilOper เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 55 15:32:03

ความคิดเห็นที่ 14 พ่อแม่ทำไมไม่รู้จักดูแลลูกฮะ ให้มาเล่นบนถนน บนรางได้ยังไง รถไฟไม่ผิดหรอก เพราะรถไฟวิ่งบนรางปกติ แต่เด็กที่ผิด ดันมาเล่นบนรางรถไฟ รถไฟจะผิดก็ต่อเมื่อดันวิ่งไปชนบ้านคน หรือวิ่งตกรางไปชนคน นั่นแหละผิด จากคุณ : Serial_Nuber เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 55 15:39:12

ความคิดเห็นที่ 15 แต่ละชีวิต มีคุณค่าแตกต่างกันไป ถ้าโดยมุมมองของ ผู้ชี้ชะตา มองว่า ฝั่งหนึ่ง มีค่ามากกว่าอีกฝั่ง มันก็เป็นไปตามนั้น ถามว่า คุณค่านั้น ถูกต้องเหมาะสมมั้ย ก็คงจะ ถูกต้องเหมาะสม ตามหน้าที่และความรับผิดชอบ ของผู้ตัดสินนั้นๆ ถามว่า เป็นการเสียสละ ที่ไม่ยุติธรรมมั้ย ผมว่า เป็นกรรม ที่แต่ละฝ่ายทำมา กรรม ในการสะท้อน คุณค่าของตน ต่อ ผู้ชี้ชะตา ผู้ชี้ชะตา ก็ทำไปเต็มที่หละ ส่วนที่เหลือ ก้แล้วแต่กรรม ที่บรรดาล ออกมาเป็นทางเลือกนั้นๆ กรรมที่เค้า ได้เลือกมาเอง ขอเสริมแย้งว่า การบอกว่าเค้าเป็นฆาตรกร ก็เป็นการมองเพียงด้านเดียว ทั้งที่ไม่แน่ว่าอีกด้าน อาจจะเป็นนักบุญ ผู้ยิ่งใหญ่หรือป่าว โจทย์มีการล่อหลอก มีการตั้งสมมติฐาน นอกโจทย์ขึ้นมาใช้เป็นประเดนหลักของการวิเคราะห์ตอบ เรียกว่า หลอกล่อ เอาลอจิกอื่นๆ เข้ามาทับลอจิกของโจทย์หลัก ซึ่งเหมือนจะเป็นการเล่าเรื่องอื่นๆที่ไม่ใช่เรื่องในประเดนหลักโจทย์ได้ ผมสนใจมองที่ประเดนนี้ คือ บางทีเราเห็นเค้าตัดสินใจ แล้วก็มามอง มาเดา ตั้งสมมติฐาน แต่งเป็นเหตุการณ์ แล้วก็มาประเมินเค้า ทั้งที่จริงๆแล้ว เราไม่รู้ปัจจัยจริง ในแต่ละส่วนเลย แม้จะมีลอจิกแปลกๆ แต่ก้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆในสังคม เคยเขียนตอบเองว่า ถ้าแม้จะทำที่สุด ก็มีส่วนที่ไม่รู้ ที่เป็นความเสี่ยงอยู่ พุทธจะจัดการยังไง ลืมคำตอบตัวเองแล้ว ทำไปให้ดีที่สุดหละ แล้วไงต่อหว่า พุทธให้ทำพอดี ไม่เสี่ยง แต่ด้วยอนิจจัง ก็คงต้องอุเบกขาละ แม้ในสภาวะที่เลวร้ายที่สุด ก็ไม่ได้มีอะไรเลวร้าย (เพราะจำไม่ได้ เลยได้คำตอบเพิ่ม) โจทยดีเลยทีเดียว ว่างๆขอเพิ่มอีกนะครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : aLITTLEspaceAround7day เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 55 18:20:56

ความคิดเห็นที่ 16 คห.15 เหรีญมี 3 ด้าน ไม่ใช่ 2 ด้าน ด้านหนึ่งอาจเป็นนักบุญ ด้านนึงอาจเป็นฆาตกร แต่ถ้าเลือกด้านที่ 3 ซึ่งเป็นขอบของเหรียญแม้พื้นที่จะน้อยกว่า 2 ด้าน แต่ก็เป็นด้านที่ไม่ได้รับผลดีหรือผลเสียคือเป็นกลางปล่อยไปตามกรรมของแต่ละคน การวางเฉยจึงเป็นทางเลือกหนึ่งเหมือนกันครับ จากคุณ : DevilOper เขียนเมื่อ : 9 พ.ค. 55 07:21:15