PANTIP.COM : X12114013 +++++ถ้าเปิดเสรีอาเซียน AEC ทักษะการพูดภาษอังกฤษของประเทศไทยอยู่ลำดับที่เท่าไหร่ในอาเซียนครับ+++++ [กระทู้นอกเรื่อง]

ความคิดเห็นที่ 11

เรียนตามตรงว่าเป็นอันดับท้ายสุดครับ

ไม่ได้ดูถูก แม้แต่ลาว เขมร ก็ยังมีทักษะภาษาอังกฤษดีกว่าเรา

เวียดนาม อาจจะไม่ได้ดีกว่าเรามาก แต่การที่ภาษาเขียนเขาใช้รากศัพท์ภาษาฝรั่งเศส การพัฒนาทักษะทางภาษาอังกฤษของเขาจะดีกว่าเราครับ

และนี่เป็นปัญหาที่ทำให้ชาวต่างชาติออกอาการวิตกกังวลแทนเราเสียอีก ฝรั่งที่รักเมืองไทยมีมากครับ ผมคุยกับนักธุรกิจที่เกี่ยวกับการลงทุนเขาว่าไว้ว่าโครงสร้างของประเทศเราดีมาก ประชาชนมีความเป็นมิตรสูง จริง ๆ แรงงานไทย ถ้าได้รับการฝึกฝนและอยู่ในระเบียบวินัยที่ดี ก็สามารถสร้างผลผลิตที่ดีได้ และความที่เนื้อแท้คนไทย เราค่อนข้างละเอียด (ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าเราจุกจิกจู้จี้) ทำให้ผลงานค่อนข้างดี ถ้ามีการตรวจสอบละเอียด (คือถ้าไม่มักง่าย ซึ่งเป็นอีกนิสัยของคนไทย) ผลผลิตค่อนข้างมีคุณภาพดี

แต่ทักษะภาษาเป็น 1 ใน 2 ที่ทำให้เราด้อยกว่าคนอื่น และค่อนข้างน่ากลัว เพราะหากว่าเกิด AEC จริงแล้ว แรงงานของอาเซียนสามารถมาใช้แรงงานที่ไทยได้ คราวนี้ แรงงานพม่า ลาว เขมร ฯลฯ สามารถมาใช้แรงงานด้านการผลิตได้ ซึ่งเรียกว่าน่ากลัวแล้วเพราะว่าพวกนี้เงินเดือนต่ำกว่า แถมสื่อสารได้

นอกจากนั้น ในภาคที่เป็นระดับสูงขึ้นอีก เช่นพวก professional ทั้งหลายคราวนี้พนักงานออฟฟิศ อาจจะถูกแทนที่โดยพวกฟิลิปปินส์ มาเลเซีย หรือแม้แต่สิงคโปร์ อันนี้ไม่ได้พูดเล่น เพราะระดับจัดการของไทย จริงๆ เงินเดือนไม่ได้เลวมาก แต่บางครั้งทักษะทางภาษายังไม่ได้เลย แถมคนเก่งๆ จริงๆ ก็ไม่ได้เยอะแยะ ดังนั้น การที่บริษัทต่างชาติจะจ้างแรงงานฟิลิปปินส์ เช่น วิศวกร เข้ามาเป็นเรื่องไม่ได้ยากมากเลย แถมวิศวเขาก็เยอะแยะ หรือแม้แต่พม่า บริษัท อิตาเลียนไทย ซึ่งกำลังจะไปลงทุนใหญ่ที่พม่า ก็ใช้วิศวกรชาวพม่ามาทำงาน ในอนาคต อาจจะใช้คุมงานในไทยเลยก็ได้ เพราะแรงงานก่อสร้างก็ชาวพม่าอยู่แล้ว สื่อสารกันง่ายไปอีก

ผมว่ารัฐบาลเขาก็รู้เรื่องนี้นะ เพราะว่า เริ่มใช้รณรงค์ด้านภาษาอังกฤษมากขึ้น หรือในระดับซี 8 ขึ้นไปจะต้องรู้ภาษาจีนเพิ่ม ซึ่งผมว่าก็เป็นเรื่องที่ก้าวหน้าดี

นอกจากเรื่องภาษา อีกเรื่องที่น่ากลัวคือ ภาษีนิติบุคคล เราแพงครับ ทำให้ head office เขาย้ายไปที่อื่นหมด ซึ่งเราค่อนข้างช้ามากเรื่องนี้ ทำให้เราสูญเสียภาษีไปมาก อย่างเช่น บริษัทรถยนต์ยักษ์ใหญ่ โรงงานก็อยู่เมืองไทย แต่ตั้ง head office ที่สิงคโปร์ เพราะภาษีถูกกว่า เมื่อเปิด AEC ถ้าบริษัทพวกนี้ย้าย head office ไปหมด เราก็จะไม่ได้ภาษีจากบริษัทพวกนี้ หรือแม้แต่บริษัทไทยเองก็อาจจะย้ายฐานไปได้ เพราะว่า ต้นทุนมันต่ำกว่า อันนี้ผมสังเกตุได้เลยว่า ภาคอสังหาบ้านเราโตเกือบทุก sector ใช้คำว่าเกือบ เพราะด้านอาคารสำนักงานฯ มันไม่ค่อยโต เห็นได้ว่า อาคารสำนักงาน เมื่อเทียบกับคอนโด มันน้อย แถมราคาค่าเช่า เมื่อเทียบตั้งแต่สิบปีที่แล้วมันไม่ค่อยขยับ เพราะ demand มันต่ำนั่นเอง คือมีแต่คนย้ายออก ดังนั้น ผมว่าเมืองไทยต้องเร่งแก้ปัญหาด้านภาษีนิติบุคคลด้วยครับ มิฉะนั้น เราจะแย่มาก ซึ่งตอนนี้เราเริ่มเห็นภาพแล้วครับ แต่การดำเนินงานในจุดนี้ช้าไป ถ้าบริษัทพวกนี้เขาย้ายไป อีกหลายปีครับ กว่าที่เขาจะย้ายกลับมา คนไทยตกงานไปก่อน

จากคุณ : bangkokguy

เขียนเมื่อ : 19 พ.ค. 55 08:03:21